PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559

นายกฯ แจง 7-15 วัน หลังบำเพ็ญพระราชกุศล แจ้งสนช.ดำเนินการสืบราชสันตติวงศ์ทันที

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงว่า ส่วนเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ ขอทุกคนอย่ากังวล ซึ่งตนเคยพูดไปสองครั้งแล้ว เป็นเรื่องที่ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ชัดเจน มีกฎมนเทียรบาล และจารีตประเพณี ขอทุกคนทั้งในและต่างประเทศ อย่าได้มีความกังวลหรือสงสัยใดๆ เพราะขณะนี้มีความชัดเจนแล้ว เมื่อพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลผ่านพ้นช่วงเวลา 7 วัน 15 วัน ไประยะหนึ่ง น่าจะได้เวลาอันสมควร ที่จะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 23 ต่อไป นั่นคือขั้นตอนที่รัฐบาลจะต้องนำเรื่องแจ้งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อมีมติตามรัฐธรรมนูญ โดยระหว่างนี้ รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่ามีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไปพลางก่อน เดี๋ยวจะเข้าใจอะไรกันผิดอีก ส่วนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จะทรงลงพระปรมาภิไธยภายในกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ โดยจะไม่กระทบต่อปฏิทินการทำงานเป็นอันขาด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องต่อไปที่ทุกคนอยากทราบว่า เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ แน่นอนประเทศหยุดไม่ได้ ยิ่งต้องช่วยและร่วมมือกันในการสร้างความเข้าใจ รวมพลังกันขับเคลื่อน สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล เดินหน้าประเทศ ซึ่งวันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนตามโรดแมปทุกประการยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นขอความร่วมมือว่าอะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาล่าช้า ขอร้องอย่าเพิ่งกระทำกันเลย ขอให้เห็นกับประเทศชาติก่อน ดังนั้นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล รวมถึงเรื่องกฎหมายของรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งยังเป็นไปตามโรดแมปเดิม คงไม่ต้องมาถามว่าเมื่อไรอย่างไร
พล.อ.ประยุทธ์แถลงว่า ในเรื่องการสร้างความขัดแย้ง มีข่าวลือต่างๆ มากมายทั้งในและต่างประเทศ อาจจะด้วยเจตนาบริสุทธิ์บ้าง ไม่บริสุทธิ์บ้าง คิดว่าอันนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญคือเราต้องเชื่อมั่น ไว้วางใจซึ่งกันและกัน รับฟังข่าวจากรัฐบาลว่าตนพูดอะไร และไม่ต้องไปตีความมาก เพราะตนพูดชัดเจนอยู่แล้ว ฉะนั้นขออย่าตีความมากมายหรือเชื่อในข่าวลือ หลายอย่างออกมานั้นบางคนหวังดี เช่น การนำภาพน้ำท่วมปี 2554 ที่มีพระลอยคอบิณฑบาต มาเผยแพร่ เรื่องน้ำมากน้อยนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ในแผนรัฐบาล ถ้าน้ำมากก็เดือดร้อนกันบ้าง ในบางพื้นที่ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเข้าไปดูแล อย่ามาติติงกันทุกเรื่อง ซึ่งมันเป็นปัญหาที่เราต้องแก้และจะทำให้ดีที่สุด

“วิษณุ” ระบุ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”พระองค์ใหม่ทรงลงพระปรมาภิไธย “ร่างรัฐธรรมนูญ” เอง

“วิษณุ” ระบุ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” พระองค์ใหม่ทรงลงพระปรมาภิไธย “ร่างรัฐธรรมนูญ” เอง เผย ทรงรับสั่ง ให้ทุกฝ่ายคลายความทุกข์ ทำใจรับความเปลี่ยนแปลงได้ก่อน ย้ำ ไม่มีปัญหาแก้คำปรารภในร่างรธน.
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีระบุเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ว่าเมื่อพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลผ่านพ้นช่วงเวลา 7 วัน 15 วันไปแล้วระยะหนึ่ง น่าจะได้เวลาอันสมควรที่จะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 23 ว่า เป็นไปอย่างที่นายกฯได้อธิบาย และเป็นไปตามที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารได้มีพระราชปรารภตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมและอีกครั้งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ตอนที่นายกฯเข้าเฝ้าพร้อมกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยพระองค์ทรงรับสั่งว่าเรื่องที่จะดำเนินการสืบราชสันตติวงศ์ให้รอระยะเวลาที่พระองค์ทรงใช้คำว่าทุกฝ่ายสามารถทำใจได้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วก่อน ดังนั้นขอให้รอ เมื่อถึงเวลาอันสมควรประชาชนคลายความทุกข์โศกลงได้บ้าง ให้พระราชพิธีต่างๆ ได้ผ่านพ้น
“เพราะฉะนั้นที่นายกฯพูดถึง 7 วัน 15 วัน เป็นรอบของการที่จะมีพระราชพิธีครบรอบ 7 วัน 15 วัน 50 วัน ซึ่งคนไทยเราทำบุญตามรอบเช่นนี้ จึงขอให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่คนได้ทำสิ่งที่เขาอยากทำกันเสียก่อนเถิด แล้วการที่จะมาทำใจยอมรับความเปลี่ยนแปลงก็จะค่อยๆ เกิดขึ้นได้ ความหมายมีแค่นี้ ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน” นายวิษณุ กล่าว
ส่วนที่นายกฯระบุสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จะทรงลงพระปรมาภิไธยภายในกรอบเวลาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดโดยจะไม่กระทบต่อปฏิทินการทำงานนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับร่างรัฐธรรมนูญนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จะทรงลงพระปรมาภิไธยด้วยพระองค์เอง แต่จะเป็นเมื่อไรนั้นไม่สามารถตอบได้ แต่ขอให้ความมั่นใจว่าจะไม่กระทบขั้นตอนระยะเวลาในปฏิทินการทำงานเป็นอันขาด เพราะเมื่อนายกฯทูลเกล้าฯร่างรัฐธรรมนูญ ร่างดังกล่าวจะอยู่ที่สำนักราชเลขาธิการได้ 90 วัน ดังนั้น อย่างไรเสียจะอยู่ในช่วงเวลานั้น หรือหากล่าช้ากว่านั้นก็ไม่มีผลกระทบใดๆ เนื่องจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สามารถทำงานของเขาได้ จึงอย่าไปตีความอะไร ทุกอย่างตรงไปตรงมาหมด ส่วนรัฐบาลเองจะได้เตรียมการ สถานการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อใดก็พร้อม
รองนายกฯ กล่าวว่า ส่วนกรณีการแก้ไขคำปรารภในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมครม.ได้มติให้ส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยตามมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) ปี 2559 และเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้รับแล้ว จะพิจารณาโดยเร็ว ซึ่งไม่ยากว่าใครจะเป็นคนแก้ เพราะแก้อย่างไร ได้เตรียมไว้แล้ว ปัญหาว่าจะถือว่าใครเป็นคนเสนอแก้ และไม่ได้แก้เนื้อความ แก้เฉพาะพระปรมาภิไธยตอนต้นเท่านั้น โดยต้องขอความเห็นชอบจากศาลรัฐธรรมนูญ

บิ๊กตู่ ชี้ แม้จะมีคนเห็นต่างแต่ก็ควรให้อภัย

บิ๊กตู่ ชี้ แม้จะมีคนเห็นต่างแต่ก็ควรให้อภัย
เวลา 12.45 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า รู้ว่าประเทศต้องการอะไรในเวลานี้ แม้จะมีคนเห็นต่างแต่ก็ควรให้อภัย เพราะถือว่าเป็นเวลาที่ทำด้วยใจ และต้องให้ซึ่งกันและกัน ข้อสำคัญคืออย่าลังเล อย่าคิดไปไกล เพราะรัฐบาลจะดำเนินการให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขอให้ทุกคนสงบนิ่ง แสดงความอาลัยต่อพระองค์ท่าน สิ่งที่พระองค์ท่านได้รับสั่งรัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด จึงขอให้ทุกคนมีความเชื่อมั่น อย่าให้มีผลต่อต่างประเทศ เพราะสื่อต่างๆจะนำไปเขียนซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย เราต้องช่วยกันทำความเข้าใจว่าสถาบันพระมหากษัตริย์กับคนไทยมีความแตกต่างกับต่างประเทศอย่างไร เรามีโบราณราชพิธีมาตั้งแต่โบราณกาล ซึ่งถือเป็นความงดงาม และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา เราต้องทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เข้มแข็งในยุคเรา
“ขอบคุณทุกคน ผมรู้ว่าทุกคนเสียใจเหมือนกับทุกคนเสียใจ แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดและผมก็ต้องมีสติ เพื่อใช้สติปัญญาของผมเดินหน้าไปให้ได้ และประเทศเราก็หยุดไม่ได้ แต่ความเสียใจก็ห้ามไม่ได้ สิ่งที่เราจะช่วยได้คือรวมพลังรักสามัคคี ขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตอย่างที่คาดหวัง ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นไปตามแนวทางของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) อย่ากังวล โรดแมปคือโรดแมป” นายกฯ กล่าวยืนยัน