PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กลุ่มรมต.ต่างประเทศอียู แถลงระงับหมายจนท.ทั้งหมดมาไทย

จำนวนคนอ่านล่าสุด 8137 คน
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 18:00 น.  ข่าวสดออนไลน์ 


กลุ่มรมต.ต่างประเทศอียู แถลงระงับหมายจนท.ทั้งหมดมาไทย 

 เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า คณะรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป หรืออียู ออกแถลงการณ์จากที่ประชุมคณะมนตรีสหภาพยุโรป (COUNCIL OF THE EUROPEAN UNION) ที่ประเทศลักเซมเบิร์ก ถึงปฏิกิริยาล่าสุดที่มีต่อไทย โดยประณามการยึดอำนาจ และให้ระงับหมายเยือนของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่จะมาประเทศไทยและจากไทยไปอียูพร้อมระงับการลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนและความร่วมมือกับประเทศไทย

 คณะรัฐมนตรีต่างประเทศอียูยังแสดงความวิตกกังวลสูงสุดต่อความเคลื่อนไหวต่างๆในไทยและขอให้ฟื้นฟูกระบวนการทางประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญผ่านการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือและครอบคลุมโดยด่วนนอกจากนี้ควรปล่อยผู้ถูกกักกันทางการเมืองเคารพสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ 

 ในแถลงการณ์ระบุว่าด้วยว่าอียูจะทบทวนความสัมพันธ์ทางทหารต่อไปและยืนยันว่า ไทยต้องจัดทำโรดแม็ปที่เชื่อถือได้ว่าจะหวนไปใช้การปกครองตามรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งที่เชื่อถือได้และครอบคลุมเท่านั้น อียูจึงจะปรับระดับความสัมพันธ์ที่เป็นปกติกับไทย อียูตัดสินใจว่าจะรักษาความสัมพันธ์กับไทยภายใต้การทบทวน และจะพิจารณามาตรการ อื่นๆ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

++++
 รายละเอียดตามแถลงการณ์สภาสหภาพยุโรป

 ผลสรุปสภาอียูต่อประเทศไทย
 การประชุมคณะมนตรีกิจการต่างประเทศ
 ลักเซมเบิร์ก วันที่ 23 มิถุนายน 2557

 1 สหภาพยุโรปและไทยมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมายาวนาน ทั้งด้านการค้า การท่องเที่ยว การลงทุน วัฒนธรรม การติดต่อสื่อสารระหว่างประชาชน

 2. ดังนั้น ด้วยความวิตกสูงสุดที่คณะมนตรีสหภาพยุโรปติดตามพัฒนาการความเคลื่อนไหวในประเทศไทยไม่นานมานี้ ขอเรียกร้องให้ผู้นำทหารฟื้นฟูกระบวนการประชาธิปไตยและธรรมนูญอันชอบด้วยกฎหมาย โดยถือเป็นกรณีเร่งด่วน ผ่านการเลือกตั้งที่เชื่อถือได้และครอบคลุม สภาอียูยังขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นในระดับสูงสุด เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและสนับสนุนเสรีภาพขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้ปล่อยผู้ถูกกักกันทางการเมืองทั้งหมด และระงับการจับกุมด้วยเหตุผลทางการเมืองเพิ่มเติม พร้อมกับยุติการเซ็นเซอร์

3. คำประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ของผู้นำทหาร ยังห่างจากโรดแม็ปที่ไว้วางใจได้ว่าเป็นการหวนคืนการปกครองตามรัฐธรรมนูญตามที่สถานการณ์ต้องการ ดังนั้น ควรต้องทำให้สถาบันทางประชาธิปไตยกลับมาทำงานได้เต็มรูปแบบเพื่อย้ำถึงการคุ้มครองและสวัสดิภาพของพลเรือนทั้งปวง

4.เพื่อต่อต้านความเป็นไปนี้ อียูจำเป็นต้องทบทวนความสัมพันธ์ หมายการเยือนของเจ้าหน้าที่ไปยังประเทศไทยและจากประเทศไทยมาอียูต้องระงับไว้ทั้งหมด อียูและชาติสมาชิกจะไม่ลงนามความสัมพันธ์หุ้นส่วนและความร่วมมือกับประเทศไทย จนกว่าจะมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ข้อตกลงอื่นๆ อาจได้รับผลกระทบตามความเหมาะสม หลังจากประเทศสมาชิกของอียูเริ่มทบทวนความสัมพันธ์ทางทหารกับไทย

5. มีเพียงโรดแม็ปที่ทำโดยเร็วและเชื่อถือได้ว่าจะหวนกลับไปปกครองตามรัฐธรรมนูญ จัดการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือและครอบคลุมเท่านั้นที่จะทำให้อียูสนับสนุนไทยต่อไป สภาอียูตัดสินใจว่า อียูจะรักษาความสัมพันธ์กับไทยไว้ภายใต้การทบทวนและจะพิจารณามาตรการอื่นๆ ที่เป็นไปได้ต่อไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์





บิ๊กตู่ปรี๊ด! ปัดจับเข่าคุย “สุเทพ” ล้มระบอบทักษิณ ตั้งแต่ปี 53

รองโฆษก ทบ.ออกมาปฏิเสธข่าว หลัง “กำนันสุเทพ” เผยกลางงานเลี้ยงระดมทุน กปปส. อ้างคุยกับ “พล.อ.ประยุทธ์” เรื่องล้มระบอบทักษิณมาตั้งแต่ปี 53 แถมมีส่วนสำคัญช่วยวางแผน อ้างแชตผ่านแอปฯ ไลน์กันตลอด เผย 6 เดือน กปปส.ใช้เงินไป 1.4 พันล้านบาท “วินธัย” ระบุหัวหน้า คสช.ไม่พอใจอย่างมาก เพราะบรรยากาศบ้านเมืองกำลังเป็นไปด้วยดี

บิ๊กตู่ปรี๊ด! ปัดจับเข่าคุย “สุเทพ” ล้มระบอบทักษิณ ตั้งแต่ปี 53
       
       วันนี้ (23 มิ.ย.) หลังหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์บางกอกโพสต์ ได้นำเสนอข่าวเรื่อง “สุเทพคุยลับกับประยุทธ์ตั้งแต่ปี 2553 เป้าหมายคือระบอบทักษิณ (Suthep in talks with Prayuth ‘since 2010’ Thaksin regime target in secret talks)” มีเนื้อระบุว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อระดมทุนของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่แปซิฟิกคลับย่านสุขุมวิท เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ได้กล่าวยอมรับภายในงานว่าตนพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เกี่ยวกับปัญหาของระบอบทักษิณ ตั้งแต่ปี 2553
       
       “นายสุเทพเปิดปากพูดระหว่างงานเลี้ยงอาหารเย็นเพื่อระดมทุนเมื่อคืนวันเสาร์ ที่แปซิฟิกคลับ ในกรุงเทพฯ โดยเขาระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์มีส่วนในการวางแผนเพื่อล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมถึงช่วงก่อนหน้าที่เกิดเหตุนำไปสู่การรัฐประหาร ระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วย” บางกอกโพสต์ระบุ
       
       นอกจากนี้ นายสุเทพยังอ้างด้วยว่า มีการติดต่อกับ พล.อ.ประยุทธ์และทีมงานอย่างสม่ำเสมอผ่านทางช่องทางแอปพลิเคชันไลน์ ทั้งนี้ ก่อนการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 20 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ได้แจ้งกับตนว่า “คุณสุเทพ คุณกับมวลมหาประชาชน กปปส.เหนื่อยมามากแล้ว จากนี้เป็นภารกิจของกองทัพเอง”
       
       ขณะเดียวกัน ในงานดังกล่าวนายสุเทพยังเปิดเผยกับผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยว่า กปปส.ใช้เงินในการเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์และขับไล่ระบอบทักษิณไปประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ เงิน 400 ล้านบาทมาจากครอบครัวและตัวแกนนำ กปปส. ส่วนอีก 1 พันล้านบาทมาจากเงินสนับสนุนและเงินบริจาค
       
       จากข่าวดังกล่าว ช่วงบ่ายวันนี้ (23 มิ.ย.) น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารของ นสพ.บางกอกโพสต์ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Wassana Nanuam ระบุถึงข่าวดังกล่าวว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ ให้ชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อน เพราะผู้บัญชาการทหารบกยืนยันว่าไม่เคยมีการพูดคุยหรือมีสื่อสารเป็นการส่วนตัว หรือส่งข่าวใดๆ กับนายสุเทพทั้งสิ้น
       
       “ท่านบอกว่ามีเพียงได้รับมอบจากรัฐบาลในขณะนั้นให้ดำเนินการในฐานะหน่วยงานความมั่นคง เพื่อสื่อสารแจ้งกับทุกกลุ่มให้หาทางเจรจากัน แต่ก็ไม่เคยสำเร็จบรรลุผล รวมทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ให้แจ้งเตือนทุกกลุ่มหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมาย และระมัดระวังให้ประชาชนได้มีความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งในขณะนั้นกองทัพคงไม่สามารถทำในลักษณะดังกล่าวได้ เพราะเป็นด้วยงานความมั่นคง ต้องปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย และดำเนินการทุกอย่างไปตามกระบวนการที่เหมาะสมของภาครัฐ” พ.อ.วินธัย กล่าว
       
       ทั้งนี้ พ.อ.วินธัยยังระบุด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่พอใจต่อการให้ข่าวดังกล่าวของนายสุเทพอย่างมาก เพราะบรรยากาศกำลังเป็นไปด้วยดี นายสุเทพไม่ควรมาพูดแบบนี้

มาเลย์โต้มะกันลดขั้น'เทียร์3'ค้ามนุษย์

มาเลย์โต้มะกันลดขั้น'เทียร์3'ค้ามนุษย์
รัฐบาลมาเลเซียตอบโต้รายงานสถานการณ์ค้ามนุษย์ประจำปีของสหรัฐที่ลดระดับมาเลเซียลงสู่ "เทียร์ 3" หรือขั้นต่ำสุดพร้อมกับไทย อ้างดำเนินการปรับปรุงแล้วในช่วง 2 ปี จี้สหรัฐทบทวน ขณะฟิลิปปินส์พร้อมทำให้ดีขึ้นแก้ปัญหาละเมิดทางเพศเด็ก
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ว่ารัฐบาลมาเลเซียมีปฏิกิริยาตอบโต้รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี 2557 ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเผยแพร่เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน โดยลดระดับมาเลเซีย, ไทย, เวเนซุเอลา และแกมเบีย ลงสู่ขั้นต่ำที่สุดของกลุ่มประเทศที่ล้มเหลวในการป้องกันการค้ามนุษย์ หรือ "เทียร์ 3" ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับประเทศ เช่น อิหร่าน, เกาหลีเหนือและซีเรีย ที่ทำให้อาจเผชิญการลงโทษจากสหรัฐ
กระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า การต่อสู้กับอาชญากรรมเลวร้ายในประเทศของตนซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดแรงงานและผู้อพยพจากประเทศที่ยากจนกว่า กำลังดำเนินมีความคืบหน้า
"มาเลเซียได้ดำเนินมาตรการอย่างมากมายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และลักลอบขนคนเข้าเมือง ด้วยเหตุนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐควรทบทวนการประเมินเกี่ยวกับมาเลเซียเสียใหม่" แถลงการณ์กล่าว
อย่างไรก็ดี อาจิล เฟอร์นันเดซ ผู้อำนวยการองค์กรด้านสิทธิแรงงานต่างด้าวในมาเลเซีย เทนากานิตา เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า องค์กรเทนากานิตาของเธอยังคงต้องรับมือกับกรณีการละเมิดสิทธิแรงงานและการค้ามนุษย์ในจำนวนมากขึ้น
"เราเห็นความคืบหน้าน้อยมาก" เธอกล่าว และว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนในมาเลเซียยังแย่มาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสถานการณ์เลวร้ายลงอย่างแท้จริง
รายงานของสหรัฐระบุว่า มาเลเซียเมินเฉยต่อคำเตือนของสหรัฐที่ต้องการให้วางแผนการดำเนินการแก้ปัญหาให้ได้ตามมาตรฐานขั้นต่ำสุดในการกำจัดการค้ามนุษย์
ด้านรัฐบาลฟิลิปปินส์ ซึ่งสหรัฐยังคงจัดให้อยู่ในระดับ "เทียร์ 2" จากความพยายามปฏิบัติให้สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำสุดในการกำจัดการค้ามนุษย์ โฆษกของประธานาธิบดีเบนิกโน อากีโน กล่าวผ่านรายการวิทยุของรัฐบาลว่า ฟิลิปปินส์จะดำเนินอย่างดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ หลังจากรายงานของสหรัฐกล่าวถึงกรณีการบังคับเด็กแสดงพฤติกรรมทางเพศสนองผู้ชมทางอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา สามารถเลือกลงโทษคว่ำบาตรประเทศที่ติดกลุ่มเทียร์ 3 ได้ แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยอมรับกันว่า เมื่อปีที่แล้วซึ่งรัสเซียและจีนถูกลดระดับลง โอบามาเคยตัดสินใจยกเว้นการลงโทษสองประเทศนี้.

ช็อก! เชื้อมรณะ "แอนแทรกซ์" รั่วไหลใน “ห้องทดลองลับ” รบ.US นักวิทยาศาสตร์ติดเชื้อ 75 ราย ...

ช็อก! เชื้อมรณะ "แอนแทรกซ์" รั่วไหลใน “ห้องทดลองลับ” รบ.US นักวิทยาศาสตร์ติดเชื้อ 75 ราย ...
::: พบนักวิทยาศาสตร์อย่างน้อย 75 คนที่ทำงานให้กับ“ห้องทดลองลับ”ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯได้รับเชื้อมรณะ “แอนแทรกซ์” หลังเกิดเหตุรั่วไหลระหว่างการทดลอง ...
::: ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ออกมาแถลงยืนยันโดยระบุ มีนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานในห้องทดลองลับของรัฐบาลอเมริกันที่นครแอตแลนต้าจำนวนอย่างน้อย 75 คนได้รับเชื้อแบคทีเรียมรณะประเภท "แอนแทรกซ์" เข้าสู่ร่างกาย หลังเกิดเหตุรั่วไหลในการทดลอง และในขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดได้ถูกนำตัวเข้ารับการรักษา ณ สถานที่ซึ่งไม่มีการเปิดเผยแห่งหนึ่ง ...
::: รายงานข่าวระบุว่า การแพร่กระจายของเชื้อแอนแทรกซ์ดังกล่าว เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการขนย้าย "ตัวอย่างเชื้อ" จากห้องแล็บความมั่นคงสูงแห่งหนึ่ง ไปยังห้องทดลองอีกแห่งหนึ่ง และมีนักวิทยาศาสตร์อย่างน้อย 7 คนที่สัมผัสถูกเชื้อมรณะโดยตรง ...
::: ด้าน นายแพทย์พอล มีแชน ผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของซีดีซี ออกมายอมรับว่า ในความเป็นจริงแล้วเหตุระทึกขวัญดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ข่าวการติดเชื้อแอนแทรกซ์ในหมู่นักวิทยาศาสตร์ครั้งนี้เพิ่งเล็ดรอดออกสู่สาธารณชนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ...
::: ข้อมูลของรัฐบาลอเมริกันระบุว่า เชื้อแอนแทรกซ์ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นหัวเชื้อในการผลิต “อาวุธชีวภาพ” ถือเป็นหนึ่งในเชื้อแบคทีเรียที่มีอันตรายที่สุดในโลก และมีความเป็นไปได้ที่ผู้ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย อาจไม่แสดงอาการเจ็บป่วยใดๆเลยในช่วง 5-7 วันนับจากรับเชื้อ และเคยพบผู้ติดเชื้อที่เพิ่งแสดงอาการป่วยหลังรับเชื้อไปแล้วถึง 60 วัน ...
::: ล่าสุดทีมสืบสวนของซีดีซี รวมถึงสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เหตุระทึกขวัญที่เกิดการแพร่กระจายของเชื้อแอนแทรกซ์ในห้องทดลองลับของรัฐบาลอเมริกันครั้งนี้เป็น "อุบัติเหตุ" หรือเกิดขึ้นจาก "ความจงใจ" ของผู้ไม่ประสงค์ดี ...
::: ทั้งนี้ เชื้อแอนแทรกซ์ ซึ่งมีความรุนแรงถึงแก่ชีวิต ถูกระบุว่า สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายได้ยาวนานหลายสิบปี หรืออาจเป็นร้อยปี โดยถูกพบในทั่วทุกทวีปของโลก ยกเว้นทวีปแอนตาร์กติกา หรือ "ขั้วโลกใต้"

ด่วน!!ลดค่าไฟลง 10 บาท เหลือค่าบริการ 28 บาทต่อหนึ่งรอบบิล

“เรกูเลเตอร์” หารือ คสช.เดินหน้าโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่ รวมถึงค่าเอฟที ตัดตัวเลขต้นทุนของการไฟฟ้าลง ก่อนโยนเป็นภาระแก่ผู้ใช้ไฟส่งผลให้ค่าบริการรายเดือนลดลงเหลือ 28 บาท จาก 38 บาท
020342bqx5
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นางพัลลภา เรืองรอง กรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือเรกูเลเตอร์ เตรียมขอหารือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพื่อเดินหน้ากระบวนการประกาศใช้โครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่ หลังล่าช้ามานานหลายเดือน โดยขณะนี้ ได้จัดทำค่าไฟฟ้าฐานใหม่เสร็จแล้ว เหลือเพียงการทบทวนตัวเลขอีกครั้ง เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ เอฟที ที่จะปรับปรุงใหม่ ก่อนเปิดรับฟังความคิดเห็น จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช.อนุมัติและประกาศใช้ต่อไป
สำหรับ อัตราค่าไฟฟ้าฐานใหม่ คาดว่าจะเท่ากับอัตราปัจจุบัน หรือเฉลี่ยหน่วยละ 3 บาท 20 สตางค์ โดยเรกูเลเตอร์มองว่า อัตรานี้ยังเพียงพอต่อการลงทุนของการไฟฟ้า และได้ตัดลดตัวเลขต้นทุนที่การไฟฟ้าเสนอมา เพราะไม่ใช่เม็ดเงินที่ใช้จริง แต่เป็นตัวเลขกรอบวงเงินที่อนุมัติก่อนเริ่มโครงการ รวมทั้ง ตัดค่าใช้จ่ายสำนักงานใหญ่ ที่การไฟฟ้ารวมเข้ามาเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าด้วย
ส่วนค่าบริการรายเดือนที่จัดเก็บในอัตรา 38 บาท น่าจะปรับลดลงได้ 10 บาท หรือจัดเก็บเพียง 28 บาทต่อหนึ่งรอบบิล เพราะปัจจุบันการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จากการที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายบุคลากรจำนวนมากไปเก็บเงินตามบ้าน โดยให้ชำระที่สำนักงาน ธนาคาร และเคาน์เตอร์เซอร์วิสแทน รวมทั้งการนำอุปกรณ์พิมพ์ใบแจ้งค่าไฟได้ทันทีขณะตรวจมิเตอร์หน้าบ้าน ทำให้ต้นทุนจากวิธีเดิมที่ส่งใบเรียกเก็บค่าไฟทางไปรษณีย์ลดลง

รวบเสี่ยรีสอร์ทดังอ้างเบื้องสูง วิ่งเต้นเปิดบ่อนหรูกลางกรุง

อาชญากรรม


รวบเสี่ยรีสอร์ทดังอ้างเบื้องสูง วิ่งเต้นเปิดบ่อนหรูกลางกรุง

เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย @fm91trafficpro
วันที่ 23 มิถุนายน 2557 13:26 น.22,943 views
รวบเสี่ยรีสอร์ทดังราชบุรี ซึ่งมีพฤติการณ์แอบอ้างบุคคลระดับสูง เตรียมเปิดบ่อนการพนันที่ นัมเบอร์วัน ภายในอาคารสปอร์ตคลับ บริษัท นัมเบอร์วัน ไดร์ฟวิ่งเลนจ์ จำกัด ซึ่งเป็นบ่อนที่เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ บุกเข้าตรวจค้นจับกุม
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 มิ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้เดินทางเข้าสอบปากคำ นายเอกชัย หรือเอฟ พลอยหิน อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านสวนส้มทิพย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.ราชบุรี ด้วยตนเอง หลังจากกำลังตำรวจ บก.ป.ได้ควบคุมตัว นายเอกชัย ซึ่งมีพฤติการณ์แอบอ้างบุคคลระดับสูง เตรียมเปิดบ่อนการพนันที่ นัมเบอร์วัน ภายในอาคารสปอร์ตคลับ บริษัท นัมเบอร์วัน ไดร์ฟวิ่งเลนจ์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 19/7 ซอยรามคำแหง 39 (ซอยสหการประมูล) ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.ซึ่งเป็นบ่อนที่เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจบุกเข้าตรวจค้นจับกุม เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา

โดยทาง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน บก.ป.สืบสวนขยายผลจากการตรวจค้นจับกุมบ่อนดังกล่าว เนื่องจากมีการแอบอ้างบุคคลระดับสูงในการจัดเตรียมสถานที่เพื่อเปิดบ่อนการพนัน อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลที่ตรวจสอบพบในเบื้องต้นทราบว่ามีชื่อของนายวิศิษฐ์ สัจจพจน์นุกูล อายุ 65 ปี เจ้าของสนามไดร์ฟกอล์ฟชื่อดัง เป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว โดยนายวิศิษฐ์ เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกคำสั่งเรียกให้เข้ารายงานตัวก่อนหน้านี้

จากการสอบสวนนายเอกชัย ให้การว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเปิดบ่อนการพนันแห่งนี้แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนายวิศิษฐ์ จริง เนื่องจากช่วง 3-4 เดือนก่อนหน้านี้ เคยให้กู้ยืมเงินไป 4.7 ล้านบาท โดยทราบดีว่านายวิศิษฐ์ จะนำไปเปิดบ่อนการพนัน และหากเปิดดำเนินการแล้วก็จะรีบทยอยนำเงินมาคืนให้

อย่างไรก็ตาม สำหรับนายเอกชัย นั้น ทางเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่ามักจะแอบอ้างเบื้องสูง บุคคลผู้มีชื่อเสียง และผู้มีอิทธิพล รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่น เพื่อวิ่งเต้นหาผลประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งยังเคยเปิดสถานบันเทิงจนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่มาก่อนหน้านี้ด้วย โดยเบื้องต้นทาง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ได้ให้คำแนะนำกับ ร.ต.ท.ชลิต มณีพราว พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ หลังจากได้สอบปากคำด้วยตนเองในเบื้องต้นแล้ว ก่อนจะส่งตัวนายเอกชัย ให้ทหารรับไว้ดำเนินการในความผิดฐานขัดคำสั่ง คสช.เรื่องห้ามเล่นการพนันที่ผิดกฎหมายทั่วประเทศ