PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เหตุการณ์ระเบิดเวที กปปส.ตราด

21.30 เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงใส่เวทีกปปส.กลางตลาดยิ่งเจริญ เขคเทศบาลแสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด มีผู้บาดเจ็บกว่า 30 คน จนท.ทยอยนำส่งรพ.เขาสมิง และรพ.ตราด

22.30 น.
- รพ.ตราด 20 ราย
- รพ.กรุงเทพ-ตราด 4 ราย(เสียชีวิต 2 ราย)
- รพ. เขาสมิง ยังไม่ทราบจำนวน อยู่ระหว่างคัดกรอง 
- บาดเจ็บเคลื่อนย้ายจากที่เกิดเหตุหมดแล้ว 

22.43น. เหตุยิงที่ตราด มีผู้ยืนยันผู้ก่อเหตุใช้กระบะ2คัน ทั้งยิงที้งปาระเบิด ตร.และทหารยังเข้าตรวจสอบพิ้นที่เวทีกปปส.ตราด พบหลุมจากแรงระเบิด 2 หลุม กระเดือ่งและปลอกกระสุนยังไม่ทราบชนิด พยานเห็นคนร้ายขับรถปิคอัพและจยย.

23.28 น. เหตุคนร้ายยิงกราด/ปาระเบิด 2 ลูก ที่ตลาดแสนตุ้ง ยืนยันแล้ว!! กู้ภัยตราด ไม่มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ 37 คน
รูปภาพของ ตรงจากสนามข่าว
รูปภาพของ ตรงจากสนามข่าว
รูปภาพของ ตรงจากสนามข่าว
รูปภาพของ ตรงจากสนามข่าว
รูปภาพของ ตรงจากสนามข่าว
รูปภาพของ ตรงจากสนามข่าว

บึ้ม เวทีกปปส.ตราดตายเจ็บอื้อ

ล่าสุด เวลา 23.10 น. รายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุคนร้ายยิงถล่มและปาระเบิดเวทีกปปส.ตราด บาดเจ็บแล้ว 41 คน เสียชีวิต 2 ราย

ในที่เกิดเหตุพบหลักฐาน หัวกระสุน 11 มม.และปลอกกระสุนปืนลูกซอง และพบหลุมระเบิด 2 แห่ง

cr: trattv
ล่าสุด เวลา 23.10 น. รายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุคนร้ายยิงถล่มและปาระเบิดเวทีกปปส.ตราด บาดเจ็บแล้ว 41 คน เสียชีวิต 2 ราย

ในที่เกิดเหตุพบหลักฐาน หัวกระสุน 11 มม.และปลอกกระสุนปืนลูกซอง และพบหลุมระเบิด 2 แห่ง

cr: trattv

ดวงยิ่งลักษณ์

พีน้องท่านใดเห็นข่าวนี้บ้าง
เนื่องจากมีแฟนเพสท่าน 1 เอามาให้ดู ว่าดวงยิ่งลัก
ที่ข้าพเจ้าเคยทายไว้มีการเผยแผ่ไปทั่วโลก !!!

Michael Yon shared their รูปภาพ.
From ASTV:

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - มีหลายคนเอาปฏิบัติการขอคืนพื้นที่เมื่อเที่ยงวันที่ 18 ก.พ.2557 ภายใต้ชื่อเพราะพริ้งว่า “ภารกิจ คืนความสงบ กทม.” หรือ Peace for Bangkok Mission "มาโยงกับข่าวที่เว็บไซต์นิตยสาร อิระวดี" ได้รายงานว่า คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร พร้อมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ไปพบ “ซาน ซาร์นี โบ” หมอดูชื่อดังในนครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์และทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อเร็วๆนี้

โดยพิธีสะเดาะเคราะห์นั้น ก็เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเดินทางกลับบ้านเกิดเข้าประเทศไทยได้อีกครั้งและว่ากันว่ายังดูดวงไปถึงลู่ทางความเป็นไปได้ของเรื่องที่พวกเขาได้ขอสัมปทานทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันในเขตตะนาวศรีจากเมียนมาร์อีกด้วย

ยังมีข่าวลือกันบนโลกออนไลน์อีกว่า คำแนะนำของหมอดูนั้นต้องนำ"ยิ่งลักษณ์"เข้าทำเนียบรัฐบาลให้ได้ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ "มีอันเป็นไป" ตลอดชั่วนาตาปี

ทำให้เกิดปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ก่อนวันที่ 19 ก.พ.2557 เพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าไปสักการะท้าวมหาพรหมบน ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลนั้นเอง

สอดคล้องกับบทความของนักข่าวต่างประเทศอย่าง “ไมเคิล ยอน” ที่เขียนไว้ Battle of the Fortune Teller: Update
การสู้รบของหมอดู: เพิ่มเติม โดย Michael Yon เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 มีใจความตอนหนึ่งกล่าวถึง “ปฏิบัติการเพื่อเข้าแก้กรรมในทำเนียบรัฐบาล”ว่า

หลายคนรับรู้ว่าการบุกทำร้าย คปท. ของตำรวจ มีต้นเรื่องมาจากการตอบสนองต่อคำทำนายของหมอดูชาวพม่า เรื่องราวก็คือ หมอดูทักกับนายกรักษาการยิ่งลักษณ์ว่า หากเธอต้องการอำนาจกลับคืนต้องเข้าทำเนียบและทำพิธีกรรมบางอย่าง ภายในเที่ยงคืนวันพรุ่งนี้(19 ก.พ.57) ซึ่งประมาณ 26 ชั่วโมงนับจากนี้

ผู้ชุมนุม คปท. ได้ทำการปิดทำเนียบรัฐบาล หลังจากคำแนะนำของหมอดู ตำรวจได้เข้ามาสลายวันนี้ ผลคือ เสียชีวิตแล้ว4ราย บาดเจ็บ59ราย ทุกคนคาดว่าจะมีการปะทะใหญ่ใน12ชั่วโมงข้างหน้า

ยิ่งลักษณ์ สืบเนื่องจากเรื่องราว ต้องเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล หนึ่งในพิธีกรรมที่เธอต้องทำคือ ไปที่หลังคาทำเนียบและเปลี่ยนสีพระพรหม เป็นสีแดง ถ้าไม่สำเร็จเธอจะหมดสิ้นอำนาจและพี่ชายเธอก็จะไม่ได้กลับประเทศไทย

ดังนั้นการต่อสู้จากคำทำนายได้เริ่มต้นไป

ต้นฉบับ Original Link:https://www.facebook.com/MichaelYonFanPage/photos/a.235978145664.135781.207730000664/10151974757980665/?type=1&theater

“การต่อสู้จากคำทำนาย” สอดคล้องกับข้อแถลงของ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวถึงการแก้ปัญหาของรัฐบาลว่าไม่ได้ใช้สมองสร้างวิกฤตมากขึ้น โดยเฉพาะกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.ที่มุ่งสลายการชุมนุมตามคำสั่งการจากวอร์รูมแก้กรรมจากประเทศพม่า ว่า การใช้ความเชื่อมาแก้วิกฤตประเทศเป็นเรื่องที่บัดซบที่สุดที่เกิดขึ้น เพราะทางออกไม่ได้อยู่ที่การแก้กรรม หรือทำตามความเชื่อของหมอดู และคำสั่งที่ผ่าน ศรส.ใช้กำลังตำรวจจำนวนมากก็เพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่งแก้กรรมที่เหลวไหลสิ้นดี

โดยสัปดาห์ที่จะถึงนี้จะมีอีกสิ่งหนึ่งที่เกิดจากขบวนการแก้กรรมคือให้นางพญาเหยียบทำเนียบรัฐบาลให้ได้ คือ ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าทำเนียบรัฐบาลให้ได้ หลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม ไปเหยียบมาแล้ว ถือเป็นขบวนการที่เหลวไหลยัดเยียดความเชื่อของตัวเองให้ตำรวจและใช้งบประมาณจำนวนมาก โดยเห็นชัดว่าเป็นปาหี่ เหมือนการแสดงละครแต่ใช้งบประมาณของแผ่นดินและบุคลากรของรัฐ บนความสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้นกับทั้งประชาชนและตำรวจ

“ขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตั้งสติแก้ปัญหาให้ถูกจุดในการตัดสินใจ ถอยให้ขบวนการประชาชนประเทศเดินหน้าไม่ดันทุรังด้วยการแก้กรรม และความเชื่อเรื่องการแก้กรรมหลังทำผิดนั้นไม่สามารถรอดพ้นคดีความด้วยการแก้กรรมได้

ขณะทีโลกออนไลน์ ยังตอกย้ำเรื่อง ดวง ๆอย่างเผ็ดร้อน มีการเผยแพร่ โดยอ้างว่าลัคนาดวงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยไม่มีการระบุว่า ใครเป็นคนดูดวงนี้ (ขออนุญาตตัดคำไม่เหมาะสมออก) ผู้อ่านท่านใด อยากหาฉบับจริงอ่าน ก็ขอให้ไปเสาะแสวงหาเอาเอง หากจะเสียอารมณ์ในอรรถรสในการอ่านไปบ้าง

โดยเนื้อหามีมีใจความว่า
พี่น้องชาวไทยที่เคารพรัก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิดวันที่ 21 มิถุนายน 2510 เวลา 18.00 น. ณ.จังหวัดเชียงใหม่
1. ............จุดเกิดอยู่ในลัคนา พิจิก...................... เพราะดาวบนฟ้า บงบอกถึง.................จัด.............อย่างที่ว่าหล่อนไม่มียางอาย แถมผู้หญิง................................................................อย่างน้อย ๒ ถึง ๓ คนล้าน % โดยการทำ................เหล่านั้น คงอาฆาตเอาคนชั่วตัวนี้ ฉิบหายวายวอดตามดวงดาว แน่นอน
2. คนนี้ เกิดวันพุธ ซึ่งเป็นกาลกณี ต่อวันเกิด........... บงบอกว่า จะพา................ไปตามความชั่ว แบบ ทูอินวันไปด้วยอีกตัวหนึ่ง
3. ดวง.........เกิดในราศีกันย์ เป็นศัตรูต่อดวงเมือง แต่ผลสุดท้ายก็ตาย......เพราะปรมาจารย์วางดวงเมืองไว้ล้ำลึกเกินจะบรรยายให้พีน้องฟังได้ทั้งหมด
4......................จุดเกิดอยู่ที่ราศี พิจิก ซึ่งเป็นมรณะหรือความตายต่อดวงเมือง แทบจะไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไม ............ เอาบุคคล..........ที่เป็นปรปักษ์กับดวงบ้านดวงเมืองมาเป็นนายกฯ เพื่อซ่อนกลไว้ให้บ้านเมืองพังทลาย................................................................... เป็นผู้ว่างแผน
5.ในดวงทรัพย์สินของยิ่งลักษณ์ ดาว 5 ซึ่งเป็นดาวทรัพย์ ก็หนีมาอยู่ในภพความฉิบหายวายปวง ฉะนั้นผู้หญิงคนนี้ จะสิ้นเนื้อประดาตัวตามพีชายมันแน่แท้
6.ดวงปูมีคู่ครองเป็นเพื่อน คือเพื่อนฝูงที่อยู่ใกล้..................................................
7.ดาวเป็น.............ของนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปัจจุบันนี้ มีดาว 5 ซึ่งเป็นดาวทรัพย์สิน และดาวลูกไปอยู่ในภพความตาย ฉะนั้นหล่อนจะพาลูกพาทรัพย์สินของตัวเอง พินาศวายวอดหมดตัว หมดสิ้นภายในเร็ววันนี้แน่แท้
8. สุดท้ายปัจจุบันวันนี้ มีดาว 7 และดาว 8 คือดาวเพื่อนฝูง และดาวญาติ ไปอยู่ในภพความฉิบหาย

นั้น ย่อมแสดงให้เห็นชัดแจ้งว่า เพื่อนฝูงและญาติพีน้อง หล่อนจะพาหล่อนลงความซึ่งพินาศนรก อเวจี แน่แท้มิได้มีอะไร ใยที่พีน้องคนไทยทุกๆท่านต้องกังวลเลยสักนิดหนึ่ง....

“ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่”โลกออนไลน์ ที่เขียนเผยแพร่ทิ้งไว้อย่างนั้น

ไมใช่ครั้งแรก “การต่อสู้จากคำทำนาย” ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในทำเนียบรัฐบาล ครั้งล่าสุด ที่ พล.ต.ท.ธวัช บุญเฟื่อง รักษาการองรเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ’เพื่อนซี้“ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นหัวหน้าทีมการปรับปรุง โดยอ้างว่า เพื่อให้เกิดความสวยงามแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เพราะมีการย้าย ’ศาลพระภูมิเจ้าที่“ ประจำทำเนียบรัฐบาล จากเดิมที่ตั้งอยู่บริเวณมุมกำแพงด้านทิศตะวันออก ติดริมรั้วติดกับถนนพิษณุโลกไปประดิษฐานไว้ที่บริเวณสนามหญ้า ด้านขวาของตึกไทยคู่ฟ้า ติดกับต้นอโศกน้ำ โดยได้ทำพิธีย้ายตามประเพณีโบราณในวันที่ 17 มี.ค. 2556

แถมมีการปรับตามหลักฮวงจุ้ยจริง ๆ คือ การหันกระบอกปืนใหญ่ 2 กระบอกบนสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าที่เดิมหันเข้าหาตึกบัญชาการ ให้หันออกแทน

กลับมาดูเรื่องการขอคืนพื้นที่ หากไม่มีเรื่องไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องกับ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลต้องเร่งสลายการชุมนุมในช่วงเวลานี้เลย เพราะลำพังการแก้ไขปัญหาจำนำข้าว จนประชาชนแห่ถอนเงินออกจากธนาคารออมสิน รัฐบาลยังเอาตัวไม่รอด มีคำถาทว่า รัฐบาลจะเปิดศึกรอบด้านไปทำไมกัน


http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9570000020830
Battle of the Fortune Teller: Update Many people realize that the attack by the police today against the KPT was initiated by reaction to a fortune teller in Burma. As the story goes, the fortune teller told Prime Minister Yingluck that she must regain her power by entering the Government House to conduct a black magic ceremony. Deadline is midnight tomorrow night, which is about 28 hours from now. KPT protestors have been blockading the Government House. After the fortune teller's advice, the police made an attack today. Result so far is four dead and about 59 wounded. Everyone expects a major battle in the next 12 hours or so. Yingluck, according to the story, must go into the Government House, and among her black magic errands, she must go to the top of the House and paint this Pra Prom (Brahma) red. If she fails, she will lose power and her brother can never return to Thailand. So the Battle of the Fortune Teller has already begun. I will spend the night with KPT and make regular updates. I checked with leadership at PDRC tonight. If KPT comes under heavy attack, PDRC will reinforce en masse. The farmers also are streaming into Bangkok as tomorrow is the start of their big days, too. Tomorrow -- everything is on the table. Khun Suthep, leader of the PDRC, insists on non-violent methods. KPT plays by different rules, as do the farmers.
Battle of the Fortune Teller: Update

Many people realize that the attack by the police today against the KPT was initiated by reaction to a fortune teller in Burma. As the story goes, the fortune teller told Prime Minister Yingluck that she must regain her power by entering the Government House to conduct a black magic ceremony. Deadline is midnight tomorrow night, which is about 28 hours from now.

KPT protestors have been blockading the Government House. After the fortune teller's advice, the police made an attack today. Result so far is four dead and about 59 wounded. Everyone expects a major battle in the next 12 hours or so.

Yingluck, according to the story, must go into the Government House, and among her black magic errands, she must go to the top of the House and paint this Pra Prom (Brahma) red. If she fails, she will lose power and her brother can never return to Thailand.

So the Battle of the Fortune Teller has already begun. I will spend the night with KPT and make regular updates. I checked with leadership at PDRC tonight. If KPT comes under heavy attack, PDRC will reinforce en masse. The farmers also are streaming into Bangkok as tomorrow is the start of their big days, too.

Tomorrow -- everything is on the table. Khun Suthep, leader of the PDRC, insists on non-violent methods. KPT plays by different rules, as do the farmers.า
Battle of the Fortune Teller: Update

Many people realize that the attack by the police today against the KPT was initiated by reaction to a fortune teller in Burma.  As the story goes, the fortune teller told Prime Minister Yingluck that she must regain her power by entering the Government House to conduct a black magic ceremony.  Deadline is midnight tomorrow night, which is about 28 hours from now.  

KPT protestors have been blockading the Government House.  After the fortune teller's advice, the police made an attack today.  Result so far is four dead and about 59 wounded.  Everyone expects a major battle in the next 12 hours or so.

Yingluck, according to the story, must go into the Government House, and among her black magic errands, she must go to the top of the House and paint this Pra Prom (Brahma) red.  If she fails, she will lose power and her brother can never return to Thailand.

So the Battle of the Fortune Teller has already begun.  I will spend the night with KPT and make regular updates.  I checked with leadership at PDRC tonight.  If KPT comes under heavy attack, PDRC will reinforce en masse.  The farmers also are streaming into Bangkok as tomorrow is the start of their big days, too.

Tomorrow -- everything is on the table.  Khun Suthep, leader of the PDRC, insists on non-violent methods.  KPT plays by different rules, as do the farmers.
Battle of the Fortune Teller: Update

Many people realize that the attack by the police today against the KPT was initiated by reaction to a fortune teller in Burma. As the story goes, the fortune teller told Prime Minister Yingluck that she must regain her power by entering the Government House to conduct a black magic ceremony. Deadline is midnight tomorrow night, which is about 28 hours from now. 

KPT protestors have been blockading the Government House. After the fortune teller's advice, the police made an attack today. Result so far is four dead and about 59 wounded. Everyone expects a major battle in the next 12 hours or so.

Yingluck, according to the story, must go into the Government House, and among her black magic errands, she must go to the top of the House and paint this Pra Prom (Brahma) red. If she fails, she will lose power and her brother can never return to Thailand.

So the Battle of the Fortune Teller has already begun. I will spend the night with KPT and make regular updates. I checked with leadership at PDRC tonight. If KPT comes under heavy attack, PDRC will reinforce en masse. The farmers also are streaming into Bangkok as tomorrow is the start of their big days, too.

Tomorrow -- everything is on the table. Khun Suthep, leader of the PDRC, insists on non-violent methods. KPT plays by different rules, as do the farmers.


เสธน้ำเงิน:แฉมือระเบิดข้างปั๊ม และอนุสาวรีย์ชัย เกี่ยวพันแก๊งอั้งยี่แดง เขมร

21 ก.พ.57 แฉ..มือระเบิดข้างปั้มข้างอนุสาวรีย์ เกี่ยวพันแก๊งค์อั้งยี่แดง เขมร 

ที่ผ่านมาช่วงได้เปรียบ ชายดูไบ และ ปูเน่า พูดกับคนใกล้ชิดว่า “ หากจะได้อำนาจรัฐ ก็ให้มาปฏิวัติเอาไป” แต่เมื่อสถานการณ์ตกเป็นรองอย่างมาก ท่ามกลางแรงกดดันใส่รัฐอั้งยี่แดงอย่างหนักหน่วง ขนาดชายดูไบลงทุนจ้างการ์ดพิเศษให้ถึง 1,000 ล้านบาท เพื่อคุ้มครองปูเนืที่ต้องเปลี่ยนที่นอนเร่ร่อนไปทุกวัน เพราะกลัวถูกคุมตัวที่เป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย ตอนนี้ปูเน่ากลายเป็นบุคคลสูญหายชั่วคราว เก็บตัวเงียบอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่ง ใน กทม. เพื่อความปลอดภัยของให้พ้นจากไล่ล่า อินทิรา คานที โมเดล 

กลายเป็นนายกฯ เฟสบุ๊ก เอกสารที่เซ็นต์ออกมา กลายเป็นลายเซ็นต์นายกปลอม การเจรจาสงบศึกหลายรอบ เงื่อนไขที่ชายดูไบเสนอ ทั้งตัวนายกฯ คนกลางที่ต้องเป็นคนที่เขาเลือกเอง หรือรองนายกฯ ร่วมกัน ต่างถูกโห่ฮาตลกขบขัน ไม่มีใครยอมรับได้ 

ขณะนี้ที่จุดระส่ำระสายอีกจุด และก่นด่ารัฐอั้งยี่แดง และศูนย์ร่วมสัตว์ (ศรส.) กันระงมไปทั้งวงการชายชุดดำ คือ เหตุการณ์ปฎิบัติการสลายการชุมนุม ที่ผ่านฟ้าเมื่อวันที่ 18 กพ. จนมีคนตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เพราะทางฝ่ายบริษัทเผาไทย และ ผบ.ชายชุดดำ ต่างออกมาแถว่าลูกน้องฆ่า และทำร้ายประชาชนกันเองโดยพละการ ฝ่ายการเมืองและนายไม่ได้สั่ง..ลอยแพลูกน้องกันง่ายๆ แบบนี้แหละ 

ส่งผลให้ต่อไปชายชุดดำผู้ปฏิบัติที่ตกเป็นเครื่องมือในวันนั้น คงต้องรับหมายศาลกันไม่หวาดไม่ไหว เดินขึ้นโรงขึ้นศาลกันเป็นว่าเล่น จนกว่าศาลจะตัดสินคดีสิ้นสุด ถูกไล่ออกจากราชการ และติดคุกตารางกันอีกมาก ชายชุดดำที่เหลือจึงแก้แค้น โดยการสละเรือที่จะคำรัฐอั้งยี่แดงให้อยู่ต่อไป แปรพักตร์กลายเป็นมวลชน กปปส.ชายชุดดำฝ่ายดี ที่ทะยอยหลั่งไหลเข้าไปติดต่อกับมือปราบหูดำจำนวนมากมายตลอดเวลา 

ทำให้แก๊งค์อั้งยี้แดงหน้ามืดงัดแผนชั่ว เพื่อดึงเหล่าชายชุดดำให้กลับมาสวามิภักดิ์ตนเองอีกครั้ง โดยใช้แก๊งค์โกตี๋โจมตี ลักษณะกองทัพมด 
- ให้ลูกน้องชื่อชินจังเอา M79 มา 10 ลูก มาก่อเหตุรายวัน เช่น ที่เวทีแจ้งวัฒนะ และโจมตีชายชุดดำในเครื่องแบบให้ตายและบาดเจ็บจำนวนมากๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดกัน
- และเป็นไปตามที่ เสธ เคยแฉ พยากรณ์ไว้นานแล้วว่า “ จะมีการลอบโจมตีข่มขู่ชายชุดดำใน ศรส.” ดังนั้นเมื่อคืนเวลา 22.30 น. ที่ผ่านมา จึงมีอันธพาลแดงยิงระเบิด M79 ชนิดไม่เจาะเกราะ ตกลงไปที่หลังคาคาร์แคร์ ในปั๊มบางจาก ถนนวิภาวดี ติดสถานีไทยพีบีเอส ห่างจากที่ตั้ง ศรส.สโมสรตำรวจ ของเป็ดเหลิมประมาณ 150 เมตร 
- เป็นทีมฮาร์ดคอร์ของอเวจีแดง จงใจยิง ศรส. เพื่อโยนบาปให้ กปปส.และสร้างความโกรธแค้นให้ชายชุดดำ ที่ถูกเป็ดเหลิมสั่งคุมขังพักอยู่ใน ศรส.จำนวนมากเป็นหลักหมื่นคน แต่เนื่องจากอันธพาลแดงยิงจากในรถ ในขณะกำลังวิ่งบนทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ เลยพลาดเป้าสำคัญ แต่พวกมันก็ถือว่าเป็นการปรับระยะประเมินวิถีกระสุน ซึ่งในครั้งต่อๆ ไปพวกนี้จะยิงเข้าใส่ชายชุดดำในนั้น ได้ตรงเป้าขึ้น

- เวลา 00.40 น. ใช้ระเบิดสังหาร ชนิด RGD 5 ผลิตจากประเทศรัสเซีย ปาใส่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาซาฟารีเวิล์ด ( ที่ผ่านมาระเบิดชนิดนี้เคยถูกเคยจับได้ที่ สน.บางนา และผู้ต้องหาโทรหา รองนายก.ชื่อ ป. (อดีต ผบ.ชายชุดดำ) มาเคลียร์ , ใช้ในการลอบสังหารกำนัน ที่ถนนบรรทัดทอง และถาวร ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และหนีโดยรถมอเตอร์ไซต์ที่ว่าจ้างให้ไปส่งที่วัดรวกบางบำรุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ ใกล้บ้านหญิงกระบังลม

** การข่าวทราบมาว่า มือระเบิดแก๊งค์อั้งยี่แดงที่ปาระเบิดถาวร ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นี้ ตามการข่าว คือ นายกฤษฎา ไชยแค อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 660/5 หมู่ 2 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ช่วงก่อนเกิดเหตุอยู่กับเมียและลูกที่บ้านใน จ.นนทบุรี หลังก่อเหตุหลบหนีไปยัง จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี แล้วได้รับความช่วยเหลือจากแก๊งค์อั้งยี่แดง พาหนีข้ามไปเขมร โดยไม่ใช่ด่านของรัฐ แต่ใช้เส้นทางธรรมชาติลัดเลาะป่าเขาหลบกับระเบิดไป เหมือนชุดก่อการร้ายฝึกอาวุธสมัยปี 53 ช่วงอยู่เขมรนายกฤษฎา ได้รับการคุ้มครองจากฮุนเซน แฝงตัวประกอบอาชีพพ่อครัว หรือช่างตัดผม เพราะเขาถนัดด้านนี้

ส่วนสถานการณ์ชาวนาเทียมจากอุทัย ที่มุ่งเข้า กทม. เมื่อช่วง 19 – 21 ก.พ. นั้น
1. ประวัติแกนนำม๊อบชาวนาจัดตั้ง คือชาดา เป็นมุสลิม อดีต สส.พรรคปลาไหล
- เมียเป็นนายกเทศอุทัย เขาเป็นมาเฟียใหญ่แห่งอุทัย มีสายสัมพันธ์กับยุทธ ยิงตู้เย็น , สมัยชายดูไบ เป็นนายกฯ เคยจัดกองทัพรถตู้ มาประท้วงที่บ้านนักฆ่าและลุ่มน้ำเจ้าพระยา 
- เขามีเมียน้อยเป็นดารา เคยถูกจับฐานฆ่าคนตาย ออกมาจากคุก เขาได้แผ่อิทธิพลไปกว้างขึ้นจากอุทัย ไปจังหวัดใกล้เคียง เช่น ชัยนาท และได้ตีเมืองหลักนครสวรรค์ ไปอยู่ใต้อาณัติเรียบร้อยแล้ว เคยพัวพันการยิง นายก.อบจ.นครสวรค์ตาย เหตุขัดผลประโยชน์ประมูลขุดลอกบึง
- มั่นคงกับบิ๊กเตี้ย มี ลูกน้อง สส.ในพรรคมาก มีอิทธิพลพื้นที่ภาคกลาง วงการนักเลงต้องเกรงใจ ชายชุดดำภาคกลาง ภาคเหนือเกรงใจเขา และเริ่มขยายอิทธิพลไปภาคเหนือ รุกฐานการเมืองบริษัทเผาไทย ฉายา"ดาหลา" ของเขาชายชุดดำเรียกท่าน , สส.เรียกนาย , รัฐมนตรีบางคนเรียกพี่
- เขาทำธุรกิจมืด เช่น ฮั้วประมูล ซุ้มมือปืน ยาเสพติด เรียกค่าคุ้มครอง ฯลฯ คุม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เทศบาล อบต.ด้วยอิทธิพลมืด 

2. การจัดขบวนม๊อบชาวนาจัดตั้ง 
- มีการประชุมเตรียมการมาครั้งนี้ตั้งแต่ 10 และ 13 ก.พ. ที่ลพบุรี ชาวนาและทุกคนกลัวเขา การมาครั้งนี้ใช้งบ 15 ล้านบาท เขาให้เกณฑ์คละชาวนา และไม่ใช่มา หมู่บ้านละ 10 คน มีคนคุมมา มีชาวนาจริงๆ ที่มาด้วยใจบริสุทธิ์ เพราะอยากได้เงินค่าจำนำข้าว จากอุทัย ชัยนาท สิงห์บุรี นครสวรรค์ ลพบุรี และจังหวัดข้างเคียงรวม 8 จังหวัด 
- เดินทางรถในขบวนด้วยรถไถใหม่ๆ และรถอีแต๋น มีชายชุดดำทางหลวงนำ และปิดท้ายขบวน มีรถดับเพลิง และรถครัวขนาดใหญ่ในขบวน เอาแก๊งค์มือปืนผูกผ้าสีส้มที่แขน ขี่มอเตอร์ไซต์อยู่กันเป็นกลุ่ม ของเขามาคุมขบวน บางส่วนปลอมเป็นการ์ด และชาวนา มีสายข่าวพบมือปืนใบหน้าคล้ายคนที่ยิง พ.อ.ร่มเกล้า อยู่ในขบวน
- ระหว่างทางแถวอินทร์บุรี ประกาศข้างทางว่ารับผู้ร่วมขบวนจ่ายวันละ 500 บาท/วัน ขบวนพักค้างคืนที่อยุธยา มีชาวนาบางคนที่รู้ตัวว่าถูกหลอกเป็นเครื่องมือบางกลุ่ม ขอแยกตัวไป ก็ถูกให้การ์ดไปตามกลับมา และห้ามชาวนาแยกตัวไปหรือกลับบ้าน
- มีการสับขาหลอกชาวนาว่า ขบวนจะไปที่กระทรวงพาณิชย์ แต่เขากลับประกาศว่าจะพาชาวนาไปดูเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ เนื่องจากชาวนาไม่เคยเห็นเครื่องบินใกล้ๆ ขณะเดินทางมีการเจรจาต่อรองเป็นระยะ ๆ ถ่วงเวลาให้เป็นข่าวจนต้องค้างคืนบนถนน 2 คืน ก่อนเข้ากรุงเทพ 

3. วัตถุประสงค์ม๊อบชาวนาจัดตั้ง 
- ต้องการรักษาฐานเสียงของเขาและพรรคปลาไหล ที่โดนรุกล้ำไปจากบริษัทเผาไทย และนโยบายจำนำข้าวและชักดาบเงิน ส่งผลต่อความนิยมของประชาชน
- ความเป็นนักเลงมาเฟียของชาดา จึงไม่ใช่หมากเกมส์ของใคร เพราะเขาเบอร์ใหญ่เกินกว่าจะมาเป็นหมากตัวแสดงในละคร
- คืนที่ผ่านมาเขาต้องการแสดงภาพว่าเขาเข้าพบปูเน่าได้ขณะที่ล่องหน ในขณะที่แกนนำชาวนาตัวจริงปูเน่าไม่ให้เห็นแม้แต่เงา
- ที่ผ่านมารัฐอั้งยี่แดงจ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้เฉพาะพื้นที่ ส.ส.ของตนเองก่อน เช่น เชียงใหม่ กำแพงเพชร ฯลฯ แต่ไม่จ่ายให้พื้นที่อื่นที่เป็นฐานเสียงพรรคปลาไหล ส่งผลให้พรรคเขาเสียมวลชนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
- ปูเน่าฯ และทีมงานสัญญาว่าจะจ่ายเงินให้ชาวนาเฉพาะที่มากับชาดาก่อน การแสดงเพาเวอร์ของเขาสำเร็จ และสร้างความไม่พอใจให้ชาวนาที่ไปเข้ากับ กปปส. ทำให้เกิดการแตกแยกของชาวนาภาคกลาง ให้อาจต้องกลับไปสวามิภักดิ์กับพรรคปลาไหล
** เมื่อจัด Event เสร็จแล้วชาดาก็สั่งม๊อบชาวนาจัดตั้งกลับไปแล้ว แต่มีชาวนาบางส่วนไม่พอใจที่ถูกหลอกมา จึงไม่ยอมกลับและอาจจะเข้าร่วมประท้วงกับชาวนาที่กระทรวงพานิชย

การใช้กลศึก คราขงเบ้งหลอกโจโฉ “ จริงคือจริง จริงคือเท็จ เท็จคือเท็จ เท็จคือจริง “ และ “ ลับ ลวง พราง “ ที่ผ่านมากดดันให้เครือข่ายแก๊งค์อั้งยี่แดง “ที่แท้จริง” และเครือข่าย “ ไม่แท้แฝงๆ แอบๆ “ ให้เปิดเผยตัวตนออกมาชัดเจนมากๆ ช่างได้ผลเป็นยิ่งนัก เพราะทำให้จำแนกแยกแยะขุมกำลังของรัฐอั้งยี่แดงว่า สถานะตอนนี้มีเพาเวอร์กำลังต้านทานมากสักขนาดไหน มีกำลังแท้จริงสักเท่าไร!! การจัดการก็จะเบาแรงขึ้นมาก

เปรียบเหมือนเราจะขุดแย้ในรูลึก ถ้าเป็นทุยแดงมันก็จะใช้กำลังโดยใช้เครื่องทุนแรงเสียมขุดๆๆๆ ลงไปในดินและเปิดปากรูแย้ พอจะถึงตัวแย้มัน กลับหนีออกทางปล่องลับที่มันขุดเตรียมไว้ห่างจากรูอาศัยที่แท้จริง วิ่งหนีจากรูได้อย่างสบาย และจับเย้ไม่ได้ในที่สุด

แต่หากเราจับแย้โดยวิธีใช้สมองคิด คือ ใช้สายสูบลมยางแหย่เข้าไปในรูแย้ จากนั้นเอาตาข่ายถี่คลุมปากรูโดยรัศมีกว้างไว้ จากนั้นสูบอัดลมเข้าไปในรูแย้ตลอดเวลาถี่ ๆ แย้จะขาดอากาศหายใจทนไม่ไหว และทะลึ่งพรวดออกจากรูมาให้เราจับในตาข่ายที่คลุมไว้อย่างง่ายดาย

การใช้กลศึก “ลับไว้ ลวงให้ตายใจ พรางตัวเปิดตา” ที่ผ่านมาทำให้สมุนอั้งยี่แย้แดงโง่ๆ แสดงตัวตนดิ้นเร่า ๆ เผยออกมาจำนวนมาก แสดงพละกำลังป่วน และศักยภาพที่มีทั้งหมด เสมือนแย้หางแดงเหล่านี้ ถูกกลศึกเป่าลมอัด เพื่อลวงให้ออกมาจากรูและถูกจับได้นั่นเอง

ตอนนี้ประเมินว่าแก๊งค์อั้งยี่แดงตอนนี้พ่ายแพ้ตันหนทาง และไปต่อไม่ได้แล้วจริง แม้ทัพปูเน่าหลบภัยการจับตัวหลีกนี้ปัญหา ไม่กล้าออกมากรำศึกหลายวันแล้ว เตรียมลี้ภัยหนีไปต่างประเทศ สมุนจึงเหมือนคนขาดหัว ต่างขวัญกระเจิง เหล่าบรรดาฝ่ายการเมือง ผบ.ชายชุดดำ เมื่อประชาชนตายและเจ็บ ต่างทิ้งลอยแพลูกน้องให้เผชิญชะตากรรมคกตารางอันโหดร้าย 

ชาย 3 สี (เขียว-ฟ้า-ขาว) ไม่เอาด้วย ไม่หนุน และแอบทำอะไรบางอย่างคล้ายสูบลมอัดเข้าไปในรู้แย้ (คงรู้ๆ กันอยู่) ,ข้าราชการต่างแปรพักษณ์เกียร์ว่าง, นักธุรกิจใหญ่ๆ ไม่สนับสนุน , สถาบันการศึกษาเบ้ง ๆ บอยคอต, สถาบันการเงินไม่กล้าสนับสนุนเฉียดใกล้ เพราะมีบทเรียนขนหัวลุกเกือบเจ๊งจากธนาคารกระปุกเด็ก , ชาวนาจริงที่ไม่ใช้ม๊อบจัดตั้งลุยไม่ถอยเพราะสุดทน , มวลมหาประชาชนรุกเกมส์หนักขึ้นทุกวัน, เปาบุ้นจิ้นมอบแต่ปืน (พรก.ฉุกเฉินฯ) ให้ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) แต่ยึดลูกกระสุนคืนไป (พิพากษาไม่ให้รัฐแดงออกประกาศห้าม 9 ข้อ ) และห้ามใช้ปืน (พรก.ฉุกเฉินฯ) ที่มีไปใช้งานใด ๆ..คนมีปืนแต่ไม่มีลูก มันก็ดุ้นฟืนดีๆ นี่เอง !!

ชายชุดดำก็วงแตกที่ถูกลอยแพ ขอแปรพักตร์ไปหาอนาคต กปปส.ชายชุดดำฝ่ายดี ที่สดใสกว่า (ส่วนที่ยังฝืนๆ อยู่ถ้ารัฐแดงสั่งอะไร ก็จะขอเกียร์ว่าง..เข็ดแล้ว ไม่เอาแล้ว)..ใครจะบ้าออกมาสู้ เพราะคดีเก่ายังไม่รอด ใครจะโง่กล้ามาหาใส่หัวคดีใหม่เข้าตัว ไม่มีใครอยากค้ำบัลลังค์ให้รัฐอั้งยี่แดงอีกแล้ว..

มือกฎหมายรัฐแดงก็ฮ่วยแตก แพ้มันได้แทบทุกคดี , ขนาดวันนี้ทุยแดงดา และพวกราว 30 คน มันโง่ดันเข้าไปเขตรั้วอำนาจเปาบุ้นแพ่ง เพื่อไปวางพวงหรีด พอตอนบ่ายเจอจะออกหมายเรียกทุยแดงเข้ารับการลงโทษ ฐานเจตนาหมิ่นศาล มีโทษจำคุกถึง 6 เดือน..ซวยไปอีก กุนซือบ้าหรือเปล่า ในเขตรั้วศาลเขาได้รับการคุ้มครอง ใครเข้าไปประท้วง..ก็เจอคุกไปกินทันที แถมแบบนี้เป็นความผิดซึ่งหน้า ไม่ต้องสู้คดีให้เสียเวลา สั่งจำคุกได้เลยทันทีทุกคน 

ตำราพิชัยยุทธ์ “ เมื่อใจหวั่นไหวจึงต้องชักกระบี่ก่อน จุดอ่อนจึงถูกเปิดเผย เพราะจุดอ่อนถูกเปิดเผย จึงเปิดช่องให้ถูกจู่โจม “ รัฐอั้งยี่แดงใจหวั่นไหว จึงเปิดเผยจุดอ่อน จุดตาย ถูกกลศึกจนพ่ายแพ้จนหมดสิ้น ชายดูไบและแก๊งค์อั้งยี่แดง ปูเน่า ก็เดินมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว 

แผน พราง ลับ ลวง แหย่เย้หางแดงออกจากรูนี่มันได้ผลเกินคาด..จำแนกมิตร ศรัตรู และฝ่ายที่กำกึ่ง ได้จนล่อนจ้อน..ประเมินสถานการณ์จากปัจจัยภายใน ด้านโครงสร้างและนโยบาย ลักษณะกำลังคน การเงิน วัสดุและอุปกรณ์ การบริหารจัดการ , ปัจจัยภายนอก ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและกฎหมาย เทคโนโลยี..รัฐอั้งยี่แพ้ราบคาบทุกด้านไม่มีเหลือหรอ 

เปรียบเหมือนการชกมวย 5 ยก ระหว่างแก๊งค์ยี่แดงนำโดยปูเน่า กับมวลมหาประชาชนนำโดยกำนัน..ที่ผ่านมากว่า 3 เดือน ปูเน่าโดนกำนัน ทั้งเตะ ต่อย ชก ตีศอก คลุกวงในโน้มคอเข่า จนโดนกรรมการนับ 8 มาแล้วหลายครั้ง ตอนนี้มวยมาถึงยก 5 แล้ว..ถ้าจับตัวผู้ต้องหาฆ่าคนตาย

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์:คำพิพากษา

หลายปีมานี้ ผมต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่เป็นประจำ ในฐานะ "จำเลย" เกือบทุกคดี ไม่นานมานี้ผมถึงกับต้องขออนุญาตศาลซักค้านพยานด้วยตัวเอง เพราะทนายติดธุระมาศาลไม่ทัน

แต่ทุกคดีผมไม่เคยขาดนัด มาศาลทุกครั้ง หากต้องประกันตัวก็วิ่งหาหลักทรัพย์ประกัน และสาบานว่าจะมาศาลทุกนัด ผลคดีมีชนะบ้างแพ้บ้างแล้วแต่พยานหลักฐานในสำนวนคดี หากแพ้ก็อุทธรณ์ ฎีกา ต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย แม้แต่ประพฤติตัวไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล แต่ศาลท่านเมตตาให้ผมกลับตัวเพราะผมสารภาพ ถูกลง "รอการกำหนดโทษ" กระทั่งถูกศาลสั่งไม่ให้ประชดประชันเสียดสีเป็นเวลา 3 ปีก็เคยโดน

เหตุที่ผมนำเอามาเล่าเพราะมีผู้ข้องใจคำสั่งศาลแพ่ง คงพรก.ฉุกเฉิน ไม่ให้สลายการชุมนุม หลายคนไม่เห็นด้วย ไปพูดดักทางล่วงหน้าว่าอย่างนี้ม็อบจะทำอะไรก็ได้ คงต้องปล่อยให้ทำ เพราะกลัวไปขัดคำสั่งศาล

แต่ตอนพิจารณาคดี ทำไมถึงไม่ไปศาลด้วยตัวเอง? ศาลต้องพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนคดี ไม่ใช่เอากระแสสังคมมาตัดสิน

อย่าคิดว่าตัวเองเป็นรัฐบาลแล้วทำได้ทุกอย่าง คุณเฉลิมและคุณธาริตต้องทำอย่างผม ไปศาลด้วยตัวเองทุกครั้งไม่เคยขาด แต่อย่าเผลอไปชั้นล่างสุดใต้ถุนศาลนะครับ เพราะเป็นห้องขัง รอส่งตัวไปเรือนจำ ห้องนี้ผมก็เคยไปมาแล้วเหมือนกัน เข็ดแล้วครับ
คำพิพากษา

หลายปีมานี้ ผมต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่เป็นประจำ ในฐานะ "จำเลย" เกือบทุกคดี ไม่นานมานี้ผมถึงกับต้องขออนุญาตศาลซักค้านพยานด้วยตัวเอง เพราะทนายติดธุระมาศาลไม่ทัน

แต่ทุกคดีผมไม่เคยขาดนัด มาศาลทุกครั้ง หากต้องประกันตัวก็วิ่งหาหลักทรัพย์ประกัน และสาบานว่าจะมาศาลทุกนัด ผลคดีมีชนะบ้างแพ้บ้างแล้วแต่พยานหลักฐานในสำนวนคดี หากแพ้ก็อุทธรณ์ ฎีกา ต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย แม้แต่ประพฤติตัวไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล แต่ศาลท่านเมตตาให้ผมกลับตัวเพราะผมสารภาพ ถูกลง "รอการกำหนดโทษ" กระทั่งถูกศาลสั่งไม่ให้ประชดประชันเสียดสีเป็นเวลา 3 ปีก็เคยโดน

เหตุที่ผมนำเอามาเล่าเพราะมีผู้ข้องใจคำสั่งศาลแพ่ง คงพรก.ฉุกเฉิน ไม่ให้สลายการชุมนุม หลายคนไม่เห็นด้วย ไปพูดดักทางล่วงหน้าว่าอย่างนี้ม็อบจะทำอะไรก็ได้ คงต้องปล่อยให้ทำ เพราะกลัวไปขัดคำสั่งศาล

แต่ตอนพิจารณาคดี ทำไมถึงไม่ไปศาลด้วยตัวเอง? ศาลต้องพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนคดี ไม่ใช่เอากระแสสังคมมาตัดสิน

อย่าคิดว่าตัวเองเป็นรัฐบาลแล้วทำได้ทุกอย่าง คุณเฉลิมและคุณธาริตต้องทำอย่างผม ไปศาลด้วยตัวเองทุกครั้งไม่เคยขาด แต่อย่าเผลอไปชั้นล่างสุดใต้ถุนศาลนะครับ เพราะเป็นห้องขัง รอส่งตัวไปเรือนจำ ห้องนี้ผมก็เคยไปมาแล้วเหมือนกัน เข็ดแล้วครับ

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์:คำพิพากษา

หลายปีมานี้ ผมต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่เป็นประจำ ในฐานะ "จำเลย" เกือบทุกคดี ไม่นานมานี้ผมถึงกับต้องขออนุญาตศาลซักค้านพยานด้วยตัวเอง เพราะทนายติดธุระมาศาลไม่ทัน

แต่ทุกคดีผมไม่เคยขาดนัด มาศาลทุกครั้ง หากต้องประกันตัวก็วิ่งหาหลักทรัพย์ประกัน และสาบานว่าจะมาศาลทุกนัด ผลคดีมีชนะบ้างแพ้บ้างแล้วแต่พยานหลักฐานในสำนวนคดี หากแพ้ก็อุทธรณ์ ฎีกา ต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย แม้แต่ประพฤติตัวไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล แต่ศาลท่านเมตตาให้ผมกลับตัวเพราะผมสารภาพ ถูกลง "รอการกำหนดโทษ" กระทั่งถูกศาลสั่งไม่ให้ประชดประชันเสียดสีเป็นเวลา 3 ปีก็เคยโดน

เหตุที่ผมนำเอามาเล่าเพราะมีผู้ข้องใจคำสั่งศาลแพ่ง คงพรก.ฉุกเฉิน ไม่ให้สลายการชุมนุม หลายคนไม่เห็นด้วย ไปพูดดักทางล่วงหน้าว่าอย่างนี้ม็อบจะทำอะไรก็ได้ คงต้องปล่อยให้ทำ เพราะกลัวไปขัดคำสั่งศาล

แต่ตอนพิจารณาคดี ทำไมถึงไม่ไปศาลด้วยตัวเอง? ศาลต้องพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนคดี ไม่ใช่เอากระแสสังคมมาตัดสิน

อย่าคิดว่าตัวเองเป็นรัฐบาลแล้วทำได้ทุกอย่าง คุณเฉลิมและคุณธาริตต้องทำอย่างผม ไปศาลด้วยตัวเองทุกครั้งไม่เคยขาด แต่อย่าเผลอไปชั้นล่างสุดใต้ถุนศาลนะครับ เพราะเป็นห้องขัง รอส่งตัวไปเรือนจำ ห้องนี้ผมก็เคยไปมาแล้วเหมือนกัน เข็ดแล้วครับ
คำพิพากษา

หลายปีมานี้ ผมต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่เป็นประจำ ในฐานะ "จำเลย" เกือบทุกคดี ไม่นานมานี้ผมถึงกับต้องขออนุญาตศาลซักค้านพยานด้วยตัวเอง เพราะทนายติดธุระมาศาลไม่ทัน

แต่ทุกคดีผมไม่เคยขาดนัด มาศาลทุกครั้ง หากต้องประกันตัวก็วิ่งหาหลักทรัพย์ประกัน และสาบานว่าจะมาศาลทุกนัด ผลคดีมีชนะบ้างแพ้บ้างแล้วแต่พยานหลักฐานในสำนวนคดี หากแพ้ก็อุทธรณ์ ฎีกา ต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย แม้แต่ประพฤติตัวไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล แต่ศาลท่านเมตตาให้ผมกลับตัวเพราะผมสารภาพ ถูกลง "รอการกำหนดโทษ" กระทั่งถูกศาลสั่งไม่ให้ประชดประชันเสียดสีเป็นเวลา 3 ปีก็เคยโดน

เหตุที่ผมนำเอามาเล่าเพราะมีผู้ข้องใจคำสั่งศาลแพ่ง คงพรก.ฉุกเฉิน ไม่ให้สลายการชุมนุม หลายคนไม่เห็นด้วย ไปพูดดักทางล่วงหน้าว่าอย่างนี้ม็อบจะทำอะไรก็ได้ คงต้องปล่อยให้ทำ เพราะกลัวไปขัดคำสั่งศาล

แต่ตอนพิจารณาคดี ทำไมถึงไม่ไปศาลด้วยตัวเอง? ศาลต้องพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนคดี ไม่ใช่เอากระแสสังคมมาตัดสิน

อย่าคิดว่าตัวเองเป็นรัฐบาลแล้วทำได้ทุกอย่าง คุณเฉลิมและคุณธาริตต้องทำอย่างผม ไปศาลด้วยตัวเองทุกครั้งไม่เคยขาด แต่อย่าเผลอไปชั้นล่างสุดใต้ถุนศาลนะครับ เพราะเป็นห้องขัง รอส่งตัวไปเรือนจำ ห้องนี้ผมก็เคยไปมาแล้วเหมือนกัน เข็ดแล้วครับ

กสทช.เผยผลสอบการโอนย้ายAISเพิ่มขึ้นเท่าตัว

กสทช. เผยผลตรวจสอบพบอัตราการโอนย้ายเครือข่ายเอไอเอสวันศุกร์มีการโอนย้ายเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปกติ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเชิญชวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเครือข่ายเอไอเอสให้โอนย้ายเครือข่ายนั้น สำนักงาน กสทช. ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอดเพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.พ. 2557 ที่ผ่านมา อัตราการโอนย้ายเครือข่ายของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีปริมาณปกติอยู่ที่ 700 เลขหมายต่อวัน แต่เมื่อถึงวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. 2557 พบว่ามีการโอนย้ายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1,400 เลขหมายต่อวัน โดยเป็นการโอนย้ายเลขหมายไปอยู่เครือข่ายดีแทค 70% ทรู 30% 
ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. จะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อระวังไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมและจะรายงานให้ประชาชนทราบต่อไป

องค์โสมทรงเยี่ยมน้องสาว

คุณน้ำผึ้ง เข้ารับการรักษาที่ ร.พ.มหาราช เชียงใหม่ องค์โสม เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด
คุณน้ำผึ้ง เข้ารับการรักษาที่ ร.พ.มหาราช เชียงใหม่ องค์โสม เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด

ชาวเน็ตตั้งคำถาม ตร.ไม่จับ-ไม่เป่า โจ๋17ซิ่งBMW ชนนิสิตม.บูฯ ดับ

ชาวเน็ตตั้งคำถาม ตร.ไม่จับ-ไม่เป่า โจ๋17ซิ่งBMW ชนนิสิตม.บูฯ ดับ
วันนี้(22 ก.พ.) ชาวสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีเด็กอายุ17ปีขับรถBMW ชนนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา 3 คน ที่บริเวณถนนลงหาดบางแสน ส่งผลให้ น.ส.อังคณา ผาแดง อายุ 19 ปี และน.ส.พรทิพย์ สุขเภรี อายุ 19 ปี เสียชีวิต นายญาณกร เพชรศรี อายุ 19 ปี บาดเจ็บสาหัส จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตใบขับขี่และคนในรถคันดังกล่าวมีอาการคล้ายเมาสุรา 
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ โดยอ้างว่าเครื่องเป่าไม่มี รวมถึงเมื่อขอตรวจสอบกล้องCCTV เพื่อขอย้อนดูเหตุการณ์กลับได้รับคำตอบว่า กล้องเสีย แต่เมื่อญาติผู้ตายมาสอบถามอีกวันกลับบอกว่ายังไม่มีเวลาไปดู ญาติผู้ตายจึงได้มีการไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากร้านค้าที่อยู่บริเวณดังกล่าว จนพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากรถ BMWขับมาด้วยความเร็วสูงแข่งกับรถฮอนด้าแจ๊ซสีขาว จากนั้นรถBMW ได้พุ่งชนรถจักรยานยนต์ของนิสิตม.บูรพาที่ซ้อนกันมา 3 คน จนร่างและรถกระเด็นไปอยู่บนฟุตบาธ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แสนสุข ได้ระบุว่า คดีดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนซึ่งต้องใช้เวลารวมถึงต้องมีการนัดพยานผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่ม ซึ่งตำรวจไม่มีอำนาจการจับกุมคนขับเนื่องจากเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง18 ปี จึงทำได้เพียงสอบปากคำแล้วปล่อยกลับบ้านไป สำหรับอาการมึนเมานั้นพบว่าทุกคนดื่มสุรามาจริงยกเว้นคนที่อ้างตัวว่าเป็นคนขับ

ทั้งนี้ชาวสังคมออนไลน์ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจว่ามีความไม่ชอบมาพากลแล้วตั้งคำถามว่า “รู้ได้ยังไง? ว่าคนขับไม่เมา ทั้งที่ไม่มีการจับเป่าแอลกอฮอล์” นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามด้วยว่าคนขับรถอายุ17 ปี อาจจะไม่ใช่คนขับจริง เนื่องจากมีคนอยู่ในรดBMW คันดังกล่าวมากถึง 6 คน รวมถึงย้อนไปถึงเคสคดีของแพรวา9ศพที่สุดท้ายผู้กระทำความผิดก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จึงได้มีการเรียกร้องผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ให้ช่วยติดตามคดีนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม
รูปภาพของ คนจริง ที่ราบสูง
รูปภาพของ คนจริง ที่ราบสูง

พัลลภ มาแล้ว?

เอาหล่ะดิ......ใครหนอช่างคิดได้  ไปสะกิดขอให้ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตหน่วยล่าสังหาร แกนนำยังเติร์ก จปร.7มาช่วยงาน ศรส. เพราะเห็นว่า สถานการณ์รุนแรง แถมมีกองกำลังไม่ทราบฝ่าย  นักรบป๊อบคอร์น ออกมาขัดขวางการทำงานของตำรวจ ในการรักษาความสงบ.....พล.อ.พัลลภ  ยอมรับว่า มีคนมาปรึกษาหารือแล้วว่าจะให้ไปช่วยงาน ศรส. “ซึ่งตอนนี้ ผมเป็นที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรีอยู่  เมื่อทางรัฐบาล ต้องการใช้งานผม ผมก็จะหนี ในยามที่มีปัญหาเช่นนี้  แล้วใครจะคบ ถ้ามีการขอร้องมา และมีคำสั่ง ผมก็พร้อมที่จะไปช่วยงาน” ...แต่ทว่าจะช่วยในลักษณะไหนนั้น พล.อ.พัลลภ บอกว่า ให้มีการคำสั่งออกมาก่อน เพราะแค่มีข่าวออกมา  ก็คงมีคนหวาดกลัว และจะสกัดกั้น คัดค้าน แน่.....เมื่อถามว่า ภาพพจน์ของ พล.อ.พัลลภ เป็นสายเหยี่ยว  มาช่วยงานศรส. จะยิ่งทำให้เหตุการณ์รุนแรงหรือไม่นั้น   พล.อ.พัลลภ บอกว่า ผมอายุ 77 ปีแล้ว คงไม่ได้บู๊อะไรอย่างนั้นแล้ว แต่คงให้คำปรึกษา ในแง่ยุทธวิธีมากกว่า เพราะ ฝ่ายกองกำลังไม่ทราบฝ่ายนั้น รู้กันดีว่า เป็นใคร แล้วใช้ยุทธวิธีแบบไหน....เอาไว้มีคำสั่งออกเมื่อไหร่  ผมจะพูดให้ฟัง ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นยังไง เบื้องหน้าเบื้องหลัง ใครเป็นใคร.....อูยยยยย....งานนี้มีลุ้น ท่าทีกองทัพ เมื่อ พล.อ.พัลลภ ขยับ เพราะอาจเจอการคัดค้่าน ไม่ให้เข้ามาก็ได้ เพราะในบอร์ดศรส.ก็มีตัวแทนผบ.เหล่าทัพ อยู่...งานนี้ต้อง จับตา และจ้องดู เลยทีเดียว
เอาหล่ะดิ......ใครหนอช่างคิดได้ ไปสะกิดขอให้ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตหน่วยล่าสังหาร แกนนำยังเติร์ก จปร.7มาช่วยงาน ศรส. เพราะเห็นว่า สถานการณ์รุนแรง แถมมีกองกำลังไม่ทราบฝ่าย นักรบป๊อบคอร์น ออกมาขัดขวางการทำงานของตำรวจ ในการรักษาความสงบ.....พล.อ.พัลลภ ยอมรับว่า มีคนมาปรึกษาหารือแล้วว่าจะให้ไปช่วยงาน ศรส. “ซึ่งตอนนี้ ผมเป็นที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรีอยู่ เมื่อทางรัฐบาล ต้องการใช้งานผม ผมก็จะหนี ในยามที่มีปัญหาเช่นนี้ แล้วใครจะคบ ถ้ามีการขอร้องมา และมีคำสั่ง ผมก็พร้อมที่จะไปช่วยงาน” ...แต่ทว่าจะช่วยในลักษณะไหนนั้น พล.อ.พัลลภ บอกว่า ให้มีการคำสั่งออกมาก่อน เพราะแค่มีข่าวออกมา ก็คงมีคนหวาดกลัว และจะสกัดกั้น คัดค้าน แน่.....เมื่อถามว่า ภาพพจน์ของ พล.อ.พัลลภ เป็นสายเหยี่ยว มาช่วยงานศรส. จะยิ่งทำให้เหตุการณ์รุนแรงหรือไม่นั้น พล.อ.พัลลภ บอกว่า ผมอายุ 77 ปีแล้ว คงไม่ได้บู๊อะไรอย่างนั้นแล้ว แต่คงให้คำปรึกษา ในแง่ยุทธวิธีมากกว่า เพราะ ฝ่ายกองกำลังไม่ทราบฝ่ายนั้น รู้กันดีว่า เป็นใคร แล้วใช้ยุทธวิธีแบบไหน....เอาไว้มีคำสั่งออกเมื่อไหร่ ผมจะพูดให้ฟัง ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นยังไง เบื้องหน้าเบื้องหลัง ใครเป็นใคร.....อูยยยยย....งานนี้มีลุ้น ท่าทีกองทัพ เมื่อ พล.อ.พัลลภ ขยับ เพราะอาจเจอการคัดค้่าน ไม่ให้เข้ามาก็ได้ เพราะในบอร์ดศรส.ก็มีตัวแทนผบ.เหล่าทัพ อยู่...งานนี้ต้อง จับตา และจ้องดู เลยทีเดียว