PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560

ย้อนเส้นทาง เรือเหาะใต้ 350 ลบ. ราชินีโรงจอด 8 ปี ฉบับเข้าใจง่าย

ย้อนเส้นทาง เรือเหาะใต้ 350 ลบ. ราชินีโรงจอด 8 ปี ฉบับเข้าใจง่าย


ย้อนลำดับเหตุการณ์สำคัญตลอด 8 ปี "เรือเหาะดับไฟใต้" กองทัพบก มูลค่า 350 ล้าน ที่จัดซื้อในยุค บิ๊กป๊อก-บิ๊กตู่ นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. ท่ามกลางการโจมตีของหลายฝ่าย โดยเฉพาะคู่ปรับ "เพื่อไทย" มองว่าแพงเกินจริง-ไม่คุ้มค่า

หลังจากมีกระแสข่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ได้ปลดประจำการณ์ เรือเหาะตรวจการณ์ ที่กองทัพบกได้จัดซื้อสมัย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หรือ บิ๊กป๊อก ผบ.ทบ.ในขณะนั้น เนื่องจากหมดอายุการใช้งาน ท่ามกลางกระแสโจมตีของหลายฝ่ายที่ระบุว่า เป็นการจัดซื้อที่ไม่คุ้มค่ากับราคา 350 ล้านบาท และมองว่าแพงเกินจริง เนื่องจากเรือเหาะที่มีขนาดใกล้เคียงกันมีราคาเพียง 30-50 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งทางกองทัพบกก็ได้ออกมาตอบโต้และยืนยันตลอดว่า เรือเหาะดังกล่าวสามารถใช้งานได้จริง ทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่มีการจัดซื้อนั้น

วันนี้ (14 ก.ย.60) ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ จึงขอไล่ลำดับเหตุการณ์สำคัญตั้งแต่การจัดซื้อเรือเหาะในปี 2552 จนถึงปัจจุบันว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง ดังนี้

10 มี.ค.52 พรรคประชาธิปัตย์ (ฝ่ายรัฐบาลในขณะนั้น) อนุมัติงบ 350 ล้าน แบ่งเป็นราคาบอลลูน 260 ล้าน กล้องตรวจการณ์ทั้งกลางวันกลางคืน 70 ล้าน ส่วนที่เหลือ 20 ล้าน เป็นอุปกรณ์สื่อสารภาคพื้น จัดหาเรือเหาะตรวจการณ์ เพื่อใช้ในกิจของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อใช้ในภารกิจความไม่สงบในภาคใต้ โดยระบุคุณสมบัติว่า สามารถบินได้พ้นรัศมีของปืน M16
23 เม.ย.52 กองทัพบกทำสัญญาจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์จากบริษัท เอเรียล อินเตอร์เนชั่นแนล คอเปอร์เรชั่น

28 มิ.ย.52 เรือเหาะตรวจการณ์ถูกส่งถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

18 ธ.ค.52 เรือเหาะเข้าประจำการ ณ โรงจอดภายในหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กองพลทหารราบที่ 15 อย่างเป็นทางการ (พล.ร.15) อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

15 ม.ค.53 กองทัพกำหนดให้เป็นวันเริ่มนำเรือเหาะขึ้นปฏิบัติการเป็นครั้งแรก แต่ประสบปัญหาทางเทคนิค ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงยังไม่มีการรับมอบสินค้าอย่างเป็นทางการ

5 มี.ค.53 คณะกรรมการตรวจรับเรือเหาะจัดทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน พบว่ามีปัญหาหลายอย่าง ในส่วนกล้องและตัวบอลลูน ตัวเรือเหาะบินได้ 1 ใน 3 ของสเปกไม่พ้นระยะยิง ด้าน บิ๊กป๊อก โบ้ยให้กรรมการตรวจรับเรือเหาะรับผิดชอบหากพบว่าเรือเหาะบินไม่ได้ ลั่นจัดซื้อ "เหมาะสม ถ้าไม่เหมาะสมจะสั่งซื้อได้อย่างไร"

5 มี.ค.53 พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก ปัดข่าวนายทหาร 2 นาย ซึ่งเป็นกรรมการตรวจรับเรือเหาะ ขอลาออกเนื่องจากไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับโครงการที่เป็นปัญหา ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

9 มี.ค.53 บิ๊กป๊อก ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบประสิทธิภาพเรือเหาะอีกครั้ง พบปัญหาหลายอย่าง แต่ยืนยันว่าระบบยังใช้งานได้ดี ระบุ โครงการจัดซื้อโปร่งใส หาก สตง.-ป.ป.ช. ตรวจสอบว่ามีการโกงก็พร้อมเข้าคุกทันที

11 มี.ค.53 ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กังขากองทัพบกไม่ยอมชี้แจงการจัดซื้อเรือเหาะ อ้าง ผบ.ทบ. ติดภารกิจ (อ่านข่าวคลิก)

27 พ.ค.53 คณะกรรมการตรวจรับเรือเหาะลงนามรับมอบ “บอลลูน”

9 มิ.ย.53 รองเจ้ากรมท่าบำรุงทหารบก แถลงโต้ข่าววิพากษ์วิจารณ์การจัดซื้อเรือเหาะ โดยเฉพาะเรื่องบินต่ำกว่าสเปก คือบินได้เพียง 1 กม. โดยระบุว่าสเปกจริงบินได้ 3 กม. แต่เมื่อติดกล้องและรวมคนขับเข้าไปแล้วจึงทำให้บินต่ำลง

23 ก.ค.53 คณะกรรมการตรวจรับเรือเหาะ ลงนามรับมอบเรือเหาะตรวจการณ์ทั้งระบบ ทั้งที่ยังมีคำถามค้างคาใจจากหลายฝ่าย ด้านโฆษกพรรคเพื่อไทย ฉะกองทัพบกงุบงิบงบประมาณจัดซื้อเรือเหาะ ใช้งบไม่โปร่งใส กันสื่อไม่ให้เข้าสังเกตการณ์

23 ก.ค.53 กองทัพบกเสนอเรื่องให้บริษัทผู้ผลิต นำเรือเหาะลำใหม่เปลี่ยนลำเดิม เหตุมีรอยปริแตก รั่วซึม

3 ส.ค.53 พล.อ.อนุพงษ์ โต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องจัดซื้อเรือเหาะทุจริต ยันเจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมาย ส่วนเรื่องการใช้งานไม่ต้องห่วง เนื่องจากอยู่ในช่วงรับประกัน

30 ก.ย.53 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.แทน พล.อ.อนุพงษ์ ที่เกษียณอายุราชการ

18 ก.พ.54 เจ้าหน้าที่นำเรือเหาะขึ้นบินตรวจการณ์และทดสอบขีดความสามารถ ใช้กล้องอินฟาเรดเก็บภาพพื้นที่ จ.ปัตตานี บินไกลสุดในรอบ 7 เดือน (อ่านข่าวคลิก)

20 ก.พ.54 กองทัพบกขอเปลี่ยนผ้าใบบอลลูนจากบริษัทผู้ผลิต

16 มี.ค.54 พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเรือเหาะครั้งสุดท้ายก่อนใช้งานจริง

17 มี.ค.54 พรรคเพื่อไทย (ฝ่ายค้านในขณะนั้น) อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซัดซื้อเรือเหาะมีประสิทธิภาพไม่คุ้มราคา
17 มี.ค.54 นายอภิสิทธิ์ โต้พรรคเพื่อไทย ยัน รัฐบาลไม่ละเลยปัญหา มีการตรวจสอบ ลั่น หากไม่ได้คุณภาพก็จะไม่ให้กองทัพบกรับไว้ 

11 ต.ค.54 พล.อ.ประยุทธ์ เล็งใช้เรือเหาะตรวจการณ์ บินสำรวจพื้นที่น้ำท่วมปี 54

13 ธ.ค.55 เรือเหาะประสบอุบัติเหตุขณะลงจอดที่โรงเก็บเรือเหาะ เนื่องจากนักบินไม่สามารถควบคุมเรือเหาะได้ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจสำรวจความปลอดภัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น

18 ก.ค.56 มทภ.4 ยันยังไม่เซ็นจำหน่ายเรือเหาะ เผยขณะนี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซมความเสียหายจากอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.55

5 ก.ย.57 เรือเหาะลงจอดฉุกเฉินกลางทุ่งนา ม.6 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เนื่องจากเกิดลมแรงทัศนวิสัยไม่อำนวย ก่อนบินกลับฐานโดยไม่ได้รับความเสียหาย
24 ธ.ค.58 ป.ป.ช. ยกคำร้องถอดถอน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ กรณีละเว้นหน้าที่ ปล่อยให้กองทัพบกจัดซื้อเรือเหาะในราคาสูงเกินจริง เหตุการณ์การจัดซื้อก่อนที่นายสุเทพเข้ารับตำแหน่ง-ซื้อด้วยวิธีพิเศษ

14 ก.ย.60 พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ปลดประจำการเรือเหาะตรวจการณ์หลังใช้งาน 8 ปี และไม่มีแผนจัดซื้อใหม่.

แมลงวัน ไม่ตอม แมลงวัน

จุลสาร ราชดำเนิน ที่ดำเนินการโดยสมาคมนักข่าวฯ ออกโรง เรื่อง บิ๊กสื่อ
See more
Time Chuastapanasiri
"แมลงวัน ไม่ตอม แมลงวัน"
กำลังเป็นเรื่องที่แปลกทีเดียว กับข่าว กรณี "ทนายผู้รับมอบอำนาจจากบิ๊กสื่อ" เขียนจดหมายมาถึงสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพืแห่งประเทศไทย เรื่องที่ สมาคมฯ จะตั้งกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง กรณี “บิ๊กสื่อ” หรือผู้บริหารองค์กรสื่อสารมวลชนแห่งหนึ่งมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศพนักงานสาว
(อ่านต่อ ที่ http://m.posttoday.com/analysis/report/514595)
ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าใครเป็น "บิ๊กสื่อ" คนนั้น และ เหตุการณ์นี้เป็นจริงหรือไม่? ตามที่หลุดออกมา
สาระสำคัญที่ทนายทำจดหมายร้องเรียนไปที่สมาคม คือ "คัดค้านการตั้งกรรมการสอบ"
"....การกระทำดังกล่าว ปราศจากอำนาจอันจะอ้างตามข้อบังคับของสมาคมฯได้ เพราะไม่ปรากฎว่ามีบุคคลใดเป็นผู้เสียหายหรือผู้ร้องมายื่นเรื่องร้องเรียน อีกทั้งยังไม่ปรากฎว่ามีผู้ใดเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีการกระทำผิดที่ฝ่าฝืนต่อจริยธรรมและคุณธรรมดังที่กล่าวอ้าง อีกทั้งการตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงครั้งนี้ มีความสุ่มเสี่ยงต่อการร่วมกันกระทำความผิดทางอาญาฐานหมิ่นประมาท"
มาครบชุด, พูดง่ายๆ คือ
1. สมาคมไม่มีอำนาจตั้งกรรมการสอบ เพราะไม่มีผู้ใดมาร้องเรียน
2. สมาคมตั้งสอบไม่ได้ เพราะ "ยังไม่ปรากฎชื่อผู้ถูกกล่าวหา"
3. การตั้งกรรมการสอบ อาจเป็นการหมิ่นประมาททางอาญา
โอ้ย หัวหมอสมเป็นทนายความจริงๆ
หลังจากนี้ ก็เกิดบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวแหละครับ
ว่าที่จริง สมาคมนักข่าว ควรเอาเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นสรุปรายงานสถานการณืสื่อประจำปี 2560 เสียด้วยเลย ว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการไม่กล้าตรวจสอบกันเอง!
กรณีนี้ สะท้อนภาพวงการนักข่าวอย่างมากถึงการทำงานที่ "ไม่สามารถ ไม่ยอมรับการตรวจสอบกันเอง"
การเอาความรุ้ทางกฎหมายมาปกป้องตนเองนั้นเป็นเรื่องถูกต้อง แต่บางครั้ง ก็เป็นเรื่องหัวหมอได้เหมือนกัน
สังคมนี้ ควรนำพาเรื่องความโปร่งใส สุจริต และการเปิดเผยข้อเท็จจริง
ส่วนตัวผมคิดว่า สมาคมมีสิทธิที่จะตั้งกรรมการสอบ และพิจารณาตัดสินทางจริยธรรม โดยใช้กรอบจรรยาบรรณวิชาชีพและกฎหมายอื่นๆ มาพิจารณา
ว่าที่จริง "สมาคมนักข่าว สามารถตั้งกรรมการสอบเรื่องนี้ในทางลับได้" กล่าวคือ ลับทั้งคนถูกร้อง คนเป็นเหยื่อ และ คนสอบ เพื่อให้เรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์
ถ้ากำกับดูแลกันเองไม่ได้ วงการสื่อนี้ก็เน่าเละและเสื่อมศรัทธา มีแต่คนหัวหมอหัวศรีธนญชัย วงการสื่อโดยรวมก็จะถูกเหมารวมอีกครา ว่า "ไม่สามารถกำกับดูแลทางจริยธรรมได้"
สอบไปเถอะครับในทางลับ
ส่วนทนายนี้ ก็ทำตามหน้าที่ เงินจ้างมาก็ทำไป เพราะใครๆ ก็จ้างทนายมาว่าความให้ตนเองได้ทั้งนั้น
พอมาแนวนี้ ก็เลยชักจะคิดว่า "แมลงวันตัวนี้ คงจะตัวใหญ่ทีเดียว" จึงทำให้คนในวงการสื่อไม่กล้าตอม
แล้วมันก็จะกลืน ลืมหายไป?

ภารกิจประวิตรในต่างแดน

บิ๊กป้อม ถก รมว.กห.อังกฤษ เริ่มฝึกPanther Gold ครั้งแรก ปรับปรุงMOU ความร่วมมือด้านการส่งกำลังบำรุง ยันเดินหน้าประเทศตาม Road  Mapกลับสู่ประชาธิปไตย

พล.อ. ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กห.พร้อมคณะ เยือนอังกฤษ  ระหว่าง 12 - 15 ก.ย.60 เพื่อกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างสองประเทศ 
 
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกห. เปิดเผยว่า เซอร์ ไมเคิล  ฟอลลอน รมว.กห. สหราชอาณาจักร ได้ให้เกียรติ ต้อนรับ พล.อ.ประวิตร และพร้อมคณะ ที่ อาคารรับรองของกห.  ( Admiralty House )  

ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความสัมพันธ์และการขยายความร่วมมือด้านการทหารและการป้องกันประเทศร่วมกัน โดยเฉพาะด้านการฝึก การศึกษา การแลกเปลี่ยนข่าวกรอง การปรับปรุงบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งกำลังบำรุง การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ  

โดยรมว.กห.สหราชอาณาจักร ได้กล่าวชื่นชมไทย ที่จัดกำลังเข้าร่วมรักษาสันติภาพภายใต้กรอบสหประชาชาติ ที่สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน

 และขอบคุณที่สนับสนุนให้มีการฝึกผสมร่วมกันระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ร่วมกัน ภายใต้รหัสการฝึก Panther Gold  ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่าง 30 ต.ค.60 ถึง 1 ธ.ค. 60 ที่จังหวัดกาญจนบุรี   

พร้อมทั้งยินดีให้ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศ. 

ซึ่งพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณในภาพรวม และกล่าวเพิ่มเติมถึง การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นประโยชน์เพื่อประชาชนและการวางรากฐานของประเทศ  รวมทั้งพัฒนาการทางการเมืองของไทย เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขตามโรดแมปที่กำหนด  พร้อมย้ำว่า ไทยพร้อมให้การสนับสนุนขยายความร่วมมือระหว่างกันในทุกด้าน เพื่อยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศที่มีมายาวนาน 

นอกจากนั้น พลเอกประวิตร พร้อมคณะ ได้พบปะและรับประทานอาหารกลางวันกับ นายมาร์ค  ฟีลด์ รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศด้านเอเชียและแปซิฟิกและคณะ ณ ห้องรับรอง อาคารสำนักงานรัฐสภา ( Parliament House )  ณ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์   

ทั้งสองฝ่ายได้หารือแลกเปลี่ยนมุมมองสถานการณ์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศและจุดยืนเกี่ยวกับความท้าทายด้านความมั่นคงต่างๆ

โดยสหราชอาณาจักรให้ความสนใจ  สถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก  การต่อต้านการก่อการร้าย การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมา การต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย  ซึ่งนำไปสู่อาชญากรรมด้านอื่นๆ ทั้งการค้ามนุษย์และการฟอกเงิน   เป็นต้น 

ขณะเดียวกัน ก็ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมกับอาเซียนในด้านต่างๆมากขึ้น โดยตระหนักถึงบทบาทความสำคัญของประเทศไทยในภูมิภาค และต้องการเพิ่มพูนความร่วมมือด้านต่างๆกับไทย ทั้งด้านการค้าการลงทุน และการป้องกันประเทศ     

โดยพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำถึง การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในภาพรวม ที่พยายามดูแลรักษาความสงบของประเทศ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเท่าเทียมกัน โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน  

ขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงการให้อิสระแก่ประชาชนในการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วม เพื่อกำหนดแนวทางการสร้างความสามัคคีปรองดอง การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศร่วมกัน  

พร้อมทั้ง ยืนยันความตั้งใจที่จะกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือระหว่างกันในทุกด้าน 

นอกจากนั้น. พลเอกประวิตร พร้อมคณะ ยังได้รับเชิญ เข้าร่วมงานแสดงยุทโธปกรณ์ด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงนานาชาติ  ( Defence and Security Equipment International :   DSEI 2017)  ที่กำลังจัดขึ้น

 
หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ฯ  ยังได้พบกับทีมไทยแลนด์ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน โดยได้มอบแนวทางให้สร้างความเข้าใจกับชาวต่างประเทศถึงสถานการณ์และพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทย โรดแม็ปที่จะนำไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นโยบายไทยแลนด์ 4.0  และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งแสวงความร่วมมือด้านใหม่ๆ กับสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีความสำคัญ ทั้งทางด้านความมั่นคง การค้า การลงทุน การศึกษา และการท่องเที่ยว เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน. 

 
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ผลการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรครั้งนี้ นับว่าเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างสองประเทศ รวมทั้งแสดงถึงความเชื่อมั่นในพัฒนาการกระบวนการประชาธิปไตยของไทย  ตลอดจนเป็นการเน้นย้ำจุดยืนร่วมในเวทีระหว่างประเทศ และความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันในทุกมิติ

สัตว์เลื้อยคลานเต็มทำเนียบฯ

"บิ๊กตู่" โจ๊ก!! ...งู-หนู-เห้..เต็มทำเนียบฯ อยู่ร่วมกัน เพราะมั่นคงเข้มแข็ง ไม่เกี่ยวดวง ยันไม่ทำตามโหร แต่ทำตามตัวเอง

พลเอกประยุทธ์ กล่าวในตอนหนี่ง บนเวที วปอ. ถึงเริ่อง งู เหลือม ในห้องน้ำ และ งูเช้า ทำเนีนบฯ ก็บอกว่า รัฐบาล เริ่มไม่ดีแล้ว

ที่ทำเนียบฯมี ตัวเงินตัวทอง เป็นพัน  แต่ก็อยู่ด้วยกันมานานแล้ว ไม่ได้เป็นศัตรูกันนะ อยู่ด้วยกัน ทำไมไม่มองว่า  ทำเนียบเข้มแข็ง เห็นมั่ยละ หนูก็เพียบเลย มองให้ในด้านดีบ้าง เพราะ.มีกินดีหมดแล้ว ไง

แล้วมีพวกโหรไปโหรมา บอกให้ผมทำตามโหรบอก. แต่ผมจะทำของผมก็แล้วกัน"

นายกเบื่อตอบเรื่องยิ่งลักษณ์เรือเหาะ

นายกฯ เบื่อตอบ เรื่อง "ยิ่งลักษณ์" และ"เรือเหาะ" บอก เรื่องอดีตไม่ต้องพูดถึง สัปดาห์นี้มีเรื่องสำคัญคือ EEC และยุทธศาสตร์ชาติ งดตอบคำถามสื่อ

ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี  พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.กล่าวว่า สัปดาห์นี้มีเรื่องสำคัญอยู่ 2 เรื่อง คือเรื่องของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และยุทธศาสตร์ชาติ

"ส่วนเรื่องอดีตยังไม่ต้องมาพูดถึง ขอบคุณและสวัสดี"นายกฯกล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานว่านายกฯบ่นกับ คนใกล้ชิดว่า นักข่าวถาม แต่เรื่องเก่าๆ เช่นเรื่องเรือเหาะ กองทัพบกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และเรื่องอดีตนายกฯ"ยิ่งลักษณ์"จึงไม่อยากตอบคำถาม

แต่ในเวทีแถลงยุทธศาสตร์ชาติของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 59 วันนี้ พลเอกประยุทธ์ ก็บ่นว่านักข่าวถามแต่เรื่องเก่าๆในอดีตเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาแล้ว 

"ผมก็ท้อเหมือนกัน และรู้สึกเต็มตื้น"

"ถ้า วันนี้ ผมบอกว่าหยุด ไม่ต้องทำอะไร ทั้งสิ้น แค่ประคองๆไป แล้ว มันก็กลับมาเป็นแบบเดิม"



"ถ้า วันนี้ ผมบอกว่าหยุด ไม่ต้องทำอะไร ทั้งสิ้น แค่ประคองๆไป แล้ว มันก็กลับมาเป็นแบบเดิม"
"นายกฯบิ๊กตู่" ชี้ เราต้องเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ผู้นำที่ลดความขัดแย้ง ผู้นำที่สามารถนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ทั้งในเชิงบริหารจัดการ และการตรวจสอบ อย่าปล่อยปละละเลย
"ถ้า วันนี้ ผมบอกว่าหยุด ไม่ต้องทำอะไร ทั้งสิ้น แค่ประคองๆไป แล้ว มันก็กลับมาเป็นแบบเดิม"นายกฯ กล่าว บนเวที วปอ.
นายกฯ ปลื้ม นักธุรกิจญี่ปุ่น มาพบคณะใหญ่ที่สุด เกือบ600 คน เพราะเขามั่นใจในรัฐบาล แต่เขาให้เรารับรองได้มั้ย ว่า 20ปี จะไม่มีอีก ท่านรับรองได้มั้ย. ค้ำประกันได้มั้ย ในเรื่องความมั่นคง ใน 20ปี ที่จะต้องเอาคนดีมาปกครองบ้านเมือง ได้รัฐบาลที่มี ธรรมาภิบาล

"บิ๊กตู่" ชักงง เป็นทั้ง "นายกฯ-หน.คสช."

"บิ๊กตู่" ชักงง เป็นทั้ง "นายกฯ-หน.คสช." ส่งกลับไปกลับมา ไปๆมาๆ ก็คนเดียว โดนสองเด้ง เผย บางที เหมือน ไฟช็อตในสมอง แต่ยัน ทำทุกอย่างมีแผน ตามโรดแมพ ยันไม่มี เรือแป๊ะ!!
พลเอกประยุทธ์ นายกฯ แจง บนเวที ยุทธศาสตร์ชาติ วปอ....เผย ผมเข้ามามีโรดแมพตลอด จนกระทั่ง. มีรัฐธรรมนูญ ออกมา มี กระบวนการขับเคลื่อนต่างๆ ผมต้องคืดว่าทำอะไรให้รัฐบาลเดินหน้าได้ นั่นคือ3 ปี ที่ รัฐบาลและ คสช ทำมาตลอด จนมาถึง การตั้ง ปยป. และPMDU Prime Minister Deliverly Unit ในเริ่องการออก ม.44 การประชุม คสช. การทำหน้าที่ ของ หัวหน้าคสช. แล้ว ส่งกลับไปกลับมา
ชักงง เพราะก็ผมคนเดียว ส่งไปส่งมา ก็ผมคนเดียว กลับไปกลับมา ผมโดนสองเด้ง อย่าคิดว่ามันดีนะ แต่ทั้งหมด ที่ตั้งขึ้น แม่น้ำ5สาย แล้วก็มารวมกัน ทั้งหมดเป็นเรือลำใหญ่ไม่ใช่ เริอเแป๊ะ ทั้งสิ้น แต่เป็นเรือลำเดียวกัน
เผยในหัวมีเริ่องคิดมากมาย ทั้งปัจจุบันและอนาคตจนบางทีก็เหมิอนไฟช้อตในหัว
นายกฯขอบคุณ นศ.วปอ.ที่ให้เกียรติ ให้ผมเป็นประธาน ศูนย์บัญชาการแก้วิกฤติชาติ เพราะตอนนี้ผมก็เป็นทุกศูนย์ ทุกหน่วยอยู่แล้ว ทุกกลุ่ม ฟังไปมา ไฟช้อตในหัว หมดแล้ว

"‪บิ๊กตู่" เต็มตื้น!! เรื่องเรือเหาะ ทบ. เหน็บ สื่อ ที่เคารพ นำเริ่อง10ปี ที่แล้ว มาถาม



"‪บิ๊กตู่" เต็มตื้น!! เรื่องเรือเหาะ ทบ. เหน็บ สื่อ ที่เคารพ นำเริ่อง10ปี ที่แล้ว มาถาม
"นายกฯ" เหน็บสื่อ กลางวง แถลงยุทธศาสตร์ชาติของ วปอ. เผย ก่อนขึ้นมาเมื่อกี้ "สื่อที่น่ารัก และเคารพของผมทั้งหลาย ถามผมเรื่องเมื่อ10ปีที่แล้ว ผมก็ท้อใจเหมือนกัน ผมเต็มตื้น‬"
‪หลังถูกถาม เรือเหาะ‬ ทบ. หมดอายุ จน ทบ.ปลดประจำการ

"นายกฯบิ๊กตู่" ปัดตอบ ปม"เรือเหาะ" หมดอายุ ทบ.ปลดประจำการ.

"นายกฯบิ๊กตู่" ปัดตอบ ปม"เรือเหาะ" หมดอายุ ทบ.ปลดประจำการ....เมินสื่อถาม‬
ก่อนการเข้าฟัง การแถลงยุทธศาสตร์ชาติ ของ นักศึกษา วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 59.....เมิ่อนักข่าว ถามเริ่อง ทบ.ปลดประจำการ เรือเหาะ แล้ว เพราะหมดอายุ นั้น พลเอกประยุทธ์ เดินผ่าน กลุ่มนักข่าวไป โดยไม่หยุด แต่เดินเข้างานไปเลย
ทั้งนี้ การจัดซื้อเรือเหาะ ตรวจการณ์ทางอากาศชายแดนใต้ ในปี2552 นั้น พลเอกินุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. ส่วน พลเอกประยุทธ์ เป็น เสธ.ทบ. ก่อนเป็น รอง ผบทบ. และ ผบทบ. ต่อมาเกิดการรั่ว จนต้องซ่อม และถูกวิจารณ์ มาตลอด. ต่อมา พลเอกประยุทธ์ ให้บริษัท มาดูแล ปีละ50 ล้านบาท เพื่อให้บินได้ แต่ก็ไม่ค่อยได้บินออกมาทำงาน จนที่สุดต้องจอดในโรงจอด ที่ปัตตานี จนผ้าใบ ตัวเรือเหาะ หมดอายุ

"แม่ทัพภาค4" ถกRBC กับมาเลเซีย เล็งใช้ ตชด.ลาดตระเวณร่วม แทนทหาร



"แม่ทัพภาค4" ถกRBC กับมาเลเซีย เล็งใช้ ตชด.ลาดตระเวณร่วม แทนทหาร หวังร่วมแก้ปัญหาความมั่นคง ปัญหาผู้ร้ายข้ามแดน และปัญหาอาชญากรรมของทั้ง 2 ประเทศ

พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค4 ร่วม ประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC-Regional Border Committee ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 106 ที่ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย
พลโทปิยวัฒน์ กล่าว ว่า ผลการประขุมร่วมครั้งนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย มีความพึงพอใจผลการประชุมมาก โดยเฉพาะประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นเจ้าภาพในการประชุม ได้ให้ความเป็นกันเองกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทั้งระหว่างการประชุมและการประชุมนอกรอบ
ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาต่างๆตามแนวชายแดนในระดับภูมิภาคนั้น ไม่มีปัญหาเพราะมีการประสานงานและติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง
และการประชุมในครั้งนี้จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่กระชับแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นและมีความมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิม
โดยเฉพาะจะมีการผลักดันให้มีการลาดตระเวณร่วมกัน ซึ่งทางชายแดนของประเทศไทยยังคงใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เป็นหลักและในอนาคตจะนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชายแดน. มาลาดตระเวนร่วมด้วย
ซึ่งนโยบายนี้ต้องรอการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาของทั้งสองประเทศอีกครั้ง
ซึ่งข้อหารือร่วมกันในการประชุมครั้งนี้ จะนำไปสู่การสกัดกั้นปัญหาตามแนวชายแดนได้เป็นอย่างดียิ่งโดยเฉพาะ ปัญหายาเสพติด ของหนีภาษี ปัญหาผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดเสถียรภาพด้านความมั่นคง ปัญหาด้านอาชญากรรม ของพื้นที่ชายแดนทั้งสองประเทศ.
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ คณะทำงานทั้ง 6 คณะ มีความพึงพอใจต่อผลการประชุมเป็นอย่างยิ่ง โดยทุกฝ่ายได้มีข้อตกลงร่วมกันที่จะร่วมมือในการแก้ปัญหาและประสานความสัมพันธ์ในทุกด้าน ทั้งนี้เพื่อก่อให้เกิดความเป็นเสถียรภาพในภูมิภาคต่อไป

บอลลูน โดดร่ม

บอลลูน โดดร่ม
ทบ.แจง ข่าว ประมูล "รถกว๊าน บอลลูน" แค่ รถกว๊าน บอลลูน ฝึกโดดร่ม ...ไม่ใช่เรือเหาะ ทบ.ที่ใต้ เผยประมูล ตามปกติ ไม่เกี่ยวกับ เริอเหาะ ยัน เริอเหาะหมดอายุ ปลดประจำการแล้ว ไม่ต้อง ซื้ออะไรที่เกี้ยวข้องกับเรือเหาะ มาอีกแล้ว
มีรายงานข่าวจาก ทบ. ว่า กรณีที่ กรมขนส่งทหารบก เปิดประมูล รถกว๊านบอลลูน นั้น เป็นรถลาก บอลลูน ที่เป็น บอลลูน ใช้สำหรับ การฝึก กระโดดร่ม ไม่ใช่ รถลาก เรือเหาะ แต่อย่างใด
แต่ มีสิ่อบางสื่อ นำเสนอ ให้เข้าใจว่า เป็น รถลาก เรือเหาะ เนื่องจาก เรือเหาะ ตรวจการณ์ที่ชายแดนใต้นั้น ได้ปลดประจำการแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อ อุปกรณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องอีก. อีกทั้ง เริอเหาะ ทบ. นั้น ไม่ต้อใช้ รถลาก หรือรถกว๊าน. ดังนั้น จึงเป็นความเข้าใจผิดของสื่อ
ส่วนเรือเหาะ ตรวจการณ์ของ ทบ. นั้น เป็นไปตาม ที่ พลเอกเฉลิมชัย ผบ.ทบ. ระบุ คือ ตัวผ้าใบ เริอเหาะ หมดอายุการใช้งานแล้ว. ทบ.จึงปลดประจำการ ไม่มีการซื้อทดแทน แต่นำ กลัองไปติดอากาศยาน ใช้ตรวจการณ์ แทน

"บิ๊กป๊อก" ปัดตอบ ทบ.ปลดประจำการ เรือเหาะ แล้ว



"บิ๊กป๊อก" ปัดตอบ ทบ.ปลดประจำการ เรือเหาะ แล้ว บอก"ผมออกมาแล้ว7ปี" ให้ไปถาม ผบ.ทบ.
แม้นักข่าว ซักว่า ทำไม ตัวเรือเหาะ หมดอายุเร็ว ซิ้อมาแค่8ปี เท่านั้น
ทั้งนี้เพราะ เรือเหาะ จัดซิ้อใน ยุคที่ พลเอกอนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. ในราคา350 ล้านบาท แต่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เพราะไม่สามารถใช้งานได้จริง และมีค่าใช้จ่ายสูง ในการเติมก๊าซฮีเลี่ยม และการดูแลรักษา จนรั่ว และต้องนำไปซ่อม เปลี่ยนผ้าใบใหม่ แต่ที่สุดก็หมดอายุ หลังจากจอดในโรงจอด ที่ ปัตตานี มานาน

ผบ.ทบ.ยัน เร่ง กวาดล้างวัตถุระเบิด หลังเกิดเหตุ วางระเบิดตู้ATM

ผบ.ทบ.ยัน เร่ง กวาดล้างวัตถุระเบิด หลังเกิดเหตุ วางระเบิดตู้ATM เอามาจากไหน ชี้ที่ผ่านมามีลักลอบสะสมวัตถุระเบิดไว้พอสมควร และขายพลุ ดอกไม้ไฟ เผยเข้าใจสังคมกังวล

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และ เลขาธิการคสช.ให้สัมภาษณ์กรณีการกวาดล้างวัตถุระเบิด ภายหลังมีคนร้ายนำวัตถุระเบิดวางตู้เอทีเอ็มหน้าห้างสรรพสินค้า ซ.กรุงเทพกรีฑา 35 ว่า เรามีกระบวนการในการติดตามกวาดล้าง ตามข้อมูลแหล่งข่าวที่มีอยู่ ทั้งในส่วนของกลุ่มผู้มีอิทธิพล อาวุธสงครามและวัตถุระเบิดก็สามารถควบคุมได้มาส่วนหนึ่ง
และมองว่าปัจจุปันมีเทคโนโลยี เรียนรู้การใช้ระเบิดง่ายอดีต และหากเป็นระเบิดแสวงเครื่องสามารถหาวัตถุพื้นฐานมาประกอบได้เอง แม้จะมีกฎหมายควบคุม แต่ทำไม่ได้ทั้งหมด เช่นการรื่นเริง ซึ่งต้องใช้ดินปืน ดอกไม้ไฟ ซึ่งคนที่มีเชี่ยวชาญนำสิ่งเหล่านี้มายกระดับสูงขึ้นและนำไปใช้ แต่ทางกฎหมายและเจ้าหน้าก็มีการติดตามกวาดล้าง
แต่ในช่วงที่ผ่านมามีการสะสมลักลอบเก็บเอาไว้พอสมควร ขณะนี้เราก็พยายามดำเนินการในเรื่องนี้อยู่ซึ่งเราก็เข้าใจว่าเป็นความกังวลของสังคม

"แม่ทัพอาร์ท" ไป "ปีนัง" ถกRBC ไทย-มาเลเซีย เดินหน้าร่วมมือดับไฟใต้ สนับสนุนการพูดคุย

"แม่ทัพอาร์ท" ไป "ปีนัง" ถกRBC ไทย-มาเลเซีย เดินหน้าร่วมมือดับไฟใต้ สนับสนุนการพูดคุย
พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค4 ละประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคRegional Border Committee) ไทย-มาเลเซีย ฝ่ายไทยและคณะได้เดินทางไปยัง กองบัญชาการ กองพลทหารราบที่2 มาเลเซีย รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าเยี่ยม Lt.GEN DATUK AZIZAN BIN MD DELIN แม่ทัพสนามภาคตะวันตก กองทัพบก มาเลเซีย ซึ่งเป็น ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-มาเลเซีย ฝ่ายมาเลเซีย
โดยLt.GEN DATUK AZIZAN BIN MD DELIN กล่าวต้อนรับแม่ทัพภาค4 และคณะในโอกาสเดินทางมาประชุม พร้อมหารือข้อราชการก่อนการประชุมใหญ่อย่างเป็นทางการ
ระบุไม่มีปัญหาชายแดนไทยและมาเลเซีย เพราะทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นอย่างมาก
โอกาสนี้ พลโท ปิยวัฒน์ ได้ประดับเครื่องหมายนักกระโดดร่มกิตติมศักดิ์ของกองทัพบกให้แก่ พลตรี ดาโต๊ะ ไซนัน อาบิดิน หมัด ซาอิด รองผู้บัญชาการกองกำลังสำรอง กองทัพบก มาเลเซีย อีกด้วย
นอกจากนี้ พลตรี วรพล วิศรุตพิช์ รองแม่ทัพภาค 4 ได้เป็นประธานการ ประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (กชภ.) ไทย-มาเลเซียครั้งที่ 106 แบบนอกรอบ
โดยในครั้งนี้ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมใหญ่ในวันที่ 14 กันยายน 2560 ของฝ่ายไทย
โดย ได้มีการหารือในประเด็น ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดจะเดินภาคใต้รวมถึง สนับสนุนการพูดคุยเพื่อสันติภาพและสนับสนุนให้มีการดำเนินกิจกรรมของทุกคณะทำงานที่เป็นไปโดยต่อเนื่อง เพื่อ กระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศอันจะนำมาซึ่งสันติภาพความมั่นคงและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดนของทั้งประเทศไทยและมาเลเซีย

ปิดฉาก เรือเหาะ ทบ...เตรียมปลดประจำการ เพราะหมดอายุ




ปิดฉาก เรือเหาะ ทบ...เตรียมปลดประจำการ เพราะหมดอายุ
พลเอกเฉลิมชัย ผบ.ทบ.เผย ตัวเรือเหาะ หมดอายุการใช้งาน หลังใช้งานมา8ปี โดยจะนำกลัอง ที่ตรวจการณ์ได้ทั้งกลางวัน กลางคืน ที่มีราคาแพง ไปติดอากาศยาน ใช้ตรวจการณ์ แทน ส่วนของในระบบอื่นๆ ก็ปรับนำไปใช้
ส่วน การประมูล รถลากบอลลูน นั้น ตนยังไม่ทราบว่า ทาง ขส.ทบ.ดำเนินการอย่างไร แต่เราคงไม่ได้ใช้แล้ว เพราะ ตัวเรือเหาะ หมดอายุ ไม่มีแผนซื้อใหม่ทดแทน. แต่ที่ผ่านมา ก็ใช้ตรวจการณ์ ได้
ทั้งนี้ ทบ.ซื้อเรือเหาะ และระบบตรวจการณฺ์ มาในราคา350 ล้านบาท เป็นตัวเริอเหาะ 260 ล้านบาท กล้องตรวจ 70 ล้านบาท และระบบภาคพื้น รถต่างๆ เมื่อปี2552
แต่ต่อมาเกิดปัญหารั่ว และตัองเติมก๊าซฮีเลี่ยม ที่มีราคาแพง จนต้องจอดเก็บในโรงจอด ที่ พล ร.15 หนองจิก ปัตตานี. จนทบ. ในยุค พลเอกประยุทธ์ จ้าง บริษัท มาดูแล ปีละ50 ล้านบาท มีการนำออกมาบิน ตรวจการณ์ บ้าง แต่ถูกวิจารณ์ว่า บินต่ำ กว่ามาตรฐานที่กำหนด จนที่สุด จอดเก็บไว้ จนหมดอายุ
พลเอกเฉลิมชัย ผบ.ทบ.เผย ตัวเรือเหาะ หมดอายุการใช้งาน หลังใช้งานมา8ปี โดยจะนำกลัอง ที่ตรวจการณ์ได้ทั้งกลางวัน กลางคืน ที่มีราคาแพง ไปติดอากาศยาน ใช้ตรวจการณ์ แทน ส่วนของในระบบอื่นๆ ก็ปรับนำไปใช้

"บิ๊กเจี๊ยบ" ยัน ทหาร-ตำรวจ ไม่ขัดแย้ง ไม่กั๊กข้อมูล แกะรอย"ยิ่งลักษณ์" ไม่โยนกันไป

"บิ๊กเจี๊ยบ" ยัน ทหาร-ตำรวจ ไม่ขัดแย้ง ไม่กั๊กข้อมูล แกะรอย"ยิ่งลักษณ์" ไม่โยนกันไป แต่ประสานกันตลอด ไม่มีข้ามหน้าข้ามตากัน/ ชี้ตำรวจสามารถฟ้องร้องได้เลย ไม่ต้องให้ทหารฟ้อง. เพราะใช้กฎหมายปกติ/วอนสื่อเห็นใจ อย่าไล่บี้ถามมาก เหตุบางเรื่องยังไม่ชัดเจน

พลเอกเฉลิมชัย กล่าวถึงการติดตาม อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ว่า จากการติดตามการเดินทางไปของ รถต้องสงสัย ที่เชื่อว่า คุณยิ่งลักษณ์ นั่งไป นั้น ทางทบ.ได้มอบหมายให้กองกำลังบูรพา ติดตามใน2 ประเด็นคือ

การตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในทุกพื้นที่ตามแนวชายแดน และใช้การสืบสวนหาข้อมูลจากแหล่งข่าวต่างๆ ปัจจุปันไม่มีหลักฐานว่า คุณยิ่งลักษณ์ ใช้เส้นทางใดหลบหนี ตรงไหน ของตามขอบชายแดนอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

ทั้งนี้ข้อมูล ตรงกับที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ เดินทางออกจากกรุงเทพฯ แล้วไปเปลี่ยนรถที่ มีนบุรี ก่อนมุ่งหน้า สู่ชายแดน อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

แต่ ด่านชายแดนปิดแล้ว ตั้งแต่2 ทุ่ม แต่ภาพปรากฏในวงจรปิด เวลาประมาณ4 ทุ่ม

แต่รถต้องสงสัยคันดังกล่าวนี้ ไม่ได้ผ่านด่านชายแดน ทั้งด่านถาวรและด่านผ่อนปรน ออกไป มีเพียงการใช้เส้นทางผ่านจุดตรวจตามถนนหลวงเข้าสู่เส้นทางในเมือง

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดทุกเส้นทางแล้ว พบว่าไม่มีการใช้รถข้ามผ่านด่านถาวรข้าม ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

แต่ที่ยังไม่อยากระบุว่า รถยี่ห้ออะไร รุ่นไหน หรือรายละเอียดอื่นได้. เนื่องจากเกี่ยวพันกับการติดตามและสอบสวนคนขับรถต้องสงสัย. และยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายความมั่นคง และตำรวจติดตาม เรื่องนี้ตลอดเวลา

ส่วนการที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ อยู่ในรถคันนั้นหรือไม่เพราะไม่มีภาพปรากฏ นั้น พลเอกเฉลิมชัย กล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ มีการเตรียมการล่วงหน้า ที่จะหลบหนี ก็คงจะไม่มีการเดินออกมาปรากฏตัวให้เห็นว่าใช้เส้นทางใดหลบหนี หรือแม้แต่การเดินขึ้นลงรถ งั้นเมื่อไม่เห็นตัวไม่เห็นรถ ที่นางสาวยิ่งลักษณ์นั่งอยู่ในนั้น ก็ไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่าใช้เส้นทางใด

พลเอกเฉลิมชัย ยังขอร้องให้สื่อมวลชนอย่าเร่งสอบถามข้อมูล เพราะบางข้อมูลละเอียดอ่อน ต่อคดี และอยากให้เขียนข่าวให้ชัดเจน

เมื่อถามว่าหากตำรวจและทหารทำงานประสานกันหรือไม่ เพราะตำรวจก็โยนให้ทหารส่วนทหารก็โยนให้ตำรวจ พลเอกเฉลิมชัย กล่าวว่า ผมไม่ได้รับผิดชอบคดีนี้ โดยตรงเพราะถือเป็นคดีปกติ ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ส่งคนไปทำงาน ไปทำงานด้วย จึงพยายามพูดที่จำเป็น และขอให้ เข้าใจว่าทหารไม่ได้รับผิดชอบคดีนี้เป็นหน้าที่หลักแต่เป็นหน้าที่ของตำรวจ

กรณีที่พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกมาระบุว่าแหล่งที่อยู่ของนางสาวยิ่งลักษณ์ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่อยากให้ทุกฝ่ายเห็นใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ไม่มีใครทำงานข้ามหน้าข้ามตากัน เพราะคดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจ
ขณะเดียวกันตนส่งคนไปทำงานด้วยเช่นกัน และพยายามพูดในส่วนที่จำเป็น โดยทางตำรวจจะเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียดต่อไป

และยืนยันว่า ตำรวจสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับนางสาวยิ่งลักษณ์ได้เลยเพราะ สถานการณ์ลักษณะนี้เป็นการใช้กฎหมายตามปกติ ตำรวจสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้เลยในเรื่องการหนีออกนอกประเทศ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าทางทหารได้ประสานข้อมูลรวมทั้งภาพวงจรปิดให้กับทางตำรวจหมดการประสานงานกันอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว

อวสาน เรือเหาะ!!

อวสาน เรือเหาะ!!
‪ฟัง..."บิ๊กเจี๊ยบ" ผบ.ทบ. แจง ปิดฉาก เรือเหาะตรวจการณ์ชายแดนใต้ Army Balloon เหตุตัวเรือเหาะ ทบ.หมดอายุ เลิกใช้ ไม่ซื้อใหม่ แต่ยันที่ผ่านมาใช้ได้ดี‬
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.กล่าวถึงกรณี กรมขนส่งทบ. เปิดประมูล รถลากบอลลูน นั้น ว่า ตนยังไม่ทราบ
ส่วนการใช้งาน เรือเหาะ ตอนนี้ นั้น ผบืบ. กล่าวว่า ตัวเรือเหาะ ซึ่งเป็นบอลลูนครบอายุการใช้งานแล้ว เพราะเป็นผืนผ้าหมดอายุการใช้งาน แต่กล้องตรวจการณ์ยังใช้งานได้ ดังนั้นจะต้องมีการปรับรูปแบบการใช้งาน อาจจะนำไปติดอากาศยาน ซึ่งทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กำลังดำเนินการอยู่ แต่ตัวบอลลูนหมดอายุการใช้งาน การจะให้คนขึ้นไปอยู่บนนั้นเสี่ยงอันตราย ดังนั้นจึงให้ระงับการใช้งานไว้ก่อน

"อาจจะต้องมีการปรับรูปแบบการใช้งานเพราะตัวที่มีราคาแพงและใช้ประโยชน์ได้คือกล้อง แต่ยืนยันว่า จะไม่มีการซื้อตัวบอลลูนใหม่ แต่ดูแลส่วนประกอบที่เป็นกล้อง มาปรับรูปแบบการใช้งานเพราะมีราคาแพง และ ถือเป็นหัวใจของกระบวนการในการค้นหา นำไปประยุกต์ใช้กับอากาศยาน ซึ่งขณะนี้กำลังทดลองทำอยู่ " ผบ.ทบ.กล่าว

เมื่อถามว่า
แสดงว่าแบบนี้ถือว่าปิดฉากการใช้เรือเหาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ใช่หรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า "ใช่ครับ แต่ส่วนประกอบอื่นก็สามารถนำไปใช้กับอากาศยานได้"
ส่วนรถลากเรือเหาะที่มีข่าวว่าจะมีการนำไปประมูลขายทอดตลาดนั้น อยู่ในขั้นตอนที่ของกรมขนส่งทหารบก เป็นผู้ดำเนินการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป เพราะทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งานก็จะเกิดความเสียหาย
เมื่อถามว่า จะเรียกว่า "เรือเหี่ยว"ได้หรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า "ที่ผ่านมาก็ใช้ได้นะ สมัยที่ผมลงไปปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อปี 2554 เรือเหาะตรวจการณ์ก็สามารถใช้งานได้อยู่"

ทั้งนี้
ทบ.ซื้อเรือเหาะ และระบบตรวจการณฺ์ มาในราคา350 ล้านบาท เป็นตัวเรือเหาะ 260 ล้านบาท กล้องตรวจการณ์ และระบบภาคพื้น รถต่างๆ 70 ล้านบาท ระบบสื่อสาร20ล้าน โดยเข้าประจำการเมื่อปี 2552 แต่ต่อมาเกิดปัญหารั่ว และ ตัองเติมก๊าซฮีเลี่ยม ที่มีราคาแพง จนต้องจอดเก็บในโรงจอด ที่กองพลทหารราบที่ 15 ( พล ร.15) อ. หนองจิก จ. ปัตตานี. จนในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น ผบ.ทบ.ได้จ้าง บริษัท มาดูแลรักษาซ่อมบำรุง ปีละ 50 ล้านบาท และได้นำออกมาบินตรวจการณ์ บ้าง แต่ถูกวิจารณ์ว่าบินต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด จนที่สุดก็ต้องจอดเก็บไว้ จนหมดอายุ

เรียงคนมาเป็นข่าว โดย ชโลทร

…ในด้านหนึ่งผู้คนในโลกต่างผลักดันให้ประเทศของตัว แย่งชิงผลประโยชน์จากประเทศอื่นŽ แต่ในอีกด้านหนึ่ง สำนึกแห่งมนุษยธรรมยังอยู่ในใจเสมอŽ ด้วยเสียงเรียกร้องของ อังกฤษŽ และ สวีเดนŽ ทำให้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติŽ หรือ ยูเอ็นเอสซีŽ เปิดประชุมแก้ปัญหาความรุนแรงในพม่า เพื่อหาทางออกให้ โรฮีนจาŽ ที่ รัฐบาลพม่าŽ ไม่ยอมรับ กระทั่งก่อเกิดการเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ย่อมสะท้อนถึง คุณธรรมการอยู่ร่วมกันของมนุษยชาติŽ

…ย่อมถือเป็นจุดเริ่มต้นที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง เมื่อ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นำทั้งภาครัฐและเอกชนจาก ญี่ปุ่นŽ มาประชุมร่วมกับ ไทยŽ นำเสนอให้มหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของโลกเห็น ไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมยุคใหม่ของภูมิภาคŽ ด้วยหัวใจลุ้นระทึกของ ประชาชนชาวไทยŽ ว่า ความหวังที่เริ่มต้นแล้วจะพัฒนาไปสู่ความเป็นจริงอันเร็ววันŽ นั่นหมายถึง การลงทุนอย่างเห็นศักยภาพของประเทศไทยโดยนักธุรกิจญี่ปุ่นŽ ไม่ใช่แค่เพียงเห็นแก่ สิทธิพิเศษŽ ที่จะแสวงประโยชน์ที่สูบกลับไปได้

…ทิศทางการเมืองเป็นอย่างไร สำหรับ ประชาธิปัตย์Ž หากประเมินจากคำของ หัวหน้าพรรคŽ ที่คงเป็น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังชัดเจนอยู่ในท่าที ไม่ฟันธงŽ เหมือนพร้อมจะปรับตัวให้เป็นไปตาม สถานการณ์อำนาจŽ ในถ้อยความ หล่อหรูŽ แบบ เราต้องมองเจตนารมณ์คนส่วนใหญ่ของประเทศŽ ด้านหนึ่งเหมือน อิงกับการตัดสินใจของประชาชนŽ แต่อีกด้านหนึ่งคล้าย โอนภาระไปให้ประชาชน ด้วยการลอยตัวเพื่อความพร้อมที่จะยืนอยู่ข้างผู้ชนะŽ

…ส่วน เพื่อไทยŽ แม้ว่าในบางสัญญาณจะสะท้อนให้ กลุ่มอำนาจŽ สัมผัสถึงความปรารถนาที่จะประนีประนอม แต่โอกาสที่เลือกเดินทางอื่นนอกจาก เผชิญหน้ากับผู้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งŽ ดูจะไม่มีทางเลย ไม่ใช่เรื่องของ ผู้นำŽ ต้องการแบบไหน แต่ผู้ที่กำหนดทิศทางที่แท้จริงกับเป็น ความคาดหวังของคนกลุ่มหนึ่งที่รักประชาธิปไตยŽ ซึ่งไม่มีทางยอมรับได้ หาก ใครŽ จะนำ เพื่อไทยŽ ลอยตัว ด้วยเหตุผลใน โอกาสเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจŽ เหมือนพรรคอื่น เพราะ ผิดจากประชาธิปไตย ที่ใครยอมรับเพื่อไทยแน่นอนŽ ด้วย พรรคการเมืองจำพวกนั้นŽ มีเกลื่อนไป

…สำหรับ การสืบทอดอำนาจŽ ไม่ว่าจะของใครก็ตาม อุปสรรคใหญ่ไม่น่าจะอยู่ที่พรรคการเมืองŽ เนื่องจาก พรรคส่วนใหญ่Ž ไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว จะเว้นแต่ เพื่อไทยŽ ที่ไม่มีทางเลือกอื่น ซึ่งโอกาสที่จะถูกโดดเดี่ยวย่อมเป็นไปได้สูง และใน โครงสร้างอำนาจตามรัฐธรรมนูญใหม่Ž ที่ปิดทุกทางที่ พรรคใดพรรคเดียวจะชนะอย่างเด็ดขาดŽ การโอนอ่อนผ่อนตามอำนาจ เป็นเรื่องที่คาดหวังได้เต็มที่ว่าจะต้องเกิดขึ้น ดังนั้นหาก เป็นไปไม่ได้Ž ย่อมเป็นจากปัจจัยอื่นมากกว่า

…ที่น่าสนใจที่สุดในสถานภาพ ของตายŽ ของ พรรคการเมืองŽ สัญญาณบางอย่างที่สัมผัสได้คือ นักการเมืองที่รอวาสนาจากการแต่งตั้งŽ กลับก่อปรากฏการณ์ที่ทำให้เห็นถึง การหันปลายหอกเข้าหากันเองŽ ดั่งว่า การจัดสรรอำนาจ และแบ่งปันผลประโยชน์ไม่ลงตัวŽ หากที่สุดแล้วมีความพลิกผันทางการเมืองเกิดขึ้น ในความเป็นไปที่ ภาพนักการเมืองŽ ยังถูกดองโชว์ไว้ในขวดโหลที่ติดป้าย เลวร้ายŽ สงครามระหว่าง ผู้ต่างสถาปนาตัวเองเป็นคนดีŽ จะเป็นสีสันการเมืองที่เรียกความสนใจได้มากกว่า

…แม้จะมีเหตุผลมากมาย เพราะเป็นเรื่องที่อธิบายได้ถึงที่มาที่ไป แต่ ข้อกล่าวหาให้มหาเศรษฐีเช่าที่ดินป่าสงวนŽ เป็นเรื่องที่ต้องเคลียร์ให้เร็ว และชัดเจนถึง ความไม่เกี่ยวข้องŽ เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศที่ ความเหลื่อมล้ำมีสูงยิ่งŽ และอยู่ในช่วงที่พูดกันมากมายถึง คนระดับล่างกำลังจะตายŽ ขณะเพิ่มโอกาสมากมายให้ มหาเศรษฐีขยายความร่ำรวยŽ ย่อมเป็นคำถามที่จะเพิ่มความคาใจให้ประชาชน ว่าแท้จริงแล้ว บริหารจัดการประเทศเพื่อ ผลประโยชน์ของใครŽ

ชโลทร

“หลอน” จากกรอบ”กกต.โมเดล” เลือกตั้ง ภายในสิงหาคม 2561

09.00 INDEX “หลอน” จากกรอบ”กกต.โมเดล” เลือกตั้ง ภายในสิงหาคม 2561


ไม่ว่า “กกต.” จะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ แต่กรอบเวลาการเลือกตั้งภาย ในเดือนสิงหาคม 2561 ที่ออกมา

ก็ก่อให้เกิดอาการ”หลอน”ในทางการเมือง

ไม่เพียงแต่ “หลอน” ต่อบรรดา “บุคคล” ที่มีส่วนร่วมในการร่างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ

หากแม้แต่ “คสช.” และ “รัฐบาล”ก็ขนพอง สยองเกล้า

เห็นได้จาก “อาการ” อันมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เห็นได้จาก “อาการ” อันมาจาก นายวิษณุ เครืองาม

รวมถึง “อาการ” อันมาจาก นายพรเพชร วิชิตชลชัย

แม้จะพยายาม “เลื่อน”จากเดือนสิงหาคมไปเป็นเดือนพฤศจิกายน หรือเดือนธันวาคม

แต่ก็ยัง”หลอน-หลอน” เลือน-เลือน

ความจริง นายวิษณุ เครืองาม พยายามไขรหัสอันก่อให้เกิดกรอบ การเลือกตั้งออกมาแล้วก่อนหน้านี้
ว่าเสมอเป็นเพียงการตั้ง”ตุ๊กตา”

มิได้เป็น “มติ” อันผ่านที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง หากเสมอเป็นเพียงงานในทางธุรกรรมของ “เจ้าหน้าที่”

แต่เมื่อ นายศุภชัย สมเจริญ ออกมาย้ำ

“ข่าวที่ว่ากกต.ได้กำหนดวันเลือกตั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2561 นั้นไม่เป็นความจริง เพียงแต่เจ้าหน้าที่กำหนดตารางการทำงานเท่านั้น

“เพราะวันเลือกตั้งจะกำหนดได้ก็ต่อเมื่อพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับมีผลบังคับใช้ ดังนั้น ตราบใดที่พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับสุดท้ายยังไม่แล้วเสร็จกกต.จะกำหนดวันเลือกตั้งไม่ได้”

เหมือนกับไม่ได้กำหนด แต่ก็มี”กรอบ”อย่างแน่ชัด

พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับสำคัญ คือ 1 ว่าด้วยกกต. 2 ว่าด้วยพรรคการเมือง 3 ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 4 ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.

นีคือความรับผิดชอบอันอยู่ในมือของแม่น้ำ 2 สาย

1 คือ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 1 คือ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

แบกหนักจึงตกอยู่บนบ่าของ 2 คณะกรรมการนี้

อาการ”หลอน”อย่างหนักจึงเป็นของ 2 คณะกรรมการนี้

สนช.มติเอกฉันท์ ผ่านร่างกม.กสม. หลังกมธ. 3 ฝ่ายแก้ไข

สนช.มติเอกฉันท์ ผ่านร่างกม.กสม. หลังกมธ. 3 ฝ่ายแก้ไข


สนช.มติเอกฉันท์ผ่านร่างกม.กสม. หลังกมธ. 3 ฝ่ายแก้ไข ข้อโต้แย้งไม่ตรงตามรธน.1 ประเด็น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 กันยายน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยมีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม) พ.ศ.. ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาฯ(กรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย)ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 เป็นประธานฯ ได้พิจารณาแก้ไขร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว เพียง 1 ประเด็นจาก 6 ประเด็นที่กสม.ได้โต้แย้งว่าร่างพ.ร.บ.ที่ผ่านความเห็นชอบของสนช.ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 

ดยประเด็นที่แก้ไขคือ มาตรา 11 วรรคห้า เกี่ยวกับการทำหน้าที่คณะกรรมการสรรหา โดยในการสรรหาจะต้องให้มีผู้แทนองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนมีส่วนร่วมในการสรรหาด้วยอย่างน้อย 1 คน จากร่างเดิมกำหนดหากกรรมการสรรหาไม่ครบก็ให้กรรมการสรรหาเท่าที่ได้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เลย ส่วนอีก 5 ประเด็นที่เหลือไม่มีการแก้ไข โดยยังให้มีการเซตซีโร่กสม.ตามร่างผ่านความเห็นชอบของ สนช.ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนจากนี้จะส่งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวให้ครม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับประเด็นที่กม. ได้โต้แย้งว่า สนช.ผ่านความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมี 6 ประเด็น ดังนี้ 1.ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 8 ที่กำหนดรายละเอียดคุณสมบัติของกกรมการกสม.เกินกว่าที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 246 วรรคสอง 2.ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธธรรมนูญฯมาตรา 11 วรรคห้า ที่กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาเท่าที่ทีมีอยู่ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจไปพลางก่อนได้ ในกรณีที่พ้นกำหนดเวลาเลือกกรรมการสรรหาตาม(6)แล้ว ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งในส่วนของผู้แทนองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนตาม(4)ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 246 วรรคสี่ 3.การกำหนดให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติหน้าที่แต่ในเฉพาะกรณีที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เป็นการจำกัดหลักการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม 4.หน้าที่และอำนาจของกสม.ในการตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามร่างมาตรา 34 ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ ตามอารัมภบทของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 247(1) 5.การกำหนดให้คณะกรรมการต้องตรวจสอบและชี้แจงหรือจัดทำรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องโดยไม่ชัดช้า ในกรณีที่ปรากฏว่ามีการการรายงายสถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม ทำให้คณะกรรมการขาดความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ และ6 การกำหนดให้ประธานและกรรมการ กสม.พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญใช้บังคับ
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบอย่างเอกฉันท์ด้วย 177 คะแนน งดออกเสียง 5 แล้วส่งรายงานให้รัฐบาลต่อไป

‘บิ๊กตู่’รับฟัง ‘วปอ.’แถลงยุทธศาสตร์ชาติ20ปี ชี้ ไทยยังขัดแย้ง-การเมืองขาดเสถียรภาพ

‘บิ๊กตู่’รับฟัง ‘วปอ.’แถลงยุทธศาสตร์ชาติ20ปี ชี้ ไทยยังขัดแย้ง-การเมืองขาดเสถียรภาพ


นศ.วปอ.รุ่น 59 แถลงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ระบุอนาคตของไทย ยังประสบความขัดแย้ง-การเมืองขาดเสถียรภาพ ชง “บิ๊กตู่” ชงตั้งหน่วยงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ

เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานร่วมรับฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ตั้งแต่ปี 2561-2580 ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. รุ่นที่ 59 ประจำปี 2560 จำนวน 281 คน โดยมี ผบ.เหล่าทัพ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

โดย ยุทธศาสตร์ของนักศึกษา วปอ.ระบุถึงผลประโยชน์แห่งชาติและเป้าหมายระยะยาวของชาติในการดำเนินการการจัดทำยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปีตามรัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องสำคัญและเป็นวาระแห่งชาติ จำนวน 6 ด้าน คือ
1.ยุทธศาสตร์เฉพาะด้านความมั่นคงแห่งชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 2.ยุทธศาสตร์เฉพาะด้านเศรษฐกิจสังคมและพลังงาน 3.ยุทธศาสตร์เฉพาะด้านทุนมนุษย์และคุณภาพชีวิต 4.ยุทธศาสตร์เฉพาะด้านความเป็นธรรมในสังคม 5.ยุทธศาสตร์เฉพาะด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม 6.ยุทธศาสตร์เฉพาะด้านการเมืองการปกครองและระบบบริหารจัดการภาครัฐ ซึ่งสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

นักศึกษา วปอ.ยังวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งภายนอกและภายในประเทศ พบปัญหาสำคัญระดับชาติ 6 ด้านคือ 1.ปัญหาความขัดแย้งภายใน การเผชิญภัยคุกคาม หรือความท้าทายร่วมสมัยและความเสี่ยงจากภัยคุกคามตามแบบที่ยังอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต 2.ประเทศไทยติดกับดักรายได้ปานกลางการส่งออกและการลงทุนจากต่างประเทศตลอดจนการค้าการลงทุนของภาคเอกชนชะลอตัว การใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลง แต่หนี้ภาคครัวเรือนกับเพิ่มขึ้น 3.คุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ยังไม่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 4.ปัญหาความเหลื่อมล้ำหรือความไม่เสมอภาคในสังคม 5.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมหรือถูกทำลายโดยไม่ได้รับการอนุรักษ์อย่างถูกต้อง 6.การเมืองการปกครองขาดเสถียรภาพและความต่อเนื่องและระบบบริหารจัดการภาครัฐไม่สอดคล้องหรือเพื่ออำนวยต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาวตามยุทธศาสตร์ชาติ

นักศึกษา วปอ.ได้ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายระดับชาติให้กับภาครัฐเพื่อให้ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี บรรลุเป้าหมายระยะยาวของชาติ แบ่งออกเป็น 8 ด้าน คือ

1.ด้านกระบวนการโครงสร้าง และระบบบริหารจัดการยุทธศาสตร์ ที่สมบูรณ์ครบวงจร ต่อเนื่องเพื่อให้การดำเนินอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ รวมถึงการเร่งรัดกำหนดโครงสร้างยุทธศาสตร์ของชาติเชิงบูรณาการและแนวทางในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติที่ชัดเจน

2.ด้านองค์ความรู้แนวทางและวิธีการในการกำหนดยุทธศาสตร์ กำหนดให้มีศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ชาติหรือสถาบันการศึกษาระดับชาติที่เหมาะสม ฝึกอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดบริหารจัดการยุทธศาสตร์ชาติทั้งกระบวนการ รวมถึงคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ควรกำหนดตัวแบบมาตรฐานในการจัดทำยุทธศาสตร์เชิงบูรณาการเพื่อให้เกิดความชัดเจนและความน่าเชื่อถือในการดำเนินการ

3.ด้านกรอบแนวคิดและเนื้อหาของยุทธศาสตร์ชาติ นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติมีหน้าที่สรรหาหรือสร้างสรรค์ แนวคิดหลักเพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิดในการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ชาติในรายละเอียด โดยรับแนวคิดหลักมาจากคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อจัดทำภาพอนาคตของประเทศในอีก 20 ปีข้างหน้า ที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องและเข้าใจตรงกัน

4.ด้านระบบบริหารจัดการภาครัฐและการบูรณาการยุทธศาสตร์ชาติ ควรปรับปรุงมีเพียงระบบเดียว ชัดเจน นำไปสู่ความเป็น Digital Government อย่างแท้จริง

5.ด้านการแปลงยุทธศาสตร์ชาติเป็นการปฏิบัติ

 6.ด้านการพัฒนาและการบริหารจัดการบุคลากรภาครัฐ ด้วยการ ปลูกจิตสำนึกและอุดมการณ์ในการทำงานเพื่อส่วนรวม

7.ข้อเสนอแนะด้านมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการสื่อสารทางยุทธศาสตร์ ภาครัฐสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมไทยและประเทศไทยควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมโลกในความมุ่งมั่นจริงจังของทุกฝ่ายที่จะดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และ

8.ข้อเสนอแนะด้านการตรวจสอบและประเมินผลยุทธศาสตร์ชาติ ภาครัฐควรเร่งรัดปรับปรุงการประเมินผลยุทธศาสตร์ชาติให้เป็นไปอย่างจริงจังและเที่ยงตรง มีการเพิ่มการทบทวนปรับปรุงแก้ไขยุทธศาสตร์ในห้วงระยะเวลาที่เหมาะสม และจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบประเมินผลยุทธศาสตร์ชาติเป็นแนวงานอิสระที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ตรวจสอบความก้าวหน้า และประเมินยุทธศาสตร์ชาติโดยผู้ตรวจสอบควรเป็นผู้แทนของทุกภาคส่วนที่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย

เมื่อชาวบ้านรู้สึก 'แมวไม่จับหนู'

ความหวัง "เลือกตั้ง" เป็นรูป-เป็นร่างขึ้นมานิด!
เมื่อวาน (๑๓ ก.ย.๖๐)..........
พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ พ.ร.บ.กกต. พ.ศ.๒๕๖๐
ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว!
ทั้งหมดมี ๗๘ มาตรา........
ประเด็นที่ควรทราบ ทันทีที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกาศใช้ ๕ เสือ กกต.ปัจจุบัน ประกอบด้วย
-นาย ศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง รับผิดชอบด้านกิจการบริหารกลาง
-รองศาสตราจารย์ สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง รับผิดชอบด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง
-นาย บุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง รับผิดชอบด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย
-ดร.ประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง รับผิดชอบด้านกิจการการมีส่วนร่วม
-ดร.ธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กรรมการการเลือกตั้ง รับผิดชอบด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ
พ้นจากตำแหน่งทันที!
แต่ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่า กกต.ชุดใหม่จะเข้ามารับหน้าที่
จะเข้ามารับกันเมื่อไหร่ล่ะ?
ตามบทเฉพาะกาลบอก ให้คณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาสรรหาและคัดเลือกตัว กกต.ให้เสร็จภายใน ๙๐ วัน
กกต.ใหม่ จะมี ๗ คน!
ก่อน ๑๒ ธ.ค.๖๐ จะได้ตัว ผ่านการพิจารณา-ตรวจสอบตามกระบวนการ จนถึงขั้นตอนนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
ก็ไม่น่าเกิน มี.ค.๖๑...........
คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ หรือ ๗ เสือ กกต.จะเข้ารับหน้าที่ต่อจาก กกต.ชุดเดิม
นั่นหมายความว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีในปี ๖๑ หรือปีไหนก็ตามต่อจากนี้
เป็นการเลือกตั้งภายใต้ ๗ เสือ กกต.ชุดใหม่!
แต่ใช่ว่า ประกาศใช้ พ.ร.บ.กกต.ฉบับนี้ ฉบับเดียว แล้วจะเลือกตั้งได้
ยังหรอก ยังต้องรอกฎหมายลูกอีก ๓ ฉบับ คือ
-พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.
-พ.ร.บ.การได้มาซึ่ง ส.ว. และ
-พ.ร.บ.พรรคการเมือง
ถึงได้ยังไม่ครบทั้ง ๔ ฉบับ แต่อย่างน้อย ต้องครบ ๓ คือ พ.ร.บ.กกต., พ.ร.บ.ส.ส และ พ.ร.บ.พรรคการเมือง จึงจะมีเลือกตั้งได้
ส่วน พ.ร.บ.การได้มาซึ่ง ส.ว.ทีหลังยังทัน!
เดือนธันวาก็รู้ จะได้ครบ-ไม่ครบ เท่าที่ฟังหางเสียงบาง สนช.ผมชักเสียว
เพราะบางท่านว่า ไม่ค่อยพอใจร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองซักเท่าไหร่ ถ้าฉบับใด-ฉบับหนึ่งใน ๒ ฉบับที่เหลือ ถูก สนช.คว่ำ
ที่ว่าปลายปีหน้า..........
ก็คงต้องเปลี่ยนเป็น "ปีโน้น" ประมาณนั้น!
ประเด็นอำนาจบริหารประเทศนี่.......
ผมว่า "ตัวระบบปกครอง" ไม่ใช่ตัวชี้ขาด ในคำตอบว่า
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง กับรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
อย่างไหนดี-เลวกว่ากัน!?
เมื่อวาน "คุณภูมิชาย ล่ำซำ" ซึ่งโตมาในดงต้นแบบประชาธิปไตยคือที่อังกฤษแต่เด็ก
ชำเลืองการเมืองประชาธิปไตยรอบข้าง แล้วมองเปรียบเทียบบ้านเมืองไทย
คงอัดอั้นตันใจเอามาก..........
เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยอัตราแรงลมปานเฮอริเคนมาให้ผม คัดกรองแล้ว ได้ประมาณนี้
"กับพวกคนไทยและต่างชาติที่เกลียดรัฐบาลทหารของไทยที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และพวกที่อยากได้ 'ประชาธิปไตย' เหลือเกิน
ผมอยากรู้ว่า..........
พวกคุณ จะว่าอย่างไร เกี่ยวกับรัฐบาลมาเลเซียและรัฐบาลพม่าที่มาจากการเลือกตั้ง
ผู้นำรัฐบาลมาเลเซียที่มาจากการเลือกตั้ง ขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากประชาชนชาวมาเลเซีย
กระทรวงยุติธรรมอเมริกา กำลังสอบสวนอาชญากรรมนี้
รัฐบาลพม่าที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย นำโดย 'อองซาน ซูจี' ผู้ชนะรางวัลโนเบล
ก็กำลังเมินเฉยต่อการล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อย 'โรฮิงญา' ที่เป็นพลเมืองของตนอย่างเปิดเผย
อองซาน ซูจี ถึงขั้นพูดตรงข้ามความเป็นจริงต่อชาวโลกว่า การกระทำที่โหดร้ายต่อชาวโรฮิงญา โดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั้น
ไม่ได้มีอย่างนั้นเกิดขึ้น?
จากเหตุผลพิลึกพิลั่นเหล่านี้แล้ว หากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็สามารถขโมยเงินของประชาชนและสามารถเข่นฆ่าข่มขืนประชาชนของตนได้
แต่หากรัฐบาลนั้น ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง การกระทำแบบเดียวกัน ก็ไม่อาจยอมรับได้
และท้ายนี้ ถึงพวกคนไทยที่คอยแต่ดุด่ารัฐบาลทหารของไทย และต้องการกลับสู่ประชาธิปไตย ด้วยการเลือกตั้ง
พวกคุณคิดเกี่ยวกับรัฐบาลประชาธิปไตยของ ๒ ผู้นำรัฐบาลนั้นอย่างไร?
หรือสิทธิเสียงตามระบอบประชาธิปไตยของพวกคุณ กำลังถูก.....ของทักษิณ อุดคอหอยอยู่ก็เป็นได้"
ในมุมมองผมนะ........
เผด็จการหรือประชาธิปไตย เหมือนเสื้อผ้าแฟชั่น จะดี-ไม่ดี ถูกใจคนหรือไม่?
ส่วนหนึ่ง อยู่ที่ "นางแบบ"!
นางแบบ-นายแบบ หุ่นดี เดินบนเวทีเก่ง ด้วยผ้าขี้ริ้วพัน คนก็ยังฮือฮา ผ้าขี้ริ้วมีราคา เทรนดี้ ขึ้นมาทันที
แก่นความเป็น-ความมี "ประชาธิปไตย" นั้น ไม่ได้ผูกขาดจำเพาะกับการเลือกตั้งอย่างเดียว
จะเลือกตั้ง จะแต่งตั้ง จะตั้งเอง...........
มันมี-มันเป็น, ไม่มี-ไม่เป็นประชาธิปไตย ได้เหมือนๆ กันทั้งนั้น
เพราะประชาธิปไตย.........
ในความหมาย "ทุกอย่าง เพื่อประโยชน์สุขประชาชน" นั้น
มันมาจากจิต "คุณธรรม-สำนึก" ของคนนำบริหารและปกครอง
ประชาธิปไตย เป็นคำแทนค่า "ธรรมชาติสังคม" อันมีอยู่ในความเป็นสัตว์มนุษย์โดยกำเนิด
"การเลือกตั้ง"........
ไม่ได้มีสาระหลักแทนค่า "ประชาธิปไตย" โดยตรงและตายตัว
เป็นแค่มูลสมอง "นักคิด-นักปรัชญา" แต่ละยุค "คิดขึ้น-บัญญัติขึ้น"
เป็นรูปแบบ-วิธีการหนึ่ง เพื่อตอบโจทย์สังคมยุคนั้นๆ เท่านั้น!
มองกันจริงๆ สิ่งเป็นจริงในระบบเลือกตั้ง.........
ประชาธิปไตยเลือกตั้ง คือ เครื่องมือ "กินเมือง-กินประชาชน" ชนิดผูกขาดของ "ระบบทุน" ขนานแท้!
ไม่มีปลาตัวไหน ฮุบเบ็ดเปล่า ฉันใด
การเลือกตั้ง ก็ฉันนั้น.........
นักเลือกตั้งคนไหน ไม่ใช้ทุนเกี่ยวเบ็ดตกปลาในบ่อเลือกตั้ง ก็อย่าหวัง จะมีปลาฮุบเหยื่อประชาธิปไตย!
ประชาธิปไตยเป็นจริง กับประชาธิปไตยเลือกตั้ง มันเหมือนในต่างและต่างในเหมือนกันประมาณนี้
ฉะนั้น ไม่แปลก..........
ที่จะเห็นผู้นำจากระบบเลือกตั้งส่วนใหญ่ เมื่อเข้าสู่อำนาจแล้ว จะฉ้อฉลด้วยกลเล่ห์ในประชาธิปไตย
เพราะเขาต้องหาเหยื่อไปตกเบ็ดต่อ!
กรณีที่พูดนี่ ไม่ได้พูดให้เข้าใจ ในความหมายจำเพาะลงไปว่า รัฐบาล คสช.นี้ ดีกว่ารัฐบาลประชาธิปไตย
ผมหมายเพียงว่า "ตัวคน" ที่ชื่อ "พลเอกประยุทธ์" คนนี้ ในเสียงรังเกียจ ว่าไม่ได้มาจากเลือกตั้ง
แต่ปรากฏว่า บริหาร "ด้วยมี-ด้วยเป็น" ประชาธิปไตยในเผด็จการ
คือ ประชาชนได้มากกว่า-ดีกว่า .........
เมื่อเทียบกับ ผู้นำรัฐบาลเลือกตั้ง ที่บริหารด้วยเผด็จการในประชาธิปไตย
มิดเม้นเงินประชาชน จนรัฐบาลอเมริกันต้องสอบสวน
เมินเป็นมองไม่เห็น การเข่นฆ่า บีบคั้นผู้คน ล้ำเส้นมนุษยธรรม ไปถึงขั้น "ล้างเผ่าพันธุ์" ตำตาชาวโลก
ไม่มีอะไรสรุปว่า ...........
รัฐบาลจากเลือกตั้งและไม่จากเลือกตั้ง อย่างไหนจะดี-ไม่ดีกว่ากัน เท่าคำพูดของ "เติ้งเสี่ยวผิง" ที่ว่า
"แมวสีไหนไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้เท่านั้นก็พอ"!
ชั่วโมงนี้ ประยุทธ์ "แมวสีเขียว" จับหนูได้ ก็ให้จับหนูไปก่อน
เพียงแต่ช่วงนี้...........
หนูเพ่นพ่านมากเหลือเกิน ทั้งหนูในบ้าน คสช.และนอกบ้าน ถ้าแมวนอนหวด ไม่จับ ไม่กัด ไม่ไล่กวดหนูเหมือนแรก
ชาวบ้านจับไปปล่อยวัด จะว่าชาวบ้านก็ไม่ได้!
ดังนั้น ที่ชาวบ้านเริ่มเบื่อแมว อยากเปลี่ยนเป็นหมาบ้างนั้น ไม่ได้หมายความว่า เบื่อรัฐบาล คสช. อยากได้รัฐบาลเลือกตั้ง
แต่หมายความว่า..........
เขาเบื่อ แมวเอาแต่ "แมวพวก" มาเป็นฝูง แต่ไม่จับหนูบ้าง จับไม่เป็นบ้าง เอาแต่กินปลาย่าง แล้วนอนหวดบ้าง
หรือจะปฏิเสธ?