PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บันทึกจาก “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร”ซากเสือดำในสายตาเด็กๆ

บันทึกจาก “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานฯ กับการจับกุมนายเปรมชัย และซากเสือดำในสายตาเด็กๆ
“หลังจาก สำนวนบันทึกจับกุม นายเปรมชัย กับพวกเสร็จพวกเรา จนท รีบส่งเพราะกลัวโดน ฟ้องกลับ เพราะทนายขู่ว่ากักตัวเกิน 48 ชม
พวกเรารวมทั้งผม ก็กลัวเช่นกัน แต่ทำไงได้กว่าจะออกมา มันใช้เวลานานเหลือเกิน พวก จนท ทำงานเพื่อปกป้องป่า รักษาชีวิตสัตป่าและรักษาชีวิตของตน ให้อยู่กับครอบครัวให้นานที่สุด
ในขณะเดียวกัน น้องๆ จนท พิทักษ์ป่า ไปหยิบ ของกลางมาวาง มาวางที่ละชิ้น ที่ละชิ้น นั้น
ความกลัวที่ กลัวเขาฟ้องกลับ มันกลายเป็นความโกรธแค้น ทั้งที่พวกเราไม่ควรโกรธ เพราะเป็นหน้าที่
แต่ขอให้ทุกคนที่อ่านเข้าใจ ด้วยว่า
พวกเรา จนท ผู้พิทักษ์ป่าทุกนาย ดูแล ปกป้อง คุ้มครอง ป่า ต้นไม้ โดยเฉพาะสัตว์ป่า มาด้วยชีวิต กว่ามันจะโตได้ รอดได้ วิ่งได้ มันผ่านอุปสรรคมากมาย พวกเราเดินทนร้อนทนหนาว ทนเปียก เพื่อดูแลพวกเขา
แต่กลับถูกหยิบออกจากถุงดำ ออกมาเป็นชิ้นๆ นั้นเสือดำ ซึ่งร่างถูกแบ่งเป็นท่อนๆ ไก่ฟ้าลังเทา ถูกกินเหลือครึ่งเดียว เนื้อเก้ง
แล้วนี่อะไรอีก มันเป็นหางเสือดำ ต้มยำเป็นซุบ เนื้อขาหลังของเสือดำ ถูกเอาไปกิน มันอะไรกัน คุณเปรมชัย!
ขณะนั้นผมกำลังถ่ายภาพ ที่ จนท นำซากสัตว์ แต่ละอย่างออกมา ผมหันไปเห็นนักเรียน เด็กๆ ตัวเล็กๆ ยืนชี้! พูดคุยกันเสียง งึมงัม!
จับใจความไม่ได้ว่า เด็กๆ พวกนั้น คิดอะไร และไม่ได้ยินว่าพูดอะไรด้วย
แต่ที่มันสะท้าน ความรู้สึกของผมคือ
“คุณเปรมชัย ทำอะไร
คุณทำอะไรลงไป คุณได้ทำตัวอย่างที่ เด็กๆ ควรเอาตัวอย่างหรือไม่ นั้น
ผมไม่อาจรู้ได้ เพราะผมไม่ยิน เสียงเด็กๆ คุยกัน
แต่ที่ผมรู้สึก คือ ผมรู้สึกแย่มาก ครับ”

ตำรวจไซด์ไลน์"สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง"

คำต่อคำ 'สมยศ' แจงปมยืมเงินเสี่ยกำพล300ล. เรื่องหุ้นผมนิยมมาก อาชีพตำรวจแค่ไซด์ไลน์

เขียนวันที่
วันพุธ ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 18:21 น.
เขียนโดย
isranews
หมวดหมู่

"ตลอดชีวิตรับราชการของผม เกือบจะเรียกได้ว่าอาชีพตำรวจนี่ถือว่าเป็นไซด์ไลน์ อาชีพหลักๆผมคือทำธุรกิจ ซึ่งคนในแวดวงธุรกิจรู้เรื่องดี โดยเฉพาะเรื่องหุ้นผมนิยมมาก ผมมีรายได้ ผลกำไรจากการเล่นหุ้น และก็เสียหายเพราะการเล่นหุ้นเช่นกัน ดังนั้นช่วงที่หมุนเงินไม่ทันก็ไปยืมเงินคุณกำพล ซึ่งการรวบรวมเงินไปคืนคุณกำพลจำนวน 300 ล้านบาทนั้น ต้องเรียนว่าการชดใช้ บางครั้งถ้ามีเงินสดก็ชดใช้เป็นเงินสด ถ้าไม่มีเงินสด ต้องเอาที่ดินไปให้เขาก็ยังมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมและคุณกำพลอยู่ในแวดวงพระเครื่อง บางครั้งก็มีการชดใช้หนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน"
Somyot
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เป็นรายละเอียดบทสัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  ที่ให้ต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2561 และการให้สัมภาษณ์ ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางช่องโทรทัศน์ สปริง นิวส์ ซึ่งมีนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ น.ส.อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ต่อกรณีการยืมเงินนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของอาบอบนวดนิคตอเรีย ซีเคร็ท จำนวน 300 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐ ในขณะนี้ ซึ่งสำนักข่าวอิศรา เห็นว่าข้อมูลในบทสัมภาษณ์ มีความน่าสนใจ ในหลายประเด็น จึงนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบแบบชัดๆ อีกครั้ง
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง : 
"กรณีที่ผมไปยืมเงินคุณกำพล 4 ครั้ง จำนวน 300 ล้านบาทนั้นก็มีคนสงสัยว่าจะเอามาทำอะไร ต้องเรียนแบบนี้ก่อนว่าตลอดชีวิตรับราชการของผม เกือบจะเรียกได้ว่าอาชีพตำรวจนี่ถือว่าเป็นไซด์ไลน์ อาชีพหลักๆผมคือทำธุรกิจ ซึ่งคนในแวดวงธุรกิจรู้เรื่องดี โดยเฉพาะเรื่องหุ้นผมนิยมมาก ผมมีรายได้ ผลกำไรจากการเล่นหุ้น และก็เสียหายเพราะการเล่นหุ้นเช่นกัน ดังนั้น ช่วงที่หมุนเงินไม่ทันก็ไปยืมเงินคุณกำพล"
"ส่วนการรวบรวมเงินไปคืนคุณกำพลจำนวน 300 ล้านบาทนั้น ต้องเรียนว่าการชดใช้ บางครั้งถ้ามีเงินสดก็ชดใช้เป็นเงินสด ถ้าไม่มีเงินสด ต้องเอาที่ดินไปให้เขาก็ยังมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมและคุณกำพลอยู่ในแวดวงพระเครื่อง บางครั้งก็มีการชดใช้หนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน แล้วแต่ผมกับคุณกำพลจะตกลงกันได้ นี่เป็นเรื่องปกติ ผมกับคุณกำพลมีการชดใช้หนี้กันทุกรูปแบบรวมไปถึงหุ้นก็ยังมี
"แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญก็คือกระบวนการโอนเงิน กระบวนการใช้หนี้นั้น ทุกอย่างเป็นกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านทั้งทางธนาคารและผ่านตลาดหลักทรัพย์"
" ถ้าที่ผ่านมาผมเคยบอกคุณกำพลไปว่าถ้าหากจะให้ผมฟอกเงินให้ คุณกำพลหิ้วเงินสดมาให้ผมดีกว่าแล้วตอนหลังผมเอามาคืนในรูปแบบอะไรก็ได้ ถ้าผมทำแบบนี้สิ ผมถึงจะปกปิดซ่อนเร้น แต่ผมรู้ดีว่าเรื่องแบบนี้มันปกปิดไม่ได้"
"วันหนึ่งเมื่อมีปัญหาขึ้นมา ผมก็ต้องเตรียมความพร้อมไปชี้แจง เพราะผมเป็นบุคคลที่สังคมให้ความสนใจ ทั้งนี้ผมอยากจะขอร้องไปยังสื่อต่างๆหลายสำนักด้วยว่า กรณีเสนอข่าวว่าอดีต ผบตร.รับส่วยน้ำกาม อดีต ผบต.ร.รับส่วยธุรกิจผิดกฎหมาย ผมก็อยากจะแสดงตัวตนของผมเองว่าอย่าว่าแต่เงินส่วย เงินผิดกฎหมายเลย ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าผมเป็น ผบตร.ที่ไม่เคยรับเงินลูกน้อยเลยแม้แต่บาทเดียว"
"ผมเคยประกาศต่อหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาว่าถ้าใครสามารถแสดงตนว่าเคยเอาเงินหรือเอาส่วนมาให้ผม ผมจะเดินลงไปกราบเท้าเขาเลย"
"เพราะผมมั่นใจว่าตลอดเวลาชีวิตราชการผม รายได้หลักของผม มาจากธุรกิจ มาจากการเล่นหุ้น ดังนั้น ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าผมไม่เคยไปยุ่งกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย"
"กรณีคุณกำพลทำธุรกิจอาบอบนวดอาจจะเป็นสีเทาๆแต่ก็มีเปิดอยู่ถึง 81 แห่งทั่วประเทศไทย เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำพลทำไม่ได้ คนอื่นก็ทำไม่ได้ ก็ปิดอาบอบนวดมันให้หมดไปเลย จะได้หมดเรื่องหมดราวไป"
ทั้งหมด คือ คำชี้แจงของ  พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ต่อกรณีการยืมเงินจำนวน 300 ล้านบาท จากนายกำพล ส่วนผลการชี้แจงต่อหน่วยงานตรวจสอบจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น อีกไม่นานสาธารณชนคงได้รับทราบคำตอบที่ชัดเจนกัน 

พลิกธุรกิจ‘เปรมชัย’ซีอีโอ แสนล.-กก.106 บริษัท-คู่ค้าใหญ่ภาครัฐ ก.ทรัพยฯด้วย

ป่าลั่น!พลิกธุรกิจ‘เปรมชัย’ซีอีโอ แสนล.-กก.106 บริษัท-คู่ค้าใหญ่ภาครัฐ ก.ทรัพยฯด้วย

เขียนวันที่
วันอังคาร ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 19:30 น.
เขียนโดย
isranews

เครื่องเคียงก่อนกรณีตั้งแคมป์ล่าสัตว์ ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พลิกธุรกิจ‘เปรมชัย’ ซีอีโอยักษ์รับเหมาแสนล. นั่งกก. 106 บริษัท กวาดอื้อหน่วยงานรัฐอื้อ การรถไฟฯ กรมชลประทาน กรุงเทพฯ คู่ค้า ก.ทรัพยาฯด้วย 
picprerererchii
ทอล์ก ออฟ ทาวน์ แวดวงการเมือง แวดวงนักธุรกิจ และแวดวงนักสิ่งแวดล้อม กรณีการจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูตร นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแสนล้านกับพวก ที่เข้าไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ตะวันตก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้ง 6 ข้อกล่าวหา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4-5 ก.พ.2561 วิพากษ์วิจารณ์ต่างต่างนานา 
บ้างก็ย้อนยุคไปเปรียบเทียบกับสมัยก่อนเกิดเหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 ที่มีการเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมกับตั้งคำถามว่า ไม่น่าเชื่อที่ยังมีใครที่จะทำอย่างนี้อีกในยุคนี้ ทั้งที่บุคคลคนนั้นยังเป็นผู้บริหารเบอร์หนึ่งของยักษ์ก่อสร้างอันดับต้นของประเทศ 
ขณะเดียวกันจำนวนไม่น้อยเรียกร้องสังคมช่วยกันให้กำลังใจและปกป้องเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรที่มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ 
พลิกข้อมูลทางธุรกิจ ‘เปรมชัย’ พบว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นกรรมการ 106 บริษัท จำแนกเป็นบริษัทเลิกดำเนินการแล้ว 32 บริษัท ล้มละลาย 1 บริษัท และเปิดดำเนินการในปัจจุบัน 73 บริษัท ธุรกิจหลักคือรับเหมาก่อสร้าง พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม โลจสติกส์และพลังงาน 
บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนวันที่ 24 มี.ค. 2537 ทุนล่าสุด 6,337,920,861 บาท ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่ตั้งอาคารอิตัลไทย ทาวเวอร์เลขที่ 2034/132-161 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร นายเปรมชัย กรรณสูต เป็นกรรมการผู้จัดการ มีกรรมการจำนวน 10 คน ณ วันที่ 31 มี.ค. 2560 นายเปรมชัยถือหุ้นอันดับหนึ่ง จำนวน 785,494,526 หุ้น (14.88% - ราคาปิดการซื้อขายภาคบ่ายที่ 3.72 บาท) 
แจ้งงบการเงินรอบปี 2559 รายได้รวม 27,250,780,000 บาท กำไรสุทธิ 110,898,000 บาท สินทรัพย์ 59,668,245,000 บาท หนี้สิน 45,519,083,000 บาท กำไรสะสม 541,694,000 บาท 
บริษัทอื่นที่นายเปรมชัยเป็นกรรมการ อาทิ 
บริษัท น้ำมันหอมภูเรือ จำกัด บริษัท เครื่องจักรกลสยาม จำกัด บริษัท จรุงไทยไวร์แอนด์เคเบิ้ล จำกัด (มหาชน) บริษัท ชัยภิญโญ จำกัด บริษัท ซังกิวไทย จำกัด บริษัท ซี.พี.เค.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บริษัท ซี.พี.เค.แพลนเตชั่น จำกัด บริษัท ซี.พี.เค.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ไนน์ สแควร์ จำกัด บริษัท เซาท์เทิร์น อินดัสตรีส์ (1996) จำกัด  บริษัท บ้านเรา โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท เบรนเอเซีย จำกัด บริษัท ปนุท จำกัด บริษัท สินแร่เมืองไทย จำกัด บริษัท เหมืองแร่ เอเซีย ไทย จำกัด บริษัท อมารี จำกัด บริษัท อมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด บริษัท อาควาไทย จำกัด บริษัท อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า จำกัด บริษัท อ่าวปอแกรนด์มารีน่าแอนด์เรสซิเดนซ์ จำกัด บริษัท อ่าวปอพัฒนา จำกัด บริษัท อิตัลไทย เทรวี่ จำกัด บริษัท อิตัลไทย มารีน จำกัด บริษัท อิตัลไทย เรียล เอ็ซเทท จำกัด บริษัท อิตัลไทยโฮลดิ้ง คัมปะนี จำกัด บริษัท อิตาเลียนไทย เพาเวอร์ จำกัด บริษัท อิตาเลียนไทย แลนด์ จำกัด บริษัท อิตาเลียนไทย หงสา จำกัด บริษัท อิตาเลียนไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท เอเชีย โลจิสติกส์ ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด บริษัท เอเชีย อินดัสเทรียล แอนด์ พอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท เอเซี่ยนสติล โปรดักส์ จำกัด บริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ จำกัด เป็นต้น 
บริษัทที่ล้มละลายคือ บริษัท ปลาแดง จำกัด จดทะเบียนวันที่ 16 พ.ย. 2532 ทุน 450 ล้านบาท ค้าและให้เช่าห้องชุดสำนักงาน ที่ตั้งเลขที่ 2034 อาคารอิตัลไทย ทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ศาลล้มละลายกลางมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2553 ให้ บริษัท ปลาแดง จำกัด ล้มละลาย (คดีหมายเลขแดงที่ ล.6491/2552)
ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างพบว่า นับจากวันที่ 1 ต.ค.2555 สิ้นปี 2560 จำนวน 110 สัญญา วงเงินประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ เป็นคู่สัญญากับ ,การรถไฟแห่งประเทศไทย , กรมทางหลวง ,กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง , สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เป็นต้น 
ขณะที่ อิตัลไทย เครืออิตาเลียนไทย เป็นคู่สัญญาหน่วยงานภาครัฐในช่วงเวลาเดียวกัน ประมาณ 170 สัญญา วงเงิน ประมาณ 2,600 ล้านบาท อาทิ จ้างต่อเรือส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 8 สัญญา วงเงิน 187 ล้านบาท เป็นต้น ไม่รวมการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่เอกชนรายนี้เป็นผู้รับเหมาหลายเส้นทาง อาทิ สายสีม่วง เบ็ดเสร็จวงเงินนับแสนบาท 
นี่คือเครื่องเคียงทางด้านธุรกิจของนักธุรกิจแสนล้าน 
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าที่นายเปรมชัยถูกกล่าวหา ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการกันต่อไป  

ฝันไกลฝันใหญ่มากๆ

ฝันไกลฝันใหญ่มากๆ


ก่อนที่แผนยุทธศาสตร์ชาติจะประกาศใช้บังคับยาวไปอีก 20 ปี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ได้สั่งให้นำร่างแผนยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้าน ซึ่งจัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากประชาชนใน 4 ภาคทั่วประเทศ
เริ่มจากภาคอีสาน เปิดเวทีที่จังหวัดขอนแก่นไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์
ภาคเหนือ จะเปิดเวทีที่จังหวัดเชียงใหม่ พรุ่งนี้ วันที่ 8 กุมภาพันธ์
ภาคกลาง จะเปิดเวทีที่เซ็นทารา ศูนย์ราชการ ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์
และภาคใต้ จะเปิดเวทีรับฟังความเห็นประชาชน ที่จังหวัดสงขลา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์
คาดว่าจะมีพี่น้องประชาชนสนใจแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของ คสช. ไปร่วมแสดงความคิดเห็นราว 2,000 คน หรือเฉลี่ยภาคละ 500 คน
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าการเปิดเวทีรับฟังความเห็น 4 ภาค นับเป็นโอกาสดีที่พี่น้องประชาชนจะได้เห็นร่างแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก่อนประกาศใช้จริง
แต่ยังมีประชาชนจำนวนมากที่อยากทราบว่าอนาคตประเทศไทยที่ถูกออกแบบล่วงหน้าไว้ 20 ปีว่าจะมีรูปร่างหน้าตาแตกต่างจากปัจจุบันไปอย่างไร??
“แม่ลูกจันทร์” จึงขออนุญาตเจาะแผนยุทธศาสตร์ชาติเฉพาะส่วนที่ฉายภาพอนาคตประเทศไทยในอีก 20 ปีจากนี้ไปมาสรุปย่อๆให้ท่านฟังเพลินๆ
อนาคตประเทศไทยในปี 2579 จะมีความมั่นคงทุกมิติที่พร้อมป้องกันภัยคุกคามทุกรูปแบบทั้งจากภายนอกและภายใน
ประเทศไทยจะเป็นที่ยอมรับของประชาคมโลก จากการเมืองที่มีเสถียรภาพ สังคมมีความสามัคคีปรองดอง ประชาชนมีความสุข
เป็นประเทศที่มีความมั่นคงด้านอาหาร นํ้า และพลังงาน
ด้านเศรษฐกิจ ประเทศไทยในปี 2579 จะอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้สูง เติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นศูนย์กลางผลิตอาหารปลอดภัยระดับโลก เป็นศูนย์กลางการวิจัยพัฒนาและนวัตกรรม เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมชีวภาพ และอุตสาหกรรมดิจิทัล เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้า เป็นศูนย์กลางบริการด้านสุขภาพ ศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ
เป็นศูนย์กลางการลงทุนและศูนย์ กลางการเงินของโลก
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า “คนไทยใน พ.ศ.2579” จะมีศักยภาพสูง มีความรับผิดชอบสูง มีจิตสำนึกดีงาม มีความพร้อมทั้งกายใจและสติปัญญา มีทักษะคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงทุกมิติ
และมีความพร้อมปรับตัวรองรับการพัฒนาทุกด้าน
“สังคมไทยใน 20 ปีข้างหน้า” จะเป็นสังคมที่ความเป็นธรรมไม่มีความเหลื่อมล้ำ ไม่มีความยากจน กระจายโอกาสเข้าถึงทรัพยากรอย่างเท่าเทียม
คนไทยทุกช่วงวัยจะมีคุณภาพชีวิตดี ครอบครัวไทยจะอยู่ดีมีสุขกันทั่วหน้า
“โฉมหน้าประเทศไทยในปี 2579” จะเป็นประเทศพัฒนาที่มี “ระบบเศรษฐกิจสีเขียว” เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นประเทศสะอาด น่าอยู่น่าเที่ยว ระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำมาก ขยะเป็นศูนย์และมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กระจายทั่วประเทศ
สุดท้าย...“ระบบราชการไทยในอนาคตอีก 20 ปี” จะมีประสิทธิภาพทันสมัย มีความกะทัดรัด คล่องตัว โปร่งใส ไร้ทุจริตคอร์รัปชัน
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่านี่คือแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่วาดโฉมหน้าประเทศไทยในอนาคตให้ก้าวกระโดดกระเด้งดึ๋งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชีย และศูนย์กลางสำคัญของโลก
ขายฝันไกลๆ ฝันใหญ่มากๆ.
"แม่ลูกจันทร์"

ไม่ต้องแซะให้เหนื่อย

ไม่ต้องแซะให้เหนื่อย


“ประยุทธ์” คนเดียวอยู่ไม่ได้
เฉลยกันเป็นนัย กับมุก “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. อ้อนคนเมืองจันท์อย่ารักตัวเองแค่คนเดียว ให้รักรองนายกฯและรัฐมนตรีคนอื่นด้วย
ต้องอยู่ด้วยกันทั้งหมด ใครต้องออกไปออกมามันวุ่น
คำตอบชัดเจน เป็นภาษาฟุตบอลก็ต่อขาดแบบลูกควบลูกครึ่ง อย่างไรเสีย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็ไม่มีทางหลุดวงโคจรจากรัฐบาล คสช.
โดนล่อเป้าหนักหนาสาหัสแค่ไหน ก็ยากจะแซะ “3 พี่น้องบูรพาพยัคฆ์” ได้
ถึงตรงนี้ ก็ไม่ต้องเสียเวลาลุ้น ตอกลิ่มให้เหนื่อยแรง เพราะไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้วที่กระแสเขย่า เพื่อหวังแยก 3 พี่น้องต้องฟาวล์ สุดท้ายคำตอบก็ออกมาแบบเก่า
“น้องเล็ก” พร้อมกอดคอ “พี่ใหญ่” ไม่ว่าเป็นหรือตาย
ในเมื่อแบบฟอร์ม “อำนาจพิเศษคุมเกมเปลี่ยนผ่านประเทศไทย” ถูกออกแบบมาอย่างนี้
ถ้ามี “บิ๊กตู่” ก็ต้องมี “บิ๊กป้อม” ถ้าไม่มี “บิ๊กป้อม” ก็ไม่มี “บิ๊กตู่”
ทางเดียวถ้าจะเจาะยางขุมอำนาจ คสช.ได้ นั่นคือต้องโค่นทั้งกระดาน
ตามรูปการณ์ เมื่อคำตอบสถานะของ “บิ๊กป้อม” ชัดเจน มันก็เป็นอะไรที่คงต้องไหลโดยอัตโนมัติ อาการรุกของฝ่ายต่อต้านคงต้องลามไปเขย่า “นายกฯลุงตู่”
ยกระดับไล่โละกันทั้งวง เหมาอัปเปหิทั้งรัฐบาล
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่ตรงกับธงของพรรคเพื่อไทย ลูกข่าย “ทักษิณ” มาตั้งแต่ต้น
ยิ่งเป็นอะไรที่อ่านไต๋โผล่ชัดๆจากอาการ “ผิดคิว” ที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ “นักร้องอาชีพ” มือกฎหมายประจำพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ตรวจสอบขบวนพาเหรดและการแปรอักษรในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ–ธรรมศาสตร์ เข้าข่าย
การชุมนุมทางการเมือง ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.
ตามเหลี่ยมเขี้ยวตั้งใจกดดันปั่นเกมให้ “บิ๊กตู่” เผชิญหน้ากับนักศึกษา
หวังเดินหน้าไล่เบิ้ลผู้นำรัฐบาล ในห้วงกระแส “ทหารทำอะไรก็ผิด”
แต่การณ์กลับพลิกเป็นว่า คนเพื่อไทยตั้งแท่นชงให้รัฐบาล คสช.เล่นงานนักศึกษา ร้อนถึง “เสี่ยโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย “นายใหญ่” ถึงกับออกอาการเม้งแตก
ตอกนายเรืองไกรออกอากาศเลยว่า “แบบนี้ไม่โอเค”
ร้อนถึง “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ต้องทำจดหมายเปิดผนึกอย่างเป็นการเป็นงาน ออกมาย้ำจุดยืนแสดงความชื่นชมนักศึกษาจุฬาฯ–ธรรมศาสตร์ และพรรคเพื่อไทยก็คัดค้านการตั้ง
ข้อกล่าวหาต่อกลุ่มประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยและทวงคืนการเลือกตั้ง
เคลียร์กันเหงื่อตก “เรืองไกร” เกือบทำยุทธศาสตร์พัง
แต่นั่นก็สะท้อนไต๋ชัด กับเกมโหนนักศึกษาปั่นกระแสปัญญาชนประจันหน้ากับทหาร
และก็ยิ่งเด่นชัดกับความพยายาม “เขี่ยหัวเชื้อ” จุดไฟขบวนการนักศึกษา
แม้แต่ล่าสุด จังหวะบังเอิญเกิดข่าวใหญ่สะท้านสะเทือนป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
ตามปรากฏการณ์ที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ได้ทำการจับกุมนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้ามตั้ง ตรวจสอบบริเวณเต็นท์พัก พบซากสัตว์ป่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก
โดยพบว่าหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวคือนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ก็มีขบวนการลากสถานการณ์ไปวนกับกงล้อประวัติศาสตร์อาถรรพณ์ป่าทุ่งใหญ่
อันเป็นที่มาของเหตุการณ์ 14 ตุลาวิปโยค ที่นักศึกษาเปิดโปงขบวนการทรราช พฤติการณ์ลุแก่อำนาจของทหารกับนักธุรกิจใช้เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเข้าไปล่าสัตว์ก่อน ฮ.ตกประจาน
แต่เรื่องของเรื่อง งานนี้โชคดี ไม่มีทหาร คสช.เข้าไปเกี่ยวข้อง
แบบที่มือยุทธศาสตร์ด้านกระแสของรัฐบาลประเมินอย่างมั่นใจว่า “ไกลกันมาก” โยงกันยาก
ตรงกันข้ามจากที่จะเป็นปมลบกับรัฐบาล สถานการณ์นี้กลับจะเป็นโอกาสบวกแต้มให้ “บิ๊กป้อม” ที่จะได้โชว์เนื้องานถนัดคือการอนุรักษ์ผืนป่าที่มีโปรไฟล์มาอย่างต่อเนื่องจากป่ารอยต่อภาคตะวันออก
ไม่บอกก็เดาได้ “พี่ใหญ่” ใส่เต็มแม็กซ์แน่.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน

นักการเมือง/ทหาร

(6/2/61)ตัวเป็นนักการเมือง ...แต่เสียง เป็นทหาร พูดจริง ไม่โกหก

"ผม และครม.ทุกคนก็มีชีวิต จิตใจ มีหัวอก หัวใจ"....บิ๊กตู่ อ้อน อย่ามอง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นานเกินไป เพื่อหวังสืบทอดอำนาจ....เปรย เราไม่สามารถรับประกันได้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น

"บิ๊กตู่" แจงเหตุที่ลงพื้นที่ เพราะ เอกสารที่แหกตาตลอด  วันนี้ต้องทำงานด้วยข้อเท็จจริง ทั้งวิชาการและประสบการณ์ที่มีอยู่จากการเป็นทหารและจากการเป็นนายกฯมา 3 ปีกว่า เจอปัญหามากมาย 

สิ่งสำคัญคือต้องมาเจอประชาชนในพื้นที่ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่น ทั้งหมดคือคนไทย 

"ผมทำเสียงเหมือนนักการเมืองหรือเปล่า ไม่เหมือน เพราะเสียงผม เป็นทหารที่พูดความจริง ไม่โกหก เพราะถวายสัตย์ปฏิญาณฯไว้หมดแล้ว"

อย่ามองว่ารัฐบาลจะลงทุนอะไร เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคนรวยหรือนักลงทุน รัฐบาลนี้ไม่เคยคิดอย่างนั้น คิดแต่ว่าการลงทุนอย่างไรจะถึงพี่น้อง ไม่มีญาติที่จะมาลงทุน เราต้องดูแลให้เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ทิ้งใคร ไว้ข้างหลัง 

รัฐบาลต้องใช้โซเชียลมีเดีย หรือสื่อ เป็นตัวกลางในการสร้างความเข้าใจ และสื่อก็พร้อมสร้างความเข้าใจ อาจถูกต้องบ้างไม่ถูกต้องบ้าง แต่เขาไม่ได้เจตนา ถือว่าต่างคนต่างทำหน้าที่

แต่เราต้องมีภูมิคุ้มกันตัวเอง ไม่เช่นนั้นจะอยู่ไม่ได้ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงทุกวัน 

"เราต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อย่ามองว่านานเกินไป เพื่อหวังสืบทอดอำนาจ ซึ่งผม และครม.ทุกคนก็มีชีวิต จิตใจ มีหัวอก หัวใจ 

วันนี้ขอให้ลดปัญหาความขัดแย้ง ลงก่อน ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตย ก็เป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว เราไม่สามารถรับประกันได้ว่า วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตราบใดที่ผมยังอยู่ตรงนี้ รัฐบาลนี้จะรักษาประโยชน์ให้มากที่สุด ให้คนไทยมีอนาคตที่ดี