PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ผบ.ตร.รับมีคนวางแผนมุ่งร้ายผู้นำรัฐบาล

25 พ.ย. 58 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการควบคุมตัว 3 ผู้ต้องสงสัย ที่พบว่าเตรียมก่อความวุ่นวายได้ที่จังหวัดขอนแก่น หลังมีการสืบสวนและเฝ้าฟังทางการข่าวอย่างต่อเนื่อง จนพบว่ามีความพยายามจะพุ่งเป้าก่อเหตุวินาศกรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และมีเป้าหมายเป็นผู้นำในรัฐบาล ซึ่งยังไม่ทราบแนวคิดทางการเมืองของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสืบสวนขยายผล ซึ่งคาดว่าน่าจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมากกว่านี้อีก โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งรวมถึงจะนำเหตุการณ์ในอดีตมาวิเเคราะห์หาความเชื่อมโยงด้วย

ทหารเรือ 200 นาย เรือ34 ลำ พร้อมแล้ว...ดูแลคืนลอยกระทง ในแม่น้ำเจ้าพระยา



ทหารเรือ 200 นาย เรือ34 ลำ พร้อมแล้ว...ดูแลคืนลอยกระทง ในแม่น้ำเจ้าพระยา
กองเรือลำน้ำ ตั้งศูนย์ช่วยเหลือทางน้ำฯตลอดคืนนี้ 02-4753093,024126963 สายด่วน1696
พลเรือตรี นิกิตติ์ ฑีร์ฆะยศ ผู้บัญชาการกองเรือลำน้ำ เป็นประธานเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ เนื่องในวันลอยกระทง ประจำปี 2558 บริเวณใต้อาคารราชนาวิกสภาหลังใหม่ เขตบางกอกน้อย
โดยมี พลเรือตรี นิกิตติ์ ฑีร์ฆะยศ
ผู้บัญชาการกองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ เนื่องในวันลอยกระทง ซึ่งในวันลอยกระทงของทุกปีจะมีประชาชนมาลอยกระทงตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา และมีการสัญจรของเรือท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงมักเกิดอุบัติเหตุทางน้ำบ่อยครั้ง
ดังนั้น กองทัพเรือ จึงได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำเนื่องในวันลอยกระทงขึ้น
โดยจัดเรือกำลังพลและยุทโธปกรณ์ และชุดแพทย์เคลื่อนที่จากกรมแพทย์ทหารเรือ พร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำในครั้งนี้ ประกอบด้วย กำลังพล 200 นาย เรือ 34 ลำ รถพยาบาล 2 คน รถยนต์ 5 คัน แบ่งกำลังออกเป็น 3 หน่วย โดยลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ระหว่างสะพานพระราม 8 ถึงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ท่าเรือบางนาถึงอ.พระประแดง สมุทรปราการ และโรงเรียนนายเรือถึงอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการ
ทั้งนี้ เริ่มปฏิบัติการ ในวันที่
25 พฤศจิกายน 2558 เวลา 17.00 น. ถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 เวลา 08.00 น. ประชาชนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือกับทางศูนย์ฯ ได้ที่ หมวดเรือที่ 3 กองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0 2475 3093
และ 0 2412 6963 หรือสายด่วน 1696

นายกฯ ลั่น!ทำทุกอย่างเพื่อคนไทย ย้ำยึดโรดแม็พเดินหน้าประเทศ


‘นายกฯ’ ลั่น!ทำทุกอย่างเพื่อคนไทย ย้ำยึดโรดแม็พเดินหน้าประเทศ เป็นประธานลงนามเอสเอ็มอี ดึง 9 ราชมงคลร่วมภารกิจ
25 พ.ย.58 เมื่อเวลา 09.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสร้างผู้ประกอบการใหม่ เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม ระหว่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จำนวน 9 แห่ง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย โดยมีเป้าหมายสร้างผู้ประกอบการรายใหม่หรือกลุ่มใหม่ที่เริ่มดำเนินธุรกิจภายในปี 2561 จำนวน 1 หมื่นราย โดยใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ภายหลังพิธีลงนามนายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการบริเวณโถงกลางตึกสันติไมตรีที่มีผู้ประกอบการนำธุรกิจมาจัดแสดง
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับผู้ร่วมงานตอนหนึ่งว่า ตนดีใจที่ภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ร่วมมือกันขับเคลื่อนงาน ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เอสเอ็มอีเป็นวาระแห่งชาติ จึงถือเป็นประวัติศาสตร์ ที่จะผลักดันให้การส่งเสริมผู้ประกอบการสอดคล้องสถานการณ์โลกและปัจจัยภายในประเทศ และตนได้พูดเรื่องนี้ตลอดที่มีการประชุมระดับโลกในทุกเวที ที่เราต้องให้ความสำคัญ เพราะถือเป็นฐานรากของเศรษฐกิจและประชาคมโลก การเดินหน้าเรื่องนี้จึงต้องมีโรดแม็พที่ชัดเจนว่าเดินหน้าเรื่องนี้อย่างไร ที่ผ่านมามีแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯมาแล้ว 11 ฉบับ แต่เดินหน้าไม่ได้ ฉบับที่ 12 นี้จึงต้องเดินหน้าให้ได้จริง ต้องไปข้างหน้าโดยย้อนเรื่องอดีตมาดูและทำอนาคตให้เข้มแข็งนอกจากการเข้าหาแหล่งเงินทุน ยังต้องให้ความสำคัญด้านอื่น เช่น การให้ความรู้ การเพิ่มการวิจัยพัฒนา ซึ่งเป็นกรอบงานเศรษฐกิจทั้งสิ้น ที่ผ่านมาทำงานแบบหน่วยงานของใครของมัน จึงไม่เกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ จับต้องไม่ได้ หากทำได้คงไม่ต้องมายืนตรงนี้ ในวันนี้เมื่อมีปัญหาด้านเศรษฐกิจเพราะมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกก็ต้องช่วยกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในการสร้างผู้ประกอบการแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.ผู้ประกอบการใหม่ เปิดธุรกิจเกิน 3 ปีไปแล้ว ต้องช่วยให้เกิดความเข้มแข็ง ให้ความรู้และควบคู่กับการสนับสนุนให้เข้าถึงแหล่งทุน เริ่มต้นอย่างถูกทาง 2.กลุ่มที่ประกอบการแล้วมีปัญหา ต้องช่วยหาวิธีเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินทั้งเก่าและใหม่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการประกอบการ ไม่ใช่มุ่งเน้นการสร้างกำไร เพราะจะเป็นช่องว่างคนมีรายได้มากและคนมีรายได้น้อย เพื่อให้การบริหารงานเกิดเป็นรูปธรรม 3. ผู้ประกอบการเดิมที่ต้องมีการส่งเสริมปรับรูปแบบการเรียนรู้ เพราะบางเรื่องสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดข้อติดขัดและเดินต่อไปไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่ตัวบุคคล จึงต้องสร้างความเข้มแข็ง เพราะถ้าเราไม่เข้มแข็งพอก็ต้องไปทำตามสิ่งที่คนอื่นกำหนดทั้งหมด เมื่อผู้ประกอบการเข้มแข็ง เขาก็เห็นคุณค่าของเราเอง ทั้งนี้อยากให้มีการจดทะเบียนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้ง 3 ล้านรายภายในปี 2559 โดยในปี 2560 จะได้มีการพัฒนาต่อไป ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนไม่ตำหนิใคร แต่ขอตำหนิผู้บริหารทั้งหมด จากพีระมิดบนสูงล่างต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา แต่การแก้ปัญหาทำไม่ได้ เพราะเราติดแต่ทำพิธีการ มีนายกฯมาเปิด-ปิดงานแล้วจบไป มันไม่ใช่ วันนี้เป็นการเปิดงานที่เป็นรูปธรรม เพราะตนจะต้องมีการติดตามงานด้วยตลอด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การดำเนินงานทุกฝ่ายทั้งสถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐต้องให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ การวิจัยและพัฒนาให้เกิดความเชื่อมโยงกัน ในการขับเคลื่อนงาน หลายคนอยู่เกี่ยวข้องกับเรื่องการศึกษา ต้องตั้งต้นที่การเคารพกฎหมาย ต้องสร้างความเชื่อมโยงให้คนรุ่นใหม่ รู้จักสิทธิ เสรีภาพ แต่ไม่รู้จักหน้าที่ จึงต้องมีวินัยไม่ใช่คิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก จะถูกกฎหมายหรือไม่ถูกไม่เป็นไร ขอให้ได้เงินมา เราต้องขจัดปัญหาตรงนี้ที่ทำให้การประกอบการติดขัดให้หมดไป ที่ผ่านมามีความทับซ้อนในการใช้อำนาจบริหาร ทำให้ข้าราชการเดินหน้าไปไม่ได้ สิ่งเหล่านี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก บางเรื่องที่เสนออยู่ตามสื่อ ตนไม่ได้ดำเนินการอะไร แต่ให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม เพราะจะพูดมากไม่ได้ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ตนพูดไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง แต่เป็นเรื่องที่วางพื้นฐานไว้แล้ว จะมาล้มไม่ได้ เพราะปล่อยให้เป็นปัญหามาเพียงพอแล้ว วันนี้ต้องการให้เป็นไปตามโรดแม็พ วางพื้นฐานเพื่อให้เกิดความเข้มแข็งภายในประเทศและสอดคล้องสภาพเศรษฐกิจโลก อย่าคิดแค่จะให้นักการเมืองมาเซ็นต์เช็คให้เปล่า เพราะไม่รู้ว่าเมื่อเป็นประชาธิปไตย มีการเลือกและมีผู้แทนเข้ามาแล้ว เขาจะเข้ามาทำต่อได้หรือไม่ อย่าคิดแต่ว่าเลือกตั้ง มีผู้แทน แต่จะทำหน้าที่สมบูรณ์หรือไม่ไม่รู้ โดยไม่ได้ดูว่าคนดีหรือเลว รักคนไหนก็รักคนนั้นอย่างเดียว เราต้องล้างให้การเมืองใสสะอาด บริสุทธิ์ เพื่อเป็นการปฏิรูปในเรื่องนี้ ตนเป็นทหาร เจอชาวบ้านและดูแลมาตลอด สงสารเขา ทำอย่างไรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นหน้าที่พวกเรา รัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ตนจึงต้องการให้มีรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เอาใจใส่ทุ่มเท หรืออย่างน้อยต้องเริ่มต้นให้ได้ อย่าให้พังทลายในวันหน้าอีก ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร แต่ทำเพื่อคนไทย ส่วนเรื่องประชาธิปไตยก็ไม่ได้เอาไปพูดในเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการลงทุนเรายังเป็นมิตรที่ดีกับชาวต่างชาติ เพราะทิ้งใครไม่ได้ แต่ด้วยประเทศเขาเป็นประชาธิปไตยก็ต้องพูดไปอย่างนั้น แต่การค้าลงทุนยังเหมือนเดิม ขออย่าให้ความสำคัญจนขาดความมั่นใจ อย่าเอาเรื่องเศรษฐกิจมาเกี่ยวโยงกับการเมือง ยืนยันทำทุกอย่างเพื่อคนไทย คนที่มาลงทุนและมาท่องเที่ยวในไทย
นายกฯ กล่าวว่า เราต้องรื้อปัญหาทั้งหมด โดยสิ่งสำคัญคือการศึกษาทุกระดับต้องเชื่อมโยงกันหมดว่าประเทศต้องการอะไร การไม่เคารพกฎหมาย มีการอ้างเรื่องประชาธิปไตย ครูอาจารย์บางคนก็ไม่เข้าใจในเรื่องนี้ จนทำความเสียหายต่อประเทศมากกว่าตนเสียอีก เพราะทำให้เกิดความเข้าใจผิด วันนี้มีรัฏฐาธิปัตย์ใช้ทั้งการบริหารราชการแผ่นดิน ใช้กฎหมายก็ยังแก้ไขไม่ได้ในบางเรื่อง หลายเรื่องมีความเชื่อมโยงกันหลายส่วน จึงต้องใช้กระบวนการยุติธรรมเข้าไปดำเนินการ ตนเพียงแต่รวบรวมมาทำ เพราะมีหลายคดี แต่กลายเป็นว่าตนไปเร่งรัด หรือจะให้ปัญหาสะสมต่อไปหรือ วันนี้ต้องคิดถึงประเทศ ไม่ใช่อะไรก็เอามาเป็นการเมือง ทุกอย่างเป็นการเมืองทั้งหมด
“ผมไม่เคยปฏิเสธที่มาของผม และพร้อมเชิดหน้าสู้เพราะผมเข้ามาทำความดี แต่ถ้าหลายคนอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมก็เอา ที่บอกว่าขอเวลาอีกไม่นานก็เป็นไปตามนั้น ตามวาระปี 2560 แต่ตอนนี้ยังไม่เสร็จ หากการขับเคลื่อนเอสเอ็มอีเกิดความเข้มแข็งอย่างที่ตนบอกมาเพื่อให้คุ้มกับที่เสี่ยงชีวิตเข้ามา ผมก็พอใจแล้ว ไม่อย่างนั้นก็ไม่เกิดประโยชน์ เสียเวลา เสียกำลังใจ เสียสุขภาพ ชีวิตส่วนตัว วันนี้ข้าราชการเขาระวังตัว เพราะกลัววันหน้าการเมืองเข้ามาจะเดือดร้อนอีก สิ่งเหล่านี้ก็กระทบการเดินหน้าทำงาน ต้องเข้าใจว่ามีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ทับซ้อน ทั้งประชาธิปไตย เศรษฐกิจและความมั่นคง การเดินหน้าต่างๆ มันทับซ้อนกันไปหมด ขณะนี้การสร้างความขัดแย้งพร้อมที่จะเกิดขึ้นตลอด มีข่าวออกมาว่ามีการสร้างหลักฐานเท็จ และการกล่าวหาต่างๆ ไม่รู้จะทำให้ผมอกแตกตายก่อนหรืออย่างไร เพราะโมโห ผมไม่ใช่คนใจเย็น มันเย็นไม่ได้ เพราะประเทศรอไม่ได้ พยายามพูดให้ต่างชาติเข้าใจ การค้าขายเขาไม่ได้รังเกียจผม มีแต่ภาคการเมืองทั้งที่อยู่ในและต่างประเทศที่โจมตีผม ซึ่งไม่รู้ว่าเขาไม่อยากให้ประเทศเข้มแข็งหรืออย่างไร หรือเพราะต้องการให้ประเทศอ่อนแอเพื่อทำให้ชักจูงได้ง่าย การเมืองก็คือการเมือง การทำงานก็คือการทำงาน ไม่มีพวก ไม่มีเพื่อน ไม่มีพี่ ไม่มีน้อง พวกไม่ดีก็อย่าเอามาทำงานใหญ่ อย่างพี่ผมเขาก็เข้ามาช่วยกันทำงาน แต่พอมีใครขับรถผ่านไปหน้าบ้าน แค่ขับรถผ่าน ยังไม่ได้เข้าบ้านก็หาว่าไปเข้าพบ ไปวิ่งเต้น อย่างคนที่ถ่ายรูปกับผมก็เหมือนกัน ผมถ่ายรูปกับคนแยะเยอะ วันหน้าอย่าลบแล้วบอกว่าไม่รู้จักกันก็แล้วกัน พอผมบอกว่าเหนื่อยก็มีพวกการเมืองถามว่าจะเข้ามาทำไม ก็ขอโทษแล้วกัน ที่เข้ามาเพราะทนเห็นประชาชนเดือดร้อนไม่ได้ ไม่อยากให้ประเทศเป็นรัฐล้มเหลว หากไม่เข้ามาไปถึงจุดนั้นแน่ จะมีสงครามกลางเมืองและมีเพื่อนๆ เข้ามาช่วยเหมือนกับที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ ผมขอให้อดทนอีกสักระยะหนึ่งเพราะสิ่งที่ทำไว้มันไม่มีความก้าวหน้า อดทนกับผมหน่อยเพื่อทำให้เกิดความก้าวหน้า ขอโทษที่พาดพิงใครให้เกิดความเสียหาย อย่าเสียใจ เพราะผมก็เสียใจ เพราะผมไม่มีเจตนา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ ลั่น!ทำทุกอย่างเพื่อคนไทย ย้ำยึดโรดแม็พเดินหน้าประเทศ เป็นประธานลงนามเอสเอ็มอี ดึง 9 ราชมงคลร่วมภารกิจ
KOMCHADLUEK.NET

จับตาดู 4 สถานการณ์ใหญ่ เพื่อก้าวให้ทันโลก!


Cr:ไพศาล พืชมงคล
จับตาดู 4 สถานการณ์ใหญ่ เพื่อก้าวให้ทันโลก!
1. ต้องจับตาดูสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับตุรกี ที่ถ้าหากตูมตามขึ้นมาก็อาจกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ทันที การที่รัสเซียยังไม่ตอบโต้ตุรกีทันทีทันควันเป็นเรื่องน่ากังวล เพราะนั่นสะท้อนว่ากำลังมีการเตรียมการที่พร้อมพรั่งกว่าที่คิด ชนิดม้วนเดียวจบก็ได้
2. จับตาดูสถานการณ์ก่อการร้ายที่กำลังลุกลามอยู่ในยุโรป ประเดี๋ยวระเบิดที่นั่น ประเดี๋ยวระเบิดที่นี่ ประเดี๋ยวขู่วางระเบิดเครื่องบินไม่เว้นแต่ละวัน วันละหลายหน จน จนยุโรปกลายเป็นดินแดนแห่งความหวาดกลัวไปแล้ว
3. จับตาดูว่าเครื่องปรับสภาพอากาศหรือที่เรียกว่าเซิน (Cern) ที่มีข่าวว่าหยุดการเดินเครื่องไปแล้วนั้นเป็นจริงหรือไม่ เป็นการหยุดโดยธรรมดา ธรรมชาติ หรือว่าถูกทำลาย ซึ่งถ้าเป็นการหยุดเพราะถูกทำลายก็เป็นสัญญาณหมายของสงครามโลกครั้งที่ 3 แน่นอนแล้ว
4. สำหรับประเทศไทย ต้องจับตาดูความเคลื่อนไหว 3 กรณีคือ
4.1 ข่าวคราวขบวนการคนชุดดำ ขอนแก่นโมเดล ที่มีข่าวว่าถูกจับกุมหลายคน และรับสารภาพกันบ้างแล้วว่าเตรียมการโจมตีบุคคลสำคัญของประเทศในช่วงใกล้ ๆ นี้
4.2 ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของชาวตุรกีในประเทศไทย ที่อาจผสมด้วยชาวเยเมนสายที่ขึ้นต่อซาอุดิอาระเบีย ที่เคลื่อนไหวเชื่อมโยงกันทั้งทางเหนือและทางใต้ โดยอาศัยโอกาสที่รัฐบาลก่อนได้ยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศไทยอย่างเงียบเชียบ ดังนั้นจึงมีชาวตุรกีเข้ามาในประเทศไทยมากผิดสังเกต ถ้ามาท่องเที่ยวก็ดีไป หากไม่ใช่ก็ยุ่ง
4.3 การป้องกันระวังเหตุร้ายในช่วงเทศกาลสำคัญ 5 เทศกาล คือ ลอยกระทง, Bike for Dad, งานพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราช, งานวันชาติ และงานวันขึ้นปีใหม่ ที่คนไทยทั้งประเทศต้องระมัดระวังอย่าให้ใครฉวยก่อเหตุร้ายขึ้นได้เป็นอันขาด.

โอบามาพร้อมหนุนตุรกีหลังสอยบินโซเวียต



โอบามาลั่น!พร้อมสนับสนุนตุรกี จากเหตุยิงเครื่องบินรัสเซียตก
เมื่อวาน (24 พ.ย.) ทำเนียบขาวกล่าวในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯได้หารือผ่านโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเรเจพ ไทยิพ เออร์ดวนของตุรกี เพื่อต้องการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์จากเหตุยิงเครื่องบินรัสเซียตกใกล้กับเขตชายแดนตุรกี-ซีเรีย
โดยโอบามากล่าวว่า “สหรัฐฯและนาโตจะสนับสนุนสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยตัวเองของตุรกี อีกทั้งผู้นำได้ตกลงกันที่จะลดระดับความรุนแรงและมีการจัดการเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก”
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่าเหตุเครื่องบินรบ Su-24 ของรัสเซียตกในซีเรียเพราะถูกยิงจากภาคพื้นดิน แต่ทางกองทัพตุรกีกล่าวว่า Su-24 ได้รับคำเตือนไม่ให้รุกล้ำน่านฟ้าตุรกีแล้ว 10 ครั้งใน 5 นาที ก่อนที่เครื่องบินรบ F-16 ของตุรกีจะทำการ “ยับยั้ง”

โอบามาลั่น!พร้อมสนับสนุนตุรกี จากเหตุยิงเครื่องบินรัสเซียตก



โอบามาลั่น!พร้อมสนับสนุนตุรกี จากเหตุยิงเครื่องบินรัสเซียตก
เมื่อวาน (24 พ.ย.) ทำเนียบขาวกล่าวในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯได้หารือผ่านโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเรเจพ ไทยิพ เออร์ดวนของตุรกี เพื่อต้องการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์จากเหตุยิงเครื่องบินรัสเซียตกใกล้กับเขตชายแดนตุรกี-ซีเรีย
โดยโอบามากล่าวว่า “สหรัฐฯและนาโตจะสนับสนุนสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยตัวเองของตุรกี อีกทั้งผู้นำได้ตกลงกันที่จะลดระดับความรุนแรงและมีการจัดการเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก”
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่าเหตุเครื่องบินรบ Su-24 ของรัสเซียตกในซีเรียเพราะถูกยิงจากภาคพื้นดิน แต่ทางกองทัพตุรกีกล่าวว่า Su-24 ได้รับคำเตือนไม่ให้รุกล้ำน่านฟ้าตุรกีแล้ว 10 ครั้งใน 5 นาที ก่อนที่เครื่องบินรบ F-16 ของตุรกีจะทำการ “ยับยั้ง”

คนปชป.รับกระแสผู้ใหญ่สั่งปลดชายหมูเรื่องจริง

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2558 เวลา 18:23 น. 

กระแสข่าวผู้ใหญ่สั่งปลด”ชายหมู”เรื่องจริง 

กระแสข่าวผู้ใหญ่สั่งปลด”ชายหมู”เรื่องจริง “ 2 อดีตส.ส.ปชป.” ไล่ “ชายหมู” พ้นพรรค ลั่นสมควรพิจารณาตัวเอง หลังทำงานสอบตก ด้าน “วัชระ” รับเป็นความจริงกระแสข่าวผู้ใหญ่สั่งปลด 

เมื่อวันที่ 25พ.ย.นายวิลาศ  จันทร์พิทักษ์  อดีตส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าคณะผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการหารือกันและมีมติออกมาอย่างไม่เป็นทางการว่าสมควรให้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. พ้นจากสมาชิกพรรค ว่า ส่วนตัวเห็นว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ไม่เหมาะที่จะเล่นการเมืองอีกต่อไป เพราะการทำงานไม่ตอบสนองประชาชนและไม่รับผิดชอบต่อคะแนนเสียงที่ประชาชนให้มา และความเสียหายของพรรคเกิดขึ้นทุกวัน   “วันนี้มีข่าวว่าผู้บริหารพรรคมีมติปลดม.ร.ว.ออกจากสมาชิกพรรคผมถามว่าจะเอาออกได้อย่างไร เอาเขาออกอย่างไรในเมื่อติดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ประชุมพรรคไม่ได้  แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ทำให้พรรคเสียหายหลายครั้งเขาควรจะพิจารณาตัวเอง วันนี้สังคมพูดกันมากว่ารับไม่ได้ในตัวผู้ว่าฯกทม. ไม่ได้ยินบ้างหรือชาวบ้านเขาด่ากันทุกวัน” นายวิลาศกล่าว   ด้านนายวัชระ เพชรทองอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวยอมรับว่า กระแสข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริงโดยมีการพูดคุยกันในวงผู้ใหญ่ของพรรค อย่างหนาหูซึ่งตนไม่อาจแสดงความคิดเห็นได้ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์สมควรถูกปลดออกจากพรรคหรือไม่ แต่จากการประเมินการทำงานของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์นั้น ถือว่าสอบตกและควรพิจารณาตัวเอง เนื่องจากประชาชนส่ายหน้ากับพฤติกรรมรวมทั้งเบื่อหน่ายในการปฏิบัติหน้าที่  ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ได้นัดพบ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจในเรื่องการทำงานที่วังสวนผักกาด ถึง 2 ครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธทั้ง 2ครั้ง โดยครั้งล่าสุด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่พอใจที่มีสื่อมวลชนทราบถึงการนัดหมายจึงให้นางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)ในฐานะรองโฆษกกทม. แจ้งเลื่อนนัดออกไป ซึ่งตนเห็นว่าในเมื่อม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่มีเวลาแม้แต่จะพบปะกับหัวหน้าพรรคก็สมควรพิจารณาตัวเองได้แล้ว  อย่างไรก็ตาม ตนทราบว่าหลังวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จะมีมาตรการดำเนินการกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์แต่ส่วนรายละเอียดนั้นตนยังไม่ทราบ.“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/363206

ไปดูนักข่าวซีเรียวิเคราะห์กรณีตุรกีโจมตีบินรัสเซีย





มิมิ นักข่าวสาวชาวซีเรียประจำสื่อฉบับหนึ่งออกมาประเมินสถานการณ์ ผมขอสรุปและขยายเพิ่มบางส่วนเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เธอบอกว่า ๑.ตุรกีจงใจยิงเครื่องบินเพราะคิดว่ารัสเซียจะไม่ตอบโต้ แต่ถ้ารัสเซียไม่ตอบโต้ ก็อาจจะสูญเสียสถานะความเป็นมหาอำนาจที่จะเข้ามาครอบครองพื้นที่ตะวันออกกลางได้ ๒.เครื่องบิน Su24 บินสบายๆ โดยปรกติแล้ว จะเป็นเครื่องบินประเภททิ้งระเบิด (bomber) ไม่ใช่เครื่องบินขับไล่ (fighter) ดังที่ผมวิเคราะห์ จึงเทอะทะกว่า F16 เธอบอกว่าถ้า Su30 มาด้วย F16 คงถูกสอยร่วงไปก่อนหน้าที่จะตั้งท่าจะยิง Su24 ด้วยซ้ำ ๓.เธอไม่คิดว่านาโต้จะเข้ามาช่วยตุรกีเพราะเครื่องบินถูกยิงในดินแดนของซีเรีย ไม่ใช่ที่ตุรกีอย่างที่ตุรกีอ้าง ถ้ารัสเซียโจมตีตุรกี ตุรกีก็จะถูกโดดเดี่ยว
25 พฤศจิกายน 2558
https://www.youtube.com/watch?v=u3c-3d1qVz8

ปธน.ตุรกียัน!เหตุยิงเครื่องบินรบรัสเซียตก เป็นสิทธิ์ของตุรกี


ปธน.ตุรกียัน!เหตุยิงเครื่องบินรบรัสเซียตก เป็นสิทธิ์ของตุรกี
เมื่อวาน (24 พ.ย.) นายเรเจพ ไทยิพ เออร์ดวน ประธานาธิบดีตุรกีแถลงการณ์ในกรุงอังการาว่า ทุกฝ่ายจะต้องเคารพสิทธิ์ในการปกป้องชายแดนของตุรกี
เขากล่าวว่า “ตุรกีไม่ได้แค้นเคืองประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด และแน่นอนว่าเราได้พยายามที่จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว”
เขาอธิบายว่า เครื่องบินรบ F-16 ของตุรกีนั้น “ถูกขัดขวางโดยเครื่องบินรบนิรนาม ตามกฎการปะทะที่ทั่วโลกทราบดี”
ทั้งที่ส่งคำเตือนไปถึง 10 ครั้งแล้ว เครื่องบินรบนั้นก็ยัง “กระทำความรุนแรง” ต่อเครื่องบินรบตุรกี จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องยิงเครื่องบินรบตกไปลำหนึ่ง นายเออร์ดวนกล่าวโดยไม่ได้เจาะจงว่าเครื่องบินรบดังกล่าวเป็นของรัสเซีย
ประธานาธิบดีเออร์ดวนไม่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์โจมตีในซีเรียของรัสเซียโดยตรง แต่กล่าวถึงการที่รัสเซียโจมตีกลุ่ม “Bayirbucak Turkmen” ว่า “เราประณามการโจมตีที่มุ่งทำลายพี่น้องของเรา”
รัฐบาลตุรกีได้เตือนให้รัสเซียหยุดปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาค ซึ่งทางตุรกีเชื่อว่าจุดประสงค์ของปฏิบัติการนั้นมุ่งไปที่กลุ่มชาวเติร์ก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศของตุรกีได้เรียกให้เอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบ โดยกล่าวว่าไม่พอใจต่อการโจมตีทางอากาศของรัสเซียที่ทำลายหมู่บ้านชาวเติร์กทางเหนือของซีเรีย
ในขณะเดียวกันกระทรวงกลาโหมของรัสเซียก็ออกแถลงการณ์ว่า เครื่องบินรบ Su-24 ของรัสเซียนั้นถูกยิงตกเครื่องบินรบ F-16 ของตุรกีระหว่างทางกลับฐานทัพอากาศ Hmeimimในซีเรีย ซึ่งเป็นที่มั่นของกองทัพรัสเซียในการปฏิบัติการทางอากาศเพื่อโจมตีกลุ่มก่อการร้ายนั่นเอง

ภัยใกล้ที่มองไม่เห็น

25112558 สถานการณ์ 'ภัยใกล้' ที่มองไม่เห็น เปลว สีเงิน
คณะ "ปู ซกมก" ปล่อยโคมลอย "รัฐสภายุโรป" ไปเมื่อวาน ปรากฏว่า ไปเกี่ยวหลังคาบ้านใครก็ไม่รู้ แถวๆ ซอยโยธินพัฒนา ๓ ลาดพร้าว
"โคมเรา-เผาเรือน" เรียบร้อย!
วันนี้...วันเพ็ญกลางเดือน ๑๒ ปล่อยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่โคมลอย หากแต่เป็น "ลงกระทอย-ลอยกระทง"
คืนนี้...สุขี..สุขี..ลอยกระทงกันนะพี่น้อง "คลองโอ่งอ่าง" นั่นน่ะ ถอดรูปเงาะ เหมือนเวนิส น้ำใส
ไปจ๋อมแจ๋มฉลองชัยที่กรุงเทพฯ ได้คลองคืนมา ไปให้ครบหน้า-ครบตาชาวประชาบางกอกเน้อ!
ส่วนการดับโคม...ไม่ต้องดับ
นายกฯ ประยุทธ์ออกมาดับแล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ "ดอน ปรมัตถ์วินัย" ก็ดับแล้ว ดับจากไทยไปถึง "รัฐสภายุโรป"
แต่ผมกะจะลอยอีกซักโคม..........!
แต่พอดีเห็น "อ้ายปึ้ง" โผล่หัวออกมาลอย...ก็จบกัน เพราะแค่เห็นหน้า-เห็นจมูก ก็เห็นทะลุไส้
มุก "หิ้วชายกระโปรง" นี้ไม่มีใคร...."ก็มันนั่นแหละ"!
ฉะนั้น ไม่ต้องคุยกันแล้วเรื่องนี้ นั่งอ่านที่หลายๆ ท่านไปค้นแคะ "เบื้องหน้า-เบื้องหลัง" ของหนังสือเชิญมาตีแผ่ดีกว่า
อ่านแล้ว "ผวา" อยากบอกด้วยรักและห่วงใยอดีตนายกฯ หญิงว่า...
"อย่าไปเลย...มันหลอก จะบอกให้" เพราะนายเอลมา บรูค ที่เชิญนั้น ประวัติด้านผลาญพรหมจรรย์หญิง
"ฉกาจฉกาม" น่ากั๊ว..น่ากลัว!?
หลายโพสต์ตรงกัน เพื่อยืนยัน ที่พูดนี่ไม่ใช่ปล่อยโคมลอย ขออนุญาตลอกเวอร์ชันคุณ Pat Hemasuk เป็นตัวอย่างละกัน
"หลายๆ คนคงเห็นจดหมายเชิญยิ่งลักษณ์ จากทางอียูแล้วมีคนลงชื่อสองคนที่ไม่บอกตำแหน่งอะไรเลย ผมอยากจะเจาะสั้นๆ ให้เห็นกันว่า
คนลงชื่อ 'ทั้งสองคนนี้' เป็นใคร?
เอาชื่อแรกก่อนครับ 'นาย เอลม่า บรูค' คนนี้เป็นคนเยอรมันอายุ ๖๙ ปี เป็นสมาชิกสภายุโรป และนั่งตำแหน่ง 'ประธานคณะกรรมการต่างประเทศ' อดีตเคยเป็นนักจัดรายการวิทยุและนักข่าวมาก่อน
แต่ถ้าย้อนหลังไปสัก ๔-๑๐ ปีที่ นายเอลม่า บรูค เคยทำไซด์ไลน์บริษัทเอกชน เคยนั่งตำแหน่งเก้าอี้รองประธานอาวุโสแผนกพัฒนาสื่อ ของบริษัทผลิตสื่อของเยอรมันแห่งหนึ่ง
แต่ที่จริงแล้วเป็นตำแหน่งแขวนไว้อย่างนั้นเอง งานจริงๆ ของเขาคือเป็น "ล็อบบี้ยิสต์" ให้กับบริษัทสื่อนี้กับทางสภา EU
ประวัติปูมหลังคนนี้ก็แสบไม่เบาครับมีเรื่องฉาวอยู่ไม่น้อย.....
เมื่อสองปีก่อน เคยโดนกลุ่ม Femen ที่เป็น 'กลุ่มสิทธิสตรี' เล่นงานไปหลายดอก
เนื่องจากนาย เอลม่า บรูค นั้น แก่แต่อายุ ยังจิต....อยู่มิใช่น้อย (ขอขลิบออกนิดนึง...เปลว) ไปซื้อบริการโสเภณียูเครน และยังดูหมิ่นผู้หญิงยูเครนอีกด้วย เลยโดนกลุ่ม Femen เล่นงานประท้วงมันเสียหน้าสภา EU เสียเลย
และอีกเรื่อง คือเคยใช้เส้นสายของตัวเองเล่นงานสื่อที่ขุดเรื่องไม่ดีงามของเขาออกมาจนเป็นเรื่องราวลงหนังสือพิมพ์ น่าจะมีเรื่องไม่ดีอยู่ไม่น้อยถึงต้องตัดตอนสื่อเสียขนาดนั้น
ส่วนอีกคนที่ลงชื่อคือ 'นายเวเนอร์ ลางเก้น' อายุ ๖๕ ปี นั้น เป็นคนเยอรมันอีกเหมือนกัน
และเป็นสมาชิกสภา EU โนเนมคนหนึ่ง ไม่ค่อยมีผลงานออกข่าวมากนัก เคยจับเรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาเซียน
ทาง EU เลยให้นั่งเก้าอี้ดูแลเรื่องราวของกลุ่มประเทศเหล่านี้ แต่ไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ตอนนี้เลยหันไปจับเรื่องเบาๆ พวกเฟรนด์ชิพความร่วมมือระหว่าง EU กับไต้หวันแทน ผลงานเท่าที่ปรากฏมีเท่านี้เอง
ส่วนตัวจดหมายนั้น เนื้อความก็ไม่ได้พูดถึงสาระอะไรที่เกี่ยวกับผู้ถูกเชิญสักเท่าไร เขียนด่าแซะรัฐบาลทหารกับการร่างรัฐธรรมนูญเสียไปกว่า ๒ ใน ๓ ของเนื้อจดหมาย"
นี่...คุณ Pat Hemasuk ท่านว่าอย่างนั้น!
มาดูของอีกท่าน เป็นผู้ชำนาญการด้านข่าวต่างประเทศที่รู้จักกันดี คือคุณ Sermsuk Kasitipradit โพสต์ไว้ และมีผู้นำมาแชร์ต่อๆ ดังนี้
"ยังตีปี๊บไม่เลิกว่า 'สหภาพยุโรป' ที่มีสมาชิกรวมทั้งหมด ๒๘ ประเทศ เชิญนางแดะแดะไปร่วมประชุมที่อียู ตามเวลาที่เห็นสะดวก
ปึ้งออกทีวีก็ขอร้อง คสช.ให้อนุญาตให้ไปร่วมประชุมกับอียู ฟังแล้งก็เคลิ้มว่าอียูเชิญจริง.....
เอาภาพประธานสหภาพยุโรป donald tusk มาให้ชม คนซ้าย ส่วนคนขวาคือ martin schulz เป็นประธานรัฐสภา …
หากเป็นจดหมายเชิญเป็นทางการจากอียู ต้องลงนามโดย donald tusk เท่านั้น
และหากเป็นการเชิญของรัฐสภายุโรป ก็ต้องลงนามโดย martin schulz
จดหมายเชิญลงนามโดยสมาชิกรัฐสภายุโรปสองคนจากจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด ๗๑๕ คน
คนหนึ่งเป็นประธานกรรมาธิการต่างประเทศ แต่จดหมายเชิญก็ไม่ได้เชิญในนามกรรมาธิการ ตปท.ของรัฐสภาอียู เข้าใจตรงกันนะ..."
หวิดไปมั้ยล่ะ!
อดีตนายกฯ หญิงควรต้องขอบทั้งอก-ขอบทั้งใจกับทุกคนที่ออกมา "จิก-แกะ-แคะ-คุ้ย" หนังสือเชิญฉบับนี้
เพราะ ๑ ใน ๒ ที่ใครไปให้เขาทำหนังสือเชิญนั้น มัน "เสือผู้หญิง" รู้มั้ย?
เนี่ย...แค่คิดยังเสียวแทนเลย ตะเอง!
เอาเป็นว่า ได้ฉวยโอกาสเขียนจดหมายด่ารัฐบาล คสช.และคณะร่างรัฐธรรมนูญฟรีก็แล้วกัน
ไปคิดสรรวิธี "หนีคุก" เอาใหม่เถอะ!
คุยเรื่องอื่นที่เป็นสาระบ้าง.....
ช่วงปลายปี โดยเฉพาะปีนี้ มีงานเทศกาล เช่นลอยกระทงวันนี้ และยังมีงานเป็นกรณีพิเศษที่ประชาชนจะออกมาร่วมกันมากๆ อีกหลายงาน
จนถึงวันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่!
ก็พอดีสังคมโลกมี "งานแทรก" คืองานก่อการร้าย ดูเหมือน "ทางการข่าว" จับกระแสได้ว่า มีกลุ่มคนไม่หวังดี "จ้องจะก่อเหตุร้าย"
ก็กลุ่มเก่าๆ-เดิมๆ เขานั่นแหละ
ถึงตอนนี้ จะใช้แค่คำขอร้อง คำเตือนสติให้ "คิดใหม่-ทำใหม่" จากที่ "คิดร้าย-ทำร้าย" เหมือน ๕-๖ ปีที่ผ่านมานั้น
"ป่วยการ" ครับ!
ลองมาป่านนี้แล้วไม่รู้จักคิด แสดงว่า "ปักใจ" ไม่ใช่หลงผิด เจตนา-มุ่งร้าย จะตีความหมายไปอย่างอื่นไม่ได้แล้ว
เมื่อจับมั่น-คั้นตาย "ด้วยหลักฐาน" และการกระทำประจักษ์...บางที เมตตา-อภัย
ทำให้เสียการณ์ มากกว่าได้การณ์!
เท่าที่ผมจับตา ขบวนการโค่นล้ม-แบ่งแยก "มันไม่หยุด" มันมุดลงดิน ด้วยมีขบวนการหนุน
ดูตัวอย่างในหลายประเทศ ด้วยจักรวรรดินิยมอำนาจตะวันตก "สร้างภาพ" แล้วปั่นกระแส..สปริง..สปริง...ประชาธิปไตย ในประเทศเป้าหมาย!
เห็นชัดๆ ในซีเรีย "อาหรับสปริง" บังหน้า เจตนาคือ โค่นล้มรัฐบาลอัล อัสซาด ฐานไม่ยอมเป็นเด็กดีให้จักรวรรดินิยมอำนาจ
บ้านเราก็ต้องระวัง ตัวแทนจักรวรรดิทั้งเก่าที่ไป-ใหม่ที่มา เขาเปิดหน้าแสดงบท
วันๆ ว่อนไปสังสรรค์-คลุกคลีกับมวลชนจังหวัดนั้น ในภาคนี้-ภาคโน้น ชนิดเปิดเผย "เจตนา" ผิดวิสัยที่ชาติศิวิไลซ์จะทำอย่างนั้น ในบ้านอื่น-เมืองอื่น
นี่...เท่ากับ "การเมืองต่างประเทศ" หนุนหลัง จึงยากที่ "เชื้อร้าย" จะตายหรือคลายตัว
๒-๓ วันที่ผ่าน........
ดูเหมือนจะมี "ปฏิบัติการ" จากเจ้าหน้าที่กับคนกลุ่มหนึ่ง ที่จ้องลงมือป่วนงาน Bike For Dad ในจังหวัดหนึ่งทางอีสาน
๑๗ สิงหา ๕๘ "ยืมมือต่างชาติ" บึ้มราชประสงค์ ก็ทำกันมาแล้ว!
ยิ่งขณะนี้ ทั้งโลกเขม็งเกลียวด้วย "ก่อการร้าย" ซ้ำเชื้อในยังไม่ยอมตาย การรับมือด้าน "ความมั่นคง" รัฐต้องปรับ-ต้องเข้ม เป็นพิเศษ!
ข่าวอีกข่าว ที่ไม่อยากให้มีออกมาลักษณะคลุมเครือ ชวนให้สังคมเก็บไปคิดเอาเอง จิกซอว์ต่อเรื่องกันเอง
นั่นคือข่าวเกี่ยวกับ "มาตรา ๑๑๒"!
ทั้งกับตำรวจ-ทหาร และชาวบ้าน อะไรในลักษณะยังไม่แน่ชัด ยังไม่เด็ดขาดลงไป ไม่ควรปล่อยให้มีกระเส็น-กระสาย
เมื่อจะให้ปรากฏเป็นข่าว ควรชัด-สิ้นสงสัย ไม่ปล่อยให้นำไปจิกซอว์กันต่อ ว่าเป็นใคร ด้วยเรื่องใด เพราะเหตุใด?
เพราะแบบนั้น ผลร้าย มากกว่าผลดี!
อย่างตอนนี้ คลุมๆ เครือๆ ปล่อยให้มีข่าว ทหารคนนั้น ตำรวจคนนี้ ว่าที่ถูกย้าย-ถูกหมายตา นั่นพัน ๑๑๒ เป็นต้น
"บางอย่าง" ทำให้เด็ดขาดด้วยกฎระเบียบมีอยู่ภายใน ดีกว่าให้ปรากฏภายนอก, บางอย่าง ภายนอก ดีกว่าซุกไว้ภายใน
ส่วนจะแบบไหน "ระดับบริหาร" ดุลยพินิจ-วินิจฉัยได้ตามรูปการณ์
ไม่ใช่ ครึ่งๆ-กลางๆ คอยหยั่งกระแส แล้วค่อยแห่-ค่อยหันตามไปในทุกเรื่อง
ถ้าใจไม่มั่น...แค่ตะปบปูแสมตามต้นไม้ก็ไม่รอด จะถูกมันสอดก้ามงับตกใจกางนิ้วให้มันพลิ้วหนีได้!
เมื่อวาน เห็นมีย้ง-ย้ายระดับ "ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล" ด้วยเหตุผลใดไม่มีแจ้ง
หน้าสิ่ว-หน้าขวานขณะนี้ หนีไม่พ้นถูกนำไปต่อยอดจินตนาการ "ด้านข่าว" ความมั่นคง แล้วอาจโยงไปถึงเรื่องไม่ปรารถนาจะได้ยินด้วย
ช่วงนี้...ไปจนถึงต้นปีหน้า เหมือนเครื่องบิน ถึงยังไม่แลนดิง บินสูงระดับ ๓ หมื่นฟีต ก็จริง
แต่อากาศวิปริต-แปรปรวน พลิกผันได้ทุกช่วงเวลามรสุมขณะนี้ "ออโต ไพลอต" เห็นจะไม่ได้
ก็สุดแต่ "กัปตันใหญ่" จะวินิจฉัยเถอะ!

"บิ๊กตู่" ฉุน 323นักวิชาการ ขอให้เคารพกฎหมาย ห้ามพูดก็อย่าพูด!

มติชน
24พฤศจิกายน 25581


เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่ 323 อาจารย์ยื่นหนังสือ เพื่อขอให้หยุดลิดรอนเสรีภาพทางวิชาการและหยุดห้ามนักศึกษาทำกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย ว่า ที่มากันนั้นก็อาจารย์ชุดเดิมไม่ใช่หรือ เคยให้ทหารและคสช.เดินไปนั่งคุยกับอาจารย์คนนี้แล้วตอนนั่งคุยก็ให้ความร่วมมือทุกอย่าง จะบรรยายอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ซึ่งเมื่ออนุญาตให้ไปแล้วก็หยุดพูดไปเลย แล้วคนอย่างนี้ใช้ได้หรือ

"ก็ต้องรักษากติกาให้ผมด้วยสิ ผมไม่ได้เดือดร้อนที่เขาจะพูด แต่ผมขอถามว่ากฎหมายเขาว่าอย่างไรเขาห้ามพูดก็อย่าพูดตอนนี้ เรื่องไหนที่ควรจะพูดเยอะแยะไป สอนเด็กให้เป็นคนดีสอนหรือไม่ สอนให้เด็กไม่ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองสอนหรือเปล่า ปัดโธ่ แล้วตอนรัฐบาลที่แล้วอยู่ไหนกันเพิ่งมาบรรจุเป็นอาจารย์กันหรืออย่างไร จะเคลื่อนไหวอะไรก็เคลื่อนกันไป ไม่กลัวกฎหมายก็ตามใจ ผมไม่รู้ ถ้าประชาชนจะเคลื่อนไหวตามเขาเดือดร้อนอะไรก็ตามใจผมไม่รู้ แล้วเดี๋ยวถ้าใครหาปืนมายิง โยนระเบิดใส่ก็ตายไปแล้วกัน  ถ้าไม่กลัวก็ตามใจ แต่ไม่ใช่ผมแน่เพราะผมไม่ทำอยู่แล้ว นี่ผมไม่ได้พูดด้วยความโมโหแค่เสียงดังนิดหน่อย" นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ต้องคุยกันด้วยเหตุผล การเปิดกว้างทางความคิดก็ต้องคุยอย่างมีเหตุผล แต่ถ้าเปิดแล้วมีความขัดแย้งในเมื่อเรากำลังวางพื้นฐานกันอยู่ ก็ควรนำสิ่งที่เรากำลังวางพื้นฐานนี้ไปดูกัน ไม่ใช่ไปคิดอะไรกันก็ไม่รู้ แล้วประเทศชาติจะไปได้หรือ

"แล้วก็ไปปลุกประชาชนว่าเป็นเพราะมันกำลังเตรียมการเลือกตั้ง แล้วอย่างไรจะให้เลือกตั้งกันพรุ่งนี้กันหรืออย่างไร เลือกแล้วได้อะไรกลับมา ปัญหาถูกแก้หรือยังทำไมไม่ถามเขากลับไป แล้วอาจารย์เหล่านั้นเคยรับผิดชอบความเสียหายของประเทศชาติหรือไม่ที่สอนคนมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่ก็สอนไปสิ สอนให้ขัดแย้ง ประชาธิปไตยที่ไม่มีขีดจำกัดนั่นน่ะสอนไปสิ ทุกคนคงชอบให้สอนแบบนั้น พ่อแม่มันยังไม่ฟังเลยวันหน้านั้นน่ะคอยดูเถอะ" นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายกฯ กล่าวถึงช่วงนี้แล้วได้มีทีมคนใกล้ชิดส่งสัญญาณเตือนให้นายกฯ เบาๆ ลงหน่อย แต่นายกฯ ได้กล่าวว่า "ทำไม ให้หรี่ลงหรือ ไม่ต้อง ฉันมีสติของฉัน"



ที่มา มติชนออนไลน์ 

ทางการรัสเซียยืนยัน: เฮลิค็อปเตอร์ Mi-8 ของรัสเซียถูกโจมตีระหว่างภารกิจกู้ภัยเหตุการณ์ Su-24 ถูกยิงตกในซีเรีย

ทางการรัสเซียยืนยัน: เฮลิค็อปเตอร์ Mi-8 ของรัสเซียถูกโจมตีระหว่างภารกิจกู้ภัยเหตุการณ์ Su-24 ถูกยิงตกในซีเรีย
----------
1.) รายงานข่าวจาก Sputnik news บอกว่าฝ่ายเสธ.ของรัสเซียแถลงว่าเฮลิค็อปเตอร์ Mi-8s สองลำของรัสเซียในปฏิบัติการช่วยเหลือชีวิตลูกเรือจาก Su-24 ซึ่งถูกยิงตกโดยตุรกีในซีเรีย ฮ.ลำหนึ่งถูกยิงตก มีการอพยพลูกเรือไปยังฐานทัพอากาศที่สนามบิน Hmeymim จังหวัดลาตะเกียในซีเรีย
"มีการดำเนินการปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยโดยเฮลิค็อปเตอร์ Mi-8 สองลำ เพื่อให้ความช่วยเหลือนักบินออกจากพื้นที่เครื่องบินตก ระหว่างปฏิบัติภารกิจอยู่นั้น ผลจากการยิงอาวุธขนาดเล็ก หนึ่งในเฮลิค็อปเตอร์ได้รับความเสียหาย และทำให้ต้องเปลี่ยนสถานที่ลงจอดที่ปลอดภัย หนึ่งในทหารราบจากองทัพเรือที่เข้าร่วมภารกิจถูกสังหาร" พลโท Sergei Rudskoi ผู้บัญชาการกองปฏิบัติการหลักของฝ่ายเสนาธิการจากกองทัพรัสเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารนี้
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า "ได้มีการอพยพบุคคลากรจากทีมค้นหา-และ-กู้ภัย (search-and-rescue) และลูกเรือเฮลิค็อปเตอร์แล้ว ขณะนี้อยู่พักอยู่ที่ฐานทัพอากาศ Hmeymim เฮลิค็อปเตอร์ที่ตกในครั้งนี้ถูกทำลายด้วยการยิงปืนครก (mortar fire) จากพื้นที่ในการควบคุมของแก๊งติดอาวุธ"
"ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยมีภารกิจเพื่อค้นหาลูกเรือจากเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียที่ถูกยิงตก เชื่อว่าพื้นที่ต่างๆในปฏิบัติการในครั้งนี้ถูกควบคุมโดยกลุ่มกบฏหัวรุนแรง"
2.) มาดูท่าทีของสหรัฐฯบ้างนะครับ วันที่ 24 พ.ย.58 สำนักข่าว RT news พาดหัวข่าวว่า "กองกำลังที่มีสหรัฐฯหนุนหลังมีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเอง แต่กลุ่มอื่นๆไม่มีสิทธิ์ - ก.ต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าว" (US-backed forces have right to self-defense, but others do not - State Department)
ตุรกีและพวกกบฏอยู่ทางตอนเหนือของซีเรียมีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเองต่อต้านปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าว รายงานข่าวบอกว่าพวกกบฏได้สังหารนักบินของรัสเซียหนึ่งคนที่ดีดตัวออกมาจากเครื่องบินรบที่ถูกยิงโดยขีปนาวุธของตุรกี
เมื่อถามโดย Gayane Chichakyan นักข่าวสาวจาก RT ว่า "กระทรวงต่างประเทศ (ของสหรัฐฯ) พิจารณาว่าพวกกบฏที่รายงานข่าวบอกว่าสังหารนักบินรัสเซียนั้น เป็นพวก 'สายกลาง' (moderate) ใช่หรือไม่?"
นายโทเนอร์ โฆษกต่างประเทศของสหรัฐฯตอบว่า "พวกเราได้เห็นว่ารายงานมีความขัดแย้งกัน นักบินคนหนึ่งอาจจะไม่ได้ถูกสังหาร หากว่าชาวเติร์กเมนเหล่านี้ถูกโจมตีโดยรัสเซีย พวกเขามีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะป้องกันตนเอง"
[ข่าวก่อนหน้านี้บอกว่าที่ปรึกษาด้านทหารของสหรัฐฯที่ส่งเข้าไปนั้นไปฝึกให้กับพวกเติร์กเมนและชาวเคิร์์ดในซีเรีย นายโทเนอร์เลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามตรงๆ แต่อ้างเรื่องสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเองของพวกกบฏ ที่แทบจะแยกไม่ออกว่าเป็นพวกผู้ก่อการร้ายหรือไม่ - ผู้แปล]
Matt Lee จาก AP ก็ถามว่า "สิ่งนั้นสามารถนำไปใช้ได้กับทุกคน ซึ่งไม่เพียงพวกกบฏที่ได้รับการหนุนหลังโดยตะวันตกหรือไม่? รวมทั้งระบอบอัสซาดด้วย?"
โทเนอร์เถียง (ปนแถ) ว่า "สิ่งที่ระบอบอัสซาดกำลังกระทำอยู่นั้น 'ไม่ใช่การป้องกันตนเอง (is not self-defense)' รัฐบาลในกรุงดามัสกัส ตอบโต้ต่อผู้ประท้วงโดยสันติมาเป็นเวลาถึงสี่ปีแห่งความโหดร้าย"
[เอากะหมอนี่ดิ ครับประท้วงโดยสันติ แล้วสหรัฐฯและตะวันตกจะส่งอาวุธไปให้พวกกบฏทำแป๊ะอะไรหละครับ เขาชนะการเลือกตั้งพวกคุณก็ไม่ยอมรับเขา แต่ส่งอาวุธให้พวกที่แพ้เลือกตั้งให้โค่นล้มรัฐบาล นี่หรือที่คุณเรียกว่าประท้วงอย่างสันติ? สงครามกลางเมือง 4 ปีกว่า สหรัฐฯบอกว่า "ประท้วงโดยสันติ" สันติ… ขี้แมวนี่! ประเทศสหรัฐฯจะเอาไปใช้บ้างไหมครับ "สันติ" แบบนั้นหนะ? - ผู้แปล]
เมื่อนักข่าวท่านอื่นตั้งคำถามในคำอธิบายของเขาเกี่ยวกับความขัดแย้งในซีเรียที่กล่าวว่า "ประท้วงโดยสันติ" (peaceful protest) นายโทเนอร์ก็แถไปว่า "ทุกคนในห้องนี้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"
[ฮ่าๆๆ เอากะหมอนี่ดิ... ก็มีปัญหาอยู่อีกนั่นแหละทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นต่างก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่การรู้ของแต่ละคนเหมือนกันหรือไม่ต่างหาก นายโทเนอร์บอกว่า สงครามกลางเมืองในซีเรียตลอด 4 ปี คือ "การประท้วงโดยสันติ" นั่นคือมตารฐานในคำว่า "สันติ" ของสหรัฐฯ กล่าวคือ สงคราม = สันติ กรรม! รู้สึกว่าแนวคิดนี้จะแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับที่สังคมส่วนมากเขารับรู้กันนะครับคุณโทเนอร์ - ผู้แปล]
นายโทเนอร์ได้เน้นย้ำอยู่หลายครั้งว่า กรุงวอชิงตันยืนอยู่เคียงข้างตุรกีและพันธมิตรนาโต้ และ "สิทธิ์ที่จะปกป้องน่านฟ้าอธิปไตยของตนเองของตุรกี" ในขณะเดียวกันก็ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อกรณีเครื่องบินของรัสเซียถูกยิงตกในซีเรียในเช้าวันนี้ (24 พ.ย.58) อย่างเจาะจง ซึ่งเขากล่าว่าเขาไม่มีรายละเอียด
[สังเกตว่าโฆษกต่างประเทศของสหรัฐฯกับโฆษกกองทัพของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯจะพูดไปคนละทิศละทางกัน ทางกองทัพบอกว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของตุรกีกับสหรัฐฯเคลียร์กันเอง แต่ก.ต่างประเทศของสหรัฐฯบอกว่าสหรัฐฯจะอยู่ข้างตุรกีและพันธมิตรนาโต้ แต่ตุรกีเขารับซื้อน้ำมันเถื่อนจากไอซิสนะครับ สหรัฐฯจะยืนเคียงข้างตุรกีอยู่หรือ? - ผู้แปล]
โฆษก ก.ต่างประเทศของสหรัฐฯยืนยันว่า สหรัฐฯได้สนับสนุนขีปนาวุธ TOW ต่อพวก "กบฏสายกลาย" (moderates) ในซีเรีย ซึ่งเป็นฝ่ายที่คาดว่าจะต่อสู้พวกกองกำลังของไอซิส ซึ่งดูได้ในวีดีโอที่อ้างว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกกบฏทำลายเฮลิค็อปเตอร์ค้นหา-และ-กู้ภัยของรัสเซีย
[แต่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันก่อนนี้เอง ก็มีคลิปที่ถ่ายจากพวก FSA และ อัลนุสรา เผยแพร่ออกมาว่าพวก FSA (กบฏสายกลาง) ของสหรัฐฯในซีเรียส่งมอบอาวุธ TOW ไปให้กลุ่มก่อการร้ายอัลนุสราเฉยเลย สหรัฐฯก็คงจะพูดอีกสิว่า พวกผู้ก่อการร้ายอัลนุสราก็มีสิทธิ์ที่จะใช้อาวุธของสหรัฐฯป้องกันตนเองจากการถูกโจมตีโดยรัสเซียและกองทัพของรัฐบาลกลางซีเรียเช่นกัน? ขีปนาวุธ TOW ของพวกกบฏซีนี้ใช่ไหมที่สหรัฐฯเรียกว่า "การประท้วงโดยสันติ"? โอบาม่าคงจะชอบ"การประท้วงโดยสันติ" แบบนี้ในประเทศสหรัฐฯหละสิ? - ผู้แปล]
Chichakyan ผู้สื่อฯข่าว RT ของรัสเซียถามว่า แล้วก.ต่างประเทศของสหรัฐฯจะประนามการใช้ขีปนาวุธที่สนับสนุนโดยสหรัฐฯของพวกกบฏที่โจมตีเฮลิค็อปเตอร์กู้ภัยของรัสเซียหรือไม่? นายโทเนอร์ตอบว่า "ซีเรียเป็นสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อนมาก"
[อีกแล้วครับท่าน ถาม "วัว" ตอบ "ควาย" นี่ดูตัวอย่างได้จากนักการเมืองที่น่าภาคภูมิใจของรัฐบาลสหรัฐฯนี่ สหรัฐฯที่อ้างว่ามีมหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งของโลก ใครๆก็อยากไปศึกษาเล่าเรียนที่นั่น ดูผลิตผลในระบบการศึกษาของสหรัฐฯจากคำพูดของโฆษกต่างประเทศก็ได้ น่าประทับใจจริงๆใช่ไหมครับท่านโอบาม่า? นี่ถ้าไม่เป็นประชาธิปไตยและมีเสรีภาพแบบสหรัฐฯ พูดและทำอย่างนี้ไม่ได้นะนี่ เอ… หรือว่าเป็นความผิดของนักข่าวรัสเซียที่ถามไม่ตรงกับคำตอบของก.ต่างประเทศของสหรัฐฯเองนะ? - ผู้แปล]

ปรองดองสะดุดหลังบุกจับแก๊ง “ขอนแก่นโมเดล” เตรียมป่วนเมือง เร่งสอบขยายผล

manager online
25 พฤศจิกายน 2558 14:35 น. (แก้ไขล่าสุด 25 พฤศจิกายน 2558 15:05 น.)
ปรองดองสะดุดหลังบุกจับแก๊ง “ขอนแก่นโมเดล” เตรียมป่วนเมือง เร่งสอบขยายผล
(แฟ้มภาพ)กลุ่มผู้ต้องหาที่แก๊งขอนแก่นโมเด็ลขึ้นสืบพยานศาลทหาร มทบ.23 เมื่อวันที่ 21 ต.ค.57
        ศูนย์ข่าวขอนแก่น - บุกจับอดีตผู้ต้องหาความมั่นคงในกลุ่ม “ขอนแก่นโมเดล” เคลื่อนไหวใต้ดินเตรียมป่วนเมืองคาบ้านพักริมบึงแก่นนคร เร่งสืบข้อมูลจากของกลางมือถือขยายผลโยงหาผู้ร่วมขบวนการและคนหนุนหลัง
     
       ภายหลังที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยข้อมูลพบการเคลื่อนไหวเตรียมการป่วนเมืองอีกรอบของคนในเครือข่าย “ขอนแก่นโมเดล” ทำเอาอารมณ์ร่วมทางสังคมที่กำลังพยายามปรองดองกันอยู่สะดุดขึ้นมาทันที และตอกย้ำให้เห็นว่าคลื่นใต้น้ำภายใต้อิทธิพลอำนาจรัฐบาลเก่ายังกระเพื่อมอยู่ใต้ดินพร้อมที่จะปะทุขึ้นมาทุกเมื่อหากมีโอกาสและจังหวะ
     
       การจับกุม จ.ส.ต.ประทิน จันทร์เกศ คนในเครือข่ายขอนแก่นโมเดล เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ในบ้านพักของ จ.ส.ต.ประทิน แถวบึงแก่นนคร เขตเทศบาลนครขอนแก่น พร้อมกับยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือและควบคุมตัวสอบเพิ่มเพื่อขยายผล
     
       จ.ส.ต.ประทิน อดีต รปภ.ปลอดภัย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นหนึ่งในผู้ต้องหากลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์เครือข่ายขอนแก่นโมเดล 26 คนที่ถูกจับกุมขณะเตรียมการสร้างสถานการณ์ป่วนเมือง เจ้าหน้าที่ยึดของกลางเป็นอาวุธสงครามหลายรายการ จ.ส.ต.ประทินได้รับการประกันตัวจากศาลทหารออกมาพร้อมกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์
ปรองดองสะดุดหลังบุกจับแก๊ง “ขอนแก่นโมเดล” เตรียมป่วนเมือง เร่งสอบขยายผล
(แฟ้มภาพ)
        แต่หลังจากได้รับการประกันตัวออกมาแล้วกว่าปีปรากฏว่าเขาพร้อมพรรคพวกในเครือข่ายบางกลุ่มไม่หยุดเคลื่อนไหว พยายามสร้างกระแสความขัดแย้งอยู่เนืองๆ ในสังคมออนไลน์เฉพาะกลุ่ม แสดงออกให้เห็นว่ายังจงรักภักดีกับรัฐบาลเก่า ไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร อ้างตัวเองอย่างเท่ๆ ว่าเป็นกลุ่มใต้ดิน
      
       ซึ่งการบุกเข้าจับกุม จ.ส.ต.ประทิน คาบ้านพักกลางเมืองขอนแก่นพร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือครั้งนี้ จะว่าไปแล้วเป็นการ “ตบหน้าฉาดใหญ่” หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพราะเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปจับกุมมาจากฝ่ายความมั่นคงหน่วยงานส่วนกลาง บรรดาตำรวจทหารในพื้นที่มารู้ข่าวการจับกุมในภายหลังพร้อมๆ กับชาวบ้าน สะท้อนให้เห็นความบกพร่องในการทำงานด้านการข่าวได้เป็นอย่างดี
      
       ชนวนเหตุที่ต้องบุกจับ จ.ส.ต.ประทินคาบ้านพักชนิดที่ตั้งตัวไม่ทัน เพราะข้อความที่โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ระบุในทำนองที่ว่า “ให้ติดตามวันซ้อมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ...ว่าจะมีการลอบทำร้ายบุคคลสำคัญของประเทศ “แต่ไม่ได้ระบุชื่อว่าบุคคลสำคัญนั้นเป็นใคร เมื่อฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบต่อ พบว่าคนที่โพสต์ข้อความดังกล่าวมีประวัติเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในนาม “ขอนแก่นโมเดล” และอยู่ระหว่างการประกันตัว
      
       แหล่งข่าววงในระบุว่า การบุกชาร์จจับกุมครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ จ.ส.ต.ประทินเพียงคนเดียว ยังมีอีกหนึ่งคนที่ถูกจับได้ในจังหวัดขอนแก่น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เป็นคนในเครือข่ายอุดมการณ์ทางการเมืองเดียวกันแต่อยู่นอกกลุ่มขอนแก่นโมเด็ล ถือเป็นตัวละครสำคัญที่เป็นธุระจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือเพื่อใช้ปฏิบัติการป่วนบ้านทำลายเมือง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งสอบสวนขยายผล ซึ่งเป้าหมายไม่ใช่แค่ วันปั่นเพื่อพ่อ 11 ธ.ค.นี้เท่านั้น รวมถึงวันสำคัญเทศกาลอื่นๆ ทั้งลอยกระทง หรือห้วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ปรองดองสะดุดหลังบุกจับแก๊ง “ขอนแก่นโมเดล” เตรียมป่วนเมือง เร่งสอบขยายผล
(แฟ้มภาพ)
        อุปกรณ์ของกลางที่ตรวจยึด โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือนั้นน่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการสืบสวนสอบสวนขยายผลโยงไปถึงคนที่ร่วมขบวนการและคนที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง…
     
       สำหรับ จ.ส.ต.ประทิน จันทร์เกศ ถือเป็นจำเลยที่ 1 ในจำนวน 26 คนถูกจับกุม พร้อมยึดอาวุธปืนและระเบิดหลายชนิดในห้องพักอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน ต.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 57 (หลัง คสช.ยึดอำนาจ 1 วัน) โดยผู้ต้องหาเหล่านี้ให้การรับสารภาพว่าอาวุธสงครามเหล่านั้นเตรียมก่อการร้ายในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และหลายพื้นที่ในภาคอีสาน เรียกตามรหัสว่า “ขอนแก่นโมเดล”
     
       ต่อมาในวันที่ 21 ต.ค. 57 ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 23 จ.ขอนแก่น อัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 23 ได้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 26 คนเพื่อสืบพยาน ในคดีหมายเลขดำ ที่ 10 ก./2557 โดยตั้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด 9 ข้อกล่าวหา โทษสูงสุดถึงประหารชีวิตประกอบด้วย
     
       1. ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมือง 2. ร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธ จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สินให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย ตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกันเพื่อก่อการร้ายหรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย หรือรู้ว่าจะมีผู้ก่อการร้ายแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้
     
       3. เป็นซ่องโจร 4. มีและร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย 5. มีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
     
       6. พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันควร 7. มีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ได้รับใบอนุญาต 8. มีเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และ 9. มีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต 

"ปูติน" เดือด ! ซัด ตุรกีเป็นหมาลอบกัด เรียกทูตกลับประเทศ และตัดการติดต่อทางทหารทุกอย่างกับตุรกี


"ปูติน" เดือด ! ซัด ตุรกีเป็นหมาลอบกัด เรียกทูตกลับประเทศ และตัดการติดต่อทางทหารทุกอย่างกับตุรกี พร้อมเรียกร้องให้ชาวรัสเซียที่อยู่ในตุรกี เดินทางออกกลับประเทศ ประกาศลั่น ขณะนี้รัสเซียได้ส่งฝูงเครื่องบินรบและกองเรือรบบรรทุกขีปนาวุธแล้ว พร้อมโจมตีทุกเป้าหมายที่เป็นภัยต่อรัสเซียไม่เว้นแม้กระทั้งตุรกี !
สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสำนักข่าว Москва́ После รายงานว่า ล่าสุดเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วมา นายวลาดีมีร์ วลาดีมีโรวิช ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซียประกาศ ณ ที่สภากลาโหมแห่งรัสเซีย ว่า ตุรกีเปรียบเสมือนสุนัขหลบกัดไม่กล้าเล่นซึ่งหน้า
และขณะนี้ได้มีคำสั่งถึงกระทรวงต่างประเทศให้เรียกเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศตุรกีเดินทางกลับรัสเซียด่วนภายใน 24 ชั่วโมง และให้ประชาชนชาวรัสเซียที่ทำงานหรือขณะท่องเที่ยวอยู่ในตุรกี ให้เดินทางออกนอกประเทศตุรกีอย่างเร่งด่วน ถ้าจะให้ดี ก็ให้กลับรัสเซียโดยด่วน และประกาศไม่ให้ประชาชนชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศตุรกีอย่างเด็ดขาด และได้สั่งระงับการติดต่อทางการทหารกับตุรกีอย่างเรียบร้อยแล้ว
พร้อมสั่งการให้ฝูงเครื่องบินรบ SU-24 และ SU-25 และ SU-32 พร้อมด้วยกองเรือรบ Moskva บรรทุกขีปนาวุธ ไปประจำการนอกชายฝั่งตะวันตกของซีเรีย เตรียมพร้อมรับคำสั่งโจมตีทุกเป้าหมายที่เป็นภัยคุกคาม ไม่เว้นแม้กระทั้งตุรกี หากส่อเค้าคุกคามรัสเซีย นอกจากนี้ก็มีมาตรการด้วยว่าต่อจากนี้เครื่องบินโจมตีรัสเซียจะต้องมีเครื่องบินรบคุ้มกันไปด้วยเสมอ "ปูตินกล่าว"
จากกรณีความคืบหน้าจากเหตุตุรกีสอยเครื่องบินรบ SU-24 ของรัสเซียร่วง อ้างรุกล้ำน่านฟ้าเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 และในเวลาต่อมา นายเซอร์เกย์ รุดสกอย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพรัสเซีย ได้กล่าวประณามตุรกีที่ยิงเครื่องบินรบ
ของรัสเซียตก และหนึ่งในสองนักบินเสียชีวิต ว่า นี่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง พร้อมย้ำอีกครั้งว่าเครื่องบินรบ SU-24 ของรัสเซียนั้นบินอยู่ในเขตน่านฟ้าของซีเรีย ไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้าของตุรกีดังที่ตุรกีกล่าวอ้าง โดยจุดที่เครื่องบินรบลำนี้ตกก็อยู่ห่างจากเขตแดนตุรกีกว่า 4 กิโลเมตร แต่กลับกันตุรกีต่างหากที่รุกล้ำน่านฟ้าของซีเรียขณะยิงเครื่องบินรบรัสเซียตก
นอกจากนี้เซอร์เกย์ยังเปิดเผยสวนทางกับทางการตุรกีด้วยว่า เครื่องบินรบตุรกีไม่มีความพยายามใด ๆ ในการติดต่อกับนักบินรัสเซียก่อนที่จะยิงเครื่องบินรบตกเลย ซึ่งขัดกับคำเปิดเผยของตุรกีที่บอกว่าได้มีการเตือนเครื่องบินรบลำดังกล่าวถึง 10 ครั้ง

ศาลทหารอนุมัติหมายจับคนสนิท พล.อ.อุดมเดช ผิด ม.112

ศาลทหารอนุมัติหมายจับคนสนิท พล.อ.อุดมเดช ผิด ม.112 แล้ว

25 พ.ย. 2558 สำนักข่าวไทยรายงานว่าศาลทหารกรุงเทพอนุมัติตามคำร้องของพนักงานสอบสวนกองปราบปรามออกหมายจับอดีตนายทหารและตำรวจในข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ประกอบด้วย 
 
1.พล.ต.สุชาติ พรมใหม่ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกและอดีตผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ คนสนิทพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและอดีตผู้บัญชาการทหารบก ตามหมายจับเลขที่ 46/2558 และหมายจับ 47/2558
 
2.พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร อดีตผู้กำกับ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปราม (บก.ป.) หมายจับเลขที่ 48/2558 3.พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รองผู้กำกับ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปราม หมายจับเลขที่ 49/2558

ผบ.ตร.ยันทหารคุมตัวอดีตตชด.สุมหัวพลเรือน เตรียมวินาศกรรมกรุงเทพฯ พุ่งเป้าบิ๊กรัฐบาล

ผบ.ตร.ยันทหารคุมตัวอดีตตชด.สุมหัวพลเรือน เตรียมวินาศกรรมกรุงเทพฯ พุ่งเป้าบิ๊กรัฐบาล
Cr:ผู้จัดการ
ผบ.ตร.ยันทหารบุกควบคุมตัวอดีต ตชด.ร่วมมือพลเรือน เตรียมก่อวินาศกรรมใน กทม. พุ่งเป้าบุคคลสำคัญในรัฐบาลหลังพบข้อมูลการสื่อสาร เชื่อมีคนสั่งการเบื้องหลัง เตรียมรับตัวขยายผลสอบในวันพรุ่งนี้
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ทหารควบคุมตัว จ.ส.ต.ประธิน จันทร์เกศ อดีตตำรวจตระเวนชายแดน, นายพิษณุ พรหมสร และนายณัฐพล ณวรรณ์เล ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังพบพฤติกรรมมีการสื่อสารเตรียมก่อเหตุวุ่นวายใน กทม.ว่า กรณีตำรวจสืบสวนติดตามมาตลอด เฝ้าฟัง และดำเนินกรรมวิธีข่าวกรองด้านความมั่นคงทุกมิติ กระทั่งพบข้อมูลว่ากลุ่มนี้มีความเคลื่อนไหวจะก่อเหตุไม่สงบ จึงได้สืบสวนจับกุมคุมตัวไว้ตามปรากฏข่าว แต่บอกไม่ได้ว่ามีเป้าประสงค์ก่อเหตุลักษณะใด
“ที่บอกได้คือกลุ่มนี้พุ่งเป้ามาที่ กทม. มาก่อเหตุ มีมูลว่าพุ่งเป้ามาที่บุคคลสำคัญในรัฐบาล ในทำนองว่ามาก่อวินาศกรรม วางระเบิดประมาณนั้น แต่ยังไม่ทราบแนวคิดของกลุ่มนี้มาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองหรือไม่ เรามีหลักฐานแต่อยู่ในขั้นตอนสืบสวนสอบสวนยังไม่สามารถบอกได้ อย่างที่รู้ๆ กันก็มีข้อมูลการสื่อสาร ทั้งการติดต่อในแอปพลิเคชันไลน์ ลายมือชื่อ ที่ปรากฏในโลกออนไลน์ ซึ่งการที่ศาลทหารอนุมัติหมายจับผู้ต้องหากลุ่มนี้เพราะมีข้อมูลยืนยันได้ว่าจะมาก่อเหตุใน กทม.” ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตำรวจกำลังสืบสวนขยายผลว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดก่อนหน้านี้ทุกๆ เหตุ ทั้งที่ราชประสงค์ และห้างสยามพารากอนหรือไม่ ตอนนี้ให้น้ำหนักมูลเหตุจูงใจทุกประเด็นรวมถึงเรื่องการเมือง ไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง หรือให้น้ำหนักประเด็นใดเป็นพิเศษ
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวด้วยว่า ตำรวจจะสืบสวนขยายผลขบวนการนี้ เชื่อว่ามีมากกว่า 3 คน และมีผู้ที่ใหญ่กว่านี้สั่งการอยู่ข้างบน อย่างไรก็ตาม เมื่อพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปดำเนินการจับกุม ยับยั้งเอาไว้ไม่ให้ก่อเหตุ ขอยืนยันกับประชาชนว่าอย่าตระหนกกับข่าวนี้ โดยตำรวจดูแลความปลอดภัยของประชาชน มีหน่วยข่าวกรองจับตาเฝ้าระวังคนกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด ป้องกันไม่ให้ก่อเหตุ เรื่องนี้ต้องสืบสวนต่อไปหาที่มาที่ไปของกลุ่มนี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงได้สั่งให้ติดตามเฝ้าระวังเหตุต่อไปอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้คงไม่ต้องคาดโทษ หรือลงโทษตำรวจในพื้นที่ เพราะพื้นที่มีงานมากอยู่แล้ว ตร.ก็มีชุดพิเศษที่ทำงานด้านความมั่นคงมีเครื่องมือทำงานด้านข่าวมากกว่าก็เข้าไปช่วยกันทำงาน
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วและติดตามอย่างใกล้ชิด คาดว่าจะเริ่มทำสำนวนคดีนี้ได้เร็วๆ นี้ เบื้องต้นทราบว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาแล้ว เบื้องต้นข้อมูลทหารชี้ว่ากลุ่มนี้เตรียมก่อเหตุไม่สงบใน กทม. โดย พล.อ.ประวิตรได้กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความสงบและความปลอดภัยในพื้นที่ กทม. อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ได้เข้าพบตนหารือและนำข้อมูลคดีนี้มาให้ เพื่อร่วมกันดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่มีรายงานว่า ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พล.ต.อ.จักรทิพย์ และพล.ต.อ.ศรีวราห์ จะรับมอบตัวผู้ต้องหาจากทหารที่ห้องกระจก ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. และจะแถลงข่าว ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.

ศาลออกหมายจับเสธโต

ศาลออกหมายจับ เสธ.โต พลตรีสุชาติ พรมใหม่ นายทหารลูกน้องคนสนิท บิ๊กโด่ง พลเอกอุดมเดช และเป็นเพื่อนซี้ ผู้การโจ้ พ.อ.คชาชาต บุญดี  ในคดีความผิด ม.112เหมือนกัน.... ท่ามกลางข่าวสะพัดหลายกระแสที่ว่า พลตรีสุชาติ  ถูกควบคุมตัวมานานแล้ว ในสถานที่แห่งหนึ่ง ตั้งแต่แรก กลางความเงียบงัน จนสงสัยกันว่า เขายังอยู่หรือไม่  เพราะมีข่าวอีกกระแส ระบุว่า เขาได้อพยพไปอยู่ นิวซีแลนด์ หลังจาก ยื่นหนังสือลาออกจากราชการทหาร กองทัพบก  ก่อนเดินทางออกชายแดนข้างบ้าน แล้วเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง.....รอดูวันรายงานตัวต่อศาลทหาร  ว่า ตำรวจ ทหาร จะพา เสธ.โต มาขึ้นศาล หรือไม่  แต่หากไม่เห็น ก็ต้อง รอดูตำรวจ ว่าจะแถลงว่า  เสธ.โต อยู่ไหน  หรือว่า ป่วย
FB wassana

ผู้นำตุรกีพยายามซุกใต้ปีกแกนนำนาโต้:

ผู้นำตุรกีพยายามซุกใต้ปีกแกนนำนาโต้:
๑.รัสเซียไม่เคยคิดมาก่อน (ซึ่งผมมองว่าประมาท) ว่าตุรกีจะใช้เครื่องบินรบ F16 คอยดักซุ่มยิงเครื่องบินของตน จึงใช้เครื่องบิน Su24 ประเภท bomber jet ไม่ใช่ fighter jet ไปทำงานแถวๆ ชายแดนตุรกีซึ่งมีความคล่องน้อยกว่า F16 ๒.ประเทศนาโต้ละเมิดน่านฟ้าซีเรียประจำ มะกันก็ส่งทหารเข้าไปรุกรานซีเรีย ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศชัดเจน (แต่แปลกจัง ทำไมประธานาธิบดีอัสสาดของซีเรียบื้อจัง ไม่จี้สหประชาชาติ) ตอนนี้ หลังจากยิงเครื่องบินเขาตก ผู้นำตุรกีพยายามเข้าไป *ซุก* ใต้ปีกของเจ้าพ่อมาเฟียให้ช่วยคุ้มครองหากโดนรัสเซียเอาคืน
คอยดูต่อไปครับ
25 พฤศจิกายน 2558
http://sputniknews.com/…/103070…/daniel-mcadams-turkey.html…

"นาโต" ประกาศให้การสนับสนุนรัฐบาลตุรกี

"นาโต" ประกาศให้การสนับสนุนรัฐบาลตุรกี หลังเกิดเหตุเครื่องบินรบของรัสเซียถูกตุรกียิงตกใกล้ชายแดนซีเรียวานนี้

เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก ประกาศให้การสนับสนุนรัฐบาลตุรกีซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรนาโต หลังเกิดเหตุเครื่องบินรบของรัสเซียถูกตุรกียิงตกใกล้ชายแดนซีเรียเมื่อวานนี้ และปฏิเสธข้อชี้นำที่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นนอกชายแดนตุรกี 

นายสโตลเทนเบิร์ก แถลงว่า ผลการประเมินของชาติพันธมิตรนาโตสอดคล้องกับข้อมูลที่ได้จากตุรกีที่ว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด ซู-2 ของรัสเซียลำนี้ล้ำเข้ามาในน่านฟ้าของตุรกีจริง และนาโตขอประกาศยืนเคียงข้างตุรกีและสนับสนุนการรักษาอธิปไตยของพันธมิตรนาโตนอกจากนี้ นายสโตลเทนเบิร์กยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบและลดความตึงเครียดจากเหตุการณ์นี้ 

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวหาตุรกีว่าแทงข้างหลังด้วยการยิงเครื่องบินรบลำหนึ่งของรัสเซียตกในซีเรียขณะปฏิบัติภารกิจโจมตีเป้าหมายกลุ่มก่อการร้ายในเมืองลาทาเคียของซีเรีย และเตือนด้วยว่า เหตุการณ์นี้จะส่งผลเลวร้ายต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตุรกีด้วย 

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกที่เมื่อวานนี้ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์จากกระแสความกังวลต่อความตึงเครียดในตะวันออกกลางซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันล่าสุดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือในตลาดลอนดอนของอังกฤษปรับลดลง 4 เซนต์ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 46.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 09.24 น.ตามเวลาไทย หลังพุ่งขึ้น 2.9% แตะที่ 46.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้ 

ส่วนน้ำมันดิบเวสต์ เทกซัส อินเตอร์มีเดียท หรือดับเบิลยูทีไอ ส่งมอบเดือนมกราคมในตลาดนิวยอร์ของสหรัฐ ลดลง 11 เซนต์ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 42.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังทะยานขึ้น 2.7% แตะที่ 42.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในการซื้อขายเมื่อวานนี้