PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

"น้ำล้นคลองรังสิตฯกระทบชาวบ้านแล้ว"

ย่าน"บางพูน" จ.ปทุมธานี เจอน้ำกว่า 100 หลังคาเรือน เทศบาลตำบลบางพูนต้องนำกระสอบบรรจุทรายมาทำแนวกั้นน้ำ ไม่ให้ไหลท่วมบ้านเรือน


เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มสูงขึ้น หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปริมาณน้ำที่ไหลมาสมบทจากทางเหนือ ส่งผลกระทบให้บ้านเรือนที่อยู่นอกแนวกั้นน้ำตลอด 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดความยาว 18 กม. ในเขต อ.เมืองปทุมธานี และ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ส่วนบริเวณประตูระบายน้ำคลองเปรมรังสิตเหนือ หมู่ที่ 1 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี นายครรชิต เขียวชะเอม อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ชลประทาน ต้องเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่คลองเปรมประชากรที่รับน้ำมาจาก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยการปิดประตูระบายน้ำแล้วทำการสูบออก ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง เพื่อสูบออกตลอด 24 ชม. ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชน โดยการสูบน้ำลงสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ ให้ไหลออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

ขณะที่ปริมาณน้ำในคลองรังสิตฯได้เพิ่มระดับสูงขึ้น ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมคลองด้านถนนซ่อมสร้างเริ่มได้รับความเดือดร้อนแล้ว โดยเฉพาะช่วงเช้าที่ผ่านมาปริมาณน้ำได้สูงมากขึ้นจนไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน หมู่ที่ 1 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี กว่า 100 หลังคาเรือน ทางเทศบาลตำบลบางพูนได้นำกระสอบบรรจุทรายมาทำแนวกั้นน้ำ เพื่อป้องกันน้ำจากคลองรังสิตฯไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เช่นเดียวกับบริเวณศาลเจ้าพ่อหลวงซึ่งเป็นที่เคารพบูชาสักการะของชาวบ้านถูกน้ำไหลเข้าท่วมแล้วสูงกว่า 60 ซม.

http://www.dailynews.co.th/thailand/235199


อย.เชือด 600 รายนำเข้ายา-โฆษณาอาหารผิดกม.“เสนาหอย-ห้างยักษ์-สื่อ”โดนด้วย

อย.ดำเนินคดีผู้นำเข้ายา-โฆษณาคุณประโยชน์อาหาร ไม่ได้รับอนุญาต แสดงฉลากผิดกม. ยอด 6 เดือนกว่า 644 ราย ปรับ 1,600 บาทถึงครึ่งแสน “เสนาหอย-สื่อ-ห้างยักษ์”โดนกราวรูด

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้เปิดเผยผลการดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิด รวมทั้งสิ้น 644 ราย (บางรายโดนปรับหลายครั้ง)จำแนกเป็น

เดือนสิงหาคม 2556 จำนวน 117 ราย

เดือนกรกฎาคม 2556 จำนวน 116 ราย

เดือนมิถุนายน 2556 จำนวน 158 ราย

เดือนพฤษภาคม 2556 จำนวน 36 ราย

เดือนเมษายน 2556 จำนวน 69 ราย

เดือนมีนาคม 2556 จำนวน 148 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจำนวนผู้ถูกสั่งปรับ 644 รายมีผู้ประกอบการรายใหญ่ บริษัทห้างดัง อาทิ

บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด (กลุ่มอยู่วิทยา) โฆษณาคุณประโยชน์อาหาร โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาหาร 2522 มาตรา 41 โทษ มาตรา 71 วันที่ถูกปรับ 15 ส.ค.2556 จำนวน 2,000 บาท

บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้าง ไพศาล จำกัด (มหาชน) ผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารซึ่งแสดง ฉลากไม่ถูกต้อง ผิด พ.ร.บ.อาหาร 2522 วันที่ถูกปรับ 23 สค.56 จำนวน 6,000 บาท และวันที่ 23 เม.ย. 56 จำนวน 2,000 บาท

หจก. เนเจอร์กิฟ 711 โฆษณาคุณประโยชน์อาหาร โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาหาร 2522 มาตรา 41 โทษ มาตรา 71 วันที่ถูกปรับ 3 ก.ค.56 จำนวน 10,000 บาท

บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ โฆษณาคุณประโยชน์อาหาร โดยไม่ได้รับอนุญาต 17 กค. 56 10,000 บาท
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารซึ่ง แสดงฉลากไม่ถูกต้อง วันที่ถูกปรับ 14 มิ.ย.56 จำนวน 6,000 บาท วันที่ 29 พค. 56 จำนวน 2,000 บาท และ 31 พค. 56 นำเข้าอาหารโดยไม่มีใบรับรองวิธีการผลิต จำนวน 4,000 บาท

บริษัท เซ็นทรัลฟู้ด รีเทล จำกัด ผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารซึ่งแสดงฉลากไม่ถูกต้อง วันถูกปรับ 21มิ.ย.56 จำนวน 24,000 บาท

บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด ประกอบกิจการขายยาแผนปัจจุบันภายหลังใบอนุญาตสิ้นอายุแล้ว โดยมิได้ยื่นต่อใบอนุญาต วันที่ถูกปรับ 5 เม.ย.56 จำนวน 2 คดีๆละ 1,600 บาท

บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด(หมาชน)โฆษณาโดยใช้ข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง วันถูกปรับ 17 เม.ย.56 จำนวน 50,000 บาท

บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด (ห้างเทสโก้ โลตัส) นำเข้าเพื่อจำหน่ายอาหาร ผิดมาตรฐาน วันถูกปรับ 4 มี.ค.56 จำนวน 4,000 บาท

บริษัท สยามสปอร์ต ซินดีเคท จำกัด (มหาชน)โฆษณาโดยใช้ข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง วันถูกปรับ 26 มี.ค.56 จำนวน 50,000 บาท

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (ห้างแมคโคร) จำหน่ายอาหารผิดมาตรฐาน วันถูกปรับ 7 มี.ค.56 จำนวน 2 คดีๆละ 40,000 บาท

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่านอกจากนี้ยังมีชื่อของนายเกียรติศักดิ์ อุดมนาค (เสนาหอย) ที่อยู่ 1213/411 ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โฆษณาคุณประโยชน์อาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 56 จำนวน 5,000 บาท (หมายเลขคดี388/2556)

สื่อทีวีดาวเทียมหลายแห่งและ นิตยสารอีกหลายเล่ม


9 เรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเขื่อนแม่วงก์

ที่มา : เวปเครือข่ายน้ำภาคเหนือ

เรียบเรียง : ดร. นณณ์ ผาณิตวงศ์ @ siamensis.org
1. ข้อมูลทั่วไป: เขื่อนแม่วงก์มีลักษณะเป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวขนาดใหญ่ ความยาว 730 เมตร กว้าง 10 เมตร สูง 57 เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำประมาณ 13,000 ไร่ อยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชรและ จ.นครสวรรค์ ปริมาณกักเก็บน้ำ 250 ล้านลูกบาศก์เมตร
2. ประมาณการค่าก่อสร้างของเขื่อนแม่วงก์เมื่อปี 2525 อยู่ที่ 3,761 ล้านบาท 2551 มีมูลค่า 7,000 ล้านบาท ในเว็บไซด์ของกรมชลประทานในวันที่ 31 สิงหาคม 2554 ระบุว่ามีมูลค่า 9,000 ล้านบาท แต่ เมื่อมีการอนุมัติงบประมาณ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2555 มีมูลค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 13,000 ล้านบาท
3. ถึงแม้ว่าพื้นที่น้ำท่วมจะเป็นแค่ 2% ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ หรือ 0.12% ของป่าตะวันตกทั้งหมด แต่พื้นที่ตรงนี้เป็นป่าที่ราบต่ำริมน้ำซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการหากินและขยายพันธุ์ของสัตว์ป่าในฤดูแล้ง ในปัจจุบันประเทศไทยเหลือป่าในพื้นที่ราบอยู่น้อยมาก สัตว์ป่าบางชนิด เช่น นกยูง ไม่สามารถบินขึ้นไป อาศัยอยู่บนเขาได้อย่างที่นักการเมืองเข้าใจ แต่นกยูง ต้องการลานหิน ลานทราย ริมน้ำเพื่อการ ป้อตัวเมีย ไม่สามารถไปกางหางอวดในป่ารกทึบได้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่อุทยานฯพบว่าป่าที่นักการเมืองกล่าวอ้างว่าเป็นป่าใหม่มีอายุไม่ถึง 30 ปีมีอยู่เพียงไม่กี่พันไร่ แต่ป่าด้านใน เป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์มาก ในการสร้างเขื่อน ต้องทำการตัดไม้ออกจากพื้นที่ให้มากที่สุดเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย น่าสนใจว่าไม้ขนาดใหญ่ (ซึ่งรวมถึงต้นสักด้วย) จะตกเป็นผลประโยชน์ของใคร

ภาพ : sky report
4. การก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ จะทำให้สูญเสียพื้นที่ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ไม่น้อยกว่า 13,000 ไร่ เป็นไม้ใหญ่ประมาณ 500,000 ต้น ซึ่งในจำนวนนี้มีไม้สักประมาณ 50,000 ต้น กล้าไม้อีก 10,000 ต้น หรือเปรียบ เทียบได้ว่าพื้นที่ป่า 1 ไร่ ที่จะถูกน้ำท่วมจะมีไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ 80 ต้นเป็น ไม้สัก 13 ต้น ลูกไม้ 576 ต้น และกล้าไม้อีก 1,880 ต้น จากการคำนวณพื้นที่ป่าที่จะสูญเสียไป จากการสร้างเขื่อนแม่วงก์ เมื่อคำนวณเป็น ปริมาณคาร์บอนที่ต้นไม้สามารถดูดซับไว้ได้นั้น หากมีการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ประเทศไทยจะสูญเสียพื้นที่ที่ สามารถดูดซับคาร์บอนได้ประมาณ 10,400 ตันคาร์บอน ป่าแม่วงก์มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างน้อย 549 ชนิด และมีปลาอาศัยอยู่ในลำน้ำ 64 ชนิด (ใน EIA รายงานไว้ 61 แต่สำรวจเจอเพิ่มจากการลงพื้นที่อีก 3 ชนิด) ในจำนวนนี้มีเพียง 8 ชนิด หรือ 13% ที่สามารถผสมพันธุ์ในแหล่งน้ำนิ่งในอ่างเหนือเขื่อนได้นอกนั้นต้องอาศัยพื้นที่น้ำไหลหรือน้ำหลากซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ

5. จากเว็บไซด์ของกรมชลประทาน ลุ่มน้ำแม่วงก์มีพื้นที่รับน้ำฝน (water shed) 1,113 ตารางกิโลเมตร มีน้ำท่า 569 ล้าน ลูกบาศก์เมตร หรือมีน้ำ 0.52 ล้าน ลบ.ม./1 ตร.กม. ของพื้นที่รับน้ำ เมื่อเปรียบเทียบกับลุ่มน้ำทับเสลาซึ่งมีเขื่อนทับเสลาอยู่แล้ว ซึ่งมีพื้นที่รับน้ำฝน 534 ตร.กม. แต่มีน้ำท่า 124 ล้าน ลบ.ม. หรือมีน้ำ 0.23 ล้าน ลบ.ม./1 ตร.กม. ข้อสังเกตคือ พื้นที่ใกล้ๆกัน เขื่อนทับเสลาอยู่ทางใต้ของแม่วงก์เพียง 40 กม.ทำไมพื้นที่รับน้ำของเขื่อนแม่วงก์(ต่อตร.กม.)จึงมีน้ำมากกว่าพื้นที่รับน้ำของเขื่อนทับเสลาสองเท่ากว่าทั้งๆที่อยู่ในแนวเขาเดียวกัน ปริมาณฝนตกไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก ทั้งนี้ปีพ.ศ.2554 ซึ่งเป็นปีที่มีน้ำมาก เขื่อนทับเสลามีปริมาณน้ำในอ่างเพียง 49 ล้าน ลบ.ม. หรือ 31% ของความจุ และในปัจจุบัน ณ วันที่ 5 พค. 2555 ซึ่งเป็นปลายฤดูแล้งที่ควรจะมีการจัดส่งน้ำให้ทำการเกษตรในหน้าแล้ง ปรากฏว่ามีน้ำในอ่างที่ใช้การได้จริงเพียง 34 ล้าน ลบ.ม. หรือ 21% ของความจุเท่านั้น
ข้อมูลจาก: ศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน (http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.html)

6. การช่วยบรรเทาน้ำท่วม: เขื่อนแม่วงก็มีอัตราการเก็บน้ำสูงสุดที่ 250 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่ปริมาณน้ำที่ท่วมภาคกลางเมื่อปลายปี 2554 มีถึง 16,000 ล้าน ลบ.ม. (ตัวเลขจาก ศปภ.) น้ำที่กักเก็บได้ทั้งหมดของเขื่อนแม่วงก์จึงคิดเป็นเพียงแค่ 2% ของปริมาณน้ำที่ท่วมที่ราบลุ่มภาคกลางในช่วงปลายปี 2554 หรือคิดเป็นปริมาณน้ำที่ไหลเข้าทุ่งเจ้าพระยาในช่วงที่น้ำไหลเข้ามากที่สุดเพียงแค่ ครึ่งวันกว่าเท่านั้น เช่นในวันที่ 21 ตค. 2554 ทีม กรุ๊ป ให้ข่าวว่าปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ทุ่งเจ้าพระยามีมากถึงวันละ 419 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแม่วงก์จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคกลางได้น้อยมาก นอกจากนั้นแม้แต่พื้นที่ใกล้เคียง เช่น อ.ลาดยาว เขื่อนแม่วงก์ก็ช่วยเรื่องน้ำท่วมหลากได้เพียง 25% เนื่องจากน้ำที่ท่วมอ.ลาดยาวจริงๆแล้วมาจากหลายสาย และเป็นน้ำไหลบ่าจากทุ่ง ไม่ใช่จากน้ำแม่วงก์สายเดียว ทั้งนี้การบริหารจัดการเขื่อน ต้องคงเหลือน้ำไว้ในเขื่อนส่วนหนึ่ง จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขื่อนแม่วงก์จะสามารถรับน้ำได้เต็ม 250 ล้าน ลบ.ม. ทุกปี

ภาพ : มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
7. รายงานการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ทั้ง 4 ครั้งตั้งแต่ปี 2538, 2541, 2545 และ 2547 ไม่เคยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ซึ่งระบุให้กรมชลประทานไปหาวิธีจัดการน้ำแบบบูรณาการมากกว่าสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนรายงานการศึกษาฉบับที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน มีมูลค่าวงเงินตามสัญญา ประมาณ 15 ล้านบาท ก็มีแนวโน้มไม่โปร่งใส เนื่องจากมีการลัดขั้นตอน ตัดลดจำนวนการลงพื้นที่สำรวจความหลากหลายทางชีวภาพบางรายการ นอกจากนั้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้มีหนังสือด่วนที่สุดเมื่อวันที่ 23 มีค. 2555 ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่าโครงการเขื่อนแม่วงก์ขัดต่อเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติและไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ ป่า และ พันธุ์พืช จะพิจารณาให้ดำเนินการได้

8. กรมชลประทานระบุว่าเขื่อนแม่วงก์จะสามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานในฤดูฝนได้ 291,900 ไร่ พื้นที่ในฤดูแล้ง 116,545 ไร่ จากการลงพื้นที่ ปรากฏว่าในฤดูฝน ชาวบ้านใช้น้ำฝนและน้ำหลากทุ่งในการทำการเกษตรอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งน้ำจากเขื่อนแต่อย่างใด ประโยชน์ของน้ำชลประทานจากเขื่อนจึงเหลือแต่ในฤดูแล้ง ซึ่งจากการคำนวน โดยใช้สมมุติฐานว่า
8.1 ชาวบ้านปลูกข้าวได้ 0.75 ตัน/ไร่
8.2 ขายข้าวได้ราคาปกติ 8,000 บาท/ตัน
8.3 ขายข้าวได้ราคาจำนำ (เฉลี่ย) 14,000 บาท/ตัน
8.4 มีต้นทุนการเพาะปลูก 3,000 บาท/ไร่
8.5 ชาวบ้านจะมีกำไร/ไร่ (0.75*8,000)-3,000 = 3,000 บาท/ไร่ (ราคาปกติ)
8.6 ชาวบ้านจะมีกำไร/ไร่ (0.75*14,000)-3,000 = 7,500 บาท/ไร่ (ราคาจำนำ)
8.7 ชาวบ้านในพื้นที่ชลประทานจะมีรายได้เพิ่มขึ้น = 116,545 (ไร่) * 3,000 = 349.64 ล้านบาท (ราคาปกติ)
8.8 ชาวบ้านในพื้นที่ชลประทานจะมีรายได้เพิ่มขึ้น = 116,545 (ไร่) * 7,500 = 874.09 ล้านบาท (ราคาจำนำ)
8.9 ทำให้โครงการมูลค่า 13,000,000,000 บาทมีระยะเวลาคืนทุน 37 ปี และ 15 ปี ตามลำดับ โดยยังไม่คิดถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลและซ่อมบำรุงเขื่อนและระบบส่งน้ำ  ทั้งนี้การลงทุนทั่วไปควรมีระยะคืนทุนอยู่ระหว่าง 4-7 ปี และ 7-10 ปีในโครงการขนาดใหญ่
8.10 เขื่อนแม่วงก์จะมีค่า IRR ในกรณีข้าวราคาปกติที่ -5% ในระยะเวลา 20 ปี และ 3% ในระยะ 20 ปีที่ราคาจำนำ ทั้งนี้ในปัจจุบัน การลงทุนส่วนใหญ่ควรมีค่า IRR ในช่วงระยะเวลา 10 ปีอยู่ระหว่าง 5-10% จึงจะถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า (การคำนวนยังไม่ได้นำค่าใช้จ่ายในการดูและและซ่อมบำรุงเขื่อนและระบบส่งน้ำเข้ามารวม)
หมายเหตุ: ตัวเลขจากกรมชลประทานระบุว่าจะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ได้ประมาณ 720 ล้านบาท/ปี คิดเป็น ระยะเวลาคืนทุน 18 ปี IRR เมื่อ 20 ปี =1%
(ขยายความเรื่อง IRR : หมายถึง ผลตอบแทนการลงทุนของกระแสเงินชุดหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้วเริ่มต้นด้วยงบลงทุน เป็นตัวเลขติดลบ ตามด้วยผลตอบแทนที่จะได้รับในแต่ละปี ในกรณีของเขื่อนแม่วงก์ ถ้าหากใช้ตัวเลขของกรมชลประทานว่าจะได้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้นปีละ 720 ล้านบาท/ปี โดยลบเงินลงทุนที่ 13,000 ล้านในปีแรก พบว่าในระยะเวลา 18 ปี ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพียงปีละ 1% ทั้งนี้ในปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ประมาณ​ 2.5-3.5% จะเห็นว่าเงินลงทุนสร้างเขื่อนแม่วงก์ หากเอาไปฝากธนาคารไว้เฉยๆ ยังได้ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่าประมาณ 2.5-3.5 เท่า)
9. ผลโพล 7 สี ถามคนในจ.นครสวรรค์ว่าต้องการให้สร้างเขื่อนแม่วงก์หรือไม่ ปรากฏว่ามี 22.7% ต้องการเขื่อน 32.5% ต้องการเขื่อนถ้าไม่มีผลกระทบโดยรวม และ 34.2% ไม่ต้องการเขื่อน ในขณะที่ 10% ไม่แน่ใจ แสดงให้เห็นว่า คนในพื้นที่เองส่วนใหญ่แล้วก็ยังไม่ต้องการเขื่อนเลยหรือไม่ต้องการถ้าส่งกระทบต่อส่วนรวม ทั้งนี้ป่าไม้ มิได้เป็นสมบัติของคนในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่เป็นสมบัติของคนทั้งชาติ ที่มีการใช้ “บริการทางอ้อม” จากป่าไม้ร่วมกัน เช่นใช้เป็นแหล่งผลิตออกซิเจน แหล่งกักเก็บน้ำ แหล่งอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นต้น การจะทำลายป่าไม้จึงต้องคำนึงถึง “คนนอกพื้นที่” ด้วยว่าเห็นด้วยหรือไม่

ลำน้ำแม่วงก์บริเวณที่จะมีการสร้างเขื่อนแม่วงก์
ที่มา : www.siamensis.org/article/35660

ทายาทโรงแรมพันล้าน ซิ่งบิ๊กไบค์แหกโค้งชนปิกอัพดับสยอง

23 กันยายน 2556 เวลา 11:32 น. | อ่าน 1,638


ตำรวจภูธรบ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนรถกระบะและมีผู้เสียชีวิต บริเวณแยก 5 แพ่ง หน้าเทศบาลสุนทรภู่ ถนนสายแหลมแม่พิมพ์ - บ้านเพจึงรุดไปตรวจสอบพบศพนายจอห์น โอลอฟ เอ็ดดี้ วิดดิ้ง อายุ 25 ปี ชาวสวีเดน ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของโรงแรมแกรนด์ ซิลเวอร์ ซี เฮ้าส์ มูลค่านับพันล้านบาท นอนเสียชีวิตอยู่ในป่าหญ้าริมถนน ในสภาพศีรษะขาด ใกล้กันพบรถกระบะสีบรอนซ์ ทะเบียน บว 7766 ระยอง ถูกชนพังยับเยิน และมีนางชนัต สุวรรณโชติ อายุ 58 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อ kawasaki er-6n สีขาว ขนาด 650 ซีซี. ทะเบียน อทษ 178 กรุงเทพมหานคร สภาพล้อหน้าขาดกระเด็น

จากการสอบถามผู้พบเห็นเห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ด้วยความเร็วสูงมาจากด้านแหลมแม่พิมพ์ มุ่งหน้าไปหาดบ้านเพ เพื่อร่วมงานสังสรรค์กลุ่มบิ๊กไบค์ ซีบีอาร์ เมื่อมาถึงทางโค้ง 5 แพ่ง ได้เสียหลักจะแหกโค้งจึงได้หักแฮนด์รถเข้า และเป็นจังหวะเดียวกับรถกระบะคันดังกล่าวขับสวนทางมาพอดี ทำให้รถของผู้เสียชีวิตพุ่งชนรถกระบะอย่างจัง และเสียชีวิตดังกล่าว
 
ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวท้องถิ่น

เปิดตัวบริษัท“กล้องวงจรปิด”ขาย“นาฬิกา”ให้รัฐสภาเรือนละ 6 หมื่น เป็นบริษัทห้องแถว

วันอาทิตย์ ที่ 22 กันยายน 2556 เวลา 20:00 น - ที่มา : สำนักข่าวอิศรา

เปิดตัวผู้รับเหมาขายนาฬิกา –ห้องจำหน่ายสินค้าที่ระลึกอาคารรัฐสภา 22.8 ล้าน ที่แท้ร้านขายกล้องวงจรปิด ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ทำสัญญา 29 มี.ค.56 อ้างนำเข้าจากฝรั่งเศส ปัดรู้จักคนโต-ขรก.
dfsdrrrt
บริษัท อีควิป แมน จำกัด ผู้รับเหมางานปรับปรุงระบบนาฬิกาให้แก่รัฐสภาและอื่นๆกว่า 22.8 ล้านบาทนั้นแท้ที่จริงประกอบธุรกิจขายกล้องวงจรปิด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ว่าจ้าง บริษัท อีควิป แมน จำกัด อย่างน้อย 3 โครงการ รวมวงเงิน 22,881,083 บาท ได้แก่
1.การปรับปรุงระบบแลกบัตรเข้า-ออก 4,150,000.00 บาท เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 55
2.ปรับปรุงระบบนาฬิกาภายในและโดยรอบรัฐสภาวงเงิน 14,891,083 บาท เมื่อวันที่ 29 มี.ค.56
3.จัดทำห้องจำหน่ายสินค้าที่ระลึกรัฐสภา วงเงิน 3,840,000.00 บาท เมื่อวันที่ 29 มี.ค.56
จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท อิควิป แมน จำกัด จดทะเบียนวันที่ 23 พฤศจิกายน 2547 ทุน 3 ล้านบาท รับออกแบบและวางระบบ ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย ค้ากล้องวงจรปิด มีนายศราวุธ พงษ์สงวนสุข ถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการ
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2556 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา(www.isranews.org) ลงพื้นที่ไปยังที่ตั้งของบริษัท อีควิป แมน จำกัด ระบุที่ตั้งคือเลขที่ 1832/2 หมู่ที่ 7 ถนนเทพารักษ์ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พบตั้งอยู่ในซอยที่ดินทอง 6 ติดถนนเทพารักษ์ เมื่อไปถึงปรากฏเป็นอาคารพาณิชย์ ขนาด 3 ชั้น จำนวน 1 คูหา ด้านหน้ามีป้ายบริษัท อีควิปแมน จำกัด ติดไว้ชัดเจน
gptoot
จากการสอบถามหญิงสาวคนหนึ่งในบริษัท ฯ เบื้องต้น ระบุว่า นายศราวุธ ไม่อยู่ เพราะออกไปดูหน้างานที่อื่น ให้ติดต่อทางโทรศัพท์ แต่ได้ระบุว่าตนจำเบอร์โทรศัพท์ของนายศราวุธ ไม่ได้ โดยหญิงสาวคนดังกล่าวได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของนายอนุชิต มาแทน
ถัดมาผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์ไปที่นายอนุชิต ในเบื้องต้นนายอนุชิต ระบุว่า ยังไม่สามารถให้เบอร์โทรศัพท์ของนายศราวุธ ได้ โดยต้องถามนายศราวุธก่อน
ถัดจากนั้นประมาณ 10 นาที ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปยังนายอนุชิต อีกครั้ง โดยนายอนุชิต ระบุว่า ได้สอบถามนายศราวุธ แล้ว แต่นายศราวุธ ยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูล เมื่อพร้อมจะติดต่อกลับไป
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง นายศราวุธ จึงได้โทรศัพท์ติดต่อกลับมายังผู้สื่อข่าว เพื่อขอชี้แจง
เมื่อถามว่าบริษัท อีควิป แมน จำกัด ได้งานปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัย ภายในและโดยรอบรัฐสภาและจัดทำห้องจำหน่ายสินค้าที่ระลึกรัฐสภา ได้อย่างไร นายศราวุธ ระบุว่า บริษัทฯ ของได้งานโดยวิธีประมูลเปิดซองตามขั้นตอนปกติ
เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ ว่าผู้เสนอราคารายอื่นมีบริษัทฯ ใดบ้าง นายศราวุธ ระบุว่า ไม่ทราบ เพราะเรื่องรายชื่อผู้ยื่นซองประมูลทางรัฐสภาไม่ได้เปิดเผย
เมื่อถามต่อว่านายศราวุธ รู้จักกับข้าราชการในรัฐสภาโดยตรงหรือไม่ นายศราวุธ ระบุว่า ไม่ได้รู้จักกับข้าราชการคนใดเลย แต่บริษัทฯเคยเข้าประมูลที่รัฐสภาตั้งแต่ปี 2551 ก็อาจจะรู้จักกับผู้ติดต่องานบ้าง แต่สำหรับคนใหญ่ คนโต ยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน
ล่าสุดวันที่ 21 ก.ย.2556 นายนายศราวุธ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กรณีเป็นผู้รับเหมาปรับปรุงระบบนาฬิกาภายในและโดยรอบรัฐสภาวงเงิน 14.8 ล้านบาทว่า เป็นนาฬิกาแขวนผนังยี่ห้อ Bodet ที่สั่งซื้อจากประเทศฝรั่งเศส จำนวน 238 เรือน ทำงานด้วยระบบ Master Clock ซึ่งนาฬิกาทุกเรือนในรัฐสภาที่ติดตั้งจะเดินตรงกันทุกนาที และวินาที อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เน็ตเวิก และอุปกรณ์ UPS และรับประกัน 3 ปี
เมื่อถามถึงราคาเฉลี่ยในแต่ละเรือนราคาเท่าใด นายศราวุธ ระบุว่า ไม่สามารถประเมินราคาเป็นเรือนๆได้ เพราะเวลาที่คุยงานกับบริษัทในประเทศฝรั่งเศส ตนคุยเป็นโปรเจ็คต์ เป็นการจ่ายแบบเหมารวมทั้งหมด สำหรับตัวเลขนั้น ในทางธุรกิจตนไม่ขอเปิดเผย
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วงเงินปรับปรุงระบบนาฬิกาให้รัฐสภารวม 14,891,083 บาท จำนวน 238 เรือน เท่ากับราคาเรือนละ 62,567 บาท
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า บริษัท อิควิป แมน จำกัด เป็นคู่สัญญากับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในการจัดซื้อครุภัณฑ์โฆษณาและเผยแพร่ วงเงิน 1,700,000 บาท เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 49
นอกจากนี้ยังเป็นผู้รับเหมาติดตั้ง ติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน 2 ครั้ง ครั้งแรกวงเงิน 6,470,000 บาท วันที่ 20 ส.ค. 51 และ ครั้งที่สอง 6,999,000 บาท วันที่ 27 ก.ค. 50 และ ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า โทรศัพท์ และระบบ LAN วงเงิน 3,356,590 บาท วันที่ 10 ก.พ. 55
เป็นคู่สัญญา การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จ้างปรับปรุงทดแทนสายสัญญาณ(FiberOptic)ของกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทางพิเศษฉลองรัช วงเงิน 10,290,000 บาท เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 52 และซื้ออุปกรณ์รับส่งสัญญาภาพและสัญญาณควบคุมกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV) 1,199,794.90 บาท เมื่อวันที่ 10 เม.ย.56

ผู้หญิง - รถไฟ - การเมือง - เขื่อน?วาระสื่อ วาระชาติ?


วาระสื่อ วาระชาติ?
ตามทฤษฏีการสื่อสาร การกำหนดวาระข่าวสาร (agenda setting) นั้น บางบอกว่าสื่อมีกรอบความคิดต่อสังคมอย่างไร พวกเขาจะคิดว่า เรื่องใด อะไร แง่มุมแบบไหนคือสิ่งที่ประชาชน ผู้อ่านควรได้เรียนรู้

พวกเขายังแฝงไปด้วย มุมมอง จุดยืนทาสังคมและการเมือง ที่สะท้อนตัวตนของกองบรรณาธิการ และการเลือกข้างทางสังคมคมด้วย

พวกเขาจะบอกว่า อะไรควรเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรจะรู้ ควรเพ่งให้ความสำคัญ

ประเด็นเรื่องการเมือง หรือเรื่องสังคม

ปกเนชั่นสุดสัปดาห์นี้ ให้ความสำคัญที่แตกต่างออกไปจากฉบับอื่นๆ ตรงที่มุ่งเน้นไปที่เรื่องการเดินประท้วงต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ของอาจารย์ศศิน เฉลิมลาถ ขณะที่อีก 3 ฉบับให้ความสำคัญกับการเมือง

มติชน, เช่นเดิม ยังคงให้พื้นที่ข่าวแก่ฝ่ายการเมืองในมุมมองที่ตนเองสนับสนุน
ผู้จัดการ ให้ความสำคัญกับวิวาทะผู้หญิง การเมือง และประเด็นทางสังคม
สยามรัฐ ให้ความสำคัญไปที่การเมืองรัฐสภา ความขัดแย้งขั้วอำนาจ

เนช่่นให้ความสำคัญไปที่ ประเด้นร่วมทางสังคม สิ่งแวดลล้อม และเรื่องที่สื่ออื่นๆมองข้าม

ทีนี้คุณพอจะมองออกแล้วว่า การกำหนดวาระข่าวสารของสื่อแต่ละหัว แต่ละฉบับ ให้ความสำคัญกับเร่ื่องอะไรมากน้อยเท่าใด หรือมีธง-จุดยืนทางการเมืองอย่างไร?

สื่ออาจกำหนดวาระข่าวสารแก่คุณได้
แต่คุณก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้ความสำคัญและสนใจกับเรื่องใดบ้า

แตกต่าง เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับใจคุณเอง?


'พล.อ.อ.สมบุญ'อดีตหน.ชาติไทยถึงแก่อนิจกรรมวัย81

ข่าวการเมือง วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ.2556 10:11น.
481638
โรงพยาบาลรามาธิบดี แจ้ง "พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์" อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ตั้งศพวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
รายงานข่าว จาก รพ.รามาธิบดี แจ้งว่า พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และรัฐมนตรีฯศึกษาธิการ ได้ถึงแก่อนิจกรรมแล้วที่ ร.พ.รามาธิบดี เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยมากว่า 2 เดือน โดยกำหนดพิธีรดน้ำศพที่ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ศาลาใหญ่ เวลา 16.00 น. และกำหนดสวดพระอภิธรรมศพ ตั้งแต่วันที่ 23-29 กันยายน 2556 เวลา 18.30 น.
สำหรับ ประวัติ พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 เป็นอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคประชากรไทย สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตร์บัณฑิต จาก โรงเรียนนายเรือ และเคยดำรงตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย
เส้นทางการเมือง ภายหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 และ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ประกาศลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ในเวลานั้น พล.อ.อ.สมบุญ อดีตผู้อำนวยการการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งเป็น หัวหน้าพรรคชาติไทย สืบต่อจาก พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่ลาออกหลังรัฐประหาร เป็นที่เชื่อกันในขณะนั้นว่า พล.อ.อ.สมบุญ จะต้องได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ต่อจาก พล.อ.สุจินดา อย่างแน่นอน แต่แล้วเมื่อ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ นำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ กลับกลายเป็นการแต่งตั้งให้ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีรักษาการระหว่างการปฏิวัติ กลับมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และทำให้เป็นที่พูดต่อๆ กันมาถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า พล.อ.อ.สมบุญ "แต่งชุดขาวรอเก้อ"
ขณะที่ ในปี พ.ศ. 2540 เมื่อ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎรจะต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดย พล.อ.อ.สมบุญ ร่วมกับ นายวัฒนา อัศวเหม นำ ส.ส.พรรคประชากรไทย 12 คน ฝืนมติพรรคที่มี นายสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้า โดยเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนให้นายชวน หลีกภัย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาแกนนำกลุ่ม ได้รับตำแหน่งระดับรัฐมนตรี 2 ตำแหน่งในรัฐบาลชวน 2 แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะได้รับคำรับรองจากศาล ว่า ส.ส. แต่ละคนมีอิสระในการตัดสินใจ โดยไม่ขึ้นกับมติพรรค แต่ทั้งหมดก็เป็นที่มาของชื่อ ส.ส. "กลุ่มงูเห่า" จากปาก นายสมัคร สุนทรเวช ที่มีความหมายตามนิทาน "ชาวนากับงูเห่า" นั่นเอง
ปัจจุบัน พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ เป็นนายกสมาคมผู้ปกครองและครูนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา

รถไฟขนน้ำมันเพลาหักตกรางโคราชปิดทางอีสานชั่วคราว

ข่าวอาชญากรรม วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ.2556 10:45น.
481655
อีกแล้ว! ผู้ว่า ร.ฟ.ท. เผย รถไฟขนน้ำมันเพลาหัก ตกรางที่สถานีสีคิ้ว โคราช เร่งกู้ด่วน คาดบ่ายนี้เสร็จ ระบุเป็นเรื่องของระบบเครื่องของรถไฟ ไม่เกี่ยวกับระบบราง ปิดเส้นทางอีสานชั่วคราว
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ได้เกิดเหตุรถไฟขนน้ำมันเตา ตกรางที่ สถานีรถไฟสีคิ้ว จ.นครราชสีมา ระหว่างที่ออกจากสถานีไปได้ไม่นาน และเป็นทางขึ้นเขา โดยเพลาของรถไฟขบวนดังกล่าวเกิดหักเสียหาย ทำให้โบกี้ขนน้ำมันเตา ตกราง ไม่สามารถไปต่อได้

ล่าสุด ทาง เจ้าหน้าที่กำลังเร่งกู้โบกี้ดังกล่าวอยู่ แต่เนื่องจากว่าเป็นตู้น้ำมันที่มีน้ำหนักมาก จึงต้องใช้เวลากู้ คาดว่าประมาณช่วงบ่ายนี้ จะสามารถกู้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเรื่องของระบบเครื่องของรถไฟ ไม่เกี่ยวกับระบบรางที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ทำให้ต้องปิดเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ชั่วคราวก่อน จนกว่าจะกู้แล้วเสร็จ
ก่อนหน้านี้หลังการออกมาของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ตรวจสอบเรื่องรถไฟตกราง จนนายประภัสร์ ออกมาประกาศว่าได้เร่งแก้ปัญหาและป้องกันแล้ว โดยหากมีปัญหาการตกรางของรถไฟอีก ตนเองจะลาออกจากตำแหน่งู้ว่า ร.ฟ.ท.