สรรเสริญ แก้วกำเนิด เผย พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งขจัดความเลวร้ายให้สิ้นภายใน 6 เดือนนี้ ลั่นพวกผู้ร้ายต้องไม่มีที่ยืนในสังคม พร้อมขอความร่วมมือประชาชน แจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุเพื่อนำความสันติสุขกลับมา หลังเกิดเหตุก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
วานนี้ (13 มีนาคม 2559) พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีคนร้ายก่อความไม่สงบในพื้นที่ จ.นราธิวาส และจ.ยะลา ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับประชาชน ตรวจเข้มพื้นที่เสี่ยง เช่น จุดจอดรถ หรือบริเวณที่มีประชาชนจำนวนมาก และให้หน่วยรักษาพยาบาลต่าง ๆ ให้ความช่วยเหลือและดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้กำชับให้ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว และต้องขจัดความเลวร้ายต่าง ๆ ให้ได้ภายใน 6 เดือน
นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังขอให้พี่น้องประชาชนร่วมมือกับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ เพื่อนำสันติสุขกลับคืนมา โดยผู้ที่มีเบาะแสเกี่ยวกับผู้กระทำผิดให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบโดยด่วน หรือส่งข้อมูลถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง ทั้งนี้รัฐบาลจะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้แจ้ง และหากข้อมูลเป็นความจริง และนำไปสู่การทำลายขบวนการได้ รัฐบาลจะมอบรางวัลพิเศษให้
ทั้งนี้ นายกฯ ย้ำว่า การขจัดความเลวร้ายต่าง ๆ ภายใน 6 เดือนนี้ จำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน โดยเฉพาะปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้นั้น ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาและการลงทุน ดังนั้น หากพี่น้องชาวใต้ต้องการให้บ้านเมืองดีขึ้นจะต้องร่วมใจกัน อย่าให้ผู้ร้ายที่ทำลายชีวิตทั้งชาวพุทธหรือมุสลิม ที่แทรกซึมอยู่กับประชาชนมากดดัน คนเหล่านี้จะต้องไม่มีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป
PR
วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559
แอพแรกที่คุณเลือก คลิปที่เกี่ยวข้อง มาดูนายกฯ สปีคอิงลิช ถาม ตอบ หยอกกับนักข่าวแล้วยังแซวว่า เวลาพูดปากยื่นปากยาว ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดถึงกรณีเรียกตัว วัฒนา เมืองสุข นายกฯ ประยุทธ์ จันโอชา เผยยังไม่จำเป็นที่ต้องใช้ รถไฟความเร็วสูง เมื่อพี่บี้เจอลุงตู่ เพลงนี้ก็ขึ้นมาในหัว กะ กะ กะ กลัวที่ไหน เกรงใจหรอกหนา ท่านนายกฯ ฉะสื่อยับ แต่ดูสีหน้า บี้ เดอะสตาร์ สิ อย่างฮา ! ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทำเนียบคึก ! ผบ.ทุกเหล่าทัพ แห่ตบเท้า เบิร์ธเดย์ล่วงหน้า บิ๊กตู่ ครบ 62 ปี ประยุทธ์ เล็งแก้ปัญหาแท็กซี่โกงมิเตอร์-ปฏิเสธผู้โดยสาร สั่งหยุดขับ 15-30 วัน ประยุทธ์ ยึดโรดแม็ปเดิม ยันไม่ก้าวก่ายรัฐบาลเลือกตั้ง สุหฤท สยามวารา สุดทน ซัด บิ๊กตู่ งัด ม.44 ลัดขั้นตอนอีไอเอ เป็นคำสั่งที่แย่ที่สุด รูปภาพที่เกี่ยวข้อง 3 ทหารสุดหล่อในเจ้าเวหา ปะทะทหารในชีวิตจริง ขำหนักมาก ฮาลั่น ! ภาพวาดท่าน ประยุทธ์ จากเด็กๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ มองแรง ! สองผู้นำ ไทย vs สหรัฐฯ ใช้สายตาพิฆาต ผมนี่ยอมเลย ลุงตู่ยิ้มอ่อน มด ณปภัช ขอเซลฟี่คู่ งานรณรงค์ลอยกระทง 2558 ประยุทธ์ เข้ม ! สั่งปราบโจรใต้ ขีดเส้น 6 เดือนต้องเกลี้ยงแผ่นดิน
กรณีศึกษา เมื่อเครื่องดับเพลิงทำงานอัตโนมัต ที่ SCB Park
โศกนาฎกรรมกรณีเช่นนี้ น่าจะเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้นในเมืองไทย จึงยังไม่มีการระมัดระวังกันเท่าที่ควร
กรณีธนาคารไทยพาณิชย์ ชี้แจงเกิดเหตุแก๊สไพโรเจน รั่วไหล ช่วงกลางดึกทวันที่ 13 มี.ค.59 ไม่เกี่ยวข้องกับระเบิด ไฟไหม้ ล่าสุดควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้ว อาคารทรัพย์สิน ไม่เสียหาย เปิดให้บริการตามปกติ (อ่านประกอบ:ไทยพาณิชย์ แจงเหตุแก๊สไพโรเจนรั่วไหล เสียชีวิต 8 ราย ยันให้ความช่วยเหลือ)
อาจารย์ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ สถาปนิกดีเด่น สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ โพสต์ข้อความในเฟชบุค ถึงกรณีศึกษา เมื่อเครื่องดับเพลิงทำงานอัตโนมัต ที่ SCB Park และมีผู้เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก...
หลายท่านคงได้ทราบข่าวสารโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นที่ธนาคารไทยพานิช SCB Park ทำให้มีผู้เสียชีวิต update ถึงปัจจุบัน = 10 คน อันอาจสรุปความได้ดังต่อไปนี้
๑.. มีการก่อสร้างต่อเติมปรับปรุง "ห้องมั่นคง" ที่ชั้น B2 ของอาคาร และในการก่อสร้างนั้นมีประกายไฟเกิดขึ้น หรือมีฝุ่นละออกเกิดเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ระบบดับเพลิงอัตโนมัติทำงานพ่นควันออกมา
๒.. ระบบดับเพลิงอัตโนมัตินั้นเป็นก๊าซ(สาร) ไพโรเจน (Pyrogen) ทำมีคุณภาพในการกำจัดอ๊อกซิเจน ทำให้บริเวณนั้น (ซึ่งมีคนงานจำนวนมาก) ขาด Oxygen ที่จะใช้หายใจ
๓.. เพราะการก่อสร้างอยู่ที่ชั้นใต้ดิน B2 ทำให้การระบายอากาศทำได้ยาก ไม่มีหน้าต่างเปิดสู่ภายนอก กลุ่มควันจึงลอยอยู่ในห้อง ไม่ออกไปไหน และอ๊อกซิเจนจากอากาศภายนอก ไม่สามารถเข้ามาในบริเวณนั้นได้ คนที่อยู่ภายในจึงยิ่งขาดอากาศหายใจ
๔.. การเข้าไปช่วยเหลือยากมาก เพราะสถานที่ใช้ระบบสแกนนิ้วมือในการเข้าไป (ซึ่งเป็นเรื่องปกติ) ทำให้ผู้เข้าไปช่วยเหลือเข้าไปช้า หรือเข้าไปไม่ได้ จนต้องมีการทุบรื้อประตูเข้าไปช่วย
๕.. เมื่ออากาศหายใจไม่มี คนเข้าไปช่วยไม่ได้ อากาศไม่ถ่ายเท มีสาร Pyrogen ทำลายอ๊อกซิเจนอยู่... คนไม่มีอากาศหายใจ จึงเสียชีวิต
โศกนาฎกรรมกรณีเช่นนี้ น่าจะเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้นในเมืองไทย จึงยังไม่มีการระมัดระวังกันเท่าที่ควร และขอให้เป็นครั้งสุดท้ายเทอญ
ที่มาภา่พและเนื้อหา:เฟชบุค ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์
ผงะที่ดินไทยอยู่ในมือต่างชาติกว่า 100 ล้านไร่
ผงะที่ดินไทยอยู่ในมือต่างชาติกว่า 100 ล้านไร่-จับตาสิงคโปร์ครองมากที่สุด หวั่นอนาคตลูกหลานเป็นแค่แรงงาน
| |
TCIJ 12 มีนาคม 2555 | |
วุฒิฯ จัดสัมมนา “นิติกรรมอำพรางฯ” ผู้ตรวจการแผ่นดินเปิดงานวิจัยแฉ ที่ดินกว่า 100 ล้านไร่ตกไปอยู่ในมือต่างชาติ ทั้งที่สมุย พัทยา ภูเก็ต หัวหิน ใช้นอมินีซื้อแทน หรือแต่งงานกับคนไทย เผยครัวไทยครัวโลกก็น่าเป็นห่วง ต่างชาติแห่เช่าที่ดินปลูกพืช-ผัก-ข้าวเพียบ หวั่นอนาคตลูกหลานไทยจะเป็นแค่แรงงงานรับจ้าง นักวิชาการแนะจับตาสิงคโปร์เข้าถือครองมากที่สุด เพราะมีความเข้มแข็งทางการเงิน
คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา จัดสัมมนาหัวข้อ “ นิติกรรมอำพราง : ต่างชาติกับการถือครองที่ดิน” โดย นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าร่วมสัมมนา พบว่า ปัญหาความมั่นคงของประเทศที่เราพบกันนั้นมีอยู่ 2 รูปแบบ เกิดจาก 1.ความมั่นคงทางทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติด ทำให้บั่นทอนบุคคลากรของประเทศในระยะยาว และ 2.ปัญหาด้านความมั่นคงด้านที่ดิน
นายศรีราชากล่าวว่า ที่ดินกว่า 1 ใน 3 ของประเทศ หรือคิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 100 ล้านไร่ กำลังตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติ ทำให้เห็นว่า เป็นการแย่งดินแดนโดยใช้ระบบเศรษฐกิจ รวมถึงช่องโหว่ของกฎหมาย ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีมาตั้งแต่อดีต จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำในปี 2540 หรือภาวะต้มยำกุ้ง ทำให้มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จนเกิดการถือครองที่ดินโดยชาวต่างชาติในช่วง ปี 2540 กฎหมายเปิดช่องให้ชาวต่างชาติที่มีเงินเพียง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้ามาถือครองที่ดินในไทยได้เป็นกรณีพิเศษ ทำให้วันนี้มีที่ดิน 1 ใน 3 ของประเทศ ถูกครอบครอง และทำนิติกรรมอำพรางหรือนอมินีโดยคนต่างด้าว คิดเป็นเนื้อที่ ประมาณ 100 ล้านไร่
“จากการวิจัยของสถาบันการศึกษาพบว่า พื้นที่ที่ติดชายทะเล เช่น หาดบ้านเพ จ.ระยอง เป็นของต่างชาติกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ที่ดินในอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพัทยา จ.ชลบุรี มีชาวต่างชาติถือครองถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และในจ.ภูเก็ต แทบไม่ต้องพูดถึง เพราะล้วนแต่มีชาวต่างชาติถือครองที่ดิน ผ่านนอมินีแทบทั้งสิ้น โดยใช้วิธีหลากหลายรูปแบบทั้งการสมรสกับคนไทย หรือตั้งบริษัทไทย และแปลงสภาพจากสัดส่วนการถือหุ้น แม้ว่ากฎหมายจะกำหนดให้คนต่างด้าวถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 49 แต่ในทางกลับกันกลับพบว่า ร้อยละ 51 ต่างถือครองในลักษณะนอมินีแทบทั้งสิ้น” ผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าว
นายศรีราชากล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะต้องทบทวนการจำกัดการถือครองที่ดิน และผลักดันการปฏิรูปที่ดิน โดยให้มีการชำระภาษีที่ดินเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการใช้ประโยชน์ในที่ดิน เรื่องนี้แม้จะเป็นเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา เชื่อเถอะว่าไปไม่รอดแน่ เพราะคนรวยในระบอบนี้ไม่มีใครยอม รวมทั้งต้องสร้างเครือข่ายร่วมกัน ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมถึงการจัดให้มีสินบนนำจับ เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว
อย่างไรก็ตามการที่ได้เห็นสภาพบ้านเมืองแบบนี้ คาดว่า เมืองไทยจะไม่มีอะไรเหลือให้คนรุ่นหลังได้ คนรุ่นหลังจะไม่มีที่อยู่ จากนี้ไปต้องจับตาแนวคิดที่รัฐบาลสนับสนุนนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดช่องทางให้เกิดการถือครองที่ดินของต่างชาติมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ตนเองจับตาแนวคิดดังกล่าวตั้งแต่ออสเตรเลียพยายามเอาผลไม้ของไทยไปปลูกในประเทศของตัวเอง แต่ไม่สามารถปลูกได้ จึงมีแนวคิดขอเช่าที่ดินในไทยเพื่อทำการเพาะปลูกแทน ขณะที่นักการเมืองบางคนก็สนับสนุนให้ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางปลูกข้าวหอมมะลิในพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย และจะมีการตรีตราสัญลักษณ์เป็นภาษาตะวันออกกลางทั้งหมด
“เรื่องนี้หากไม่สำเหนียกในการคุ้มครองสิทธิชาวนาไทย ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้มาจากกความไม่สามารถของฝ่ายบริหารของประเทศที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ปลูกพื้นไร่บ้านเราบนที่ดินเราแต่ผลผลิตส่งกลับประเทศของเขาและคนไทยจะเป็นเพียงแรงงานเท่านั้น” นายศรีราชากล่าว
ขณะที่ น.ส.ปิยะนุช โปตะวณิช อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า ปัญหานี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมากในช่วงปี 2558 ซึ่งจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนและเปิดเศรษฐกิจเสรีเพื่อกระตุ้นการลงทุนในภูมิภาค เกรงว่าจะกลายเป็นช่องว่างให้เกิดกระบวนการนิติกรรมอำพรางของต่างชาติ เข้ามาถือครองที่ดินในไทย โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ อยากให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจับตามองเป็นพิเศษ เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งทางด้านการเงินจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องการลงทุนในด้านอื่นๆ เพื่อทำประโยชน์และสร้างกำไรทางเศรษฐกิจ
“ปัญหาตอนนี้คือ ทำอย่างไรให้หน่วยงานตรวจสอบมีความเข้มแข็ง และประสานงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปได้หรือไม่กับการกำหนดข้อห้ามออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร การบูรณาการข้อมูล การเสนอกฎหมายการกระทำความผิดของตัวแทนกระทำอำพราง รวมไปถึงมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มแข็งด้วย หรือการเนรเทศชาวต่างชาติที่กระทำความผิดในส่วนนี้”
ด้านนายสุจิต จงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการทะเบียนที่ดิน กรมที่ดิน กล่าวว่า คนต่างด้าวมีศักยภาพในทางการเงินสูง จึงขวนขวายให้ได้มาซึ่งที่ดินจำนวนมาก เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินตรากลับประเทศ ทั้งนี้การพิสูจน์การถือครองที่ดินของต่างชาติทำได้ยาก เพราะถ้าผู้ที่เข้ามาจดทะเบียนได้ยื่นเอกสารและมีคุณสมบัติตามกฎหมาย เช่น ไม่ใช่เป็นคนต่างด้าว เป็นทรัพย์สินส่วนตัว เป็นต้น ก็สามารถจดทะเบียนได้ และยอมรับว่าตอนนี้มีหลายรูปแบบในการเข้ามาถือครอง เช่น การจดทะเบียนสมรสกับชาวไทย แต่กระบวนการพิสูจน์ว่าทรัพย์สินที่นำมาซื้อที่ดินเป็นสินสมรสหรือส่วนตัว ประกอบกับกฎหมายปัจจุบันได้เปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่สมรสแล้วสามารถใช้คำนำหน้านามว่านางสาวได้ ยิ่งเป็นปัญหาเข้าไปอีก เพราะตรวจสอบได้ยากมากว่าเป็นนอมีนีหรือตัวแทนหรือไม่ นอกจากนี้ในทางปฏิบัติ แต่ละวันมีผู้เข้ามาจดทะเบียนกับกรมที่ดินเยอะมาก ดังนั้นการตรวจสอบจึงมีข้อจำกัด
พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กล่าวว่า ป.ป.ง.เป็นหน่วยงานที่ต้องรับรายงานการทำธุรกรรมการซื้อขายที่ดินด้วยเงินสดเกิน 2 ล้านบาท แต่ตอนนี้พบว่า มีการเลี่ยงกฎหมายด้วยการทำขนาดของธุรกรรมให้เล็กลงโดยไม่ให้เกิน 2 ล้านบาท เพื่อไม่ต้องรายงานป.ป.ง. เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาจำเป็นอย่างยิ่งต้องได้รับความร่วมมือจากกรมที่ดิน
|
รัฐบาลมึนตึ้บ!!'บิ๊กจิ๋ว' ตั้งกองกำลังสลายขัดแย้ง
"พล.ต.สรรเสริญ"งง"พล.อ.ชวลิต" ตั้งกองกำลังสลายขัดแย้ง ”ย้อนกลับ“ถามประชาชนหรือยัง”
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีระบุว่าได้จัดตั้งกองกำลังประชาชนเพื่อสลายความขัดแย้งในบ้านเมืองว่า ไม่แน่ใจว่าที่พล.อ.ชวลิตระบุว่าเกิดความขัดแย้งขึ้นในบ้านเมืองนั้น เป็นความขัดแย้งระหว่างใครกับใคร แต่สำหรับเจ้าหน้ารัฐยืนยันว่าไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใครแน่นอน วันนี้รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนและปฏิรูปประเทศหลายสิ่งหลายอย่างไม่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา แต่หลายสิ่งเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องสานต่อจนสมบูรณ์
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐก็พยายามจะให้ข้อมูลกับประชาชนไม่ให้เกิดการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนด้วยหลักเหตุผลพร้อมกับรับฟังข้อมูลและความเห็นจากประชาชนเช่นเดียว ดังนั้นเจ้าหน้าของรัฐจึงไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับประชาชนอยู่แล้ว
“การมีกองกำลังอะไรสักอย่างเพื่อจะมาทำความเข้าใจหรือลดข้อขัดแย้ง ผมไม่แน่ใจว่าพล.อ.ชวลิตหมายถึงความขัดแย้งระหว่างใคร แต่หากหมายถึงระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ เราไม่มีความขัดแย้งกับประชาชน เพราะฉะนั้นการที่จะมีกองกำลังขึ้นมาปฏิบัติภารกิจตรงนี้ก็ต้องถามประชาชนว่า เขาคิดกับเรื่องนี้อย่างไรที่พล.อ.ชวลิตเสนอและเป็นไปได้หรือไม่ที่ประเทศปัจจุบันนี้จะมีคนตั้งกองกำลังขึ้นมา เพราะความจริงเรื่องการสร้างความเข้าใจถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้ารัฐมากกว่า”พล.ต.สรรเสริญกล่าว
“บิ๊กจิ๋ว” เดินสายป่วน มีเก้าอี้ใหญ่ “เพื่อไทย” เป็นเดิมพัน!
(ย้อนข่าว 2558 บิ๊กจิ๋ว)
|
| |||
|
มุกใหม่! “บิ๊กจิ๋ว” โชว์พาวตั้ง “กองกำลังส่วนที่ 3” เป็นสิบล้าน อ้างแก้คนไทยฆ่ากันเอง
13 มีนาคม 2559 18:01 น. (แก้ไขล่าสุด 13 มีนาคม 2559 18:15 น.) |
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)