PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562

เพื่อไทยอาสาสู้ 250 ส.ว. ไล่ "ตู่" กลับบ้าน-พาชาติพ้นวิกฤติ

ให้เลือกเพื่อไทยแบบถล่มทลาย คสช.แจ้งปอท.ฟันเพจ CSILA ปัดใช้ม.44-ส่งทหารคุกคาม

“บิ๊กตู่” ทำบุญฉลองเบิร์ธเดย์ 65 ปี อธิษฐาน ขอพรพาประเทศพ้นหล่มขัดแย้ง ลังเลขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ปิดท้ายช่วยเติมแต้ม พปชร. ทีมงานหวั่นคุมประเด็นไม่อยู่-รปภ.ไม่เต็มร้อย คสช.ปัดใช้ ม.44 ส่งทหารคุกคามเด็กเพื่อไทย อ้างได้รับร้องเรียน แจ้ง ปอท.ฟัน “CSILA” แชร์คำสั่งปลอมปฏิบัติการไอโอช่วยพปชร.ทิ้งทวนหาเสียงหลายพรรคแข่งปล่อยคลิป-ยิงมอตโต ปชป.ขอทุกเสียงตั้งรัฐบาล ตัดวงจรอุบาทว์เผด็จการ-คนโกง “วัชระ” อัด “เทือก” ข่มขู่ประชาชน “อุตตม” ไม่กังวล “ธนาธรฟีเวอร์” ด้าน “สมศักดิ์” มั่นใจได้ ส.ส. 130 บวกลบ พท.เตือนอย่าหลงลมเลือกสงบจบที่ลุงตู่ “เจ๊หน่อย” ติงจะเอาสงบจนสงัดหรือมีเสรีภาพ-เศรษฐกิจดี “วัฒนา” ตีปี๊บไม่กา พท.ลุงมาแน่ “ธนาธร” ยิ้มกระแสพุ่งไม่หยุด เพื่อชาติโหมส่ง “บิ๊กตู่” กลับบ้าน หยุดสืบทอดอำนาจเผด็จการ กกต.คิด ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หลังรับรอง ส.ส.เขต

ช่วงสุดท้ายก่อนถึงวันเข้าคูหาชี้ชะตาประเทศ ไทยวันที่ 24 มี.ค. ทุกพรรคต่างแข่งกันปล่อยคลิป ยิงมอตโตเพื่อกุมใจฐานเสียงกันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังชั่งใจว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ปิดท้ายการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่

“บิ๊กตู่” เข้าเฝ้าสังฆราชทำบุญ 65 ปี

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 21 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช และทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 65 ปี ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตลอดวัน นายกฯปฏิบัติงานอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า ไม่มีคณะใดเข้าอวยพร หลังนายกฯขอเพียงการ์ดอวยพร ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้โพสต์ภาพเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Prayut-Chan-o-cha” พร้อมข้อความว่า “นับจากวันนี้ไป ผมขอให้ประเทศชาติเติบโต พัฒนา ก้าวหน้า มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนตลอดไป ขอบคุณทุกคำอวยพร ขอพรนั้นทวีคูณกลับสู่ทุกคน ผมรักทุกคน และพร้อมยืนเคียงข้างทั้งในวันที่สุขและคืนที่ทุกข์”

ปลาบปลื้มรับดอกไม้พระราชทาน

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญแจกันดอกไม้พระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยแจกันดอกไม้ประทานของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระราชทานแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องในโอกาสคล้ายวันเกิด 21 มี.ค.

อธิษฐานขอพร ปท.พ้นหล่มขัดแย้ง

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ที่ได้พระราชทานและประทานแจกันดอกไม้เป็นสิริมงคลยิ่งแก่ชีวิต เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 65 ปี ซาบซึ้งความปรารถนาดีและกำลังใจที่ได้รับจากทุกคนที่อวยพรวันคล้ายวันเกิดผ่านการ์ดอวยพร สื่อโซเชียลและสื่อต่างๆ ล้วนมีความหมาย และเป็นกำลังใจที่ดี วันเกิดไม่ได้เป็นวันพิเศษ ทุกวันคือวันพิเศษที่จะคิดและทำประโยชน์เพื่อบ้านเมืองและคนไทยทุกคน ได้อธิษฐานขอให้ประเทศก้าวต่อไปหลุดพ้นความขัดแย้ง ร่วมมือสร้างชาติให้สงบสุขเจริญก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีกินดี

ชั่งใจขึ้นเวทีห่วงแหกบท-รปภ.ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่ายังไม่ทราบว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ 22 มี.ค. ที่ สนามเทพหัสดินหรือไม่ มีรายงานว่า แม้พรรคพลังประชารัฐได้นำคลิป พล.อ.ประยุทธ์ไปเปิดตามเวทีปราศรัยต่างๆแต่ยังไม่สามารถทำให้ความนิยมของพรรคกระเตื้องขึ้น หรือเป็นที่พูดถึงในวงกว้างได้เท่าที่ควร แกนนำพรรคยังคงต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์มาช่วยหาเสียง ขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีสุดท้ายวันที่ 22 มี.ค. แต่ฝ่ายกฎหมายและทีมงานนายกฯยังเป็นห่วง พล.อ.ประยุทธ์ หากขึ้นเวทีแล้วอาจคุมการพูดบนเวทีไม่ได้ รวมถึงฝ่ายรักษาความปลอดภัยกังวลการดูแลความปลอดภัยด้วย จึงยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะไปขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กำลังตัดสินใจ

“ประวิตร” กำชับกัดติดกลุ่มป่วน

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กำชับฝ่าย ความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองทุกจังหวัด เตรียมความพร้อมยึดกรอบกฎหมายด้วยความเป็นกลางทางการเมือง สนับสนุนการทำงานของ กกต. ระดับพื้นที่เมื่อได้รับการร้องขอ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยุติธรรมเป็นที่ยอมรับ ขอให้คงเข้มมาตรการความปลอดภัยงานข่าว ติดตามความเคลื่อนไหวเป้าหมายกลุ่มเสี่ยงทุกพื้นที่ เฝ้าระวังป้องปรามการก่อเหตุ หรือก่อกวนที่อาจกระทบต่อการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

“วิษณุ” บอกถ้าได้เป็น ส.ว.ก็ดีใจ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงความ คืบหน้าการสรรหา ส.ว.ว่า ขณะนี้รายชื่อบุคคลที่จะได้รับการคัดเลือกให้เป็น ส.ว.อยู่ที่ คสช.การเปิดชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว.เคยบอกไว้แล้วว่าไม่ลึกลับจนถึงขนาดต้องปกปิด แต่รอหลังเลือกตั้งค่อยมาพูดกันดีกว่า เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวนายวิษณุจะเป็น 1 ใน ส.ว. นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าเป็นจริงก็ดีใจ เมื่อ ถามย้ำว่า จะเป็นถึงประธาน ส.ว.เลยหรือไม่ ตนไม่รู้ ด่านแรกเป็น ส.ว.ให้ได้ก่อน มีชื่อใน 400 คน ให้ได้ก่อน ด่านที่สองขอให้มีชื่อใน 194 คน ด่านที่สามค่อยไปว่ากัน

นายกฯตั้งที่ปรึกษาเพิ่มอีก 5 คน

วันเดียวกัน มีคำสั่งสำนักนายกฯที่ 55/2562 ลงวันที่ 11 มี.ค. เรื่องการแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกฯ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา เสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะ ตามที่นายกฯมอบหมาย ประกอบด้วย นายดิสทัต โหตระกิตย์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา นายบุญทักษ์ หวังเจริญ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

คสช.ปัดใช้ ม.44 คุกคาม พท.

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลและ คสช.หยุดใช้อำนาจคุกคามพรรคการเมืองต่างๆในช่วงที่มีการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการใช้มาตรา 44 ว่า การ ดำเนินการหลายกรณีที่ผ่านมาเป็นการเข้าไปตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยใช้กฎหมายปกติ คสช.ทราบดี ว่าการทำอะไรต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. ไม่ได้สั่งอะไรเป็นพิเศษ เน้นย้ำเพียงแต่การช่วยเหลือประชาชนและ สร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเลือกตั้ง ยืนยัน ว่า คสช.ไม่มีการใช้มาตรา 44 ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งแน่นอน การใช้มาตรา 44 ขณะนี้ก็เพื่อแก้ไขส่วนที่กฎหมายปกติไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเร่งด่วน และที่มีความสำคัญต่อการบริหารบ้านเมืองที่กฎหมายปกติแก้ไขปัญหาได้ไม่ทันท่วงที

อ้างทหาร-ตำรวจรับแจ้งเข้าค้น

พ.อ.วินธัยกล่าวว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกว่า 30 นาย สนธิกำลังตรวจค้นบ้านพักนางกาญจนา เจริญนนทสิทธิ์ พี่สะใภ้ของนายวันชัย เจริญนนทสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เขต 5 พรรคเพื่อไทยนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจสันติบาล มี พ.ต.ต.ประวิทย์ อิงตา สว.กก.1 บก.ส.1 เป็นหัวหน้าชุด ได้รับการร้องเรียนว่าอาจจะมีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จึงสนธิกำลังออกปฏิบัติงานด้านการข่าว สืบสวนตรวจสอบ ติดตามเฝ้าระวัง รวมถึงขอ ความร่วมมือแจ้งเบาะแส ทั้งนี้ ก่อนเข้าพูดคุยกันเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตามขั้นตอน มีการพูดคุยสอบถามข้อมูลตามที่ได้รับร้องเรียน นางกาญจนาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

แจ้ง ปอท.ฟัน “CSILA” แชร์ข่าวปลอม

ที่ บก.ปอท. พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมายคสช. เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ปิยวัฒน์ ปรัญญา รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อเอาผิดกับแอดมิน เพจเฟซบุ๊ก “CSILA” ที่เผยแพร่เอกสารปลอมคำสั่งทหารทำปฏิบัติการข่าวสาร (IO) ช่วยพรรคพลังประชารัฐ พ.อ.บุรินทร์เผยว่า ฝากเตือนผู้ที่เข้าไปอ่านและแสดงความคิดเห็นก่อนจะแชร์ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ต่อ ขอให้เปรียบเทียบดูกับสำนักข่าวหลักๆ เช่น กรมประชาสัมพันธ์ สำนักข่าวไทย (อสมท) หรือสำนักข่าวเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือจะได้ทราบว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอมจะได้ไม่ทำผิดกฎหมาย

ปชป.ยิงคลิปขอทุกเสียงตั้งรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสุดท้ายก่อนเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. พรรคประชาธิปัตย์ได้ปล่อยคลิปใหม่ 4 คลิปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลว่า อยู่ภาคไหนจะไปเลือกตั้ง โปรดฟังก่อนครับ 24 มี.ค.นี้ ขอให้ทุกคนออกมาเลือกตั้งให้โอกาสตัวเองเป็นผู้ร่วมสร้างประชาธิปไตยสุจริต ให้โอกาสประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และร่วมสร้างประเทศไทยไปด้วยกัน 4 คลิปดังกล่าวมีเนื้อหาสะท้อนเสียงประชาชน 4 พื้นที่คือ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และ กทม. โดยสอบถามความเห็นประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งแต่มีความแตกต่าง อาทิ ภาคอีสานประชาชนระบุว่าแม้อยากได้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แต่เลือกไปเหมือนเดิม เพราะคนอื่นจะเลือกพรรคอื่น ภาคเหนือ เสียงสะท้อนจากประชาชนไม่แตกต่างกัน ส่วนภาคใต้เป็นการสะท้อนว่ามีคู่แข่งมากขึ้น อย่านิ่งนอนใจว่าประชาธิปัตย์จะชนะแน่นอน และ กทม. ชาวบ้านบอกถึงปัญหาคู่แข่งที่มีมากขึ้น คะแนนไม่ได้ชนะแบบขาดลอย อาจพลิกผันหากเสียงแตก จะทำให้ทุกเสียงมีความหมาย และตัดเป็นเสียงรองหัวหน้าภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ เชิญชวนประชาชนให้ไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสร้างประชาธิปไตยสุจริต โดยนายชวน หลีกภัย

ตัดวงจรอุบาทว์เผด็จการ-คนโกง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปิดท้ายที่คำพูดของนายอภิสิทธิ์ว่า 24 มี.ค. ขาดเสียงเดียวก็ไม่ได้ ทุกคะแนน เสียงจากทุกเขต ทุกภาคจะนับรวมกัน ยิ่งเสียงมาก ยิ่งเพิ่มที่นั่ง ส.ส.ประชาธิปัตย์ในสภาฯ ตัดวงจรอุบาทว์ ของเผด็จการและคนโกง เพิ่มโอกาสให้ประชาธิปัตย์แก้จน สร้างคน สร้างชาติ พร้อมสโลแกน ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต ย้ำให้ความรู้ว่าเลือกตั้งครั้งนี้ใช้บัตรใบเดียว ได้ทั้ง ส.ส.เขตและพรรค แต่ละเขตเลือกตั้งเบอร์ผู้สมัครไม่เหมือนกัน ขอให้จดจำ ชื่อพรรคและโลโก้พระแม่ธรณีบีบมวยผม 1 เสียงของคุณมีค่าสำหรับพรรคประชาธิปัตย์

“วัชระ” ซัด “เทือก” ข่มขู่ประชาชน

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส.และผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำพรรคผิดทิศทาง ปลุกระดมประชาชนให้ไปถนนราชดำเนินอีกว่า ยืนยันว่าการตัดสินใจของนายอภิสิทธิ์ ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ ตัดสินใจถูกต้องที่สุดตามหลักการและอุดมการณ์พรรค พาพรรคมาถูกทางแล้ว นายสุเทพจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯไปตลอดชาติเป็นสิทธิของท่าน แต่อย่ากล่าวร้ายโจมตีนายอภิสิทธิ์ หมดสิ้นยุคเกรงใจ คสช.แล้ว นายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค เห็นชอบแนวทางนี้ ส่วนใครจะ แหกคอกเป็นงูเขียวไปพันแข้งพันขาทหารการเมืองก็เป็นสิทธิ ประชาชนจะพิพากษาแต่ละคนในอนาคต การปลุกระดมประชาชนให้ไปที่ถนนราชดำเนินรอบใหม่ นายสุเทพเป็นผู้ใหญ่ของประเทศ เหตุใด จึงต้องปลุกระดมข่มขู่ประชาชนอีก ขอถามว่าจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ไม่ถูกใจใช่หรือไม่ ไม่แน่ใจ สมัยบวชที่สวนโมกข์ศึกษาพระธรรมวินัย หรือนั่งอ่านสามก๊กกันแน่

ปูดปทุมฯ เดินแจกหัวละ 500 บาท

นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี มีการซื้อเสียงแพร่ระบาดมากเช่นกัน ใช้วิชามารสารพัดรูปแบบ อาทิ เขต 4 ปทุมธานี มีบางพรรค ที่สนับสนุนผู้มีอำนาจทั้งระดับประเทศและท้องถิ่นเดินแจกเงินประชาชนหัวละ 500 บาท แลกคะแนน ชนิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงขอเรียกร้องให้ กกต.ทำงานเชิงรุกเข้ามาตรวจสอบให้จริงจัง เพื่อให้การเลือกตั้งเสรีและเที่ยงธรรม สะท้อนความต้องการประชาชนที่แท้จริง แต่เชื่อว่าประชาชนฉลาดรู้เท่าทัน จะไม่เลือกคนไร้ผลงานใช้เงินซื้อเสียง เพื่อร่วมผลักดันนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ที่หนุนกระจายอำนาจให้เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และผลักดัน มหานครปทุมธานีให้เกิดขึ้นจริง มีส่วนร่วมแก้ปัญหาและพัฒนา เพราะไม่มีใครรู้จักท้องถิ่นดีเท่ากับคนในท้องถิ่นเอง

“อภิสิทธิ์” เพิ่มเงินบัตรคนจน 800

วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีปราศรัยที่สนามกีฬากลาง เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นโยบายของพรรคเน้นการประกันรายได้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าภาคการเกษตร ภาคแรงงาน ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลจะไม่มียกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใครถือบัตรนี้ได้ไปเลย 800 บาทต่อเดือนทุกคน

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์และคณะลงพื้นที่ย่านถนนสิโรรส หน้าตลาดสดรถไฟ อ.เมืองยะลา ช่วยหาเสียงให้กับนายภูริพงศ์ พงษ์สุวรรณศิริ ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 1 นายอับดุลเลาะ บุวา ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 2 และนายณรงค์ ดูดิง ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 3 โดยขึ้นรถแห่ไปตามถนนสายต่างๆ มีพี่น้องประชาชนโบกไม้โบกมือ มอบดอกไม้และพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้จำนวนมาก

“อุตตม” ไม่กังวลกระแส“ธนาธร” แรงจัด

เวลา 12.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงว่า วันที่ 22 มี.ค. พรรคได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย ที่สนามกีฬาเทพหัสดิน เริ่มตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป ภายใต้ชื่องาน “เปิดใจประชารัฐ ร่วมใจประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว” จะมีเซอร์ไพรส์อะไรหรือไม่ขอให้อดใจรอ เซอร์ไพรส์ต้องห้ามบอกก่อน ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคจะมาร่วมด้วยหรือไม่ ต้องรอให้ท่านตัดสินใจยังตอบแทนไม่ได้ ยังไม่ได้กำหนดตายตัว แต่เนื้อหาเวทีจะสื่อสารเปิดใจกับพี่น้องประชาชนว่าทำไมพรรคพลังประชารัฐถึงมาอยู่ ณ จุดนี้ และทำไมควรได้รับการไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน จุดยืนของพรรคคือพรรคใดรวบรวมเสียงได้เกินครึ่ง สมควรจะมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล ส่วน ส.ว.สรรหาต้องให้เกียรติ อย่าไปปรามาส การโหวตตอนนั้นคนไทยจะเห็นทั้งประเทศ เมื่อถามว่ากังวลกับกระแสความนิยมที่ดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐแข่งกับทุกพรรค โดยนำเสนอนโยบายและบุคลากรของพรรค ไม่ได้กังวลว่าพรรคอื่นจะเป็นอย่างไร กระแสความนิยมเปลี่ยนได้ตลอด โดยรวมกระแสพรรคดีขึ้นต่อเนื่อง ผู้สมัครของพรรคมีกำลังใจ ไม่กังวลเรื่องงูเห่าภาค 3 มั่นใจว่าไม่มี พรรคเราไม่กลัวงู

โต้อคติวิจารณ์โคตรประชานิยม

นายอุตตมกล่าวอีกว่า ส่วนกระแสวิจารณ์นโยบายของพรรคเป็นนโยบายประชานิยมเน้นแจกเงินว่า เป็นการพิจารณาด้านเดียว ไม่ได้ดูองค์ประกอบรวมที่ครอบคลุมเป็นระบบ ผ่านการพิจารณาจาก ผู้เชี่ยวชาญหลายภาคส่วนอย่างรอบคอบ ยืนยันไม่ใช่แค่ลด แลก แจก แถม ล้วนสอดคล้องเชื่อมโยงกัน ขอให้คนที่วิจารณ์ดูทุกนโยบายด้วยความเป็น ธรรม อย่าอคติ ทุกนโยบายทำได้จริง แม้หลายฝ่ายจะประเมินว่าหลังการเลือกตั้งจะเกิดรัฐบาลผสม แต่เมื่อพรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจเป็นเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล จะพูดคุยกับพรรคที่มีแนวคิดเดียวกัน หารือการทำงานร่วมกันบนนโยบายที่สอดคล้อง เพื่อให้เกิดผลปฏิบัติเป็นประโยชน์กับประชาชน

“สมศักดิ์” มั่นใจ พปชร.มี 130 ส.ส.บวกลบ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงภาพรวมการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐว่ากระแสภาพรวมของพรรคดีมาก ถึงขนาดหลายพรรคหลายกลุ่มต้องไล่อัดโจมตีดิสเครดิต เช่น การโจมตีนโยบายพรรคว่าทำไม่ได้จริงหรืออาจส่งผลกระทบต่อประเทศ การกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์แคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐว่าเป็นพวกสืบทอดอำนาจ เผด็จการ โจมดีเรื่องเดิมๆ เพราะพรรคคู่แข่งไม่มีมุกใหม่ๆ ประชาชนฟังจนเบื่อแล้ว ยืนยันอีกครั้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่เผด็จการ หากเป็นเผด็จการต้องแบบนายอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อดีตผู้นำพรรคนาซีเยอรมัน ความวุ่นวายที่ผ่านมาเกิดจากนักการเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่ายจนต้องยึดอำนาจเอาความขัดแย้งออกไป ภาพรวมแต่ละพื้นที่คิดว่าไม่มีจุดไหนต้องกังวล มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.ตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ คือ 130 บวกลบ

“ลุงตู่” สร้างความสงบได้แม้ไร้ ม.44

เมื่อถามว่าสโลแกนใหม่ของพรรค “เลือกความสงบจบที่ลุงตู่” หลังการเลือกตั้งไม่มีมาตรา 44 พล.อ.ประยุทธ์จะยังสร้างความสงบได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่าหลังจากเลือกตั้งปัญหาความวุ่นวายน่าจะไม่รุนแรง ประเทศจะเดินหน้าตามระบอบ ประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าแม้จะไม่มีมาตรา 44 หาก พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ จะสามารถรักษาความสงบสุขได้ และพรรคพลังประชารัฐจะเอามาตรา 44 และ คสช.คืนไป เอา “ลุงตู่” กลับมา เป็นนายกฯ สานงานนโยบายดีๆต่อไป เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

“ชัชชาติ” ดันหวยบำเหน็จ-30 บาทเฟส 2

ช่วงเช้านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย เดินหาเสียงทักทายพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดเคหะท่าทราย ช่วยนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร มีแม่ค้าเชียร์ว่า “เป็นรัฐบาลอีกรอบรวยแน่ ตอนนี้ไม่ไหว” ระหว่างคุยกับแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลมีคุณป้าชื่อ “ตู่” เข้ามาทักทาย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรจะพูดกับพี่ตู่ไหม นายชัชชาติตอบว่า “พักผ่อนเยอะๆ นะ” นายชัชชาติกล่าวว่า แม่ค้าอยากได้โควตาลอตเตอรี่เพิ่ม รับจากยี่ปั๊ว 83 บาทขาย 80 บาทไม่ได้ คิดว่านโยบายหวยบำเหน็จจะช่วยได้ พรรคยังมีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคระยะ 2 หัวใจคือดูแลป้องกันให้สุขภาพแข็งแรงแทนการรักษา และกระจายหน่วยพยาบาลลงไปให้ถึงเส้นเลือดฝอยตามนโยบายไทยเท่าเทียม จากนั้นนายชัชชาติขึ้นรถแห่ไปหาเสียงที่ตลาดเคหะทุ่งสองห้อง มีประชาชนตะโกนเชียร์ว่า “เพื่อไทยสู้ๆ เพื่อไทยกระเป๋าตุง”

ให้ ปชช.เลือกสงบจนสงัดกับ ศก.ดี

ขณะที่เวลา 10.00 น. ที่ตลาดนครไท ลาดพร้าว 101 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งและแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยเดินหาเสียงจากประชาชน จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่าขอให้ กกต.เร่งตรวจสอบคำร้องการใช้อำนาจรัฐคุกคามผู้สมัคร ส.ส.และกลุ่มผู้สนับสนุนพรรค รวมถึงการซื้อเสียงแต่ละพื้นที่ยื่นคำร้อง แต่ยังไม่ถูกหยิบยกมาพิจารณา ขอฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ให้หยุดใช้ อำนาจรัฐผ่านหน่วยงานต่างๆเพื่อประโยชน์ของบางพรรค วันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ปีนี้ขอแสดงความยินดีที่เดินสู่สนามการเมืองเต็มตัว แต่ขอให้เดินอย่างเท่าเทียม ไม่ใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบลงพื้นที่หรือสั่งทหารตำรวจไปกดดันฝ่ายตรงข้าม ขอให้วางตัวเป็น กลาง ปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับการเป็นชายชาติทหาร สถานการณ์การเมืองวันนี้ เป็นทฤษฎีสมคบคิดจะมีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งที่อิงแอบเผด็จการ ทำให้เกิดความเกลียดชังในบ้านเมือง เพื่อให้เกิดความวุ่นวาย แคมแปญล่าสุดของพรรคพลังประชารัฐชูเรื่องความสงบสร้างภาพขึ้นมาเป็นจุดขาย ทั้งที่ความสงบที่ผ่านมาใช้อำนาจกดดัน จนประชาชนทุกข์ยากสงบแบบเงียบสงัด ประชาชนต้องเลือกว่าจะสงบแบบนี้ หรือจะเอาความสงบที่มีเสรีภาพและมีเศรษฐกิจที่ดี

โอ่ทีมบริหารมืออาชีพไม่จุดไฟขัดแย้ง

จากนั้นเวลา 13.30 น. ที่ชั้น 9 ห้างเกสรทาวเวอร์ คุณหญิงสุดารัตน์และนายชัชชาติ ร่วมแถลงนโยบายแก้วิกฤติเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าบุคลากรของพรรคเป็นทีมบริหารมืออาชีพนำพาประเทศพ้นวิกฤติมาตั้งแต่สมัยต้มยำกุ้งปี 2540 หากรัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาจะไม่สร้างความขัดแย้งและรับฟังความเห็นต่าง แต่ขอให้ร่วมมือกันพาประเทศพ้นวงจรอุบาทว์ ที่อาศัยความขัดแย้งและเรียกทหารเข้ามาสะสางปัญหา ครั้งนี้ต้องเลือกเพื่อไทยอย่างถล่มทลายเข้าไปเป็นหัวหอกสู้กับ ส.ว.250 เสียง ที่ คสช.เลือกเข้ามา หมดเวลาแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์จะสืบอำนาจผ่านกลไกของรัฐธรรมนูญ ขณะที่นายชัชชาติ ยกตัวอย่างหนังสือ how democracies die ชี้ว่าเทรนด์ทั่วโลกประชาธิปไตยเริ่มถดถอย เพราะตายด้วยปืนและตายโดยคนที่อาศัยประชาธิปไตยเข้ามาสู่อำนาจหรือเป็นเผด็จการ ไทยเป็นหนึ่งในตัวอย่างนี้ ต้องเลือกให้ดีว่าจะเลือกคนไม่เลื่อมใสประชาธิปไตยใช้ช่องทางรัฐธรรมนูญ ปิดปากปิดกั้นประชาชนหรือไม่ กับผู้บริหารมืออาชีพ ไม่ใช่สร้างวาทกรรม

อย่าหลงลมความสงบจบลงที่ “ลุงตู่”

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งมีการใช้กลไกอำนาจรัฐเอื้อให้ผู้มีอำนาจอยู่ต่อ สังคมไทยต้องไม่ติดหลุมดำวาทกรรมความไม่สงบว่าถ้าเลือกไม่ดีจะมีการเดินขบวน อย่าอ้างวาทกรรมหยุดความวุ่นวายต่างๆแล้วไปจบที่ลุงตู่ที่ควรจบกลับบ้านไปกับคณะ ปี 2020 วิกฤติเศรษฐกิจโลกกำลังจะมา ทางออกสังคมไทยต้องเป็นประชาธิปไตย ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยได้เสียงเกิน 250 ส.ว. 250 คนต้องพิจารณาเจตนารมณ์ของประชาชน ถ้าพรรคฝ่ายผู้มีอำนาจได้เสียงน้อย ลุงๆทั้งหลายไม่มีความชอบธรรมจะเดินหน้าต่อ ไม่เชื่อว่าฝ่ายลุงจะได้เสียงเกินร้อย พรรคไม่ชัดเจนประกาศตัวคลุมเครือจะได้ ไม่ถึงร้อย พรรคประชาธิปัตย์ต้องประกาศให้ชัดเจน จะยืนฟากไหนให้ประชาชนได้ตัดสินใจ

ทิ้งทวนจัดขบวนแห่ทั่วกรุงเทพฯ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 23 มี.ค. พรรคให้ผู้สมัครทั่วประเทศหาเสียงให้จบก่อน 17.00 น. จัดแคมเปญหาเสียงใช้นักบริหารมากประสบการณ์นำเสนอนโยบายสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้น จะปล่อยขบวนหาเสียง “เลือกเพื่อไทยทำได้ทันที” จากที่ทำการพรรคเวลา 07.30 น. ขึ้นรถแห่ไปยังพื้นที่ใน กทม. อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไปเขตลาดพร้าว บางเขน บางกะปิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับนายนพดล ปัทมะ ไปเขตดินแดง ห้วยขวาง จตุจักร บางซื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ไปคลองสามวา มีนบุรี ลาดกระบัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กับนายชัยเกษม นิติสิริ ไปเขตบางบอน ตลิ่งชัน หนองแขม และนายปลอดประสพ สุรัสวดี ไปเขตบางแค ภาษีเจริญ

“วัฒนา” ตีปี๊บไม่กา พท.ลุงมาแน่

นายวัฒนา เมืองสุข ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขต 28 บางแค พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่าโจทย์การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องหยุดการสืบทอดอำนาจให้ได้ เป็นโอกาสเดียว การแบ่งคะแนนจากเพื่อไทย ให้พรรคอื่นเท่ากับกำลังมีส่วนช่วยส่งชัยชนะให้พรรคที่หนุนการสืบทอดอำนาจโดยไม่รู้ตัว เช่น ในเขต 1 แบ่งไปให้พรรค ก. 10,000 คะแนน จะทำให้ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งแต่ 10,000 คะแนนที่แบ่งไปไม่ทำให้พรรค ก. ที่เลือกได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ต้องสะสมให้ถึง 80,000 คะแนน จึงจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน อาจทำให้พรรคเพื่อไทยเสีย ส.ส.ไป 8 คน ฝ่ายหนุนการสืบทอดอำนาจได้ ส.ส.ไป 8 คนเช่นกัน แต่พรรค ก. ที่ท่านเลือกได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพียง 1 คน เลือกแบบนี้ลุงมาแน่นอน

“ไพโรจน์” วอนหยุดขู่คุกคาม

ที่บ้านแม่แจ๋ม ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง พื้นที่ชาวไทยเผ่าเย้าบนดอยสูง นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ผู้สมัคร ส.ส.ลําปาง เขต 2 เบอร์ 7 พรรคเพื่อไทย และคณะ เดินลุยเข้าไปหาเสียงจับเข่าคุย กับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง พร้อมแวะชิมน้ำชาตั้งวงคุยกับคนในพื้นที่ โดยนายไพโรจน์กล่าวว่าหาเสียงเข้าถึงชาวบ้านเคาะประตูบ้านมาตลอด อยากทราบปัญหาของชาวบ้าน แต่ถูกคนคอยตาม ถ่ายรูปตลอด ไม่ทราบมีเจตนาอะไร บางคนที่รู้จัก กับตนมานาน กลับถูกตํารวจบุกค้นบ้านโดยไม่มีเหตุผล “ผมแปลกใจทําไมต้องทํากันแบบนี้ เชื่อว่ามีผู้สมัครบางคนไปแจ้งข้อมูลเท็จกับตํารวจ แต่ไม่ได้โทษเจ้าหน้าที่เพราะปฎิบัติตามคําสั่ง อยู่วงการนี้มานาน อยากให้ทุกคนหาเสียงกันแบบประชาธิปไตย ประชาชนเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเลือกใครหรือเลือกพรรคไหน เพราะรู้ดี 5 ปีประเทศเป็นอย่างไร”

“ธนาธร” ชี้แต้มพุ่ง ปชช.พร้อมเปลี่ยน

เมื่อเวลา 09.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อม น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค และนายคริส โปตระนันทน์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 6 พบปะประชาชนบริเวณลาดพร้าวซอย 1 ติดกับห้างยูเนี่ยนมอลล์ จากนั้นขึ้นขบวนรถแห่จากปากซอยลาดพร้าว 3 มุ่งหน้าซอยเฉยพ่วง เขตจตุจักร พร้อมกล่าวเชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิวันที่ 24 มี.ค. โดยนายธนาธรให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตั้งใจมาลงพื้นที่ กทม.เขต 6 ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เพราะมั่นใจว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ช่วงชิงสำคัญอีกพื้นที่หนึ่งใน กทม.การไปยังพื้นที่ต่างๆในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด พรรคอนาคตใหม่มีเสียงตอบรับที่ขึ้นดีเรื่อยๆ ไม่ว่าไปที่ไหนมีพี่น้องต้อนรับดีเสมอ แสดงให้เห็นว่าประชาชนพร้อมจะเปลี่ยนแปลงแล้ว

ใช้ล่ามภาษามือดึงเสียงผู้พิการ

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคเห็นความสำคัญของผู้พิการทางการได้ยินที่มีเกือบ 4 แสนคน และมีผู้ใช้ภาษามืออีกนับแสนคน จึงต้องการแสดงความจริงใจนโยบายโอบรับความหลากหลายทางสังคม ไม่ละเลยผู้ถูกมองว่าเป็นส่วนน้อยในสังคม เริ่มต้นทำสื่อรณรงค์ให้มีภาษามือได้ทันที หวังว่าผู้ใช้ภาษามือทั่วประเทศ ไทยจะตื่นตัวออกไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.อย่างล้นหลาม ในการปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายวันที่ 22 มี.ค.ที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น ดินแดง พรรคจะมีล่ามภาษามือสำหรับผู้ต้องการไปร่วมงานปราศรัยและถ่ายทอดสดเฟซบุ๊กไลฟ์ เป็นปรากฏการณ์ใหม่ในการรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองไทย

พช.ปล่อยคลิปส่ง “ลุงตู่” กลับบ้าน

นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. พรรคเพื่อชาติได้ปล่อย คลิปวิดีโอแคมเปญชุดแรกภายใต้สโลแกน “ภารกิจฝ่ายประชาธิปไตย ส่ง พล.อ.ประยุทธ์กลับบ้าน” จาก 3 แคมเปญจะทยอยปล่อย มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติพูดเนื้อหา คลิปสื่อเหตุผลทำไม พล.อ.ประยุทธ์ต้องกลับบ้าน เริ่มตั้งแต่ไร้ภาวะผู้นำ เขียนรัฐธรรมนูญวางแผนสืบทอดอำนาจ ตั้งพรรคสนับสนุนตนเอง พร้อมกล่าวถึงปัญหาของประเทศหลัง คสช.เข้าสู่อำนาจจนถึงปัจจุบัน และจะปล่อยคลิปอีก 2 คลิปก่อนถึงวันเลือกตั้งคือคลิปแคมเปญ “ภารกิจสุดท้ายปลุกคนไทย หยุดสืบทอดอำนาจเผด็จการ” ปล่อยวันที่ 22 มี.ค.พร้อมจัดเวทีปราศรัยใหญ่ ณ ลานหน้าห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว เวลา 17.00 น.และปล่อยคลิปแคมเปญสุดท้าย “เลือกเพื่อชาติ ปิดฉากเผด็จการ” วันที่ 23 มี.ค.และเปิดปราศรัยใหญ่ ณ โรงเรียนบ้านวังยาง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เวลา 16.00-17.00 น.

“จตุพร” อัดงูเห่าการเมืองพาชาติวิกฤติ

ที่ตลาดห้วยขวาง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่ช่วย น.ส.สาวิตรี สาทสุทธิ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 5 พรรคเพื่อชาติหาเสียง โดยนายจตุพรกล่าวว่า ภารกิจส่ง พล.อ.ประยุทธ์กลับบ้านมีหลายพรรคตอบรับภารกิจนี้แต่ไม่ใช่ง่าย มีกลไก ส.ว. รัฐธรรมนูญยังส่งเสริมให้เกิดงูเห่าขึ้นในพรรค จะเป็นชนวนนำไปสู่วิกฤติใหญ่ที่สุดที่ประเทศไทยเคยเกิดขึ้นมา ส่วนกรณีที่สมาชิกของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ระบุถ้าเลือกฝ่ายประชาธิปไตยจะเกิดปฏิวัติอีกนั้น สอดคล้องกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช.เคยพูดไว้ว่าถ้าเลือก พล.อ.ประยุทธ์บ้านเมืองจะสงบ แต่ถ้าเลือกอีกฝ่ายหนึ่ง บ้านเมืองไม่สงบแน่นอน กรณีมีคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากคนทั่วไปอาจสบายใจ แต่ตนผ่านเหตุการณ์มาหลายเหตุการณ์ ยอมรับว่าไม่สบายใจไม่เชื่อว่าการดูแลรักษาหีบเลือกตั้งว่าจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม อยากบอกว่า กกต.ต้องแสดงความโปร่งใสอย่างมาก โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่เจ็บปวดที่สุดในการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า นั่นคือความห่วงใยและสำคัญที่สุด

ปชช.ชูปฏิรูปปรับเงินเดือน ตร.

ที่ศูนย์ประสานงานพรรคประชาชาติ ถนนสงประภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า พรรคมีนโยบายการปฏิรูปตำรวจ 5 ส. และ 2 ต. ได้แก่ 1.สายตรวจ ตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อย 2.สายสืบ แสวงหาข้อเท็จจริง 3.สอบสวน 4.สิทธิมนุษยชน ตำรวจต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และ 5.สวัสดิการปรับอัตราเงินเดือนค่าตอบแทนให้เท่าเทียมกับพนักงานอัยการ ส่วน 2 ต.คือ 1.แต่งตั้ง การแต่งตั้งโยกย้าย ต้องยึดระบบคุณธรรม และ 2.ตรวจสอบ ต้องตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เท่าที่ลงพื้นที่หาเสียงได้รับการตอบรับที่ดี จากการประเมินของพรรคจะได้เสียงของประชาชนทั่วประเทศ 2 ล้านเสียง คาดว่าจะมี ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ 11 ที่นั่ง รวมกับ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะมี ส.ส.กว่า 20 ที่นั่ง ขณะนี้มีการสร้างข่าวเท็จว่าพรรคประชาชาติเป็นพรรคมุสลิม ความจริงพรรคให้ความสำคัญทั่วประเทศไม่ใช่เฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

ภท.ปิดจ๊อบปล่อยคาราวานรอบกรุง

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย นำคณะลงพื้นที่เขตดินแดง-ห้วยขวาง ช่วยหาเสียงให้นายธัชพงศ์ ชูดำ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 5 โดยขึ้นรถแห่จากซอยรัชดาภิเษก 18 ไปตามย่านห้วยขวาง เดินตลาดห้วยขวางพบปะประชาชน ทั้งนี้ พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า ช่วง 100 เมตรสุดท้ายการหาเสียง ใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจาย แกนนำพรรคทำงานหนักลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ทุกวันไม่มีวันหยุด วันที่ 23 มี.ค.พรรคจะปล่อยคาราวานรถแห่ มีแกนนำพรรค อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค พร้อมผู้สมัครกระจายแต่ละสายทั้ง 30 เขต ตอกย้ำนโยบายและแนะนำผู้สมัครของเรา กระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันมากๆ จะปักธงใน กทม.ให้ได้

ซัด “สุภรณ์” ใส่ร้ายเอาผิดถึงที่สุด

นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าจากกรณีที่นายดี สิมตะมะ ประชาชน อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา กล่าวหาว่านายพรชัย อำนวยทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 พรรคภูมิใจไทยซื้อเสียง ความจริงนายดีรับเงินมาเพื่อปรักปรำนายพรชัย คนที่นำเงินมาให้นายดีกระทำลงไปเพราะได้รับคำสั่งจากนายประยุทธ บัวประดิษฐ์ สมาชิกตลอดชีพของพรรคพลังประชารัฐ หัวคะแนนและคนใกล้ชิดของนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นายพรชัยเตรียมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตามความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (5) และ 143 มีโทษจำคุก และตัดสิทธิการเมือง หากยังจำได้นายสุภรณ์ เคยกล่าวหาว่านายพรชัยหาสมาชิกด้วยวิธีไม่ถูกต้อง ทำลายชื่อเสียงพรรคและผู้สมัคร พรรคได้ฟ้องกลับแล้วคดีอยู่ในศาล เป็นกรณีของคู่ขัดแย้งเดิมเราจะสืบสาวราวเรื่องให้ถึงที่สุด จะได้รู้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังบ้าง พรรคมีบันทึกและคลิปคำสารภาพของนายดี นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงก่อนการเลือกตั้ง ขอให้ กกต.อย่าละเว้นหน้าที่

“เสรีพิศุทธ์” รับแก้ปากท้องคนชลบุรี

ที่ จ.ชลบุรี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หาเสียงที่ตลาดหนองมน ตลาดศรีราชา ตลาด 4 มุมเมือง ตลาดเกาะโพธิ์ ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ได้มีโอกาสมาพบชาวชลบุรียังมีปัญหาเรื่องปากท้องที่ทำกินเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไข ชลบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยวควรเร่งแก้ปัญหาเพื่อเพิ่มโอกาสกระจายรายได้ให้ชุมชนโดยตรง ให้ความสำคัญพัฒนาคนให้เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี แก้หนี้ กยศ. รักษาพยาบาลฟรีด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียวในโรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง ขอให้ฝ่ายประชาธิปไตยร่วมมือกันอย่างจริงจังแล้วสนับสนุนตนเป็นนายกฯ

ชพน.–ภท.ขอเสียงโค้งสุดท้าย

ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง อ.เมืองพัทลุง นางนาที รัชกิจประการ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทยและคณะออกหาเสียงกับชาวบ้านในตลาด บรรดาแม่ค้าต้อนรับอย่างอบอุ่น มีชาวบ้านและบรรดาแม่ค้าพ่อค้าขอถ่ายภาพด้วย โดยนางนาทีกล่าวว่า กระแสตอบรับของพี่น้องชาวใต้ต่อพรรคภูมิใจไทยพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากนโยบายของพรรคให้หลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งกับผู้สมัครของพรรคต่างๆ

ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายกุลดิลก สระแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 4 หมายเลข 6 พรรคชาติพัฒนาเดินเท้าขอคะแนนเสียงจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองโดยนายกุลดิลกลงพื้นที่มาตลอด จะได้รับทราบถึงปัญหาและความเป็นอยู่ของประชาชนเพื่อนำไปแก้ไขต่อไป

“จรุงวิทย์” มั่นใจหลังปิดหีบ 1 ชม.รู้ผล

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงาน กกต.พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมความพร้อมของศูนย์อำนวยการและประสานการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ชั้น 5 สำนักงาน กกต. พร้อมสาธิตการลงคะแนน การนับคะแนน การทักท้วงกรณีเห็นว่านับไม่ถูกต้อง และทำความเข้าใจเมื่อกรรมการนับคะแนนเสร็จแล้วพบว่าจำนวนบัตรลงคะแนนกับผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกัน จะไม่นับคะแนนใหม่อีกครั้ง แต่กรรมการประจำหน่วยจะทำรายงานเสนอขึ้นมาตามลำดับให้ กกต.กลางวินิจฉัยว่าจะนับคะแนนใหม่หรือสั่งลงคะแนนใหม่ รวมถึงโชว์ระบบการรายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของหน่วยเลือกตั้งทั้ง 92,300 หน่วยทั่วประเทศ กกต.มั่นใจว่าหน่วยที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการภายใน 1 ชั่วโมงหลังปิดหีบ ในศูนย์ฯ จะมีตัวแทนตำรวจ การไฟฟ้านครหลวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คอยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย มีการรายงานสถานการณ์หรือแจ้งเหตุใดๆเข้ามาทางศูนย์ฯ จะแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาได้ทันที

ล่อใจ 1 แสนสินบนนำจับซื้อเสียง

ต่อมา พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่อง ร้องเรียน 93 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความปรากฏโดยสำนักงาน กกต.จังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเมื่อแล้วเสร็จจะทยอยส่งมายัง กกต.กลาง จะพยายามพิจารณาให้เสร็จสิ้นก่อนการประกาศผล กฎหมายกำหนดให้มีสินบนรางวัลให้ผู้นำพยานหลักฐานมายื่นให้ กกต. เช่น เก็บหลักฐานได้การถ่ายคลิปวิดีโอหรือถ่ายภาพ ผู้มาแจกเงินซื้อเสียงหรือทำทุจริตการเลือกตั้ง เช่น แจกเงิน 500 บาทหรือ 1,000 บาท ถ้าหลักฐานนำไปสู่การระงับสิทธิสมัคร ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสั่งเลือกตั้งใหม่ ผู้ให้เบาะแสจะได้รับเงิน 1 แสนบาท เงินซื้อเสียง 1,000 บาทจะเปลี่ยนเป็น 100,000 บาทได้เป็นสินบนรางวัลนำจับถูกกฎหมาย

สาวแม่กลองกาบัตรทั้งเล่มส่อไม่ผิด

พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวอีกว่า ส่วนผลการตรวจสอบกรณีผู้ใช้สิทธิใน จ.สมุทรสงคราม นำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปกากบาททั้งเล่มว่าเบื้องต้นเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกันของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและหน่วยเลือกตั้งมีความชุลมุนเกิดขึ้นจึงหยิบบัตรทั้ง 17 ใบไปกาเครื่องหมาย บัตรเลือกตั้งทั้งหมดไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง ผู้กระทำความผิด จึงไม่น่าจะมีเจตนา จากการประสานกับ สภ.สมุทรสงครามยืนยันลักษณะเดียวกันว่าอาจเกิดจากความไม่เข้าใจกัน แต่ขอให้รอผลการสืบสวนที่ชัดเจน

คำนวณปาร์ตี้ลิสต์หลังรับรองแล้ว

เลขาธิการ กกต.กล่าวด้วยว่า กกต.จะไม่นำผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการไปคำนวณหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคควรได้แล้วมาเปิดเผยก่อน เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลง หาก กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ ดังนั้นจะเปิดเผยได้เมื่อประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ส่วนการจัดเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ไม่ห่วงว่าจะเกิดปัญหาเช่นการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค.ที่ห่วงคือวันดังกล่าวพรรคการเมืองอาจยังเข้าใจว่าสามารถหาเสียงเลือกตั้งได้จะผิดกฎหมาย เพราะกำหนดให้หาเสียงได้ถึงเวลา 18.00 น.ของวันที่ 23 มี.ค.เท่านั้น

“เรืองไกร” ร้องยุบ พปชร.แจกเสื้อ

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน กกต. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้ตรวจสอบการกระทำของพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 18 พ.ย.61 มีบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคร่วมอยู่ด้วย เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 และ 30 หรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่านายสันติลาออกจากพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ไปสมัครเป็นสมาชิกพลังประชารัฐวันที่ 20 พ.ย.ส่วนนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข สมัครเป็นสมาชิกพลังประชารัฐวันที่ 22 พ.ย. แต่ทั้งสองคนเข้าร่วมงานประชุมเปิดตัวพรรคพลังประชารัฐที่โรงแรงแชงกรี-ลาเมื่อวันที่ 18 พ.ย.การยินยอมให้บุคคลภายนอกร่วมกิจกรรมพรรคการเมืองและแจกเสื้อเพื่อจูงใจให้สมัครเป็นสมาชิกพรรค เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 และ 30 เป็นความผิดตามมาตรา 92 (3) กกต.ต้องเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค

“วิญญัติ” จี้แจงมติไฟเขียวชื่อ “บิ๊กตู่”

จากนั้นเวลา 14.00 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ และ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา (โบว์) แกนนำคนอยากเลือกตั้ง เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการ กกต. ขอทราบผลการ ประชุม กกต.วินิจฉัยว่า การเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องการทราบว่า 1.กกต. แต่งตั้งผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานหรือคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน 2.หากแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้สืบสวนสอบสวนอย่างไร มีการประชุมและรายงานการประชุมอย่างไร 3.กกต.หรือคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนมีความเห็นวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งอย่างไร การลงมติ เอกฉันท์มีรายละเอียดการวินิจฉัยอย่างไร ก่อนวินิจฉัยได้เรียก พล.อ.ประยุทธ์มาชี้แจง หรือเรียกหน่วยงานที่จ่ายค่าตอบแทนมาชี้แจงหรือไม่ ในฐานะ ผู้ยื่นคำร้องต้องมายื่นขอรับทราบผลการสืบสวนไต่สวนพร้อมขอคัดสำเนาการวินิจฉัย นำไปตรวจสอบต่อไป

“โบว์” ซัดดองคดียุบ พปชร.ช่วยสืบทอด

ด้าน น.ส.ณัฏฐากล่าวว่า ขอทวงถามความคืบหน้าคำร้องยุบพรรคพลังประชารัฐ และเรียกร้องไปยัง กกต.ว่า อย่าดูถูกประชาชน นายวิญญัติมายื่น คำร้องตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. ตนก็มายื่นซ้ำอีก ขณะนี้ เหลือเวลาทำงานอีกเพียงวันเดียวจะมีการเลือกตั้ง คำร้องยุบพรรคเพราะมีการกระทำปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่ กกต.ดำเนินการกับอีกพรรคหนึ่งอย่างรวดเร็ว ส่วนอีกพรรคล่าช้า ใช้บรรทัดฐานเดียวกันหรือไม่ กกต.กำลังช่วยให้มีการสืบทอดอำนาจหรือไม่

“สมชัย” จี้ กกต.สอบสั่งทหารหนุน

ต่อมาเวลา 14.30 น. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร เขต 2 เบอร์ 11 พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ขอให้ตรวจสอบเอกสารบันทึกข้อความของหน่วยงานทหาร ที่เนื้อหาสั่งการให้สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ โดยนายสมชัย กล่าวว่า กกต.ควรไต่สวนข้อเท็จจริงว่าเป็นของปลอม หรือจริง เรียก พ.อ.อรรถกร ทิพยมนตรี ผอ.กกร. ทภ.1 พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาค 1 ร.ท.วิโรจน์ วาปี ผู้รับรองเอกสารสำเนาถูกต้อง รวมถึงบุคคลอื่นมาให้ถ้อยคำและตรวจสอบเอกสารเข้าของกรมกิจการพลเรือน กองทัพบก ว่าเลขที่รับลงวันที่ 26 ก.พ.62 เป็นเอกสารฉบับเดียวกับที่ปรากฏในสื่อโซเชียลหรือไม่

ผิดโทษหนักคุก 10 ปี ถอนสิทธิ 20 ปี

นายสมชัยกล่าวว่า ถ้าไม่จริงจะเป็นผลดีกับกระทรวงกลาโหม แต่ถ้าเป็นเอกสารจริงต้องกล่าวโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ตามมาตรา 78 ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัครและพรรคอื่น มีความผิดตามมาตรา 49 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ตนมาร้องไม่ได้ใส่ร้ายว่าเป็นเอกสารจริง แต่ต้องการให้ เป็นธรรม ขอให้ กกต.ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา

ซิดนีย์แชมป์ ลต.นอกราชอาณาจักร

นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ภาพรวมการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเรียบร้อย ผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง 119,232 ราย มาใช้สิทธิ 98,386 ราย หรือร้อยละ 82.52 มากกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวของประชาชน สถานที่จัดการเลือกตั้งที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ มีคนไทยออกไปใช้สิทธิมากที่สุด 8,820 ราย ตามด้วยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ 81 แห่ง จาก 94 แห่ง ได้ส่งบัตรเลือกตั้งด้วยถุงเมล์ทางการทูตพิเศษกลับไทยมายังกระทรวงการต่างประเทศได้รับเรียบร้อย เหลือ 13 แห่ง อยู่ระหว่างจัดส่ง คาดว่าจะมาถึงครบ ทั้งหมดบ่ายวันที่ 21 มี.ค. และเช้าวันที่ 22 มี.ค. จากนั้นจะคัดแยกจัดส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งทั้ง 350 เขตให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 17.00 น. วันที่ 24 มี.ค.

“โอ๊ค” เย้ยไม่รู้จักเตี๊ยมไขปมไอโอ

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กว่า กรณีนักข่าวสัมภาษณ์เรื่องเอกสารลับที่สุดสั่งการให้หน่วยทหารทำไอโอช่วยพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “เอกสารปลอม” พล.อ.ประยุทธ์ตอบทันควัน “เอ๊ะ...ไม่ควรจะออกมา” ซึ่งเอกสารปลอมกับเอกสารไม่ควรจะออกมาเป็นคนละเรื่องเดียวกัน ทำไมไม่เตี๊ยมกันมาก่อน ที่สำคัญลุงทั้ง 2 ตอบแบบเร็วมาก แทบไม่ต้องคิด โดยไม่กลับไปเช็กก่อนเลยว่าเอกสารฉบับไหน มีจริงหรือไม่ รั่วจากไหน รั่วได้อย่างไร ถ้าทางกองทัพจะตรวจสอบให้โปร่งใส มีกระบวนการพิสูจน์ให้กระจ่างเยอะแยะ คนจะได้หายสงสัย ดีกว่าขู่เอาเรื่องเพจที่ปล่อยเอกสาร แทนที่จะช่วยให้ได้คะแนน ถ้าแก้ตัวไม่ผ่าน เกิดคนไม่เชื่อกันเยอะๆจะกลายเป็นทำพรรคเสียคะแนน

อดีต ทษช.แห่ร่วมงานแต่ง “อุ๊งอิ๊ง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานแต่งงานของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ ที่จะมีขึ้นวันที่ 22 มี.ค. ที่โรงแรมโรสวูดฮ่องกง ลูกและ หลานนายทักษิณจะเดินทางไปสมทบกับนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่รออยู่ก่อนหน้า ขณะที่บรรดาญาติสนิท นำโดยนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ภรรยานายทักษิณ ได้เช่าเหมาลำเครื่องบินเดินทางไปเช่นกัน โดยคุณหญิงพจมานไม่ได้เดินทางไปร่วมงาน เพราะได้ร่วมพิธีที่ไทยในวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ส่วนนักการเมืองส่วนใหญ่จะมีแต่อดีตแกนนำและอดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เดินทางไปร่วมงานกันอย่างล้นหลาม


จับตากกต.


เหลืออีกเพียง 2 วันเท่านั้น

สนามเลือกตั้ง 350 เขตทั่วประเทศจะร้อนระอุลุกเป็นไฟ

นี่คือศึกเลือกตั้งที่ต่อสู้กันสุดเดือดที่สุด และลุ้นกันมันหยดติ๋งที่สุดเป็นประวัติการณ์

เพราะจะมีพี่น้องประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย (ครึ่งใบ) เกิน 40 ล้านคน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 51 ล้านคน

“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่น กกต.เตรียมความพร้อมรับมือศึกเลือกตั้งเต็มอัตราศึกหรือยัง??

ยังเหลือเวลาอีก 48 ชั่วโมง ให้ กกต.สำรวจความพร้อมของตัวเองไม่ให้เกิดความผิดพลาดบกพร่อง ทำให้การเลือกตั้งเกิดขัดข้องกลางคัน

มิฉะนั้น ท่านประธาน กกต.และ กกต.อีก 6 คน จะต้องรับผิดชอบเต็มเปา

พร้อมแน่นะ กกต.? (ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ)

ล่าสุด ที่ประชุม 7 เสือ กกต.ลงมติเอกฉันท์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ

พล.อ.ประยุทธ์จึงมีคุณสมบัติเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีพรรคพลังประชารัฐ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม

แม่ลูกจันทร์” ยังต้องจับตา กกต.ต่อไปว่าช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานก่อนเปิดหีบเลือกตั้ง 48 ชั่วโมง

กกต.จะลงมติแจกใบเหลือง หรือแจกใบส้มให้ผู้สมัครคนใด?หรือพรรคการเมืองไหนเป็นประเดิม??

เนื่องจาก พ.ร.บ.กกต.ฉบับใหม่ เพิ่มอำนาจ กกต.ให้แจกใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง และใบดำได้ถึง 4 สี 4 ใบ

เริ่มจากช่วงก่อนเลือกตั้ง หรือระหว่างการเลือกตั้ง ถ้ามีเหตุอันควรเชื่อว่ามีการกระทำที่ส่อให้การเลือกตั้งไม่โปร่งใสไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม

แม้ไม่มีหลักฐานทุจริตชัดเจน

กกต.สามารถแจก “ใบเหลือง” สั่งให้เลือกตั้งใหม่ได้เลย

โดยผู้ที่ได้รับใบเหลืองยังมีสิทธิสมัครเลือกตั้งต่อไป

แต่หาก กกต.พบหลักฐานการกระทำผิดชัดเจน ไม่ว่าจากผู้สมัครเอง หรือผู้หนึ่งผู้ใด

กกต.สามารถแจกใบส้มเพิ่มอีก 1 ใบ

ผู้ที่ได้รับแจกใบส้มจาก กกต.จะถูกตัดสิทธิไม่ให้สมัครเลือกตั้งล้างตา

ทีนี้มาถึงขั้นตอนสำคัญ หาก กกต.พบหลักฐานการทุจริตหลังประกาศผลเลือกตั้งแล้ว

กกต.ยังมีอำนาจแจกใบแดงย้อนหลังอีก 1 ใบ

ผู้ (โชคร้าย) ที่ถูก กกต.แจก “ใบแดงย้อนหลัง” จะต้องหลุดจาก ส.ส.ทันที และจะถูกตัดสิทธิสมัครเลือกตั้ง 10 ปี

แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าใบแดงย้อนหลังจาก กกต.จะเป็นตัวชี้ขาดการจับขั้วตั้งรัฐบาล

และเมื่อศาลตัดสินว่าผู้โดนแจกใบแดงกระทำความผิดจริง กกต.จะแจก “ใบดำ” เพิ่มอีก 1 ใบ

ใครที่โดน กกต.แจกใบดำ จะถูกตัดสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิต และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งการเมืองตลอดกาล

“แม่ลูกจันทร์” ดูแนวโน้ม กกต.คงไม่แจกใบเหลืองใบส้มในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานก่อนเลือกตั้ง 48 ชั่วโมง

แต่...แต่จะมีแจก “ใบแดงย้อนหลัง” หรือไม่??

“แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตไม่เดาใจ กกต.

รอไปลุ้นหลังเลือกตั้งก็แล้วกัน.

“แม่ลูกจันทร์”




ดวลเดือดกันที่ไม้เด็ด

คึกคักรับ 65 ปี นอกจากร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทู มี อวยพรวันคล้ายวันเกิด 21 มี.ค. ตัวเองแล้ว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กับหมวกใบเก๋ “แคนดิเดตนายกฯ” พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีคิวลงพื้นที่ ยังส่งเสียงฮัมเพลงตลอดทั้งวัน ตั้งแต่สวนลุมพินียันแปดริ้ว

อารมณ์ดีเพราะมีความสุข ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย วันเลือกตั้ง

จะมีถูกขัดมู้ดแช่มชื่นอยู่บ้าง ก็เมื่อเจอนักข่าวไล่ยิงคำถามถึงการเลือกตั้ง โยงถึงปมเผื่อใจหากค่าย พปชร.เพลี่ยงพล้ำพ่ายแพ้ ซักละเอียดจนท่านผู้นำมีแว้ดใส่

แต่ในโทนรวม “บิ๊กตู่” ยังคุมจังหวะได้ ชนิดที่กลายเป็นหมัดเด็ดโค้งสุดท้ายค่าย พปชร.ไปแล้ว

เพราะจากที่ทยอยเปิดขายนโยบายต่างๆของพรรค พ่วงแรงหนุนจากการอัดฉีดนโยบายโครงการต่างๆของรัฐบาลอำนาจพิเศษในช่วงสุดท้าย ทั้งการสนับสนุนกองทุนหมู่บ้าน–เติมงบฯสวัสดิการแห่งรัฐ ฯลฯ

ไม้เด็ดช่วงเข้าทางตรง ในยกสุดท้าย “บิ๊กตู่” ถูกยกเป็นจุดขาย

แบบที่ต้องรอลุ้น วันสุดท้ายของการหาเสียง พระเอกของ พปชร.จะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่แมตช์สุดท้ายใน กทม.ที่สนามเทพหัสดิน ด้วยตัวเอง หรือจะโชว์ตัวผ่านคลิปวีดิโอ หรือระบบเทคโนโลยีอื่นๆ

แต่ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม คิวนี้สะท้อนชัด “บิ๊กตู่” คือสเปเชียล 1 “นายกวัก” ชั้นดี

สะท้อนชัดจากมอตโตในโปสเตอร์หาเสียงคู่ผู้สมัคร “เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่”

ท่าไม้ตาย แก้เกมขั้วคู่แข่งอย่างค่ายเพื่อไทย ที่ปูพรมแคมเปญติดป้ายโปสเตอร์ ถล่มปมแก้ปัญหาปากท้องของรัฐบาล คสช. โยงค่าย พปชร.

โดย “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง และแคนดิเดตผู้นำของพรรคเพื่อไทย ตีธงโหมกระแสต่อเนื่องจากสโลแกน “อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ”

มาถึงคิวทิ่มซ้ำ “เอาลุงคืนไป เอาเงินในกระเป๋าคืนมา”

สรุปนาทีนี้ 2 ขั้ว ยกปม “ปากท้อง-ความสงบ” มาดวลเดือด วัดใจเสียงหนุน

ส่วนอีกค่ายที่สถาปนาเป็น “ขั้วที่ 3” แทงทะลุ “ไม่เอานายใหญ่–ไม่หนุนลุง” อย่าง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค ปชป. อาจยิ้มรับเกมกระตุกแต้มแฟนคลับ

สะกิดสปอนเซอร์ เรียกผู้ชมวีไอพีให้เหลียวมาแล

แต่ถึงตอนนี้ชักมีเป๋ ลูกทัพซุ้มแนบชิด “ลุงกำนัน” ใน ปชป.แผ่แม่เบี้ยจาก “ฟาร์มงูเห่า” ในค่าย ตั้งคำถาม ท่าที “ไม่เอา 2 ขั้ว” เป็นมติกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ “อภิสิทธิ์” ถามลูกค่ายหรือยัง

ทำเอาบิ๊ก ปชป.อ้อมแอ้มว่าเป็นความเห็นส่วนตัว จับโยงอุดมการณ์พรรคไปโน่น

ขั้วที่สามชักโงนเงน คอนโทรลเกมในค่ายไม่อยู่ เสียงกร้าวชักแกว่ง

ในจังหวะรอซ้ำของ “ลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” ผู้มีอุปการคุณค่ายรวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ใช้คิวนี้ยิงหมัดรัว “อภิสิทธิ์” โชว์ของ “หนุนลุง” ขู่ลงสู่ท้องถนนก่อม็อบซ้ำ หากขั้วนายใหญ่พลิกเกมเข้าป้าย

ขยับหมากสอดคล้อง คิว พปชร.อวยคุณลุง “ผู้คุมความสงบ”

ส่วนค่ายเอสเอ็มอีอื่น ถึงยกนี้ไม่มีไม้เด็ด แต่อาศัยย้ำแบรนด์

ลุ้นบวกแต้ม เพิ่มน้ำหนักต่อรองโควตาเก้าอี้สูตรรัฐบาลผสม

ทั้งพรรคชาติไทยพัฒนา ต้องตรึงกำลังที่นั่งในพื้นที่เป้าหมาย มอตโต “สัจจะ–กตัญญู” ยังขายได้ “ชาติพัฒนา” ของสุวัจน์–เทวัญ ลิปตพัลลภ “โนพรอบเบลม” ยืดหยุ่นสูงกับการเมืองแบ่งขั้ว เข้าได้ทุกฝั่งฝ่าย

ขณะที่ค่ายภูมิใจไทย “อนุทิน ชาญวีรกูล” ขายความเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ใจกุศล อัดโค้งสุดท้ายด้วยนโยบายกัญชาเสรี แบ่งปันผลประโยชน์ให้เกษตรกร สารพัดไอเดียแก้ปมจราจร

และอีกค่ายมาแรงจัด “อนาคตใหม่” ที่คนการเมืองตกใจกับกระแส “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าค่ายใหม่สด

เจอหลายหมัดอัดใส่ยังไม่ยุบ แต่ทางยาวต้องติดตาม

เรียกว่าถึงตอนนี้ แต่ละค่ายเริ่มออกหมัดเด็ดไม้ตาย แต่จะเข้าเป้าเป็นไปตามประสงค์แค่ไหน

หลังเวลา 17.00 น. วันที่ 24 มีนาฯนี้ มีคำตอบให้ครบทุกค่าย.

ทีมข่าวการเมือง

เข้ม เค้าท์ดาวน์ เลือกตั้ง เกาะติดกลุ่มเคลื่อนไหว



เข้ม เค้าท์ดาวน์ เลือกตั้ง เกาะติดกลุ่มเคลื่อนไหว
“บิ๊กป้อม” สั่งเข้ม พร้อม รับเลือกตั้ง 
รักษาความปลอดภัย เน้นงานข่าว ติดตามความเคลื่อนไหว-เป้าหมาย กลุ่มเสี่ยงทุกพื้นที่ เฝ้าระวังและป้องปรามการก่อเหตุ-ก่อกวน ย้ำ ทหาร-ตร.-จนท.ยึดกฎหมาย วางตัวเป็นกลาง สนับสนุนกกต. และร่วมรณรงค์ประชาชนออกมา เลือกตั้งให้มากที่สุด
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ.และ รมว.กลาโหม ได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองในทุกจังหวัด ให้เตรียมความพร้อมและปฏิบัติหน้าที่โดยยึดมั่นกรอบกฎหมาย ด้วยความเป็นกลางทางการเมือง สนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง (กกต.)ระดับพื้นที่ เมื่อได้รับการร้องขอ เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นทั่วประเทศ ใน 24 มี.ค.62 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดความยุติธรรม และเป็นที่ยอมรับร่วมกัน
พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำ ขอให้คงเข้มมาตรการความปลอดภัยและงานข่าว ติดตามความเคลื่อนไหวเป้าหมาย กลุ่มเสี่ยงทุกพื้นที่ เฝ้าระวังและป้องปรามการก่อเหตุหรือการก่อกวน ที่อาจกระทบต่อการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชน รวมทั้งกระบวนการทำงานของ กกต.ระดับพื้นที่ทั่วประเทศต่อเนื่องกันไป
ขณะเดียวกัน ขอให้นำบทเรียนจากการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา ไปตรวจสอบและพิจารณาปรับการบริหารจัดการพื้นที่ ให้พร้อมดูแลความปลอดภัย การจราจรและการอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์ในทุกหน่วยเลือกตั้งที่กระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
พร้อมกันนี้ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงความเข้มเปิดปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมในทุกพื้นที่ทั่วประเทศต่อเนื่องกันไป เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสังคมในภาพรวม
และขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันรณรงค์เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวิถีประชาธิปไตยให้มากที่สุด

เตรียมเคลื่อนพล....... ไปฝึก

เตรียมเคลื่อนพล....... ไปฝึก
“ผบ.พล.ร.9” ตรวจความพร้อมรบ “พัน ร.ฉก.292” ก่อนเคลื่อนพล ไปฝึก ที่ลพบุรี 21,24 มีค.
“ผบ.หลอด” พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ ผบ.พล.ร.9 ตรวจสภาพความพร้อมรบ ของ กองพันทหารราบเฉพาะกิจ ที่ 292 (พันร.ฉก.292) ที่มี ผู้พันเข้ม พ.ท.สุรเดช เมฆานุวงศ์ เป็น ผบ. พัน.ร.ฉก.292 ที่ สนามบิน พล.ร.9 เพื่อเป็นการตรวจสอบความพร้อมของกำลังพล , ยุทโธปกรณ์ เเละยานพาหนะ ก่อนเข้ารับการตรวจสอบเป็นหน่วย กองพันทหารราบเฉพาะกิจ ของกองทัพบก.2562 ที่ ศูนย์ฝึกยุทธวิธีกองทัพบก จ.ลพบุรี
ผบ.พล.ร.9 เน้นย้ำกำลังพลทุกนาย ที่เข้ารับการฝึก จะต้องมีความรู้ ตามตำแหน่งหน้าที่ของตน และทำการฝึกอย่างที่จะรบ เพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ยึดภารกิจเหนือสิ่งอื่นใด มีพร้อมทุกสถานการณ์
และที่สำคัญต้องฝึกร่วมกันเป็นทีม รวมพลังเป็นหนึ่งเดียว นำพากองทัพเข้มแข็งตาม นโยบาย S.M.A.R.T Soldiers Strong Army
โดยจะเคลื่อนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในวันนี้ 21 มีค.และวันที่ 24 มีนาคม มุ่งหน้า นครปฐม-ปทุมธานี-ลพบุรี