PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ซีเรียยึดอาวุธได้จำนวนมากสงสัยตุรกีส่งให้ไอเอส

ทางการซีเรียยึดรถบรรทุกขนอาวุธเพียบ เอ๊ะเอ... ของใครเอ๋ย?, FSA ลูกกระเป๋งของสหรัฐฯและพันธมิตรสารภาพว่าไอซิสค้าน้ำมันกับตุรกี, พรรคการเมืองของตุรกีร่วมแฉ ปธน.Erdogan ร่วมมือกับพวกไอซิสค้าน้ำมันเถื่อน อยากได้หลักฐานใช่ไหม มีคนช่วยจัดให้เยอะแยะ ปูตินบอกแล้วว่า "อย่า" ก็ไม่ฟัง เป็นไงเล่าคราวนี้ ฮ่าๆๆ
-----------

1.) มาอ่านข่าวมันส์ๆต่อนะครับ... วันที่ 1 ธ.ค.58 สำนักข่าว FNA ของอิหร่านพาดหัวข่าวว่า "ทางการซีเรียยึดรถบรรทุกขนอาวุธเอาไว้ได้" (Syrian Authorities Seize Truck Loaded with Weapons)

รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันอังคารที่่ผ่านมาทางการของซีเรียสามารถยึดรถบรรทุกคันหนึ่งที่ขนระเบิดขว้าง และเป็นไรเฟิลจำนวน 7,250 กระบอก และกระสุนปืนกลมุ่งหน้าไปยังจังหวัด Hama 

ในวันจันทร์กลุ่มก่อการร้ายได้รับความเสียหายอย่างหนักเนื่องจากถูกกองทัพซีเรียโจมตีใส่เป้าหมายที่เป็นขบวนรถบรรทุกซึ่งเต็มไปด้วยลูกกระสุน และยุทโธปกรณ์ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตุรกีที่จะส่งไปยังจังหวัด Idlib ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย


แหล่งข่าวภาคสนามในจังหวัด Idlib กล่าวว่ากองทัพได้ทำลายขบวนรถบรรทุกที่ยาวเหยียดซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องกระสุน อาวุธ และเครื่องมือทางทหาร และอุปกรณ์ต่างๆบนถนนที่จะส่งไปให้กลุ่มก่อการร้ายอัลนุสรา ฟรอนท์ และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ที่ปฏิบัติการอยู่ใต้ร่มเงาของกลุ่ม Jaish al-Fateh ซึ่งขนอาวุธออกกจากประเทศตุรกีผ่านจุดผ่านแดน Bab al-Hawa Border Crossing (ระหว่างตุรกีและซีเรีย) ขบวนรถบรรทุกมุ่งหน้าไปยังเมือง al-Dana 36 กม.ทางตอนเหนือของจังหวัด Idlib

[เสร็จกองทัพซีเรียจนได้ ขอฟรีก็มีในโลกด้วยนะนี่ นึกไม่ออกว่าทางตุรกีจะทำหน้ายังไงที่ได้อ่านข่าวนี้ อยากรู้ไหมว่าทำอย่างไรกองทัพซีเรียถึงรู้และจับได้? ก็โดรนและดาวเทียมของรัสเซียคอยจับตาดูอยู่ที่จุดผ่านแดน ตุรกี-ซีเรียอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงนานแล้วนะสิครับ เขาเก็บตามแกรอยเส้นทางขนอาวุธและน้ำมันเถื่อนของพวกนี้มานานแล้ว และก็มีพวก FSA ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่มีหมายจับมามอบตัวอยู่เรื่อยๆ มีรึที่ทางการจะไม่ทราบความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามบ้างหนะ - ผู้แปล]


2.) ในวันเดียวกันนี้สำนักข่าว FNA (Fars News) ของอิหร่านพาดหัวข่าวอีกว่า "FSA บอกว่ามีหลักฐานว่าไอซิสกับตุรกีค้าน้ำมันด้วยกัน" (FSA Says Has Proof of ISIL's Oil Deal with Turkey)

สมาชิกระดับสูงของกองกำลังปลดปล่อยซีเรีย (FSA) ที่รับผิดชอบงานด้านข่าวสารได้กล่าวกับสื่อฯของรัสเซียว่า กลุ่มของพวกเขาได้รับภาพถ่ายสัญญาที่มีการลงนามโดยตุรกีเพื่อซื้อทรัพยากรน้ำมันจากขบวนการก่อการร้ายไอซิสในอิรัคและซีเรีย

เมื่อต้นเดือนนี้สื่อฯเยอรมัน (หนังสือพิมพ์ Bild) ก็ได้รายงานว่า การโจมตีทางอากาศของรัสเซียใส่แหล่งเก็บน้ำมันทำให้ตุรกีเกิดความไม่พอใจเป็นธรรมดาซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่จากพวกไอซิส

ตุรกีกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่สำหรับน้ำมันเถื่อนของพวกไอซิส นักธุรกิจชาวตุรกีได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการซื้อน้ำมันกับพวกไอซิส ซึ่งทำให้พวกเขามีรายได้ถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อสัปดาห์



นานมาแล้วที่ทำเนียบเครมลินได้รับข้อมูลว่ามีการขนส่งน้ำมันจากเขตที่ถูกยึดครองโดยพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสเข้าไปในประเทศตุรกี และข้อเท็จจริงก็คือว่า กองทัพอากาศของรัสเซีย (Russian Aerospace Forces) ได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีใส่สิ่งปลูกสร้างของพวกไอซิสซึ่งทำให้กรุงอังการาไม่อาจจะเมินเฉยได้อีกต่อไป สำนักข่าว Sputnik ของรัสเซียกล่าว [หมายถึงว่า สื่อฯรัสเซียกำลังเย้ยกรุงอังการา - ผู้แปล]



3.) ต่อมาในวันที่ 2 ธ.ค.58 FNA ก็พาดหัวข่าวอีกว่า "พรรคการเมืองของตุรกีแฉว่า Erdogan ร่วมมือกับผู้ก่อการร้ายไอซิสค้าน้ำมันเถื่อน" (Turkish Political Party: Erdogan Cooperating with ISIL in Oil Trade)

Aran Erdam สมาชิกอาวุโสของพรรค Republican People's Party (CHP) ของตุรกี เปิดเผยว่าประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan และญาติของเขาได้ซื้อน้ำมันเถื่อนจากกลุ่มก่อการร้ายไอซิส


"หลักฐานแสดงให้เห็นว่าขบวนรถบรรทุกที่ถูกทิ้งระเบิดใส่โดยเครื่องบินของรัสเซียเมื่อเดือนที่ผ่านมาในขณะที่กำลังบรรทุกน้ำมันมุ่งหน้าไปยังประเทศตุรกีผ่านอิรัคจากภาคเหนือของซีเรีย" Erdam กล่าว

Erdam กล่าวเพิ่มว่า มีรถบรรทุกน้ำมันถึง 120 คันที่เป็นของบริษัท Bayrak Company ของตุรกีถูกทำลายโดยการโจมตีทางอากาศจากรัสเซีย ซึ่งมีนาย Berat Al-Bayrak ลูกเขยของปธน. Erdogan เป็นเจ้าของ และยังเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานอีกด้วย


บริษัท Bayrak Company มีรถบรรทุกน้ำมันถึง 500 คัน Necdet Pamir ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานของตุรกีกล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันอย่างเป็นทางการของตุรกีลดลงถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารัฐบาลของนาย Erdogan มีข้อตกลงกับพวกไอซิสอย่างลับๆ

Pamir กล่าวว่า ข้อตกลงระหว่างตุรกีกับพวกไอซิสย้อนหลังกลับไปในช่วงฤดูร้อนของปี 2012 เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้าย Takfiri เข้ายึดครองเมือง Raqqa (หลังเริ่มสงครามกลางเมืองในซีเรียได้ประมาณหนึ่งปี)

อดีตรมช.ต่างประเทศของตุรกีก็ยืนยันด้วยว่า รัฐบาลของ Erdogan รับซื้อน้ำมันจากผู้ก่อการร้ายไอซิส "พรมแดนตุรกีเปิดให้พวกไอซิสและกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆสัญจรผ่านไปมาระหว่างซีเรียและตุรกี" Farouq Loqoqlou กล่าว

ปธน. Recep Tayyip Erdogan สัญญาอย่างหนักแน่นว่าจะออกจากตำแหน่งหากมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่ากรุงอังการารับซื้อน้ำมันจากกลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ไอซิส)

[ข้อมูลเยอะมาก ทั้งลูกชายของ Erdogan ก็มีเอี่ยวด้วย สื่อฯรัสเซียก็แฉไปตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วด้วย ดูซิว่าจะมีใครเป็นไข้โป้งหรือถูกปลดออกจากตำแหน่งเหมือนกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สามนายที่สกัดขบวนรถบรรทุกอาวุธจากตุรกีที่จะส่งไปให้กลุ่มก่อการร้ายต่างๆในซีเรียตามที่เป็นข่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกหรือไม่ ขนาดสื่อฯตุรกีเอาข้อมูลออกมาเปิดเผยก็ยังถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหาพยายามล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่คอรัปชั่นบรรลัย เหมือนรัฐบาลไหนก็ไม่รู้นะ ที่ไม่ถูกจับก็ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศก็เยอะ มาจากการเลือกตั้งซะอย่าง อำนาจอยู่ในมือ ทำอะไรก็ไม่ผิด Oopz! เพลินไปหน่อยครับ ขออภัย คริๆ - ผู้แปล]

4.) วันที่ 2 ธ.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียเปิดเผยตุรกีและพวกดาอิชทำธุรกิจน้ำมันเลือดร่วมกันอย่างไร" (Russia Reveals How Turkey and Daesh Make 'Bloody' Oil Business) [สมพรปากแน่ Erdogan เอ๋ยท้าใครไม่ท้า ดันไปท้าปูตินซะนี่ งานนี้สื่อฯรัสเซียเล่นแรงมาก คำพูดแต่ละคำนี่กลั่นกรองมาเป็นอย่างดี อ้อ… พักนี้รู้สึกว่า Sputnik จะไม่นิยมเรียกพวกผู้ก่อการร้ายว่า "ไอซิส/ไซซิล/ไอเอส/รัฐอิสลาม" แล้วนะครับ จะใช้คำว่า "ดาอิช/Daesh" แทน ซึ่งก็ดีนะ เพราะว่าจะช่วยลดภาพพจน์ที่เป็นลบต่อบางศาสนาได้ด้วย - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า ระหว่างแถลงข่าวในกรุงมอสโคว์เมื่อวันพุธนี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้แสดงภาพถ่ายทางดาวเทียมที่แสดงให้เห็นถึงพวกดาอิชลักลอบค้ามันเถื่อนผ่านชายแดนตุรกี-ซีเรีย ทางกระทรวงยังได้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ตั้งของแหล่งค้าน้ำมันเถื่อนด้วย

Anatoly Antonov รมช.กลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า "ปธน. Recep Tayyip Erdogan ของตุรกีและครอบครัวของเขาได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขนส่งน้ำมันเถื่อนจากพวกไอซิส ซึ่งเรียกกันในภาษาอาหรับว่าพวก 'ดาอิช' (Daesh) และกลุ่มที่มีกิจกรรมต้องห้ามในประเทศรัสเซีย"

"รายได้จากการขายน้ำมัน เป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ที่สำคัญที่สุดของกิจกรรมของพวกไอซิสในซีเรีย พวกเขามีรายได้ถึงปีละประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7.1 หมื่นล้านบาท) ใช้เงินเหล่านี้ในการจ้างผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงจากทั่วโลก ละติดอาวุธ อุปกรณ์ และสรรพาวุธให้กับพวกเขา" Antonov แถลงข่าวต่อสื่อฯมวลชนในกรุงมอสโคว์

แต่ Recep Tayyip Erdogan ปธน.ของตุรกีจะไม่ยอมรับว่ามีกำไรจากการค้าน้ำมันเถื่อนกับพวกผู้ก่อการร้าย แม้ว่าใบหน้าของเขา "จะถูกป้ายด้วยน้ำมันเถื่อน" ก็ตาม รมช.กลาโหมของรัสเซียกล่าว

"ไม่มีผู้นำระดับสูงคนใดของตุรกี หรือโดยเฉาะ Mr.Erdogan จะยอมลาออกจากตำแหน่ง หรือยอมรับสิ่งใดๆเลย แม้ว่าใบหน้าของพวกเขาจะถูกป้ายด้วยน้ำมันที่ขโมยไปก็ตาม" Anatoly Antonov กล่าว

"มันขึ้นอยู่กับประชาชนชาวตุรกีที่จะตัดสินใจเอาเอง จุดประสงค์ของพวกเราก็คือต่อสู้กับขบวนการก่อการร้าย วัตถุประสงค์ของพวกเราก็คือปิดตายแหล่งการเงินของขบวนการก่อการร้าย" Antonov เน้นย้ำ

Sergei Rudskoy ประธานกองบัญชาการปฏิบัติการของเสนาธิการกองทัพรัสเซียกล่าวว่า "อย่างน้อยที่สุดก็มีรถบรรทุกจำนวน 1,722 คันจอดอยู่ตามข้างถนนซึ่งตรวจพบโดยอุปกรณ์สอดแนมจากอวกาศของรัสเซีย ควรจะตั้งข้อสังเกตไว้ด้วยว่าตังแต่เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินของรัสเซียใส่สิ่งปลูกสร้างแหล่งน้ำมันที่ตกอยู่ในมือของพวกไอซิส จำนวนของรถบรรทุกที่จอดอยู่ในพื้นที่ต่างๆได้ลดลงเป็นอย่างมาก... รัสเซียยังไม่เห็นการโจมตีใดๆจากกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯใส่ขบวนรถบรรทุกน้ำมันของพวกไอซิสเลย" Sergei Rudskoy กล่าว

Lt. Gen. Sergei Rudskoy กล่าวว่า "มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะสังเกตเห็นพวกนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่ามีการโจมตีทางอากาศโดยกองกำลังพันธมิตรใส่ขบวนรถบรรทุกน้ำมันเลย"

Sergei Rudskoy  กล่าวเพิ่มว่าน้ำมันที่ได้จากพื้นที่ควบคุมโดยพวกไอซิสในซีเรียจะถูกส่งลงเรือไปกลั่นในประเทศที่สามหลายประเทศหลังจากที่ขนส่งไปยังตุรกีแล้ว

"การสอดแนมทางอากาศได้แสดงให้เห็นอย่างน่าเชื่อถือว่าหลังจากที่ข้ามพรมแดนไปแล้ว พวกขบวนรถบรรทุกที่ขนน้ำมันก็จะมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ Dortyol และ Iskenderun (ในตุรกี)" Rudskoy ชี้ให้เห็น

5.) งานนี้รัสเซียเป็นฝ่ายรุกทุกสนามรบก็ว่าได้ ทั้งสนามรบภาคพื้นดินในซีเรีย (โดยกองทัพซีเรียและพันธมิตร) ในเวทีทางการเมืองผ่านสื่อฯ ในท้องฟ้าคือฝูงเครื่องบินท้ิงระเบิดและเครื่องบินรบคุ้มกันภัย และระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทำให้นาโต้ขวัญกระเจิงด้วย และที่สำคัญคือในเวทีนานาชาติที่ยูเอ็น น่าสนใจการเดินเกมของปูตินมาก

วันที่ 2 ธ.ค.58 RT news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียต้องการที่จะหยุดการค้าน้ำมันเถื่อนของพวกไอซิส - Churkin กล่าว" นาย Vitaly Churkin เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติให้กล่าวกับสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียว่า รัสเซียกำลังทำงานร่วมกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเอกสารที่จะบังคับให้มีการดำเนินการตามมติที่ 2199 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะระงับการค้าน้ำมันที่ผิดกฎหมายกับกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ

Samantha Power เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็นกล่าวว่า ในเรื่องนี้อเมริกามีเป้าหมายร่วมกันกับรัสเซีย เนื่องจากว่ามันจะเป็นการทำงานเพื่อนำไปสู่การระงับการทำธุรกรรมทางการเงินของขบวนการก่อการร้าย

[นี่คือไม้ตายอีกไม้หนึ่งของรัสเซียที่จะใช้บีบตุรกีและพรรคพวกในเวทีนานาชาติ แน่นอนว่าจีนก็หนุนรัสเซียอยู่ในเวทีนี้ด้วยเช่นกัน คราวนี้ถ้าตุรกีไม่ขยับทัพเข้าไปในซีเรีย หรือไม่ยอมส่งเครื่องบินรบของตนเองเข้าไปให้รัสเซียยิงเหนือน่านฟ้าของซีเรียตามที่สหรัฐฯกำลังชี้มือสั่งอยู่ในตอนนี้ สหรัฐฯและอียูก็จะร่วมมือกับรัสเซียในเวทีนี้คือ แซงชั่นด้านการเงินตุรกีซะเลย โถๆๆๆ… เพื่อนกันแท้ๆ กินมาด้วยกัน แต่พอถูกจับได้ ตุรกีรับไปคนเดียวก็แล้วกันนะ ซาอุดิฯจงดูตัวอย่างไว้นะครับ วันข้างหน้าที่สหรัฐฯและอียูเริ่มจะจนตรอกกรณีสงครามเยเมน และเมื่อเขาพบว่าตุรกีหมดประโยชน์เขาก็จะเริ่มถีบหัวส่งแบบนี้แหละ - ผู้แปล]

[อ้อ… ก่อนจะไปสู่ข่าวต่อไปขอเพิ่มอีกนิดหน่อยนะครับ Sputnik รายงานว่า อิรัคร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเริ่มทำการสอบสวนขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ซวยเลยตุรกี ซาอุดิอาระเบีย และยูเออี ทางสหรัฐฯและอียูเขาวางหมากสองชั้นเอาไว้หมดแล้ว คือเขาให้พวกนี้ซื้อน้ำมันเถื่อนจากพวกไอซิสเป็นด่านหน้า จากนั้นก็ฟอกขาวในแต่ละประเทศและส่งออกอย่างถูกกฎหมาย ไม่สามารถเอาผิดกับผู้ซื้อรายที่สองได้หรือที่สามได้ โชคดีนะครับตุรกี - ผู้แปล]

6.) มาดูเรื่องเบาๆกันบ้างนะครับ วันที่ 2 ธ.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เรือรบจากกองเรือแฟซิกของรัสเซียร่วมซ้อมรบการป้องกันภัยทางอากาศในปฏิบัติการอินทราเนวี-2015 (กับอินเดีย)" (Russia Pacific Fleet Ships Practice Air Defense at Indra Navy-2015 Drills) [อัยย๊ะ! ฮี่ๆๆ อินเดียเริ่มขยับแล้วครับ นี่ก็หนึ่งในพันธมิตรของรัสเซียนะครับ ที่บอกว่าซ้อมๆกันนี่ บางครั้งเขาก็เอาจริงนะครับทำเป็นเล่นไป เขาเรียกว่าลับ-ลวง-พราง หนะ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า กลุ่มเรือรบจากองเรือแปซิฟิกของรัสเซียปฏิบัติภารกิจต่อสู้ในขณะเข้าร่วมการซ้อมรบระหว่างรัสเซียกับอินเดียภายใต้ปฏิบัติการ Indra Navy-2015 แถลงการประกาศเมื่อวันพุธนี้

รายงานข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่าท่าเรือของกองเรือแปซิฟิกของรัสเซียซึ่งประกอบด้วยเรือครูสเซอร์ Varyag ติตตั้งขีปนาวุธนำวิถี (guided-missile cruiser Varyag) เรือพิฆาต Bystry เรือบรรทุกน้ำมัน Boris Butoma และเรือลากจูงกู้ภัย Alatau มุ่งเข้าสู่มหาสมุทรอินเดียผ่านช่องแคบมะลักกา (Strait of Malacca) การซ้อมรบจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ธันวาคม รัสเซียและอินเดียจะทำงานร่วมกันในด้านการต่อต้านเรือดำน้ำ ต่อต้านอากาศยาน และต่อต้านเรือรบ

7. ข่าวเบาๆอีกซักข่าวนะครับ วันที่ 1 ธ.ค.58 Sputnik news รายงานว่ามณฑลทหารภาคใต้ของรัสเซียแถลงข่าวว่าเรือลาดตระเวนจากกองทัพเรือรัสเซียจำนวน 3 ลำจะเข้าสู่ทะเลแคสเปี้ยนเพื่อซ้อมรบ [ซ้อมรบที่แคสเปี้ยนอีกแล้วครับท่าน จะเอาข้าวหลามลอยฟ้าจากทะเลแคสเปี้ยนไปแจกไอซิสในซีเรียเป็นรอบที่สามอีกหรือเปล่าหนอ? - ผู้แปล]

8.) สุดท้ายกับข่าวเบาๆอีกซักข่าวนะครับ... วันที่ 1 ธ.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "กองทัพเรือของรัสเซียจะส่งเรือรบจำนวน 70 ลำออกไปท่องมหาสมุทรทั่วโลก" (Russian Navy Deploys 70 Ships Across Earth's Oceans) [เอาหละสิ... เริ่มหนุกขึ้นมาบ้างแล้วไหมหละ บอกแล้วว่าอย่าแหย่หนวดหมี - ผู้แปล]

Capt. 1st Rank Igor Dygalo โฆษกกองทัพเรือรัสเซียกล่าวว่า มีเรือรบของรัสเซียประมาณ 70 ลำท่องไปทั่วโลกเพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการเริ่มต้นปีการศึกษาในวันอังคารนี้

Dygalo กล่าวว่า "เรือรบประมาณ 70 ลำจากกองทัพเรือ (รวมทั้งเรือดำน้ำด้วย) ได้เริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ ปฏิบัติภารกิจโดยตรงในทะเลในพื้นที่ต่างๆของมหาสมุทรทั่วโลก กองบัญชาการต่างๆของกองทัพเรือจะมุ่งความสำคัญไปที่การเตรียมความพร้อมในการจัดกลุ่มกองกำลังร่วมกัน เปิดตัวการฝึกอบรมในสถานที่กับหน่วยต่างๆจากกองทัพเรือ หน่วยแยกปฏิบัติการเฉพาะกิจ (detachments) และการจัดกลุ่มยุทวิธี (tactical groups)"

ป.ล. Sputnik รายงานว่าทางการรัสเซียจะเรียกตัวนักศึกษาชาวรัสเซียที่อยู่ในตุรกีในโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างประเทศกับรัสเซียทั้งหมดในเร็วๆนี้ จบเลยตุรกี หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ ผู้นำตุรกีอาจจะมองว่าประชาชนและประเทศชาติชิ_หายช่างมันขอให้นักการเมืองร่ำรวยจากการคอรัปชั่นก็พอ

เพจ: ปอกเปลือก ทรราช 
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
---------
https://www.rt.com/news/324263-russia-briefing-isis-funding/
https://www.rt.com/news/324303-isis-oil-routes-turkey/
http://en.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13940910001223
http://en.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13940910001083
http://en.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13940911000480
http://sputniknews.com/world/20151202/1031114219/syria-turkey-oil-routes.html
http://sputniknews.com/politics/20151128/1030895284/Russia-Right-ISIL-OilI-Going-Turkey.html
http://sputniknews.com/russia/20151202/1031100729/russia-defense-ministry-briefing.html
http://sputniknews.com/politics/20151202/1031131372/iraq-turkey-oil-trade.html
http://sputniknews.com/politics/20151202/1031135920/evidence-mounts-erdogan-involvement-oil-smuggling-resign.html
http://sputniknews.com/russia/20151202/1031137834/russia-revelation-turkey-oil-smuggling.html
http://sputniknews.com/world/20151202/1031142596/iraq-oil-smuggling-.html
http://sputniknews.com/russia/20151201/1031037440/russia-drills-caspian-sea.html
https://www.rt.com/news/324207-churkin-un-oil-isis-turkey/
http://sputniknews.com/russia/20151201/1031039165/russia-turkey-students.html
http://sputniknews.com/russia/20151202/1031101161/russia-pacific-fleet-drills.html
http://sputniknews.com/russia/20151201/1031045002/russian-navy-ships-oceans.html

นายกฯ

นายกฯ ถก นักธุรกิจ 3 ชั่วโมง ตั้ง“อิสระ”นำขับเคลื่อน ประสานกับรัฐบาล เผย2ปีเอกชน ไม่รู้สิ่งที่รัฐบาลทำ ลั่นสัมฤทธิ์ผลก่อนก.ค.60
เมื่อเวลา 17.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ นำนักธุรกิจ 24 รายใหญ่ของไทย หารือ โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการพูดคุยหลายมิติโดยเฉพาะการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ สิ่งที่รัฐบาลได้สั่งการไป ไม่สามารถทำเพียงคนเดียวได้ ดังนั้นนาสมคิดจึงเชิญบรรดานักธุรกิจที่เป็นเครื่องจักรสำคัญมาหารือแต่ไม่ใช่ว่าจะหาวิธีเอื้อประโยชน์ให้กับนักธุรกิจ เป็นการพูดถึงว่าจะร่วมมือกับรัฐบาลได้อย่างไรเพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อย สร้างความเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจใหญ่-กลาง-เล็ก และเอสเอ็มอี มีการพูดถึงการให้ความรู้การตลาด การออกแบบ การสร้างนักธุรกิจใหม่ และระบบการศึกษา ว่าจะช่วยกันดูแลครู และสถานการศึกษาอย่างไร เนื่องจากเอกชนมีเงินสำหรับ ซีเอสอาร์(ความรับผิดชอบต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อมขององค์กร)อยู่แล้ว ตนได้กำชับให้ทำในทุกพื้นที่ทุกภูมิภาค ทั้งหมดล้วนอยู่ในแผนการปฏิรูปประเทศ ส่วนการเชื้อเชิญนักธุรกิจให้มาลงทุนในไทยนั้น นักธุรกิจ สนใจแต่ที่ยังช้าอยู่เพราะยังไม่มีพ.ร.บ.ร่วมทุน รัฐบาลนี้กำลังพิจารณาพ.ร.บ.ดังกล่าวอยู่ การลงทุนไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆใครจะมาก็มาได้จำเป็นต้องพึ่งพ.ร.บ.อย่างเรื่องการศึกษาก็มีพ.ร.บ.อยู่ทุกแท่ง แตะไม่ได้เลยมี แล้วก็ไม่ได้ทำให้การศึกษาดีขึ้น มีแล้วก็แค่แบ่งเงินแบ่งงบประมาณกันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาคธุรกิจได้สะท้อนอะไรถึงรัฐบาลบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มีการสะท้อน แต่เขาไม่รู้ถึงสิ่งที่รัฐบาลทำมาเกือบ 2 ปี ที่ไม่รู้เพราะต่างคนต่างก็ทำงานเพราะนักธุรกิจไม่ค่อยมีเวลาอยู่แล้วไม่สามารถที่จะมาฟังตนได้ และทีมประชาสัมพันธ์รัฐบาลก็เข้าไม่ถึง แต่ต่อไปจะมีคณะกรรมการขับเคลื่อนฝ่ายเศรษฐกิจของภาคเอกชนทั้งหมดโดยมีนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าไทย เป็นแกนนำ โดยจะดูว่าสามารถสนับสนุนกิจกรรมใดที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร ทั้งงานวิจัยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ถ้าไม่เตรียมพร้อมเรื่องพวกนี้ต่อไปจะเสี่ยงทั้งสิ้น เพราะมาจากความเสี่ยงของสถานการณ์โลก พันธกรณีระหว่างประเทศ ข้อสัญญาทางการค้า ล้วนมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเราไม่มีความเข้มแข็งในเรื่องเหล่านี้มาก่อนเลย อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจมีข้อเสนอเยอะแยะ ทั้งกฎหมาย สัญญา ตนก็บอกว่าต้องปรับจูนให้ตรงกับนโยบายของรัฐเพราะหน้าที่ของข้าราชการคือรักษาผลประโยชน์ ส่วนหน้าที่ของภาคธุรกิจคือทำกำไรให้ได้มากที่สุดแล้วจะเจอกันได้อย่างไร การปรับจูนภาคธุรกิจต้องลดกำไรลงบ้างแต่รัฐจะหาสิทธิประโยชน์ให้ทั้งเรื่องภาษี กฎหมายการค้า กฎหมายร่วมทุน โดยต่อไปภาคธุรกิจสามารถส่งความเห็นสะท้อนปัญหาเข้ามาและรัฐบาลจะนำไปขับเคลื่อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภาคธุรกิจที่ได้หารือกันในวันนี้มีความพร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาล แต่ไม่ใช่จะพร้อมทั้งหมดเพราะต้องดูว่าเขาศักยภาพอย่างไรบ้าง และตนไม่สมารถสั่งภาคธุรกิจได้ หรือจะใช้มาตรา 44 สั่งการก็ไม่ได้ เรื่องประชารัฐเป็นความร่วมมือของรัฐข้าราชการ เอกชนภาคธุรกิจ ซึ่งต้องปรับจูนเข้าหากันให้ได้ ภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ ต้องมาคุยกัน รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนเรื่องเศรษฐกิจโดยวันหน้าจะเรียกมาคุยให้หมดทุกส่วนเพราะถ้าไม่คุยจะติดปัญหาที่ทุกคนมักเอาหลักการกฎหมาย สิทธิมนุษยชนทำให้ไม่เกิดอะไรขึ้น วันนี้การเมืองเข้ามาทาบทับน้อย เพราะตนไม่ใช่นักการเมืองแม้จะถูกมองว่าเป็นนักการเมืองในสายตาแต่ตนก็ทำงานของตน และจากนี้เมื่อมีคณะกรรมการขับเคลื่อนภาคเอกชนนายสมคิดจะเป็นผู้ไปคุย เมื่อถึงวาระสำคัญตนจะเข้าร่วมประชุม เพราะเป็นผู้กำหนดนโยบาย
เมื่อถามว่า ความร่วมมือกับภาคธุรกิจจะเป็นรูปธรรมเมื่อใด พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “รอมาชาติหนึ่งแล้วยังไม่เกิดเลย เธอจะรออีกสักหน่อยไม่ได้หรือ เธอจะเอาเมื่อไหร่ วันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ เดือนหน้า ลูกกี่เดือนแล้ว เดี๋ยวลูกออก นี่อย่างไรมันถึงต้องมาแบ่งว่า 1-2-3 อะไรที่จะเกิดขึ้นได้ในตอนที่ผมอยู่ในเดือนก.ค.60เดี๋ยวไปหามา แล้วที่เหลือก็ส่งแผนปฏิรูปแล้วค่อยไปไล่กับรัฐบาลใหม่เขาทำเอา แต่จะเริ่มให้ทุกอย่าง โดยจะให้ความสำคัญกับเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานก่อน

นายกฯชวนนักธุรกิจ

นายกฯ ชวนบิ๊กนักธุรกิจ มหาเศรษฐี เดินตลาดนายกฯ และถ่ายภาพกับภาพตึกไทยคู่ฟ้า ร่วมกัน ขอมาช่วยปชช.ระดับล่าง/นายกฯ ถก นักธุรกิจ 3 ชั่วโมง ตั้ง“อิสระ”นำขับเคลื่อน ประสานกับรัฐบาล เผย2ปีเอกชน ไม่รู้สิ่งที่รัฐบาลทำ ลั่นสัมฤทธิ์ผลก่อนก.ค.60
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ นำนักธุรกิจ 24 รายใหญ่ของไทย หารือ โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้น ไปถ่ายภาพหมู่ บนตึกไทยฯ และชวนลงมาเดินตลาดนายกฯ
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการพูดคุยหลายมิติโดยเฉพาะการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ สิ่งที่รัฐบาลได้สั่งการไป ไม่สามารถทำเพียงคนเดียวได้ ดังนั้นนาสมคิดจึงเชิญบรรดานักธุรกิจที่เป็นเครื่องจักรสำคัญมาหารือแต่ไม่ใช่ว่าจะหาวิธีเอื้อประโยชน์ให้กับนักธุรกิจ เป็นการพูดถึงว่าจะร่วมมือกับรัฐบาลได้อย่างไรเพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อย สร้างความเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจใหญ่-กลาง-เล็ก และเอสเอ็มอี มีการพูดถึงการให้ความรู้การตลาด การออกแบบ การสร้างนักธุรกิจใหม่ และระบบการศึกษา ว่าจะช่วยกันดูแลครู และสถานการศึกษาอย่างไร เนื่องจากเอกชนมีเงินสำหรับ ซีเอสอาร์(ความรับผิดชอบต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อมขององค์กร)อยู่แล้ว ตนได้กำชับให้ทำในทุกพื้นที่ทุกภูมิภาค ทั้งหมดล้วนอยู่ในแผนการปฏิรูปประเทศ ส่วนการเชื้อเชิญนักธุรกิจให้มาลงทุนในไทยนั้น นักธุรกิจ สนใจแต่ที่ยังช้าอยู่เพราะยังไม่มีพ.ร.บ.ร่วมทุน รัฐบาลนี้กำลังพิจารณาพ.ร.บ.ดังกล่าวอยู่ การลงทุนไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆใครจะมาก็มาได้จำเป็นต้องพึ่งพ.ร.บ.อย่างเรื่องการศึกษาก็มีพ.ร.บ.อยู่ทุกแท่ง แตะไม่ได้เลยมี แล้วก็ไม่ได้ทำให้การศึกษาดีขึ้น มีแล้วก็แค่แบ่งเงินแบ่งงบประมาณกันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาคธุรกิจได้สะท้อนอะไรถึงรัฐบาลบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มีการสะท้อน แต่เขาไม่รู้ถึงสิ่งที่รัฐบาลทำมาเกือบ 2 ปี ที่ไม่รู้เพราะต่างคนต่างก็ทำงานเพราะนักธุรกิจไม่ค่อยมีเวลาอยู่แล้วไม่สามารถที่จะมาฟังตนได้ และทีมประชาสัมพันธ์รัฐบาลก็เข้าไม่ถึง แต่ต่อไปจะมีคณะกรรมการขับเคลื่อนฝ่ายเศรษฐกิจของภาคเอกชนทั้งหมดโดยมีนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าไทย เป็นแกนนำ โดยจะดูว่าสามารถสนับสนุนกิจกรรมใดที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร ทั้งงานวิจัยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ถ้าไม่เตรียมพร้อมเรื่องพวกนี้ต่อไปจะเสี่ยงทั้งสิ้น เพราะมาจากความเสี่ยงของสถานการณ์โลก พันธกรณีระหว่างประเทศ ข้อสัญญาทางการค้า ล้วนมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเราไม่มีความเข้มแข็งในเรื่องเหล่านี้มาก่อนเลย อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจมีข้อเสนอเยอะแยะ ทั้งกฎหมาย สัญญา ตนก็บอกว่าต้องปรับจูนให้ตรงกับนโยบายของรัฐเพราะหน้าที่ของข้าราชการคือรักษาผลประโยชน์ ส่วนหน้าที่ของภาคธุรกิจคือทำกำไรให้ได้มากที่สุดแล้วจะเจอกันได้อย่างไร การปรับจูนภาคธุรกิจต้องลดกำไรลงบ้างแต่รัฐจะหาสิทธิประโยชน์ให้ทั้งเรื่องภาษี กฎหมายการค้า กฎหมายร่วมทุน โดยต่อไปภาคธุรกิจสามารถส่งความเห็นสะท้อนปัญหาเข้ามาและรัฐบาลจะนำไปขับเคลื่อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภาคธุรกิจที่ได้หารือกันในวันนี้มีความพร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาล แต่ไม่ใช่จะพร้อมทั้งหมดเพราะต้องดูว่าเขาศักยภาพอย่างไรบ้าง และตนไม่สมารถสั่งภาคธุรกิจได้ หรือจะใช้มาตรา 44 สั่งการก็ไม่ได้ เรื่องประชารัฐเป็นความร่วมมือของรัฐข้าราชการ เอกชนภาคธุรกิจ ซึ่งต้องปรับจูนเข้าหากันให้ได้ ภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ ต้องมาคุยกัน รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนเรื่องเศรษฐกิจโดยวันหน้าจะเรียกมาคุยให้หมดทุกส่วนเพราะถ้าไม่คุยจะติดปัญหาที่ทุกคนมักเอาหลักการกฎหมาย สิทธิมนุษยชนทำให้ไม่เกิดอะไรขึ้น วันนี้การเมืองเข้ามาทาบทับน้อย เพราะตนไม่ใช่นักการเมืองแม้จะถูกมองว่าเป็นนักการเมืองในสายตาแต่ตนก็ทำงานของตน และจากนี้เมื่อมีคณะกรรมการขับเคลื่อนภาคเอกชนนายสมคิดจะเป็นผู้ไปคุย เมื่อถึงวาระสำคัญตนจะเข้าร่วมประชุม เพราะเป็นผู้กำหนดนโยบาย
เมื่อถามว่า ความร่วมมือกับภาคธุรกิจจะเป็นรูปธรรมเมื่อใด พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “รอมาชาติหนึ่งแล้วยังไม่เกิดเลย เธอจะรออีกสักหน่อยไม่ได้หรือ เธอจะเอาเมื่อไหร่ วันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ เดือนหน้า ลูกกี่เดือนแล้ว เดี๋ยวลูกออก นี่อย่างไรมันถึงต้องมาแบ่งว่า 1-2-3 อะไรที่จะเกิดขึ้นได้ในตอนที่ผมอยู่ในเดือนก.ค.60เดี๋ยวไปหามา แล้วที่เหลือก็ส่งแผนปฏิรูปแล้วค่อยไปไล่กับรัฐบาลใหม่เขาทำเอา แต่จะเริ่มให้ทุกอย่าง โดยจะให้ความสำคัญกับเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานก่อน”

โชคดีของซีเรียและอิหร่าน:



โชคดีของซีเรียและอิหร่าน:
วันเดียวกันกับที่อังกฤษประกาศส่งเครื่องบินไปโจมตีไอสิสที่ซีเรียหลังจากที่ขบวนการไอสิสถูกรัสเซียบี้จนเกือบหมดประเทศแล้ว ทั้งซีเรียและอิหร่านต่างได้รับจรวดแซมชนิด S300 จากรัฐบาลรัสเซียมาประจำการทันท่วงที นับแต่นี้ต่อไป เครื่องบินรบรุ่น 4 ทุกเครื่องของมะกันที่พันธมิตรมะกันใช้ ไม่ว่า Fs 15,16,18 จะเดี้ยงทันที นอกจากนั้น เครื่องบินรบรุ่น 4 ของอังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมนีก็จะเดี้ยงเหมือนกัน ได้เวลาที่นักบินชาติเหล่านี้จะมีโอกาสไปนั่งสมาธิเจริญภาวนายาวๆ แล้ว
่าวข้างล่างนี้บอกว่าอีกไม่ช้า หลังจากติดตั้งประจำการเรียบร้อยแล้ว รัฐบาลซีเรียจะประกาศเป็นทางการว่าประเทศไหนที่ไม่ได้มาร่วมมือกับรัฐบาลซีเรีย ไม่มีสิทธิ์บินเหนือน่านฟ้าซีเรีย แปลว่า *ถ้าใครละเมิด จะสอยให้ร่วงเลย* สากกะเบือออกดอกทันเวลาพอดี

รวบวรรณา สวนสัน-สามี ผตห.บึ้มกรุง


3 ธ.ค. 58 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิดที่ศาลสี่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ว่าตามที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ได้เพิ่มเติม และมีทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่ขณะนี้ยังอยู่ในความควบคุมในต่างประเทศ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการประสานงานของอัยการ นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นคดีความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
สำหรับคดีนี้สามารถจับผู้ต้องหาได้เพียง 2 คน คือ นายอาเดม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซุฟู ซึ่งทางพนักงานอัยการได้ดำเนินการตรวจสำนวนตามที่พนักงานสอบสวนส่งมากว่า 8,000 แผ่น นอกจากนี้ผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการตามที่ ศาลได้อนุมัติหมายจับ มีทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมทั้งหมด 17 คนอยู่ระหว่างดำเนินการ
ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการควบคุมตัว นางวรรณา สวนสัน หรือนางไมซาเราะห์ ชาว จ.กระบี่ และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกูล ชาวตุรกี สามีนางวรรณา สองผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐานมียุทธภัณฑ์และครอบครองวัตถุระเบิดฯ

เหตุกราดยิงแคลิฟอเนีย

ระทึก!คนร้ายยิงกราดฝูงชนสังเวย14ศพ ตร.วิสามัญแล้ว2 | เดลินิวส์

„สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่3ธ.ค.ว่ากรมตำรวจเมืองซาน เบอร์นาร์ดิโนทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่าเกิดเหตุกราดยิงในหรือใกล้กับสำนักงานบริการสังคมของรัฐแคลิฟอร์เนียในเมืองซาน เบอร์นาร์ดิโนเมื่อวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น

โดยผู้ต้องสงสัย 1-3คนและมีเหยื่อหลายคนในเหตุการณ์ยิงกันครั้งนี้ขณะที่กรมดับเพลิงเมืองซานเบอร์นาร์ดิโน รายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 20คน

 ด้านน.ส.แนนซี ลุนเกรน โฆษกหญิงของกรมการพัฒนาการรัฐแคลิฟอร์เนียแถลงว่า เหตุกราดยิงเกิดขึ้นที่ศูนย์ภูมิภาคภายในประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวน 21สำนักงานที่ให้บริการแก่ผู้พิการในด้านพัฒนาการบริหารงานโดยรัฐ 

ส่วนภาพจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นแสดงให้เห็นว่ามีการสั่งอพยพประชาชนออกจากตัวอาคาร ในสภาพชูมือขึ้นขณะเดียวกันก็ตั้งหน่วยคัดแยกผู้ป่วยด้านนอกจากนั้นหน่วยปฏิบัติการพิเศษและกำลังตำรวจได้ปิดล้อมตัวอาคารเพื่อติดตามไล่ล่าผู้ต้องสงสัย โฆษกหญิงของตำรวจเปิดเผยด้วยว่า ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นคนร้ายก่อเหตุพกอาวุธร้ายแรงและอาจสวมเสื้อเกราะด้วย


 ด้านประธานาธิบดีบารัคโอบามา แห่งสหรัฐได้รับทราบสถานการณ์แล้วจากน.ส.ลิซา โมนาโก ที่ปรึกษาความมั่นคงมาตุภูมิแล้ว 

ต่อมา นายจาร์รอด เบอร์จวน หัวหน้าตำรวจเมืองซาน เบอร์นาร์ดิโน แถลงว่า ได้รับรายงานในเบื้องต้นว่า มีผู้เสียชีวิต 14 ศพและบาดเจ็บอีก 14 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจกำลังติดตามไล่ล่าคนร้ายอยู่ ซึ่งเชื่อว่ามี 3 คน และอาจหลบหนีไปแล้วโดยใช้รถสปอร์ตเอนกประสงค์เป็นพาหนะ

 ตำรวจได้สั่งอพยพประชาชนหลายร้อยคนออกมาจากตัวอาคารแล้ว และยังส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยในตัวอาคาร แจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุ 

ขณะที่น.ส.โอลิเวีย โบเซค เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสำนักงานนายอำเภอเขตซาน เบอร์นาร์ดิโน แถลงว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสืบสวนแห่งรัฐบาลสหรัฐ(เอฟบีไอ)ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือไม่ เพราะคนร้ายยังหลบหนีและยังไม่ได้จับกุมผู้ใด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัว 3 คนร้ายที่ก่อเหตุ จนพบและเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการวิสามัญคนร้าย จำนวน 2 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นใคร มาจากไหน ส่วนอีก 1 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี ส่วนประธานธิบดีบารัค โอบามา ที่ได้รับรายงานเหตุร้ายที่เกิดขึ้นจากกระทรวงมาตุภูมิ เตรียมเสนอปรับปรุงกฎหมายพกพาออาวุธ หวังลดปัญหาความรุนแรงจากการใช้อาวุธในประเทศ. 

คลิปประกอบ : ซีเอ็นเอ็น“
https://www.youtube.com/watch?v=3H4WzgvRDgI

https://www.youtube.com/watch?v=ZezgxfyPRQ0

https://www.youtube.com/watch?v=ZeNNUQtJ0ig

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/foreign/364701

รายงาน:ลิงลพฯ/สื่ออาสา

ความผิดตามมาตรา116ยุยงปลุกปั่น

กรณีผู้โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์ทุจริตอุทยานราชภักดิ์ เป็นอีกครั้งที่นำไปสู่ข้อหาปลุกปั่นยั่วยุ ในยุครัฐบาล คสช. 
 
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 "ผู้ใดกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต
(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย
(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
(3) เพื่อให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี”

หลังรัฐประหาร 2557 ข้อหา "ยุยงปลุกปั่น" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ถูกใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่ถูกตั้งข้อหา มักเป็นผู้ที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในทางตรงข้ามกับคสช. โดยมีลักษณะการกระทำที่แตกต่างกันไป เช่น

- ลงข่าวคนชุมนุมทางการเมืองผิดวัน

ชัชวาลย์ (http://freedom.ilaw.or.th/th/case/664) นักข่าวอิสระจากจังหวัดลำพูน ถูกดำเนินคดีเพราะรายงานข่าวการชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารผิดวัน จากวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 เป็นวันที่ 1 มิถุนายน 2557 ต่อมาศาลทหารจังหวัดเชียงใหม่พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากจำเลยเพียงนำเสนอข่าวเหตุการณ์ประจำวัน และโจทก์ไม่อาจนำสืบจนสิ้นสงสัยได้ว่า จำเลยมีเจตนาสร้างความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน

- ติดป้ายประชดขอแยกประเทศล้านนา

ชาวเชียงราย 3 คน ได้แก่ ออด ถนอมศรี และสุขสยาม (http://freedom.ilaw.or.th/th/case/638) ถูกจับเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2557 และถูกดำเนินคดี จากการติดป้ายซึ่งเขียนข้อความขอแบ่งแยกประเทศล้านนา ต่อมาจำเลยทั้งสามถูกตัดสินจำคุกคนละ 4 ปี แต่ศาลลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 3 ปี เพราะจำเลยให้การเป็นประโยชน์ และให้รอการลงโทษไว้ 5 ปี

-โพสต์เฟซบุ๊กให้คนออกมาชุมนุม

สมบัติ บุญงามอนงค์ (http://freedom.ilaw.or.th/th/case/604) ถูกจับเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2557 หลังคสช.มีคำสั่งเรียกรายงานตัวแล้วไม่ปฏิบัติตาม ก่อนถูกจับกุม สมบัติโพสต์เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เชิญชวนประชาชนออกมาชุมนุมต่อต้านคสช. ทำให้ถูกดำเนินคดี 116 เพิ่ม ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาที่ศาลทหารกรุงเทพ

-โปรยใบปลิวที่มีคำว่า เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ

สิทธิทัศน์ และวชิร (http://freedom.ilaw.or.th/th/case/644) ถูกดำเนินคดีจากการโปรยใบปลิว ที่มีข้อความต่อต้านคสช. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นอกจากนี้ก็มีพลวัฒน์ (http://freedom.ilaw.or.th/th/case/659) ที่ถูกดำเนินคดีจากการโปรยใบปลิวต่อต้านคสช. 4 จุด ใน อ.เมือง จ.ระยอง

- โพสต์เฟซบุ๊กหมิ่นประมาทนายกรัฐมนตรี

รินดา (http://freedom.ilaw.or.th/th/case/682) ถูกดำเนินคดีจากการโพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ โอนเงินหมื่นล้านไปสิงคโปร์ ปัจจุบันคดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลทหารกรุงเทพ

- เดินเท้าไปศาล

พันธ์ศักดิ์ (http://freedom.ilaw.or.th/case/662) หนึ่งในสี่ผู้ต้องหาคดี "เลือกตั้งที่ (รัก) ลัก" (http://freedom.ilaw.or.th/th/case/658) ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม จากการทำกิจกรรม “พลเมืองรุกเดิน” ซึ่งเป็นการเดินเท้าไปศาลทหารเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ระหว่างวันที่ 14-16 มีนาคม 2558 ปัจจุบันคดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลทหารกรุงเทพ โดยศาลนัดสอบคำให้การวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558

- มอบดอกไม้ให้นักกิจกรรม "พลเมืองรุกเดิน"

 ปรีชา (http://freedom.ilaw.or.th/case/692) ชายวัย 77 ถูกดำเนินคดีจากการมอบช่อดอกไม้ให้ พันธ์ศักดิ์ ซึ่งเดินรณรงค์เรียกร้องไม่ให้พลเรือนขึ้นศาลทหาร

และกรณีล่าสุด วันที่ 1 ธันวาคม 2558 ตำรวจสน.พระโขนงนำตัว จุฑาทิพย์ ( https://goo.gl/kbgaqQ) ที่ถูกตั้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตามมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องทุจริตก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ไปฝากขังที่ศาลทหาร โดยศาลให้ประกันตัวด้วยเงินสด 100,000 บาท
 
ซึ่งเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 จุฑาทิพย์เข้าพบเจ้าหน้าที่ ปอท. และถูกสอบสวนถึงข้อความเกี่ยวกับอุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เธอโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 

ระหว่างสอบสวนเธอถูกเจ้าหน้าที่ยึดโทรศัพท์และขอรหัสเข้าโซเชียลมีเดียไปด้วย จากนั้นจึงปล่อยตัวกลับ และให้เธอไปที่ ปอท. อีกครั้ง ในวันที่ 1 ธันวาคม 2558 โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเพียงแค่ไปรับโทรศัพท์คืน

แต่เเล้วเมื่อไปถึง จุฑาทิพย์กลับถูกนำตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาที่ สน.พระโขนง ว่ากระทำความผิดตามมาตรา 116 และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
  
ซึ่งจุฑาทิพย์ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาจะให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน เมื่อเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวเธอกลับบ้านและนัดมาที่ สน.พระโขนงอีกครั้ง ก่อนนำตัวเธอไปฝากขังที่ศาลทหาร จุฑาทิพย์จึงยื่นขอประกันตัว โดยศาลให้ประกันตัวด้วยเงินสด 100,000 บาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่การรัฐประหาร พฤษภาคม 2557 มีผู้ถูกตั้งข้อหา/ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 แล้วอย่างน้อย 27 คน

ดูตารางการตั้งข้อหาทั้งหมด ---> http://freedom.ilaw.or.th/politically-charged