PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ภัยใกล้ที่มองไม่เห็น

25112558 สถานการณ์ 'ภัยใกล้' ที่มองไม่เห็น เปลว สีเงิน
คณะ "ปู ซกมก" ปล่อยโคมลอย "รัฐสภายุโรป" ไปเมื่อวาน ปรากฏว่า ไปเกี่ยวหลังคาบ้านใครก็ไม่รู้ แถวๆ ซอยโยธินพัฒนา ๓ ลาดพร้าว
"โคมเรา-เผาเรือน" เรียบร้อย!
วันนี้...วันเพ็ญกลางเดือน ๑๒ ปล่อยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่โคมลอย หากแต่เป็น "ลงกระทอย-ลอยกระทง"
คืนนี้...สุขี..สุขี..ลอยกระทงกันนะพี่น้อง "คลองโอ่งอ่าง" นั่นน่ะ ถอดรูปเงาะ เหมือนเวนิส น้ำใส
ไปจ๋อมแจ๋มฉลองชัยที่กรุงเทพฯ ได้คลองคืนมา ไปให้ครบหน้า-ครบตาชาวประชาบางกอกเน้อ!
ส่วนการดับโคม...ไม่ต้องดับ
นายกฯ ประยุทธ์ออกมาดับแล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ "ดอน ปรมัตถ์วินัย" ก็ดับแล้ว ดับจากไทยไปถึง "รัฐสภายุโรป"
แต่ผมกะจะลอยอีกซักโคม..........!
แต่พอดีเห็น "อ้ายปึ้ง" โผล่หัวออกมาลอย...ก็จบกัน เพราะแค่เห็นหน้า-เห็นจมูก ก็เห็นทะลุไส้
มุก "หิ้วชายกระโปรง" นี้ไม่มีใคร...."ก็มันนั่นแหละ"!
ฉะนั้น ไม่ต้องคุยกันแล้วเรื่องนี้ นั่งอ่านที่หลายๆ ท่านไปค้นแคะ "เบื้องหน้า-เบื้องหลัง" ของหนังสือเชิญมาตีแผ่ดีกว่า
อ่านแล้ว "ผวา" อยากบอกด้วยรักและห่วงใยอดีตนายกฯ หญิงว่า...
"อย่าไปเลย...มันหลอก จะบอกให้" เพราะนายเอลมา บรูค ที่เชิญนั้น ประวัติด้านผลาญพรหมจรรย์หญิง
"ฉกาจฉกาม" น่ากั๊ว..น่ากลัว!?
หลายโพสต์ตรงกัน เพื่อยืนยัน ที่พูดนี่ไม่ใช่ปล่อยโคมลอย ขออนุญาตลอกเวอร์ชันคุณ Pat Hemasuk เป็นตัวอย่างละกัน
"หลายๆ คนคงเห็นจดหมายเชิญยิ่งลักษณ์ จากทางอียูแล้วมีคนลงชื่อสองคนที่ไม่บอกตำแหน่งอะไรเลย ผมอยากจะเจาะสั้นๆ ให้เห็นกันว่า
คนลงชื่อ 'ทั้งสองคนนี้' เป็นใคร?
เอาชื่อแรกก่อนครับ 'นาย เอลม่า บรูค' คนนี้เป็นคนเยอรมันอายุ ๖๙ ปี เป็นสมาชิกสภายุโรป และนั่งตำแหน่ง 'ประธานคณะกรรมการต่างประเทศ' อดีตเคยเป็นนักจัดรายการวิทยุและนักข่าวมาก่อน
แต่ถ้าย้อนหลังไปสัก ๔-๑๐ ปีที่ นายเอลม่า บรูค เคยทำไซด์ไลน์บริษัทเอกชน เคยนั่งตำแหน่งเก้าอี้รองประธานอาวุโสแผนกพัฒนาสื่อ ของบริษัทผลิตสื่อของเยอรมันแห่งหนึ่ง
แต่ที่จริงแล้วเป็นตำแหน่งแขวนไว้อย่างนั้นเอง งานจริงๆ ของเขาคือเป็น "ล็อบบี้ยิสต์" ให้กับบริษัทสื่อนี้กับทางสภา EU
ประวัติปูมหลังคนนี้ก็แสบไม่เบาครับมีเรื่องฉาวอยู่ไม่น้อย.....
เมื่อสองปีก่อน เคยโดนกลุ่ม Femen ที่เป็น 'กลุ่มสิทธิสตรี' เล่นงานไปหลายดอก
เนื่องจากนาย เอลม่า บรูค นั้น แก่แต่อายุ ยังจิต....อยู่มิใช่น้อย (ขอขลิบออกนิดนึง...เปลว) ไปซื้อบริการโสเภณียูเครน และยังดูหมิ่นผู้หญิงยูเครนอีกด้วย เลยโดนกลุ่ม Femen เล่นงานประท้วงมันเสียหน้าสภา EU เสียเลย
และอีกเรื่อง คือเคยใช้เส้นสายของตัวเองเล่นงานสื่อที่ขุดเรื่องไม่ดีงามของเขาออกมาจนเป็นเรื่องราวลงหนังสือพิมพ์ น่าจะมีเรื่องไม่ดีอยู่ไม่น้อยถึงต้องตัดตอนสื่อเสียขนาดนั้น
ส่วนอีกคนที่ลงชื่อคือ 'นายเวเนอร์ ลางเก้น' อายุ ๖๕ ปี นั้น เป็นคนเยอรมันอีกเหมือนกัน
และเป็นสมาชิกสภา EU โนเนมคนหนึ่ง ไม่ค่อยมีผลงานออกข่าวมากนัก เคยจับเรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาเซียน
ทาง EU เลยให้นั่งเก้าอี้ดูแลเรื่องราวของกลุ่มประเทศเหล่านี้ แต่ไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ตอนนี้เลยหันไปจับเรื่องเบาๆ พวกเฟรนด์ชิพความร่วมมือระหว่าง EU กับไต้หวันแทน ผลงานเท่าที่ปรากฏมีเท่านี้เอง
ส่วนตัวจดหมายนั้น เนื้อความก็ไม่ได้พูดถึงสาระอะไรที่เกี่ยวกับผู้ถูกเชิญสักเท่าไร เขียนด่าแซะรัฐบาลทหารกับการร่างรัฐธรรมนูญเสียไปกว่า ๒ ใน ๓ ของเนื้อจดหมาย"
นี่...คุณ Pat Hemasuk ท่านว่าอย่างนั้น!
มาดูของอีกท่าน เป็นผู้ชำนาญการด้านข่าวต่างประเทศที่รู้จักกันดี คือคุณ Sermsuk Kasitipradit โพสต์ไว้ และมีผู้นำมาแชร์ต่อๆ ดังนี้
"ยังตีปี๊บไม่เลิกว่า 'สหภาพยุโรป' ที่มีสมาชิกรวมทั้งหมด ๒๘ ประเทศ เชิญนางแดะแดะไปร่วมประชุมที่อียู ตามเวลาที่เห็นสะดวก
ปึ้งออกทีวีก็ขอร้อง คสช.ให้อนุญาตให้ไปร่วมประชุมกับอียู ฟังแล้งก็เคลิ้มว่าอียูเชิญจริง.....
เอาภาพประธานสหภาพยุโรป donald tusk มาให้ชม คนซ้าย ส่วนคนขวาคือ martin schulz เป็นประธานรัฐสภา …
หากเป็นจดหมายเชิญเป็นทางการจากอียู ต้องลงนามโดย donald tusk เท่านั้น
และหากเป็นการเชิญของรัฐสภายุโรป ก็ต้องลงนามโดย martin schulz
จดหมายเชิญลงนามโดยสมาชิกรัฐสภายุโรปสองคนจากจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด ๗๑๕ คน
คนหนึ่งเป็นประธานกรรมาธิการต่างประเทศ แต่จดหมายเชิญก็ไม่ได้เชิญในนามกรรมาธิการ ตปท.ของรัฐสภาอียู เข้าใจตรงกันนะ..."
หวิดไปมั้ยล่ะ!
อดีตนายกฯ หญิงควรต้องขอบทั้งอก-ขอบทั้งใจกับทุกคนที่ออกมา "จิก-แกะ-แคะ-คุ้ย" หนังสือเชิญฉบับนี้
เพราะ ๑ ใน ๒ ที่ใครไปให้เขาทำหนังสือเชิญนั้น มัน "เสือผู้หญิง" รู้มั้ย?
เนี่ย...แค่คิดยังเสียวแทนเลย ตะเอง!
เอาเป็นว่า ได้ฉวยโอกาสเขียนจดหมายด่ารัฐบาล คสช.และคณะร่างรัฐธรรมนูญฟรีก็แล้วกัน
ไปคิดสรรวิธี "หนีคุก" เอาใหม่เถอะ!
คุยเรื่องอื่นที่เป็นสาระบ้าง.....
ช่วงปลายปี โดยเฉพาะปีนี้ มีงานเทศกาล เช่นลอยกระทงวันนี้ และยังมีงานเป็นกรณีพิเศษที่ประชาชนจะออกมาร่วมกันมากๆ อีกหลายงาน
จนถึงวันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่!
ก็พอดีสังคมโลกมี "งานแทรก" คืองานก่อการร้าย ดูเหมือน "ทางการข่าว" จับกระแสได้ว่า มีกลุ่มคนไม่หวังดี "จ้องจะก่อเหตุร้าย"
ก็กลุ่มเก่าๆ-เดิมๆ เขานั่นแหละ
ถึงตอนนี้ จะใช้แค่คำขอร้อง คำเตือนสติให้ "คิดใหม่-ทำใหม่" จากที่ "คิดร้าย-ทำร้าย" เหมือน ๕-๖ ปีที่ผ่านมานั้น
"ป่วยการ" ครับ!
ลองมาป่านนี้แล้วไม่รู้จักคิด แสดงว่า "ปักใจ" ไม่ใช่หลงผิด เจตนา-มุ่งร้าย จะตีความหมายไปอย่างอื่นไม่ได้แล้ว
เมื่อจับมั่น-คั้นตาย "ด้วยหลักฐาน" และการกระทำประจักษ์...บางที เมตตา-อภัย
ทำให้เสียการณ์ มากกว่าได้การณ์!
เท่าที่ผมจับตา ขบวนการโค่นล้ม-แบ่งแยก "มันไม่หยุด" มันมุดลงดิน ด้วยมีขบวนการหนุน
ดูตัวอย่างในหลายประเทศ ด้วยจักรวรรดินิยมอำนาจตะวันตก "สร้างภาพ" แล้วปั่นกระแส..สปริง..สปริง...ประชาธิปไตย ในประเทศเป้าหมาย!
เห็นชัดๆ ในซีเรีย "อาหรับสปริง" บังหน้า เจตนาคือ โค่นล้มรัฐบาลอัล อัสซาด ฐานไม่ยอมเป็นเด็กดีให้จักรวรรดินิยมอำนาจ
บ้านเราก็ต้องระวัง ตัวแทนจักรวรรดิทั้งเก่าที่ไป-ใหม่ที่มา เขาเปิดหน้าแสดงบท
วันๆ ว่อนไปสังสรรค์-คลุกคลีกับมวลชนจังหวัดนั้น ในภาคนี้-ภาคโน้น ชนิดเปิดเผย "เจตนา" ผิดวิสัยที่ชาติศิวิไลซ์จะทำอย่างนั้น ในบ้านอื่น-เมืองอื่น
นี่...เท่ากับ "การเมืองต่างประเทศ" หนุนหลัง จึงยากที่ "เชื้อร้าย" จะตายหรือคลายตัว
๒-๓ วันที่ผ่าน........
ดูเหมือนจะมี "ปฏิบัติการ" จากเจ้าหน้าที่กับคนกลุ่มหนึ่ง ที่จ้องลงมือป่วนงาน Bike For Dad ในจังหวัดหนึ่งทางอีสาน
๑๗ สิงหา ๕๘ "ยืมมือต่างชาติ" บึ้มราชประสงค์ ก็ทำกันมาแล้ว!
ยิ่งขณะนี้ ทั้งโลกเขม็งเกลียวด้วย "ก่อการร้าย" ซ้ำเชื้อในยังไม่ยอมตาย การรับมือด้าน "ความมั่นคง" รัฐต้องปรับ-ต้องเข้ม เป็นพิเศษ!
ข่าวอีกข่าว ที่ไม่อยากให้มีออกมาลักษณะคลุมเครือ ชวนให้สังคมเก็บไปคิดเอาเอง จิกซอว์ต่อเรื่องกันเอง
นั่นคือข่าวเกี่ยวกับ "มาตรา ๑๑๒"!
ทั้งกับตำรวจ-ทหาร และชาวบ้าน อะไรในลักษณะยังไม่แน่ชัด ยังไม่เด็ดขาดลงไป ไม่ควรปล่อยให้มีกระเส็น-กระสาย
เมื่อจะให้ปรากฏเป็นข่าว ควรชัด-สิ้นสงสัย ไม่ปล่อยให้นำไปจิกซอว์กันต่อ ว่าเป็นใคร ด้วยเรื่องใด เพราะเหตุใด?
เพราะแบบนั้น ผลร้าย มากกว่าผลดี!
อย่างตอนนี้ คลุมๆ เครือๆ ปล่อยให้มีข่าว ทหารคนนั้น ตำรวจคนนี้ ว่าที่ถูกย้าย-ถูกหมายตา นั่นพัน ๑๑๒ เป็นต้น
"บางอย่าง" ทำให้เด็ดขาดด้วยกฎระเบียบมีอยู่ภายใน ดีกว่าให้ปรากฏภายนอก, บางอย่าง ภายนอก ดีกว่าซุกไว้ภายใน
ส่วนจะแบบไหน "ระดับบริหาร" ดุลยพินิจ-วินิจฉัยได้ตามรูปการณ์
ไม่ใช่ ครึ่งๆ-กลางๆ คอยหยั่งกระแส แล้วค่อยแห่-ค่อยหันตามไปในทุกเรื่อง
ถ้าใจไม่มั่น...แค่ตะปบปูแสมตามต้นไม้ก็ไม่รอด จะถูกมันสอดก้ามงับตกใจกางนิ้วให้มันพลิ้วหนีได้!
เมื่อวาน เห็นมีย้ง-ย้ายระดับ "ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล" ด้วยเหตุผลใดไม่มีแจ้ง
หน้าสิ่ว-หน้าขวานขณะนี้ หนีไม่พ้นถูกนำไปต่อยอดจินตนาการ "ด้านข่าว" ความมั่นคง แล้วอาจโยงไปถึงเรื่องไม่ปรารถนาจะได้ยินด้วย
ช่วงนี้...ไปจนถึงต้นปีหน้า เหมือนเครื่องบิน ถึงยังไม่แลนดิง บินสูงระดับ ๓ หมื่นฟีต ก็จริง
แต่อากาศวิปริต-แปรปรวน พลิกผันได้ทุกช่วงเวลามรสุมขณะนี้ "ออโต ไพลอต" เห็นจะไม่ได้
ก็สุดแต่ "กัปตันใหญ่" จะวินิจฉัยเถอะ!

ไม่มีความคิดเห็น: