PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2557

'แดงปทุมฯ-กปปส.'ปะทะเดือด!เจ็บ3ราย

'แดงปทุมฯ-กปปส.'ปะทะเดือด! ปาบึ้ม-ยิงปืนใส่เจ็บ3ราย ช่วงหลวงพ่อพุทธอิสระนำมวลชนเชิญชวนร่วมชัตดาวน์กทม. ทปอ.แนะ2ฝ่ายจับเข่าคุยก่อน 13 ม.ค.นี้

10ม.ค.2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. กลุ่ม กปปส.นำโดยหลวงพ่อพุทธอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และนายอรรถพล อนุโณรส แกนนำ กปปส.ปทุมธานี ได้รวมตัวกันที่เกาะกลางถนนสี่แยกบางคูวัด ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อเคลื่อนขบวนรถกว่า100 คัน ยาว 1 กม. มีรถติดเครื่องขยายเสียง เชิญชวนและปราศรัยเชิญชวนประชาชนให้ออกมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล โดยมีจุดหมายต่อไปที่ตลาดพูนทรัพย์ หน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์สองร้อยปี หน้าโรงหนังเมเจอร์รังสิต แล้วย้อนกลับมาที่สี่แยกบางคูวัดเหมือนเดิมโดยจะใช้เวลาทั้งวันในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ตลอดเส้นทางมีคนออกมาร่วมกันบางตาเนื่องจากเป็นพื้นที่กลุ่มคนเสื้อแดง

จนกระทั้งเวลา 14.30 น. กลุ่มกปปส. ได้เคลื่อนเข้าเขตลำลูกกา ปรากฏว่าได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงนำโดยนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโก๊ะตี๋ มารวมตัวกันเพื่อขับไล่กลุ่ม กปปส.ทำให้ตำรวจ สภ.คูคต ต้องกันกลุ่มคนเสื้อแดงออกไป เพื่อไม่ให้เผชิญหน้า

อย่างไรก็ตามมีรถของโก๊ะตี๋รอดเข้าไปได้คันเดียวและเกิดปะทะกับกลุ่มกปปส. ทันใดนั้นเกิดเหตุการณ์ขว้างระเบิดปิงปองและมีเสียงปืนดังขึ้นทำให้คนเสื้อแดงถูกยิง 1 ราย ถูกสะเก็ดระเบิดปิงปอง 1 ราย และมีนักเรียนชายชั้นม.ปลาย ผ่านมาถูกสะเก็ดระเบิดปิงปอง 1 ราย ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลภูมิพลและโรงพยาบาลบีแคร์ ขณะเดียวกันมีรถตู้ของกลุ่มกปปส.ถูกยิงใส่หน้ารถ 1 คัน


การวางกำลัง กปปส.

นะโม ตัสสะ
1.ห้าแยกลาดพร้าว ตั้งเวทีเยื้องกองปราบ
ใช้การ์ดกระเบนธง และ เอ็มสิบหก (ขัช เตาปูน)
มวลชนจากนครศรีธรรมราช

2.แยกปทุมวัน เวทีตั้งหน้าหอศิลป์ หันหน้าไปม.จุฬา
มวลชนจากสงขลา ใช้การ์ดอาสาสมัคร มีจรัล สุวรรณเวลา แกนนำ

3.ราชประสงค์ เวทีหันหน้าไปประตูน้ำ
ณัฐพล ทีปสุวรรณ ดร.เสรี แกนนำ

4.อนุสาวรีย์ เวที ถ.พญาไท หันหน้าไปรพ.ราชวิถี
สุเทพ สาทิตย์ แกนนำ ใช้การ์ดของสุเทพ 250 คน มวลชนสุราษฎร์ธานี

5.แยกอโศก มวลชนนศ.ราม ศิษย์เก่าราม นิด้า
มวลชนจากภาคตะวันออก มีสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ แกนนำ

6.สวนลุม สาธิต เซกัล วิทยา แก้วภราดัย แกนนำ
ใช้การ์ดทับหลวง มวบชน ชาวสีลม นักธุรกิจ

7.หลักสี่ ปิดศูนย์ราชการ ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำ
ปิด กะเวลาชุมนุม5วัน

2-8-61 เจ้าค่ะ

" ทบ.จัด 40 กองร้อยตามคำขอรัฐ ย้ำห้าม ปชช.เจ็บ ซัด “ทนายแม้ว” ไม่"สร้างสรรค์


5 เสือ ทบ.ถกพร้อม มทภ.1 วางมาตรการรับชัตดาวน์ กทม.ใช้ทหาร 40 กองร้อย หนุนตร.ตามคำขอ ศอ.รส.ดูความปลอดภัยที่ราชการไม่พกอาวุธ ครึ่งหนึ่งเป็นชุดปฐมพยาบาล ห้ามปชช.เจ็บ รองโฆษก ทบ.รับ กองทัพฟังทุกคำวิจารณ์ แต่ “อัมสเตอร์ดัม” ไม่สร้างสรรค์ อคติ ไม่วิจารณ์โดยสุจริต มีนัยยะทำลายความเชื่อมั่น เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา ยัน หนุน ปชต.ปฏิบัติหน้าที่ตาม รธน.ย้อนเหตุในอดีตใช้ความรุนแรงต่างปัจจุบัน ถึงใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันนี้ (10 ม.ค.) ที่กองบัญชาการทหารบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชากรรทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) พล.อ.อักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) และ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ประชุมเพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันที่ 13 มกราคมนี้ ที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) โดยทาง พล.ท.ธีรชัย ได้สรุปถึงแผนการใช้กำลังทหาร 40 กองร้อยที่จะสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคำร้องของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ซึ่งรูปแบบการใช้กำลังทหารจะออกมารักษาความปลอดภัยในสถานที่สำคัญ สถานที่ราชการในเชิงสัญลักษณ์ และทหารทั้งหมดจะไม่มีการพกอาวุธ โดยการบรรจุกำลังครึ่งหนึ่งจะเป็นรูปแบบทหารเสนารักษ์ใส่ปลอกแขนกาชาด พร้อมพกชุดปฐมพยาบาล เปลสนาม เพื่อคอยช่วยเหลือประชาชนหากเกิดเหตุ และชุดปฏิบัติการจิตวิทยา (ปจว.) และปัจจัยที่สำคัญทั้งหมดต้องไม่ให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมในวันที่ 13 มกราคมนี้

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความชาวต่างชาติของคนเสื้อแดง เขียนแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “ชีวิตภายใต้ รัฐประหาร-การคุกคามประชาธิปไตยของกองทัพไทย” เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตนั้นว่า ปกติกองทัพยินดีรับฟังคำวิจารณ์ของทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมาโดยตลอด แต่เนื้อหาที่ นายโรเบิร์ต ได้เขียนแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ไม่สร้างสรรค์ ทำลายบรรยากาศแห่งความรักความสามัคคีขัดต่อแนวทางของประเทศในภาพรวม เป็นเพียงความเห็นตามมุมมองส่วนตัวที่มีทัศนคติเชิงลบต่อกองทัพเป็นทุนเดิม กองทัพบกมองว่าไม่ใช่เป็นคำวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต แต่เป็นคำกล่าวร้ายกล่าวหาที่ปราศจากข้อเท็จจริง มีอคติมุมมองที่คับแคบเกินไป และมีนัยยะแอบแฝง มุ่งทำลายความเชื่อมั่น ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อกองทัพ อาจเพียงเพื่อเอาใจและตอบสนองคนเฉพาะกลุ่มที่มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อทหาร

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า คนไทยทุกคนตระหนักดีว่าระบอบประชาธิปไตยจะพัฒนาได้ต้องเกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ฝ่ายการเมือง ส่วนราชการ ที่ผ่านมาประเทศไทยมีพัฒนาการในเรื่องนี้มาโดยตลอด สำหรับกองทัพได้มีบทบาทและจุดยืนในการที่จะสนับสนุนให้ระบอบประชาธิปไตยเดินหน้ามาเป็นลำดับ หากกองทัพไม่มีผู้บังคับบัญชาที่มีภาวะผู้นำ และมีกำลังพลที่มีคุณภาพ คงไม่สามารถเป็นสถาบันที่สนับสนุนให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าถึงทุกวันนี้ ในปัจจุบันกองทัพก็ยังคงดำรงบทบาทตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ สนับสนุนทุกภาคส่วนในการสร้างความสงบเรียบร้อย ดูแลประชาชน และให้การสนับสนุนการบริหารบ้านเมืองของทุกรัฐบาล ปฏิบัติหน้าที่ด้วยเป็นธรรม ตรงไปตรงมา การที่จะปฏิบัติอะไรมีการพิจารณาอย่างรอบด้านทุกมิติ ปัจจุบันความรู้สึกของสังคมเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว ซึ่งกองทัพให้ความระมัดระวังมาตลอด อย่าปรักปรำมองว่ากองทัพได้วางเฉยหรือไม่ช่วยปกป้องรัฐบาล อาจสืบเนื่องจากเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากเหตุที่มีกระแสข่าวว่ากองทัพไม่สนับสนุนให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือใช้กำลัง ทหารเข้าดูแลผู้ชุมนุมเหมือนเมื่อเหตุการณ์ในอดีตปี 53 ที่มีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมีทหารเป็นผู้ปฏิบัติหลัก

“เหตุการณ์ในอดีตมีลักษณะโดยรวมต่างจากปัจจุบัน เหตุการณ์ในอดีตจะมีข้อมูลการใช้ความรุนแรงที่เกิดจากบุคคล หรือกลุ่มคนที่ไม่หวังดีได้ใช้อาวุธสงคราม และระเบิดกระทำต่อบุคคล สถานที่ราชการ และระบบสาธารณูปโภค อย่างกว้างขวางในหลายจุดหลายพื้นที่จำนวนหลายเหตุการณ์ด้วยกัน ก่อนนำไปสู่การพิจารณาขอยกระดับการใช้กฎหมายเริ่มจาก พ.ร.บ.ความมั่นคง และตามด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามจำนวนครั้งความถี่ที่ปรากฏเหตุ และตามระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้น แต่สำหรับสถานการณ์ในครั้งนี้ต่างเหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบันมีปรากฏอยู่บ้าง ซึ่งผู้รับผิดชอบโดยตรงคือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการสืบหาผู้กระทำผิดมาเข้ากระบวนการ เพื่อให้สังคมกระจ่างชัดหายข้อข้องใจจะได้ไม่ป้ายสีกันไปมา หรือไปคาดเดากันเองจนเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมความขัดแย้งให้รุนแรงขึ้น เพราะฉะนั้นเรื่องระดับการใช้กฎหมายจึงเป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ความสำคัญในการพิจารณาร่วมกันด้วยความระมัดระวัง เพราะถ้าใช้ระดับของกฎหมายสูงเกินจำเป็นหรือไม่สอดคล้องต่อสภาพที่เหมาะสมต่อความเป็นไปของสถานการณ์อาจส่งผลลัพธ์กลับมาในทางตรงข้าม เป็นผลลบต่อภาพรวมของการแก้ปัญหาได้”

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า ด้วยความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ภายใต้หลักความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้พยายามให้ความคิดเห็นในมุมมองของกองทัพเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ไม่ใช่การข่มขู่ใครอย่างที่นำเสนอ เจตนาเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องส่วนต่างๆ ได้มีไว้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเรื่องที่ละเอียดอ่อนด้วยความระมัดระวัง สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าความคิดเห็นดังกล่าวเป็นประโยชน์หรือไม่” พ.อ.วินธัย กล่าว

พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ปี 53 สังคมไทยรู้จักนายโรเบิร์ตดีว่ามีพื้นฐานอย่างไร มีบทบาทสนับสนุน และมีการเคลื่อนไหวทางด้านการเมืองอย่างไร ในบางโอกาสยังสร้างความสับสนให้กับสังคมไทยอีกด้วย ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ข้อเขียนดังกล่าวนอกจากจะไม่ได้ส่งผลดีต่อสถานการณ์ของประเทศแล้วยังสร้างความสับสนเพื่อปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังกันไม่เหมาะต่อสถานการณ์ และจากพฤติกรรมดังกล่าวอาจเป็นเหตุเป็นผลอันสมควรที่กองทัพบกจะปฏิเสธตัวตนนายโรเบิร์ต และน่าจะให้เป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของกองทัพ

“หมอพรทิพย์” นำกลุ่มพระปกเกล้า เสนอเลื่อนเลือกตั้งแล้วปฏิรูป

(10 ม.ค.) พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะตัวแทนกลุ่มรวมพลังศรัทธา นักศึกษาหลักสูตร ปปร.รุ่นที่ 17 สถาบันพระปกเกล้า ออกจดหมายเปิดผนึกถึงพี่น้องชาวไทยทุกคนเพื่อหยุดการขัดแย้งกันในขณะนี้ หลังกลุ่ม กปปส.จะร่วมกับเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งภาคประชาชน เอกชน ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะและความสูญเสีย โดยเห็นว่า
1.การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ไม่สามารถแก้ปัญหากระบวนการประชาธิปไตย และจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ เช่น 28 เขต ไม่สามารถรับสมัครเลือกตั้ง ทำให้จำนวน ส.ส.ไม่ถึงร้อยละ 95 ตามรัฐธรรมนูญกำหนด
2.แม้รัฐบาลจะรักษาการได้ 180 วันก่อนการเลือกตั้ง ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่ในทางปฏิบัติก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง
3.ข้อเสนอการตั้งสภาประชาชนและการขอนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 ของ กปปส.ยังมีความคลุมเครือของข้อกฎหมายที่ยังเป็นข้อขัดแย้งและการต่อต้านจากหลายฝ่าย
ทั้งนี้ เพื่อถอดชนวนความรุนแรงจึงขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปโดยไม่มีกำหนด พร้อมวางกลไกปฏิรูปการเมือง แก้กฎหมายที่เป็นปัญหาด้วยการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม เอาความสงบมั่นคงของชาติเป็นที่ตั้ง จึงขอให้ประชาชนร่วมกันพิจารณาข้อเท็จจริงเหล่านี้ เพื่อเรียกร้องหาทางออกที่ชอบธรรม.

การด์คปท.รวบตร.ทำเนียบเมา


เมื่อเวลา 14.30น. ที่ทำเนียบฯ เกิดเหตุตำรวจ 2 นาย และทหาร (นอกเครื่องแบบ) 1 นาย มีอาการเมาสุรา ทราบภายหลังว่า เนื่องจาก ตร.ที่อยู่ในทำเนียบฯ เป็นเพื่อนกับทหารดังกล่าว พากันไปดื่มเหล้าที่แฟลตทหาร ประมาณ 3 ขวด ก่อนจะกลับมาที่สะพานอรทัย เมื่อพบเห็นการ์ด คปท. จึงเข้าทำร้ายโดยการจะผลักให้ตกน้ำแต่การ์ด คปท. ใช้มือดึง จนท.ไว้จึงถูกรุมในลักษณะ 3 รุม 1 จากนั้น ตร.1 นายวิ่งเข้าไปในทำเนียบฯ ส่วนตร.1 และทหาร 1 นาย ได้ขับขี่ จยย. ออกไปทางแยกนางเลิ้งจึงถูก การ์ด คปท. ควบคุมตัวไว้ ทราบชื่อภายคือ จ.ส.อ.หนูแหวน คึมยราช และ ด.ต.รัศมี คล่องดี ผบ.หมู่.ป.ภ.จ.มุกดาหาร เบื้องต้นทางทนาย ของ คปท.ได้ติดต่อไปยัง ผบช.ของ จนท. ดังกล่าวและได้คำตอบว่าให้บุคคลดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนและนำผู้กระทำผิดไปแจ้งความต่อ สน.นางเลิ้ง ส่วนผู้บาดเจ็บ (สลบ)นำส่ง รพ.รามาธิบดีเรียบร้อย อีกนายยังอยู่ในทำเนียบ ฯ ยังไม่มีการมอบตัวแต่อย่างใด (ยังไม่ทราบชื่อ) เวลา16.30น. ทนายความและการ์ด คปท.ควบคุมตัว ตร.และทหาร 2 นายที่เมาสุราก่อเหตุทำร้ายการ์ด คปท. จนสลบไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.นางเลิ้ง

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ:"ได้กลิ่นอื่นที่ไม่ใช่ปชต."ลอยมาแล้ว


-ผมเกริ่นไว้ว่า เมื่ออำนาจบริหารและนิติบัญญัติไม่ทำงาน อำนาจตุลาการกำลังพยุงให้ปชต.ของไทยเดินไปให้ได้ และให้จับตาการวินิจฉัยของศาลฎีกา กรณีผู้สมัคร28คน ขอให้ศาลคุ้มครอง
-ขณะนี้ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วว่า เป็นอำนาจของกกต.ที่จะดำเนินการ กระบวนการยังไม่อยู่ในอำนาจศาลฎีกา จึงชัดว่า การลต.2กพ.ไม่สามารถมีส.ส.ครบ95% ทำให้เปิดสภาไม่ได้ เป็นผลให้เลือกนายกฯไม่ได้ ทำให้นายกฯยิ่งลักษณ์ รักษาการณ์ไปเรื่อยๆ ไม่มีระยะเวลาสิ้นสุด อีกทั้งวุฒิสภาก็ไม่สามารถถอดถอนส.ส./สว.ที่ลงมติแก้ไขรธน.เพราะน่าจะมีสว.ทำผิดเกินครึ่งหนึ่ง จึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้เพราะตนเองมีส่วนได้เสีย องค์ประชุมจึงไม่ครบ ถอดถอนใครไม่ได้
อำนาจตุลาการใช้กำลังเต็มที่แล้ว แต่อำนาจบริหาร+นิติบัญญัติ ที่ถ่วงอยู่นั้นมันหนักเกินกำลังของฝ่ายตุลาการ เครื่องยนต์นี้ร้อนเกินกำลังแล้ว(over heat)
*ผมได้กลิ่นประชาธิปไตยอย่างเจือจาง แต่มีกลิ่นอื่นลอยมาแตะจมูก*
 — ที่ บ้าน

เพจแดงโพส "เงาเทพเจ้า"ฝ่ายม็อบกปปส.โดนเช็คบิล

(10/1/57)เพจแดง Red Intelligence  โพส ว่า
///
เมื่อ เงา เทพเจ้า โดนเช็คบิล // Thor 

เวลาประมาณ 14.30 น. ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุ 241 ท้องที่ สภ.บางคนที จึงได้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุพบศพนายพรหมพันธ์ เจริญจวง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.6 ต.กระดังงา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ถูกอาวุธปืนลูกซองยิง มีบาดแผลที่ด้านหลังชายโครงข้างขวา นอนเสียชีวิตอยู่บนถนนสายราชบุรี-วัดโบสถ์ โดยมีรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1 กก 9563 ราชบุรี ซึ่งเป็นรถของผู้เสียชีวิตล้มอยู่ ภายในตัวพบเงินสดจำนวน 12,000 บาทและรายการอื่นๆอยู่ครบถ้วน ในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 4 ปลอก จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตายมีอาชีพรับจ้างทวงหนี้นอกระบบและรับจ้างเฝ้าสวนในเขต อ.สวนผึ้ง จว.ราชบุรี จะได้ทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




Wow wow wow!!!! เจ๊ปอง...


"แพรว" ฉบับนึ้ขายกระฉูด มี
"เจ๊ปอง อัญชลี ไพรีรัก" ในโฉมสาวมาดเข้ม สุดเท่ห์ เดินอยู่กลาง มวลมหาประชาชน ราชดำเนิน ให้ตกตะลึงในความงาม... เจ้ปอง เคยเป็นนักข่าวช่อง 7 เคยมาทำข่าวสายทหาร อยู่ช่วงหนึ่ง พี่แก สุดห้าว มาตั้งแต่ตอนนั้น แล้ว ไม่เคยกลัวใคร เป็นสาวมั่นสุดๆ ตอนนั้น วาส ยังเป็นวุ้นอยู่เลย เพิ่งเริ่มทำข่าว พี่ปอง แกมีพรสวรรค์ในการพูด การคิด ...จนพี่แก ออกจากวงการข่าว มาอยู่กลุ่มพันธมิตรฯ จนที่สุด มาเป็น เจ้ปอง ของ มวลมหาประชาชน ที่การพูดดึงดูด ผู้คนให้จดจ่อตั้งใจฟังได้เสมอ ลุยทุกที่ ไม่ว่าจะเหนื่อยจะร้อนแค่ไหน โดยไม่สนใจกับความงาม ไม่แต่งหน้าใดๆ ทุกคนรอคอยเวลาที่พี่แก จะขึ้นเวที พี่แกไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร...นี่ เป็นหนทางที่ พี่ปอง ได้เลือกแล้ว และถือ เป็น My Way ของ เจ๊ปอง จริงๆ...


เปิดแผนวิเคราะห์ ศอ.รส. ประเมิน 2 ยุทธศาสตร์แกนนำ "ม็อบเทือก" ชัตดาวน์กรุงเทพฯ 13 ม.ค.นี้

10 ม.ค. 2557 เวลา 15:47:19 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ฝ่ายการข่าวศอ.รส. ได้วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์แผนกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จะเดินทางพามวลชนปิดกรุงเทพมหานคร ในวัจันทร์ที่ 13 ม.ค. ไว้ทั้งหมด 2 แนวทาง

รายงานข่าวจากศอ.รส. เผยว่า โดยแนวทางที่ 1 กลุ่มผู้ชุมนุมปิดแยกต่างๆ โดยที่แกนนำมีความประสงค์ต้องการให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมดังกล่าว คาดว่าไม่เกิดความรุนแรง

ส่วนแนวทางที่ 2 คาดว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะสร้างสถานการณ์ให้มีการแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้อาวุธที่ขโมยมามายิงผู้ชุมนุมจากมุมสูง ซึ่งนายสุเทพมีความคุ้นเคยจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเดือนเมษายนปี 2553 ซึ่งยุทธวิถีการขโมยปืนดังกล่าวมีลักษณะคล้ายการปล้นปืนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจนำปืนลูกซองกระสุนยางมาใช้จะถูกสวมรอย และหากเป็นการสังหารแกนนำ คปท. จะสร้างอารมณ์ของการ์ด ที่พร้อมใช้ความรุนแรงขึ้นทันที ซึ่งการ์ดของผู้ชุมนุมจะทำการต่อสู้เกิดการสูญเสีย โดยวิธีการเข้าทำลายหรือเผาอาคารสถานที่โดยเฉพาะศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่หมายสุดท้ายที่เพิ่งประกาศปิด ถือเป็นลักษณ์ของราชการแสดงว่ารัฐล้มเหลว ลักษณ์คล้ายเหมือนเหตุการณ์ 911 ทำให้รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ แล้วทำให้ทหารทำการปฏิวัติในที่สุด

ส่วนกรณีที่แกนนำกปปส. จะนำวิธีการมาใช้ปลุกเร้าหน้าเวทีนั้น คาดว่าคงจะมีการพูดถึงกรณีเจ้าหน้าที่จะใช้กระสุนจริงและยิงจากมุมสูง กรณีที่กลุ่มคปท. ปะทะเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.55 รวมถึงกรณีที่การ์ดคปท.เสียชีวิต 1 ราย บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.55 และกรณีการเสียชีวิตของนักษารามคำแหง ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมหัวรุนแรง การ์ดคปท.เสียชีวิต บาดเจ็บ โกรธแค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงมีการใช้ภาพตำรวจบนตึกกระทรวงแรงงานถูกนำมาตีความปลุกเร้าให้ความหมายการยิงจากมุมสูง เป็นกระสุนจริง และนำกรณีที่ตำรวจเสียชีวิตมาพูด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เกิดความไม่พอใจ



ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

แถลงการณ์ เครือข่าย '2เอา 2ไม่เอา' ค้านรัฐประหาร-ความรุนแรง


 


"เครือข่าย 2 เอา 2 ไม่เอา" ออกแถลงการณ์ คัดค้านการรัฐประหาร การใช้ความรุนแรง หนุนวิถีประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้เคารพการใช้สิทธิเลือกตั้ง ให้นำไปสู่การแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติ

"เครือข่าย 2 เอา 2 ไม่เอา"  ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มองค์กรและบุคคลต่างๆ ออกแถลงการณ์ โดยระบุว่า ท่ามกลาง ถึงภาวะวิกฤตการเมืองที่มีแนวโน้มจะนำไปสู่ความรุนแรงระหว่างกลุ่มต่างๆ และการรัฐประหาร  รวมทั้งทำลายโอกาสในการปฎิรูปประเทศบนวิถีทางประชาธิปไตย พวกเรา "เครือข่าย 2 เอา 2 ไม่เอา" วิตกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ จึงมีจุดยืนและข้อคิดเห็นต่อประชาชนทุกฝ่าย ดังต่อไปนี้ 
1.คัดค้านการรัฐประหาร 
2. คัดค้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ
3.เคารพการใช้สิทธิเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ
4.สนับสนุนการปฏิรูปบนวิถีทางประชาธิปไตย



พระบรมฯทรงชมหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ ที่ชนะเลิศการแข่งหน่วยทหารทรหด ประจำปี 2557

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชกระแสชมเชย หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ ที่ชนะเลิศการแข่งหน่วยทหารทรหด ประจำปี 2557
วันที่ 28 ธ.ค. 2013 เวลา 20:05 น. 
วันนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศโท ภักดี แสงชูโต รองหัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นผู้แทนพระองค์ ไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต อัญเชิญพระราชกระแสชมเชยกำลังพลหน่วยทหารมหาดเล็กฯ ในโอกาสที่ประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันหน่วยทหารทรหดของกองทัพบก ทั้งในประเภททีมและประเภทบุคคล ประจำปีพุทธศักราช 2557
              
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราชกระแสชมเชย แก่กำลังพลที่เข้าร่วมการแข่งขัน ตลอดจนผู้บังคับบัญชา โดยสรุปความว่า ทรงยินดีและชื่นชมกำลังพลหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการเข้าแข่งขันทหารทรหดในครั้งนี้
              
ความสำเร็จในครั้งนี้ ได้สร้างความดีงามและชื่อเสียงให้กับหน่วยเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถ ความตั้งใจ และระเบียบวินัย ตลอดถึงทัศนคติอันดีเลิศของหน่วย นับได้ว่าเป็นการสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศให้กับหน่วยเป็นอย่างยิ่ง
              
นับตั้งแต่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานกำเนิดหน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในปีพุทธศักราช 2411 หรือที่เรียกว่า มหาดเล็กไล่กา ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมุฎราชกุมาร ทรงดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับการกรมในหน่วยทหารมหาดเล็กฯ มาตามลำดับต่อมาได้พระราชทานกำเนิด หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ยุคใหม่ขึ้น โดยพระราชทานนามว่า "ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์" มีหน้าที่ถวายอารักขาถวายพระเกียรติ และถวายงานพระบรมวงศานุวงศ์ในราชสำนัก เป็นหน่วยที่มีคุณภาพและมีความจงรักภักดีสูง มีทัศนคติที่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการศึกษาทั้งวิชาทหารและขนบธรรมเนียมประเพณี กริยามารยาทราชสำนัก โดยยึดถือการปกครองบังคับบัญชาตามพระราโชบายอย่างเคร่งครัด
  
ในการนี้ กำลังพลหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จึงได้พร้อมใจกันกล่าวคำปฏิญาณตนของทหารมหาดเล็กฯ และสเจฯ เพื่อยืนยันถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันจนกว่าชีวิตจะหาไม่

ศาลอาญายกคำร้องDSIขอให้เร่งเพิกถอนประกันอดีตแกนนำพธม.

            วันนี้ที่ 10 มกราคม 2557 เวลา 13:00 นาฬิกาพันตำรวจเอกทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล พนักงานสอบสวนของดีเอสไอ ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขอให้ศาลอาญาเร่งพิจารณาไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนการประกันตัวของอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม. มี
           
         นายพิภพ ธงไชย, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายสมเกียติ พงษ์ไพบูลย์, นายรัชต์ยุตม์ หรือ นายอมรเทพ ศิรโยธินภักดี หรือ อมรรัตนานนท์, น.ส.อัญชะลี ไพลีรัก, นายพิชิต ไชยมงคล, พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์, ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ

           ที่พนักงานสอบสวนอ้างว่า ได้ฝ่าฝืนข้อห้ามของศาลอาญาที่อนุญาตให้ประกันอย่างชัดเจน ด้วยการร่วมกันเป็นแกนนำชุมนุมสร้างความไม่สงบและความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเฉพาะการนำพาฝูงชนไปปิดล้อมบุกรุกสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งการปลุกระดมให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมายแผ่นดิน อันล้วนเป็นความผิดต่อกฎหมายอาญาทั้งสิ้น

          เรื่องนี้พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2556 และศาลอาญาได้มีคำสั่งแล้วว่า ให้นัดไต่สวนคำร้องของพนักงานสอบสวนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557

           วันนี้ศาลอาญา มีคำสั่งว่า ให้ยกคำร้อง โดยให้ยืนยันตามคำสั่งเดิมคือให้นัดไต่สวนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557

ยกแรก..ทบ.-เสื้อแดง

  • กองทัพบก ฉะ "โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม" ทนายฝรั่งเสื้อแดง วิจารณ์ไม่สร้างสรรค์ โจมตีทหาร หวังรัฐประหาร คุกคามประชาธิปไตย เป็นการทำลายบรรยากาศแห่งความรักความสามัคคีขัดต่อแนวทางของประเทศในภาพรวมมีทัศนคติเชิงลบต่อกองทัพ กล่าวร้าย ทำลายความเชื่อมั่น ศรัทธาที่ปชช.มีต่อกองทัพ เพื่อเอาใจบางคน บางกลุ่ม ยันกองทัพ ผบทบ.ให้ความระมัดระวังมาตลอด เรื่องจุดยืนขออย่าปรักปรำมองว่ากองทัพได้วางเฉยหรือไม่ช่วยปกป้องรัฐบาล ยัน เหตุการณ์ปี2553 กับตอนนี้ แตกต่างกัน

    พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ. กล่าวถึงกรณีที่ นาย โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความชาวต่างชาติ ได้เขียนแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ“ชีวิตภายใต้ รัฐประหาร-การคุกคามประชาธิปไตยของกองทัพไทย”เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตนั้น

    "ขอเรียนว่า โดยปกติกองทัพยินดีรับฟังคำวิจารณ์ของทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมาโดยตลอด แต่เนื้อหาที่นาย โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ได้เขียนแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ ไม่สร้างสรรค์ ทำลายบรรยากาศแห่งความรักความสามัคคีขัดต่อแนวทางของประเทศในภาพรวม"

    รองโฆษก ทบ.มองว่า เป็นเพียงความเห็นตามมุมมองส่วนตัวที่มีทัศนคติเชิงลบต่อกองทัพเป็นทุนเดิม กองทัพบกมองว่าไม่ใช่เป็นคำวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต แต่เป็นคำกล่าวร้าย กล่าวหาที่ปราศจากข้อเท็จจริง มีอคติมุมมองที่คับแคบเกินไป และมีนัยยะแอบแฝง มุ่งทำลายความเชื่อมั่น ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อกองทัพ อาจเพียงเพื่อเอาใจและตอบสนองคนเฉพาะกลุ่มที่มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อทหาร

    รองโฆษก ทบ.กล่าวว่า คนไทยทุกคนตระหนักดีว่า ระบอบประชาธิปไตยจะพัฒนาได้ต้องเกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน, ฝ่ายการเมือง ส่วนราชการ ที่ผ่านมาประเทศไทยมีพัฒนาการในเรื่องนี้มาโดยตลอด 

    สำหรับกองทัพได้มีบทบาทและจุดยืนในการที่จะสนับสนุนให้ระบอบประชาธิปไตยเดินหน้ามาเป็นลำดับ หากกองทัพไม่มีผู้บังคับบัญชาที่มีภาวะผู้นำ และมีกำลังพลที่มีคุณภาพ คงไม่สามารถเป็นสถาบันที่สนับสนุนให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าถึงทุกวันนี้ 
    ในปัจจุบัน กองทัพก็ยังคงดำรงบทบาทตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ สนับสนุนทุกภาคส่วนในการสร้างความสงบเรียบร้อย ดูแลประชาชน และให้การสนับสนุนการบริหารบ้านเมืองของทุกรัฐบาล ปฏิบัติหน้าที่ด้วยเป็นธรรม ตรงไปตรงมาการ การที่จะปฏิบัติอะไรมีการพิจารณาอย่างรอบด้านทุกมิติ ปัจจุบันความรู้สึกของสังคมเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว ซึ่งกองทัพให้ความระมัดระวังมาตลอด อย่าปรักปรำมองว่ากองทัพได้วางเฉยหรือไม่ช่วยปกป้องรัฐบาล อาจสืบเนื่องจากเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากเหตุที่มีกระแสข่าวว่ากองทัพไม่สนับสนุนให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือใช้กำลัง จนท.ทหารเข้าดูแลผู้ชุมนุม เหมือนเมื่อเหตุการณ์ในอดีตปี 53 ที่มีการใช้ พ.ร.ก.ฯและมี ทหารเป็นผู้ปฎิบัติหลัก

    ขอเรียนว่าเหตุการณ์ในอดีตมีลักษณะโดยรวมต่างจากปัจจุบัน เหตุการณ์ในอดีตจะมีข้อมูลการใช้ความรุนแรงที่เกิดจากบุคคลหรือกลุ่มคนที่ไม่หวังดี ได้ใช้อาวุธสงคราม และระเบิดกระทำต่อ บุคคล สถานที่ราขการ และระบบสาธารณูปโภค อย่างกว้างขวางในหลายจุดหลายพื้นที่จำนวนหลายเหตุการณ์ด้วยกัน ก่อนนำไปสู่การพิจารณาขอยกระดับการใช้กฎหมายเริ่มจาก พ.ร.บ.ฯ และตามด้วย พ.ร.ก.ฯ ตามจำนวนครั้งความถี่ที่ปรากฏเหตุและตามระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้น 

    แต่สำหรับสถานการณ์ในครั้งนี้ต่างเหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบันมีปรากฏอยู่บ้าง ซึ่งผู้รับผิดชอบโดยตรงคือทาง ตร. กำลังเร่งดำเนินการสืบหาผู้กระทำผิดมาเข้ากระบวนการ เพื่อให้สังคมกระจ่างชัดหายข้อข้องใจจะได้ไม่ป้ายสีกันไปมา หรือไปคาดเดากันเองจนเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมความขัดแย้งให้รุนแรงขึ้น ฉะนั้นเรื่องระดับการใช้กฎหมายจึงเป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ความสำคัญในการพิจารณาร่วมกันด้วยความระมัดระวัง เพราะถ้าใช้ระดับของกฎหมายสูงเกินจำเป็นหรือไม่สอดคล้องต่อสภาพที่เหมาะสมต่อความเป็นไปของสถานการณ์ อาจส่งผลลัพธ์กลับมาในทางตรงข้าม เป็นผลลบต่อภาพรวมของการแก้ปัญหาได้ ด้วยความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ภายใต้หลักความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง ผบ.ทบ.ได้พยายามให้ความคิดเห็นในมุมมองของกองทัพเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ไม่ใช่การข่มขู่ใครอย่างที่นำเสนอ เจตนาเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องส่วนต่างๆ ได้มีไว้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเรื่องที่ละเอียดอ่อนด้วยความระมัดระวัง สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าความคิดเห็นดังกล่าวเป็นประโยชน์หรือไม่

    นับตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ สังคมไทยรู้จัก นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ดีว่า มีพื้นฐานอย่างไร มีบทบาทสนับสนุน และมีการเคลื่อนไหวทางด้านการเมืองอย่างไร ในบางโอกาสยังสร้างความสับสนให้กับสังคมไทยอีกด้วย ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ข้อเขียนดังกล่าวนอกจากจะไม่ได้ส่งผลดีต่อสถานการณ์ของประเทศแล้ว ยังสร้างความสับสนเพื่อปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังกันไม่เหมาะต่อสถานการณ์ และจากพฤติกรรมดังกล่าวอาจเป็นเหตุเป็นผลอันสมควรที่กองทัพบกจะปฏิเสธตัวตน นาย โรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม และน่าจะให้เป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของกองทัพ"

กดปุ่มผิด ติดคุกได้


"แค่ผมไม่ได้พูดแบบเดียวกับประชาธิปัตย์ หรือคุณสุเทพ ผมกลายเป็นถูกทักษิณซื้อ เป็นนกสองหัว เหยียบเรือสองแคมอย่างนั้นหรือ?”

ผมยังจำวันที่โหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ดี เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ที่นั่งของผม อยู่ติดกับคุณวิรัตน์ กัลยาศิริ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นผู้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วันนั้น คุณวิรัตน์ได้กรุณาถามผมว่า "ชูวิทย์จะโหวตอย่างไร?” ผมตอบว่า "ผมโหวตไม่เห็นด้วย" แกพยักหน้าบอกว่า "ตัดสินใจได้ดี"

และแล้ววันก่อน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากชี้ขาดการแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดมาตรา 68 ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ อีกทั้ง หลายวันก่อน ปปช. แจ้งข้อกล่าวหา ส.ส. และ ส.ว. 308 คน ที่โหวตสนับสนุนร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มาของส.ว.

ทั้งสองเรื่อง ผมโหวตตามประชาธิปัตย์ เพราะผมไม่เห็นด้วย

ตรวจดูสิครับมีชื่อผมหรือเปล่า? หากมีป่านนี้คงนอนเอาเท้าก่ายหน้าผาก คุณไม่ได้มาเป็นผมไม่รู้หรอกว่า นั่งอยู่ในสภาฯมันอันตรายแค่ไหน เพียงกดปุ่มผิดไปนิดเดียวมีสิทธิ์ติดคุกได้ ใครพลาด ขาข้างหนึ่งเหยียบเข้าไปในคุกเสียแล้ว

หลายครั้งที่ผมโหวตตามพรรคประชาธิปัตย์ มีทั้งกดปุ่มไม่เห็นด้วย วอร์คเอาท์ และงดออกเสียง โดยเฉพาะร่างพรบ.นิรโทษกรรม

ส่วนบางเรื่อง ผมเห็นต่างกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะผมมีจุดยืนของผมเหมือนกัน

จะให้ผมโหวตเหมือนพรรคประชาธิปัตย์ทุกเรื่อง แล้วคุณจะมาเลือกผมทำไม? สู้ไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์เสียเลยไม่ดีกว่าหรือ?

ลูกผู้ชายชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน คนอย่างผมศอกนักข่าว ผมผิด ผมขอโทษ ผมทนไม่ไหว ผมชกผิดคน ผมขอโทษ ผมรับผิด อยากให้เขาชกผมกลับเสียด้วยซ้ำ สัญญาว่าลาออกผมก็ออก ไม่เคยผิดคำพูด

แล้วจะเอาอะไรกับผมมากกว่านี้อีก?


เคลื่อนไหวทหาร09/1/57

เคลื่อนไหวทหาร

นะโม ตัสสะ
22:28
XXXX
เรียนคุณนะโม มีคำสั่งให้กำลังทหารเข้าไปเสริม ตามจุดต่างๆ ที่ตำรวจเฝ้าอยู่ ทั้งของ ลพบุรีก็มาแล้ว ปืนใหญ่ลพบุรี อยู่วิทยุการบิน ที่เดียวกับXXX แล้วเมื่อกลางวัน มีทหารม้า เพิ่มเข้าไปอีก 1 กองร้อยครับผม

22:30
นะโม ตัสสะ
จริงๆแล้วเอามาประกบตำรวจรึป่าว เจ้าคะ

22:30
XXXX
ส่วนที่กอ.รมน.แจ้งมา เชื่อว่ามีภารกิจปฏิวัติ แฝงแน่นอน แต่ก็ยังยืนยันมาว่าอยู่ข้างรัฐบาล และประยุทธเองได้ขอร้อง ให้นายก สั่งเสื้อแดงว่าอย่าออกมา แต่นายกไม่รับปากครับผม

/////////
Paisal Puechmongkol
หน้าต่างมีหูประตูมีตา ฟ้ายิ่งใหญ่ ดินยั่งยืน ธรรมะย่อมชนะอธรรม!!!
ไอ้โม่งคิดการใหญ่ หลังจากประตูนิรโทษ ประตูแก้รัฐธรรมนูญ ประตูปล้นเงิน ๒ ล้านล้านบาทปิดตาย และมีคดีตามมาเป็นพรวน เหลือทางออกทางเดียว ที่ผู้มีปัญญาย่อมทราบว่าจะไปทางไหน ดอดแอบไปหารือ กกต บางคน ว่าถ้าปูประกาศฉุกเฉิน จะสั่งปลดย้ายนายทหารใหญ่ ๓-๔ คนแล้วเอาขี้ข้าสวมตำแหน่งแทนได้ไหม คำตอบคือระหว่างยุบสภาย้ายไม่ได้ เพราะกฎหมายบัญญัติให้ต้องขออนุญาต กกต ก่อน
ยังหน้าด้านแหยมต่ออีกว่า ถ้าให้ กกต สัก ๒ คน ลงนามอนุญาตได้หรือไม่ คำตอบว่าไม่ได้ เพราะ กกต หมายถึง กกต ทั้ง ๕ คน จึงมีเสียงบ่นว่าถ้าให้ กกต ทั้ง ๕ คนประชุมพิจารณาพวกทหารก็รู้แล้วจะยุ่ง
นักการเมืองโม่งมันคิดอะไร ?
-มันเกี่ยวกับการเตรียมประกาศฉุกเฉินเพื่อปราบปรามประชาชนหรือไม่
-มัน เกี่ยวกับการระดมตำรวจ ๘๐,๐๐๐ คน ที่ไม่รู้ว่ามีตำรวจรับจ้างหรือตำรวจปลอมเท่าไหร่เข้ากรุงเทพ พร้อมอาวุธสำคัญและยุทโธปกรณ์หนักเข้ากรุงเทพหรือเปล่า
-มันเกี่ยวกับคำแถลงของ ผบ.ทบ. ที่ว่าถ้า"เอา...เข้ามา แล้วเกิดความรุนแรง รัฐบาลต้องรับผิดชอบ"หรือไม่
- และเกี่ยวกับการจัดโชว์วันเด็กและสวนสนามพิเศษหรือไม่
พิเคราะห์แล้วเห็นว่าหมากกระดานนี้ หมากกำลังเข้าตากลบังคับ ที่นักการเมืองต้องเสี่ยงปฎิวัติตัวเองเพียงทางเดียว และเส้นทางนี้คือเส้นทางที่ถูกลิขิตแล้ว นักการเมืองเอย เจ้าปฏิวัติตัวเองไปเลย ๕๕๕
///////////
นะโม ตัสสะ
น้องนะโมครับ
คืนนี้ มีการขอรถด่วน 99 ของ บขส.เพื่อขนคนออกจากม๊อบเพื่อส่งกลับ น้องนะโมลองเช็คความเปลี่ยนแปลงดูนะครับ ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นคืนนี้
///////////////
23.25น.
นะโม ตัสสะ
บก.ทบ. ปกติ
กำลังไป มทภ1
ยางรถยนต์รอบม้อบ กับ บก.ทบ. เยอะมากเจ้าค่ะ
////////////

เตรียม ตกใจ !!!!....

เตรียม ตกใจ !!!!....
เช้าวันศุกร์10มค. จะมีรถเกราะ BTR-3 E1 จำนวน 4 คัน วิ่งไปบนถนน โดยตัวเอง ไม่ได้ขนด้วยรถชานต่ำ วิ่ง จาก ร. 11 รอ. บางเขน ไปเตรียมจัดแสดง ในงานวันเด็ก ที่ พล.ม 2รอ.สนามเป้า จำนวน 2คัน และวิ่งไปยัง บก.กองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ อีก 2 คัน. โดยเป็นรถเกราะ 4ใน19 คัน ที่ถูกขนด้วยรถชานต่ำ จาก พล.ร.2รอ.ปราจีนบุรี เพื่อมาเตรียมซ้อมสวนสนาม ยานยนต์ เนื่องในวันกองทัพไทย 18 มค. ก่อนหน้านี้ แต่มีคำสั่งให้ ไปวางจัดแสดงงานวันเด็ก ไปพลางก่อน ดังนั้น การซัอมสวนสนาม ทหาร พร้อมยานยนต์20กองพัน ที่ ราบ11 บ่ายวันศุกร์ ก็จะขาด รถเกราะ4 คันนี้ ร่วมด้วย แต่ยังมีอีก15 คัน ร่วมซัอม ครั้งแรก - Wassana Nanuam


เมื่อ"อเมริกา"หนาวกว่าดาวอังคาร

..อเมริกาเหนือ ประกอบด้วย อเมริกา แคนาดา เม็กซิโก ถูกแช่แข็ง
บางพื้นที่ บางรัฐ อุณหภูมิ ติดลบ 40 - 50 องศาเกิดจากลมหมุนวน
ในลักษณะ หมุนทวนเข็มนาฬิกา ด้วยความเร็วสูงบริเวณขั้วโลกเหนือ
..ซึ่งส่งผลให้อากาศหนาวเย็น ไปทั่วมหาสมุทร อาร์ติก พายุเกิดขึ้น
หลายลูกพร้อมกัน
..เกิดขึ้นผิดปกติ เพราะกระแสลม ของขั้วโลกเหนือ เกิดพัดเปลี่ยน
ทิศทาง พัดลงมาทางใต้ แทนที่จะพัดไปทางทิศเหนือ ทำให้อเมริกา
เหนือมีกาอาศหนาวเย็นกว่าดาวอังคาร