PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

เสธ.หมึกยัน"จิ๋ว"ผิดหวัง"แม้ว"/แฉ3ตระกูล"ชินดาวงศ์"ทำพัง!


เสธ.หมึกยัน"บิ๊กจิ๋ว"พูดถึงกองกำลังส่วนที่3แค่คำโก้ไม่ได้เตรียมไว้ก่อการอะไร เผยพล.อ.ชวลิตเคยเตือน"แม้ว"อย่าเอา3ตระกูลมาเกี่ยวพันกับเพื่อไทยแต่ไม่ฟังท่านจึงไม่อยากอยู่ในพรรคนี้อีกแล้ว
วันนี้(14 มี.ค.) พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ นายทหารคนสนิทพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการออกมาเคลื่อนไหวของพล.อ.ชวลิตว่าพล.อ.ชวลิต จ้องมองสถานการณ์การเมืองตลอดเวลา เป็นนายทหารที่เกษียณอายุราชการ แม้จะพูดหรือเสนออะไรไป รัฐบาลคงไม่ฟัง และอาจมองเพียงว่าเป็นนายทหารที่เกษียณแล้วเท่านั้น แต่จากประสบการณ์ที่ทำงาน เคยนำพาบ้านเมืองรอดมาได้หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่คนไทยจับอาวุธต่อสู้กันเอง ท่านเป็นต้นคิดที่เห็นควรออกคำสั่ง 66/23 นิรโทษกรรมให้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
พล.ท.พิรัช ยืนยันว่าพล.อ.ชวลิต มีความเป็นห่วงชาติบ้านเมืองมาก การที่ออกมาแถลงข่าว ไม่ได้ว่าหรือตำหนิใคร เพียงแค่เสนอแนวคิดออกมาก็เพื่อหวังที่รัฐบาลจะฟังบ้างเท่านั้น ไม่ได้คิดจะสร้างความยุ่งยากในบ้านเมืองหรือหวังล้มรัฐบาล ท่านก็อยากให้ประเทศชาติเดินหน้าไปอย่างราบรื่น
"เดิมทีท่านเข้าไปในพรรคช่วงนั้นเพื่อหวังที่จะไปควบคุมความคิดเพื่อให้เป็นในแนวทางสันติประชาธิปไตย พอเข้าไปจริงๆคุยไม่ได้ ท่านเคยเตือนอย่าเอาคนใน3ตระกูลเข้ามาเกี่ยวพันในพรรคมากนัก แต่สุดท้ายนายทักษิณก็ทำไม่ได้ เมื่อเตือนแล้วทำไม่ได้ ท่านก็เลยไม่อยากอยู่ในพรรคนี้อีกแล้ว" พล.ท.พิรัช อธิบายเพิ่มเติมกรณีพล.อ.ชวลิต ระบุถึง กลุ่มชินดาวงศ์ ซึ่งประกอบไปด้วย ชินวัตร,ดามาพงศ์,วงศ์สวัสดิ์
นายทหารคนสนิทของพล.อ.ชวลิต กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้าพล.อ.ชวลิต เคยไปพบปะผู้นำชาวนา เกษตรกรบ่อยครั้ง พล.ท.พิรัชกล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยดูแลชาวนา ชาวไร่อย่างจริงจัง พวกเขาไม่มีการจัดองค์กรอย่างเข้มแข็งที่จะไปต่อสู้กับนายทุนได้จึงถูกเอารัดเอาเปรียบ ท่านก็แนะนำว่าควรออกมาต่อสู้ด้วยตัวเอง โดยมีการรวมตัวกันให้เกิดพลัง เหมือนรูปแบบสหกรณ์ ท่านก็เลยไปแนะนำ ให้ความรู้ให้เกิดการพัฒนา เพราะผลผลิตข้าวชาวนาบ้านเราได้ผลผลิตน้อยกว่าชาวนาเวียดนาม2-3เท่าตัว เพื่อให้เกิดการฟื้นฟู มีพัฒนาการ เพราะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วคนจนในบ้านเรามีมากถึง 70-80เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด และที่เคยไปพูดไปดูแล 12ชนเผ่า เนื่องจากพล.อ.ชวลิต มอบหมาย ชาวเขา ชนเผ่าเหล่านี้ครั้งหนึ่ง เราเคยร้องขอให้มาร่วมต่อสู้กับ ผคท.แต่หลังจากมีคำสั่ง66/23 คนกลุ่มนี้ก็กลับไปทำกิน มีบ้าน ปลูกต้นไม้ต้นใหญ่
อย่างเช่นพื้นที่แห่งหนึ่งแถบภูชีฟ้า จู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ นายทหารมาบอกว่า พื้นที่ที่ทำกินเป็นการบุกรุกพื้นที่ เอาสีมาทาต้นไม้บอกให้เจ้าของมาเคลียร์ ถ้าไม่เคลียร์จะตัด จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น มีการยิงกันบาดเจ็บ ล้มตายก็มี แต่ไม่เคยเป็นข่าว เพราะมีการปิดข่าวเอาไว้ บางพื้นที่ถึงขั้นจะข้ามไปเอาปืนที่ฝั่งลาวเพื่อมาต่อสู้ แต่พวกเราก็ไปกล่อมให้หยุด
พล.ท.วิรัช กล่าวว่าพวกเราทำงานไม่ใช่แค่ปิดทองหลังพระแต่ยิ่งกว่าเป็นเหมือนปิดทองก้นพระเลย แต่ไม่เคยมีใครพูด เราทำงานกันอยู่ทุกวัน เสียตังค์ตัวเองเพื่อให้บ้านเมืองอยู่อย่าสงบ กองกำลังที่3 เป็นเพียงการติดอาวุธทางความคิดเท่านั้น ไม่ได้มีการให้หยิบจับอาวุธมาทำอะไร เพราะทุกวันนี้บ้านเมืองก็ลุกเป็นไฟแล้ว มีที่ไหนเหตุทางใต้ ปล่อยให้คนร้ายเข้ามายิง ยึดโรงพยาบาลได้ แล้วทหารที่อยู่ทำอะไร นอนอยู่หรืออย่างไร หรือไม่สะทกสะท้านอะไร มันน่าอาย พวกระดับนายที่อยู่ในกรุงเทพ เคยรู้อะไรบ้างหรือไม่ ทหารตอนนี้คนเลยไม่ค่อยเชื่อมั่น แม่ทัพนายกองต้องคิดยุทธวิธี เคยคิดกันหรือไม่ ความจริงการจะเอาชนะไม่ยาก เพียงแต่ไม่เคยคิดยุทธวิธีกันเลย
“ทุกวันนี้พล.อ.ชวลิต ยังทำงานด้านช่วยเหลือชาวนา เกษตรกรอยู่ เพียงแต่ท่านออกไปนอกพื้นที่มากไม่ได้ หากออกไปจะถูกนายทหารติดตาม เลยสั่งการให้พวกผมไปทำ คำว่ากองกำลังที่3 เป็นพวกชาวนา เกษตรกร ชาวเขา ชาวเผ่า เป็นคำที่เรียกกันโก้ๆเท่านั้น เป็นการให้ความรู้กับประชาชน ไม่ได้มีเพื่อเตรียมเอาไว้ทำอะไร”พล.ท.พิรัชกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: