PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558

นายกฯ ลั่น ใครไล่ก็ไม่ไป ใครเกลียดก็ไม่ว่า ยันจะไม่ไปไหน จะอยู่ตามรัฐธรรมนูญ เตือนห้ามวิจารณ์ขวางโรดแมพ

นายกฯ ลั่น ใครไล่ก็ไม่ไป ใครเกลียดก็ไม่ว่า ยันจะไม่ไปไหน จะอยู่ตามรัฐธรรมนูญ เตือนห้ามวิจารณ์ขวางโรดแมพ ยัน ผมสั่งรธน.ผ่านหรือไม่ผ่านไม่ได้ ย้อน ประชาธิปไตยเต็มใบก็มีสิ่งชั่วร้าย ยก เพื่อนบ้านออกกม.เข้มข้น สหรัฐฯยังยอมรับ อ้างเพื่อการพัฒนาบ้านเมือง ท้า นักการเมืองออกมาประกาศ"รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว" บ่น แก้ยาก ระบบเครือญาติ เผยเป็นคนกำหนดกติกา ผมร่าง ผมทำมาแบบนี้ ทำจนแทบจะเป็นอาหาร ให้กินแล้ว ยังไม่เลือกที่จะกินอีก ถ้าจะทำใหม่ก็ไปกินที่อื่น ขม "สมคืด" ทำงานเต็มที่ เผยหม่อมอุ๋ย ส่งรายงานสรุปผลการทำงาน มาให้ ยันผมไม่ทำร้ายใครอยู่แล้ว พวกเราทุกคนเป็นทีมงาน เป็นเพื่อนร่วมตายของผม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีการมอบนโยบายในการเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด (SME Provincial Champions) .ซึ่งจัดโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ว่า ระหว่างนี้ในช่วงเวลาที่เราเหลืออยู่ประมาณสักหนึ่งปี เราต้องทำให้ได้ เราต้องขับเคลื่อนประเทศให้ได้ สร้างรากฐานให้เข้มแข็งทุกภาคส่วนทั้งความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคม
แต่ขณะนี้เรื่องประชาธิปไตยกำลังสับสนกันอยู่ ระหว่างที่เป็นประชาธิปไตยเสรีภาพ สิทธิเป็นหลัก และเรื่องของคะแนนเสียงอะไรก็แล้วแต่ แต่วันนี้ผมไม่มีคะแนนเสียง
"ใครจะเกลียดผมก็ไม่เป็นไร ใครจะชมก็ดี ชื่นใจมีกำลังใจ ใครจะเกลียดผม ผมก็ไม่ว่า เพราะผมไม่ไปอยู่แล้ว จะไปตามรัฐธรรมนูญ ใช่ไหมเล่า จะไล่ผมได้ยังไง ไล่ก็ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะจะอยู่ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวของผมนี่แหละ มีแค่ไหนก็แค่นั้น"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงรัฐธรรมนูญว่า หรือผมคิดผิดเรื่องการปฏิรูป หรือประชาชนคาดหวังว่าคนอื่นจะทำให้ท่านต่อ หรือจะเขียนรัฐธรรมนูญแค่มาตราหนึ่งเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัวและสถาบันฯ ส่วนมาตรา2 บอกว่าทุกอย่างเชิญตามสบาย ใครจะทำอะไรก็ทำ
ทั้งนี้รัฐธรรมนูญเขามีเพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งผมพูดเสมอว่าไม่มีอะไรในโลกที่เท่าเทียมกันจริงในโลกนี้ แต่กฎหมาย กติกา สัญญาทุกคนต้องได้ประโยชน์อย่างทั่วถึง เท่าเทียมมากน้อยตามศักยภาพ
"กฎหมายไม่ได้เอาไว้ฆ่าท่าน ไม่ได้รังแกคนจน ไม่ใช่ กฎหมายมีประโยชน์ทั้งสองข้าง แต่ฝ่ายรัฐเป็นคนบังคับใช้ เขาก็บังคับใช้อย่างทั่วถึงเป็นธรรมทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ความขัดแย้งก็ลดลง ก็นำไปสู่การขับเคลื่อนไปพร้อมกัน "พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
" ผมพูดจนเมาหมัดไปหมดแล้ว และเดี๋ยวนี้นึกอะไรไม่ออก จะนึกคำพูดที่มันเจ็บๆก็ยังนึกไม่ออก เพราะว่าสมองมันแย่แล้ว แต่ไม่เป็นไรยังไม่แฮ้งค์ ไม่เป็นไรยังทำได้ เพราะได้เห็นรอยยิ้มที่ยิ้มแย้มแจ่มใสก็มีกำลังใจที่จะทำต่อเท่าที่มีโอกาสมีเวลาทำตามที่กำหนดไว้ "นายกฯ กล่าว
"ส่วนจะอยู่หรือไม่อยู่ให้ไปดูที่รัฐธรรมนูญ เพราะผม สั่งรัฐธรรมนูญไม่ได้ว่าจะผ่านหรือไม่ ถ้าผ่านก็ไม่ชอบ พอไม่ผ่านอีกพวกก็หาว่า ผม สั่งการ ผมลำเอียงทำอะไรไม่ได้สักอย่าง"
นายกฯ กล่าวอีกว่า แม้กระทั่งการออกมาพูดทีวีกลุ่มนี้พูดกลุ่มนี้ก็ต้องพูด ถ้าไอ้กลุ่มไหนพูดแล้วมันไม่ขัดแย้งกับรัฐบาล ผมก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร แต่ถ้ากลุ่มไหนพูดแล้วขัดแย้งก็ไม่ให้พูด เพราะผมเป็นกรรมการ ไม่เช่นนั้นผมก็ไม่มายืนตรงนี้ให้ใครขึ้นมาก็ได้ ลูกน้องพลขับก็มาได้ สั่งง่าย
"ถ้าผมเป็นกรรมการ ให้เวลาท่านเป็นกรรมการมานานแล้ว แล้วท่านทำไม่ได้ วันนี้ผมเป็นกรรมการแล้วผมจะทำให้ได้ ถ้าท่านคิดว่าจะไม่เอากรรมการแบบเดิม ก็ไปว่ากันมาตัดสินใจกันมา" พลเอกประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ถ้าประชาชนเรียกร้องมากๆจากรัฐ รัฐก็ไม่มีให้ แต่ที่ผ่านมาให้เฉพาะกลุ่มเฉพาะพวกเฉพาะที่รู้จัก ก็ธรรมดา
"ประเทศไทยเขาเรียกว่าเป็นระบบเครือญาติ ก็แก้ได้ยาก ต่อมาก็เรียกว่ากตัญญูรู้คุณ ซึ่งเราควรกตัญญูรู้คุณแต่คนดี คนที่มีศีลธรรมมีคุณธรรม และถามว่าที่ผ่านมาที่เขาให้เรามันถูกหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกก็แสดงว่าไอ้คนนี้มันใช้ไม่ได้ ถ้าเราแข็งใจแบบนี้ประเทศก็ไปได้"
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ปวดหัวเพราะรับทุกเรื่อง ที่ปวดหัวเพราะรับทุกเรื่อง ถ้าตนใช้อำนาจอย่างเดียวก็ไม่ปวดหัวอย่างนี้หรอก ใช้อำนาจอย่างเดียวทำงานมันง่ายจะตาย ใครทำไม่ได้ก็เอาออกไป ไล่ออกไป แต่ท้ายที่สุดจะเหลือกี่คนทำงานด้วยก็ไม่รู้เหมือนกัน ดังนั้นต้องร่วมมือกันเพราะใครคนใดคนหนึ่งทำไม่ได้ และตนไม่โทษใครทั้งนั้น แต่ตนโทษคนกำกับดูแลที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทำงานเต็มที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ทำเต็มที่ และครม.เก่าก็ทำงานเต็มที่
"เมื่อวาน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ก็ทำเต็มที่ และท่านยังสรุปงานเป็นเอกสารมาถึงผม ซึ่งวิธีการต้องเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ ผมไม่ทำร้ายใครอยู่แล้ว พวกเราทุกคนเป็นทีมงาน เป็นเพื่อนร่วมตายของผม"
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์ชี้แจงต่อกรณีการขออนุญาตแสดงความคิดเห็นการวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ทุกประเทศในโลก ถ้าเป็นประชาธิปไตย100%ใครอยากพูดอะไรก็พูดได้ แต่ก็รู้กันอยู่ว่าประเทศไทยไม่ได้100%ดังนั้นเอาเอาเรื่องนี้มาพูดกับผม ใครก็ตามที่พูดแล้วสนับสนุนแนวทางรัฐบาล โดยสนับสนุนให้เป็นไปตามโรดแมป สามารถพูดได้ แต่ถ้าพูด แต่มาต่อต้านผม ก็จะทำให้โรดแมปเดินต่อไปไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ต้องแยกออกจากกันให้ได้ ไม่ใช่คนนี้พูดได้ คนนั้นก็ต้องพูดได้บ้าง ไม่ใช่ว่าใครมาพูดเข้าข้างตน เขาพูดตามโรดแมปของเขา ทั้ง 2 พวกตนก็ให้พูดมาโดยตลอด หรือจะมาบอกว่าไม่เคยได้พูด
“เรื่องที่รัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน มันไม่ใช่ผมสั่งหรือไม่สั่ง แต่อยู่ที่พวกท่านจะเรียนรู้ว่าจะอยู่กันอย่างไรในอนาคต จะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง จะอยู่ท่ามกลางการเมืองที่ไม่เหมือนปัจจุบัน ถ้าจะเอาแบบนั้นก็เอา แต่สิ่งที่จะเตือนไว้คือ รัฐธรรมนูญมีอยู่หลายหมวด หลายมาตรา อย่าไปดูแต่ 1 2 3 4 5 ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ถ้าอย่างนั้นมันก็คงจะไม่เป็นประชาธิปไตย ต่อให้พูดให้เป็นมันก็ไม่เป็น แต่ความชั่วร้ายที่มันเกิดขึ้น ที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบมันจะมีหรือไม่ ชัดเจนนะ ชัดเจน "พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า หลายประเทศ ในสถานการณ์ปกติที่ไม่ใช่การปฏิวัติรัฐประหาร เขายังออกกฎหมายมาตั้งเท่าไหร่ ทำไมไม่ไปดูบ้าง ที่เขาทำ ก็เพราะเขาต้องการให้บ้านเมืองสงบ พัฒนาประเทศได้ บ้านเมืองเขายิ่งกว่าเราอีก ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย สหรัฐฯ ยังรับรองเขาหมด แต่เขาจำเป็นก็ต้องเห็นใจเขา เพราะบ้านเมืองจะสับสนไม่ได้ ซึ่งเขาขนาดบ้านเมืองสับสนแบบนั้นเขายังไม่ยอมเลย แต่บ้านเราสับสนแล้วยังใช้อาวุธอีก แน่ใจหรือไม่ว่าจะไม่มีการใช้อาวุธอีก ในรัฐบาลต่อไป รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตอบมาซิ ตอบสังคมให้ได้ว่าจะหยุดยั้งเหตุการณ์เหล่านั้นให้ได้ จะปฏิรูปอะไร ถามเขา ไม่ใช่ ถามแต่ว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอย่างนั้น แล้วมาทะเลาะกัน มันได้อะไรขึ้นมา
“ผมเป็นคนกำหนดกติกา ผมร่าง ผมทำมาแบบนี้ ทำจนแทบจะเป็นอาหาร ให้กินแล้ว ยังไม่เลือกที่จะกินอีก ถ้าจะทำใหม่ก็ไปกินที่อื่น ไปเปิดร้านหากินกันเอาเอง เข้าใจหรือยัง ผมไม่ใช่ศัตรูใคร ไม่ได้ว่าใคร"
" แต่ใครที่ทำความเสียหายก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าจะให้ทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกมารับผิดชอบ แต่ทุกอย่างที่ผ่านมาผมรับผิดชอบอยู่คนเดียว พูดแบบผมพูดซิ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดีความหรือเรื่องศาล ผมจะผิดทั้งหมด ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก มีใครพูดแบบนี้หรือไม่ ว่าวันหน้าถ้าเลือกตั้งแล้ว จะทำให้บ้านเมืองสงบ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างเดิมอีก ถ้าประท้วง ก็จะต้องแก้ปัญหาให้ได้ ถ้ายิงกัน ฆ่ากัน ระเบิดกัน เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ มีพูดหรือไม่ "
วันนี้มาตีผมเรื่องเศรษฐกิจประชานิยม ว่าเหมือนประชานิยมรัฐบาลในอดีต มันเหมือนตรงไหน มันเหมือนเพียงแค่เอาเงินลงไปให้ถึงหมู่บ้านเท่านั้น เขามีการคัดกรองหรือไม่ คัดกรองก็ไม่ทั่วถึง ไปลงให้เฉพาะกลุ่ม เฉพาะพวก ซึ่งร้องเรียนกันมามากมาย มาตอนนี้ผมไปดูว่าจะช่วยเขาอย่างไร อาจให้ทหาร ให้คสช.ไปช่วยดูที่เขาล้ม ๆ เจ้ง ๆ อยู่ และจะทำให้ยั่งยืน” นายกฯ กล่าว

"บิ๊กตู่" แจงตัวเองไม่ใช่คนตลก เป็นคนพูดสนุกแต่มีสาระ





อ้าว ตกลง นายกฯ เป็นคนตลก หรือไม่ตลก..?? แต่ที่แน่ๆ เป็น นายกฯ ยิ่งกว่า Mita
"บิ๊กตู่" แจงตัวเองไม่ใช่คนตลก เป็นคนพูดสนุกแต่มีสาระ พูดให้คนอื่นขำ หัวเราะ แต่ผมเครียด บางทีเมาหมัด นึกคำพูดเจ็บๆ แต่นึกไม่ออก แฮ้งค์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งในการมอบนโยบายในการเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด (SME Provincial Champions) ตอนหนึ่ง ได้กล่าวถึงการทำงานของตัวเองว่า เคยได้ยินว่า "เล็กๆ มิต้าไม่ใหญ่ๆ มิต้า แต่ผมทำหมด ไม่ใช่มิต้าแต่ทำหมด ก็เลยแบกภาระและปวดหัวทั้งวั
"บางที ไปพูดๆ เวลาพูดก็งงว่าพูดงานไหนวะ บางทีต้องตั้งสติอยู่นานกว่าจะพูดได้ แต่เห็นคนไทยยิ้มแย้มแจ่มใส ผมก็โอเค"
"แต่ผมไม่ใช่นะ มีคนบอกว่าผมตลก ผมไม่ใช่คนตลกนะ พูดจริงๆ แต่ผมพูดอบรมทหารมาก็ต้องให้ทหารเขาฟัง แต่บางคนก็ไม่เคยก็หาว่าพูดมาก"พล.อ.ประยุทธ์
"ผมพูดไปคนฟังก็หัวเราะคิกคัก แต่คนเครียดคือผม พอพูดไปก็โมโหขึ้นเรื่อยๆ เสียงดังขึ้นเรื่อย คนฟังก็หัวเราะสนุก แต่สนุกมีสาระนะ พูดแล้วช่วยกันด้วยก็แล้วกัน
"บางทีผมพูดจนเมาหมัดไปหมดแล้ว และเดี๋ยวนี้นึกอะไรไม่ออก จะนึกคำพูดที่มันเจ็บๆก็ยังนึกไม่ออก เพราะว่าสมองมันแย่แล้ว แต่ไม่เป็นไรยังไม่แฮ้งค์ ไม่เป็นไรยังทำได้ เพราะได้เห็นรอยยิ้มที่ยิ้มแย้มแจ่มใสก็มีกำลังใจที่จะทำต่อเท่าที่มีโอกาสมีเวลาทำตามที่กำหนดไว้ "นายกฯ กล่าว
— กับ Wassana Nanuam

"นายกฯ" ถาม ทำไมต้องกลัว การเก็บภาษี ลัานจะตรวจ พวกตบแต่งภาษี เผยทหารก็เสียภาษี



"นายกฯ" ถาม ทำไมต้องกลัว การเก็บภาษี ลัานจะตรวจ พวกตบแต่งภาษี เผยทหารก็เสียภาษี แนะเดินตามโรดแมปที่เขียนไว้ให้ ชี้ปัญหาอยู่ที่ไม่ยอมจ่ายภาษีจึงขึ้นทะเบียนไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานมอบนโยบายในการเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด (SME Provincial Champions) ซึ่งจัดโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
นายกฯ กล่าวให้นโยบายตอนหนึ่งว่า การสนับสนุนธุรกิจและแก้ไขปัญหา SME เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลนำทุกอย่างที่เป็นประเด็นปัญหามาแก้ไขเพื่อให้ขับเคลื่อนเดินหน้าไปให้ได้
ทั้งนี้สุดยอดSME จังหวัด ตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเรื่องของการขับเคลื่อนที่ทุกวันนี้ทุกคนรู้ปัญหาแต่ขับเคลื่อนไม่ได้ และไม่ใช่หน้าที่ของผมและนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ทุกคนที่ต้องช่วยกันทั้งหมด
ที่ผ่านมาเอสเอ็มอีมีปัญหาเรื่องภาษีจึงไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ เพราะถ้าเริ่มจากสิ่งที่ผิดก็ผิดตลอด ก็ไม่ทั่วถึงเหมือนเดิม และปัญหาของทุกเรื่องของคือเรื่องของข้อมูล ถามว่าวันนี้เอสเอ็มอี 2.7แสนราย มีความชัดเจนแล้วหรือยัง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาต้องบูรณาการทุกกระทรวงแต่ทุกวันนี้ต่างคนต่างคิดทำให้ทุกอย่างเดินไม่ได้ เพราะเอสเอ็มอีเป็นแหล่งรายได้ใหญ่ของประเทศ 90 เปอร์เซ็นต์ ที่ทำให้ประเทศเข้มแข็ง แต่เอสเอ็มอีขนาดเล็กและกลางต้องล้มเพราะไม่มีความพร้อม ไม่สามารถเดินหน้าได้ ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้สนใจให้ความรู้ในการให้เขาไปช่วยเหลือตัวเอง มีแต่ให้ทุน แต่กลับไม่ทั่วถึง
อีกทั้งวันนี้มีปัญหาเรื่องงบประมาณที่รัฐบาลต้องจัดสรรนำไปดูแลประชาชน แก้ปัญหาภัยพิบัติ ต้องลงทุนประเทศให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่ต้องใช้เงินมหาศาล และมีงานขับเคลื่อนซึ่งเป็นงานฟังชั่นของกระทรวงที่ต้องใช้งบอีกมหาศาล ถามว่าทำไมเราไม่คิดจะแก้ไข จะแก้ปัญหาด้วยเงินกันอย่างเดียวหรือ แล้วจะเอาเงินมาจากที่ไหน เพราะทุกวันนี้ไปที่ไหนก็มีแต่คนมาขอเงินทั้งสิ้น
"ทุกคนกลัวเสียภาษี มันเป็นอะไร มันเป็นหน้าที่ของคนไทย มีมากก็เสียน้อยอีก เสียน้อยก็ไม่อยากเสียอีก วันนี้ที่เสียแน่ๆ คือข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ที่เสีย ณ ที่จ่ายเต็มๆ ทุกเดือน แต่คนอื่นมีบริษัทมาตรวจสอบตบแต่งทำบัญชี เดี๋ยวจะตรวจให้หมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาเอสเอ็มอีต้องไม่กลับมาเหมือนเดิมอีก เพราะทุกอย่างพร้อมกลับมาที่เดิมหมด เพาะเราเสียเวลากับความขัดแย้ง เสียเวลาในการ รื้อข้อมูลใหม่เพราะผิดมาทั้งหมด เพราะความไม่เอาใจใส่ ข้าราชการก็ไม่มีกำลังใจ เพราะแผนเขียนไปแล้วก็ไม่อ่าน ไม่ทำ แต่วันนี้เขียนแล้วต้องทำ ต้องวางโรดแมปของรัฐบาล และสสว. ท่านต้องมีโรดแปของท่านด้วย พัฒนาให้ความรู้ ปรับปรุงวิธีการ
— กับ Wassana Nanuam

นายกฯ ฮึ่ม !! เผยคาดโทษ กระทรวงต่างประเทศ -ทูตในตปท. ทำแต่ รับแขก แจกของ รับนาย-เมีย


นายกฯ ฮึ่ม !! เผยคาดโทษ กระทรวงต่างประเทศ -ทูตในตปท. ทำแต่ รับแขก แจกของ รับนาย-เมียนาย ไปเที่ยว จากนี้ห้ามนะ ผมวางสายไว้หมดแล้ว ก.ต่างประเทศตัองทำเชิงรุก สถานทูตต้องรู้เศรษฐกิจ เหน็บ คนรวยมากหลายคน แต่ต้องไปอยู่ ตปท. แต่มันไม่ได้ใช้เงิน
พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี บ่น บนเวที แถงยุทธศาสตร์ชาติ ของ นศ.วปอ. บอก ปวดหัว โดนด่าว่า ได้ประโยชน์ รธน.หาว่าผมเหยียบเรือสองแคม ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน ผมก็ได้ประโยชน์
เปรย แนวคิดของผม และ สปช.ในเรื่อง รธน.ตรงกัน ก็หาว่าผมได้ประโยชน์ ได้ประโยชน์อะไรวะ
ยัน ผมไม่ใช่นักการเมือง ผมเป็นนักการทหาร แต่มาทำหน้าที่ทางการเมือง
ใครว่าเป็นนายกฯดี สนุก ไม่เห็นสนุกเลย กลับบ้านมีแต่ทุกข์ ไม่สนุก ไม่สุข ไลน์มาแล้วเรื่องนั้นเรื่องนี้ ยันไม่เคยคิดอยากอยู่นาน หรืออยู่เกินโรดแมพ เลือกตั้ง 2559
เปรยเมืองไทย ไม่มีเงิน งบฯ ติดกับดัก เหน็บมีคนรวยเยอะ แต่ไปอยู่ตปท.หลายคน รวยมาก แต่มันใช้เงินไม่ได้ ยันต้องปราบคอรัปชั่น ปลูกฝังเด็ก โตยังไงไม่โกง
ยัน ผมเป็นคนโวยวาย เสียงดัง เพราะผมไม่กลัว เพราะผมไม่มีเบื้องหลัง หรือไม่มีแม้แต่ ใต้เท้า เป็นนายกฯไม่ได้สักบาท
เผย อดทนกับการเมืองมาตลอด แต่ 6 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ ทนไม้ไหว โดนด่าทั้งสองฝ่าย
— กับ Wassana Nanuam

คาดโทษ กระทรวงต่างประเทศ -ทูตในตปท. ทำแต่ รับแขก แจกของ รับนาย-เมียนาย ไปเที่ยว จากนี้ห้าม

นายกฯ ฮึ่ม !!
บิ๊กตู่ เผยคาดโทษ กระทรวงต่างประเทศ -ทูตในตปท. ทำแต่ รับแขก แจกของ รับนาย-เมียนาย ไปเที่ยว จากนี้ห้ามนะ ผมวางสายไว้หมดแล้ว ก.ต่างประเทศตัองทำเชิงรุก สถานทูตต้องรู้เศรษฐกิจ เหน็บ คนรวยมากหลายคน แต่ต้องไปอยู่ ตปท. แต่มันไม่ได้ใช้เงิน
พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี บ่น บนเวที แถงยุทธศาสตร์ชาติ ของ นศ.วปอ. บอก ปวดหัว โดนด่าว่า ได้ประโยชน์ รธน.หาว่าผมเหยียบเรือสองแคม ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน ผมก็ได้ประโยชน์
เปรย แนวคิดของผม และ สปช.ในเรื่อง รธน.ตรงกัน ก็หาว่าผมได้ประโยชน์ ได้ประโยชน์อะไรวะ
ยัน ผมไม่ใช่นักการเมือง ผมเป็นนักการทหาร แต่มาทำหน้าที่ทางการเมือง
ใครว่าเป็นนายกฯดี สนุก ไม่เห็นสนุกเลย กลับบ้านมีแต่ทุกข์ ไม่สนุก ไม่สุข ไลน์มาแล้วเรื่องนั้นเรื่องนี้ ยันไม่เคยคิดอยากอยู่นาน หรืออยู่เกินโรดแมพ เลือกตั้ง 2559
เปรยเมืองไทย ไม่มีเงิน งบฯ ติดกับดัก เหน็บมีคนรวยเยอะ แต่ไปอยู่ตปท.หลายคน รวยมาก แต่มันใช้เงินไม่ได้ ยันต้องปราบคอรัปชั่น ปลูกฝังเด็ก โตยังไงไม่โกง
ยัน ผมเป็นคนโวยวาย เสียงดัง เพราะผมไม่กลัว เพราะผมไม่มีเบื้องหลัง หรือไม่มีแม้แต่ ใต้เท้า เป็นนายกฯไม่ได้สักบาท
เผย อดทนกับการเมืองมาตลอด แต่ 6 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ ทนไม้ไหว โดนด่าทั้งสองฝ่าย
— กับ Wassana Nanuam

ฮือฮา...นายกฯ เผย แนวคิดตั้ง "กระทรวงความมั่นคง"

ฮือฮา...นายกฯ เผย แนวคิดตั้ง "กระทรวงความมั่นคง" เผยเริ่มจากใช้ ม.44เอา กอ.รมน.-ศอ.บต.มาดูเอง เผยจะเอาตำรวจ มารวมอยู่ด้วย ปฏิรูปตำรวจ เอาทาอยู่กับทหาร
พลเอกประยุทธ์ กล่าวในงาน แถลงยุทธศาสตร์ชาติ วปอ. ตอนหนึ่งว่า มีแนวคิด ตั้งกระทรวงความมั่นคง เผยเริ่มจากใช้ ม.44เอากอ.รมน.-ศอ.บต.มาดูเอง เพราะที่ผ่านมา มีปัญหา ผมเลยต้องดูเอง เผยจะเอาตำรวจ มารวมอยู่ด้วย ปฏิรูปตำรวจ เอามาอยู่กับทหาร
พลเอกประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ เรื่องจะมีการปรับโครงสร้างความมั่นคง ว่า เป็นการปรับปรุงอุปกรณ์เทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง ไม่ถือว่าเป็นการปรับโครงสร้าง เป็นการพัฒนา ถ้าปรับโครงสร้างความมั่นคงคือ การยุบสมช.ตั้งกระทรวง
นายกฯกล่าวว่า แต่เป็นการพัฒนาเครื่องมือว่าสมบูรณ์หรือยัง ที่ผ่านมาเป็นเบี้ยหัวแตก แต่ไปเสียในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องไม่บ่น ส่วนเครื่องมือพอจะซื้อก็บอกแพง โกง ทุจริต แต่วันนี้กลับพูดว่าทำไมไม่ทันสมัย
ส่วนเรื่องบูรณาการงานด้านความมั่นคงนั้น ตนทำมา2 ปีแล้ว สั่งคนเดียวให้มีเอกภาพ
— กับ Wassana Nanuam

นศ.วปอ.57 เสนอ ยุทธศาสตร์ชาติ ความมั่นคง ยก ระดับ กอ.รมน. เป็นกระทรวง

นศ.วปอ.57 เสนอ ยุทธศาสตร์ชาติ ความมั่นคง ยก ระดับ กอ.รมน. เป็นกระทรวง/ ส่วนนักเรียนวิทยาลัยการทัพ เสนอยุทธศาสตร์ทหาร "กองทัพอเนกประสงค์"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ หัวหน้า คสช. พร้อม ครม.รมต.รองนายกฯนาย สมคิด ผบ.สส. ตัวแทน ผบ.เหล่าทัพ ฝ่ายทหาร ทั้ง พลเอกวรพงษ์ สง่าเนตร ผบสส. พลเริอเอกไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผบทร. พลเอกธีรชัย นาควานิช ว่าที่ ผบทบ.พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง เสธ.ทอ. ร่วมฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ 2559-2563 และยุทธศาสตร์ทหาร ของ นศ.วปอ.57
ก่อนหน้า ร่นสยกฯจะกล่าว นั้น โดย นศ.วปอ.เสนอยุทธศาสตร์ความมั่นคง ด้วยการเสนอตั้ง กระทรวง กอ.รมน. เพื่อดูแลความมั่นคงทั้งหมด ที่ซับซ้อน หลากหลายขึ้นมาก พร้อมการกำหนดนโยบาย ด้านไซเบอร์

พร้อมเสนอ ตั้งกกล.ทางเรือ อาเซี่ยน ให้ประเทศสมาชิกส่งกำลัง เรือ กำลังพล งบประมาณ หมุนเวียน กันมาปฏิบัติหน้าที่ ทั้งเรื่องภัยพิบัติ โจรสลัด การก่อการร้ายในทะเล

ขณะที่ยุทธศาสตร์ ทหาร โดย นักเรียนทหาร ทั้ง จาก วิทยาลัยเสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพบก (วทบ) วิทยาลัยการทัพเรือ(วทร )และ วิทยาลัยการทัพอากาศ(วทอ) ได้เสนอให้ กองทัพ เป็น "กองทัพอเนกประสงค์ " เพราะทำทุกภารกิจ ทั้งการปกป้องสถาบัน แ้องกันจากภัยคกคามทหาร แก้ปัญหาทุกระดับขัดแย้ง และภัยคุกคาม ไม่ตามแบบ ภาคใต้ การคุ้มครอง ผลประโยชน์ของชาติ ทางบก ทางทะเล และห้วงอากาศ สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน มิตรประเทศ การช่วยเหลือด้าน มนุษยธรรม สงครามไซเบอร์ และต้องมียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย อุตสาหกรรมป้องกีนประเทศ Network centric

พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี บ่น บนเวที แถลงยุทธศาสตร์ชาติ ของ นศ.วปอ. บอก ปวดหัว โดนด่าว่า ได้ประโยชน์ รธน.หาว่าผมเหยียบเรือสองแคม ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน ผมก็ได้ประโยชน์ เปรย แนวคิดของผม และ สปช.ในเรื่อง รธน.ตรงกัน ก็หาว่าผมได้ประโยชน์ ได้ประโยชน์อะไรวะ
ยัน ผมไม่ใช่นักการเมือง ผมเป็นนักการทหาร แต่มาทำหน้าที่ทางการเมือง
ใครว่าเป็นนายกฯดี สนุก ไม่เห็นสนุกเลย กลับบ้านมีแต่ทุกข์ ไม่สนุก ไม่สุข ไลน์มาแล้วเรื่องนั้นเรื่องนี้ ยันไม่เคยคิดอยากอยู่นาน หรืออยู่เกินโรดแมพ เลือกตั้ง 2559 เปรยเมืองไทย ไม่มีเงิน งบฯ ติดกับดัก เหน็บมีคนรวยเยอะ แต่ไปอยู่ตปท.หลายคน รวยมาก แต่มันใช้เงินไม่ได้ ยันต้องปราบคอรัปชั่น ปลูกฝังเด็ก โตยังไงไม่โกง

ยัน ผมเป็นคนโวยวาย เสียงดัง เพราะผมไม่กลัว เพราะผมไม่มีเบื้องหลัง หรือไม่มีแม้แต่ ใต้เท้า เป็นนายกฯไม่ได้สักบาท

เผย อดทนกับการเมือง มาตลอด แต่ 6 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ ทนไม้ไหว โดนด่าทั้งสองฝ่าย
นายกฯ เผยคาดโทษ กต.และ ทูตในตปท.ห้ามรับนาย-เมียนาย ไปเที่ยว รับแขก แจกของ ผมวางสายไว้หมดแล้ว ก.ต่างประเทศตัองทำเชิงรุก สถานทูตต้องรู้เศรษฐกิจ
— กับ Wassana Nanuam

′สปช.-สิระ′หอบเงิน1.7ล้านโชว์สื่อ ลั่นคืนหลวงหาก รธน.ไม่ผ่าน



http://www.matichon.co.th/online/2015/09/14412634671441273848l.jpg

วันที่ 3 กันยายน ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) แถลงว่า การลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 กันยายนสมมุติว่า ผลออกมาสปช.มีมติไม่เห็นด้วย ตนในฐานะที่อาสาเข้ามาผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปประเทศ จะขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการคืนเงินเดือนและสวัสดิการของ สปช.ตลอด 11 เดือน ที่เป็นภาษีประชาชน จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1.7 ล้านบาท เพราะถือว่า สปช.ทำงานล้มเหลวไม่สามารถผลักดันสิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือผ่านร่างรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดให้ประชาชนใช้ได้

ขณะเดียวกันขอเรียกร้องความรับผิดชอบแก่บรรดา สปช.ที่ร่วมกันลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แสดงความรับผิดชอบที่ประเทศชาติต้องสูญเสียเงินงบประมาณที่เป็นเงินเดือน สปช. 247 คนประมาณ 1 พันล้าน ประกอบกับค่าเบี้ยประชุมของคณะกมธ.ยกร่างฯที่ประชุมกันกว่า 160 ครั้ง ที่เป็นเงินกว่า 9 แสน ไม่นับเงินเดือนของ สปช.ด้วย

“จากการเช็คเสียงของ สปช.ล่าสุด มีผู้เห็นด้วยประมาณ 190 คน โดยพบว่ามีผู้ไม่เห็นด้วย 25 คนเท่านั้น อยู่ในคณะกมธ.ปฎิรูปการเมืองและคณะกมธ.กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมบางส่วน และ สปช.สายจังหวัด สปช.ที่ลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ คงไม่มีใครกล้าจ้างไปทำอะไรอีก เพราะทำงานแค่นี้ยังไม่สามารถทำให้ประเทศชาติได้ อีกทั้งยังเป็นประวัติติดตัวไปตลอดชีวิต" นายสิระ กล่าว และยังกล่าวถึง นายอมร วาณิชวิวัฒน์ สปช.ที่ออกมาระบุว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเนื้อหาสาระที่ดีมาก แต่เหตุผลที่จะลงมติคว่ำร่างเนื่องจากกลัวว่าจะมีเหตุรุนแรงหรือความขัดแย้งเกิดขึ้นนั้น ตนมองว่าเป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง เพราะเรื่องเหล่านั้นยังไม่เกิดขึ้น และไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะเกิดขึ้นด้วย นอกไปจากการมโนกันไปเองทั้งนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าวนายสิระได้นำธนบัตรซึ่งประกอบด้วยแบงค์พันหลายปึกใหญ่ จำนวน 1.7 ล้านบาทมาแสดงต่อสื่อมวลชน พร้อมกับรับปากหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบของ สปช.ในวันที่ 7 กันยายนนี้ จะนำเงินจำนวนดังกล่าวคืนแก่หลวงทันที 

“ประยุทธ์” ยังไม่เซ็นทูลเกล้าฯ ถวายถอดยศ “นช.ทักษิณ” ปัด “ประวิตร” ไปจีนคุยเรื่องอุยกูร์

3 กันยายน 2558 13:55 น. 

นายกรัฐมนตรียันยังไม่ลงนามทูลเกล้าฯ ถวายถอดยศ “นช.ทักษิณ” อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอน แค่เซ็นรับทราบตามที่ สตช.เสนอเรื่องขึ้นมาเท่านั้น ย้อนถามสื่อทำไมตื่นเต้นกันนักแค่ถอดยศคนคนเดียว ก่อนหน้านี้ทำมาแล้วเยอะทั้งทหาร-ตำรวจ 600-700 นาย ยันไม่เคยมองทักษิณยังสู้ แต่สื่อชอบกระพือข่าว แต่ถ้าทำผิดก็ต้องดำเนินการ พร้อมปฏิเสธ “ประวิตร” บินจีนคุยเรื่องอุยกูร์ ไม่ยืนยันแก๊งมือบึ้มที่จับได้เป็นสัญชาติได้รอผลพิสูจน์ก่อน ย้ำโยงใครจับหมด
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการการถอดยศข้าราชการตำรวจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “ผมยังไม่ได้ลงนามขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายนั้นเจ้าหน้าที่กำลังทำกันอยู่ผมยังไม่ได้เซ็น เพราะมันจะต้องเขียนและทำอะไรอีกเยอะแยะ ส่วนขั้นตอนแรกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอเรื่องการถอดยศขึ้นมาตามขั้น ตอนนั้นผมเซ็นรับทราบไปแล้วเหลือเพียงขั้นตอนการทูลเกล้าฯถวาย”
       
       นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับการขอคืนเครื่องราชฯ นั้นยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เพราะขั้นตอนการถอดยศยังไม่ได้ทำเลยแล้วจะให้ไปทำในเรื่องการขอคืนเครื่องราชฯ ได้อย่างไร เรื่องดังกล่าวก็เป็นเรื่องของ สตช.ที่จะพิจารณาเสนอเรื่องขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อถอดยศแล้วจำเป็นจะต้องถอนเครื่องราชฯ ด้วยหรือไม่ก็ต้องไปหาข้อมูลมาโดยต้องไปดูที่ข้อกฎหมาย อย่าเพิ่งมาถามอะไรตอนนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเยอะแยะไปหมด ที่ผ่านมามีการปลดมาเยอะแยะแล้ว 600-700 คนแล้วมีการคืนเครื่องราชฯ หรือเปล่าก็ต้องไปดูว่ามีกรณีใดบ้าง
       
       “วันนี้อย่าไปสนใจว่าชื่ออะไร ถ้าผิดก็ปลดและถอดยศทั้งหมด ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าไม่ถอด ดำเนินการมา 600-700 คน แต่เป็นเพราะสื่อไม่สนใจเพราะคนพวกนี้ชื่อมันโนเนม มีการกระทำความผิดทั้งตำรวจทั้งทหารก็ถอดยศทั้งหมด แต่บังเอิญเป็นคนนี้ยุ่งอยู่นี่ยุ่งไม่เลิก ก้าวไม่พ้นสักทีให้ความสำคัญไปเรื่อยมันก็สู้อยู่อย่างนี้สู้ไม่เบิก ลองไม่สนใจสัก 10 วันมันจะตายหรือเปล่าไม่รู้ ไม่ต้องทำอะไรกันตื่นเต้นกันไปหมด ขยับตัวทีก็ตื่นเต้นทำไมจะต้องไปตื่นเต้นกันนัก”
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่านายกรัฐมนตรียังมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงสู้ต่ออยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมไม่ได้มองอะไรทั้งนั้น วันนี้ผมพูดถึงสื่อพอเขาขยับตัวนิดหนึ่งสื่อก็ไปพูดว่าเขาสู้อยู่อีกฝ่ายก็สู้ต่อ พอสื่อไปเขียนอย่างนี้มันก็เลยสู้กันอยู่อย่างนี้ สำหรับผมไม่สู้กับใครถ้าเข้ามาก็จับเท่านั้น ถ้าส่งเสริมใครกระทำความผิดก็จับ จับไอ้คนทำ ขณะนี้ก็กำลังทำอยู่ทั้งหมดแต่ขอร้องว่าอย่าทำกันเลย สื่อเองก็อย่าไปเปิดพื้นที่ให้คนนั้นคนนี้พูด เดือดร้อนกันไปหมดแล้วทุกคนก็ไปบอกว่าบ้านเมืองไม่สงบสุขเป็นเพราะผมเข้ามาแล้วมันจะจบหรือไม่ล่ะแบบนี้ ถ้าผมไม่เข้ามาป่านนี้รอบทำเนียบฯ ก็ยังคงไม่จบม็อบ ก็คงยังอยู่ตรงนี้โดยรอบ ตายกันอีกเป็นร้อย แล้วสื่อเดือดร้อนกันหรือไม่ หรือเป็นเพราะไม่ใช่ญาติฉัน ปัดโธ่”
       
       พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เดินทางไปประเทศจีนว่า ไม่ได้มอบหมายให้ไปพูดคุยเรื่องอุยกูร์ พล.อ.ประวิตรก็บอกแล้วว่าจะไม่คุยหากเขาไม่คุย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจีน เป็นปัญหาของบ้านเรา บางเรื่องอาจเป็นปัญหาระหว่างประเทศก็จะพูดแต่คนที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยพูดว่าเป็นคนพวกไหน การจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ ก็ดูตามพาสปอร์ต ต้องพิสูจน์สัญชาติก่อน ประเทศต้นทางต้องมาชี้แจงว่าพาสปอร์ตใช่หรือไม่ใช่ ถ้าใช่ออกมาได้อย่างไร ถ้าพาสปอร์ตถูกต้องก็ไม่ผิดเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ผิดเรื่องหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพราะตรงกับที่แฟลตที่จับกุมได้ ทำไม่ต้องพูดให้เดือดร้อนกัน จากนี้ต้องสอบต่อไปว่าใครเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ว่าประเทศกับประเทศมีปัญหากัน
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องอุยกูร์ ทางจีนได้ให้ข้อมูลอะไรกับเราบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ได้ให้อะไรเพราะไม่ได้เกี่ยวกับเขา เมื่อถามต่อว่าอุยกูร์บางกลุ่มอาจเคยเคลื่อนไหวในประเทศจีน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าเป็นอุยกูร์ที่ไหน
       
       ส่วนการจับกุมผู้ต้องสงสัยคนที่ 3 ที่ จ.นราธิวาสนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็จับมา โยงคนไหนก็จะจับเรื่อยๆ เมื่อถามถึงกรณีที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) บอกว่าจะมีการปรับโครงสร้างความมั่นคง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นการปรับปรุงอุปกรณ์เทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง ไม่ถือว่าเป็นการปรับโครงสร้าง เป็นการพัฒนา ถ้าปรับโครงสร้างความมั่นคงคือการยุบ สมช.ตั้งกระทรวง แค่นี้เป็นการพัฒนาเครื่องมือว่าสมบูรณ์หรือยัง ที่ผ่านมาเป็นเบี้ยหัวแตก แต่ไปเสียในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องไม่บ่น ส่วนเครื่องมือพอจะซื้อก็บอกแพง โกง ทุจริต แต่วันนี้กลับพูดว่าทำไมไม่ทันสมัย ส่วนเรื่องบูรณาการงานด้านความมั่นคงนั้น ตนทำมาสองปีแล้ว สั่งคนเดียวให้มีเอกภาพ