PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สถานการณ์ใต้

ฝ่ายความมั่นคงพบหลักฐานที่สามารถพิสูจน์อันน่าเชื่อถือว่าน่าจะมีข้อมูลสำคัญที่จะเป็น
ประโยชน์ต่องานความมั่นคงในส่วนทั้งของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในส่วนกลาง
Patani Viewers รายงานว่า
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 59 โฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีการเชิญบุคคลมาให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยช่วงแรกมีเชิญมา 14 คน ซึ่งส่วนใหญ่ จนท. ได้ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือและปล่อยตัวกลับบ้านไปแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 5 คน คือ ทั้ง 5 รายนี้ เบื้องต้นไม่พบว่ามีสถานะเป็นนักศึกษา ประกอบกับ จนท. พบว่า มีข้อพิสูจน์อันน่าเชื่อถือว่าน่าจะมีข้อมูลสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ต่องานความมั่นคงในส่วนทั้งของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในส่วนกลาง
ซึ่งหลังจากนี้คงจะเป็นไปตามกระบวนการซักถามเพิ่มเติมตามอำนาจทางกฎหมายของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป โดยเน้นการขอความร่วมมือเกี่ยวกับข้อมูลด้านความมั่นคงเป็นหลัก อาจยังไม่มีลักษณะปฏิบัติว่าบุคคลนั้นได้กระทำความผิดในชั้นนี้ ส่วนพฤติกรรมอื่นๆ ของบางบุคคลที่พบดูแล้วอาจเข้าข่ายผิดในขณะที่ จนท.ไปเชิญตัวนั้น จนท. อาจยังขอแยกไว้เป็นเรื่องรองก่อน
ขอให้มั่นใจ จนท. ได้ปฏิบัติทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวัง ส่วนผลที่ได้จากการซักถามข้อมูลจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องให้ จนท. ได้ทำงานภายใต้องค์ประกอบที่สมบูรณ์ก่อน บางบุคคลที่พบดูแล้วอาจเข้าข่ายผิด ในขณะที่ จนท.ไปเชิญตัวนั้น จนท. อาจยังขอแยกไว้เป็นเรื่องรองก่อน
รูปภาพ : หลักฐานที่ได้จากการบุกค้นเพิ่มเติม ของ 5 คน ที่เหลือ คือ นายตาลมีซี โตะตาหยง, นายมูฟตาดีน สาและ, นายอัมรีย์ หะ, นายนุรมัน อาบู, นายอุสมาน กาเด็งหะยี ซอย ฝ7 หมู่16 ตำบลบางเสาธง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
คำเตือน : ท่านใดมีเครื่องปรุงข้าวยำหรือเครื่องมือประกอบการทำข้าวยำ รีบนำออกจากห้องพักโดยด่วนครับ ขณะนี้เป็นวัตถุอันตรายสำหรับฝ่ายความมั่นคงแล้ว
Cr.Patani Viewers
---------------------------------------------------------------
Let us be the witnesses for peace in PATANI // ร่วมเป็นสักขีพยานเพื่อสันติภาพ ณ ปาตานี // Bersama kita menjadi saksi demi kedamaian di PATANI

สมาคมขนส่งทั่วไยจัดรถบัสรับปชช.ถวายความอาลัย

สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย สนองนโยบายกระทรวงคมนาคม ร่วมทำความดี ด้วยการจัดรถบัสโดยสารบริการ รับ-ส่งประชาชนที่เดินทางมาร่วมลงนามถวายความอาลัย 4 เส้นทาง "ฟรี" ถึง 24 ตุลาคม 2559 

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้เชิญชวนผู้ประกอบการและผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ทั้งรถแท็กซี่, รถจักรยานยนต์รับจ้าง,รถตุ๊กตุ๊ก รถเมล์, รถโดยสารฯลฯ ร่วมทำความดีให้บริการด้วยมิตรไมตรีใจเอื้ออาทร เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในช่วงที่มีความต้องการในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย จัดรถรับ-ส่ง ให้บริการประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมลงนามถวายความอาลัยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 17- 24 ตุลาคม 2559 เวลา 08.00 - 16.00 น.จำนวน 40 คัน รวมทั้งสิ้น 4 เส้นทาง ได้แก่
-เส้นทางที่ 1 บริเวณจุดจอดรถสายใต้ (ปิ่นเกล้า) ขาไป– ออกถนนบรมราชชนนี> ข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า> เลี้ยวเข้าสนามหลวงจอดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขากลับ– วิ่งกลับเส้นทางเดิม,
-เส้นทางที่ 2 - จุดจอดประตูทางเข้าสนามศุภชลาศัย ด้านถนนพระรามที่ 1 วิ่งตามพระราม 1 (เชื่อมต่อ BTS สนามกีฬาแห่งชาติ) ขาไป - เลี้ยวขาวเข้าถนนอุรุพงษ์ >เลี้ยวซ้ายถนนเพชรบุรี> เลี้ยวซ้ายทางรถไฟ> เข้า หลานหลวงถนนราชดำเนินกลาง> อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย> ผ่านพิภพ >สนามหลวง ขากลับ สนามหลวง>ราชดำเนิน> หลานหลวง> เพชรบุรีตัดใหม่>เลี้ยวขวา ราชเทวี> เลี้ยวขวาแยกปทุมวัน> กลับเข้าสนามศุภชลาศัย,
-เส้นทางที่ 3 จุดจอดรถสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี ขาไป - เลี้ยวขวาผ่านวงเวียนใหญ่> ข้ามสะพานพุทธ> เลี้ยวซ้ายผ่านกรมการรักษาดินแดน เลี้ยวขวาผ่านพระบรมมหาราชวัง>เลี้ยวซ้ายเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า>ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จอดที่สนามหลวง ขากลับ - เลี้ยวซ้ายผ่านพระบรมมหาราชวัง> เลี้ยวซ้ายกรมการรักษาดินแดน> เลี้ยวขวาขึ้นสะพานพุทธ เลี้ยวซ้ายผ่านโรงพยาบาลตากสิน> เลี้ยวขวาผ่านคลองสาน> เลี้ยวขวาเข้าถนนสาทรตากสิน> กลับมาที่จอดที่สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี
-เส้นทางที่ 4 จุดจอดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิหน้าโรงพยาบาลราชวิถี ขาไป – ผ่านแยกตึกชัย> วัดเบญจมบพิตร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินนอก> เลี้ยวขวาเข้าราชดำเนินใน> ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย>ตรงเข้าสนามหลวง> จอดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่วนขากลับ ขับกลับในเส้นทางเดิม

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่ง, ผู้ให้บริการ, พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท โดยเฉพาะรถแท็กซี่, รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถตุ๊กตุ๊ก, รถเมล์, รถโดยสารฯลฯ ยึดมั่นการบริการที่ดี ปฏิบัติหน้าที่ในงานบริการรถโดยสารสาธารณะโดยไม่เอาเปรียบผู้โดยสาร ให้บริการประชาชนด้วยความปลอดภัย เป็นธรรมและปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับมาตรฐานการให้บริการรถโดยสารสาธารณะของประเทศ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

กลับมาไทยครั้งนี้ ไม่เหมือนเดิมแล้ว จาก คู่รักศิลปินชาวรัสเซีย

กลับมาไทยครั้งนี้ ไม่เหมือนเดิมแล้ว จาก คู่รักศิลปินชาวรัสเซีย
Cr:news.sanook.com
นายอาร์ทัม ละปิน และ นางสาวอนาสเตเซีย ชิกลิงเซวา สองศิลปินชาวรัสเซียวัย 30 ต้นๆ สวมชุดดำไว้ทุกข์ นั่งบนพื้นหญ้า หันหน้าไปยังพระบรมมหาราชวัง ในเวลาใกล้เที่ยงคืน โดย พวกเค้าบอกกับทีมข่าวว่า จะนั่งตรงนี้จนรุ่งเช้า ความผูกพันของทั้งคู่ที่มีต่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เริ่มจาก 6 ปีที่แล้ว เดินทางมาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2553 และ เดินทางมาถึงก่อนหน้าวันพ่อแห่งชาติเพียงวันเดียว ทั้งคู่ จึงมีโอกาสสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขและยังจำได้ถึงภาพของประชาชนที่มารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
“คืนวันนั้นที่นี่ ท้องสนามหลวงมี คอนเสิร์ตเพลงไทย และ มีคนมารวมตัวกันเพื่อจุดเทียนถวายพระพรฯ ตอนค่ำ เป็นภาพที่สวยงามมาก แต่วันนี้ภาพแบบนั้นได้กลายเป็นอดีตแล้ว สำหรับผมเองและคนไทย” นายอาร์ทัม ละปิน กล่าว
การมาเมืองไทยอีกครั้งในช่วงเวลานี้จึงแตกต่างจากครั้งนั้นโดยสิ้นเชิง แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนก็คือทั้งคู่มีความรู้สึกร่วมเช่นเดียวกับคนไทย ไม่ว่าจะเป็นความสุขในช่วง 6 ปีก่อน และความเศร้าที่ปกคลุมประเทศอยู่ในยามนี้ ซึ่งอาจจะฟังดูแปลกสำหรับชาวต่างชาติที่มีสถานะเป็นเพียงนักท่องเที่ยวในเมืองไทย โดยคุณอาร์ทัมกล่าวอีกว่า เขารู้สึกคุ้นเคยและผูกพันกับคนเอเชียและวัฒนธรรมเอเชียมาตลอด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาโตมาในย่านที่มีคนเชื้อสายเอเชียอยู่ค่อนข้างมาก
ที่สำคัญ ตัวเขาเองก็รับรู้เรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชผ่านสื่อต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องและในหลายแง่มุม รวมถึงเรื่องราวสมัยทรงพระเยาว์ที่ประทับอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่เรื่องที่เขาประทับใจมากที่สุดคือพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของพระองค์ เพราะเขาเองก็เป็นนักดนตรีเช่นกัน ถึงแม้ว่าแนวดนตรีที่เขาถนัดจะเป็นแนวอิเล็กทรอนิก ไม่ใช่ดนตรีแจ๊ซก็ตาม
“พอรู้ว่าท่านทรงแซ็กโซโฟนก็ไปหาดูคลิปในยูทูป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคลิปที่บันทึกไว้เมื่อหลายสิบปีแล้ว แต่ก็พอที่จะทำให้เห็นว่าพระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถทางดนตรีจริงๆ” คำที่นักดนตรีจากรัสเซียใช้อธิบายพระอัจฉริยภาพทางด้านนี้ของท่านเป็นภาษาอังกฤษก็คือ “amazing” และ “wonderful”
เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ อาร์ทัม และ อนาสเตเซีย อยู่ที่สวนลุมพินี ก็มีชาวต่างชาติคนหนึ่งเดินมาบอกข่าวเศร้ากับพวกเขา ทันทีที่รู้เรื่องนี้ ทั้งคู่ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปของเมืองไทยและตัดสินใจเดินทางมายังบริเวณพระบรมมหาราชวังตั้งแต่ช่วงกลางวันของวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในคืนวันที่ 15 ตุลาคมและนั่งอยู่จนถึงเช้าของวันถัดมา
สิ่งที่หลายคนคงสงสัยก็คือ สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในสถานะนักท่องเที่ยวอย่างพวกเขาแล้ว เขา ‘เห็นอะไร’ และ ‘รู้สึกอย่างไร’ กับภาพที่เห็นตรงหน้า
“ในสถานการณ์แบบนี้ เราเห็นความเป็นครอบครัวของคนไทยซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะมาสักการะพระบรมศพเพียงอย่างเดียวหรือมาอาสาอำนวยความสะดวกให้คนอื่นๆ ดูราวกับเป็นพี่น้องกัน ทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน”
“เรายังรู้สึกด้วยว่า มิตรภาพและการช่วยเหลือกันอย่างจริงใจอย่างเช่นนี้คือสิ่งที่จะช่วยหล่อเลี้ยงโลกต่อไปในอนาคต” อาร์ทัมตอบพร้อมกับรอยยิ้มอีกครั้ง

เปิดแนวปฏิบัติ มท. คุมสถานบริการ'งานแต่ง-บวช-คอนเสิร์ต' ช่วงพระราชพิธีพระบรมศพ

 เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2559 ที่ผ่านมา นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด เพื่อแจ้งให้ทราบถึงแนวทางปฏิบัติต่อสถานบริการในช่วงมีงานพระราชพิธีพระบรมศพ ตามที่ได้รับแจ้งจาก ศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.)
จึงขอให้จังหวัดปฏิบัติ ดังนี้ 
1. กรณีการอนุมัติ อนุญาต จัดให้มีการเล่นการพนัน ยังให้งดเว้นการอนุมัติ อนุญาต 
2. สถานบริการตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 และสถานประกอบการซึ่งมีลักษณะคล้ายสถานบริการ นั้น ศตส. อนุโลมให้ สถานบริการ สถานบันเทิงในอาคารปิด สามารถประกอบธุรกิจตามปกติได้
แต่ให้จังหวัดสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจเน้นย้ำ ห้ามมิให้มีการเปิด-ปิด เกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนกวดขันมิให้มีการปล่อยปละละเลย ให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ เข้าไปใช้บริการ และห้ามมิให้มีการแสดงลามก อนาจาร 
3. กรณีการจัดงานเทศกาลประจำปีของจังหวัด านกาชาด งานบุญกฐิน ผ้าป่า และ /หรือ กิจกรรมประกอบพิธีทางศาสนกิจนั้น ให้ดำเนินการได้ตามปกติ แต่ไม่ควรมีการแสดงดนตรี หรือการละเล่นประกอบ 
ในกรณีที่เป็นงานของส่วนบุคคล ตามประเพณี เช่น งานมงคลสมรส งานบวช การแข่งขันกีฬาประเพณี ก็ยังสามารถดำเนินการไปได้ตามปกติ เพียงแต่ขอความร่วมมืองดเว้นการแสดงดนตรีและการละเล่น 
4. กรณีการแสดงคอนเสิร์ตทุกชนิด ขอความร่วมมือให้งดหรือเลื่อนการแสดงไปก่อน 
5. กระทรวงมหาดไทยขอเน้นย้ำให้จังหวัดกำชับพนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ออกตรวจกำชับเกี่ยวกับ สิ่งอบายมุข สิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ โดยให้ดำเนินการปราบปรามอย่างเคร่งครัด เช่น การค้าประเวณี โสเภณีเด็ก ยาเสพติด การใช้แรงงานเด็กเป็นต้น 
อนึ่ง สำหรับการงดจัดงานรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน นั้น หมายถึงให้งดเฉพาะของส่วนราชการเท่านั้น สำหรับภาคส่วนอื่นๆ ให้ดำเนินการตามหนังสือสั่งการฉบับนี้  (ดูเอกสารประกอบ) 
pichaaaa0017
pichaaaa0117