PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561

'วีระ'ท้าทายคสช.ลั่น'กูไม่กลัวมึง'

'วีระ'ท้าทายคสช.ลั่น'กูไม่กลัวมึง'
30 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 13:49 น.
30ม.ค.61- นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ซึ่งร่วมเคลื่อนไหวที่ลานสกายวอล์ค แยกปทุมวัน ร่วมกับ กลุ่มนายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิวส์ แกนนำกลุ่มฯ และนายสมบัติ บุญวามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด เมื่อเย็นวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Veera Somkwamkid อีกครั้ง โดยระบุข้อความว่า
....ตอนคุณยึดอำนาจ คุณเคยถามประชาชนก่อนไหม?
คุณยึดอำนาจแล้วคุณสัญญาอะไรกับประชาชนบ้าง
คุณได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้สำเร็จสักเรื่องหนึ่งไหม?
คุณมันก็แค่ผู้ที่ไม่เคยทำอะไรตามที่ให้สัญญาไว้เลย
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ใครเขาจะเลือกคุณ
อยากอยู่ในอำนาจต่อจนไม่เห็นหัวประชาชน
คุณคิดว่าประชาชนเขาจะยอมอดทนได้อีกหรือ?
คุณอย่ากดขี่ข่มเหงจนประชาชนหมดความอดทน
ขอยืมคำของม.ร.ว.ศึกฤทธิ์ ปราโมช "กูไม่กลัวมึง"

ฟังนายกฯ พูดเอง ยอมรับรัฐบาลขาลง วอนเห็นใจ

ฟังนายกฯ พูดเอง ยอมรับรัฐบาลขาลง วอนเห็นใจ


ออกจากปากเองเป็นครั้งแรก บิ๊กตู่ยอมรับรัฐบาลเป็นช่วงขาลง ออกตัวเป็นเรื่องปกติทำงานมา 3 ปี มีปัญหาเพิ่ม วอนขอให้เห็นใจ อย่าโยงทุกประเด็น...

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ว่า ขอเห็นใจรัฐบาล คสช. ทำงานเต็มที่ อย่าโยงทุกประเด็นกระทบการทำงาน ทั้งนี้ ขอเวลาวางรากฐานประเทศ จะมากหรือน้อยให้เป็นไปตามกฎหมาย

นายกฯ และหัวหน้า คสช. กล่าวต่อว่า ยอมรับรัฐบาลเป็นช่วงขาลง แต่เป็นเรื่องปกติของรัฐบาลทำงานมา 3 ปี มีปัญหาเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งชะลอก่อสร้างโรงไฟฟ้าเทพาแล้ว โดยให้กระทรวงพลังงานไปดูแนวทางแก้ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าเฉพาะหน้า.

กระเทือนซาง

กระเทือนซาง


เมืองไทยมีสำนักสำรวจ ความเห็นประชาชน หรือสำนักโพลระดับชาติที่มีชื่อ เสียงคุ้นหูติดปากต่อเนื่องมานับสิบปี อยู่ 3 เจ้าด้วยกัน

1, “สวนดุสิตโพล” 2, กรุงเทพโพลล์ และ 3, นิด้าโพล

โดยปกติแต่ละสำนักโพลเขาจะจับประเด็นฮอตฮิตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นไปสอบถามความเห็นประชาชนกลุ่มตัวอย่างแล้วนำไปสรุปเผยแพร่เป็นประจำเกือบทุกสัปดาห์

ผลโพลแต่ละประเด็นจะสะท้อนความคิดเห็นประชาชนส่วนใหญ่ได้มากน้อยอย่างไรก็เป็นเรื่องของโพล
เพราะการทำโพลเป็นการสุ่ม ตัวอย่างจากคนแค่พันกว่าคน หรือสองพันคนเท่านั้นเอง

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าสองวันที่ผ่านมามันเกิดประเด็นร้อนซ้อนประเด็นโพลกลายเป็นกระแสวิจารณ์กันแซ่ดทั่วบ้านทั่วเมือง

เมื่อ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้อำนวยการนิด้าโพลของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เกิดอาการฟิวส์ขาด ประกาศยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากโดนสั่งเบรกผลสำรวจความคิดเห็น ประชาชนล่าสุดเกี่ยวกับประเด็น...นาฬิกา

ดร.อานนท์ ประกาศว่าเสรีภาพทางวิชาการ และการให้เกียรติกันสำคัญ ที่สุดสำหรับผม แม้ไม่มีตำแหน่ง (ผอ.นิด้าโพล) ผมก็มีที่ยืนในสังคมได้ เพราะยืนอยู่บนความถูกต้อง ความกล้าหาญทางวิชาการ เสรีภาพทางวิชาการและความ กล้าหาญทางจริยธรรม หากไม่สามารถดำรงสิ่งเหล่านี้ไว้ได้ก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในตำแหน่ง ผอ.นิด้าโพลต่อไป

ดร.อานนท์ ยอมรับตามตรงว่า “ผมสนับสนุนรัฐประหาร และสนับสนุนรัฐบาล คสช. แต่ถ้าสิ่งใดไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม ผมก็ไม่จำเป็นต้อง... เลียท็อปบูตนะครับ”

ถือเป็นการประกาศลาออกจาก ผอ.นิด้าโพล ที่รุนแรงทะลวงไส้ยิ่งนักแล

“แม่ลูกจันทร์” จึงต้องย้อนไปดูผลสำรวจความเห็นประชาชนของ “นิด้าโพล” ก่อนหน้านี้ว่าเป็นเรื่องใด??

ปรากฏว่า “นิด้าโพล” สอบถามประชาชนทั่วประเทศ 1,250 คน ประเด็นความเชื่อมั่นต่อการตรวจสอบรัฐบาล คสช. ของ ป.ป.ช.

มีคำถามน่าสนใจถามความเห็นประชาชนว่า มีความไม่ปกติหรือไม่โปร่งใสในรัฐบาลหรือไม่??

ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 76.32 ระบุว่ามีความไม่ปกติไม่โปร่งใสในรัฐบาล

แต่ประชาชนอีก 16.64 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าโปร่งใสดี

และประชาชนอีก 7.04 เปอร์เซ็นต์ แทงกั๊กว่าไม่แน่ใจ

อนึ่ง กรณีการลาออกของ ผอ.นิด้าโพล ทำให้ “แม่ลูกจันทร์” ต้องย้อนไปสำรวจผลโพลสำนักอื่นล่าสุดมาเทียบเคียง

กรุงเทพโพลล์ ล่าสุด สอบถามความเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,114 คน ว่าคิดอย่างไรระหว่าง “นายกฯคนนอก” กับ “นายกฯคนใน”

ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ 70.6 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่านายกฯคนใหม่ควรมาจากการเลือกตั้งของประชาชน

ส่วนประชาชนอีก 29.4 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าหากเลือกคนในไม่ได้ก็ต้องเอา “คนนอก” เป็นนายกรัฐมนตรี
ทีนี้มาถึง “สวนดุสิตโพล” ล่าสุด ตั้งประเด็นถามความเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,250 คน คิดอย่างไรที่ต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก 90 วัน??

อันดับหนึ่ง ประชาชน 48.27 เปอร์เซ็นต์ อยากให้เลือกตั้งเร็วๆ
อันดับสอง ประชาชน 27.81 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าถ้าเลื่อนเลือกตั้งแล้วส่งผลดีก็ยอมรับได้เหมือนกัน
อันดับสาม ประชาชน 26.07 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าการเลื่อนเลือกตั้งอีก 90 วัน กระทบภาพลักษณ์ประเทศ และเป็นการสืบทอดอำนาจ คสช.

สรุปว่ามี นิด้าโพลเจ้าเดียว... ที่ถามประชาชนเรื่อง...นาฬิกา.

"แม่ลูกจันทร์"

สำคัญสุดตรงปากท้อง

สำคัญสุดตรงปากท้อง


จะว่าไปเรื่องนาฬิกาหรูมันเตลิดไปไหนต่อไหนแล้ว แนวโน้มผล “นิด้าโพล” ที่ออกมาก็คงไม่ได้ทำให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กระแสย่ำแย่ไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
แต่เจอปมเบรกโพลต่างหาก มันยิ่งทำให้ “ลุงป้อม” สะเทือนหนักเข้าไปอีก

นี่แหละที่น่าเอะใจ เกมลึกที่แฝงอยู่มันไม่ธรรมดา

เอาเป็นว่า ผอ.นิด้าโพลคนนี้เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ 2 สัปดาห์ ก่อนหน้านั้นก็เห็นชื่อเป็นคอลัมนิสต์ประจำอยู่สื่อออนไลน์ที่เจ้าของเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ “บิ๊กป้อม” ในคดีลอบสังหารหัวขบวนม็อบพันธมิตรฯ

มันคิดกันได้หลายแง่หลายมุม กับเครือข่าย “นิด้า” ที่โยงอยู่กับขั้วอำนาจหลายสาย

ที่แน่ๆ “พี่ใหญ่” โดนเร่งเกม “เผด็จศึก” หนักขึ้นทุกขณะ

และถึงนาทีนี้ มันลามถึงทีมงานทหาร คสช.ทำอะไรก็ผิดหมด

ตามเงื่อนไขสถานการณ์ต้อนเข้ามุมติดล็อก ตัว “บิ๊กป้อม” จะถอยออกตอนนี้ก็ยากแล้ว เพราะนั่นหมายถึงการยอมรับสภาพมอมแมมตามที่โดนกล่าวหาโจมตี เช่นเดียวกัน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ หัวหน้า คสช. จะปรับเอา “พี่ใหญ่” ออกก็ไม่ได้ จะกลายเป็นลงดาบซ้ำ ฆ่า “บิ๊กป้อม” ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด

แถมในจังหวะสถานการณ์ที่มาผนวกพร้อมกันทั้งปมเลื่อนเลือกตั้ง ปมนาฬิกา ยังมาเจอ “นิด้าโพล”
เข้าเหลี่ยมนักการเมืองสบช่อง “ขุดทอง” ทุกวัน

เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ช่วยกันเตะตัดขา “ลุงตู่” กะเอาให้พับฐาน

ก็เหลือแค่ “ขาค้ำยัน” ทางด้านเศรษฐกิจภายใต้การกำกับของ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ที่ยังยืนหยัดอยู่ได้

แถมยังแข็งแรงขึ้นตามข้อมูลล่าสุดประเทศไทยคว้าอันดับ 1 ประเทศที่เหมาะเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก จากการสำรวจของเว็บไซต์ U.S.News & World Report

เศรษฐกิจประคองการเมือง แรงกระแทกหนักๆยัง “เอาอยู่”

ตามรูปการณ์ งานช้างของ “ลุงตู่” ยามนี้ มันอยู่ที่ปัญหาการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ที่ยื้อยุดฉุดกระชากไม่จบง่ายๆ แบบที่ฝั่งนายจ้างโวยรัฐบาลให้เกินจากที่ตกลงกันไว้ ทำให้กระทบอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี ขณะที่ฝ่ายลูกจ้างก็ยืนกรานว่ารัฐบาลขึ้นให้น้อยไป ไม่พอประทังชีวิตประจำวัน ขู่ปลุกม็อบกดดัน

นายกฯต้องเคลียร์ให้พบกันครึ่งทาง ก่อนพังทั้งระบบ

เช่นเดียวกับนายสมคิด ก็ออกโรงยืนยันงานนี้ไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องความเป็นธรรมในสังคม

เพราะลูกจ้างไม่ได้ขึ้นค่าแรงมาหลายปีแล้ว และถ้าลูกจ้างมีรายได้มากขึ้น ก็มีอำนาจในการซื้อมากขึ้น ในที่สุดก็กลับมาที่พ่อค้า เจ้าของธุรกิจขายของได้มากขึ้น

“เฮียกวง” ก็ออกแรงโน้มน้าวให้เห็นผลดีกับเศรษฐกิจภาพรวม

และยังมีข้อมูลสนับสนุนจากนายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดผลสำรวจของ สสว. สรุปการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกระทบต้นทุนค่าแรงงานเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.54 ต้นทุนสินค้าขยับแค่ร้อยละ 0.05

นั่นหมายถึง อยู่ในระดับที่เอสเอ็มอียอมรับได้

สสว.สะท้อนตัวเลขอย่างเป็นทางการหักล้างเสียงวิจารณ์ลอยๆของพวกจ้องปั่นกระแส

ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ที่นักการเมืองจ้องผสมโรงอยู่

งานนี้ถ้ารัฐบาลยอมลดตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำตามแรงบีบของนายจ้าง ม็อบเกิดแน่

แต่ถ้ารัฐบาลเลือกไม่ยอมตามนายจ้างก็อาจมีเสียงโวยบ้าง ซึ่งมันก็ยังมีมาตรการช่วยเหลือของกระทรวงอุตสาหกรรมกับกระทรวงการคลังอย่างที่นายสมคิดได้สั่งให้กรมสรรพากรเข้าช่วยเอสเอ็มอี โดยให้หักลดหย่อนภาษีเป็นพิเศษ 1.15 เท่า น่าจะช่วยลดเสียงโวยนายจ้างให้เบาลง

สรุปฟันธง รัฐบาลต้องเอียงไปทางฝั่งลูกจ้างมากกว่า

ตามยุทธศาสตร์ที่อิงอยู่กับประชาชนฐานราก ภายใต้โหมดการแก้ปัญหาให้ผู้มีรายได้น้อยพ้นขีดเส้นความยากจนในปี 2561

เหนืออื่นใด มันเป็นอะไรที่วัดได้จาก “สวนดุสิตโพล” สะท้อนข่าวที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ข่าวการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำมาเป็นอันดับหนึ่ง สูงกว่าประเด็นร้อนเรื่องนาฬิกาหรู

นั่นหมายถึง คนสนใจเรื่องปากท้องมาก่อนกระแสอื่นใด ไม่สนใจอะไรมากกว่าผลประโยชน์ใกล้ตัว

“ลุงตู่” กับ “สมคิด” คุมภาวะปากท้องได้ ก็เบาไปหลายเปลาะ.

ทีมข่าวการเมือง

คสช. แจ้งจับ 7 แกนนำผู้ชุมนุม ‘คนเรียกร้องเลือกตั้ง’

คสช. แจ้งจับ 7 แกนนำผู้ชุมนุม ‘คนเรียกร้องเลือกตั้ง’
.
พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมายส่วนงานการรักษาความสงบแห่งชาติ ผคสช.) เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ปทุมวัน ต่อ 7 นักศึกษา-นักกิจกรรม ที่จัดชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้ง และคัดค้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. บริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ระหว่างเวลา 17.30 - 19.00 น. ประกอบด้วย
1. นายรังสิมันต์ โรม
2. นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์
3. น.ส.ณัฎฐา มหัทธนา
4. นายอานนท์ นำภา
5. นายเอกชัย หงส์กังวาน
6. นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ
7. นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล
.
ข้อกล่าวหาที่ตัวแทน คสช. มาแจ้งความในครั้งนี้ ได้แก่ (1) การฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ (2) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
.
การชุมนุมดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เลื่อนวันเลือกตั้งออกจากเดิมซึ่งต้องไม่เกินเดือนพฤศจิกายนของปี 2561 ไปอีก 90 วัน ขณะที่วานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ที่โรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก ปฏิเสธว่า ‘ไม่ใช่ผู้เลื่อนเลือกตั้ง’ ทั้งๆ ที่ มติของ สนช. ดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะเจ้าตัวใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 เลื่อนการบังคับใช้ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ซึ่งเดือนต้องเริ่มในเดือนตุลาคมของปี 2560 ออกไปอีกครึ่งปี
.
แต่แม้จะมีผู้ถูกแจ้งจับแล้ว ทางกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group ก็ยังยืนยันที่จะชุมนุมเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งอีกครั้ง ในวันที่ 10 กุมภาพันธุ์นี้ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ศึกยังไม่จบ

"ผมก็เป็นทหารผ่านศึก แต่ศึกยังไม่จบ และศึกหนักเหลือเกิน" บิ๊กตู่ เผย ทหารถูกสอนให้ทำเพื่อคนอื่น

พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี กล่าว กับคณะมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ว่า ผมก็เป็นทหารผ่านศึก แต่ศึกยังไม่จบ และศึกหนักเหลือเกิน 

ก่อนขอบคุณมูลนิธิที่ช่วยเหลือและทำประโยชน์เพื่อประเทศ ขณะเดียวกันสั่งต่อยอดงานวิจัยให้สามารถนำไปใช้ได้จริง ยืนยันรัฐบาลสนับสนุนงบฯในการวิจัย 

ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร ประธานกรรมการมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อติดดอกป๊อบปี้สีแดง ประชาสัมพันธ์สนับสนุนมูลนิธิครอบครัวทหารผ่านศึก เนื่องในวันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์นี้ 

ซึ่งนายกฯได้ขอบคุณคณะกรรมการมูลนิธิที่ช่วยเหลือครอบครัวของทหารผ่านศึก ซึ่งปัจจุบันการช่วยเหลือทหารอาจจะไม่ได้มาจากสนามรบแล้ว เนื่องจากขณะนี้เป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่นการป้องกันชายแดน และความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้นจึงขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ทำงานเพื่อประเทศชาติ 

วานนี้มีโอกาสเดินทางไปมอบโอวาทเนื่องในวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร ว่าผู้บังคับบัญชาสอนให้ทำเพื่อคนอื่น โดยบางทีลืมนึกถึงความปลอดภัยของตัวเอง จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องทำหน้าที่ ทำงานเพื่อประเทศชาติ 

"ผมเองก็เป็นทหารผ่านศึกเช่นกัน แต่ศึกยังไม่จบ ศึกหนักเหลือเกิน ” ก่อนที่จะเดินขึ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี

ขอต่อเวลาอีกไม่นาน

หลัง ถูก ทวงสัญญา??!!

"นายกฯบิ๊กตู่" ติง อย่าร้องเพลงคสช. แต่ ท่อนที่ว่า "เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน..."

แล้วทำไมไม่รัองท่อนที่ว่า "แผ่นดินที่งดงาม จะคืนกลับมา."

แล้วถ้าผมร้อง ท่อนนี้ล่ะ.."แผ่นดินจะดี ในไม่ช้า ความสุขจะคืนมาประเทศไทย"

 บางความสุขผมคืนให้ได้ทันที  บางความสุขก็ยังไม่ได้ เป็นเรื่องของกลไกในการแก้ปัญหา 

"ผมขอเวลาผมวางรากฐานประเทศ อีกระยะหนึ่ง  จะมากจะน้อย ก็เป็นไปตาม กรอบกฏหมาย"

"ขออย่าเพิ่งหมดกำลังใจกับผม และ คสช. ผมขอความเข้าใจจากทุกคน"

พลเอกประยุทธ์ 30มค.2561

"ผมเห็นว่ามีสื่อหลายคน วันนั้นผมจำได้ว่าใครเป็นคนถามผม เรื่องสัญญา เรื่องเนื้อเพลง ทุกอย่างจับเป็นประเด็นไปหมด 

"เรื่องสัญญาคืนความสุขในความหมายของผม คือ ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายซึ่งมีอยู่กี่กลุ่ม 

เพราะฉะนั้นบางความสุขผมคืนให้ได้ทันที  บางความสุขก็ยังไม่ได้ เป็นเรื่องของกลไกในการแก้ปัญหา 

ในการจะคืนความสุขต่อๆไป ในรัฐบาลนี้ และรัฐบาลหน้า จะมาบอกว่าผมไม่คืนความสุข 

ผมขอถามว่าจะคืนได้ไหม ปัญหาร้อยแปดพันเก้า ทุกคนต้องไปช่วยกันแก้ไขด้วย

ขอให้เข้าใจผม ผม ไม่ได้แก้ตัวทั้งสิ้น ขอถามกลับว่าบ้านเมืองสงบเรียบร้อยขึ้นหรือไม่ตอนนี้ มีความสุขหรือไม่ เศรษฐกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลางดีขึ้นหรือไม่ 

ขณะนี้รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาทั้งหมดอยู่หรือไม่ ปัญหาสะสมได้รับการแก้ไขไหม ปัญหาแรงงานรัฐบาลก็กำลังดูแลเรื่องค่าจ้างอยู่ นี่ไม่ใช่ความสุขเหรอ แม้จะไม่มากนัก แต่ก็เป็นความสุข 

"นี่คือสัญญาของผม ผมคืนให้ ให้ในสิ่งที่ให้ได้ก่อน อันไหนยังไม่ได้รัฐบาลต่อไปต้องไปทำต่อไม่ใช่ไปโจมตีกันไปมา ถ้าโจมตีกันวันนี้ แล้ววันหน้าจะได้อะไรไหม มันก็โจมตีกันอยู่แบบนี้แหละ"

การโจมตีรัฐบาลอย่างเดียว ผมว่าไม่เป็นธรรม อยากให้สื่อทุกคนดูแลประเทศชาติด้วย 

และถ้าจะพูดถึงเพลง มีการพูดถึงแต่เฉพาะว่า ขอเวลาอีกไม่นาน  และถ้าผมจะเอาเนื้อเพลงตอนจบที่ว่า "แผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา"

ก็เอาเนื้อเพลงคนละตอนบ้าง ความหมายมีสมบูรณ์อยู่ในเนื้อเพลงอยู่แล้ว

"ขออย่าเพิ่งหมดกำลังใจกับผม ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปได้ระดับหนึ่งไม่ว่าจะเวทีต่างประเทศ การจัดอันดับ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจคู่ค้าเริ่มดีขึ้น 

อย่าเพิ่งหมดกำลังใจกับผม และรัฐบาลคสช. ก็พยายามทำอย่างเต็มที่ อะไรที่มีปัญหาอยู่บ้าง ผมรับทั้งหมด เพราะผมรับผิดชอบอยู่แล้ว 

ขอให้เห็นใจบ้างในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี่ ประเด็นของ ผมไม่ใช่คำแก้ตัว 

"ขอเวลาให้ผมวางรากฐานประเทศ อีกสักระยะหนึ่งก่อนเท่านั้นเอง มันจะมากจะน้อย
เป็นไปตามกฎหมาย"

เราเป็น"รัฏฐาธิปัตย์"

"บิ๊กป้อม" ถาม ต้องการความสงบมั้ย ยันฝ่ายความมั่นคง เราเป็น"รัฏฐาธิปัตย์"ต้องดูแล ปัญหา ม็อบ We Walk เดินสันติภาพ-DRGชุมนุม ทุกเสาร์  ลั่น หากชุมนุมอีก ไม่เป็นไร ผมเตรียมเอง

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึง กลุ่มเคลื่อนไหว ทั้ง กลุ่ม เดินสันติภาพ We Walk ที่เดินในต่างจังหวัด และ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG ที่ชุมนุม ทุกวันเสาร์ ว่าเราต้องการความสงบ หรือไม่  และเป็นหน้าที่ที่หน่วยความมั่นคงจะต้องดูแล

ส่วนการชุมนุมวันเสาร์นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องทำตามกฏหมาย ทุกอย่าง ตามคำสั่งของคสช.เพราะตอนนี้เราเป็นรัฏฐาธิปัตย์ จะอะไรหล่ะ

ส่วนจะลุกลาม นั้นยังไม่รู้ เพราะยังไม่ชุมนุม

ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหา กลุ่ม DRG ที่ชุมนุม
เสาร์ที่แล้ว นั้น หากชุมนุมอีกจะทำอย่างไร พลเอกประวิตร กล่าวว่า  ไม่เป็นไร ผมเตรียมเอง

"คุณต้องการความสงบหรือเปล่า เป็นเรื่องความมั่นคงเอง"

เมื่อถามถึงการข่าว พบจะมีกลุ่มเคลื่อนไหว 
อาศัยสถานการณ์ช่วงนี้ พลเอกประวิตร กล่าวว่า ก็มีกลุ่มเดียวที่เห็นนี่แหล่ะ

เมื่อถามว่า  กลุ่มเคลื่อนไหว กระจายต่างจังหวัด จะเข้ามา กทม.หรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า  สื่อ คิดเอง  เพราะหากเป็นทางการมือง จะรวมตัว กันได้ ไม่เกิน5 คน แล้วจะรวมตัวอะไรกันอีกล่ะ