PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ฉากหลบสมคบแก้โจทย์

ฉากหลบสมคบแก้โจทย์


แว่วเสียงไขกุญแจดังแก๊กที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ระบุ จะใช้อำนาจพิเศษคำสั่งหัวหน้า คสช.มาตรา 44 คลายล็อกเงื่อนเวลางาน “ธุรการ” ที่ต้องทำตามกฎหมายพรรคการเมือง
แม้ยังไม่มีประกาศรายละเอียดชัด แต่เสียงโหวกเหวกจากนักการเมืองก็ผ่อนดีกรีลง
ถึงตรงนี้ ไม่ต้องมาพูดถึงความชอบธรรม ที่วิพากษ์วิจารณ์การใช้อำนาจพิเศษ มาแก้กฎหมายที่ออกตามระบบ เพราะถึงอย่างไรก็รู้กันดี ในห้วงเวลานี้คือรัฐบาลรัฐประหาร ก็คงต้องทำใจ
เอาที่ “ผู้ถืออำนาจรัฏฐาธิปัตย์” สบายใจก็แล้วกัน
ที่สำคัญในห้วงเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปมร้อนการเมืองก็เริ่มลดโทน กระทั่งสุ้มเสียงที่เคยขลัง ออกมาทีไรก็หวาดเสียวทีนั้น อย่างราย “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ
รอบนี้เปิดบ้านพักซอยปิ่นประภาคม ออกตัว “วางมือการเมือง” ก่อนออกโรงกระตุกรัฐบาล
เตือนผู้นำท็อปบูตรุ่นน้อง ให้เร่งปั่นงาน “อย่าบ่น อย่าด่ามาก”
“ต้องเร่งแก้ปัญหาปากท้องให้ชาวบ้านกำลังอดตาย อาจลำบากกันทั้งประเทศในปีหน้า วันนี้ก็เห็นกันแล้วว่าไปไม่ได้แล้ว ในปี 2561 อาจจะพังทั้งประเทศระบบเศรษฐกิจพังชัดเจน”
กระแทกแรงๆเข้าจุดอ่อนรัฐบาลท็อปบูต
แล้วก็แน่นอน มีแรงกระทบเครดิต ก็ต้องมีคนปลุกความเชื่อมั่นรัฐบาล นอกจาก “บิ๊กตู่” พร่ำพูดรายวัน ให้เห็นฝีไม้ลายมือรัฐบาลบริหารประเทศ รวมทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์
อีกรายที่ช่วงหลังออกมาช่วยปลุกเครดิตรัฐบาลให้ “นายกฯลุงตู่” ไม่พ้น “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ที่เริ่มเจอเกมเตะสกัด เสียจังหวะเบี่ยงตัวหลบเป็นเป้านิ่งมาพักหนึ่ง
ปรับทิศทาง มุ่งสมาธิกับโจทย์หินที่รออยู่ตรงหน้า
ล่าสุดมีคิวออกมากระตุ้นความเชื่อมั่นอีกรอบ ในการปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “โอกาสประเทศไทยปี 2018”
ย้ำภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น ยกสัญญาณดีๆ ทั้งไอเคโอปลดธงแดงภาคการบิน ไอยูยูปลดธงเหลืองด้านประมง รายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯดีขึ้น กลุ่มอียูกลับมาสัมพันธ์การเมืองกับไทยทุกระดับ ฯลฯ
ชูประเทศไทยมีโอกาสเพราะปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ที่เหมาะ มีสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศต่างๆและมหาอำนาจ
ส่วนคำติฉินนินทา คำบิดเบือนต่างๆไม่หวั่นไหว พร้อมให้อภัย
นอกจากผู้ช่วยพระเอกอย่าง “ดร.สมคิด” อีกรายที่น่าสนใจ หลัง ครม.ประยุทธ์ 5 ได้ “รมต.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” เสริมทัพทีมเศรษฐกิจ
มานั่งเก้าอี้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา “วีระศักดิ์” ก็ยึดแนวทางไม่แตกต่างจากหัวหน้าทีม
เลี่ยงปมโยงการเมืองให้วุ่น ชนิดไม่ว่าขั้วไหนฝ่ายใดจะเข้าแสดงความยินดีที่ได้รับตำแหน่ง ต้องรีบบอกปัด
มุ่งงานที่ผู้นำไว้วางใจให้มาสานต่อสำหรับภาคการท่องเที่ยวที่ติดลมบน เครื่องยนต์สำคัญที่ขับเคลื่อนงานไม่สะดุดตั้งแต่หลังรัฐประหาร
ต้องรับโจทย์สำคัญ ปั้นภาคท่องเที่ยวให้มั่นคง–ยั่งยืน
ล่าสุด มีคิวมอบนโยบายให้รัฐวิสาหกิจในสังกัดอย่าง ททท. “รมต.วีระศักดิ์” ยกการบ้านหรู 5 ข้อหลัก
อาทิ สนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง–ชุมชน ร่วมกับกระทรวงคมนาคม ตั้งคณะกรรมการดูแลด้านโลจิสติกส์สู่แหล่งท่องเที่ยว ชูท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดหรือคลัสเตอร์ เปิดคลินิกทัวริสม์ แก้ปัญหาท่องเที่ยวทั่วประเทศ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ จัดหลักสูตรผลิตบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในอนาคต
ลูกข่ายของ “ดร.สมคิด” เป็นอีก “ตัวช่วย” ของ “นายกฯลุงตู่”
เรียกว่าทั้งกัปตันทีมทั้ง รมต.เศรษฐกิจเลี่ยงเข้าคลุก ยุ่งเกี่ยวปมการเมือง มองไปที่เป้าหมายสำคัญ
สมคบคิด–สมทบทำ แก้โจทย์ตัวเองให้เข้าเป้า
สุดท้ายจะเป็นแรงผลักให้แผนอำนาจพิเศษเข้าป้ายเอง.
ทีมข่าวการเมือง

ถ่ายงานคสช.ไปกอรมน.

ปริ๊ดดดด!!

"บิ๊กตู่" เผยยัง ไม่พอใจ กอ.รมน. แม้มีความก้าวหน้า ต้องทำต่อ ลั่น ไม่ได้ทำเพื่อการเมือง อย่ามองเป็นการเมืองไปหมด ปรี๊ดแตก โวยใครจะโง่ ให้งาน "คสช.-กอ.รมน." ซ้ำกัน  ชี้ ให้ กอ.รมน. ทำการสร้างความปรองดอง จัดระเบียบสังคม ของคสช.เพราะมีกฎหมายพิเศษ  บอกสิ่อ อย่าไปยุ่งวุ่นวายตรงนั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ในฐานะประธานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) กล่าวภายหลังมอบนโยบายในงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2560 และแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2561 ว่า เป็นการสรุปการทำงานกอ.รมน.ปี 60 ซึ่งมีความก้าวหน้าหลายประเด็นๆ 

แต่ยังพอใจไม่ได้ เพราะต้องทำต่อ ถึงแม้จะดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างย่ิงในเรื่องภาคใต้ สถิติ จำนวน หรือความรุนแรงลดลง แต่ลดลงก็ยังมีคนบาดเจ็บล้มตายอยู่ ต้องหาวิธีการที่ทำแล้วเกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่มีอะไรที่สิ้นสุด เพราะนี้คือโลกมนุษย์ ความขัดแย้งเกิดขึ้นทุกพื้นที่ เพราะคนต่างความคิดเห็นกัน แก้ได้ถ้าเราร่วมมือกัน อย่างที่บอก"น้ำหนึ่งใจเดียวกัน"แก้ได้ทุกเรื่อง 

    
นายกฯกล่าวว่า อีกเรื่องคือการมอบนโยบายกอ.รมน.ปี 61 เพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้นในการดูแลเรื่องการทำงาน และการบูรณาการ เพราะเราได้ทำกฎหมายเพิ่มเติมขึ้นมาของกอ.รมน.ให้เข้าไปรับผิดชอบในเรื่องงานภัยพิบัติด้วยเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องทางการเมือง เดิมเขาก็ทำหน้าที่อยู่แล้ว แต่เขาไม่มีกฎหมายของเขา ฉะนั้นการไปช่วยตรงนี้ ไม่มีสามารถเบิกงบประมาณได้ ทั้งเรื่องการใช้รถ การซ่อมยุทโธปกรณ์ต่างๆที่นำมาใช้ หรือเครื่องมือทางทหาร รถขนทหาร รถขนคน เมื่อเสียไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่มีกฎหมาย แต่ต้องไปช่วยเหลือประชาชน การทำกฎหมายที่ปรับปรุงขึ้นมาให้นอกจากเรื่องดูภัยความมั่นคงในปี 60 เรื่องภัยจากน้ำมือมนุษย์แล้ว วันนี้ยังมีเรื่องภัยจากภัยพิบัติด้วย ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้งก็สามารถใช้ได้ เวลาเกิดเหตุการณ์ขึ้นมามีบาดเจ็บ สูญเสีย จะได้มีมาตรการรอบรับ ไม่อย่างนั้นต้องไปดูแลด้วยกฎหมายปกติของหน่วยงาน ซึ่งมันยุ่งยาก แค่ตรงนี้เท่านั้นเอง 

 สำหรับการปรับอัตราตำแหน่งให้มีตำแหน่งงานหลักก็อยู่ในแผนการลดกำลังของกองทัพ เพราะกอ.รมน.เป็นของรัฐบาล ไม่ใช่ของกองทัพ จึงอยู่ที่รัฐบาลจะบริหารจัดการอย่างไร 

วันนี้ผมเตรียมการให้รัฐบาลหน้า ให้เขาสามารถบริหารจัดการได้ มีคณะกรรมการอำนวยการในระดับส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนจังหวัด มีส่วนราชการเข้ามาอยู่ในส่วนนั้น และนายกฯมีอำนาจสั่งการอยู่แล้ว แต่หน้าที่กอ.รมน.ไม่ได้ไปสั่งการใคร เป็นหน้าที่บูรณาการประสานงาน ร่วมมือในการติดตามประเมินผล และทำทุกอย่างให้เกิดความสงบเรียบร้อย 

"ไม่ได้ทำเพื่องานการเมือง ขอเน้นตรงนี้ อย่ามองทุกอย่างเป็นการเมืองไปหมด ประเทศไทยทำไมมองทุกอย่างเป็นการเมืองไปหมด ความยากจนก็เกิด ความเหลื่อมล้ำก็เกิด การกระจายรายได้ก็เกิด แต่ทุกคนไปมองทางการเมืองอย่างเดียว ต้องแก้หลายอย่าง ทั้งการเมือง การบริหารจัดการ การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย การสร้างการรับรู้ การสร้างความเข้าใจ ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน เพราะอยู่ในห่วงโซ่ทั้งหมด และรัฐบาลคิดอะไรก็ตาม 

ผมเห็นในสื่อออกมารัฐบาลต้องทำให้ได้นะ ถ้าอย่างนั้นผมไม่ต้องคิดอะไรเลยมั้ง ผมอยู่เฉยๆดีกว่าท่านจะได้ไม่กวดขันผม ท่านต้องบอกว่าที่รัฐบาลทำเป็นห่วงอะไรอยากให้รัฐบาลได้ดูแล 

ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนติดตามตรงนี้บ้าง ผมขอแค่นี้หรือติได้อย่างเดียว ผมก็ไม่รู้ ท่านต้องช่วยสร้างความร่วมมือด้วย วันนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ผมไม่โทษท่าน แต่ถ้าท่านทำได้ก็ดี หรือไม่ทำก็เรื่องของท่าน ผมก็ทำของผมให้ดีที่สุด มันจะทำได้ช้าหรือเร็ว ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมคนเดียว ขึ้นอยู่กับหลายส่วนด้วยกัน เข้าใจด้วยแล้วกัน" นายกฯกล่าว

 เมื่อถามว่า หลังจากนี้งานของคสช.จะได้ผ่องถ่ายให้กอ.รมน.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว คนละเรื่อง คสช.คือคสช. ไม่เกี่ยว เมื่อไหร่ที่มีรัฐบาลใหม่ คสช.ก็ไม่มี ก็จบ ไม่ได้ผ่องถ่ายอะไร 

เมื่อถามว่า บางงานของคสช. ก็ไปอยู่ในกอ.รมน. เช่น การสร้างความปรองดอง จัดระเบียบสังคม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "แล้วไง กอ.รมน.มีกฎหมายพิเศษอะไรของเขาหรือเปล่า คุณจะไปยุ่งวุ่นวายตรงนั้น เรื่องของผม คสช.คือคสช. กอ.รมน.คือ กอ.รมน. คือหน่วยงานปกติ แต่คสช.คือหน่วยงานไม่ปกติ เข้าใจซะก่อนตรงนี ถ้าปกติมันจะมีทำไมคสช."

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้งานไม่เกิดความซ้ำซ้อน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า "ก็มันไม่ซ้ำอยู่แล้ว ใครจะโง่ไปทำให้มันซ้ำเล่า มันอยู่ที่เธอคิดให้มันซ้ำนั่นแหล่ะ"

คำขวัญวันเด็ก 2561 “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี"

“ลุงตู่” มอบคำขวัญวันเด็ก 2561 “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี"
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงคำขวัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ว่า “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ฝากคำขวัญดังกล่าวในปีนี้ เพื่อต้องการให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเองว่า เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าของประเทศ ขอให้ตั้งใจใฝ่ศึกษาเล่าเรียน หมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งรู้จักการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม และเป็นคนดีของสังคม ตลอดจนเป็นผู้ที่มีความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ ครูอาจารย์ มีจิตสาธารณะ เพื่อการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างมีความสุข และพร้อมจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและคุณธรรมของประเทศชาติต่อไป
นายการุณ กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดงานวันเด็กในปี 2561 ส่วนกลางจะจัดที่กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะมีการแถลงข่าวการจัดงานวันเด็กในวันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม 2561 โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานการแถลงข่าว