PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2559

“ปานเทพ” จวกถอนฟ้อง “7 ตุลาเลือด” ไม่ต่างนิรโทษสุดซอย - “สุริยะใส” ซัดขุดศพขึ้นมาฆ่า



“ปานเทพ” จวกถอนฟ้อง “7 ตุลาเลือด” ไม่ต่างนิรโทษสุดซอย - “สุริยะใส” ซัดขุดศพขึ้นมาฆ่า
อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ชี้ “วัชรพล” ใช้อำนาจ ป.ป.ช. พยายามถอนฟ้อง “7 ตุลาฯ 51” ไม่ต่างกับพรรคเพื่อไทยนิรโทษสุดซอย เอื้อประโยชน์ตัวและพวกพ้อง “สุริยะใส” อัดยับภาพประวัติศาสตร์เห็นกันอยู่ แก๊สน้ำตาคุณภาพต่ำทำคนบาดเจ็บล้มตาย กลับทำลายความยุติธรรม เท่ากับขุดศพขึ้นมาฆ่า ยิ่งเด่นชัดช่วย “พัชรวาท” น้อง “ประวิตร”

วันนี้ (21 เม.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำและโฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกระแสข่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยุคที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นประธาน มีมติว่า ป.ป.ช. มีอำนาจถอนฟ้องคดีที่เคยสั่งฟ้องต่อศาล ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจการปกครอง ก็เพราะความพยายามผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือที่เรียกกันว่า พ.ร.บ. สุดซอย ที่ต้องการล้างความผิดและเอื้อประโยชน์ให้แก่ตัวเองและพวกพ้อง จนเกิดการต่อต้านอย่างรุนแรง และมีปัญหาความขัดแย้งอย่างหนัก หากรัฐบาล คสช. ซึ่งเป็นความหวังของประชาชน และอ้างตัวเองว่าเป็นรัฐบาลที่มาทำหน้าที่เพื่อการปฏิรูปประเทศปล่อยให้ ป.ป.ช. ถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ หรือกระบวนการใดก็ตามที่เป็นไปในทำนองเดียวกับการนิรโทษกรรมเพื่อพวกพ้องตัวเอง ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ประชาชนยอมรับไม่ได้ เพราะเท่ากับว่า รัฐบาล คสช. ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่ คสช. เองก็กล่าวหาว่าไม่มีความชอบธรรม
“เป็นที่รู้กันดีว่า หาก ป.ป.ช. ยื่นถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ บุคคลที่ได้ประโยชน์โดยตรง ก็คือ ผู้ที่อยู่ใกล้ชิด หรือคนในครอบครัวของผู้ที่มีอำนาจในขณะนี้ ถ้าเกิดขึ้นจริงรัฐบาล คสช. ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย” นายปานเทพ ระบุ

ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า หาก ป.ป.ช. จะบอกว่า มีอำนาจถอนฟ้องคงฟังไม่ขึ้น แน่นอนว่า อาจถูกมองว่าตีความเข้าข้างตัวเอง แต่ว่าเรื่องนี้จริง ๆ แล้วคนที่วินิจฉัยว่า ป.ป.ช. มีอำนาจแค่ไหนต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเขตอำนาจขององค์กรอิสระ แต่ถ้าบอกมีอำนาจตามกฎหมาย แล้วความชอบธรรมมีหรือไม่ อย่าลืมว่าบทเรียนหนึ่งที่ ป.ป.ช. เคยสร้างปัญหา คือ กรณีขึ้นเงินเดือนตัวเองจนพังกันทั้งองค์กรมาแล้ว

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ตนคิดว่า เรื่องนี้ ป.ป.ช. ต้องมีคำอธิบายต่อสังคม เพราะถ้านำไปสู่การถอนฟ้องจริง ๆ จะอ้างว่ามีอำนาจตามกฎหมายนั้น ฟังไมขึ้น อาจกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เพราะมูลเหตุของคดี คือ มีคนเจ็บและคนตาย ภาพประวัติศาสตร์ก็เป็นการยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ใช้กำลังยิงถล่ม ทั้งกระสุนปืน แก๊สน้ำตาหมดอายุ แก๊สน้ำตาด้อยคุณภาพจากจีน รุมถล่มผู้ชุมนุมหน้ารัฐสภา จนมีคนบาดเจ็บจำนวนมาก อีกทั้งคดีความก็ยังขึ้นศาลกันยังไม่จบ อยู่ ๆ จะมาถอนฟ้องผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งการนั้นไม่ถูกต้อง ที่สำคัญ พอข่าวออกมาแบบนี้ยิ่งทำให้คนสงสัยว่าโอกาสที่จำเลยทั้ง 4 คน จะถูกตัดสินลงโทษมีสูงใช่หรือไม่ จึงหาเหตุตัดตอนด้วยการถอนฟ้อง ซึ่งจะถือเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม และหลักการถ่วงดุลอย่างรุนแรงครั้งหนึ่ง
“เรื่องนี้จะเกิดคำถามว่า ทำเพื่อใคร ใครสั่ง ภารกิจนี้เป็นมิชชันที่ใครอยู่เบื้องหลัง ใครบงการมา ถ้า ป.ป.ช. อธิบายไม่ได้ จะเป็นจุดจบของระบบถ่วงดุลการตรวจสอบ เรื่องปราบโกงเลิกพูดกัน ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ถูกตรวจสอบตามกฎหมายอย่างเสมอหน้าเหมือนกับประชาชนทั่วไป เรื่องปราบโกงจะเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ และคิดว่าถึงที่สุดไม่มีใครยอม อาจจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนถ้าใช้วิธีหักด้ามพร้าด้วยเข่า เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องว่ามีอำนาจหรือไม่ แต่เป็นเรื่องความชอบธรรมว่าฟังขึ้นแค่ไหน ถ้ามีถอนฟ้องจริง ๆ จะเท่ากับการขุดศพขึ้นมาฆ่าอีกครั้งหนึ่ง” นายสุริยะใส กล่าว

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสังเกตกันถึงความสัมพันธ์ระหว่าง พล.ต.อ.วัชรพล ในฐานะที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าของ พล.ต.อ.พัชรวาท น้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นายสุริยะใส กล่าวว่า ยิ่งจะทำให้ชัดขึ้น คนจะมองว่าไม่ใช่องค์กรอิสระอย่างแท้จริง แล้วจะมองมาที่ตัวประธาน ป.ป.ช. คนปัจจุบัน รวมทั้งกรรมการหลายคนที่ถูกตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ด้านลบ จะกระทบความน่าเชื่อถือของ ป.ป.ช. เวลาวินิจฉัยคดีใหญ่ ๆ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเรื่องนี้ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะจะถูกมองว่าช่วยคนใดคนหนึ่ง เอาขื่อแป ระบบกฎหมาย ระบบถ่วงดุลบ้านเมือง ไปกระทำการบางอย่างเพื่อช่วยคนใดคนหนึ่ง จะกลายเป็นความล้มเหลวของระบอบนิติรัฐ นิติธรรม

ส่วนที่หนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ ป.ป.ช. ของทั้ง 3 คน ระบุว่า มีหลักฐานใหม่นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ต้องไปว่าในศาล เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสิน สามารถเอาหลักฐานใหม่เหล่านี้ไปให้ศาลไต่สวนได้ แต่ถ้าบอกมีหลักฐานใหม่แล้วจะให้ถอนฟ้อง อย่างนี้แสดงว่ากรรมการ ป.ป.ช. ชุดเก่าใช้ไม่ได้ใช่หรือไม่ ไม่อย่างนั้นต้องไปรื้อคดีอื่นที่สั่งฟ้องไปแล้วกันอีก มันคงเป็นโดมิโนกันไป ดังนั้น อะไรที่ ป.ป.ช. วินิจฉัยสิ้นสุดไปแล้วต้องจบ หากไม่เห็นด้วยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วขณะนี้ศาลยังไม่ได้ตัดสิน ยังมีเวลาพิสูจน์ตัวเอง ถ้ามั่นใจในความบริสุทธิ์

234ปี กรุงรัตนโกสินทร์.,..

234ปี กรุงรัตนโกสินทร์.,..
บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร รองนายกฯและรมว.กห. พร้อม พลเอกอุดมเดช รมช.กห. ปลัดกห. ผบสส.ผบ.เหล่าทัพ บวงสรวง ศาลหลักเมือง และ 9รัชกาลราชวงศ์จักรี ในพิธีบวงสรวงสังเวยตามประเพณีพราหมณ์ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา องค์พระหลักเมือง ครบรอบ ๒๓๔ ปี
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า-จุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ได้ทรงสร้างขึ้นเพื่อเป็นนิมิตหมายแสดงที่ตั้งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๓๒๕ มีลักษณะเป็นเสาไม้ชัยพฤกษ์ มีไม้แก่นจันทร์ประกับนอก สูง ๑๘๗ นิ้ว ลงรักปิดทอง ยอดเสาเป็นรูปบัวตูม ภายในกลวงเป็นช่องสำหรับบรรจุดวงชะตากรุงเทพมหานคร ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้ทรงวินิจฉัยว่าควรมีการผูกดวงเมืองใหม่ เพื่อให้ประชาชนประสบความเจริญรุ่งเรืองประกอบกับเสาหลักเมืองเดิมที่สร้างไว้ในสมัยรัชกาลที่ ๑ ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จึงทรงสร้างพระหลักเมืองต้นใหม่ ในปี พ.ศ. ๒๓๙๕ ลักษณะเป็นเสาไม้สักเป็นแกนอยู่ภายในประกับด้วยไม้ชัยพฤกษ์ ยอดเม็ดทรงมัณฑ์ โดยมีทรงเสาอวบและเตี้ยกว่าเสาหลักเมืองต้นเดิม บรรจุแผ่นทองคำจารึก ดวงชะตากรุงเทพมหานคร
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร นอกจากจะมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนชาวไทยสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ในแต่ละวันจะมีผู้คนหลั่งไหลมากราบไหว้บูชาองค์พระหลักเมืองและเทพารักษ์ทั้ง ๕ องค์ ได้แก่ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าพ่อเจตคุปต์ และเจ้าพ่อหอกลอง ที่สถิตอยู่ในศาลหลักเมืองแห่งนี้อย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ยังมีหอพระ ที่ประดิษฐานพุทธรูปประจำวันเกิดให้ประชาชนทำบุญและให้บริการเครื่องบวงสรวงสังเวยสำหรับการสักการบูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ในศาลหลักเมือง รวมทั้งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนทั่วประเทศ
ในปัจจุบัน สำนักงานกิจการศาลหลักเมือง อยู่ในความดูแลขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีฐานะเป็นหน่วยงานกิจการพิเศษหน่วยหนึ่งขององค์การฯ มีหน้าที่ดูแลศาลหลักเมือง รวมทั้งอาคาร และบริเวณอันเป็นสถานที่สำคัญของชาติ การบูรณะปฏิสังขรณ์ ดำเนินกิจการเพื่อให้บริการแก่ประชาชนที่มาสักการบูชา สำหรับเงินที่ได้รับจากผู้มีจิตศรัทธาบริจาคถวายศาลหลักเมืองนั้น องค์การฯ ได้ใช้เป็นทุนปฏิสังขรณ์ศาลหลักเมือง และนำไปสมทบงบประมาณขององค์การฯ เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการ ตลอดจนร่วมการสาธารณกุศลอื่น ๆ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าสักการะองค์พระหลักเมืองทุกวัน ในเวลา ๐๖.๐๐ – ๑๘.๐๐ น.

"หนุมานครองเมือง"

เล่นเคล็ด...??
ท่านเจ้าคุณธงชัย ผช.เจ้าอาวาส วัดไตรมิตร นำมวลสาร มา แล้วให้ พลเอกประวิตร รมว.กห. นำขุนทหาร ผบ.เหล่าทัพ ทำพิธี เททองหล่อ "หนุมานครองเมือง" ที่ศาลหลักเมือง ในโอกาสมาทำพิธีบวงสรวง สังเวย ศาลหลักเมือง 234ปี กรุงรัตนโกสินทร์...โดยพิธีกรทหาร บอกในงานว่า หนุมาน คือทหาร ดูแลชาติบ้านเมือง ดังนั้นจึง สร้าง "หนุมานครองเมือง"

ฟัง...บิ๊กตู่ พูดชัดๆ....ใครอยู่เบื้องหลัง??

ฟัง...บิ๊กตู่ พูดชัดๆ....ใครอยู่เบื้องหลัง??
"นายกฯบิ๊กตู่" พูดเลย... "ทักษิณ" อยู่เบื้องหลังความวุ่นวาย จ้าง ลอบบี้ยีสต์ต่างประเทศ "ปัดโธ่!! พวกคุณไม่รู้หรือ ถามจริงๆว่าไม่รู้หรือว่าใครอยู่เบื้องหลัง สื่อกล้าบอกให้ชัดมั้ยว่าใคร ก็ ทักษิณ ไง" แฉ นศ.เคลื่อนไหว มีทั้งรถ นปช. รถทีวี.แดง มาส่ง แขวะสื่อไม่กล้าเปิดโปง ขู่ หากวุ่นวายมาก กระทบทำ"ประชามติ"อาจต้องยุติ เลือกตั้งไม่เกิด มาประท้วงกัน แล้วจะ ประชามติได้มั้ย ก็เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ย้อนกลับมาตีกันเหมือนเดิม เหนื่อยเปล่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว หลังผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการควบคุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยมาสอบสวนและดำเนินคดี ว่า ก็มีการดำเนินการแจ้งความเนื่องจากมีการทำผิดกฎหมาย สื่อก็ต้องไปถามทางศาล หน้าที่ของ คสช.คือการรักษาความสงบเรียบร้อย นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
"ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็คือผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายก็คือกฎหมายจะมาบอกว่ากฎหมายไปละเมิดมันไม่ใช่ วันนี้เราปกครองแบบนี้"
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯเป็นห่วงหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันองค์กรระหว่างประเทศคือเอมเนสตี้จะเตรียมที่จะให้ทุกองค์กรทำจดหมายส่งถึงหัวหน้า คสช.กรณีของนายวัฒนา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยเสียงดังว่า "ไม่ห่วงทั้งนั้นแหละ และไม่ต้องรอให้เขาส่งจดหมายมา ผมจะทำจดหมายถึงพวกเขาแล้ว เพื่อชี้แจงเหตุผลว่าทำไมถึงจับกุมเขามา มันผิดกฎหมายตรงไหน ทำไมไม่ช่วยผมพูดอย่างนี้
"ถามว่าเขาผิดหรือเปล่า ตอบให้ชัด ถ้าผิดก็หมายความว่าผิด สื่อไม่เคยเขียนให้ผมเลย พวกคุณ เคยเขียนกันบ้างหรือไม่ว่าเขาทำผิดกฎหมาย คุณเขียนเป็นการเมืองทั้งหมดอยู่แล้ว ให้คนมันเป๋ไปเป๋มาอย่างนี้ แล้วผมจะทำงานได้ยังไง"
นอกจากเอมเนสตี้แล้ว ผมก็จะทำจดหมายถึงทุกคนทั้งหมด โดยเฉพาะเอกอัครราชทูตทั้งหมดทุกประเทศ และจะชี้แจงว่าทุกคนที่หนีคดีทั้งหมดว่ามีคดีอะไรบ้าง ส่งไปทั้งหมดและดูซิว่าเขาจะเข้าใจหรือไม่ ถ้าเขายังไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจเพราะผมทำเพื่อคนไทย
เมื่อถามว่าขณะนี้จะมีดาวยั่วหลายคนออกมาเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมไม่ใช่คนยั่วง่ายอยู่แล้ว ต่างคนก็มีหน้าที่ที่ทำอยู่ คสช.เองก็ทำหน้าที่อยู่ ศาลก็รออยู่ กระบวนการยุติธรรมก็รออยู่ ตนก็เมตตามาแล้วหลายครั้ง"
" ต่อไปนี้ก็จะว่ากันตามกฎหมาย ซึ่งก็จะแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันปลุกระดมได้ เพราะสื่อเองก็ขยายความคนก็เริ่มอย่างนี้อย่างนั้น ไปถามคนข้างนอกหรือคนตัดหญ้าตรงนี้ สิว่าเดือดร้อนต่อเรื่อง นายวัฒนาหรือไม่ ไม่เห็นเขาเดือดร้อน คนดีๆ เขามีเยอะแยะ ทำไมสื่อไปให้เครดิตกับไอ้คนเหล่านี้
คดีโครงการบ้านเอื้ออาทรมันทุจริตหรือไม่ ตอบกันมา คดีอยู่ในชั้นศาลตอนนี้กำลังทำอยู่ให้มันรู้เสียบ้างว่าใครมี ใครใหญ่ มันก็ต้องรื้อทั้งหมด"
เมื่อถามว่า ขณะนี้กลุ่มนักศึกษาเองก็ออกมาเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงอันดังว่า "นักศึกษาเหล่านี้อยู่กับพวกไหน ใครเอารถไปส่ง ทีวี.ไปส่งหรือเปล่า รถ นปช.ไปหรือเปล่า ใครล่ะ มันยึดโยงกันอย่างไร นี่มันต้องวิเคราะห์แบบนี้"
เมื่อถามถึงมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวขณะนี้มีความเป็นห่วงหรือไม่ เพราะแม้ตำรวจจะเชิญไปทำความเข้าใจแล้วก็ยังออกมาชุมนุมกันอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ติดคุกไงเล่า ก็ไปฟ้องศาลไงเล่า มีอะไรอย่างอื่นอีกไหม"
ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบเส้นทางทั้งเรื่องการเงินและการเคลื่อนไหวต่างๆ วันนี้ก็ช่วยกันทำ"
เมื่อถามว่า จากการตรวจสอบมีการเชื่อมโยงหรือเกี่ยวพันกับกลุ่มใดบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "พวกคุณไม่รู้หรือที่ถามมา ถามจริงๆ ว่าไม่รู้จริงๆ หรือ ที่บอกว่าพวกเดียวกัน สื่อกล้าบอกให้ชัดหรือไม่ว่าเป็นใครหรือพวกไหน ก็ไม่กล้า ปัดโธ่"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นายกฯ พูดให้ชัดเจนได้หรือไม่ว่า ที่มีข้อมูลการเคลื่อนไหวเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นใคร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างฉุนเฉียวว่า "ก็ผมพูดเมื่อกี้ไม่ฟังหรืออย่างไร ใครที่ทำตรงนี้ ใครสนับสนุนกันมา ใครมีการวางแผน หนึ่ง ล้อบบี้ยีสต่างประเทศ ใคร ก็ทักษิณ ผมพูดอย่างนี้ เดี๋ยวก็มาตีผม พรุ่งนี้ก็เละกันอีก ต้องการแค่นี้นั้นแหละประเทศชาติก็ปั่นป่วนเหมือนเดิม
สื่อก็ช่วยผมได้แค่นี้เอง ช่วยให้มันยุ่งขึ้น ผมไม่ว่าอะไรท่าน อยากจะทำอะไรก็ทำ แต่พวกท่านก็ต้องยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นกับประเทศในอนาคต
"จากนี้เป็นต้นไป ถ้าพวกท่านยังทำแบบนี้ประชามติจะยุ่งไหม เลือกตั้งจะยุ่งไหม อยู่ที่ท่านไม่ใช่ผม ผมมีหน้าที่ วันนี้ถ้าไม่เรียบร้อยผมก็ใช้กฎหมายเท่านั้นเอง"
เมื่อถามว่าคิดว่ากลุ่มคนพวกนี้จะปลุกระดมขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อโดนจับจะปลุกระดมขึ้นไหม กี่คนก็จับหมด ถ้าทำผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายก็มีอยู่ แล้วสื่อก็ไปขยายว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ใช้อำนาจ ก็กฎหมายมันมี ที่ผ่านมามันยุ่งเพราะไม่ใช้กฎหมาย
วันนี้พยายามใช้กฎหมายให้เป็นกฎหมาย ก็ไม่ยอมกันอีก มันจะอยู่กันด้วยอะไร ป้ายกันไปมา พูดทุกวัน ด่ากันไปมาเอาแบบนั้นไหม อยากได้แบบนั้นใช่ไหม ก่อน 22 พ.ค. 2557 ก็เอาสิเสนอข่าวกันออกไป แล้ววันหน้ารับผิดชอบด้วย
"ผมขอแนะให้ประชาชนทั้ง 60 ล้าน ดูด้วยว่าเกิดขึ้นจากอะไร ใครเป็นคนทำ เหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดจากนี้ไปเกิดเพราะใคร เพราะผมหรือเปล่า หรือเพราะเขา ต้องวิเคราะห์กันแบบนี้ ถ้าเกิดเพราะเขาต้องบังคับใช้กฎหมาย แล้วการใช้กฎหมายจะบานปลายหรือเปล่าไม่รู้ อยู่ที่เจตนาของผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวบริสุทธิ์หรือเปล่า ถ้าไม่บริสุทธิ์ก็เป็นแบบนี้ แต่เจตนา ผมบริสุทธิ์ และต้องถามว่าพวกท่านต้องการแบบเขาหรือเปล่า ถ้าต้องการก็ทำกันต่อไปส่งเสริมกันเข้าไป

เมื่อถามว่าหากมองแล้วส่อเค้าวุ่นวายการทำประชามติต้องยุติหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กฎหมายเขาว่าอย่างไร ก็ทำไป ทำไม่ได้ก็ไม่ทำ ทำไม่ได้คือทำไม่ได้
"มาประท้วงกันทำไม่ได้ แล้วจะดันประชามติได้หรือไม่ ก็เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เลือกได้หรือไม่ เสนอกันไปมาจนตีกัน จนเลือกตั้งไม่ได้ วันนี้เสนอแล้วถ้ายังตีกันอีก แล้วจะทำยังไงก็กลับที่เดิมทุกอย่าง เหนื่อยเปล่า"
0:00

บิ๊กตู่ บอก ถ้าวุ่นวาย ทำประชามติไม่ได้ ก็ไม่มีเลือกตั้ง"ทักษิณ" อยู่เบื้องหลังความวุ่นวาย จ้าง ลอบบี้ยีสต์

ฟัง ดีๆ...บิ๊กตู่ บอก ถ้าวุ่นวาย ทำประชามติไม่ได้ ก็ไม่มีเลือกตั้ง เหมือนครั้งก่อน ตีกันจนเลือกตั้งไม่ได้ กลับไปเหมือนเดิม เหนื่อยเปล่า!!
.พูดเลย... "ทักษิณ" อยู่เบื้องหลังความวุ่นวาย จ้าง ลอบบี้ยีสต์ต่างประเทศ "ปัดโธ่!! พวกคุณไม่รู้หรือ ถามจริงๆว่าไม่รู้หรือว่าใครอยู่เบื้องหลัง สื่อกล้าบอกให้ชัดมั้ยว่าใคร ก็ ทักษิณ ไง" แฉ นศ.เคลื่อนไหว มีทั้งรถ นปช. รถทีวี.แดง มาส่ง แขวะสื่อไม่กล้าเปิดโปง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว หลังผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการควบคุมตัว นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยมาสอบสวนและดำเนินคดี ว่า ก็มีการดำเนินการแจ้งความเนื่องจากมีการทำผิดกฎหมาย สื่อก็ต้องไปถามทางศาล หน้าที่ของ คสช.คือการรักษาความสงบเรียบร้อย นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
"ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็คือผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายก็คือกฎหมายจะมาบอกว่ากฎหมายไปละเมิดมันไม่ใช่ วันนี้เราปกครองแบบนี้"
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯเป็นห่วงหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันองค์กรระหว่างประเทศคือเอมเนสตี้จะเตรียมที่จะให้ทุกองค์กรทำจดหมายส่งถึงหัวหน้า คสช.กรณีของนายวัฒนา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยเสียงดังว่า "ไม่ห่วงทั้งนั้นแหละ และไม่ต้องรอให้เขาส่งจดหมายมา ผมจะทำจดหมายถึงพวกเขาแล้ว เพื่อชี้แจงเหตุผลว่าทำไมถึงจับกุมเขามา มันผิดกฎหมายตรงไหน ทำไมไม่ช่วยผมพูดอย่างนี้
"ถามว่าเขาผิดหรือเปล่า ตอบให้ชัด ถ้าผิดก็หมายความว่าผิด สื่อไม่เคยเขียนให้ผมเลย พวกคุณ เคยเขียนกันบ้างหรือไม่ว่าเขาทำผิดกฎหมาย คุณเขียนเป็นการเมืองทั้งหมดอยู่แล้ว ให้คนมันเป๋ไปเป๋มาอย่างนี้ แล้วผมจะทำงานได้ยังไง"
นอกจากเอมเนสตี้แล้ว ผมก็จะทำจดหมายถึงทุกคนทั้งหมด โดยเฉพาะเอกอัครราชทูตทั้งหมดทุกประเทศ และจะชี้แจงว่าทุกคนที่หนีคดีทั้งหมดว่ามีคดีอะไรบ้าง ส่งไปทั้งหมดและดูซิว่าเขาจะเข้าใจหรือไม่ ถ้าเขายังไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจเพราะผมทำเพื่อคนไทย
เมื่อถามว่าขณะนี้จะมีดาวยั่วหลายคนออกมาเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมไม่ใช่คนยั่วง่ายอยู่แล้ว ต่างคนก็มีหน้าที่ที่ทำอยู่ คสช.เองก็ทำหน้าที่อยู่ ศาลก็รออยู่ กระบวนการยุติธรรมก็รออยู่ ตนก็เมตตามาแล้วหลายครั้ง"
" ต่อไปนี้ก็จะว่ากันตามกฎหมาย ซึ่งก็จะแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันปลุกระดมได้ เพราะสื่อเองก็ขยายความคนก็เริ่มอย่างนี้อย่างนั้น ไปถามคนข้างนอกหรือคนตัดหญ้าตรงนี้ สิว่าเดือดร้อนต่อเรื่อง นายวัฒนาหรือไม่ ไม่เห็นเขาเดือดร้อน คนดีๆ เขามีเยอะแยะ ทำไมสื่อไปให้เครดิตกับไอ้คนเหล่านี้
คดีโครงการบ้านเอื้ออาทรมันทุจริตหรือไม่ ตอบกันมา คดีอยู่ในชั้นศาลตอนนี้กำลังทำอยู่ให้มันรู้เสียบ้างว่าใครมี ใครใหญ่ มันก็ต้องรื้อทั้งหมด"
เมื่อถามว่า ขณะนี้กลุ่มนักศึกษาเองก็ออกมาเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงอันดังว่า "นักศึกษาเหล่านี้อยู่กับพวกไหน ใครเอารถไปส่ง ทีวี.ไปส่งหรือเปล่า รถ นปช.ไปหรือเปล่า ใครล่ะ มันยึดโยงกันอย่างไร นี่มันต้องวิเคราะห์แบบนี้"
เมื่อถามถึงมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวขณะนี้มีความเป็นห่วงหรือไม่ เพราะแม้ตำรวจจะเชิญไปทำความเข้าใจแล้วก็ยังออกมาชุมนุมกันอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ติดคุกไงเล่า ก็ไปฟ้องศาลไงเล่า มีอะไรอย่างอื่นอีกไหม"
ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบเส้นทางทั้งเรื่องการเงินและการเคลื่อนไหวต่างๆ วันนี้ก็ช่วยกันทำ"
เมื่อถามว่า จากการตรวจสอบมีการเชื่อมโยงหรือเกี่ยวพันกับกลุ่มใดบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "พวกคุณไม่รู้หรือที่ถามมา ถามจริงๆ ว่าไม่รู้จริงๆ หรือ ที่บอกว่าพวกเดียวกัน สื่อกล้าบอกให้ชัดหรือไม่ว่าเป็นใครหรือพวกไหน ก็ไม่กล้า ปัดโธ่"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นายกฯ พูดให้ชัดเจนได้หรือไม่ว่า ที่มีข้อมูลการเคลื่อนไหวเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นใคร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างฉุนเฉียวว่า "ก็ผมพูดเมื่อกี้ไม่ฟังหรืออย่างไร ใครที่ทำตรงนี้ ใครสนับสนุนกันมา ใครมีการวางแผน หนึ่ง ล้อบบี้ยีสต่างประเทศ ใคร ก็ทักษิณ ผมพูดอย่างนี้ เดี๋ยวก็มาตีผม พรุ่งนี้ก็เละกันอีก ต้องการแค่นี้นั้นแหละประเทศชาติก็ปั่นป่วนเหมือนเดิม
สื่อก็ช่วยผมได้แค่นี้เอง ช่วยให้มันยุ่งขึ้น ผมไม่ว่าอะไรท่าน อยากจะทำอะไรก็ทำ แต่พวกท่านก็ต้องยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นกับประเทศในอนาคต
"จากนี้เป็นต้นไป ถ้าพวกท่านยังทำแบบนี้ประชามติจะยุ่งไหม เลือกตั้งจะยุ่งไหม อยู่ที่ท่านไม่ใช่ผม ผมมีหน้าที่ วันนี้ถ้าไม่เรียบร้อยผมก็ใช้กฎหมายเท่านั้นเอง"
เมื่อถามว่าคิดว่ากลุ่มคนพวกนี้จะปลุกระดมขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อโดนจับจะปลุกระดมขึ้นไหม กี่คนก็จับหมด ถ้าทำผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายก็มีอยู่ แล้วสื่อก็ไปขยายว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ใช้อำนาจ ก็กฎหมายมันมี ที่ผ่านมามันยุ่งเพราะไม่ใช้กฎหมาย
วันนี้พยายามใช้กฎหมายให้เป็นกฎหมาย ก็ไม่ยอมกันอีก มันจะอยู่กันด้วยอะไร ป้ายกันไปมา พูดทุกวัน ด่ากันไปมาเอาแบบนั้นไหม อยากได้แบบนั้นใช่ไหม ก่อน 22 พ.ค. 2557 ก็เอาสิเสนอข่าวกันออกไป แล้ววันหน้ารับผิดชอบด้วย
"ผมขอแนะให้ประชาชนทั้ง 60 ล้าน ดูด้วยว่าเกิดขึ้นจากอะไร ใครเป็นคนทำ เหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดจากนี้ไปเกิดเพราะใคร เพราะผมหรือเปล่า หรือเพราะเขา ต้องวิเคราะห์กันแบบนี้ ถ้าเกิดเพราะเขาต้องบังคับใช้กฎหมาย แล้วการใช้กฎหมายจะบานปลายหรือเปล่าไม่รู้ อยู่ที่เจตนาของผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวบริสุทธิ์หรือเปล่า ถ้าไม่บริสุทธิ์ก็เป็นแบบนี้ แต่เจตนา ผมบริสุทธิ์ และต้องถามว่าพวกท่านต้องการแบบเขาหรือเปล่า ถ้าต้องการก็ทำกันต่อไปส่งเสริมกันเข้าไป

เมื่อถามว่าหากมองแล้วส่อเค้าวุ่นวายการทำประชามติต้องยุติหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กฎหมายเขาว่าอย่างไร ก็ทำไป ทำไม่ได้ก็ไม่ทำ ทำไม่ได้คือทำไม่ได้
"มาประท้วงกันทำไม่ได้ แล้วจะดันประชามติได้หรือไม่ ก็เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เลือกได้หรือไม่ เสนอกันไปมาจนตีกัน จนเลือกตั้งไม่ได้ วันนี้เสนอแล้วถ้ายังตีกันอีก แล้วจะทำยังไงก็กลับที่เดิมทุกอย่าง เหนื่อยเปล่า"

คุม “วัฒนา เมืองสุข” ฝากขังศาลทหารผัดแรก หลังไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไข คสช.

คุม “วัฒนา เมืองสุข” ฝากขังศาลทหารผัดแรก หลังไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไข คสช.
ตำรวจกองปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัว นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหา ฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เรื่องกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวของบุคคลที่มารายงานตัวต่อ คสช. ที่ 39/2557 ว่าด้วยเรื่องห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีโพสข้อความวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล คสช. จากมณฑลทหารบกที่ 11 มาขออำนาจศาลทหารกรุงเทพฯ ฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน



ขณะที่บรรยากาศที่ศาลทหารกรุงเทพ นางสาววีรดา เมืองสุข บุตรสาวนายวัฒนา พร้อมด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาติดตามความคืบหน้าในคดี
สำหรับนายวัฒนา ได้โพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล คสช. อย่างต่อเนื่อง ก่อนถูกเชิญตัวไปปรับทัศนคติหลายครั้ง และเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ก็ถูกควบคุมตัวอีก พร้อมแจ้งข้อหาผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ก่อนยื่นฝากขัง ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ และได้รับการปล่อยชั่วคราว เมื่อวันที่ 3 มีนาคม จากนั้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม นายวัฒนาได้เข้ารายงานตัวต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนถูกคุมตัวที่มณฑลทหารบกที่ 11 และได้รับการปล่อยตัววันที่ 31 มีนาคม
ล่าสุดนายวัฒนา ถูกคุมตัวเมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา และนายทหารพระธรรมนูญ นำหลักฐานการโพสข้อความเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนายวัฒนา ข้อหาไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขของ คสช. ฉบับที่ 39/2557 มีอัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยถูกส่งไปควบคุมที่ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนถูกส่งมาที่มณฑลทหารบกที่ 11 และนำตัวมาฝากขังต่อศาลทหารกรุงเทพ

ประยุทธ์บอกวุ่นวายนักทำประชามติไม่ได้ก็ไม่ทำ โยงพลเมืองโต้กลับ-ทักษิณ

ประยุทธ์บอกวุ่นวายนักทำประชามติไม่ได้ก็ไม่ทำ โยงพลเมืองโต้กลับ-ทักษิณ

บ่นเหนื่อยเปล่า ประยุทธ์ บอกวุ่นวายกันนักทำประชามติไม่ได้ก็ไม่ทำ ทุกอย่างกลับที่เดิม เหมือนเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พร้อมโยงพลเมืองโต้กลับที่เรียกร้องปล่อยวัฒนากับทักษิณ ขณะที่วัฒนาถูกนำตัวมาฝากขังที่ศาลทหาร ทหารเตรียมยื่นประกันตัว
ที่มาภาพ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล
 
21 เม.ย. 2559 ความคืบหน้ากรณีกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่เรียกร้องให้คณธรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปล่อยตัว วัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย หลังควบคุมตัวในค่ายทหารตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา จากกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น ล่าสุดวันนี้ (21 เม.ย.59) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นความพยายามกดดันให้ คสช. ใช้อำนาจ เพื่อให้เกิดความขัดแย้งและความวุ่นวายในบ้านเมือง 
 
"นักศึกษาก็นักศึกษาแล้วอยู่กับพวกไหน พวกไหนใครเอารถไปส่ง ใครหะ วอยส์ทีวีไปส่งหรือเปล่า รถนปช.ไปหรือเปล่า ใครล่ะ ยึดโยงกันยังไง นี่วิเคราะห์แบบนี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พร้อมกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้ให้ คสช. เร่งตรวจสอบผู้อยู่เบื้องหลัง 
 
"เขาทำอยู่ หรือเธอจะทำช่วยฉัน  ไม่รู้หรอ ไม่รู้เหรอตอบ ไม่รู้หรอว่ามาจากไหน ใครล่ะที่ทำตรงนี้ ใครล่ะที่สนับสนุนกันมา ใครมีการวางแผนมา หนึ่งล็อบบี้ยีสต์ต่างประเทศ ใครทักษิณ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
 
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุด้วยว่า ไม่กังวลกับกรณีองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ หรือ แอมเนสตี้ ออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชน พร้อมเตรียมส่งหนังสือชี้แจงสถานทูตทุกประเทศ เพราะรัฐบาล และ คสช. ดำเนินการตามกฎหมาย ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ในระหว่างการทำประชามติหากเกิดความวุ่นวายก็จำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงการทำประชามติได้
 
"กฎหมายเขาว่าไง ก็ทำไปสิ ทำไม่ได้ก็ไม่ทำ ทำไม่ได้ก็ทำไม่ได้ ก็มาประท้วงกันทำไม่ได้แล้วจะทำประชามติได้ไหมเล่า ก็เหมือนเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เลือกกัน มันเลือกได้ไหมเล่า ก็คุณเสนอกันไปกันมาจนกระทั่งมันตีกันเลือกตั้งไม่ได้ วันนี้เสนอก็ตีกันมาประชามติไม่ได้ แล้วจะทำยังไง ก็กลับที่เดิมทุกอย่าง เหนื่อยเปล่า" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
 
(เรียบเรียงจาก PPTV และทวิตเตอร์ @Korn_PPTV )
 

นำตัว วัฒนา ฝากขังที่ศาลทหาร

สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า ทหารได้นำตัว วัฒนา มาคุมตัวที่ มทบ.11 ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อแจ้งข้อหาขัดคำสั่ง คสช.ที่ 39/2557 ตามเงื่อนไขที่ คสช. ได้ห้ามกลุ่มการเมืองแสดงความเห็นตั้งแต่หลังรัฐประหาร โดยเมื่อเวลา 09.30 น. พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ฝ่ายกฎหมาย คสช. ได้ออกมารับทีมทนายความ เดินทางเข้าไปพบ วัฒนา และพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ภายใน มทบ.11
 
ก่อนหน้านี้ นรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความของวัฒนา พร้อมด้วยแกนนำและอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้มาติดตามความคืบหน้าในการควบคุมตัว วัฒนา ที่ มทบ 11 พร้อมเตรียมยื่นประกันตัวด้วยวงเงิน 5 หมื่นบาท ซึ่งทนายความเชื่อมั่นว่า จะได้รับการประกันตัวเนื่องจาก วัฒนา ไม่คิดหลบหนี และไม่กระทำการขัดต่อเงื่อนไขการขอปล่อยตัวชั่วคราว
 
ด้าน กิตติรัตน์ ณ ระนอง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงตามคำสั่งที่ 39/2557 ได้ทำขึ้นช่วงการรัฐประหาร ก่อนที่จะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 แต่การแสดงความคิดเห็นของนายวัฒนา ถือเป็นสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญปี 2557 ดังนั้น บันทึกข้อตกลงของคสช. จะมีอำนาจเหนือกว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ ส่วนการแสดงความคิดเห็นและการยื่นคำร้องต่อองค์กรนานาชาติของทางครอบครัวนั้น เป็นการดำเนินการโดยบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่า ไม่มีกลุ่มบุคคลอยู่เบื้องหลังอย่างที่ คสช.กล่าวอ้าง
 
สำนักข่าวไทย ยังรายงานด้วยว่า นอกจากแกนนำพรรคเพื่อไทยแล้ว พอมีข่าวเรื่องของการเตรียมยื่นฟ้อง วัฒนาและปล่อยตัว ก็ได้มีแนวร่วม และมวลชน เดินทางมารอที่หน้า มทบ. 11

ศาลอนุมัติปล่อยตัว "วัฒนา" แล้ว วงเงินประกัน 8 หมื่นบาท ห้ามแสดงความเห็นทางการเมือง

ศาลอนุมัติปล่อยตัว "วัฒนา" แล้ว วงเงินประกัน 8 หมื่นบาท ห้ามแสดงความเห็นทางการเมือง-ออกนอกประเทศ
***************************************************************
‪#‎NEWSROOM‬ ‪#‎TV24‬ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความส่วนตัว นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการทำเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราว หลังศาลทหารอนุมัติให้ฝากขัง นายวัฒนา เมือนสุข ผลัดแรก จำนวน 12 วัน และอยู่ระหว่างทำเรื่องขอประกันตัว และประเมินหลักทรัพย์ ตามมูลฐานความผิด ที่ศาลแจ้งว่า นายวัฒนา ละเมิดคำสั่ง คสช.ที่ 39/2557 หลังเสร็จกระบวนการจากศาลทหาร เจ้าหน้าที่จะนำตัวนายวัฒนา ฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อนที่ทีมทนายความจะนำหมายอนุมัติขอปล่อยตัวชั่วคราว ไปขออำนาจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขอปล่อยตัว ทั้งนี้หากศาลอนุมัติให้ประกันตัวตามที่ร้องขอ


ทั้งนี้ ล่าสุดศาลอนุมัติปล่อยตัววัฒนาแล้ว วงเงินประกัน 8 หมื่นบาท โดยมีเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวคือ ห้ามยั่วยุ ปลุกปั่น ให้กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ชักชวนให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง กระทบศีลธรรมอันดี ส่วนการออกนอกราชอาณาจักรต้องได้รับการอนุญาตจากศาล
โดยมีกำหนดปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพคืนนี้ ท่ามกลางเพื่อนอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และประชาชนมาให้กำลังใจ

สัญญานสงครามเศรษฐกิจ

... "สัญญาณอันตราย ปี 2015  ทั่วโลกเทขายพันธบัตรดอลล่าร์  ใกล้จะกลายเป็นเศษกระดาษ"

... ปี 2015 ที่แล้วเป็นปีประวัตศาสตร์อีกครั้งของด้านมืด จุดตกต่ำของ "การเงินอเมริกา" ที่ข่าวกระแสหลักไม่ค่อยออกข่าวกัน เพราะเกรงกลัวเงินดอลล่าร์และะอิทธิพลเจ้าของสื่อ เพราะว่า่พันธบัตรเงิน "ดอลล่าร์" ถูกเทขายทิ้งแบบไม่แยแสจากทั่วโลก

... ทั้ง "จีน"  เจ้าหนี้อันดับหนึ่งของอเมริกาที่เทขายไป  $18 พัยล้านดอลล่าร์ในเดือนธันวาคม หรือแม้แต่ "ญี่ปุ่น" ลูกน้องในสังกัดก็เทขายด้วย ทั้งเม็กซิโก เบลเยี่ยม ตุรกี ล้วนทยอยขายเงินดอลล่าร์ทิ้งไปหลายส่วน จนทำให้ยอดรวมการซื้อขายพันธบัตรเงินดอลล่าร์ของอเมริกาติดลบเป็นครั้งแรกที่หนักหน่วงแบบนี้ ธนาคารกลางของหลายประเทศล้วนเทเงินกระดาษที่ไม่มีทองคำหนุนทิ้งออกไปทั้งโลก  รวมทั้งปี 2015 ยอดขายพันธบัตรอเมริกา ติดลบเป็นเงิน $225 พันล้านดอลล่าร์ 

... เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ ชะลอตัวทั่วโลก แต่ละประเทศก็มีมาตรการจะเอาตัวรอดของตัวเองให้ได้ ตามแต่วิธีของตน ธนาคารกลางในญี่ปุ่นและสวีเดนกำลังดันมาตราการดอกเบี้ยติดลบเพื่อกระตุ้นการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ ธนาคารกลางอียู European Central Bank  ก็พยายามซื้อพันธบัตรจากประเทศสมาชิกด้วยกันเอง เพื่อจะได้ไม่ล้มกันทั้งหมด  ขณะที่จีนก็พยายามอัดฉีดเงินสดเข้าระบบการเงินของตัวเอง

.. ประกอบกับเงินดอลล่าร์เองที่เป็นกระดาษไม่มีทองคำค้ำ ไม่มีคุณค่าให้เก็บไว้ หลายการค้ามีการแลกเปลี่ยนซื้อขายเงินตราท้องถิ่นของคู่ค่ามากขึ้น ( Bypass Dollar )

... เศรษฐกิจไม่ดี รายได้ต่ำ จีดีพีตก รัฐต้องเอาเงินในคลังมาขายกิน ดังนั้นการเทขายเงินในคลังทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่นิยมกัน ต้องขายทรัพย์สินมาประทังชีวิต และทรัพย์สินส่วนใหญ่ก็คือเงิน"ดอลล่าร์อเมริกา" นั่นเอง

... ประกอบกับข่าวเมื่อวานที่ "จีน" ที่ตลาดค้าทองคำเซี่ยงไฮ้ SGE ประกาศกำหนดราคาทองด้วยเงินหยวน หรือ "การอิงเงินหยวนกับทองคำ" เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การค้าทองคำของโลก ที่ข้ามหัวเงินดอลล่าร์  ยิ่งทำให้เห็นว่าเงินดอลล่าร์จะดิ่งลงอย่างเร็วในเร็วๆนี้  ถ้ามีการเทขายชุดใหญ่ในปีนี้อีกตามที่ดาคกันตจาก "จีน" ที่เป็นหัวขบวนในการเททิ้ง  ดังนั้นคาดการณ์ว่าปีนี้ จะมีการเทขายเงินดอลล่าร์ทิ้งออกมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งรัสเซีย บราซิล และไม่พ้นดอลล่าร์ต้องตก แต่จะตกด้วยความเร็วแค่ไหน และอเมริกาจะมีมาตรการแก้เกมอย่างไร ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด

.

http://money.cnn.com/2016/02/17/news/economy/china-us-debt-dump-central-banks/