PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

สภากลาโหม อนุมัติ แก้ไขและ เปลี่ยนชื่อพรบ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ เป็น พรบ.โรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ.2550

สภากลาโหม อนุมัติ แก้ไขและ เปลี่ยนชื่อพรบ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ เป็น พรบ.โรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ.2550
เพื่อให้ควบคุมยุทธภัณฑ์ได้ดีขึ้น ต้องรายงานทุกเดือน แม้ว่ายุทธภัณฑ์นั้น ชำรุดก็ตาม
พลตรีคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม กล่าวว่า การประชุมสภากลาโหม ที่มี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯและ รมว.กลาโหมเป็นประธาน พิจารณาให้ความเห็นชอบ
การแก้ไข ร่างพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ...
เพื่อให้ควบคุมยุทธภัณฑ์ได้ดีขึ้น เข้มงวดขึ้น และทำให้ ต้องรายงานทุกเดือน แม้ว่ายุทธภัณฑ์นั้น ชำรุดก็ตาม
โดยแก้ไขและเพิ่มเติมบางประเด็น เพื่อให้มีความเหมาะสมชัดเจนเพิ่มมากขึ้น คือ
มีการแก้ไขชื่อกฎหมาย ตามมาตรา 6 (5) เป็น “ พระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ.2550 ” เดิม “คำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2519 ”
แก้ไขเพิ่มเติมตำแหน่ง ชื่อตำแหน่งและชื่อส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการควบคุมยุทธภัณฑ์ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ประกอบกับมีกฎหมายแก้ไขชื่อส่วนราชการและชื่อตำแหน่งของส่วนราชการและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม และสังกัดกระทรวงอื่นใหม่
แก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขการประชุม เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติการประชุม (ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม ไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม)
เพิ่มเติมบทรับรองใบอนุญาตที่ออกให้ตามกฎหมายเดิม ให้ได้รับการรับรองตาม พ.ร.บ.นี้
เพิ่ม มาตรา 7 ให้ รมว.กห. รักษาการตามกฎหมายนี้
เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรายงานและบัญชีแสดง ชนิด ปริมาณ และการรับจ่ายประจำวันของวัตถุหรืออาวุธที่ใช้ในการผลิตอาวุธ หรืออาวุธที่ผลิตขึ้น พ.ศ. .. เพื่อให้สามารถควบคุมและตรวจสอบ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานอาวุธ มีสาระสำคัญคือ
กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการรายงานและบัญชีแสดง ชนิด ปริมาณ และการรับจ่ายประจำวันของวัตถุหรืออาวุธที่ใช้ในการผลิตอาวุธหรืออาวุธที่ผลิตขึ้น รวมทั้งวัตถุหรืออาวุธดังกล่าวที่เสียหาย ใช้ไม่ได้หรือไม่ได้ใช้ โดยรายงานตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์และร่างกฎกระทรวงดังกล่าว จะเสนอเข้า ครม. ต่อไป
สภากลาโหมอนุมัติ ตั้ง 3ตำแหน่งใหม่ในสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ(สปท.) ใหม่ โดยให้มีตำแหน่งเสนาธิการ (เสธ สปท.) และ รองเสธ.สปท. อีก 2 ตำแหน่ง โดย ไม่ได้เปิดอัตราใหม่ แต่ใช้วิธีการเกลี่ย
เอารอง ผบ.สปท. มาเป็น เสธ.สปท. และ ผช.ผบ.สปท. มาเป็น รองเสธ. สปท. เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน
นอกจากนี้ สภากห.ตั้ง บิ๊กจิ๋ว พลเอกวุฒินันทน์ ลีลายุทธ อดีตรองผบ.สส.เป็นสมาชิกสภากห. พิเศษ แทน พลเอกวิลาส อรุณศรี เลขาฯนายกฯ ที่หมดวาระ23มิย.นี้

ยังไม่ผ่อน คลายกฏห้ามทำกิจกรรมการเมือง



นายกฯบิ๊กตู่ ถามหา จิตสำนีก นักการเมือง ความรับผิดชอบ ไม่ทุจริตมั้ย เปรย"ต่อให้เขียนกฎหมายยังไง ปฏิวัติร้อยครั้ง ก็ยังเป็นแบบเดิม เพราะคนเราไม่เปลี่ยนแปลง"
....ยัน ยังไม่ผ่อน คลายกฏห้ามทำกิจกรรมการเมือง ลั่นยังไม่ถึงเวลา ถาม นักการเมืองเคยเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างหรือยัง พรรคไหนที่ยังไม่เปลี่ยน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.กล่าวถึงการออกคำสั่ง คสช. ให้นักการเมือง หรือบุคคลที่มีชื่อในคำสั่งคสช. สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ ว่า การผ่อนคลาย ไม่มีใครสามารถกดดันผมได้อยู่แล้ว เพราะทำเพื่อคนไทย ประเทศไทย
ฉะนั้นใครไม่เห็นชอบด้วย เขาก็ไปแสดงความคิดเห็นในช่องทางที่สร้างสรรค์ เรื่องนี้ไม่ใช่เกิดมาเมื่อไม่กี่วัน เพื่อนำไปสู่การทำประชามติ ไม่เกี่ยวกัน แต่เรื่องนี้เริ่มมาตั้งแต่ 22 พ.ค. 2557 และเมื่อเห็นว่า นานมาแล้วจึงผ่อนคลายให้เท่านั้นเอง ไม่เกี่ยวกับประชามติ ไม่เกี่ยวกับอะไรทั้งสิ้น ทุกคนอยากให้ผ่อนคลาย ผมก็ทำให้ คุณจะต้องให้ใครมากำหนดกฎเกณฑ์ประเทศคุณหรือ เราก็ทำตามพันธสัญญาโลกอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายการเมืองอยากให้ผ่อนคลายในเรื่องการทำกิจกรรมทางการเมืองในแต่ละพรรค นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ผ่อน ยังไม่ถึงเวลา นักการเมืองเคยเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างหรือยัง พรรคไหนที่ยังไม่เปลี่ยน
เมื่อถามว่า ก่อนการทำประชามติประมาณ 1 เดือน จะพิจารณาผ่อนคลายเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่รู้ ดูสถานการณ์ก่อน ถ้ามันวุ่นวายขึ้นมาแล้วเลือกตั้งไม่ได้ ก็โทษผมอีก คิดสองมุมนี้บ้าง
“ผมทำทุกอย่างให้เกิดความสงบเรียบร้อย เพื่อเดินไปตามโรดแมพของผมเท่านั้นเอง แต่ถ้าเขามุ่งหมายจะล้มทุกอย่างที่ผมทำอยู่แล้วทั้งหมด ท่านจะอยู่ตรงไหนกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีอะไรเคลื่อนไหวอื่นนอกจากที่ปรากฏในสื่อหรือไม่ จึงไม่พิจารณาให้พรรคการเมืองจัดกิจกรรมใดๆ ได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อต้องไปถาม เขาทำอะไรบ้าง วิเคราะห์เองได้ไม่ใช่หรือ เอาแค่ที่เขาเขียนในโซเชียลมีเดีย กับการให้ข่าวตามสื่อตรงนี้ วิเคราะห์กันให้ออก ซึ่งผมวิเคราะห์ตามข้อมูลฐานข่าวที่มีอยู่
"เขายังไม่หยุด ผมไม่ได้มองเป็นศัตรู หากมองเช่นนั้นคงลงโทษพวกเขาหมดแล้ว คงไม่ให้เคลื่อนไหวขนาดนี้หรอก แต่เขาก็ไม่เห็นในสิ่งที่ ผมทำดีๆ ให้กับเขา
ขณะเดียวกัน ยังยืนยันในสิ่งที่เขาทำมาตลอดว่าถูกต้อง โดยไม่คำนึงถึงข้อกฎหมายและวิธีบริหารจัดการที่ถูกต้อง ในฐานะเป็นผู้บริหาร ซึ่งผมทำให้ถูกก็ยังไม่ยอม แล้วจะยังไงกันต่อไป จะเกิดขึ้นเยอะกว่าเดิมหรือไม่ ในรัฐบาลต่อไป เรื่องที่ได้รื้อมานั้นจะหยุดหรือไม่ ต้องคิดอย่างนั้น ผมห่วงมากกว่า คนไทยทุกคนและสื่อไม่ห่วงหรือ
"วันนี้ทำทุกอย่างให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กฎหมายมีผลบังคับใช้อย่างเป็นธรรม ที่อ้างว่า ไม่เป็นธรรมก็ฟ้องมา มีช่องทางอยู่แล้ว อย่าเอามาพันกัน มันจะแก้ไม่ได้"
เมื่อถามว่า นายกฯ จะบอกได้หรือไม่ว่า ในสมัยการบริหารประเทศนี้จะไม่มีนักการเมืองหนีคดีทุจริตไปต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมจะไปรับประกันเขาได้อย่างไร ต้องไปถามคนที่อยู่ในคดี ก็นี่ไง พอผมไม่ให้เดินทางไปต่างประเทศก็ดิ้นรนให้เขาออก ถ้าเขาหนีไปก็อย่ามาโทษผม จะเอาทุกอย่างในเวลาเดียวกันไม่ได้หรอก
“คุณไม่ให้โอกาสผมทำงาน แต่จะเรียกให้อีกข้าง มันก็เป็นอย่างนี้ ก็แลกเอา ฉะนั้นอย่ามาถามว่าเขาจะหนีไหม ถามผมได้ไง ผมไม่ได้อนุญาตให้เขาหนี ผมอนุญาตให้เขาไปต่างประเทศตามที่เรียกร้อง ไปเยี่ยมญาติไปอะไรต่างๆ ผมก็ให้เสรี แต่ถ้าเขาหนีไม่ใช่เรื่องของผม ก็ต้องใช้กลไกทางกฎหมายอินเตอร์โพล ตามจับตัวมา สุดแล้วแต่ต่างประเทศจะร่วมมือหรือเปล่า วันนี้สภาวะแวดล้อมต่างๆ เขาก็ไปสร้างความบิดเบือนเรื่องต่างๆ ไว้เยอะแยะ เต็มไปหมดข้างนอก แล้วสื่อก็ไปคล้อยตามเขียนให้เขา มันก็เป็นอย่างนี้” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าหากนักการเมืองไปพูดเรื่องประชาธิปไตยหรือสถานการณ์การเมืองของไทยบนเวทีโลกได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะตามไปห้ามเขาได้ไหม หากจับตาแล้วจะถึงตัวไหม เขาไปต่างประเทศ แต่ถ้าอยากจะพูดก็พูดไปแล้ว จะนับถือคนเหล่านี้ก็ตามใจ
เมื่อถามว่า ถ้าไปพูดแล้วมีผลกระทบจะมีการพิจารณาทบทวนเป็นกรณีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่ขอพูดตรงนี้ โดยเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงดูอยู่ ทุกอย่างโยนมาที่รัฐบาลหมด ไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลัง แล้วไม่รับอะไรกันเลย ไม่ต้องการเข้าระเบียบมันก็เป็นอยู่อย่างนี้ ฉะนั้นคนไทยทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบทั้งหมด เพราะผมกำลังแก้ให้คนทั้งประเทศ ต้องกระจายความรับผิดชอบ ไม่ใช่มุ่งแต่กระจายอำนาจแต่ความรับผิดชอบไม่มี มันก็จะเละไปกว่าเดิม อย่างหากว่าวันข้างหน้าพลังงานขาดแคลน ประเทศไทยพร้อมในทุกมิติหรือยัง ความคิด ความรับผิดชอบ จิตสำนึก มีหรือไม่ การไม่ทุจริตมีด้วยตัวเองหรือไม่
“ต่อให้เขียนกฎหมายอย่างไร ปฏิวัติร้อยครั้ง ก็ยังเป็นแบบเดิม เพราะคนเราไม่เปลี่ยนแปลง” นายกฯ กล่าว

นายกฯถก รองนายกฯมั่นคงสิงคโปร์ ห่วง ก่อการร้าย "พวกสุดโต่ง" ขยายตัวในภูมิภาค



รับมือ IS.......
นายกฯถก รองนายกฯมั่นคงสิงคโปร์ ห่วง ก่อการร้าย "พวกสุดโต่ง" ขยายตัวในภูมิภาคนี้ เพราะมีสมาชิกบางประเทศในอาเซี่ยน ร่วมขบวนการด้วย
บิ๊กตู่ ตอบรับคำเชิญ"ลีเซียนลุง"-IISSไปปาฐกถาในShangri-La Dialogue 15th Asia Security Summit 3 มิย.ส่วนไทย เตรียมเป็นเจ้าภาพ จัดประชุมระดับผู้นำอย่างไม่เป็นทางการ Leaders’ Retreat นายกฯบิ๊กตู่ ฝากขอบคุณนายกฯสิงคโปร์ที่ตอบรับ
ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นาย Teo Chee Hean รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประสานงานด้านความมั่นคงแห่งชาติสิงคโปร์ เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเยือนไทย (working visit) 29 -31 พฤษภาคม 2559
พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า
นาย Teo Chee Hean กล่าวว่า ไทยและสิงคโปร์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและรอบด้านในทุกระดับ ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศมีเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งแสดงความปลาบปลื้มและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ถวายการต้อนรับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในการเสด็จฯเยือนสิงคโปร์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังกล่าวแสดงความรู้สึกยินดีที่นายกรัฐมนตรีตอบรับคำเชิญของ นาย ลี เซียน ลุง และสถาบัน International Institute for Strategic Studies (IISS) ไปกล่าวปาฐกถาในการประชุม Shangri-La Dialogue 15th Asia Security Summit ในวันที่ 3 มิถุนายน 2559 โดยทางสิงคโปร์เตรียมการต้อนรับนายกรัฐมนตรีไว้อย่างดี
ด้าน พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความชื่นชม ความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงและการทหารที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับสิงคโปร์ ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนการเสริมสร้างประชาคมด้านการเมืองและความมั่นคงอาเซียน และยินดีที่หน่วยงานของทั้งสองประเทศ
ยังมีการส่งเสริมความร่วมมือในมิติต่างๆ อาทิ กรอบโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยราชการไทย-สิงคโปร์ (CSEP)
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศของสิงคโปร์จะลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในระหว่างการประชุม IMBX Ministerial Forum on ICT ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ที่สิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เพื่อป้องกันภัยคุกคามความมั่นคงทางไซเบอร์ ซึ่งช่วยป้องกันการแพร่ขยายของ "แนวคิดสุดโต่ง"ซึ่งอาศัยอินเตอร์เน็ตและสังคมออนไลน์ในการเผยแพร่อุดมการณ์ได้อีกด้วย
สถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคนั้น ไทยส่งเสริมความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและ "แนวคิดสุดโต่ง"กับประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงสนับสนุนการหารือระหว่างความเชื่อ (interfaith dialogue) และส่งเสริมบทบาทของแนวคิดสายกลาง(moderate)
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า สาเหตุสำคัญของปัญหาด้านการก่อการร้ายมีรากเหง้ามาจากความยากจน และความเหลื่อมล้ำทางสังคมและทรัพยากร การแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายอย่างครอบคลุมและยั่งยืนจึงต้องลดปัจจัยที่เกื้อหนุนปัญหาและความเหลื่อมล้ำเหล่านี้
นาย Teo Chee Hean ให้ความสนใจต่อเรื่องสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค และมีความกังวลต่อการขยายตัวของกลุ่มการก่อการร้ายในภูมิภาคที่มีแนวโน้มเชื่อมโยงกับกลุ่มต่างๆของภูมิภาคมากขึ้น โดยมีประชาชนประเทศสมาชิกอาเซียนบางส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง
นาย Teo Chee Hean เห็นว่า ทั้งสองประเทศควรร่วมมือระหว่างกันในเรื่องข้อมูลข่าวสารและแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันภัยที่เกิดจากการก่อการร้ายในภูมิภาค
สำหรับพัฒนาการการเมืองไทยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความขอบคุณที่รัฐบาลสิงคโปร์แสดงความเข้าใจในสถานการณ์ในประเทศไทย
โดยขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในระยะที่ 2 ของ Roadmap เพื่อวางรากฐานประชาธิปไตยที่ยั่งยืนและบ้านเมืองที่มีเสถียรภาพ และแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง การทุจริต และขจัดความเหลื่อมล้ำต่าง ๆ นายกรัฐมนตรีหวังว่าสิงคโปร์จะยังคงสนับสนุนไทยต่อไป
ความร่วมมือด้านการศึกษา นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมมาตรฐานการศึกษาของสิงคโปร์ที่สามารถพัฒนาเยาวชนของสิงคโปร์ให้มีความรู้และความสามารถในระดับแนวหน้าของโลก
นายกรัฐมนตรีประสงค์ที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาของสิงคโปร์ และหวังว่าไทยและสิงคโปร์จะมีความร่วมมือในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี
ยินดีที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ตอบรับเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำอย่างไม่เป็นทางการ (Leaders’ Retreat) ในครั้งต่อไปซึ่งจะจัดขึ้นในไทย เพราะจะเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศจะได้หารือในเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน