PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2562

สอบจริยธรรมประยุทธล่าชื่อส.ส.ส่งศาลฎีกา

7 พรรคขยายปมถวายสัตย์ ‘บิ๊กตู่’ ทำตีมึน-เอกสารลับ อ้างความมั่นคง-เผยไม่ได้

7 พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมขยายผลซักฟอกปมถวายสัตย์ฯ “วันนอร์” จ่อล่าชื่อส.ส.ไม่น้อยกว่า 151 คน ส่ง ป.ป.ช.ยื่นศาลฎีกาสอบจริยธรรม “ประยุทธ์” “เจ๊หน่อย” สวดยับทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ “เทพไท” ยังให้คะแนนรัฐบาลสอบตก ส่วน “ชวน-ปิยบุตร” เต็มสิบ “วิษณุ” โทษฝ่ายค้านเอาแต่ตัดบท หลังพิงฝายึดความเห็นศาล รธน.แน่น “บิ๊กตู่” ตีมึนไม่ตอบเอกสารลับ “ขบวนการทำลายประเทศ” โฆษกฯแจงไม่เจตนาโชว์สื่อพท.จัดครบรอบ 13 ปี ฉะรัฐประหารตัวการทำลายชาติ“สุดารัตน์” ตอกหงาย “ความมั่นคงรัฐคือชาติไม่ใช่รัฐบาล”ไล่ไปทำความเข้าใจใหม่ โฆษก พท.หนุนเทรนด์ฮิต #ประยุทธ์ออกไป ปูด ส.ส.อีสานทำตัวนกสองหัว

ผลพวงจากการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมนำไปขยายผลต่อ โดยส่งให้ประธานสภาฯส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. พิจารณาส่งต่อให้ศาลฎีกาไต่สวนปมการถวายสัตย์ฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เข้าข่ายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่


“เจ๊หน่อย” ฉะ รปห.ทำลาย ปท.

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. พรรคเพื่อไทย จัดรายการพิเศษ “13 ปีรัฐประหาร ประชาชนได้อะไร” ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ และยูทูบ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาวิกฤติประเทศที่มาจากการทำรัฐประหารตลอด 13 ปี ทำลายความเข้มแข็งของระบบการเมืองให้อ่อนแอลง จากการฉีกรัฐธรรมนูญและเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นและไม่ต่อเนื่อง ทำลายความเข้มแข็งและความมั่งคั่งของประเทศในทุกด้าน ทั้งด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ การรัฐประหาร 13 ปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทยแตกแยกกันมากขึ้น กำลังซื้อหลักของประเทศคือรากหญ้า ค่อยๆตายลงไป มีแต่หนี้สิน โรงงานต่างๆปิดตัวลง

โว รบ. “ทักษิณ” ศักยภาพสูงกว่า

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า 13 ปีที่ผ่านมา เปรียบเทียบสองรัฐบาล คือรัฐบาลที่ได้อำนาจจากประชาชน กับรัฐบาลที่ยึดอำนาจมา สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2543 เป็นรัฐบาลที่คำนึงถึงประชาชน ใช้นโยบายเป็นตัวนำ รัฐบาลมีศักยภาพในการนำทรัพยากรในสังคมมาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ส่วนรัฐบาลที่มาด้วยการยึดอำนาจในปัจจุบัน มีอำนาจแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การรัฐประหารทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวรายได้ภาคครัวเรือนไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น การใช้จ่ายภาครัฐไม่มีวินัย ถ้าในทางการแพทย์คือสัญญาณชีพคนไข้แย่แล้ว เหลืออย่างเดียวบอกญาติให้ไปจองวัดจองศาลาได้เลย ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก และแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะทำให้ประชาชนได้รัฐบาลชุดนี้ทุกครั้ง เพราะมี ส.ว. 250 คนอยู่

สวดทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ

ต่อมาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ขอชื่นชมการทำงานของ ส.ส. ฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่เต็มที่ แต่เสียดายที่นายกฯไม่ใช้เวทีสภาฯหาทางออกร่วมกันต่อสิ่งที่นายกฯกระทำผิดรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่กลัวสภาฯแล้วทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ กลายเป็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกเขียนด้วย คสช. เมื่อสืบทอดอำนาจได้แล้วก็ไม่สนใจทำตามรัฐธรรมนูญที่เขียนมาเอง ทำให้เห็นชัดเจนว่านายกฯเลือกจะไม่จบปัญหานี้เอง ภายภาคหน้าไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาจไม่โชคดีมีองค์กรอิสระอุ้มแบบวันนี้

ตอกกลับรายงานลับฝ่ายมั่นคง

เมื่อถามถึงแนวทางที่ฝ่ายค้านจะดำเนินการกับ พล.อ.ประยุทธ์หลังจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ในระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ แม้นายกฯและ ครม.ทำเหมือนมีสิทธิและอำนาจพิเศษ ส่วนกรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เสนอให้ร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวต่อนั้น ฝ่ายค้านจะดำเนินการภายในกรอบรัฐธรรมนูญ ถ้าทำได้ก็จะทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ฝ่ายกฎหมายของแต่ละพรรคกำลังหารือกัน คงทราบผลเร็วๆนี้ ส่วนกรณีที่นายกฯหยิบหนังสือโครงข่ายขบวนการทำร้ายประเทศไทย มาดูระหว่างประชุมสภาฯ จะมีนัยอะไรหรือไม่นั้น เราไม่ทราบ แต่ต้องบอกว่าทุกคนรักชาติรักแผ่นดิน เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันหลัก นั่นคือหน้าที่ของพรรคการเมือง แต่นายกฯอาจเข้าใจผิดมาตลอด รัฐคือชาติ ส่วนรัฐบาลคือคณะหนึ่งที่มาทำงานแทนประชาชน และขณะนี้ต้องถูกตรวจสอบ ต้องถูกถ่วงดุลตามระบอบประชาธิปไตย แต่เวลามีใครพูดติติงรัฐบาล นายกฯกำลังจะบอกว่านี่คือการทำลายชาติ อยากให้ไปทำความเข้าใจใหม่


วางคิวถก พ.ร.บ.งบประมาณต่อ

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านเตรียมตัวอภิปรายพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่คาดว่าจะเปิดสมัยประชุมสมัยวิสามัญช่วงเดือน ต.ค. ถือเป็นภารกิจสำคัญของ 7 พรรคฝ่ายค้าน และเกี่ยวข้องกับประชาชนทั้งประเทศ ฝ่ายค้านจะประชุมหารือเพื่อกำหนดและวางแผนการตรวจสอบ ให้การบริหารงบประมาณ เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดกับประชาชน และช่วงที่ปิดสมัยประชุมอยู่นี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกภาคจะลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ จ.อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง ที่ประสบปัญหาอุทกภัย วันที่ 20 ก.ย. แกนนำระดับผู้ใหญ่ของพรรคจะเดินทางลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี

หนุนเทรนด์ฮิต “#ประยุทธ์ออกไป”

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เกิดกระแสทวิตเตอร์จัดอันดับเทรนด์ฮิตในไทย “#ประยุทธ์ออกไป” พุ่งขึ้นมาอยู่อันดับ 1 นับว่าไม่เหนือความคาดหมาย เพราะมาฮิตในวันที่มีการประชุมสภาฯ ประชาชนที่ติดตามการประชุมอาจตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการมีนายกฯที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงตั้งคำถามถึงการให้ความเคารพ ให้เกียรติสภาฯของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่ามีหรือไม่ การนั่งนิ่งเฉย สวมบทเตมีย์ใบ้ จ่าเฉย ไม่ยอมตอบประเด็นกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน และตอบไม่ตรงคำถามลักษณะ “ไปไหนมา สามวาสองศอก” พล.อ.ประยุทธ์อยากฟังการอภิปรายแค่ไหน อยากลุกตอนไหน อยากกลับเมื่อไหร่ก็ทำตามอำเภอใจ เหมือนไม่เคารพไม่ให้เกียรติสภาฯ แต่ยังมีพวกหางเครื่องออกมาแสดงความชื่นชม หากยังคงมาตรฐานการทำงานระดับนี้ “#ประยุทธ์ออกไป” จะขึ้นอันดับ 1 อีกหลายครั้ง

ปูด ส.ส.อีสานทำตัวนกสองหัว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า เริ่มมีปัญหาคลื่นใต้น้ำจาก ส.ส.หลายกลุ่มส่วนใหญ่เป็นภาคอีสาน ที่มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการ บริหารจัดการของพรรค ล่าสุดคือการจัดสรรเก้าอี้ประธานกรรมาธิการ ส.ส.หลายคนมองว่าตัวเองน่าจะมีโอกาสแต่ต้องพลาดหวัง โดยผู้ใหญ่ของพรรคไม่สามารถให้เหตุผลได้ชัดเจน จึงเกิดกรณีการโหวตล้มตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการดำเนินการโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และไม่กี่วันมานี้มี ส.ส.อีสานหลายคนไปร่วมทานข้าวกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐที่โรงแรมแห่งหนึ่งก่อนการอภิปรายเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน หากพรรคเพื่อไทยไม่ปรับเปลี่ยนการบริหารใหม่ ความขัดแย้งในพรรคอาจสูงขึ้น

“นิรันดร์” ปัดขน ส.ส.ซบสามมิตร

นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวเป็นคนชักชวนเพื่อน ส.ส.อีสานไปกินข้าวกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐ จนทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทยไม่พอใจว่า พอจะรู้ว่าใครเป็นคนให้ข่าว ต้องการอยากฆ่าพวกเดียวกันเองหรือไม่ ทั้งที่เราอยู่พรรคเดียวกันแท้ๆ คงไม่มีเวลาไปทะเลาะ ใครจะทะเลาะกับใครก็ทะเลาะกันไปไม่ขอไปยุ่งด้วย เรื่องนี้กลุ่ม ส.ส.ก็ไม่ได้ถูกภาคทัณฑ์ลงโทษจากแกนนำพรรคอย่างที่กระแสข่าวระบุ “วันนี้กลุ่ม ส.ส.ร้อยเอ็ด และ ส.ส.อีสาน ยังเหนียวแน่น ยอมรับผมกับนายสมศักดิ์รู้จักกันมานานตั้งแต่พรรคกิจสังคม แต่ไม่เคยได้รับการติดต่อทาบทามให้ไปร่วมงานการเมืองด้วย อยากให้ย้อนไปดูตอนโหวต ผมและเพื่อน ส.ส.เคยแหกโผพรรค ไปโหวตช่วยทางโน้นหรือไม่ ก็ไม่มี เรื่องนี้ไม่เข้าใจเจตนาลึกๆของคนให้ข่าวจริงๆ”

จ่อล่าชื่อสอบจริยธรรม “ลุงตู่”

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกันเร็วๆนี้เพื่อขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเข้าชื่อยื่นเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องไป ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาส่งเรื่องต่อให้ศาลฎีกาไต่สวนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 การเข้าชื่อดังกล่าวต้องใช้เสียง ส.ส.เกิน 151 รายชื่อ ขณะที่การเขียนสำนวนเพื่อยื่นต่อหน่วยงานที่มีหน้าที่นั้นต้องหารือกันอีกครั้ง แม้ในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา นายกฯจะไม่ชี้แจงประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณตน แต่รายละเอียดสามารถนำเนื้อหาเขียนเป็นสำนวนได้ เพราะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงรายละเอียดที่สามารถดำเนินการได้ อีกทั้งรายละเอียดดังกล่าวมีความชัดเจนคือ การกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน ถือว่าจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายประพฤติขัดจริยธรรมตามมาตรฐานจริยธรรมนักการเมืองชัดเจน เรื่องนี้สามารถเข้าชื่อยื่นเรื่องได้ แม้จะเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯก็ตาม

ให้คนรุ่นใหม่ตัดสินยุทธศาสตร์ชาติ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวในงานเสวนา “ยุทธศาสตร์ชาติกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในศตวรรษที่ 21” จัดโดยนักศึกษาสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ว่า ทุกประเทศควรมียุทธศาสตร์ แต่ไม่ใช่ใช้ยุทธศาสตร์เป็นเครื่องมือจัดการฝั่งตรงข้าม ก่อนอื่นต้องให้คนรุ่นใหม่คิดและตัดสินกันว่าทิศทางประเทศในปัจจุบันมียุทธศาสตร์ที่ถูกต้องหรือไม่ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์มากว่า 5 ปี ทำประเทศเดินหน้าหรือถอยหลัง เพราะชัดเจนว่ายุทธศาสตร์ชาติที่สร้างขึ้นมามีจุดประสงค์เพื่อจัดการฝั่งตรงข้าม ดังนั้นยุทธศาสตร์ชาติจะเขียนให้เลิศหรูอย่างไรก็ได้ แต่ผู้นำต้องมีความสามารถทำให้คนเชื่อได้ว่าประเทศกำลังก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง เช่น ผู้นำของสิงคโปร์ ที่ทั้งฉลาดและเก่ง ต่างกับผู้นำของไทยขณะนี้


“วิษณุ” อัดฝ่ายค้านมัวแต่ตัดบท

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ดูบรรยากาศการอภิปรายเป็นไปด้วยดี ไม่ใช่การต่อสู้ทางการเมือง ส่วนที่ฝ่ายค้านยังติดใจอยู่เป็นเรื่องธรรมดา ความจริงมันชัดเจนได้ถ้าฝ่ายค้านไม่ตัดบทการชี้แจงของรัฐบาลก่อน เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านอาจนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวิษณุตอบว่า ก็แล้วแต่เขา ไม่อยากพูดอะไรเดี๋ยวจะมองว่าชี้นำอีก ถือว่าทำในส่วนของรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนตัวรู้สึกพอใจเพราะอย่างน้อยได้โฆษณาหนังสือของตัวเอง ส่วนที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายทำนองว่าตนพยายามดึงฟ้าต่ำนั้น ไม่มีอะไรชี้แจง

หลังพิงฝายึดความเห็นศาล รธน.

เมื่อถามว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ระบุว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ นอกจากผิดรัฐธรรมนูญแล้ว ยังผิด พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม สมาชิกรัฐสภาหนึ่งในห้าเข้าชื่อยื่นต่อประธานรัฐสภาส่งไปยัง ป.ป.ช. เพื่อส่งเรื่องให้ศาลฎีกาได้ นายวิษณุตอบว่า บอกไปแล้วว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวใช้กับข้าราชการ ส่วนนักการเมืองมีอีกฉบับหนึ่ง ไม่อยากไปตอบว่าทำได้หรือไม่ได้ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นช่องทางก็ไม่มีปัญหา แต่ขอวงเล็บไว้นิดเดียวว่ายื่นผ่าน ป.ป.ช.นั้น ป.ป.ช.เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ ไม่มีองค์กรใดสามารถตรวจสอบได้ แต่ถ้าคิดว่าช่องทางนี้ไปได้ รัฐบาลไม่ได้ติดใจอะไร ส่วนประเด็นที่มาของรายได้ที่จะนำไปใช้ในโครงการต่างๆนั้น รัฐธรรมนูญมาตรา 142 ระบุไว้ว่า พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายต้องแสดงที่มาของรายได้ ตรงนี้จะนำเข้ามาพิจารณาในเดือนหน้าต้องมาแสดงรายละเอียดกัน เพราะในนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ไม่สามารถไปลงรายละเอียดอะไรได้

บอกแล้ว หน.คสช.ไม่ใช่ จนท.รัฐ

นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวกรณีเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ในการดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. ว่า คงทำให้นายกฯทำงานได้สบายใจขึ้น รัฐบาลพยายามชี้แจงมาหลายครั้งว่าตำแหน่งหัวหน้า คสช.ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ แม้ชาวบ้านทั่วไปอาจรู้สึกว่าเป็น เพราะรับเงินเดือน มีอำนาจ นิยามคำว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ได้เป็นอย่างนั้น คือไม่ใช่ตำแหน่งประจำ อยู่ชั่วคราว มีเงินเดือนก็จริงแต่อำนาจพิเศษไม่เหมือนอำนาจตามกฎหมาย ตั้งมาจากไหนไม่รู้ พ้นจากอำนาจเมื่อไหร่ไม่รู้ อะไรต่ออะไรพิสดารหน่อย เป็นไปตามที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน และได้ระบุประโยคนี้ไว้ด้วย พวกตนอธิบายมาตั้งแต่แรกแล้วแต่พูดไปก็หาว่าชี้นำ

“บิ๊กตู่” ตีมึนเอกสารทำลายชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเอกสาร “โครงข่ายขบวนการทำลายประเทศ” ว่า “ไม่ได้ให้ใคร” เมื่อถามย้ำว่า หน่วยงานใดส่งมาให้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามและเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที ต่อมาที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ผู้สื่อข่าวพยายามซักถามเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงปฏิเสธที่จะตอบ เพียงกล่าวว่า “อยากรู้เหรอ เธออยู่ในรายชื่อนั้นหรือเปล่าใช่ไหม” เมื่อถามย้ำว่าเอกสารดังกล่าวเกี่ยวโยงกับกลุ่มนักการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง เอกสารลับก็คือเอกสารลับจะมาเผยแพร่ได้อย่างไร

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารเรื่องความมั่นคง บอกรายละเอียดไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง

โฆษกฯแจงไม่ได้เจตนาโชว์สื่อ

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทราบเพียงว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารชั้นความลับ ไม่มีการเปิดเผย ฝ่ายความมั่นคงเสนอมาให้นายกฯ ไม่ได้เห็นรายละเอียดเนื้อหาข้างในว่าเป็นอย่างไร แต่คิดว่านายกฯไม่มีเจตนาจะให้ปรากฏภาพเอกสารดังกล่าวออกมา คงเพราะการเตรียมเอกสารจำนวนมากคงมีเอกสารดังกล่าวติดเข้าไปด้วย และนายกฯไม่ทราบว่าจะมีช่างภาพมาถ่ายรูปท่าน อย่างไรก็ตามนายกฯฝากไปถึงนักการเมืองทุกพรรคว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ ขอให้ ส.ส.ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ส่วนฝ่ายค้านที่เตรียมจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายกฯไม่มีความกังวลอะไร ฝากแจ้งทุกฝ่ายว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนควรนำความสามารถและสรรพกำลังที่มี มาร่วมกันช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชน ดีกว่าจะปักหลักอยู่กับประเด็นเดิมๆ อยากให้ทุกคนมาร่วมกันทุ่มเทช่วยเหลือประชาชนเป็นอันดับแรก

“ชวน” ยังไม่เห็นคำร้องให้สอบ

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านเตรียมเข้าชื่อ 1 ใน 5 ส่งเรื่องต่อประธานสภาฯ ขอให้ส่งศาลฎีกาวินิจฉัยตรวจสอบจริยธรรมร้ายแรงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่า ยังไม่ได้รับเรื่อง ทั้งหมดเป็นไปตามครรลองรัฐธรรมนูญได้ยินจาก ส.ส.บางคนว่าจะมีการยื่นสอบจริยธรรมนายกฯ แต่ต้องพิจารณากระบวนการว่าอ้างอิงกฎหมายใด หากเป็นไปตามกฎหมายยินดีพิจารณา ถ้าเรายึดและเดินตามประชาธิปไตยไม่มีอะไรน่าห่วงใย และสามารถดึงสภาฯให้กลับมาเป็นที่ยอมรับ ส่วนการอภิปรายที่ผ่านมารู้สึกว่าสมาชิกให้ความร่วมมือมากขึ้น ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันหากต้องการให้สภาฯมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับเหมือนประเทศอื่น เป็นสภาฯในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง

“เทพไท” ให้คะแนนนายกฯสอบตก

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ถ้าจะให้คะแนนการอภิปรายครั้งนี้ 1.ประธานฯ ได้เต็ม 10 เพราะควบคุมการอภิปรายได้ดีเยี่ยมไม่มีการตีรวน 2.ผู้อภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนสูงสุดเต็ม 10 เพราะเตรียมข้อมูลมาดี อ้างอิงข้อมูลได้ชัดเจน อภิปรายรัดกุม ตั้งคำถามตรงประเด็น รองลงไปคือนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ที่เปรียบเทียบพฤติกรรมนายกฯได้เห็นภาพชัด ส่วนคนอื่นๆได้ระดับปานกลาง 3.รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบประเด็นข้อซักถามเรื่องการถวายสัตย์ฯ ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ชี้แจงแทน ก็ตอบแบบขี่ม้าเลียบค่าย ไม่ตรงประเด็น เปรียบเป็นนักเรียนที่ให้เพื่อนทำข้อสอบแทน ลักษณะเช่นนี้ควรปรับตกไม่ควรได้คะแนน ทำให้การอภิปรายครั้งนี้เป็นได้แค่พิธีกรรมทางการเมือง สังคมไม่ได้ข้อเท็จจริงในสิ่งที่ค้างคาใจ

ชง กกต.สอบ “ธรรมนัส” ถือหุ้นสื่อ

อีกเรื่อง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า วันที่ 20 ก.ย.นี้ จะไปยื่นเรื่องให้ กกตต.ตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ กรณีขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่ง ส.ส. เนื่องจากถือครองหุ้นกิจการสื่อสารมวลชน เพราะได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินกับ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัท 3 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท โกล เบิล ทราเวิล เอเจนซี จำกัด ลงวันที่ 5 เม.ย.62 2.บริษัท สิทธิอาโป จำกัด ลงวันที่ 18 เม.ย.62 3.บริษัท ธรรมนัส พัทยา การ์ด (2009) จำกัด ลงวันที่ 24 เม.ย.62 โดยทั้ง 3 บริษัท มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการบริการจัดเก็บรวบรวม จัดทำจัดพิมพ์ และเผยแพร่สถิติ ข้อมูลเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเงิน การตลาด รวมทั้งวิเคราะห์ และประเมินผลธุรกิจ เข้าข่ายข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ห้าม ส.ส.เป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ


จีนยกนิ้ว “ตู่” บริหารก้าวหน้า

เวลา 09.00 น. ที่ห้องสีงาช้าง ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ให้การต้อนรับนายซ่ง เทา รมว.วิเทศสัมพันธ์ ภายใต้คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอบคุณจีนที่ให้ความสำคัญในความสัมพันธ์ทุกระดับ ยินดีที่ปีนี้ครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และในโอกาสเดียวกันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จร่วมพิธีทูลเกล้าฯถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รัฐมิตราภรณ์ ที่นายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน จะทูลเกล้าฯถวาย ขณะที่นายซ่งกล่าวว่า ชื่นชมการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พัฒนาอย่างก้าวหน้า ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ส่วนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่จะทูลเกล้าฯถวายมีผู้ได้รับเพียง 6 คนจากทั่วโลก จากนั้นนายซ่ง เทา ได้มอบแผ่นป้ายภาษาจีน “เหอจั้วก้งอิ๋ง” แปลว่า “ความร่วมมือที่ให้ประโยชน์กับทุกฝ่าย” แก่นายกฯ

เครือข่ายวิชาการผลักดันแก้ รธน.

วันเดียวกันเวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาฯ แกนนำเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง หรือ คนส. ร่วมกับตัวแทนกลุ่มเครือข่ายภาควิชาการ นักศึกษา และภาคประชาชน รวม 28 กลุ่ม แถลงเปิดตัวคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) พร้อมประกาศผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ ที่สร้างความฮือฮาคือกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า นำโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม หลานชายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และกลุ่มเครือข่ายนักวิชาการราชภัฏราชมงคลเพื่อพลเมือง ร่วมเปิดตัวเป็นครั้งแรก นายอนุสรณ์กล่าวว่า พันธกิจ ครช.จะสร้างความเข้าใจและกระตุ้นเจตจำนงคนในสังคม นำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมติมหาชน ด้านนายพริษฐ์กล่าวว่า ไม่อยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นต้นตอความขัดแย้ง จึงออกมารวมกลุ่มเพื่อหาวิธีทำอย่างไรให้มีรัฐธรรมนูญฉบับก้าวหน้าที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ จุดที่สำคัญที่สุดที่มองไว้คือต้องลดอำนาจ ส.ว.