PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

สมหวังกับงานที่เกินมือ

สมหวังกับงานที่เกินมือ



เส้นกราฟชีวิตกำลังอยู่ในห้วงขาขึ้น
กับชีวิตดี๊ดีของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุงพรรคเพื่อไทย ที่แทบการันตีตั๋ว “นอมินี” รับธงจากอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร นั่งแท่นแม่ทัพพรรคเพื่อไทยในการลงสนามเลือกตั้ง
สมหวังกับตำแหน่งที่เจ้าตัวขันอาสาสร้างจุดเปลี่ยนให้ “นายใหญ่”
ล่าสุดก็เพิ่งสำเร็จดุษฎีบัณฑิต เตรียมรับปริญญาเอกสาขาวิชาพระพุทธศาสนา จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) หลังใช้เวลาเว้นวรรคการเมืองศึกษามาหลายปี
เสริมราศีดีกรี “ด็อกเตอร์” จังหวะพอดีกับการนั่งแท่นเบอร์หนึ่งพรรคเพื่อไทย
ภารกิจเดิมพันใหญ่สุดในชีวิตการเมืองของเจ้าเมืองกรุงเลยก็พูดได้
กับโจทย์ใหญ่ การบ้านโคตรยากที่กองอยู่ตรงหน้า
เริ่มตั้งแต่ด่านแรก การเคลียร์อาการเขม่นในหมู่เจ๊ๆเฮียๆในเพื่อไทยที่ไม่ยอมหลบให้กัน โดยเฉพาะคิวของ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบาน ไหนจะบวกแรงพ่วงแฝงของ “เฮียเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำสายตรง “ดูไบ” ที่ไม่เผาผี
ถึงฉากหน้าจะยอมตามคำขอของ “นายใหญ่” แบบเสียมิได้ แต่ลึกๆยังไงก็ไม่เต็มร้อย
มันคือแรงเสียดทานภายในที่ “เจ๊หน่อย” ต้องเผชิญนับจากนี้ไป ในจังหวะที่อีกทางก็ต้องปะทะกับแรงเสียดทานภายนอกที่เริ่มยกระดับขึ้นทุกขณะในจังหวะ คสช.ปลดล็อกให้การเมืองเริ่มขยับ
กับจังหวะขยับของ “นายใหญ่” ที่ยังอยู่ในอารมณ์ท้าทายท็อปบูต
กระตุกเงื่อนไขสถานการณ์ยั่วฝ่ายคุมเกมอำนาจ
ตามปรากฏการณ์ล่าสุดในการบินโฉบมาที่ประเทศสิงคโปร์ในห้วงม็อบอยากเลือกตั้ง และอีกสารพัดม็อบเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล
หนีไม่พ้นถูกโยงเป็นการส่งซิกอยู่เบื้องหลังเกมมวลชน
ขณะเดียวกันก็เป็นสถานการณ์ที่ลูกข่ายพรรคเพื่อไทยบินไปต่อคิวเข้าพบ ท้าทายเสียงเตือนจากทีมงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสี่ยงเข้าข่ายการครอบงำ
อาจนำไปสู่โทษหนักถึงขั้นยุบพรรค
ที่แน่ๆเลย “กรรมเก่า” โผล่มาให้เห็นทันตา
กับจังหวะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มอบหมายให้พนักงานคดี สำนักงาน ป.ป.ช. ยื่นฟ้องอดีตนายกฯทักษิณ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีเมื่อปี 2546 “ทักษิณ” ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบและยินยอมให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีคัลไทย จำกัด (ทีพีไอ) โดยมิชอบ
ไล่เลี่ยๆกันเลยกับจังหวะที่อัยการสูงสุดเห็นชอบให้ส่งฟ้อง “เสี่ยไก่” นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ในคดีทุจริตโครงการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายหลังจากคณะทำงานร่วม ป.ป.ช.และสำนักงานอัยการสูงสุด ใช้เวลาปีกว่าแก้ไขประเด็นข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนฟ้องจนครบถ้วนแล้ว
แนวโน้ม “นายใหญ่” และทีมงานโดนลุยเช็กบิลหนักแน่
ตามสถานการณ์คดีค้างเก่าที่ค้างอยู่เต็มโรงเต็มศาล
แต่ที่น่าห่วงที่สุดก็คือ “กล่องดวงใจ” ของ “นายใหญ่” และ “นายหญิง” อย่าง “เสี่ยโอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
ชะตาแขวนอยู่กับคดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย
โดนปักชนักคาหลังไว้ ประกอบอาการซ่าท้าวัดดวงไปทั่ว ทั้งการเปิดหน้าโซ้ย “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ท้าทายทหาร คสช. และการกระโดดข้ามรุ่นไปใช้ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าค่ายประชาธิปัตย์ เป็นบันไดลิงไต่เพดานบิน
ที่แสบสันจริงๆก็คือการโพสต์โซเชียลฯถามหาใบสมัครพรรคอนาคตใหม่จาก “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แสดงเจตจำนงร่วมอุดมการณ์กับกลุ่มนิติราษฎร์
โดยไม่สนแรงเสียดทานจากกลุ่มต้านขบวนการหมิ่นเหม่ ม.112
ตามเค้าลางที่ไม่ต้องเป็นหมอดูก็ทำนายอนาคตได้ แนวโน้มสูงมากที่ “เสี่ยโอ๊ค” อาจต้องโดนคดีขึ้นศาลกันเหนื่อย
เงื่อนไขมันเกินมือ สุดกำลังที่ “เจ๊หน่อย” จะเคลียร์ไหว.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น: