PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ง่ายไปก็ไม่ดี

ง่ายไปก็ไม่ดี



หลังจากติดตามปฏิบัติการขนหมูป่าทั้ง 13 คน ออกจากถ้ำประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
วันนี้ (12 ก.ค.) ต้องติด ตามการประชุม สนช.วาระสำคัญคือการทำคลอดว่าที่ กกต.ชุดใหม่ 7 คน
เหตุที่ต้องติดตาม เพราะ กกต.ชุดใหม่ จะเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง ส.ส. โดยตรง
กกต. 7 คน มีอำนาจให้ใบแดงใบเหลืองผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส. ตัดสิทธิ เลือกตั้งและยุบพรรคการเมือง ฯลฯ
ถ้าหาก กกต.ไม่เป็นกลาง จะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าที่ต้องจับตาเป็นพิเศษเนื่องจาก สนช. ลากตั้ง เคยลงมติล้มกระดาน “ไม่เห็นชอบ” รายชื่อผู้ผ่านการสรรหา เป็น กกต.ยกเข่งทั้ง 7 คน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
จึงต้องเปิดการสรรหา กกต.ซ้ำอีกครั้ง จนกระทั่งได้รายชื่อว่าที่ กกต.ใหม่ครบ 7 คน
โดย 5 คน ผ่านการสรรหาจากผู้สมัครเป็น กกต. 33 คน
ส่วนอีก 2 คนมาจากการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา
“แม่ลูกจันทร์” ได้ข่าวกระเส็น-กระสายว่าในการประชุมวันนี้ สนช.ลากตั้งจะลงมติ “เห็นชอบ” รายชื่อว่าที่ กกต.ชุดใหม่ “ไม่ครบ 7 คน”
อาจมี 1 คน? หรือ 2 คน? หรือ 3 คน? “ไม่ผ่านความเห็นชอบ” ให้ดำรงตำแหน่ง กกต.ด้วยเหตุผล 3 ประการ
1,มีผู้ได้รับการสรรหาบางคน เคยสมัครเข้าสรรหาเป็น กกต.ครั้งแรกมีปัญหาคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์ แต่เมื่อมาสมัครซ้ำใหม่กลับผ่านการสรรหามาได้อย่างสะดวกโยธิน
2,มีผู้ได้รับการสรรหาบางคน ซึ่งที่ประชุม สนช.โหวตไม่เห็นชอบในครั้งที่แล้ว แต่ได้รับการสรรหากลับมาเหมือนเดิม
3,มีผู้ผ่านการสรรหาบางคน ถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมบกพร่องทางจริยธรรม ไม่เหมาะสมให้ดำรงตำ-
แหน่ง กกต.
ส่วนใครจะผ่าน? หรือใครจะไม่ผ่าน? “แม่ลูกจันทร์” ไม่กล้าฟันธง
อย่างไรก็ตาม ถ้าที่ประชุม สนช.วันนี้ ลงมติเห็นชอบว่าที่ กกต.ชุดใหม่ ไม่ครบเซ็ต 7 คน
ก็จะไม่มีผลให้การเลือกตั้ง ส.ส.ต้องลากยาวออกไปแต่อย่างใด
เพราะยังมี กกต.ชุดเก่าที่โดนเซ็ต ซีโร่อีก 4 คน สามารถปฏิบัติหน้าที่ กกต. เตรียมการเลือกตั้งต่อไปจนกว่าจะได้ กกต.ชุดใหม่มาเสียบแทน
สมมติว่าถ้าหากที่ประชุม สนช.ลงมติเห็นชอบ 4 คน??
ก็ต้องเริ่มการสรรหา กกต.ที่ยังขาดอีก 3 คน ให้ครบ 7 คน ตามกติกาเดิม
แต่บังเอิญมีข้อเสนอจาก อจ.มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ว่า ถ้าที่ประชุม สนช.โหวตคว่ำ ว่าที่ กกต.ทั้ง 7 คน หรือโหวตเห็นชอบ กกต.ไม่ครบ 7 คน
ควรเปลี่ยนการสรรหา กกต. เป็น “การทาบทาม” ผู้ที่มีความเหมาะสมให้มาทำหน้าที่ กกต.ให้สิ้นเรื่องสิ้นราว
“แม่ลูกจันทร์” คาดไม่ถึงว่า ผู้อาวุโสอย่าง “อาจารย์มีชัย” จะพูดจาเป็นไม้หลักปักเลน
เพราะการไปทาบทาม คือการเจาะจงเลือกจิ้มให้ใครเป็น กกต.โดยไม่ต้องผ่านการสรรหาให้ปวดเมื่อยไข่ดัน
ปัญหาคือ รัฐธรรมนูญ มาตรา 217 และมาตรา 222 ที่ “อจ.มีชัย” เขียนมาเองกับมือ กำหนดให้ต้องมี “การสรรหา กกต.”
ใครจะเป็น กกต.จึงต้องสมัครรับการสรรหาตามกติกา!!
ขืนยกเลิกวิธีสรรหา ไปใช้วิธีเลือกจิ้มตามอำเภอใจ...
มันก็ดูไม่จืดน่ะซีโยม.
“แม่ลูกจันทร์”

รีบคืนความชอบธรรม

รีบคืนความชอบธรรม



สะท้อนปรากฏการณ์ระดับโลก
นักฟุตบอลชื่อก้องระดับ “เดวิด เบคแคม” ซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการลูกหนัง “ลิโอเนล เมสซี” ทีมชาติอาร์เจนตินา “พอล ป็อกบา” ทีมชาติฝรั่งเศส ไคล์ วอล์กเกอร์ ทีมชาติอังกฤษ รวมถึงทีมชาติญี่ปุ่น
เปิดพื้นที่สื่อโซเชียลฯส่วนตัวเอาใจช่วย แสดงความยินดีกับทีมหมูป่า อะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำนานกว่า 2 สัปดาห์ ก่อนได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำอย่างปลอดภัย
เพจอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรบาร์เซโลนา สโมสรแอตเลติโก มาดริด ฯลฯ เชิญทีมหมูป่าฯร่วมกิจกรรม พร้อมทัวร์ชมการแข่งขันถึงสนามแข่ง
อารมณ์แบบที่ “โจเซ่ มูรินโญ” ยอดกุนซือชื่อดังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พูดระหว่างเป็นคอมเมนเตเตอร์ฟุตบอลคู่ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2018 ระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสกับทีมชาติเบลเยียม ด้วยประโยคกินใจ
วีรบุรุษคือทุกคนที่มีส่วนช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าฯออกจากถ้ำที่ประเทศไทย ไม่ใช่ที่ฟุตบอลโลก
สถานการณ์ที่พูดได้เลยว่า ทีมฟุตบอลหมูป่าฯเข้าไปร่วมซีนกับฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย
ขณะที่ผู้นำเบอร์หนึ่งของโลกอย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา รวมทั้งผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรป ต่างออกแถลงการณ์แสดงความยินดีกับความสำเร็จในการช่วยเหลือทีมหมูป่าฯ
สื่อดัง ซีเอ็นเอ็น บีบีซี รอยเตอร์ เอ็นเอชเค ฯลฯ รายงานเกาะติดสถานการณ์แทบทุกเบรกข่าว
เป้าทุกสายตาในโลกโฟกัสมาที่ประเทศไทย
เพราะมันมีอะไรที่เหนือกว่าคำว่า “มิชชัน พอสสิเบิล” ภารกิจที่เป็นไปได้
นั่นก็คือพลังแห่งความสมัครสมานสามัคคีที่ผุดขึ้นโดยธรรมชาติ ถึงห้วงสถานการณ์คับขัน คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน และนั่นยังเลยไปถึงพลังมวลมนุษยชาติ ทุกชาติทุกภาษา
ร่วมด้วยช่วยกันสร้างสรรค์ภาพความสวยงามของความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
นับเป็นห้วงเวลา 16–17 วัน ที่ดีกรีความขัดแย้งทางการเมืองลดอุณหภูมิลง เงื่อนไขเรื่องของการแบ่งขั้วแบ่งสี หายไปจากประเทศไทยชั่วขณะ
ในเครื่องหมายคำถาม จะทำอย่างไรเพื่อรักษาสภาวการณ์แบบนี้ในระยะยาว
ไม่ใช่ข่าวทีมหมูป่าฯซา กระแสเงียบ ก็หันกลับมาแบ่งข้างโซ้ยกันใหม่
ไหลตามเกมของนักค้าความขัดแย้งทางการเมือง จุดชนวนปั่นหัวให้ตีกันเพื่อเดิมพันชิงอำนาจ
แต่ที่ไม่หายแน่ๆก็ชื่อของนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายฯ ที่โดนย้ายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ตามคำสั่งก่อนเกิดเหตุการณ์ทีมหมูป่าฯติดถ้ำ
โดยคนดำเนินการชงเสนอคณะรัฐมนตรีก็คือ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
ในอารมณ์แบบที่สื่อต่างประเทศยังเป็นงงกับมาตรฐานการย้ายคนต่อต้านทุจริต จากจังหวัดใหญ่ไปอยู่จังหวัดเล็ก เหมือนเป็นการลงโทษมากกว่าการปูนบำเหน็จ
นั่นก็ทำให้เกิดกระแสแบบที่ยังไม่ทันเสร็จจากภารกิจช่วยทีมหมูป่าฯออกจากถ้ำหลวงฯสำเร็จ พลังโซเชียลมีเดียฯเนืองแน่น แห่หนุนฮีโร่
ลุ้นให้ “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” มาลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
บ่งบอกให้รู้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ “พ่อเมือง” น้ำดีแบบนี้
ไม่ใช่เน้นแต่ประเภท “ใช่ครับพี่ ดีครับนาย สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน”
ตามสถานการณ์ที่แทงหวยล่วงหน้าได้ การโยกย้ายใหญ่
ผู้ว่าฯประจำฤดูในเดือนตุลาคมนี้ รัฐบาลโดย “นายกฯลุงตู่” ต้องคืนความชอบธรรมให้นายณรงค์ศักดิ์
ยกเลิกตรรกะส่งคนเก่งไปพัฒนาจังหวัดเล็กๆให้เจริญทัดเทียมจังหวัดใหญ่
มิเช่นนั้น ปลัดมหาดไทยที่มาจากจังหวัดใหญ่จะไม่มีคนเก่งเลย
เรื่องของเรื่อง จุดสำคัญมันโยงนัวเนียกับปมทุจริตคอร์รัปชัน ตามกระแสข่าวที่สื่อตามกัดติด เหตุโยกย้ายนายณรงค์ศักดิ์เพราะดันไปขวางโครงการที่มี “เงินทอน”
ย้อนศรนโยบายที่ คสช.ประกาศจะลุยล้างทุจริต
โดยภาพออกมาสวนกระแส เดี๋ยวจะพาลกระเทือนชิ่งถึงแผนตีตั๋วต่อของ “ลุงตู่”
ทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องอะไร ต้องตามน้ำที่มหาดไทยชงมา.
ทีมข่าวการเมือง