PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2558

สถานการณ์ข่าว8ม.ค.58

Jab08Jan15

ถอดถอน

สนช.ขยายเวลาสมาชิกส่งข้อสงสัย-ซักถาม ปมถอดถอน "ยิ่งลักษณ์-สมศักดิ์-นิคม" ถึง 12 ม.ค. นี้ พิจารณา ร่าง พ.ร.บ. 2 ฉบับก่อนแถลงเปิดคดี

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ว่า ขั้นตอนการประชุมวันนี้จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. 2 ฉบับ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.ศาลทหาร และ ร่าง พ.ร.บ.เหรียญเสรีชน ก่อนเข้าสู่การเพื่อพิจารณาแถลงเปิดสำนวนคดีถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา หลังจากนั้นจึงจะมีการขอมติที่ประชุมเพื่อตั้ง กมธ.ซักถาม ตามที่ วิป สนช. มีมติให้ตั้งไม่เกิน 9 คน และมีการทาบทามไว้แล้ว เพื่อกำหนดวันประชุมเพื่อซักถามไปภายใน 7 วัน

ทั้งนี้ นายสุรชัย ยังกล่าวด้วยว่า วิป สนช. ได้มีมติขยายเวลาในการให้สมาชิกส่งคำถามหรือข้อสงสัย จากที่กำหนดให้ส่งภายในวันที่ 7 ม.ค. สำหรับกรณีของ นายนิคมและนายสมศักดิ์ รวมถึงกรณีของ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีการแถลงเปิดคดีในวันพรุ่งนี้ด้วย โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกได้รับฟังการแถลงเปิดคดีและคัดค้านของทั้ง 2 กรณี และกำหนดให้ส่งข้อซักถาม
ได้ภายในวันที่ 12 ม.ค. นี้
-------------
"นิคม" ยันไปแถลงเปิดคดีด้วยตนเอง ไร้ความกังวล พร้อมรับผลพิจารณา แต่ย้ำ รธน.2550 ถูกยกเลิกไปแล้ว ไม่มีกฎหมายรองรับ 

นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ว่า วันนี้จะเดินทางไปแถลงเปิดคดีถอดถอนต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ด้วยตนเอง พร้อมกับเพื่อนอดีตสมาชิกวุฒิสภา

5 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากภาคต่าง ๆ เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาอย่างเต็มที่ และเชื่อว่า หาก สนช. ได้ฟังคำชี้แจงก็จะเข้าใจถึงกระบวนการทำงานว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ยืนยันไม่วิตก

กังวลเกี่ยวกับถอดถอนแต่อย่างใด และพร้อมที่จะรับผลการพิจารณาของ สนช. เพียงแต่รู้สึกแปลกใจเท่านั้น ที่จะมีการพิจารณาในประเด็นดังกล่าว เพราะว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2550 ถูกยกเลิกไปแล้ว

แต่กลับนำกฎหมายของ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นกฎหมายลูกมาใช้ในการพิจารณา อีกทั้ง รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 ก็ไม่ได้มีการรับรองในเรื่องดังกล่าว รวมถึงในคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่

ได้ระบุว่าการทำหน้าที่ประธานในการประชุมมีความผิด ระบุเพียงกระบวนการแก้ไขเท่านั้น ที่มิชอบ

ทั้งนี้ นายนิคม กล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่เริ่มมีการพิจารณาถอดถอนนั้น ได้พบกับ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ถูกถอดอถอนด้วยเพียงแค่ครั้งเดียว และไม่ได้มีการพูด

คุยกันถึงเรื่องดังกล่าว รวมถึงไม่แน่ใจว่าวันนี้ นายสมศักดิ์ จะเดินทางมาแถลงเปิดคดีด้วยหรือไม่
----------------
สมาชิก สนช. ทยอยเดินทางถึงสภา เตรียมเข้าประชุมฟังแถลงเปิดคดีถอดถอน "นิคม-สมศักดิ์"

บรรยากาศความเคลื่อนไหวที่รัฐสภา ล่าสุด สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เริ่มทยอยเข้าเตรียมตัวประชุมที่จะมีขึ้นในเวลา 10.00 น. แล้ว โดยมีวาระเพื่อดำเนินการถอนถอด นายนิคม ไว

ยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นการแถลงเปิดสำนวนคดีตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ

ทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งมา

โดย นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช. ในฐานะโฆษกวิป สนช. กล่าวถึงขั้นตอนการแถลงเปิดคดี ว่า ทาง ป.ป.ช. จะเป็นผู้เริ่มแถลงเปิดคดีแต่ละสำนวน และหลังจากนั้นผู้ถูกกล่าวหาหรือ

ผู้ได้รับมอบอำนาจมา จะเป็นผู้แถลงคัดค้านคำแถลงเปิดสำนวนหรือรายงานของ ป.ป.ช. พร้อมชี้แจงข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ ไม่ได้กำหนดเวลาในการชี้แจงของผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา แต่จะมีประธานการประชุมเป็นผู้ควบเวลาการชี้แจง

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมเช้านี้ สนช. จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ก่อน 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ศาลทหาร และ พ.ร.บ.เหรียญเสรีชน ก่อนจะเข้าสู่การแถลงเปิดคดีถอดถอนต่อไป
---------------------
พล.อ.ประวิตร ขอคนเสื้อแดงอย่าไปสภาให้กำลังใจ "ยิ่งลักษณ์" ปล่อย สนช.ดำเนินการตามขั้นตอน ไม่ห่วงกระทบรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติ หรือ สนช. จะมีการนัดแถลงเปิดคดีถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (9 ม.ค.) ว่า เป็นหน้าที่ของ สนช. ที่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและกฎหมาย

ส่วนกระแสที่มีการนัดรวมพลคนเสื้อแดงเพื่อมาให้กำลังใจกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอร้องไม่ต้องมา ไม่รู้จะมาทำไม ถ้าจะให้กำลังใจก็สามารถให้กำลังใจอยู่ที่บ้าน

หรือทางโทรศัพท์ก็ได้ เพราะขณะนี้รัฐบาลกำลังทำงานอยู่ แต่ทั้งนี้ก็ไม่มีความกังวลว่าการถอดถอนดังกล่าวจะกระทบกับการทำงานของรัฐบาล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดูแลรักษา
ความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว

ส่วนในเรื่องของความมั่นคงนั้นก็มีการดูแลและเตรียมการป้องกันอยู่ตลอด รวมถึงทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้ดำเนินการทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความสงบและให้เกิด

ความปรองดองขึ้นในชาติ
---------------------
การประชุม สนช. เริ่มแล้ว จับตาสมาชิกเสนอเลื่อนวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ. 2 ฉบับ เพื่อเริ่มแถลงเปิดคดีทันทีหรือไม่

บรรยากาศการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ล่าสุด เปิดการประชุมแล้ว ซึ่งตามระเบียบวาระ ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุมให้รับทราบถึงรายงานสรุปการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการรับผลคนโดยสารทางถนนระหว่างประเทศ พ.ศ. ... และการรับรองบันทึกการประชุม สนช. ครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 ปี 2557 จากนั้นจึงจะเข้าสู่การพิจารณาวาระเร่งด่วนจำนวน 9 เรื่อง

ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช และ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ที่ประชุมจะพิจารณาร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีเสนอ จำนวน 2 ฉบับ แต่หากมีสมาชิกเสนอให้เลื่อนการพิจารณากฎหมายออกไปก่อน และเริ่มพิจารณาวาระถอดถอนก่อน ต้องขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม
--------------------
"พรเพชร" นัดหมาย สนช. ประชุม 21 ม.ค. นี้ พิจารณาถอดถอน 38 อดีต ส.ว. ก่อนเคาะวันแถลงเปิดคดี

บรรยากาศการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ทำหน้าที่ประธานการประชุม ล่าสุดเข้าสู่การพิจารณาตามระเบียบวาระแล้ว ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่วาระการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประธาน สนช. ได้แจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งรายงานการไต่สวนกรณี 38 ส.ว. ลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว. ที่มีการชี้มูลความผิด และเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 149 ซึ่งจะต้องดำเนินการภายใน 30 วัน พร้อมกันนี้ เนื่องด้วยกรณีผู้ถูกกล่าวหามีจำนวนมาก จึงต้องให้เวลาสมาชิก สนช. ศึกษารายงานไต่สวน จึงนัดสมาชิก สนช. นัดแรกในวันที่ 21 มกราคมนี้ เพื่อกำหนดวันแถลงเปิดคดี

สำหรับสำเนารายงานการไต่สวนของ ป.ป.ช. ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีหนังสือแจ้งให้สมาชิกมารับสำเนาได้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา
---------------------
"นิคม" ถึงสภา ระบุวันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ ย้ำไม่ได้สู้เพื่อตัวเองแต่สู้เพื่อกระบวนการยุติธรรม ชี้แจงตามหลักข้อเท็จจริง

นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการแถลงเปิดคดีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ประธานสภาต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งในวันนี้ตนจะมาชี้แจงโดยยึดหลักข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่ได้เคยยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปแล้ว แต่เนื่องจากมีจำนวนมากจึงคาดว่า ป.ป.ช. ไม่สามารถตรวจสอบได้ครบถ้วน ตนจึงจะพยายามชี้ให้เห็นว่าข้อมูลของผู้ร้องบางส่วนไม่สมบูรณ์ และบางส่วนเป็นเท็จ ซึ่งก็เชื่อว่า สนช. จะพิจารณาด้วยความเป็นกลาง ส่วนผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไรตนก็ยินดีจะยอมรับ

พร้อมกันนี้ นายนิคม ยังกล่าวว่า การเข้าสู่กระบวนการในวันนี้ไม่ได้เป็นการต่อสู้เพื่อตนเอง แต่สู้เพื่อกระบวนการยุติธรรมที่กำลังถูกกล่าวล่วง
-------------------
ครป. ยื่นหนังสือถึง "พรเพชร" ขอให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมแถลงเปิดคดีถอดถอน "ยิ่งลักษณ์-นิคม-สมศักดิ์"

กลุ่มคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ ครป. นำโดย นายธัชพงศ์ แกดำ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อขอให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมฯ ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงการแถลงเปิดคดีและการอภิปราย โดยเฉพาะกรณีสำนวนถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายนิคม ไวรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมองว่าเป็นประเด็นที่ประชาชนสนใจ และส่งผลกระทบต่อประเทศชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง จึงควรให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการรับทราบข้อมูลข่าวสาร และเพื่อให้เกิดความโปร่งใส

ขณะเดียวกัน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้ามายังอาคารรัฐสภา พร้อมแถลงข่าว โดยขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยแก้ปัญหาให้เด็กบ้านนอก เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ โดยระบุได้รับจดหมายเรียงความของเด็กบ้านนอก ที่ต้องการให้แก้ไขปัญหาการสร้างโรงงานหีบน้ำมันปาล์มในพื้นที่บริเวณโรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว อ.กระบุรี จ.ระนอง
--------------------
พล.ต.อ.ชัชวาล เสนอญัตติประชุมลับในการพิจารณา แถลงเปิดคดีถอดถอน "นิคม ไวรัชพานิช" พร้อมเปิดสมาชิกอภิปราย

บรรยากาศการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ล่าสุด เข้าสู่กระบวนการพิจารณาถอดถอนนายนิคม ไวรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ออกจากตำแหน่ง กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาของ สว. โดยมิชอบ และจะแถลงเปิดสำนวนตามรายงานและความเห็นของคณะกรรมการ ปปช. รวมถึงการแถลงคัดค้านโต้แย้งคำแถลงเปิดสำนวนหรือรายงานพร้อมความเห็นของคณะกรรมการ ปปช. ของผู้ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ พลตำรวจเอกชัชวาล สุขสมจิต สมาชิก สนช. เสนอญัตติต่อที่ประชุมให้มีการประชุมลับ เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้มีความสงบเรียบร้อย หากประชุมเปิดเผย อาจมีข้อท้วงติงที่มีผลเสียมากกว่าะนำไปสู่ความขัดแย้งได้ ด้านนายกล้านรงค์ จันทิก เสนอว่าจามธะรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา กระบวนการถอดถอนไม่เคยมีการประชุมลับในวันนัดแถลงเปิดคดี เพราะทั้ง 2ฝ่ายต้องเสนอข้อเท็จจริงให้ที่ประชุมและประชาชนรับทราบ เพื่อประโยชน์ของผู้กล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา และสภาแห่งนี้
----------------------
สนช. มีมติไม่เห็นด้วย ให้ประชุมลับ 107:70 เสียง ในการพิจารณาถอดถอน "นิคม" 

บรรยากาศการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อยู่ในกระบวนการพิจารณาถอดถอนนายนิคม ไวรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ออกจากตำแหน่ง ที่มีตัวแทนจาก คณะกรรมาการ ปปช. จำนวน 9 คน

นำโดยนายวิชา  มหาคุณ กรรมการ ปปช. เป็นผู้แถลงเปิดคดี ขณะที่นายนิคม ได้เดินทางเข้ารับฟังข้อกล่าวหาและแถลงโต้แย้งด้วยตนเอง ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการแถลงเปิดคดี มีสมาชิกเสนอให้

ประชุมลับ จนสมาชิกได้ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ เห็นว่า ไม่ควรประชุมลับ เพื่อความสุจริตต่อสังคม จนท้ายที่สุด ที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยให้ประชุมลับ 107 เสียง เห็นด้วย

ให้ประชุมลับ 70 เสียง งดลงคะแนน 19 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียงจากจำนวนสมาชิก 197 คน ก่อนที่ประชุมจะเชิญคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย เข้ามาในห่องประชุม เพื่อเริ่มกระบวนการแถลงเปิดคดี
----------------------
"วิชา" แถลงเปิดคดีถอดถอน ปัดมุ่งโค่นล้มใคร ขณะ "นิคม" แจงแก้รัฐธรรมนูญไร้ทับซ้อน

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะผู้กล่าวหา ได้ชี้แจงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่เริ่มตั้งแต่เหตุผลดำเนินการถอดถอนโดยที่รัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่มีผลบังคับใช้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ประชุมกันในเรื่องนี้แล้ว เห็นว่าตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สามารถดำเนินการได้ และในข้อกล่าวหาส่อว่า จงใจใช้อำนาจหน้าที่ต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือขัดต่อจริยธรรมอันร้ายแรง ที่ไม่ยอมเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปราย อีกทั้งตัดสิทธิ์ผู้ที่เสนอแปรญัตติเป็นรายมาตราในการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. ถือเป็นการใช้อำนาจรวบรัดขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า ป.ป.ช. แถลงเปิดคดีตามหน้าที่ โดยไม่มีเจตนาโค่นล้มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

ด้าน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ชี้แจงข้อกล่าวหาจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ รับญัตติปิดประชุม โดยที่มีสมาชิกจำนวนมากยังไม่ได้อภิปรายตั้งแต่มาตรา 5 พร้อมยืน
ยันว่า ไม่ได้มีประโยชน์ทับซ้อนแต่อย่างใด
----------------
"ประวิตร" ย้ำ ไม่กังวลกลุ่มเคลื่อนไหวปมถอดถอน "ยิ่งลักษณ์" ขณะทำความเข้าใจต่างประเทศส่งคนผิดมารับโทษ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่กังวลถึงเหตุการณ์ที่จะมีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ออกมาให้กำลังใจ นางสาว

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเข้าชี้แจงปมถอดถอนในกรณีโครงการจำนำข้าวต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เพราะเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจในการทำงานขององค์กรอิสระ

และรัฐบาล ที่ทำตามหน้าที่ของแต่ละฝ่าย

ส่วนกรณีที่มีผู้กระทำความผิดยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้กำลังทำความเข้าใจกับต่างประเทศว่า ไม่ใช่การติดตามผู้กระทำผิดในคดีทางการเมือง แต่เป็นการ

ติดตามผู้กระทำผิดในคดีอาญา ซึ่งต้องดูว่าประเทศใดมีสนธิสัญญาร่วมกันกับไทย เพื่อหารือกันต่อไปในการส่งตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ
--------------------
"พรเพชร" แจง สนช. เริ่มกระบวนการซักถาม 15 ม.ค. พร้อมพิจารณา พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

บรรยากาศการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ล่าสุด ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ขณะนี้ได้เสร็จสิ้นการแถลงเปิดสำนวนคดีถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพา

นิช และ นายสมศักดิ์ เกียรสุรนนท์ แล้ว ทั้งนี้ กำหนดให้สมาชิก สนช. ส่งประเด็นคำถามได้ถึงวันที่ 12 มกราคม ก่อนเวลา 12.00 น. และเริ่มกระบวนการซักถามในวันที่ 15 มกราคม 2558 เวลา 10.00 น.

หลังจากนั้น ได้เริ่มพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. ... ซึ่งเป็นการพิจารณาในวาระ 2 โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนในการบริโภคสื่อ

นอกจากนี้ นายพรเพชร กล่าวว่า หลังจากที่สมาชิกลงมติร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... พร้อมขอสมาชิกทุกคนเข้าร่วมประชุมจนจบการประชุม เนื่องจากเป็นร่างกฎหมายที่มีความสำคัญ จึงต้องมีการลงมติเป็นรายมาตรา
-------------------
โฆษก สตช. เผย การข่าว มวลชนมาให้กำลังใจ "ยิ่งลักษณ์" สนช.ถอดถอนวันนี้ สั่งกำลัง ตร.บชน.ดูแล - ไม่ชัดกิตติศักดิ์กบดานที่ไหน

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ตามที่ในวันนี้ (9 มค) จะมีการประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ในการถอดถอน นส.ยอิ่งลักษณ์ ชิน

วัตร อดีตนายกฯ ในกรณีปล่อยให้ทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ทางการข่าวระบุว่า จะมีมวลชนที่สนับสนุน นส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมาให้กำลังใจ ที่หน้ารัฐสภาด้วย ซึ่งในฐานะหน่วยความมั่นคง ได้

สั่งกำชับ ตร.บชน. ให้จัดกำลังเข้าไปดูแล ความสงบเรียบร้อยแล้ว โดยเน้นในการบังคตับใช้กฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะมีเหตุวุ่นวายแต่อย่างใด

นอกจากนี้ โฆษก สตช. ยังกล่าวอีกว่า ความคืบหน้าในคดี ยักยอกเงิน ของสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง กว่า 1,600 ล้านบาทนั้น นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ตัวการสำคัญที่

หลบหนีออกจากฮ่องกงไปแล้วนั้น ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ประเทศไหน แต่ได้เร่งประสานจำรวจสากล เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
////////////////////
สปช./ปรองดอง

สปช.ตั้งคณะกรรมการสร้างความปรองดองแก้ปัญหาขัดแย้ง หนุนการปฏิรูประเทศ

นายเทียนฉาย กีรนันท์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง ร่วมกัน

แถลงข่าวการจัดตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสปช.และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถาการณ์ความขัดแย้งที่ผ่าน อาทิ นางพะเยา อัคฮาด มารดาของ

น้องเกด รวมทั้งหมด 20 คน โดยมีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธานคณะกรรมการ ทำหน้าศึกษาปัญหาความขัดแย้งอย่างจริงจัง เพื่อหาแนวทางการแก้ไขอย่างยั่งยืนและป้องกันให้เกิดขึ้นอีก

ภายหลัง ร่วมทั้งส่งเสริมให้การปฏิรูปประเทศสำเร็จลุล่วง โดยจะทำงานร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการสปช.และสนช. ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความปรองดองเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทาง

เดียวกัน และเห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด เพราะหากเลยระยะเวลา1ปี ของการปฏิรูปประเทศไปแล้วการดำเนินการก็จะไร้ประโยชน์
------------------
"บวรศักดิ์" ชี้ปฏิรูปประเทศต้องเร่งแก้ปัญหา 3 ใหญ่ "ปรองดอง-ลดเหลื่อมล้ำ-การเมือง" ย้ำนิรโทษไว้ทีหลัง

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การปฏิรูปประเทศจะต้องเร่งแก้ปัญหาใหญ่ 3 เรื่อง ได้แก่ การสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคม การลดเหลื่อมล้ำใน

สังคม และด้านการเมือง เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญที่กำลังยกร่างทำขึ้น จึงมีการบัญญัติหมวดที่ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ และสร้างความปรองดอง ซึ่งไม่มีในฉบับอื่น โดยการสร้างความปรองดองไม่
ควรใช้เวลาเกินกว่า 4 ปี และย้ำว่าจะไม่ยกเรื่องนิรโทษกรรมมาพิจารณาอับดับแรก แต่ต้องคำนึงถึงปัญหาความขัดแย้งที่สะสมมานาน ทั้งนี้ การเขียนรัฐธรรมนูญต้องควบคู่ไปกับสร้างความ

ปรองดองสมานฉันท์ด้วย
/////////////
เคลื่อนไหวนายกฯ

พล.อ.ประวิตร ย้ำ รบ.จริงใจแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ขู่หากพบ ขรก.เกี่ยวข้องลงโทษทันที มั่นใจ ทำข้อมูลส่งสหรัฐฯ ได้ภายเดือนนี้ 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดำเนินนโยบายปราบปรามการค้ามนุษย์ที่จะต้องชี้แจงข้อมูลต่อองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์เพื่อทำ

การจัดอันดับและประเมินสถานการณ์ในประเทศไทย ว่า ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าภายในเดือนนี้จะสามารถส่งรายละเอียดให้กับทางสหรัฐอเมริกาได้ว่าอะไรที่ดำเนินการไปแล้ว อะไรที่ทำ
ได้หรือทำไม่ได้ ซึ่งเราสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง เพราะรัฐบาลมีความจริงใจ และต้องการสร้างความมั่นคงและปลอดภัย

นอกจากนี้ หากพบว่ามีข้าราชการคนไหนเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะต้องถูกลงโทษ เพราะรัฐบาลไม่สนับสนุนคนไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี
////////////////////
โยกย้าย ตร.

กลุ่มผู้กำกับที่ถูกย้ายใน บช.น. ยังไม่มีการเคลื่อนไหว หลังขู่ฟ้องหากย้ายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันนี้ ภายหลังจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ และผู้กำกับการ วาระประจำปี 2557 ตามที่กองบัญชาการต่าง ๆ เสนอมา โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ย้ายนายตำรวจออกนอกหน่วย 56 นาย และกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ย้ายนายตำรวจออกนอกหน่วยอีก 73 นาย นั้น ล่าสุดยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ จากกลุ่มนายตำรวจระดับผู้กำกับการดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ขู่ที่จะฟ้องร้องต่อมติของ ก.ตร. ต่อศาลปกครอง หากมีการโยกย้ายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล วันนี้ยังไม่ได้มีการออกมาให้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว รวมทั้งทางผู้กำกับกับการที่ถูกโยกย้ายต่างยังคงเงียบและปัดตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวเช่นกัน
--------------

///////////////
คดียักยอกพันล้าน

รอง ผบก.ป. เผย ผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ ชวนพิงกี้ร่วมหุ้น ให้ปากคำแล้ว อ้าง แค่อยากทำละคร

พันตำรวจเอก กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวถึงความคืบหน้าคดียักยอกเงิน 1,600 ล้านบาท จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ว่า สำหรับประเด็นการสอบสวน นายคึกฤทธิ์ หรือ ภูดิษฐ์ จันทิมา ผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ ที่ติดต่อให้ นางสาวสาวิกา ไชยเดช หรือ พิงกี้ ดาราชื่อดัง มาเป็นหุ้นส่วนในการเปิดบริษัท KPP Production ว่า นายคึกฤทธิ์ ได้เข้ามาให้ปากคำถึงข้อเท็จจริงแล้ว โดยอ้างว่า นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาที่หลบหนี ในขณะนี้ได้ให้เงินลงทุน 1 ล้านบาท ในการจดทะเบียนเปิดบริษัท โดยไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวมีที่มาอย่างไร

ซึ่งตนเพียงต้องการเปิดบริษัทเพื่อทำละคร และได้ชักชวน พิงกี้ เข้าร่วมหุ้น ซึ่งตัวพิงกี้ได้ให้เอกสารมาเพื่อตัดรำคาญ เนื่องจากตนเองติดต่อพิงกี้ หลายครั้ง นอกจากนี้ ตนเองยังถูก นายกิตติศักดิ์ ฟ้องร้องในคดีฉ่อโกงที่ศาลแขวงจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างต่อสู้คดีความ

พันตำรวจเอก กรไชย ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรณี ผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ อีก 4 คน ยืนยันว่ายังอยู่ในประเทศไทย โดยจากการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐาน มีการรับโอนเงินจาก นายกิตติศักดิ์ และทั้งหมดมีความสนิทสนมกันตั้งแต่สมัยเรียน ซึ่งหลักฐานทั้งหมดนี้พนักงานสืบสวนได้หมดให้ฝ่ายสอบสวน รวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป

ส่วนการดำเนินคดีในมูลฐานความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินในคดีนี้ กับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ที่ศาลอนุมัติหมายจับก่อนหน้านี้ ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาความผิด ฐานฟอกเงิน และได้ส่งหลักฐานให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ไปดำเนินการต่อไป
----------------
พงส.กองปราบฯ เบิกตัว 2 แม่ลูก ยักยอกเงิน สจล. ไปฝากขัง พร้อมค้านประกันตัว - หลังสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ 

พนักงานสอบสวน กองปราบปรามได้ขอเบิกตัว นางสมบัติ โสประดิษฐ์ กับ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ 2 แม่ลูกผู้ต้องหาตามหมายจับฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ กรณีทุจริตเงินกองคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จำนวนเงิน 1,600 ล้านบาท จากห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.พหลโยธิน ไปยังศาลจังหวัดมีนบุรี พร้อมเอกสารคำร้องขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหา
ระหว่างการสอบสวน พร้อมขอคัดค้านการประกันตัว หลังในชั้นสอบสวนทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเงินที่ผ่านเข้าบัญชีเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ แต่ตำรวจยังไม่ให้น้ำหนักคำให้การของผู้ต้องหา

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีญาติของ นางสมบัติ และ น.ส.จันทร์จิรา มาเยี่ยมประมาณ 10 นาที ก่อนจะเดินทางกลับไปโดยเร็ว
-------------------
พงส.ผทค.สภ.พยุห์ พร้อมพวก ยื่นฟ้องผู้บัญชาการสำนักกฎหมายและคดี เพื่อขอเพิกถอนประกาศผลทดสอบข้าราชการตำรวจ

พันตำรวจโท ประเสริฐศักดิ์ ศรีไชย พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สถานีตำรวจภูธรพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ (ยศพันตำรวจโท) อีก 166 นาย จากทั่วประเทศ ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสอบเลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ (ยศพันตำรวจเอก) รวมตัวกัน ยื่นฟ้องผู้บัญชาการสำนักกฎหมายและคดี ในฐานะประธานอนุกรรมการประเมินการสอบสวนและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าหน่วยงาน โดยได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลเพิกถอนประกาศผลทดสอบข้าราชการตำรวจ เพื่อพิจารณาเลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำปี 2557

โดย พันตำรวจโท บรรจบ ชาสังข์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ระบุว่า สาเหตุที่ยื่นฟ้องในครั้งนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมจากศาลในการเยียวยากรณีสอบเลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ได้ทำการสอบคัดเลือกไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2557 แต่เมื่อลงสอบคัดเลือกกลับพบว่า มีข้อสอบวิชาจริยธรรม ที่เป็นคำถามปลายเปิด และมีการให้คะแนนในวิชาดังกล่าวอย่างไม่เป็นธรรม จากคะแนนเต็ม 25 คะแนน แต่ผู้สอบส่วนใหญ่กลับได้คะแนนเพียง 2-5 คะแนนเท่านั้น และภายหลังการประกาศผลสอบทราบว่าคำตอบที่ถูกต้อง กลับไม่ตรงกับตามคำถาม และที่ผ่านมาได้ยื่นอุทธรณ์ผลการสอบต่อสถาบันส่งเสริมงานสอบสวนแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า

ทั้งนี้ การสอบคัดเลือกดังกล่าวมีตำรวจเข้าสอบคัดเลือกทั้งสิ้น 980 นาย สอบผ่านเพียง 237 นาย และส่วนใหญ่กว่า 400 นาย สอบตกในวิชาจริยธรรม
------------------------
พนักงานสอบสวนกองปราบปราม คุมตัว 2 แม่ลูก คดียักยอกเงิน 1,600 ล้าน สจล. ฝากขัง ศาลจังหวัดมีนบุรี แล้ว คัดค้านการประกันตัว

ร.ต.ท.ธิติ เปฏะพันธุ์ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้คุมตัว นางสมบัติ โสประดิษฐ์ และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ 2 แม่ลูก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันยักยอกเงิน 1,600 ล้านบาท จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีบุรี แล้ว ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว เพราะคดีนี้ มูลค่าความเสียจำนวนมาก โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้วสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ขณะที่การยื่นคำร้องฝากขังวันนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองไม่ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ดังนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษมีนบุรีต่อไป
//////////////////
คดีพงศ์พัฒน์/อาบูบาก้า

ผกก.พหลโยธิน เผยเรียกพยานคดีอาบูบาก้าสอบเพิ่มอีก 50 ราย เร่งล่าผู้ต้องหาที่หลบหนี พร้อมอายัดตัว อดีต ผบช.ก. และพวก

พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญศิลป์ รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการเรียกรับส่วยบ่อนการพนันบอลออนไลน์ เครือข่ายอาบูบาก้า ว่า ขณะนี้เตรียมออกหมายเรียกพยานในคดีนี้ซึ่งเป็นพลเรือน จำนวน 50 ราย มาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งเป็นพยานชุดเดียวกับที่กองปราบปรามเคยออกหมายเรียกไว้

ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ที่ยังหลบหนีอยู่ ทั้ง พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล อดีต ผกก.5 กองปราบปราม และ พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี อดีต รอง ผกก.6 กองปราบปราม ยังไม่มีการประสานติดต่อขอเข้ามอบตัวด้วยตนเอง มีเพียงคนใกล้ชิดและคนสนิทที่ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับขั้นตอนการขอประกันตัว

อย่างไรก็ตาม คดีนี้พนักงานสอบสวนได้ขออายัดตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีต รอง ผบช.ก. ไว้เพื่อดำเนินคดีนี้แล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปสำนวนเตรียมส่งฟ้องต่ออัยการ ให้ได้ในช่วงของการฝากขัง ครั้งที่ 4