PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

สภานศ.มธ. ประณามสื่อไร้จรรยาบรรณ เขียนข่าวโจมตีนศ.ซ่องสุมกำลัง-ทำลายชาติ

สภานศ.มธ. ประณามสื่อไร้จรรยาบรรณ เขียนข่าวโจมตีนศ.ซ่องสุมกำลัง-ทำลายชาติ


วันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีบทความข่าว “นรกป่วนชาติ (รอบใหม่)” เขียนโดยเจ้าของนามปากกา และตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2561 รวมทั้งมีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ มีเนื้อหาโจมตีคณะอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.)ว่า “เป็นเครื่องมือนักการเมืองและพวกทำลายชาติ” อีกทั้งมีเจตนาชี้นำให้ผู้อ่านเกิดความเกลียดชังต่อคณะอาจารย์ นักศึกษาและต่อมหาวิทยาลัย รวมทั้งพยายามกล่าวหาว่ามธ. เป็นพื้นที่สำหรับวางแผนเคลื่อนไหวและซ่องสุมกองกำลัง อันเป็นการให้ร้าย และปลุกปั่นความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม
สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในฐานะองค์กรพิทักษ์สิทธิ และเสรีภาพของนักศึกษาและประชาชนชาวไทยมาตลอด และในฐานะผู้แทนของนักศึกษามธ. ระบุว่า สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ขอประณามต่อการกระทำของสื่อและนักเขียนข่าว ซึ่งไร้จรรยาบรรณในวิชาชีพ ขาดความเที่ยงธรรม และความเป็นภววิสัยในการรายงานข่าว อีกทั้งขาดการกลั่นกรองข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำเสนอสู่สาธารณะ ตลอดจนมีเนื้อหาอันก้าวก่ายสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่น โดยที่นำมาซึ่งความเกลียดชัง และความแตกแยกในสังคม นับว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติและสังคมในแบบหนึ่ง
สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ขอเรียกร้องให้สำนักพิมพ์แสดงความรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว และขอเรียกร้องไปยังนักเขียนข่าวเจ้าของนามปากกา ให้พิจารณาการทำงานของตนในฐานะสื่อมวลชนว่ายังคงมีจรรยาบรรณในวิชาชีพเพียงพอสำหรับการรับใช้สังคมอยู่หรือไม่
สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ขอสนับสนุนให้นักศึกษาและประชาชน พิจารณาข้อมูลข่าวสารจากสื่อที่มีคุณภาพ และเชื่อถือได้ เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อของการใช้สื่อในการสร้างความร้าวฉาน และแตกแยกในสังคม รวมทั้งขอสนับสนุนต่อการใช้สิทธิและเสรีภาพของนักศึกษาและประชาชนตามที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญไทยอย่างเหมาะสมและสมควร โดยมิทำลายซึ่งสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

ป.ป.ช.เผยสอบนาฬิกา"บิ๊กป้อม" เสร็จไม่ทันเดือนนี้

ป.ป.ช.เผยสอบนาฬิกา"บิ๊กป้อม" เสร็จไม่ทันเดือนนี้ อ้างรอเอกสารจากผู้จำหน่าย แต่สอบทายาทเจ้าของนาฬิกาครบแล้ว
.
วันนี้ (10 พ.ค.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีนาฬิกาหรูของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าได้สอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวครบถ้วนแล้ว รวมทั้งทายาทของ นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เพื่อนของพลเอก ประวิตร ที่ได้ชี้แจงมาแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่ามีการยืนยันการเป็นเจ้าของนาฬิกาหรือไม่ ส่วนการจะเรียกสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมหรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ เพราะต้องรอดูผลการชี้แจงของตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาอีกครั้งหนึ่งก่อน
.
เลขาฯ ป.ป.ช. ยืนยันว่าการดำเนินการของ ป.ป.ช. ไม่ได้ชะงัก แต่การตรวจสอบจะต้องรอพยานหลักฐานจึงจะดำเนินการต่อไปได้ ขณะนี้ยังคงรอเอกสารยืนยันหมายเลขตัวเรือนของนาฬิกาจากทางผู้จำหน่ายนาฬิกาอยู่ ซึ่ง ป.ป.ช. จะเร่งรัดให้เอกชนส่งหลักฐานมา
.
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าอาจเสร็จไม่ทันภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และอาจจะใช้เวลาอีก 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการชี้แจงของตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา
.
แม้ที่ผ่านมาเลขาฯ ป.ป.ช. จะยืนยันมาตลอดว่าไม่มีการประวิงเวลาสำหรับคดีนี้ แต่กรณีดังกล่าว ป.ป.ช. รับไปดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 ผ่านมาเกือบครึ่งปี สังคมก็ยังไม่ได้เห็นความชัดเจนของเรื่องนี้จาก ป.ป.ช.
อ่านย้อนหลังเพิ่มเติม https://thestandard.co/prawit-ignore-testimony/
ขอบคุณข้อมูลจาก THE STANDARD
ภาพ: ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม

สมหวังกับงานที่เกินมือ

สมหวังกับงานที่เกินมือ



เส้นกราฟชีวิตกำลังอยู่ในห้วงขาขึ้น
กับชีวิตดี๊ดีของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุงพรรคเพื่อไทย ที่แทบการันตีตั๋ว “นอมินี” รับธงจากอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร นั่งแท่นแม่ทัพพรรคเพื่อไทยในการลงสนามเลือกตั้ง
สมหวังกับตำแหน่งที่เจ้าตัวขันอาสาสร้างจุดเปลี่ยนให้ “นายใหญ่”
ล่าสุดก็เพิ่งสำเร็จดุษฎีบัณฑิต เตรียมรับปริญญาเอกสาขาวิชาพระพุทธศาสนา จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) หลังใช้เวลาเว้นวรรคการเมืองศึกษามาหลายปี
เสริมราศีดีกรี “ด็อกเตอร์” จังหวะพอดีกับการนั่งแท่นเบอร์หนึ่งพรรคเพื่อไทย
ภารกิจเดิมพันใหญ่สุดในชีวิตการเมืองของเจ้าเมืองกรุงเลยก็พูดได้
กับโจทย์ใหญ่ การบ้านโคตรยากที่กองอยู่ตรงหน้า
เริ่มตั้งแต่ด่านแรก การเคลียร์อาการเขม่นในหมู่เจ๊ๆเฮียๆในเพื่อไทยที่ไม่ยอมหลบให้กัน โดยเฉพาะคิวของ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบาน ไหนจะบวกแรงพ่วงแฝงของ “เฮียเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำสายตรง “ดูไบ” ที่ไม่เผาผี
ถึงฉากหน้าจะยอมตามคำขอของ “นายใหญ่” แบบเสียมิได้ แต่ลึกๆยังไงก็ไม่เต็มร้อย
มันคือแรงเสียดทานภายในที่ “เจ๊หน่อย” ต้องเผชิญนับจากนี้ไป ในจังหวะที่อีกทางก็ต้องปะทะกับแรงเสียดทานภายนอกที่เริ่มยกระดับขึ้นทุกขณะในจังหวะ คสช.ปลดล็อกให้การเมืองเริ่มขยับ
กับจังหวะขยับของ “นายใหญ่” ที่ยังอยู่ในอารมณ์ท้าทายท็อปบูต
กระตุกเงื่อนไขสถานการณ์ยั่วฝ่ายคุมเกมอำนาจ
ตามปรากฏการณ์ล่าสุดในการบินโฉบมาที่ประเทศสิงคโปร์ในห้วงม็อบอยากเลือกตั้ง และอีกสารพัดม็อบเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล
หนีไม่พ้นถูกโยงเป็นการส่งซิกอยู่เบื้องหลังเกมมวลชน
ขณะเดียวกันก็เป็นสถานการณ์ที่ลูกข่ายพรรคเพื่อไทยบินไปต่อคิวเข้าพบ ท้าทายเสียงเตือนจากทีมงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสี่ยงเข้าข่ายการครอบงำ
อาจนำไปสู่โทษหนักถึงขั้นยุบพรรค
ที่แน่ๆเลย “กรรมเก่า” โผล่มาให้เห็นทันตา
กับจังหวะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มอบหมายให้พนักงานคดี สำนักงาน ป.ป.ช. ยื่นฟ้องอดีตนายกฯทักษิณ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีเมื่อปี 2546 “ทักษิณ” ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบและยินยอมให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีคัลไทย จำกัด (ทีพีไอ) โดยมิชอบ
ไล่เลี่ยๆกันเลยกับจังหวะที่อัยการสูงสุดเห็นชอบให้ส่งฟ้อง “เสี่ยไก่” นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ในคดีทุจริตโครงการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายหลังจากคณะทำงานร่วม ป.ป.ช.และสำนักงานอัยการสูงสุด ใช้เวลาปีกว่าแก้ไขประเด็นข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนฟ้องจนครบถ้วนแล้ว
แนวโน้ม “นายใหญ่” และทีมงานโดนลุยเช็กบิลหนักแน่
ตามสถานการณ์คดีค้างเก่าที่ค้างอยู่เต็มโรงเต็มศาล
แต่ที่น่าห่วงที่สุดก็คือ “กล่องดวงใจ” ของ “นายใหญ่” และ “นายหญิง” อย่าง “เสี่ยโอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
ชะตาแขวนอยู่กับคดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย
โดนปักชนักคาหลังไว้ ประกอบอาการซ่าท้าวัดดวงไปทั่ว ทั้งการเปิดหน้าโซ้ย “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ท้าทายทหาร คสช. และการกระโดดข้ามรุ่นไปใช้ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าค่ายประชาธิปัตย์ เป็นบันไดลิงไต่เพดานบิน
ที่แสบสันจริงๆก็คือการโพสต์โซเชียลฯถามหาใบสมัครพรรคอนาคตใหม่จาก “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แสดงเจตจำนงร่วมอุดมการณ์กับกลุ่มนิติราษฎร์
โดยไม่สนแรงเสียดทานจากกลุ่มต้านขบวนการหมิ่นเหม่ ม.112
ตามเค้าลางที่ไม่ต้องเป็นหมอดูก็ทำนายอนาคตได้ แนวโน้มสูงมากที่ “เสี่ยโอ๊ค” อาจต้องโดนคดีขึ้นศาลกันเหนื่อย
เงื่อนไขมันเกินมือ สุดกำลังที่ “เจ๊หน่อย” จะเคลียร์ไหว.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ดูดรายต่อไป

ถูก"ดูด"??!!

"ป๋าเหนาะ" เปล่าถูก"ดูด"แต่ พร้อมตัอนรับ "บิ๊กตู่" ลงพื้นที่สระแก้ว ถิ่นเก่า บูรพาพยัคฆ์/ ขณะทีมทำเนียบฯ ยังไม่ยืนยัน "บิ๊กตู่" ไป 18พค.หรือไม่

สาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดข่าวสะพัดว่า คสช.ดูด"ป๋าเหนาะ"คือ การที่"ไพศาล พืชมงคล" ที่ปรึกษาฯ บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร 
และเคยอยู่พรรคความหวังใหม่ ยุคบิ๊กจิ๋ว ด้วยกันมา โพสต์ เฟสบุ้ค ภาพและข้อความ ไปกินกาแฟกับ ป๋าเหนาะ "เสนาะ เทียนทอง" ประเมินสถานการณ์การเมือง  ประกอบกับมีข่าวว่า "นายกฯบิ๊กตู่"เตรียมลงพื้นที่"สระแก้ว"  18พค.นี้ ......

จนวันนี้  "ป๋าเหนาะ" ออกตัวว่า ไม่ได้ถูกดูด แต่บอกว่าพร้อมจะไปต้อนรับนายกฯ มา สระแก้ว  และพร้อมนำประชาชนไป ต้อนรับสัก 50,000 คน

แถมทั้ง เป็นถิ่นเก่า ของ พลเอกประยุทธ์ และ พลเอกประวิตร และพลเอกอนุพงษ์  ที่ล้วนเติบโตมาจาก พล.ร.2รอ.สระแก้ว  แดนบูรพาพยัคฆ์

ขณะที่ "ไพศาล" ให้จับตามองว่า ป๋าเหนาะชูมือ พลเอกชาติชาย ว่าจะเป็นนายกฯคนต่อไป ชูมือ ท่านบรรหาร เป็นนายกฯและ ก็เคยชูมือทักษิณ ว่าจะเป็นนายกฯ แล้วก็เป็นจริงมาแล้ว....

"ในวันที่ลุงตู่ลงพื้นที่สระแก้ว ป๋าเหนาะจะจับมือลุงตู่ ชูเป็นนายกต่อหรือไม่?" ไพศาล ระบุ

เรียกได้ว่า ตอนนี้ ไม่ว่าอะไรๆ ก็ถูกมองเป็นการเมือง เป็นเรื่องดูด กันไปซะหมด

ผมแก่แล้ว

"บิ๊กป้อม" วัย73 ออกตัว ผมแก่มาก ไม่เล่นการเมือง ปล่อย"มหาเธร์"92 เป็นนายกฯ อีกสมัย

"บิ๊กป้อม" ยินดี "มหาเธร์"ชนะเลือกตั้ง มาเลเซีย เชื่อการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ไม่มีผลกระทบต่อไทย  และนโยบายพูดคุยสันติสุขใต้ ปัดตอบ "นาจิบ" ทุจริต"แพ้เลือกตั้ง

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าว แสดงความยินดี กับ "มหาเธร์ โมฮัมหมัด" ที่ชนะเลือกตั้ง มาเลเซีย ชี้ เป็นการตัดสินใจของ ปชช.  เชื่อไม่มีผลกระทบต่อไทย  และนโยบายพูดคุยสันติสุข ที่มาเลเซีย เป็น ผู้อำนวยความสะดวก อยู่

ส่วนการที่ "นาจิบ ราซัค" ที่ถูกโจมตี เรื่องทุจริต แพ้เลือกตั้ง นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้จะวิจารณ์ยังไง เพราะ ไม่ได้ติดตามรายละเอียด

แต่ เชื่อไม่มีผลกระทบต่อนโยบายการแก้ปัญหาภาคใต้ และ การพูดคุยสันติสุข  เพราะไทยกับมาเลเซีย ก็ดีกัน เราดีกับทุกคน และเมื่อเขาจัดตั้งรัฐบาลใหม่ มีรมว.กลาโหม คนใหม่ ก็คงจะได้คุยกัน แต่ตอนนี้ ยังไม่รู้ว่าจะเป็นใคร

ส่วนการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ของมาเลเซีย จะมีผลต่อไทย หรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า คงไม่มีผลอะไร
 
ส่วนการเลือกตั้งมาเลเซีย ทำให้การเลือกตั้งไทย ถูกจับตามองเช่นกัน ก็ไม่เป็นไร

ส่วนการที่ นายมหาเธร์ อายุ92 แล้ว ยังเล่นการเมืองอยู่ แล้ว พลเอกประวิตร อายุ73 จะเล่นการเมืองต่อหรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า  แต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมแก่มาก เพราะผมทำมาตั้งแต่เด็ก

โดยก่อนหน้านี้ พลเอกประวิตร กล่าวว่า ตนเองจะไม่เล่นการเมือง เมื่อหมดเทอมรัฐบาล คสช.  ไม่ไปทำงานการเมืองกับพลเอกประยุทธ์  เพราะก็จะพักแล้ว เพราะอายุเยอะ