PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ผบ.ทบ.แถลง 7 ข้อ ลั่นถ้าสถานการณ์ถึงจลาจลจะใช้ทหารเข้าคลี่คลาย - ห้ามปิดล้อมหน่วยทหารเด็ดขาด

ผบ.ทบ.แถลง 7 ข้อ ลั่นถ้าสถานการณ์ถึงจลาจลจะใช้ทหารเข้าคลี่คลาย - ห้ามปิดล้อมหน่วยทหารเด็ดขาด

 เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ระบุว่าขอเป็นกำลังใจให้ทุกพวกทุกฝ่ายที่กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง เพื่อนำประเทศชาติไปสู่ความสงบเรียบร้อย  ทั้งด้วยวิธีการทางกฎหมาย การพูดคุยเจรจา หรือสันติวิธีอื่น ๆ แต่ทั้งนี้การใช้ช่องทางตามกฎหมาย หรือการพูดคุยประชุมหารือกันอาจไม่ประสบผลมากนักในช่วงเวลานี้ เพราะมีข้อถกเถียงและโต้แย้งมากมาย  ซึ่งอาจไม่ทันต่อสถานการณ์ มีแนวโน้มเกิดความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ  ดังนั้นทุกฝ่ายควรดำเนินการด้วยวิธีการอันสงบสันติ ไม่สร้างเงื่อนไขและปัญหาเพิ่มมากขึ้น ต้องหยุดสร้างความรุนแรง และช่วยกันนำพาประเทศชาติออกจากความขัดแย้งให้ได้โดยเร็ว

 พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์การใช้อาวุธเมื่อช่วงคืนวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้กระทำล้วนแต่เป็นการกระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น  จึงขอให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมช่วยกันประณามทุกฝ่ายที่ใช้ความรุนแรง และใช้อาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งขอให้ส่งข้อมูลหรือเบาะแสให้กองทัพบกทันทีเมื่อได้รับทราบ ทั้งนี้การที่หลายฝ่ายกล่าวพาดพิงผบ.ทบ. และผบ.เหล่าทัพว่าอยู่เฉย ไม่ดำเนินการใดๆ นั้น กองทัพได้ดำเนินการทุกอย่างมาด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง  เพราะปัญหาในครั้งนี้มีความซับซ้อน และมีผลกระทบในหลายมิติ ขอเตือนผู้ที่กล่าวให้ร้ายกองทัพขอให้ระมัดระวังคำพูด ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของกองทัพ ทหารทุกคนไม่สามารถยอมรับได้ และขอเตือนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ขอให้หยุดการกระทำนั้นตั้งแต่บัดนี้ เพราะหากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

ทหารอาจจำเป็นต้องออกมาระงับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม หรือหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นจนมีแนวโน้มถึงขั้นจะเกิดการจลาจล เพื่อความสงบเรียบร้อย

“กองทัพอาจมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์ในขั้นนั้น หากมีผู้หนึ่งผู้ใดหรือกลุ่มบุคคล หรือกองกำลังติดอาวุธตอบโต้กองทัพ หรือทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก บุคคลผู้นั้นหรือกลุ่มบุคคลนั้นจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการทางกฎหมายปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวอาจจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ได้ เช่นกันกับกลุ่มบุคคลที่มีความคิดจะบุกรุกหรือปิดล้อมหน่วยทหาร ขอให้ยุติแนวคิดการกระทำดังกล่าวโดยทันที กองทัพเป็นของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ได้เป็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่กองทัพก็ต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ และประชาชน  เมื่อมีความจำเป็นอย่างเต็มความสามารถ” รองโฆษกกองทัพบก กล่าว

ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานด้วยว่า  ทางพ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกทบ. ชี้แจงคำแถลง 7 ข้อของผู้บัญชาการทหารบก  โดยระบุว่า

1.ขอเป็นกำลังใจให้ทุกพวกทุกฝ่ายที่กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง เพื่อนำประเทศชาติไปสู่ความสงบเรียบร้อย  ทั้งด้วยวิธีการทางกฎหมายก็ดี หรือการพูดคุยเจรจาก็ดี หรือสันติวิธี

อื่น ๆ ก็ดี     อย่างไรก็ตาม การใช้ช่องทางตามกฎหมาย หรือการพูดคุยประชุมหารือกัน  อาจไม่ประสบผลมากนักในห้วงเวลานี้  เพราะมีข้อถกเถียงและโต้แย้งมากมาย  และอาจไม่ทันต่อสถานการณ์

ซึ่งมีแนวโน้มเกิดความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ  ดังนั้นทุกฝ่ายควรดำเนินการด้วยวิธีการอันสงบสันติ ไม่สร้างเงื่อนไขและปัญหาเพิ่มมากขึ้น ต้องหยุดสร้างความรุนแรง และช่วยกันนำพาประเทศชาติ

ออกจากความขัดแย้งให้ได้โดยเร็ว

2.จากสถานการณ์การใช้อาวุธเมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค.57  ซึ่งมีทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก    ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้กระทำ  ล้วนแต่เป็นการกระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น  จึงขอให้ประชาชนที่ไม่

เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ช่วยกันประณามทุกฝ่ายที่ใช้ความรุนแรง และใช้อาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์  รวมทั้งขอให้ส่งข้อมูลหรือเบาะแสให้กองทัพบกทันทีเมื่อได้รับทราบ

3.การที่หลายฝ่ายกล่าวพาดพิง  ผบ.ทบ และผบ.เหล่าทัพ ว่า อยู่เฉย ไม่ดำเนินการใด ๆ   ขอเรียนว่า กองทัพได้ดำเนินการทุกอย่าง มาด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง  เพราะปัญหาในครั้งนี้ มี

ความซับซ้อน และมีผลกระทบในหลายมิติ

4. ขอเตือนผู้ที่กล่าวให้ร้ายกองทัพ ให้ระมัดระวังคำพูด ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของกองทัพ   ทหารทุกคนไม่สามารถยอมรับได้

5.ขอเตือนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์  ให้หยุดการกระทำนั้นตั้งแต่บัดนี้  เพราะหากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทหารอาจจำ

เป็น ต้องออกมาระงับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม

6.หรือหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นจนมีแนวโน้มถึงขั้นจะเกิดการจลาจล เพื่อความสงบเรียบร้อย  กองทัพอาจมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์  ในขั้นนั้นหากมีผู้หนึ่งผู้ใด

หรือกลุ่มบุคคล หรือกองกำลังติดอาวุธ ตอบโต้กองทัพ หรือทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก  บุคคลผู้นั้น หรือกลุ่มบุคคลนั้น จะต้องถูก จนท.ใช้มาตราการทางกฏหมายปราบปรามอย่างเด็ดขาด  โดย

ผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวอาจจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ได้   เช่นกันกับกลุ่มบุคคลที่มีความคิดจะบุกรุกหรือปิดล้อมหน่วยทหาร ขอให้ยุติแนวคิดการกระทำดังกล่าวโดยทันที

7. กองทัพเป็นของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนคนไทยทุกคน มิได้เป็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด  แต่กองทัพก็ต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของ

ประเทศชาติ และประชาชน  เมื่อมีความจำเป็น อย่างเต็มความสามารถ

จึงขอเรียนให้ทราบโดยทั่วกัน

การประกาศกฎอัยการศึก

ระกาศกฏอัยการศึก เหตุผลต้องมีพอ ตามสเตปเรียงลำดับดังนี้ ฝ่ายเสนาธิการของ ผบ.เหล่าทัพ จงอย่าได้ทำเนียน หรือพยายามมั่ว ตราบใดที่ สตช.และ ศอ.รส.ยังไม่ร้องขอไปยังเหล่าทัพ และ รรก.นายกฯ ยังไม่เห็นด้วย อย่าเชียวนะ ถ้าเหตุผลไม่มีพอ ผู้ประกาศต้องรับผิดชอบ..!! หากมีคนไปทูลเกล้าขอพระบรมราชวินิจฉัย ยกเลิกกฏอัยการศึกในชั่วข้ามคืน
กัดฟันยางไว้ อีก3 เดือน จะได้เกษียณไปอย่างมีเกียรติ
1.เกิดการจลาจล*ขนาดใหญ่* 
2.อัพเกรด พรบ.มั่นคงฯ เป็น พรก.ฉุกเฉินฯ
3.ความรุนแรงเกินขีดขั้นความสามารถที่ สตช.หรือ ศอ.รส.จะควบคุมได้
4.ประกาศใช้กฏอัยการศึก อัพเกรดจาก พรก.ฉุกเฉิน


กำนันเกือบได้เป็นนายกเมื่อปี 2550.

กำนันเกือบได้เป็นนายกเมื่อปี 2550.
ขอมูลจาก Wikileaks
คุณรู้ไหมปี 2007 สนธิ บุญยรัตกลิน กับ สุรยุทธ์ จุลานนท์ มีการเเตกเเยกกันภายใน เเละทำให้ สนธิ บุญยรัตกลิน ต้องการสร้างพรรคใหม่ของตัวเอง เเละบิกบังต้องการนายกหุ่นเชิด โดนเสนอให้สุเทพเป็นนายก เเต่สุเทพปฏิเสธ
สุเทพบอกว่าบิกบังไม่จำเป็นต้องทำรัฐประหารอีกครั้งเพราะว่า สุรยุทธ์ จุลานนท์ไม่ต้องการจะเป็นนายกอยู่เเล้ว ถ้าเชิญออกเขาก็จะออก สุเทพรู้ว่า ฝ่ายพันธมิตรต้องการ จะให้ นาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริเป็นนายก สุเทพรู้ว่าถ้า สุรยุทธ์ ลาออก สนธิ บุญยรัตกลิน จะขึ้นตำเเหน่งเป็นนายกซะเอง เเต่เปรมคัดค้านที่ใจให้ บิกบังขึ้นมาเป็นนายกเอง เลยบอกสุเทพให้ช่วยพยุง สุรยุทธ์ เอาไว้ เพราะสถาณการณ์การเมืองยังอ่อนไหวอยู่


ล่มแล้ว! กปปส.บุกวงหารือรัฐบาล-กกต. ยันปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

ล่มแล้ว! กปปส.บุกวงหารือรัฐบาล-กกต. ยันปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

by Wiroon15 พฤษภาคม 2557 เวลา 11:13 น.
ล่มแล้ว! กปปส.บุกวงหารือรัฐบาล-กกต. ยันปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
วงหารือร่วมกกต.-รัฐบาลล่ม หลังมวลชนกปปส. บุกเข้าหน้าอาคารประชุมยันปฏิรูปก่อนเลือกตั้งเท่านั้น กกต.เสนอประชุมครั้งต่อไปให้ใช้แบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้น จวกรัฐบาลส่งคนไปคุย'สุเทพ'ว่าต้องการอะไรก็จบ
 
การประชุมร่วมเพื่อหาทางแนวทางจัดการเลือกตั้งระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และรัฐบาลในวันนี้ต้องยกเลิกไปอีก หลังจากมวลชนคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์(กปปส.) นำโดย นายชุมพล จุลใส นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายสกลธี ภัททิยกุล และน.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ได้บุกเข้ามายังพื้นที่การประชุมที่หอประชุมกานตรัตน์ กองทัพอากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้
 
โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. เปิดเผยว่าระหว่างการประชุมหารือกับรัฐบาล หน่วยงานมั่นคงรายงานว่าผู้ชุมนุมต้องการเข้ามาภายในพื้นที่บริเวณหน้าหอประชุมกานรัตน์ โดยเกรงว่าเจ้าหน้าที่ทหาร จะไม่สามารถดูแลเรื่องความปลอดภัยได้ นายนิวัฒน์ธำรง จึงขอให้ยกเลิกการประชุม แล้วกำหนดวันหารือร่วมกันอีกครั้งในภายหลัง โดยทางรัฐบาลได้เสนอให้มีการประชุมแบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้น ซึ่งส่วนตัวมองว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจึงต้องมีการหารือกับแบบเผชิญหน้า ทั้งนี้เชื่อว่าการเลือกตั้งในวันที่ 20 ก.ค. 2557 ไม่น่าจะทัน ส่วนจะเลื่อนไปเมื่อไรต้องรอหารือกับทางรัฐบาลอีกครั้ง
 
ทั้งนี้กกต. เสนอให้รัฐบาลส่งตังแทนไปพูดคุยกะผู้ชุมนุม ว่าต้องการอะไร เพราะกกต. ไม่มีปัญหาผู้ชุมนุมแน่นอน พร้อมรับฟังข้อเสนอทุกฝ่าย

การ์ดตาย2เจ็บ17ตรงอรุสาวรีย์ ปชต.

คืนที่ 14 ต่อ 15 พฤษภาคม 2557 เวลา 02.10 น. เกิดเหตุ ยิงกันที่บริเวณอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ใกล้แยกคอกวัว และมี M79 ตกลงมาในเขตของการ์ด กปปส.ตามด้วยกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที จำนวน 2 ราย(การ์ด) และบาดเจ็บสาหัส อีก จำนวน 17 คน ..

M79ถล่มการด์ อนุสาวรีย์ปชต.กลางดึก

เมื่อเวลา 02.50 น.(15/5/57)เกิดเหตุยิง 79 2 ลูก / ลูกนึงตกที่ฐานอนุสาวรีย์ฯ อีกลูกนึงตกหลังคาร้านบ้านดินสอ หลังมีเสียงระเบิดแล้ว คนร้ายบนรถกระบะสีขาวใช้ M16 กราดยิงใส่กลุ่มการ์ด บริเวณแยกคอกวัว ก่อนหนีไป
รายชื่อสำหรับผู้เสียชีวิต 2 ราย / ผู้บาดเจ็บยังไม่นิ่ง (21-24) ที่ รพ.หัวเฉี่ยวและ รพ.กลาง
1. ที่รพ.หัวเฉียว ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายนรายศ จันทร์เพชร หรือน้องโดม อายุ 21 ปี เป็นการ์ดอาสา พบมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัด และที่ท้อง 1 นัด เป็นชาวจ. สุราษฎร์ธานี
2. ที่รพ. กลาง ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายสมควร นวนขนาย อายุประมาณ 51 ปี ถูกยิง เข้าที่หน้าอกและขา เป็นชาว จ.ชุมพร (ต.บ้านนา อ.เมือง)


กกต.ชี้แจงประเด็นการยกเลิกประชุมร่วมกับรัฐบาลวันนี้

ชี้แจงประเด็นการยกเลิกประชุมร่วมกับรัฐบาลวันนี้
1. กกต.ได้ทำหนังสือเชิญ รัฐบาลมาร่วมประชุมกับ กกต.เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับเงื่อนไขการจัดการเลือกตั้ง โดยได้นัดหมายล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ ให้มีการประชุมในวันนี้ เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 9 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง อาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
2. กกต.ได้เตรียมการประชุม ทั้งในด้านบุคลากรและประเด็นเนื้อหาเป็นที่เรียบร้อยพร้อมที่จะประชุมตามวัน เวลาที่กำหนด
3. เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.ของวันนี้ ประธาน กกต.ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มีการติดต่อมาจากรัฐบาล ขอย้ายสถานที่ประชุม เป็นหอประชุม รร.นายเรืออากาศ โดยอ้างเหตุผลความปลอดภัยของฝ่ายรัฐบาล
4. กกต.ยืนยันที่จะใช้ที่ประชุมที่ ศูนย์ราชการตามเดิม เนื่องจากเป็นการแจ้งแบบฉุกเฉิน และเสนอทางเลือกแก่รัฐบาล 3 ทาง คือ 1) ยืนยันประชุมตามเดิม 2) ให้มีการประชุมชุดเล็กระหว่างสองฝ่ายในเวลาสถานที่เดิม 3) ให้กำหนดวัน เวลา สถานที่ประชุมใหม่ ตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร
5. รัฐบาลเลือกแนวทางที่ 3 โดยกำหนดการประชุมร่วม ในวันพฤหัสที่ 15 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น. ที่ หอประชุมกานตรัตน์ กองทัพอากาศ (สถานที่อาจเปลี่ยนแปลงได้)
จึงเรียนมาเพื่อแจ้งประชาชนทราบ