PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

คิว ‘อุลตร้าอุตตม’ โชว์


“คนอึด 2018” บทเอกตามท้องเรื่องนี้ ต้องยกให้ “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตหัวขบวนม็อบ กปปส. ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย
กับฉากที่ต้องเผชิญคนดักด่า รุมโห่สองข้างทาง อาเจ๊ อาม่าปิดร้านใส่หน้า
ห้างหรูปิดประตู ปฏิเสธไม่ต้อนรับ
แต่ “ลุงกำนัน” ก็ยังเดินหน้าท้าบาทาต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน นำทีมแห่ป้าย
ขอบริจาคเงินคนละ 1 บาท เพื่อร่วมเป็นเจ้าของพรรค ให้คนธรรมดาได้ร่วมสร้างชาติ
ท่ามกลางเครื่องหมายคำถาม ทำเพื่ออะไร คุ้มหรือไม่ จะโดนด่าไปทำไม
ขบวนการหมั่นไส้ได้ทีเยาะเย้ย “หมดราคา”
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยความเคลื่อนไหวของ “ลุงกำนัน” ปรากฏการณ์ของคิว “คารวะแผ่นดิน”
เป็นข่าว เบียดพื้นที่หน้าหนังสือพิมพ์ อยู่ในกระแสรายวัน
มันเป็นอะไรที่สะท้อนลูกเขี้ยวเล็กๆของยี่ห้อ “เทพเทือก” ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกสถานการณ์ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาแล้วทั้งเวทีเชือดอภิปรายไม่ไว้วางใจสภา เกมม็อบเดือดๆนอกสภา
มีหรือจะอ่านทิศทางกระแสไม่ออก ไม่กระจอกเดินหมากแค่ชั้นเดียวให้จนกระดานง่ายๆ
“จระเข้” ยังไงก็ไม่ตายน้ำตื้น ต้องอ่านกันลึกๆ
เทียบสถานการณ์ที่เหมือนจะเป็นเกมลึก แต่ไปๆมาๆเกยตื้น
กับยุทธศาสตร์ “แตกทัพ” ที่แฝง “แพแตก”
ลูกข่าย “นายใหญ่” ต้องเคลียร์อาการ “มั่วนิ่ม” ตัดแต้มกันเอง
อาการแบบ “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็ยืนยันกลางวงที่ประชุมพรรคว่า เพื่อไทย ก็คือ เพื่อไทย เป็นพรรคเดียว ไม่มีพรรคอื่นเป็นพรรคสำรอง
อีกด้านนายพงศกร อรรณนพพร เลขาธิการพรรคเพื่อธรรม ก็เสียงแข็ง พรรคเพื่อธรรมไม่ใช่นอมินีหรือพรรคสาขารองรับพรรคเพื่อไทย
เช่นเดียวกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช กับ “ตุ๊ดตู่” นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อชาติ ก็ประสานเสียงพรรคเพื่อชาติไม่ใช่นอมินีพรรคเพื่อไทย
แต่ทั้งเพื่อไทย เพื่อธรรม เพื่อชาติ ไม่มีใครปฏิเสธว่า ไม่ใช่ทีมของ “ทักษิณ”
อาศัยเหลี่ยมตีกินกระแส “บุญเก่า”
นั่นเท่ากับโยนไฟต์บังคับ วัดใจ 1 สิทธิ์ 1 เสียงของกองเชียร์ “นายใหญ่”
จะโหวตให้ใครได้แค่คะแนนเดียว
ถึงวันเข้าคูหากาบัตรยากที่จะบล็อกอยู่ คะแนนแตกกระจายแน่
และในขณะที่ทีมแชมป์เก่ายี่ห้อ “ทักษิณ” กำลังป่วนกับการตีกิน “บุญเก่า”
อีกด้านก็เป็นการตั้งหน้าตั้งตาสะสม “บุญใหม่” ปั่นเนื้องานช่วงชิงคะแนนนิยม
ตามท้องเรื่อง “อุลตร้าอุตตม” ปล่อยพลัง
กับปรากฏการณ์ที่สังเกตได้เลยว่า มีการวางคิวเด่นให้นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เป็นคนเปิดเผยมติที่ประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดเชียงราย อนุมัติให้เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลักในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพิ่มเติมอีก 4 โครงการ
ประกอบด้วยโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมือง
การบินภาคตะวันออก โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 มูลค่าลงทุนรวมกว่า 4.7 แสนล้านบาท
รวมกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ทำให้มีมูลค่าการลงทุนทั้งหมดกว่า 6 แสนล้านบาท และจะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อประเทศไม่ต่ำกว่า 8 แสนล้านบาท
ประกาศเมกะโปรเจกต์ “เรือธง” อีอีซี ถึงนาทีนี้ยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่
ต่อเนื่องกับช็อตก่อนหน้านี้ที่นายอุตตม ในฐานะ รมว.อุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ “ปลดล็อก” ไม่ต้องต่ออายุ “ใบอนุญาต รง.4”
ในความดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นการอำนวยความสะดวก ลดภาระความยุ่งยากสำหรับผู้ประกอบการ และเป็นมาตรการกระตุ้นการลงทุน
โชว์มาตรฐานความโปร่งใส มือบริหารยุคปลอดเงินใต้โต๊ะ
มุกนี้เชื่อขนมกินได้ กับเสียงของผู้ประกอบการและพนักงานโรงงานทั่วประเทศ
“อุตตม” ปล่อยพลังส่งท้ายสถานะ รมว.อุตสาหกรรม
ส่งพลังให้ “อุลตร้าอุตตม” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน