PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บิ๊กหมูจำใจแถลง

จำใจ......
ปกติ จะไม่ค่อยให้สัมภาษณ์นักข่าวสายทหาร แต่วันนี้ บิ๊กหมู พลเอกธีรชัย ผบทบ./รองผอ.รมน./เลขาฯคสช./ ผบ.กกล.รส จำเป็นต้องมายืนจุดที่ นายกฯเคยยืนให้สัมภาษณ์ นักข่าวทำเนียบฯ เพราะ พลเอกประยุทธ์ นายกฯและผอ.รมน. มอบหมายให้ แถลงข่าวแทน บิ๊กหมู เลยจำเป็นต้องมาแถลงกับสื่อทำเนียบฯ เลยปล่อยมุข บ่นขำๆ เลยว่า นี่เพราะ นายกฯสั่ง นะเนี่ย เลยต้องแถลงข่าวแทน จำใจเข้าจุดสัมภาษณ์ พูดออกไมค์ แจงงาน กอ.รมน.-คสช.แจงร่างรธน. โดยเฉพาะ บทบาทหน้าที่ ของนักศึกษา วิชาทหาร (นศ.รด.)....งานนี้ เป็นการสั่งให้แถลงแทน ด่วน ทีม รปภ. ต้อง แจ้งระงับขบวนรถ ผบทบ. ที่กำลังรับ บิ๊กหมู ขึ้นรถแล้ว ให้เดืนมาที่จุดแถลงข่าว อย่าเร่งด่วน

นายกฯตู่ยังไม่พูดกับนักข่าว

พูด น้อย มาก......
นายกฯ บิ๊กตู่ เดินเข้าจุดสัมภาษณ์ คว้าไมค์พูด แต่ไม่ตอบคำถามใดๆ สื่อ แต่บอกว่า มอบผบทบ.แถลงข่าว การทำงานของกอ.รมน.แทน หลังจบประชุมการแถลงแผนปฏิบัติงานของ กอ.รมน.ปี2559 ด้าน บิ๊กหมู ผบทบ. กำลังจะขึ้นรถกลับ ทีมรปภ.นายกฯ รีบมาแจ้ง พร้อม สกัด ขอยกเลิกขบวนรถผบทบ. พร้อมเชิญ มาแถลงข่าว

นายกฯ สั่งหน่วยความมั่นคง อย่าประมาท ภัยก่อการร้าย ลั่น ไม่มีที่ไหนในโลก ปลอดภัย


นายกฯ สั่งหน่วยความมั่นคง อย่าประมาท ภัยก่อการร้าย ลั่น ไม่มีที่ไหนในโลก ปลอดภัย เตือน ระวังพวกสุดโต่ง ไม่อยากให้ประเทศไทยเป็นคู่ขัดแย้งและทำตัวเป็นประเทศทางเลือก สั่งทุกหน่วย แก้ไข การรับรู้ของ ตปท. ที่ว่า ไทยใช้อาวุธสงคราม เผย มีแต่ 3 จ.ใต้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมฟังการแถลงแผรปฏิบัติงาน กอ.รมน. ที่มี ผบ.เหล่าทัพ มาร่วมฟัง ที่ ทำเนียบฯ ว่า เรื่องก่อการร้ายนั้น วันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในด้านความมั่งคง
"อย่าคิดว่าบ้านเราปลอดภัย เพราะไม่มีประเทศใดในโลกที่ปลอดภัย ดังนั้นรัฐบาลกำลังจัดเตรียมเทคโนโลยีและกล้องจับใบหน้าให้พอเพียงเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
"อยากให้ระวังพวกสุดโต่งเพราะไม่อยากให้ประเทศไทยเป็นคู่ขัดแย้ง และทำตัวเป็นประเทศมีทางเลือก มีอิสระแต่ต้องทำตามพันธสัญญาโลก"
นายกฯ เผยว่า เคยไปดูงานทีาสหรัฐฯ มีการพูดว่า ในความรับรู้ของต่างประเทศมีคนบอกว่าในไทยมีผู้ก่อการร้ายในประเทศและอันตรายที่สุดในอาเซียน เพราะ มีการใช้อาวุธสงคราม เพราะนำแต่เรื่องปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตัดสิน แต่ความจริงแล้วประเทศไทยมี ถึง 77 จังหวัด จะไปพูดแบบนั้นไม่ได้และฝ่ายความมั่งคงต้องไปชี้แจงปล่อยไว้ได้
นายกฯเผยว่า ตอนนั้นตนได้ชี้แจงไปแล้วกับชาวต่างชาติบางส่วนว่า บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้จะให้ทำอย่างไร ซึ่งต่างชาติบอกว่าคิดไม่ออก ให้เวลา 10 ปีก็คิดไม่ออก เพราะคนไทยไม่เหมือนใคร อยากปลอดภัยแต่ไม่อยากให้บังคับใช้กฎหมาย
นายกฯ กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันชี้แจง ว่า ไม่ใช่แบบนั้น จนบัดนี้ ก็ยังไม่มีใครทำ ควรจะทำกันได้แล้ว

บิ๊กตู่ เสนอให้มี"ระยะเปลี่ยนผ่าน"จะนานแค่ไหนไปหามา ต้องหาทางแก้ไขก่อน


บิ๊กตู่ เสนอให้มี"ระยะเปลี่ยนผ่าน"จะนานแค่ไหนไปหามา ต้องหาทางแก้ไขก่อน ต้องมีบทเฉพาะกาลมั้ย เอาอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ระบุคุยการเมือง ไม่มีวันปรองดองได้ ยันเลือกตั้ง ตามโรดแมพวอน ช่วยทำความเข้าใจต่างชาติ เผยมีคนชั่วคนเลว ไปบิดเบือน ทั้งในและต่างประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ กล่าวว่า ต่างชาติบอกให้ไทยกลับมาสู่ประชาธิปไตยและเลือกตั้งโดยเร็ว ซึ่งตนจะเร่งให้ตามโรดแมพ แต่ต่างชาติอาจคงไม่เจ้าใจแต่ทุกคนต้องสร้างความเข้าใจในทุกมิติ
ยืนยันว่า เราจะไม่ฝืนประชาธิปไตย แต่ยังมีคนชั่วคนเลว ไปบิดเบือน ทั้งในและต่างประเทศ
ส่วนรัฐธรรมนูญมีปัญหาอย่างไร หรือจะอยู่ในบทเฉพาะกาลหรือไม่ให้ไปคิดมา ซึ่งอย่าดูว่าสากลหรือสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะต้องเป็นสากลอยู่แล้ว อีกทั้งการปรองดองต้องเริ่มด้วยตัวเอง ถ้าไม่พูดเรื่องการเมืองก็ปรองดองได้หมด เพราะการเมืองเป็นเรื่องของความเห็นต่าง ถ้าร่วมมือกันไม่ได้ 10 ชาติก็ปรองดองไม่ได้ จะร่างกฏหมายก็มีการปรองดองก็ไม่ได้
"ระยะเปลี่ยนผ่าน"จะนานแค่ไหนไปหามา ต้องหาทางแก้ไขก่อน ต้องมีบทเฉพาะกาลมั้ยเอาอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้"
นายกฯ ขอบคุณ สปท. สนช. กรธ. ที่ตนได้ตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกิดการปฏิรูปที่จะต้องเริ่มจากทุกวันนี้ ซึ่งระยะที่ 1ที่ผ่านมาทุกฝ่ายก็รวมกันทำมาตลอด และระยะต่อไปก็ต้องกำหนดแผนเรื่องการปฏิรูป ให้สอดคล้องให้นำไปใส่ไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี
ในเรื่อง รธน. อยากให้ดูเรื่องเจตนาการร่างขึ้นมาว่าเพื่ออะไร ไม่ใช่คิดว่าจะเป็นการสืบทอดอำนาจ
นอกจากนี้ยังได้ถามผู้เข้าร่วมประชุมว่าได้ฟังเพลงคนดีไม่ได้วันตนแล้วหรือไม่ พร้อมระบุว่า ไม่ใช่แปลว่าเป็นคนดีแล้วจะไม่ตาย แต่คนดีจะไม่ตายไปจากความทรงจำ คนจะจดจำในความดีของเรา

นายกฯ บิ๊กตู่ ยอมรับ ทหารโมโหง่ายแต่พร้อมแก้ไขตัวเอง จะไม่พูดมาก เพราะจะยิ่งถูกโจมตี



นายกฯ บิ๊กตู่ ยอมรับ ทหารโมโหง่ายแต่พร้อมแก้ไขตัวเอง จะไม่พูดมาก เพราะจะยิ่งถูกโจมตี ขอบคุณ ทุกคน ช่วยรัฐ คสช ทำงาน ขอ ตร. ทำงานร่วมมวลชน เป็นที่รักของประชาชน
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.)เป็นประธานการจัดงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2558 และ แถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2559 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยมี ผบสส. ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร.ร่วมด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอบคุณข้าราชการทุกคน ที่ร่วมมือการทำงานมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอให้ข้าราชการ สลายสีรวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ลดอัตตา แล้วจึงนำประชาชนมาร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง และบูรณาการร่วมกับกลุ่มงานอื่นแก้ไขปัญหาประเทศอย่างยั่งยืน และการทำงานจะต้องไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริต และขอยืนยันว่าส่วนตัวเชื่อมั่นในข้าราชการทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงอารมณ์ของตนเองว่า ยอมรับว่ามีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ส่วนตัวก็ได้พยายามปรับปรุงแก้ไขตัวเองแล้ว เพราะ ท่านรองนายกฯ(พลเอกประวิตร) ก็คอยเติอนผมตลอด
"ก็ ต้องเข้าใจว่าทหาร โมโหง่ายแต่ก็พร้อมปรับปรุงแก้ไข" นายกฯกล่าว
นายกฯกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนพูดมาก เพราะอยากจะอธิบาย พอพูดมาก เพราะจะยิ่งถูกโจมตี ผมก็ต้องอดทน และแก้ไข
นายกฯ ชื่นชมการจับกุมขบวนการลักลอบปลอมแปลงพาสปอร์ตที่ทำในไทยมากกว่า 25 ปี ว่ามีการปล่อยปละละเลย ให้มีการกระทำเช่นนี้ได้อย่างไร ดังนั้นในระหว่างที่รัฐบาลนี้ ทำหน้าที่อยู่ จะต้องเคลียร์ประเทศให้ได้
ส่วนตำรวจก็ต้องทำตนเองให้เป็นที่รักของประชาชนให้ได้ ต้องทำงานด้านมวลชน ควบคู่กับงานประจำที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย

อานันท์ ปันยารชุน ชี้ปรองดองเกิดได้ ไม่ใช่มาจากรัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่จิตสำนึก



          อานันท์ ปันยารชุน ชี้ปรองดองเกิดได้ ไม่ใช่มาจากรัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่จิตสำนึก ขออย่าด่วนตัดสินคว่ำร่าง เชื่อ กรธ. ต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขอีก ชมประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งใจทำงาน
          วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เห็นร่างรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ยังศึกษาไม่ละเอียด ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้คิดถึงเรื่องคว่ำหรือไม่ แต่ขอให้จับสาระสำคัญ ศึกษาเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ และเสนอข้อคิดเห็นไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อพิจารณาแก้ไข เพราะเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญยังต้องนำกลับไปปรับปรุงอีกครั้ง จึงไม่อยากฟันธงว่าจะผ่านประชามติหรือไม่ ส่วนเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีคนนอก มองว่า เร็วเกินไปที่จะพูดถึง เพราะสิ่งสำคัญต้องเป็นไปตามหลักประชาธิปไตยคือ นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง แต่รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้มาจากคนนอกได้ ขณะที่ปฏิเสธแสดงความเห็นเรื่องระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบใช้บัตรใบเดียว

          อย่างไรก็ตาม นายอานันท์ ยังระบุว่า ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ อยู่ที่จิตใจ ไม่ใช่เกิดจากรัฐธรรมนูญ พร้อมกันนี้ยังให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่าเป็นผู้ตั้งใจทำงาน

ประธานสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจำนำข้าว ชี้ “ยิ่งลักษณ์” ผิดพฤติการณ์

ประธานสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจำนำข้าว ชี้ “ยิ่งลักษณ์” ผิดพฤติการณ์ ปัดบอกตัวเลขฟ้องแพ่ง โยนถามรมว.คลัง
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยถึงกรณีส่งข้อสรุปความเห็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว ว่า การดำเนินการของคณะกรรมการที่ทำงานมาตั้งแต่เมษายน 2558 ซึ่งได้เชิญ 3 กลุ่มมาให้ถ้อยคำ ได้แก่ กลุ่มข้าราชการจำนวน 15 หน่วยงาน กลุ่มผู้กล่าวหา 8 ราย อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ (ปชป.) กลุ่มผู้ถูกกล่าวหา 15 ราย อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพยานที่กล่าวอ้าง และส่งมาเพิ่มอีก 20 ราย เมื่อเดือน ธ.ค.58 ซึ่งกรรมการได้ขอให้ส่งถ้อยคำเพิ่มเติมเป็นรายลักษณ์อักษรมาภายในวันที่ 20 มกราคม 2559 แต่ไม่มีใครส่งข้อมูลมาแต่อย่างใด
นายจิรชัยกล่าวว่า กรรมการได้พิจารณา 2 ลักษณะ คือ พฤติการณ์ดำเนินการในการกำกับดูแลติดตาม ในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ว่ามีการติดตามรัดกุม กำกับชัดเจนหรือไม่ และเรื่องความเสียหาย ซึ่งถือวันปิดบัญชี 22 พฤษภาคม 2557 เพื่อนำตัวเลขปิดบัญชีมาพิจารณาวิเคราะห์ โดยให้ความเป็นธรรม อาทิ ตัวเลขที่ประชาชนจะได้รับในส่วนต่าง เช่น ราคาท้องตลาดเกวียนละ 9,000 บาท แต่รับจำนำ 15,000 บาท ส่วนต่างตรงนี้ถือเป็นประโยชน์ประชาชน กรรมการก็ไม่ได้คิดเป็นความเสียหาย การดำเนินการของส่วนราชการถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายเป็นข้าราชการดำเนินการก็ไม่ถือว่าเป็นความเสียหาย ในส่วนเรื่องดอกเบี้ย ที่ทางคณะกรรมการปิดบัญชีคิดดอกเบี้ยด้วยนั้น แต่กรรมการเราคิดว่าไม่ใช่การค้า แต่เป็นการดำเนินงานราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขประชาชนก็ไม่คิดเป็นความเสียหาย
เมื่อถามถึงจำนวนตัวเลขที่ประเมินเพื่อฟ้องเรียกความเสียหาย นายจิรชัยกล่าวว่า เรื่องตัวเลขตนขอยังไม่เปิดเผย เนื่องจากเรื่องยังไม่จบยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของ รมว.คลังและนายกรัฐมนตรี และยังต้องให้คณะกรรมการพิจารณาเรียกร้องทางแพ่ง กรมบัญชีกลางดำเนินการพิจารณาต่อ จึงยังไม่นิ่ง แต่ยืนยันว่าในนามกรรมการชุดของตนนั้นไม่มีการถูกกดดันใดๆ ทั้งสิ้น ทำงานด้วยความอิสระ ให้ความเป็นธรรม ให้โอกาสมากที่สุด ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ได้มอบไว้
เมื่อถามว่า ผลจากการพิจารณาของกรรมการถือว่าพฤติการณ์สอดคล้องกับที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดมาหรือไม่ นายจิรชัยกล่าวว่า ก็สอดคล้องกัน ตามพฤติการณ์ก็มีความผิด แต่เรื่องความเสียหายนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามย้ำว่า ตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวที่เกิดขึ้นนั้นสูงถึงหลักแสนล้านบาท ตามที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลหรือไม่ นายจิรชัยกล่าวว่า ต้องขอสงวนไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขความเสียหายนั้นทางอนุกรรมการปิดบัญชีนั้นได้สรุปไว้แล้ว และนำตัวเลขนั้นมาวิเคราะห์ โดยไม่ได้เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเขาคิดละเอียดแบบนักบัญชี แต่เราเป็นนักบริหารต้องดูความเหมาะสม ดูความเป็นธรรม ดูประโยชน์ที่ประชาชนได้รับ

วีระ ถาม ทำไม่มีใครทักงบรถไฟแพง 3 ล้าน

Veera Somkwamkid

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง(ยิ่งลักษณ์-ชัชชาติ) กำลังผลักดันให้เกิดโครงการรถไฟความเร็วสูงรางคู่ 4 สาย รวมถึงรถไฟแถบชานเมืองอีก 9 สาย ในราคา 2.2 ล้านล้านบาท ปรากฎว่าถูกต่อต้านจากสังคมไทยอย่างหนัก เนื่องจากเห็นว่ามีราคาแพงเกินไป แต่ในขณะนี้รัฐบาลเผด็จการทหาร คสช.กำลังผลักดันให้เกิดโครงการรถไฟความเร็วปานกลางแต่ทำได้แค่รางเดี่ยวจำนวนเพียงแค่ 1 สายเท่านั้น แต่ราคาค่าก่อสร้างกลับมีราคาถึง 3 ล้านล้านบาท(ไม่รู้จริงหรือไม่?) กรณีนี้ทำไมไม่เห็นคนสังคมออกมาต่อต้านกันบ้าง หรือกลัวถูกทหารอุ้ม

สหรัฐฯชี้ เกาหลีเหนือกลับมาเปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แล้ว

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. นายเจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯเผยว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ได้ขยายการผลิตพลูโตเนียมและกลับมาเปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีกครั้งหนึ่งแล้ว
นายแคลปเปอร์กล่าวว่า “เราคาดว่าเกาหลีเหนือได้เปิดเครื่องปฏิกรณ์มาระยะหนึ่งแล้ว จึงสามารถนำแร่พลูโตเนียมจากเชื้อเพลิงที่ใช้แล้วของเตาปฏิกรณ์กลับมาใช้ได้อีกภายในไม่กี่สัปดาห์ถึงไม่กี่เดือน
เขายังกล่าวถึงการที่เกาหลีเหนือประกาศความตั้งใจในการเริ่มดำเนินการด้านนิวเคลียร์เมื่อปี 2013 ที่รวมไปถึงการเสริมแร่ยูเรเนียมในเมืองยงบอนและเตาปฎิกรณ์ถ่านแกรไฟต์ที่ถูกปิดไปเมื่อปี 2007
ทั้งนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ปล่อยดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลกที่มีชื่อว่า กวางเมียงซอง-4 เข้าสู่วงโคจรได้สำเร็จแล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังจากที่เกาหลีเหนืออ้างว่ามีการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ทางสหรัฐฯได้กล่าวประณามเกาหลีเหนือว่าเป็นการกระทำที่ “ปลุกปั่นและบั่นทอนความมั่นคง” พร้อมให้คำมั่นสัญญาที่จะ “ดำเนินทุกขั้นตอนเพื่อปกป้องตัวเราและพันธมิตรของเรา”
นายแคลปเปอร์ยังกล่าวอีกว่า อาวุธนิวเคลียร์และโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือนั้นจะเป็นการคุกคามผลประโยชน์ของสหรัฐฯอย่างร้ายแรง รวมถึงความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อมของเอเชียตะวันออกอีกด้วย

การขัดแย้งทางความคิดรอบใหม่

ไทยรัฐ10/2/59

วันนี้ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย ได้สร้าง ความขัดแย้งทางความคิดรอบใหม่ขึ้นอีกครั้งในสังคมไทย ก็ยังไม่รู้จะลงเอยอย่างไร เพราะ ความขัดแย้งทางความคิดในสังคมครั้งที่แล้ว ที่นำไปสู่ความรุนแรง นำไปสู่การปฏิวัติ 22 พฤษภาคม 2557 คณะปฏิวัติ หรือ คสช. ก็จัดให้มีการ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปทุกด้าน ทั้งการเมือง ประชาธิปไตย เศรษฐกิจ สังคม เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม

แต่ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก ก็แท้งกลาง สภาปฏิรูปแห่งชาติเสียก่อน จากความขัดแย้งทางความคิดในกลุ่มแม่น้ำ 5 สาย

จนมาถึง ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่มี คุณมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ก็ยังนำไป สู่ความขัดแย้งทางความคิด เหมือนเดิม เพราะร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยที่คลอดออกมา ไม่เป็นประชาธิปไตยจริง แต่เป็นประชาธิปไตยอะไรก็ไม่รู้ สามารถขโมยคะแนนเสียงประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองหนึ่ง เอาไปให้อีกพรรคการเมืองหนึ่งที่ประชาชน ไม่ได้เลือก เพื่อช่วยให้พรรคนั้นได้จำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้น แม้แต่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็ยังยำใหญ่ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย เช่นเดียวกับ สภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่โหวตคว่ำ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับบวรศักดิ์

5 ประเด็นใหญ่ที่ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไม่เห็นด้วยใน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย ผมได้ลงรายละเอียดไปแล้วเมื่อวานนี้

ที่น่าสนใจตามมาก็คือ หลังจากที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้แถลง คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย ใน 5 ประเด็นไปแล้ว พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกสำนักนายกฯ ก็ได้เสนอบทความเรื่อง “ประชาธิปไตย จิตสำนึกของสังคม” เผยแพร่สู่สาธารณะ

พล.ต.วีรชน ได้อ้างอิงบทความเรื่อง “ปรากฏการณ์ประชาธิปไตยไร้เสรี” (The Rise of llliberal Democracy) ของ Fareed Zakaria ที่ตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศเมื่อ 20 ปีก่อนว่า ได้กระตุ้นให้ขบคิดว่า การพัฒนาประชาธิปไตยและเสรีนิยมภายใต้รัฐธรรมนูญที่มีรูปแบบประชาธิปไตยแบบตะวันตก อาจเป็นเพียงหนึ่งในหลายหลักการประชาธิปไตย เพราะ ประชาธิปไตยคือจิตสำนึกหนึ่งของสังคม แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ดังนั้น อาจจะผิดพลาดได้ หากตีความว่า ประชาธิปไตยคือธรรมาภิบาล พล.ต.วีรชน ระบุว่า ข้อคิดเห็นของนาย Zakaria อาจตรงกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน

ก็ไม่รู้ว่าบทความนี้เป็น ความคิดเห็นส่วนตัว ของ พล.ต.วีรชน หรือ เป็นนโยบาย

ช่วงหนึ่ง พล.ต.วีรชน ได้ยกคำพูดของ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ที่อ้างถึงคำพูดของ นายวิล ดูแรนต์ นักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ว่า “ในวัยหนุ่มของฉัน ฉันให้ความสำคัญต่ออิสรภาพ และเมื่อวัยชรา ฉันให้ความสำคัญต่อกฎระเบียบ สิ่งที่ฉันค้นพบที่ยิ่งใหญ่คือ เสรีภาพเป็นผลิตผลหนึ่งของการคงไว้ซึ่งกฎระเบียบ”

ผมไม่แน่ใจว่าท่านรองโฆษกเข้าใจคำพูดประโยคนี้ว่าอย่างไร เพราะไม่ได้เขียนไว้

แต่ผมอ่านแล้วเข้าใจว่า คำพูดของ นายวิล ดูแรนต์ ในประโยคที่ว่า “เสรีภาพเป็นผลิตผลหนึ่งของการคงไว้ซึ่งกฎระเบียบ” คือ “หัวใจประชาธิปไตยที่แท้จริง” เลยทีเดียว สิทธิเสรีภาพของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยจะมีได้ ก็ต่อเมื่อมีกฎระเบียบที่เข้มงวด คอยควบคุมป้องกันและลงโทษผู้ฝ่าฝืน ไม่ให้มีการใช้ “อิสรภาพ” ในการไป คุกคามหรือละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น ดังนั้น สิทธิและเสรีภาพ จึงเป็น “หัวใจสำคัญ” ของ ระบอบประชาธิปไตยในประเทศที่เจริญแล้ว เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ

หลักการของ สิทธิเสรีภาพ นี่แหละที่จะนำไปสู่ การสร้างกลไกประชาธิปไตยที่ถูกต้องขึ้นในสังคม ไม่ใช่การให้อำนาจแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใด

“เสรีภาพเป็นผลิตผลหนึ่งของการคงไว้ซึ่งกฎระเบียบ” อย่างที่ นายวิล ดูแรนต์ พูดไว้นั้นถูกต้องแล้ว เพราะนั่นคือ หลักการในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง และไม่ผิดพลาดแน่นอน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

เปลวอัดเสวนาจุฬาอวสานโลกสวยรธน.

'อิสระคิด' จาก 'รัฐศาสตร์ จุฬาฯ'
เปลว สีเงิน Wednesday, February 10, 2016 
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด 

ดูภาพ-ข่าว จากมติชนออนไลน์ เมื่อวาน (๙ ก.พ.๕๙) ก็เกิดคำถามร่วมสมัยขึ้นในใจว่า.......

ระดับมหาวิทยาลัย "อันดับ ๑" ของประเทศ

"มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?"

เรื่องก็มีอยู่ว่า คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการเมืองและการจัดการปกครอง ภาควิชาการปกครอง

ได้จัดให้มีการเสวนาขึ้นที่คณะวานซืน ในหัวข้อ “อวสานโลกสวย: วิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๕๙“

ผู้ร่วมเสวนาก็มี นายศุภชัย ยาวะประภาษ กรธ.และอดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ.และอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

น.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย นายประภาส ปิ่นตบแต่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เป็นผู้ดำเนินรายการ

สถานที่น่าเลื่อมใส.........

ผู้เสวนาล้วนอาจารย์ระดับดอกเตอร์สั่งสอนคนเป็นมหาบัณฑิต ซ้ำหัวข้อเสวนาสะท้อนตัวตนแห่งคณาจารย์และคณะชัดเจน

ในความเป็นสาธารณชนคนคอการบ้าน-การเมือง เห็นหัวข้อเสวนา ก็พอรู้แนวผู้จัดได้ว่า

ต้องการสื่อถึงว่า....

เมื่อบ้านเมืองสิ้นยุค "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" สู่ยุค "รัฐบาล คสช." เมื่อมองผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว

โลกที่เคยสวย-สดใส ของคณาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ

........อนธการ-อวสานแล้ว!?

ในทัศนคติผม ถ้ามองทางการตลาด ชัดเจนว่า คณะผู้จัด ตั้งหัวข้อ เจาะกลุ่มเป้าหมายประเภท "คนคอเดียวกัน"

สิ้นยุค "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-สิ้นโลกสวย" ประมาณนั้น!

แต่คน ถ้าไม่มีอิสรภาพทางความคิด ก็ไม่ใช่คน ....

ดังนั้น ไม่ว่าคณะผู้จัด จะตั้งหัวข้อแบบไหน-อย่างไร ผมไม่มีความคิดเห็นเป็นอื่น นอกจากชื่นชมตามหลักการ "เป็นคน" ต้องเชิดคิดอิสระ

ด้วยความคิดต่าง-เห็นต่างนี่แหละ.........

ทำให้โลกใบนี้ หมุนนำสิ่งที่เรียกว่า UNSEEN ให้ค้นหาไม่รู้จักจบ มานานนับชั่วกัปชั่วกัลป์แล้ว!

ก็ถือว่า การจัดเสวนาต่อ "ร่างรัฐธรรมนูญ" ฉบับนี้ อยู่ในกาลอันควร คือเป็นช่วงที่ กรธ.เปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่างๆ ช่วยกัน ติ-ชม-เสนอแนะ

หลัง ๑๕ กุมภานี้.....

คณะกรรมการร่างฯ เขาจะได้นำข้อดี-ข้อด้อย จากที่ฟังแต่ละฝ่ายติ-ชมแล้วนั้น เข้าสู่กระบวนการ "ปรับปรุง-แก้ไข" ร่างฯ ทั้งฉบับเป็นครั้งสุดท้าย

ก่อนเป็นร่างฯ สมบูรณ์ ........

ส่งให้นายกฯ ประยุทธ์ ภายในวันที่ ๒๙ มี.ค.!

เพื่อมอบ กกต.ไปจัดให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งกว่า ๔๐ ล้านคนลง "ประชามติ"

ว่าจะรับ-ไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้?

ผมไม่ลงรายละเอียด ที่แต่ละกูรูด้านรัฐศาสตร์ จุฬาฯ วิเคราะห์ร่างฯ ภายใต้ทัศนคติ "อวสานโลกสวย"

เพราะเป้าหมายที่นำมาพูดคุยวันนี้ ไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่ว่า ตรงจุดไหน ของร่างฯ นำไปสู่โลกที่สวยของอาจารย์จุฬาฯ กลุ่มนี้ ถึงขั้นต้องอวสาน

หากแต่อยู่ตรงท้ายข่าวที่ มติชนออนไลน์ รายงานไว้ว่า....

ในช่วงท้าย ผู้ดำเนินรายการ ได้ให้นิสิต-นักศึกษาและประชาชน ที่เข้าร่วมฟังการเสวนา

เลือก โหวต Yes หรือ NO ให้กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ซึ่งทั้งหมดของห้องเสวนาต่างชูคำว่า “NO”

ตรงนี้แหละที่เป็นเหตุให้ผมต้องหยิบมาพูดคุย ถ้าท่านผ่านตาภาพ-ข่าวนี้ จะเห็นว่า ผู้ร่วมฟังเสวนาในห้องมีอยู่จำนวนหนึ่ง

ส่วนนอกห้อง จะล้นไปถึงสนามจุ๊บหรือไม่นั้น ไม่ทราบ?

ผู้ดำเนินรายการ ที่ให้นิสิต-นักศึกษา-ประชาชน ที่ร่วมฟัง เลือกโหวตเยส-โน นั้น ก็คือ

"ผศ.ดร.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์"!

ถ้าใครนึกไม่ออก ก็จะบอกลักษณะให้ คนตัวอ้วน หัวโล้นหลิม เคราแพะ หน้าตาเหมือนนักแสดงบทคุณชายปัญญาอ่อนในหนังตลกเรื่อง "วงษ์คำเหลา" ของหม่ำ จ๊กมก

หรือใครเป็นแฟนวอยซ์ ทีวีของคุณพานทองแท้ ชินวัตร จะเห็นอาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ท่านนี้ เป็น "ขาประจำ" อยู่ที่นี่ ร่วมแก๊งคนคอเดียวกัน

ในความเห็นผม "การฟังดีย่อมเกิดปัญญา"!

การจัดเสวนา ให้คณาจารย์แต่ละคนระดับดอกเตอร์ ซึ่งถ้าไม่ดีจริง มีหรือที่ "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" จะยอมให้เป็นครูบาอาจารย์ อบรมสั่งสอนคนให้ออกมาเป็นบัณฑิต-มหาบัณฑิตได้

ดังนั้น จะเสวนากันด้วยทัศนคติไหน แง่มุมไหน โลกจะอวสาน หรือคนจะฟุ้งซ่าน ในแต่ละมุมมองที่คณาจารย์สะท้อนออกมา

นิสิต-นักศึกษา-ประชาชน ที่ฟัง ใช้ "สัมมาสติ" เป็นตะแกรงร่อนเอาเองได้!

ก็อย่างที่บอก เป็นคน ต้องคิดอิสระ ซึ่งต่างจากสัตว์ เช่น วัว-ควาย ที่ต้องเจาะจมูก สนตะพาย ให้เขาลากจูง!

กับภาพที่มติชนออนไลน์ นำมาเผยแพร่ เป็นภาพเมื่อ ดร.พิชญ์ให้คนฟังในห้อง โหวตเยส-โหวตโน ให้ร่างรัฐธรรมนูญ

โหวต NO พรึ่บ....

ผู้ดำเนินรายการอาจสมประสงค์ แต่ผม สมเพช!

คือแผ่นกระดาษ NO นั้น ทั้งหมดเป็นกระดาษขาวขนาด A4 พิมพ์คำว่า NO ด้วยตัวอักษรแบบเดียวกันหมด

แสดงว่า พิมพ์หรือปรินต์คำว่า NO มาจากที่เดียวกัน แล้วแจกจ่ายให้ "คนคอเดียวกัน" ที่ร่วมฟังในห้อง

เมื่อผู้ดำเนินรายการ หรือ "ผู้จัดฉาก" บอกให้โหวต YES โหวต NO ผู้ร่วมเข้าฉากก็ยกแผ่นกระดาษ NO ที่จัดเตรียมไว้ให้

ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว สมองเป็นกองบัญชาการรับคำสั่งไปปฏิบัติ ระดับ ดร.รัฐศาสตร์ ผู้เจนจบด้านอุบายชักจูงคนเพื่อควบคุม

ไหงตื้นจัง...?

มันผิดธรรมชาติไปหน่อยมั้ย ที่ร้อยทั้งร้อย ไม่มี "คิดอิสระ" ยก YES เลยแม้แต่คนเดียว?

ซักคน-สองคนก็ยังดี จะได้ไม่ยี่เกแก้บน!

ดังนั้น ภาพที่ถ่ายออกเผยแพร่ ลักษณะ "ตัวนำ-ตัวสร้างกระแส" แง่ว่า.....

ปัญญาชน คนระดับอาจารย์รัฐศาสตร์ สถาบันจุฬาฯ ซึ่งชื่อเสียงเป็นที่เชื่อถือของสังคม ส่งสัญญาณนำให้ "คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ" นั้น

แทนที่สังคมจะเชื่อ .......

กลับเห็นเป็นตลก ยิ่งกว่า "หม่ำ-เท่ง-โหน่ง" แห่งสถาบันชิงร้อย-ชิงล้าน!

รัฐ-ศาสตร์ ศาสตร์คือเล่ห์หรืออุบายในการหลอกล่อเพื่อครอบงำคน ที่เรียกหรูๆ ว่า "การปกครอง"

ถามว่า...มีนิสิต-นักศึกษา-ประชาชน คนไหนในห้องเสวนา.....

ที่ต่างคน-ต่างพก "ความไม่รู้" ในเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ มาก็เพื่อหวังพึ่ง "ความรู้" จากอาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ให้ช่วยไข

การต่างคน-ต่างออกจากบ้านมานั้น........

จะพิมพ์คำว่า NO พับใส่กระเป๋ามาเหมือนกัน-พร้อมกัน เพื่อโหวตพร้อมกัน-เหมือนกันหมด โดยมิได้นัดหมายเช่นนี้?

ทำอย่างนี้ เท่ากับ ดูถูกความเป็นอาจารย์ของตัวเอง ดูถูกคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

ไม่ให้ค่า-หยามเกียรติสถาบัน นามว่า "จุฬาฯ" มากไปหรือเปล่า?

"อวสานโลกสวย" น่ะ....

ไม่ใช่เพราะร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรอก!

แต่เพราะจุฬาฯ เพราะสังคมไทย มีอาจารย์ที่ช่ำชองในศาสตร์ คืออุบายลวงคน "มากเกินไป" มากกว่า

"คิดอิสระ" ระดับอาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ จึงมีภาพสะท้อนออกมา

เป็นคิด "อิสระลวง" ที่....

ถูกครอบอยู่ใต้ระบอบ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์"!?