PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

ผอ.สำนักงานทรัพย์สินฯ พอใจ การก่อสร้าง อาคารที่พักทหาร

นาย จิรายุ อิศร่างกูร ณ อนุธยา ผอ.สำนักงานทรัพย์สินฯ พอใจ การก่อสร้าง อาคารที่พักทหาร ใช้เวลาแค่18 เดือน ได้คุณภาพดี และสวยงาม น่าอยู่ โดยที่ผู่อาศัยก็พอใจ. ทั้งนี้ นาย จิรายุ และ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ทำพิธีส่งมอบ และ เปิดอาคารที่พักนายทหารสัญญาบัตร และนายสิบ ของทบ. และอาคารรับรอง หรือ โรงแรม 100ห้อง สำหรับทหารจากต่างจังหวัด ที่มาประชุมในกรุงเทพฯ เพื่อที่ กำลังพล.จะได้ไม่ต้องเสียค่าโรงแรม ราคาแพง แค่คืนละ 500 บาทโดยอาคารนี้มีการออกแบบ ใช้แผงกันแดด ช่องรับลม ใหม่ โดยสร้างใน Army Complex เกียกกาย ในบริเวณที่เป็น ตึกดิน เรือนจำ มทบ.11เดิม ที่ย้ายไปที่ จ.นครปฐม โดยใน Complex นี้ มีทั้งอาคารที่พักของ นายพล และ ทหารสัญญาบัตร โดยสำนักงานทรัพย์สิน ส่วนพระมหากษัตริย์ สนับสนุนงบประมาณ กว่า 700 ล้านบาท โดยได้มึการเดินดูห้องพักในทุกอาคาร


กองทัพอากาศ ออกข้อควรปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัย และวัตถุระเบิด

กองทัพอากาศ ออกข้อควรปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัย และวัตถุระเบิด
จากกรณี กรมสรรพาวุธทหารอากาศ จัดชุดทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ตรวจและทำลายระเบิดขนาด ๕๐๐ ปอนด์ ที่ตรวจพบบริเวณย่านสถานีรถไฟบางซื่อ ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง เบื้องต้นพบว่า ภายในบรรจุ TNT ที่ยังมีความสมบูรณ์ โดยเจ้าหน้าที่ EOD ของกองทัพอากาศ ทำการเก็บกู้และทำลายในพื้นที่ทำลายวัตถุระเบิดของกองทัพอากาศ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลาประมาณ ๑๙.๒๐ น. พนักงานสอบสวน สถานีรถไฟนพวงศ์ ได้รับแจ้งจากคนงานก่อสร้าง บริเวณสถานที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พบวัตถุระเบิดขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๒ นิ้ว ยาว ๔๗ นิ้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้ง ชุด EOD หรือหน่วยทำลายวัตถุระเบิดของกองทัพอากาศ เข้าทำการตรวจสอบ จากการเก็บกู้พบว่าเป็นวัตถุระเบิด ก่อนจะเก็บกู้ออกจากที่เกิดเหตุ และทำลายเรียบร้อย เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๗
อนึ่ง เนื่องจากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ นั้น ฝ่ายสัมพันธมิตร ได้ทำการทิ้งระเบิดทางอากาศ ในพื้นที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร จำนวนมาก อาทิ บริเวณย่านสถานีรถไฟบางซื่อ ย่านโรงพยาบาลศิริราช สถานีรถไฟบางกอกน้อย ย่านสะพานพุทธ สะพานพระราม ๖ ฯลฯ และอาจจะยังมีวัตถุระเบิดหลงเหลือในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยหากมีการพบเห็น ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานในการตรวจค้นและทำลาย อย่าดำเนินการเอง เพราะอาจจะเกิดอันตราย
ร้ายแรงได้
กองทัพอากาศ ขอประชาสัมพันธ์ข้อสังเกตและแนวทางปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นระเบิด ดังนี้ (ในเขตกองทัพอากาศและพื้นที่ใกล้เคียง โทร.๐ ๒๕๓๔ ๓๕๓๕)
ข้อสังเกต
๑. สิ่งของวางอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่ เช่น เป้ กระเป๋า ถุง กล่อง ฯลฯ หากสอบถามหาเจ้าของแล้ว ไม่มีผู้แสดงตน ให้สงสัยว่าเป็นวัตถุอันตราย
๒. เป็นวัตถุที่มีลักษณะภายนอกผิดปกติจากรูปเดิม เช่น สีที่แตกต่างจากความเป็นจริง กล่องปิดผนึกไม่เรียบร้อย หรือมีรอยยับบริเวณที่ปิดผนึก
๓. เป็นวัตถุที่ไม่เคยพบเห็น ณ ที่นั้นมาก่อน มีส่วนประกอบของสายไฟ แบตเตอรี่ นาฬิกา หรือ โทรศัพท์
๔. เมื่อพบเห็น ห้ามจับต้อง หยิบยก เคลื่อนย้าย หรือทำให้เคลื่อนไหวโดยเด็ดขาด
๕. ตั้งสติ ควบคุมอารมณ์ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที เพื่อดำเนินการตรวจพิสูจน์ และเก็บกู้ โดยสามารถติดต่อ สายด่วนเพื่อขอความช่วยเหลือได้ที่
- โทร.๑๙๑ ศูนย์วิทยุตำรวจนครบาล
- โทร.๑๓๗๔ สายด่วน กอ.รมน.
- โทร.๑๕๕๕ กรุงเทพมหานคร
- โทร.๑๑๑๑ สายด่วนภาครัฐ
๖. จดจำลักษณะทั่วไปของวัตถุต้องสงสัย เพื่อเป็นข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ เช่น ขนาด รูปร่าง ลักษณะ
บ่งบอกอื่น ๆ เช่น มีเสียงการทำงาน มีสายไฟฟ้า
๗. หากสามารถกระทำได้ ควรบันทึกภาพเมื่อพบเห็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้กระทำ หรือจงใจวางสิ่งของต้องสงสัยนั้นส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการต่อไป
๘. หลังจากแจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับวัตถุต้องสงสัยแล้ว ให้รีบออกจากพื้นที่ที่พบวัตถุต้องสงสัยไม่น้อยกว่า ๑๐๐ – ๔๐๐ เมตร และขอให้รอเพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด
๙. กรณีเจ้าของกิจการ ร้านค้า ถูกข่มขู่วางระเบิดทางโทรศัพท์ ให้โทรแจ้ง ๑๑๐๐
การปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ หรือ ผู้รับผิดชอบพื้นที่
๑. อพยพผู้คนออกนอกเขตอันตรายไม่น้อยกว่าระยะที่กำหนด คือ ๑๐๐ – ๔๐๐ เมตร
๒. สอบถามข้อมูลจากผู้พบเห็น หรือพยานที่พบเห็น
๓. ให้ข้อมูลและสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานข่าวของรัฐ
๔. แจ้งหน่วยช่วยเหลืออื่นๆ
- โทร.๑๒๓ หน่วยดับเพลิง
- โทร.๑๑๖๙ ศูนย์นเรนทร หรือหน่วยกู้ภัยอื่น ๆ
๕. ให้รอพบเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเพื่อให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ แนวทางการสังเกต
เพื่อช่วยตรวจสอบ

การปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม คอนโดฯ บ้านเช่า ฯลฯ
๑. ตรวจสอบหนังสือเดินทาง ตรวจดูรูป บันทึกหมายเลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด และสัญชาติของผู้มาเข้าพัก
๒. พนักงาน รปภ. หมั่นตรวจดูอาคารสถานที่และบันทึกหมายเลข รถเข้า – ออก หรืออาจเห็น
คนต่างชาติ หรือผู้ต้องสงสัยเดินสำรวจ ถ่ายรูป หรือ VDO ต้องแจ้งให้ผู้จัดการทราบ เพื่อตรวจสอบว่าพักอยู่ห้องใด
๓. พนักงานทำความสะอาดห้องพัก อาจเห็นเศษสายไฟฟ้า นาฬิกาปลุก ถ่านไฟฉาย หนังสือเกี่ยวกับวัตถุระเบิด แผนที่ แผนผัง ต้องแจ้งผู้จัดการ เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
การปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร และดิสโก้เทค
๑. หากพบชาวต่างชาติเข้ามาเดินเที่ยว นั่งหลบมุมสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ แต่ไม่ดื่มหรือดื่มเล็กน้อย มีท่าทางสังเกตสถานที่อย่างผิดปกติน่าสงสัย ควรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
๒. พนักงานหน้าร้าน สังเกตบุคคลฝั่งตรงข้ามร้าน บริเวณรอบ ๆ ร้าน มีผู้ใดมาสังเกตการณ์ในลักษณะตรวจสอบสถานที่โดยถ่ายรูป หรือ VDO หรือไม่ ถ้ามีให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
๓. หมั่นสังเกตรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ที่มาจอดทิ้งไว้หน้าร้านเป็นเวลานาน หมั่นตรวจถังขยะ กระถางต้นไม้หน้าร้าน หรือบริเวณใกล้เคียงว่ามีวัตถุต้องสงสัยมาวางซุกซ่อนหรือไม่


นิตยสาร ฅ.คน" ประกาศปิดตัวแล้ว!

นิตยสาร ฅ.คน" ประกาศปิดตัวแล้ว!
ฉบับเดือน มีนาคม 2557
"ฉบับที่ 99" คือฉบับสุดท้าย!

ถึงคราว วาสนา นาน่วม เปลือยชีวิต! ยิ่งลักษณ์


ฮือฮา! เมื่อ นักเขียนลับ ลวง พราง "วาสนา นาน่วม" ได้เปลือยชีวิต "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" แบบทุกแง่ทุกมุม แบบเอ็กซ์คูลซีฟ ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ของการขึ้นนั่งเก้าอี้ "นายกฯ" จนกระทั่งวันที่กำลังจะหมดอำนาจในทำเนียบ รวมถึงการถูกกล่าวหาเป็น "นายกฯเงา" ของ "ทักษิณ" พี่ชาย ที่ถึงตั้งแง่ว่าเข้ามาเกี่ยวข้องในเก้าอี้ และการสั่งการ ในตำแหน่ง "สร.1" ทุกกระเบียดนิ้ว...

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร นสพ.บางกอกโพสต์ ที่มีผลงานการเขียน หนังสือ "ลับ ลวง พราง" ที่มีเนื้อหาในเชิงลึกเกี่ยวกับกองทัพ ในหลายเหตุการณ์ จนที่เป็นโด่งดัง ล่าสุด ได้เขียนหนังสือ "ลับ ลวง พราง ภาค 8" โดยได้จับเข่านั่งสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แบบเอ็กซ์คูลซีฟ รวมทั้งรวบรวมเรื่องราวที่ได้เคยติดตามทำข่าวเมื่อครั้งไปเยือนประเทศนิวซีแลนด์ และหลายสถานที่

น.ส.วาสนา กล่าวว่า หนังสือดังกล่าว ตั้งชื่อว่า อวสาน "ยิ่งลักษณ์" ??... ซึ่งแค่ชื่อ คนเสื้อแดง ที่รัก นายกฯปู ไม่แฮปปี้ เพราะเชื่อว่า ยังไม่จบ ไม่มีวันแพ้ มีแต่จะตัองชนะ" ยิ่งถ้าได้อ่านเนื้อในแล้ว พี่น้องอีกสีหนึ่ง และทหาร โดยเฉพาะ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ คงจะไม่แฮปปี้ เช่นกัน หนังสือเล่มนี้ จึงต้องอ่านทั้งเล่ม แต่มีหนาหน่อย เพราะเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ช่วงสำคัญ แล้วจะได้รู้ว่า ทำไมจึงมีวันนี้ โดยเฉพาะที่มีการกล่าวถึง "ยิ่งลักษณ์" เข้ามาเป็น รมว.กลาโหม คลิปถั่งเช่า หลุดออกมาได้อย่างไร ทำไม "ทักษิณ" จึงเร่งผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย จนนำมาซึ่งการเดินถนนต่อต้านครั้งประวัติศาสตร์

"ที่สำคัญ ยิ่งลักษณ์ ต้องถึงกาลอวสาน ได้อย่างไร แล้วทำไม ต้อง เป็น "กำนันสุเทพ" กับท่าทีของทหารยังไม่ปฏิวัติ เพราะเหตุใด และการที่ ยิ่งลักษณ์ ถึงสนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วท้ายที่สุดจะรัฐประหาร หรือไม่ แล้วจุดจบ นายกฯรักษาการ ยิ่งลักษณ์ จะเป็นเช่นไร รวมถึงสาเหตุที่ เธอต้องพูดผิดพูดถูก ไม่รู้เรื่องนั้น เรื่องจริงๆ หรือว่า แกล้งโง่ คำพูดไหนที่เธอยอมรับว่า พูดผิดบ้าง ไม่เคยพูดเลยบ้าง แล้วเธอต้องฟัง ทักษิณ ทุกเรื่องเลยมั้ย รวมทั้งจริงหรือเปล่า ที่ตัวเธอเองก็ไม่อยากให้ ทักษิณ กลับบ้าน รวมทั้งการระบุว่า เธอ เสพติดอำนาจ อยากเป็นนายกฯตัวจริง" น.ส.วาสนากล่าว

น.ส.วาสนา กล่าวต่อว่า แล้วเมื่อวันนี้ ต้องถึงกาลอวสาน เพราะการเร่งรีบผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการเป็นนายกรัฐมนตรีไร้ทำเนียบฯ ขณะที่ผองอำมาตย์ที่เคยอยู่เบื้องหลังรัฐประหาร 19 ก.ย.49 ยังไม่มีใครล้มหายตายจากไปไหน ได้ออกจากเงามืด และซอกหลืบ จับมือกันล้มระบอบทักษิณอีกครั้ง จนกองทัพถูกมองว่า เอนเอียง มีใจไปทางผู้ชุมนุม เมื่อกำนันสุเทพกลายเป็นผู้นำมวลมหาประชาชน ที่ลงตัวที่สุด กับสายสัมพันธ์ บูรพาพยัคฆ์ ขณะที่กองทัพก็เกรงใจ กำนัน และผู้อยู่เบื้องหลังกำนัน จนเหตุการณ์นำไปสู่ของฝ่ายทหารแตงโม ต้องเปิดตำราเล่มเดียวกัน สู้กับทหารอำมาตย์ และทหารของมวลมหาประชาชน ที่มีทั้งทหารเก่า ทหารแก่ ทหารในประจำการและนอกประจำการ รวมถึงทหารที่เปิดหน้าสู้ และทหารที่สู้อยู่ใต้ดิน ทั้งด้วยสมอง สองมือ และทหารที่เป็นนักรบไซเบอร์ ทำสงครามข่าวสาร จนหน่วยซีล นักรบป๊อปคอร์น กองกำลังชุดดำ ย่อมอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ นี้ด้วย นี่แค่บางส่วน ที่หากใครได้อ่านทั้งเล่มแล้ว อาจจะมีทั้งที่เข้าใจ นายกฯยิ่งลักษณ์ ในตัวตน และวิธีคิดของเธอมากขึ้น ชอบเธอขึ้นมาบ้าง รักเธอ หรืออาจจะเกลียดเธอน้อยลง หรือเกลียดเธอมากขึ้นก็ตาม

ท้ายที่สุด เราก็จะตกอยู่ในสภาพ win the battle but lose the war. คนชนะก็คิดว่า ตนเองชนะ แต่ที่สุดแล้ว เราทุกคนและประเทศชาติ ต่างหากที่พ่ายแพ้ จะมีใครที่ยอม lose the battle but win the war. บ้าง เพราะเวลานี้ อาจถึงเวลาที่เรียกว่า "ใครยอมแพ้ ก่อนชนะ" ...ชนะใจประชาชน