PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

อดีต ผบ.เหล่าทัพคณะ"รัฐบุคคล"หารือทางออกประเทศไทย

วันนี้ที่สโมสรโปโลคลับ ลุมพินี

คณะ "รัฐบุคคล" ประกอบด้วย พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีต ผบ.สส. พล.อ.พล.อ.วิมล วงศ์วานิช อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีต ผบ.ทอ. พล.ร.อ. วิเชษฐ การุณยวนิช อดีต ผบ.ทร. พล.ร.อ. สุรวุฒิ มหารมณ์ อดีต เสธ.ทร. 

พล.อ.อ. เทอดศักดิ์ สัจจะรักษ์ อดีต เสธ ทอ. ฝ่ายพลเรือนประกอบด้วย ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์. ศ.ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ. ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช.คุณสุรพงษ์ ชัยนาม.

ร่วมปรึกษาหารือ หาทางออกให้ประเทศไทย

https://www.facebook.com/kriengsak.lekkla/media_set?set=a.681018665283299.1073742006.100001255140271&type=1


ตร.แถลงรัฐตร.สาบสืบที่ถูกประชาทันฑ์ยิงใส่การ์ดหน้าสโมสรทบ.เพื่อป้องกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีเหตุหน้าสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดี โดยมีข้อความดังนี้

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2557 เวลาประมาณ 15.00 น. ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. นำโดย นายชุมพล จุลใส และนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ นำกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 500 คน ได้เดินขบวนไปชุมนุมที่บริเวณ หน้าสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้จัดชุดสืบสวนเพื่อถ่ายภาพ เข้าไปปะปนกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งขณะนั้นได้มีการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุม ได้เห็น ด.ต.คงเพชร เพชรกันหา ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เข้ามาถ่ายภาพ โดยยืนอยู่บริเวณฟุตบาทใกล้ปากซอยวิภาวดี 4 การ์ดของผู้ชุมนุมจึงได้เข้ามาขอค้นตัว แต่ ด.ต.คงเพชร ไม่ยอมให้ทำการตรวจค้น การ์ดของผู้ชุมนุมจึงเรียกพวกการ์ดมารุมทำร้าย ซึ่ง ด.ต.คงเพชร ใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัวเข้าไปที่กลุ่มการ์ดของผู้ชุมนุม 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

จากนั้นกลุ่มการ์ดก็เข้ามาจับตัว ด.ต.คงเพชรฯ ไว้ได้ และรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมามูลนิธิกู้ภัยจึงได้นำตัว ด.ต. คงเพชรฯ เข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จำนวน 3 คน ได้ติดตามไป และในขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดล้อมที่โรงพยาบาลราชวิถีไว้ โดยไม่ให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ ในส่วนของผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชุมนุม ชื่อนายพุทธิชัย วิภา ได้นำส่งที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดล้อมไว้เช่นกัน รายละเอียดจะได้นำเสนอต่อไป

วสิษฐ เดชกุญชร:ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน : อาการเข้าตรีทูตของทักษิณ

โดย วสิษฐ เดชกุญชร

ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพ ฯ และจังหวัดใกล้เคียงบาง จังหวัด เป็นสัญญาณแสดงว่าอาการของระบอบทักษิณเข้าตรีทูตแล้ว

ประกาศฉบับที่กล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นผู้ลงนามในฐานะที่เป็น “นายกรัฐมนตรี” (แม้ ตนจะเป็นแต่เพียงผู้รักษาการในตำแหน่งนั้น) เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านไปนี้ โดยอาศัยอำนาจตาม พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

คำว่า “ตรีทูต” นั้น คุณหมอสังคม วรรณิสสร ให้ความหมายไว้ว่าคือลักษณะบอกความตาย 3 ประการ คือ (1) มีอาการตามืดมัวมองไม่เห็น (2) หูไม่ได้ยิน หมดความรู้สึกและอารมณ์คิดนึก และ (3) การหายใจและชีพจรแผ่วเบามาก มีลักษณะคล้ายนอนหลับผล็อยไป

การออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงฉบับนั้น เป็นการยกระดับมาตรการของ รัฐบาลในการดำเนินการกับประชาชนผู้ชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศไทยก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งการชุมนุมคัดค้านและเรียกร้องนั้นมีคณะกรรมการ ประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข (กปปส.) เป็นผู้นำ ที่ว่าเป็นการยกระดับก็เพราะว่าเดิมรัฐบาลได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภาย ในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 อยู่แล้ว และตามพระราชบัญญัตินี้ คณะรัฐมนตรีมีอำนาจและได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะที่รักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ โดยมี พล.อ. ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกเป็นรอง ผอ.รมน.

ตามกฎหมายฉบับนี้ รัฐบาลสามารถจะดำเนินการอย่างเพียงพอกับ กปปส.และผู้ชุมนุมคัดค้าน และเรียกร้องได้อยู่แล้ว และเมื่อต้นเดือนมกราคมนี้เอง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภา ความมั่นคงแห่งชาติก็เพิ่งจะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไปว่า จะไม่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่แล้ว ผู้รักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงออกมา

การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น เป็นการเพิ่มอำนาจของรัฐบาลในการดำเนินการกับ กปปส. และผู้ชุมนุม หลังจากประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฉบับแรกแล้ว รัฐบาลได้ออกประกาศตามมาอีกรวม 5 ฉบับ แต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นผู้อำนวยการ ศูนย์รักษาความ สงบ (ศรส.) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นรอง ผอ.ศรส. แต่งตั้งกรรมการ อีกรวมเป็นจำนวนมากถึง 25 คน รวมทั้งผู้แทนผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งสามด้วย แต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิมเป็น ผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้รับผิดชอบ พนักงานเจ้าหน้าที่และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แต่งตั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบ และแต่งตั้งที่ปรึกษา 8 คน มีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน

ถ้าหากว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นการยกระดับมาตรการของรัฐบาล ก็เป็นการยก ระดับที่เปลืองเปล่าและช้าเกินไป เพราะก่อนที่รัฐบาลจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น กปปส.ซึ่งเป็น ผู้นำประชาชนผู้ชุมนุมคัดค้านและเรียกร้องได้ยกระดับและขยายการคัดค้านและเรียกร้องออกไปแล้วทั่วกรุงเทพ ฯ และยังจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศด้วย ผู้ร่วมชุมนุมประท้วงและเรียกร้องนั้นมีทุกเพศ ทุกวัย และทุกอาชีพ รวมทั้งข้าราชการบำนาญและข้าราชการรประจำหลายกระทรวง และแม้บางพฤติการณ์ ของผู้ชุมนุมประท้วงจะเป็นไปดังที่ปรากฏในประกาศ เช่น ปิดการ จราจรในถนนสำคัญ บุกรุกและยึด สถานที่ราชการ และห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปในสถานที่ราชการ แต่ผู้ชุมนุมประท้วงและเรียกร้องก็ ไปมือเปล่า ปราศจากอาวุธ มีแต่นกหวีดเท่านั้น 

ที่สำคัญก็คือ ประชาชนส่วนใหญ่นอกจากจะไม่เดือดร้อน เสียหาย หรือเกรงกลัวอันตรายที่ จะเกิดต่อชีวิตและทรัพย์สินดังที่รัฐบาลอ้างในประกาศแล้ว ยังออกมาร่วมชุมนุมและสนับสนุน กปปส. อย่างอุ่นหนาฝาคั่งด้วยเงินและวัตถุสิ่งของเป็นจำนวนมากอยู่ตลอดเวลา ส่วนการก่อเหตุร้ายที่เกิดขึ้น แล้วหลายครั้งดังที่รัฐบาลอ้างนั้น ก็มิได้เกิดจากการกระทำของผู้ชุมนุมคัดค้านและเรียกร้อง แต่เป็นฝีมือ ของคนร้ายที่กระทำต่อผู้ชุมนุม จนหลายคนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ 

การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงของรัฐบาลจึงเป็นการกระทำที่เกิดเพราะอคติหรือความไม่รู้ไม่เห็นข้อเท็จจริง เหมือนตามืดมัวมองไม่เห็น อันเป็นอาการของตรีทูตข้อแรก และเหมือนกับหูไม่ ได้ยินเสียงคัดค้านและเรียกร้องของประชาชน อันเป็นอาการของตรีทูตข้อที่สอง

และหากรัฐบาลให้ตำรวจใช้วิธีปราบปรามอย่างเด็ดขาดอย่างที่ขู่แล้วขู่อีก ในที่สุดอาการของรัฐ บาลก็จะเข้าตรีทูตข้อสาม คือลมหายใจและชีพจรจะแผ่วเบาลงมากเรื่อย ๆ จน มีลักษณะเหมือนนอน หลับผล็อยไป

อยู่ใกล้วัดไหนก็ควรไปจองศาลาบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานเสียแต่เนิ่น ๆ นะครับ.

หนุ่มชูป้าย"เห็นหัวเราบ้าง"ขณะรบ.-กกต.แถลงร่วม

เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สโมสรทหารบก ระหว่างที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและนายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวการประชุมหารือ เพื่อพิจารณาเลื่อนการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.หรือไม่ มีผู้ชายที่ใช้นามว่า " สหายเดียร์" พร้อมด้วยนางสาวพุธิตา ชัยอนันต์ ตัวแทนจากเฟซบุ๊กที่ใช้นามว่า "มั่นใจ 100% คนไทยอยากให้ กกต.ชุดนี้ลาออก" ด้านหน้าโต๊ะแถลงข่าวปะปนอยู่กับสื่อมวลชน พร้อมชูป้าย "เห็นหัวเราบ้าง" เพื่อแสดงจุดยืนให้ กกต.เคารพสิทธิของประชาชน และมีทีมงานผู้ชายอีก 1 คนปะปนกับสื่อมวลชนคอยถ่ายรูปการประท้วง

โดย น.ส.พุทธิตา ได้อ่านแถลงการณ์ว่า การเลือกตั้งถือเป็นกระบวนการทางประชาธิปไตยที่ให้ประชาชนใชัสิทธิ์เลือกผู้แทนมาบริหารประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่บ้านเมืองมีวิกฤต ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ กกต.เป็นองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งอย่างสุจริตยุติธรรม และตั้งแต่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภามา กกต.มีท่าทีไม่ทำหน้าที่จัดเลือกตั้งและมีการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณชนอย่างชัดเจน รวมทั้งยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังศาลรัฐธรรมนูญด้วย ทั้งที่การเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมาเห็นได้ว่าประชาชนออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก แต่เจตนาของนายสมชัยกลับมีการเสนอให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนและถือเป็นความล้มเหลวในการทำหน้าที่ของกกต. ซึ่งเป็นวิกฤตของประเทศและทำร้ายประเทศในฐานะ กกต. ดังนั้นจึงขอให้กกต.ลาออกทั้งคณะและเปิดโอกาสสรรหาคนที่เป็นกลางเข้าทำหน้าที่แทน

จากนั้น น.ส.พุธิตาได้นำแถลงการณ์ดังกล่าวพร้อมด้วยรายชื่อผู้สนับสนุนจำนวน 340 รายชื่อส่งมอบผ่านนายสมชัยทันทีที่แถลงข่าวจบ

-----------------------------------
ภาพโดย @jeerapong_nna


"ป.ป.ช." มีมติตั้งกรรมการทั้งชุด เป็นองค์คณะไต่สวนอาญา-ถอดถอน ยิ่งลักษณ์ ปมคดีจำนำข้าว

สำนักงาน ป.ป.ช. - 28 ม.ค. 2557 - "ป.ป.ช." มีมติตั้งกรรมการทั้งชุดเป็นองค์คณะไต่สวนอาญา-ถอดถอน ยิ่งลักษณ์ ปมคดีจำนำข้าว วิชา เผย ปมทุจริตระบายข้าวยุคอภิสิทธิ์ ยังไม่หยุดไต่สวน เหตุล่าช้าเพราะติดปัญหาขอเอกสารจากหน่วยราชการไม่ได้

เมื่อเวลา 14.30 น. นายวิชา มหาคุณ กรรมการและโฆษกป.ป.ช. แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ว่า ตามที่คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติให้ดำเนินการไต่สวนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ในกรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายที่เห็นได้อย่างชัดเจน รวมทั้งป.ป.ช.เคยมีหนังสือเตือนไปแล้วถึง 2 ครั้ง อันเป็นมูลความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น แต่ป.ป.ช.พบว่า กรณีดังกล่าวได้มีคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 146 คน ร้องขอให้ถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่ง ในการดำเนินการนโยบายรับจำนำข้าว ส่งผลขาดทุนกระทบต่อการส่งออกข้าว ระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ไม่เป็นความจริงอันเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทั้งสองเรื่องจึงเป็นกรณีกล่าวหาในประเด็นเดียวกันคือ การดำเนินนโยบายจำนำข้าวที่ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ และไม่ระงับยับยั้ง อันอาจเป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่


นายวิชา กล่าวต่อว่า คณะกรรมการป.ป.ช.จึงมีมติให้รวมเรื่องทั้งสองเพื่อไต่สวนในคราวเดียวกัน โดยจะดำเนินการไต่สวนควบคู่กันไปทั้งคำร้องขอให้ถอดถอนและคำร้องขอให้ดำเนินคดีอาญา โดยมีคณะกรรมการป.ป.ช.เป็นองค์คณะไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่งมีตน และนายประสาท พงษ์ศิวาภัย เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ช. จะได้ดำเนินการไต่สวนให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งขณะนี้นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป.ป.ช.ได้ลงนามในคำสั่งไต่สวนเรียบร้อยแล้ว ภายในสัปดาห์นี้จะแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้น.ส.ยิ่งลักษณ์รับทราบว่า จะคัดค้านหรือไม่

นายวิชา กล่าวอีกว่า คดีที่สังคมให้ความสนใจและสอบถามถึงความคืบหน้าเสมอคือ กรณีทุจริตการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2552 2553 ตามที่มีการร้องเรียนโดยส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่กล่าวหาร้องเรียนนางพรทิวา นาคาศัย ในสมัยดำรงตำแหน่งรมว.พาณิชย์ และประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว และคณะทำงานว่า กระทำผิดฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ในการประมูลขายข้าวออกต่างประเทศ เอื้อประโยบชน์ให้กับผู้ประมูลซื้อข้าวในราคาต่อกว่าราคาตลาด และยังมีคนร้องเรียนกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี สมัยดำงตำแหน่งรองนายกฯ และรองประธานกขช. นางพรทิวา สมัยดำรงตำแหน่งรมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย สมัยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และพวกมาให้ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการถอดถอนนางพรวิทา กรณีทุจริตในโครงการระบายข้าวสารของรัฐบาล รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอส) ก็ได้ส่งหนังสือให้ไต่สวนโครงการระบายสินค้าเกษตรข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล เพื่อให้พิจารณาจำนวน 2 เรื่อง โดยป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการป.ป.ช.ทั้งชุดในการไต่สวนคดีนี้ อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ไม่ถูกร้องให้ถอดถอน มีเพียงนางพรทิวาที่ถูกร้องให้ถอดถอน ส่วนนายอภิสิทธิ์ถูกร้องให้ดำเนินคดีอาญา ดังนั้น ทางป.ป.ช.ได้ดำเนินการไต่สวนไปรพร้อมกัน ทั้งกรณีของนายอภิสิทธิ์และนางพรทิวา โดยถือเป็นเรื่องเดียวกัน

นายวิชา กล่าวต่อว่า คณะกรรมการป.ป.ช.ได้ไต่สวนทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ กรมการค้าต่างประเทศ องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อตก.) อดีตกรรมการระบายข้าว และบุคคลอื่นๆ อีก รวม 25 ราย โดยดำเนินการเรียกมาไต่สวนทุกวัน ไม่ได้หยุด พร้อมพยาน และยังมีหนังสือขอทราบข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารหลักฐานไปยังหน่วยงานต่างๆ 16 แห่ง แต่ปรากฎว่า มีหน่วยงานบางหน่วยไม่ส่งให้ โดยอ้างว่า เอกสารเหล่านั้นถูกน้ำท่วมไปเมื่อปี 54 ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงมีหนังเสือเตือนไปยังหน่วยงานเหล่านั้นแล้ว โดยเฉพาะองค์การคลังสินค้า (อคส.) เจ้าเดิมที่มีปัญหาเรื่องการจัดส่งเอกสารในการระบายข้าวสาร ซึ่งป.ป.ช.เห็นใจ เพราะเป็นเรื่องการระบายข้าวตั้งแต่ปี 52 53 โดยบางหน่วยงานก็ได้ระบุว่า ไม่สามารถส่งเอกสารให้ได้เพราะมีการขนย้ายเอกสารหลักฐานในช่วงน้ำท่วมทั้งในกทม.และต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานที่ยังส่งเอกสารให้ไม่ครบคือ กระทรวงพาณิชย์ อตก. และล่าสุดอ้างว่า ไม่สามารถเข้าทำงานในหน่วยงานได้ เนื่องจากมีการปิดล้อมสถานที่ราชการของผู้ชุมนุมกปปส.จึงทำให้พยานหลักฐานขัดข้อง ขอเรียนว่าป.ป.ช.ไม่ได้หยุดการไต่สวน


ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งคณะกรรมการป.ป.ช.ทั้งองค์คณะถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเสร็จเร็วกว่าคดีอาญหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ได้รวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวไว้จำนวนมาก มีพยานหลายปากที่ได้ให้ถ้อยคำถึงความผิดพลาดของนโยบาย ซึ่งทางป.ป.ช.ได้สอบในส่วนเรื่องจีทูจีอยู่แล้วด้วย

เมื่อถามว่า ได้นัดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ หลังจากถูกแจ้งข้อกล่าวหามาแล้วจะให้มารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อไร นายวิชา กล่าวว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมแจ้งให้ทราบว่าจะให้นายบุญทรงมารับแจ้งข้อกล่าวหากับป.ป.ช.วันไหน คาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า โดยจะรีบดำเนินการต่อไป แต่ถ้าได้รับทราบจากสื่อมวลชนแล้วก็สามารถส่งเอกสารคำชี้แจงเข้ามาได้เลย

เมื่อถามว่า คดีของนายอภิสิทธิ์ ที่ถูกร้องนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 52 ป.ป.ช.ยังทำไม่เสร็จ แต่ทำไมคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงดูเหมือนจะเสร็จเร็วกว่า นายวิชา กล่าวว่า เพราะกรณีของคุณยิ่งลักษณ์เอกสารหลักฐานมันสดๆ ร้อนๆ จะเห็นว่าเมื่อถูกร้องท่านก็ยังอยู่ในตำแหน่ง เอกสารหลักฐานจะได้มาง่ายกว่า เมื่อถามว่า ไม่เกรงหรือไม่ว่าจะถูกมองว่าจ้องทำลายรัฐบาล นายวิชา กล่าวว่า อย่างที่ตนบอกแล้วว่าเอกสารตั้งแต่ปี 52 53 แต่เพิ่งมาร้องเรียน แล้วปี 54 มีน้ำท่วมใหญ่แล้วมีใครบ้างที่ไม่ประสบเหตุน้ำท่วม ก็ต้องเห็นใจบ้าง เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องของเหตุใครจะป้องกันได้ แม้แต่กระทรวงพาณิชย์คนที่ดูแลอยู่ตอนนี้ก็เป็นคนของรัฐบาล ซึ่งควรจะมอบเอกสารให้กับป.ป.ช. แต่กลับไม่ให้เอกสาร อ้างว่าขัดข้อง

เมื่อถามว่า ป.ป.ช.จะเชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์ มารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อใด นายวิชา กล่าวว่า ต้องมีการแจ้งคำสั่งให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ทราบเป็นทางการตามขั้นตอนต่อไป เมื่อถามว่า หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกชี้มูลจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย แต่ตอนนี้นายกฯเป็นรักษาการอยู่ก็ว่ากันไป ยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น เราอย่าเพิ่งไปก้าวข้าม ส่วนเรื่องกรอบเวลาการทำงานป.ป.ช.ก็ทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าทำโดยเร็ว แต่ในความเป็นจริงบางครั้งก็ติดปัญหา แต่เมื่อตั้งกรรมการป.ป.ช.ทั้งองค์คณะขึ้นมาไต่สวนแล้วย่อมมีระบบที่ทำงานได้กระชับยิ่งขึ้น
248

จับมือปืนยิงกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.หน้า สโมสรททบ.ได้รุมประชาทันฑ์

เกิดเหตุคนร้ายลอบ ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณหน้าสโมสรทหารบก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย ทางกลุ่มผู้ชุมนุม สามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ 1 ราย


เมื่อเวลา 15.05 น. วันที่ 28 ม.ค.57 ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบ ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณหน้าสโมสรทหารบก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย และถูกนำตัวส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลรามา ทั้งนี้ หลังก่อเหตุ คนร้ายได้พยายามที่จะหลบหนี แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ 1 ราย ซึ่งหลังจากคนร้ายถูกจับกุม ได้ถูกมวลชนที่โกรธแค้นรุมประชาทัณฑ์ จนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน  และถูกนำตัวไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลราชวิถี


อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ การ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการยึดรถจยย. ของคนร้ายเอาไว้ได้ จำนวน 1 คัน ซึ่งจากการตรวจค้นยังพบกล้องขนาดเล็ก ถูกซุกซ่อนเอาไว้ที่บริเวณด้านหน้ารถ จำนวน 1 ตัว นอกจากนี้ทางการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุม ยังสามารถยึดวิทยุสื่อสาร ได้จำนวน 2 เครื่อง และเมื่อถอดแบ็ตของวิทยุสื่อสาราดังกล่าว พบว่า มีชื่อเขียนเอาไวที่บริเวรตัวเครื่องว่า ดาบติ  ทั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังสามารถยึดหัวกระสุน และปลอกกระสุนได้อีกจำนวนหนึ่งอีกด้วย

ทั้งนี้ ภายหลังจากกลุ่มผุ้ชุมนุม และการ์ดรักษาความปลอดภัยของ กปปส. สามารถจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเอาไว้ได้แล้ว ทางแกนนำที่ปราศรัยอยู่บนรถบรรทุกขยายเสียง ได้ประกาศว่า คนร้ายที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำอยู่ สน.สุทธิสาร จากนั้นทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้ขอของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้คืน เพราะไม่มั่นใจกับการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเกรงว่าอาจจะมีการสับเปลี่ยนหลักฐาน หรือทำการบิดเบือนหลักฐานที่สามารถยึดเอเาไว้ได้

ด่วน!!! ป่วนเมืองกลางวันแสกๆ เย้ยพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เสียงปืนดังหน้าสโมสรทบ.

เมื่อเวลา14.20 น. กปปส.ได้ใช้คีมตัดโซ่ด้านหน้าสโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนตั้งเเถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งเเละคล้องเเขน8เเถว ค่อยๆเดินครั้งละก้าวตามคำสั่งเเกนนำเข้ามาเรื่อยๆ โดยเรียกร้องให้ครม.ออกจากพื้นที่ จากนั้นเวลา14.30 น. มีเสียงคล้ายปืนดังขึ้นเชิงสะพานลอยตรงข้ามสโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เเละมีการตะลุมบอนกันช่วงหนึ่ง โดยการ์ดเร่งระดมกำลังค้นหาไปยังถนนวิภาวดีรังสิตทั้งสองฝั่ง โดยพบว่ากปปส.เก็บอาวุธปืน11มม.1กระบอกเเละมีกระสุนเต็มเเมกกาซีน โดยได้ส่งให้ทหารที่สมโสรทหารบกเเล้ว ทั้งนี้นายชุมพล จุลใส เเกนนำกปปส.ปราศรัยว่า "คนยิงไปรพ.ราชวิถี คนโดนยิงไปรพ.รามาธิบดี" ทั้งนี้ ทหารได้ตั้งเถวหน้ากระดานด้านหน้าอาคารสโมสรทหารบกเเบบระยะประชิดผู้ชุมนุม เเละตำรวจตั้งเเถวหลังทหารอีกชั้นหนึ่ง
ทั้งนี้ การ์ดกปปส.เก็บเสื้อวินจยย.รับจ้าง เขียนเบอร์ 35 บางซื่อ ประเเจ1อัน กุญเเจมือ1คู่ ถุงมือ วิทยุสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ เสื้อยืดสีดำ เเละยึดรถจยย.ทะเบียน ลจร กรุงเทพมหานคร 387 คันเกิดเหตุของมือปืนในครั้งนี้ส่งทหารไปเก็บไว้ในสโมสรทหารบกเเล้ว
http://bit.ly/1gm2rrD


แกนนำ กปปส.ส่งมอบปืนให้ทหารดูแล หลังผู้ชุมนุมถูกยิงบริเวณถนนวิภาวดี เจ็บ 2 คน

แกนนำ กปปส.ส่งมอบปืนให้ทหารดูแล หลังผู้ชุมนุมถูกยิงบริเวณถนนวิภาวดี เจ็บ 2 คน @news1005fm 

14:43 น.แกนนำ กปปส.ประกาศคนยิงนำส่ง รพ.ราชวิถี (คาดถูกรุมทำร้าย) คนถูกยิงไป รพ.รามา @Haji_AnnP 7

จนท.พบแมกกาซีนขนาด 11 มม. ตกในพื้นที่หน้าสโมสร ทบ. ถ.วิภาวดี @SpringNews_TV






ปปช.โดนถล่มขู่

ข่มขู่ชุดใหญ่ ... ปปช. เจอมือมืด ยิงปืน 100 นัดข่มขู่ ทันที หลังแถลงจะพิจารณาถอดถอน ยิ่งอัปลักษณ์ กรณีบริหาร โครงการรับจำนำข้าวผิดพลาด คาดรู้ผลภายใน 1-2 เดือน


พบกระเป๋าผู้โดยสารที่สุวรรณภูมิเกิดไฟลุกกลางสายพาน

สุวรรณภูมิระทึก บึ้มกลางสายพานเชคอิน

สุวรรณภูมิระทึก บึ้มกลางสายพานเชคอิน
บางกอกแอร์เวย์ คาดเป็นปุ๋ยยูเรีย
ในกระเป๋าผู้โดยสารคนไทย จุดหมายพนมเปญ
ล่าสุด..ตรวจสอบแล้ว เป็นเหตุไฟไหม้สัมภาระของชุดวิทยากรทางการเกษตรที่จะเดินทางไปทำการอบรม/สัมนา ณ กพช. สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ


"ยิ่งลักษณ์” โผล่เข้าสโมสรกองทัพบก ประชุม ครม. ขอความเห็นชอบกู้เงิน 1.3 แสนล้านใช้หนี้ชาวนา

"ยิ่งลักษณ์” โผล่เข้าสโมสรกองทัพบก ประชุม ครม. ขอความเห็นชอบกู้เงิน 1.3 แสนล้านใช้หนี้ชาวนาโครงการจำนำข้าว พร้อมถกข้อกฎหมายเลื่อนเลือกตั้ง ก่อนนำทีมรัฐมนตรีที่ใกล้ชิดคุย กกต.บ่ายนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานการเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เช้าวันนี้ (28 ม.ค.) เดินทางมายังสโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยวาระการประชุม ครม. วันนี้ จะมีการพิจารณาถึงการกู้เงิน จำนวน 1.3 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลจะนำไปใช้จ่ายในโครงการรับจำนำข้าวให้กับเกษตรชาวนา ที่ยังค้างการจ่ายและมีการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินดังกล่าวภายในสิ้นเดือนนี้

นอกจากนี้ต้องจับตา ครม.ที่ จะหารือประเด็นด้านข้อกฎหมาย เกี่ยวกับข้อเสนอการเลื่อนวันเลือกตั้ง จากวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ออกไป ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอมาก่อนหน้านี้ เพื่อเตรียมหารือร่วมกับ กกต. ในวันนี้ เวลา 14.00 น.

โดยนายกรัฐมนตรี จะนำทีมรัฐบาลเข้าหารือ โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รักษาการรองนายกรัฐมนตรี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว. ต่างประเทศ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศูนย์รักษาความสงบหรือ ศรส.นายชัยเกษม นิติศิริ รักษาการ รมว.ยุติธรรม และนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย

ด้านมาตราการรักษาความปลอดภัยที่สโมสรทหารบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ตั้งจุดตรวจด้านหน้าสโมสร อย่างเข้มงวด


ธกส. แฉ 10 จังหวัด เจ้าหนี้ใหญ่รัฐบาล ค้างจ่ายจำนำข้าวสูงสุด นครสวรรค์ มาอันดับ 1 8.5 พันล้านบาท

ธกส. แฉ 10 จังหวัด เจ้าหนี้ใหญ่รัฐบาล ค้างจ่ายจำนำข้าวสูงสุด นครสวรรค์ มาอันดับ 1 8.5 พันล้านบาท รองลงมา กำแพงเพชร พิจิตร อุบลราชธานี ขณะที่รัฐจ่ายเงินจำนำข้าว ให้ชาวนาแล้วแค่ 4.07 แสนสัญญา ยังไม่จ่ายกว่า 1.3 ล้านสัญญา อีสานแชมป์ เข้าร่วมโครงการมาที่สุด

ข้อมูล ณ 13 มกรา 57 ได้จัด 10 อันดับแรกของจังหวัด 1. นครสวรรค์ ค้างจ่ายอีกกว่า 8.5 พันล้านบาท 2. กำแพงเพชร ค้างจ่าย 7.9 พันล้านบาท 3. พิจิตร ค้างจ่าย 7.4 พันล้านบาท 4. อุบลราชธานี ค้างจ่าย 6.9 พันล้านบาท 5. พิษณุโลก ค้างจ่าย 6.6 พันล้านบาท 6. สุรินทร์ ค้างจ่าย 5.7 พันล้านบาท 7.นครราชสีมา ค้างจ่าย 5.1 พันล้านบาท 8. สุโขทัย ค้างจ่าย 4.3 พันล้านบาท 9. ศรีสะเกษ ค้างจ่าย 4.3 พันล้านบาท 10. กาฬสินธุ์ ค้างจ่ายอีก 3.8 พันล้านบาท

แหล่งข่าวกรมการค้าภายใน ข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/57 สะสมตั้งแต่เริ่มโครงการ วันที่ 1 ตุลา 56 - 21 มกรา 57 มีปริมาณข้าวเปลือก เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 10.64 ล้านตัน ได้ออกใบประทวนไปแล้ว 1.84 ล้านใบ โดยทาง ธกส. รายงานผล ณ 19 มกราคม 57 ยังค้างอีกนับแสนล้านบาท เมื่อแยกตามพื้นที่ พบว่ามีชาวนาในภาคอิสาน นำข้าวเข้าร่วมโครงการมากที่สุด จำนวน 9.8 แสนสัญญา รองลงมาเป็นภาคเหนือ 5.8 แสนสัญญา ภาคกลาง 2.6 แสนสัญญา ส่วนภาคใต้ 1.8 พันสัญญา

สารจากอาจารย์ ดร.วิจารณ์ พานิช ถึงท่านปลัดสำนักนายกฯ รศ.ดร.ธงทอง จันทรางศุ


สารจากอาจารย์ ดร.วิจารณ์ พานิช ถึงท่านปลัดสำนักนายกฯ รศ.ดร.ธงทอง จันทรางศุ สั้นๆตรงประเด็น อ่านแล้วช่วยส่งต่อๆกันด้วยครับ.. สารถึง รศ. ดร. ธงทอง จันทรางศุ ผมได้ข่าวมาว่า ตอนนี้การบริหารงานของภาครัฐทำโดยคนที่เป็น bureaucrat ไม่ถึงสิบคน และคนสำคัญคนหนึ่งคือท่านปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รศ. ดร. ธงทอง จันทรางศุ จึงขออนุญาตส่งสารไปยังท่าน ว่าลาออกจากตำแหน่งหัวโขนเสียเถิด กลับมาทำงานรับใช้ ชาติในฐานะนักวิชาการดีกว่า แล้วจะได้ช่วยกันปฏิรูปประเทศไทย การเข้าไปรับใช้ระบอบที่ชั่วช้าโกงกินทำลายชาติ อย่างที่มีการเปิดโปงออกมาเรื่อยๆ รังแต่จะเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล แปดเปื้อนมลทิน ผมจึงขอส่งสารเป็นกำลังใจให้ท่านลาออกเสีย เพื่อระบอบทักษิณจะได้ล้มครืนลง เราจะได้ช่วยกันกอบกู้ชาติขึ้นมาจากอาจมชั่วร้ายของระบอบทักษิณ อย่าไปมัวเกลือกกลั้วอาจมอยู่เลย ท่านที่เข้ามาอ่านบันทึกนี้ โปรดช่วยกันส่งสารนี้ไปทาง เฟสบุ๊ก เพื่อจะได้เผยแพร่กว้างขวาง และไปถึงท่าน วิจารณ์ พานิช ๒๖ ม.ค. ๕๗

มือมืดติดป้าย "ขอแยกประเทศ" กลางเมืองพะเยา

ประชาชนที่สัญจรผ่านบริเวณสะพานลอยข้ามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์หน้าโรงเรียนบุญสิษฐ์วิทยาในเขตเทศบาลเมืองพะเยาต.เวียงอ.เมืองจ.พะเยาเส้นทางหลักกรุงเทพฯ-พะเยา-เชียงรายต่างแตกตื่นกับป้ายไวนิลพื้นสีแดงตัวหนังสือสีน้ำเงินขอบขาวมีข้อความระบุ "ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรมกู ขอแยกประเทศ"โดยตัวป้ายมีความกว้าง1 เมตร ยาว 4เมตร ติดทั้งด้านขาขึ้นและขาล่องโดยเจตนาติดทับกับป้ายเทศกาลตรุษจีนของเทศบาลเมืองพะเยาที่มีลักษณะพื้นสีแดงคล้ายกัน

จากการตรวจสอบบนสะพานลอยพบว่าผู้นำป้ายมาติดใช้เชือกไนล่อนสีเขียวขนาด4 หุนมัดติดกับราวสะพานลอยอย่างแน่นหนารวม5 จุดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองพะเยาและชุดสายตรวจ ได้เดินทางมาตรวจสอบและถ่ายรูปพร้อมกับทำบันทึกไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณสะพานลอยดังกล่าวเป็นจุดกลับรถและเป็นถนนเส้นสำคัญที่การจราจรหนาแน่นโดยเฉพาะบริเวณนี้อยู่ด้านหน้าโรงเรียนบุญสิษฐ์วิทยาซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนมีนักเรียนนับพันคนคาดว่าผู้ที่นำป้ายมาติดมุ่งหวังให้ผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลายได้เห็นรวมถึงต้องการให้รถยนต์ที่ขับผ่านได้เห็นสัญลักษณ์นี้อย่างไรก็ตามในจุดนี้ไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ทำให้มือมืดสามารถลงมือได้อย่างสะดวก


ฆ่าทิ้งชายสวมเสื้อกปปส.ย่านถนนกำแพงเพชร

จะฆ่าคนไทย ผู้รักชาติ ยังไงก็ได้ ตามสบาย ??
เมื่อเวลา 8.00 น. ที่ผ่านมา ถนนกำแพงเพชร 6 ห่างจากวัดเสมียนนารี 500 เมตร ก่อนถึงสถานีรถไฟบางเขน พบศพชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายรวม 3 นัด สภาพศพสวมเสื้อสีดำ สกีนภาพอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สวมกางเกงขายาวสีดำ และสวมสายรัดข้อมือสัญลักษณ์ธงชาติไทย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์เวร และหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้ว

"มัลลิกา เผยหลักฐานจากคลิปเห็นมือยิง"สุทิน"มีผู้ต้องสงสัย 3 คน


"มัลลิกา เผยหลักฐานจากคลิปเห็นมือยิง"สุทิน"มีผู้ต้องสงสัย 3 คน หนึ่งในนั้นข้อมูลระบุเป็นลูกน้องเก่าเสธแดง ถือปืนเข้าประกบรถปราศรัยตรงกับหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์การผ่าพิสูจน์ศพจากหมอพรทิพย์" 

พรรคประชาธิปัตย์ : 10.30น.นางสาว มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรค แถลงพร้อมแสดงหลักฐานเป็นภาพถ่ายจากทีมโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยระบุว่าภาพเหล่านี้มาจากคลิปเหตุการณ์วัดศรีเอี่ยมหลายมุมเผยแพร่อยู่ขณะนี้ ซึ่งเป็นภาพชายถือปืนมากับกลุ่มอันธพาลที่ดักสกัดกั้นกปปส. และเป็นกลุ่มที่มีคนระบุว่ามีนักการเมืองจัดมา โดยมีผู้ต้องสงสัยทีเห็นมีปืน 3 คน เห็นหน้าตาชัดเจนพร้อมในมือมีอาวุธปืนถืออยู่ จงใจเดินเข้าไปประกบยิงคนบนรถปราศรัยอย่างอุกอาจ และกระสุนจากมือปืนคนใดคนหนึ่งสังหารนายสุทิน

รองโฆษก กล่าวว่า นอกจากนี้ในเฟสบุคของเครือข่ายเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งที่เคลื่อนไหวการเมืองเปิดเผยมาตลอดยังโพสต์ยอมรับว่าไปยิงกปปส.ตายไปแล้ว 1 รายจริง ข้อมูลเหล่านี้เป็นหลักฐานหนึ่งที่ระบุชัดว่ามีการลงมือโดยมีใครสั่งการแน่นอน เพราะภาพเหตุการณ์ไม่ใช่การปะทะแต่เป็นการบุกไปไปสังหารโดยไม่มีการตอบโต้นอกจากหลบกระสุนชัดเจน

ดังนั้น ทางสำนักโฆษกพรรคปชป.จึงต้องการส่งหลักฐานเหล่านี้ให้พนักงานสอบสวนและเป็นหน้าที่ของสตช.ที่จะควานหาพยาน-หลักฐานเหล่านี้ จึงขอให้มาติดต่อรับได้ทันทีพร้อมจะให้ความร่วมมือเพื่อไม่ให้ฝ่ายใดไปตัดตอนสำนวนของพนักงานสอบสวน

28 มกราคม 2557

ยิงดับชายใส่เสื้อ กปปส.ย่านวัดเสมียน

ยิงดับชายใส่เสื้อ กปปส. ย่านวัดเสมียน

พบศพชายใส่เสื้อ กปปส. ถูกยิงดับ ย่านวัดเสมียน เจ้าหน้าที่เร่งสอบ

รายงานแจ้งว่า พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ห่างจากวัดเสมียนนารี ประมาณ 500 เมตร ก่อนถึงสถานีรถไฟบางเขน เบื้องต้น ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อสีดำ สกีนภาพอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สวมกางเกงขายาวสีดำ และสวมสายรัดข้อมือสัญลักษณ์ธงชาติไทย สภาพศพใบหน้าบวมปูด และพบร่องรอยคล้ายถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณหน้าอกด้านซ้ายจำนวน 3 นัด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรอแพทย์ และกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเหตุอีกครั้ง

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=512287