PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ฝรั่งเศสส่งเรือดำน้ำไปจัดการไอซิส

ฝรั่งเศสส่งเรือดำน้ำไปปราบไอซิสในซีเรีย แถมด้วยหน่วยคอมมานโด (?) ฮิลลารี่เสนอให้สหรัฐฯเอาชนะไอซิสไม่ใช่โค่นอัสซาด, ปธน.อัสซาดบอกว่าจะไม่มีการเปลี่ยนถ่ายทางการเมืองจนกว่าจะปราบผู้ก่อการร้ายได้หมดซะก่อน สหรัฐฯและพวกฝันค้างไปก่อนนะ
(ตอนที่ 1/2)
-----------
จากที่ได้ตั้งคำถามไว้ในตอนท้ายของโพสต์ก่อนหน้านี้ว่า "ไว้ใจฝรั่งเศสได้จริงๆหรือ?" มีอะไรให้น่าสงสัยนอกเหนือจากที่ผู้นำซีเรียได้ออกมาพูดเหมือนกับว่าซีเรียเองก็ยังไม่ไว้ใจท่าทีของฝรั่งเศสเช่นกัน เพราะอะไร ก็นี่ไงครับ "เรือดำน้ำกับหน่วยรบพิเศษคอมมานโด" นี่ไง ขอเกริ่นนำเรื่องที่จะเล่าต่อในโพสต์นี้ดังนี้นะครับ ฝรั่งเศสส่งเรือดำน้ำไปปราบไอซิสในซีเรีย แถมด้วยหน่วยคอมมานโด (?) ฮิลลารี่เสนอให้สหรัฐฯเอาชนะไอซิสไม่ใช่โค่นอัสซาด, ปธน.อัสซาดบอกว่าจะไม่มีการเปลี่ยนถ่ายทางการเมืองจนกว่าจะปราบผู้ก่อการร้ายได้หมดซะก่อน สหรัฐฯและพวกฝันค้างไปก่อนนะ, รัสเซียบอกว่าไม่มีสันติเกิดขึ้นในซีเรียหากปราศจากอัสซาด ใครกล้าโค่นอัสซาดของข้าก็เข้ามา! ฮ่าๆๆ
1.) มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับคราวนี้ วันที่ 19 พ.ย.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ขบวนกองทัพเรือของฝรั่งเศสมุ่งหน้าไปยังซีเรียพร้อมส่งเรือดำน้ำไปลาดตระเวนแถวเมดิเตอร์เรเนียนด้วย" (French Naval Group Heading to Syria Sends Sub on Patrol in Mediterranean)
มีเรือดำน้ำของฝรั่งเศสไม่ทราบชื่อกำลังออกลาดตระเวนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เนื่องจากขบวนกองทัพเรือนำโดยฝรั่งเศส ซึ่งประกอบด้วยเรือรบต่างๆอย่างน้อย 8 ลำ! กำลังเข้าใกล้ชายฝรั่งซีเรีย เพื่อเข้าร่วมในปฏิบัติการต่อต้านผู้ก่อการร้ายไอซิส สำนักข่าว La Provence ของฝรั่งเศสรายงาน
รายงานข่าวบอกว่า เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์เป็นส่วนหนึ่งของกองเรือที่นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบิน Charles de Gaulle ส่วนเรืออื่นๆก็ประกอบด้วยเรือฟริเกต Horizon-class, Chevalier Paul และเรือฟริเกต Leopold I ของเบลเยี่ยม
ในสุดสัปดาห์นี้ เรือฟริเกตต่อต้านเรือดำน้ำ F70 type ชื่อ La Motte-Picquet ซึ่งรวมทั้งเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ Marne รุ่น Durance-class เรือฟริเกต Aquitaine-class จะเข้าร่วมในกลุ่มด้วย สื่อฯฝรั่งเศสรายงาน คาดว่าเรือรบ HMS Defender จากราชอาณาจักร และเรือฟริเกตของออสเตรเลียจะเข้าให้ความช่วยเหลือเรือ Charles de Gaulle เช่นกัน
[แก๊งเดิมมากันพร้อมหน้าเชียว แต่ลูกพี่ใหญ่ยังไม่ออกหน้า งานนี้ให้ลูกพี่รองรับบทเป็นแม่ทัพใหญ่แต่ในนาม ผู้ที่ชักใยรอสมทบข้างหลัง ให้ลูกกระเป๋งไอ้ห้อยกับไอ้โหนมาประกบฝรั่งเศสเอาไว้ก่อนอ้างว่าเพื่อป้องกันเรือรบของฝรั่งเศส ก็ถามคำถามเดิมอีกนั่นแหละครับ ฝรั่งเศสกลัวไอซิสไปจมเรือบรรทุกเครื่องบินของตัวเองขนาดนั้นเลยหรือ? เป้าหมายจริงๆของแก๊งนี้คืออะไรถ้าไม่ใช่รัสเซียและซีเรีย เรือดำน้ำก็เอามาด้วย อ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือนี้ ก็ฟังดูมีเหตุผล
ก็ถ้าฝรั่งเศสมีศักยภาพทั้งในท้องฟ้า (เครื่องบินรบ) บนผืนน้ำ (เรือรบ) ขนาดนั้นแล้วยังจะเอาเรือดำน้ำมาด้วยทำไมเมื่อปากบอกว่าต้องการที่จะเป็นพันธมิตรร่วมมือกับรัสเซีย แถวนั้นตอนนี้ก็มีแต่กองเรือรบจากกองทัพเรือของรัสเซียเท่านั้น คิดหรือว่ารัสเซียจะเอาเรือรบของตนเองไปจอดเป็นเป้านิ่งอย่างเดียว แถวทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนนั้นคือสนามหญ้าหน้าบ้านอีกแห่งของกองเรือดำน้ำของรัสเซียนะนั่นหนะ งานนี้ถ้ามาแบบนี้แล้วไม่มีใครไว้ใจใครได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกครับ เพราะทุกคนต่างก็เหมือนจะบอกว่ากันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน นี่แหละการเมืองระหว่างประเทศของจริง - ผู้แปล]
2.) มาดูอีกข่าวหนึ่งบ้างเกี่ยวกับท่าทีของฝรั่งเศสเช่นกัน วันที่ 19 พ.ย.58 Sputnik news พาดหัวข่าวอีกว่า "ฝรั่งเศสอาจจะส่งหน่วยปฏิบัติการรบพิเศษเข้าไปในซีเรีย - สื่อฯฝรั่งเศสรายงาน" (France May Send Special Operations Force to Syria – French Media) อ่ะ!… เอาเข้าปะ
เฟสแรกของปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในซีเรียได้ช่วยให้สถานการณ์ทางยุทธวิธีในซีเรียมีเสถียรภาพ และขณะนี้กรุงมอสโคว์ก็กำลังเตรียมเข้าสู่ขั้นที่สองเพื่อสนับสนุนการสู้รบที่กำลังดำเนินอยู่ของกองทัพซีเรียต่อต้านกองกำลังของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส หนังสือพิมพ์ Le Monde ของฝรั่งเศสกล่าวโดยอ้างผู้แทนจากหน่วยข่าวกรองในกระทรวงกลาโหมของฝรั่งเศส [อ้างแหล่งข่าวผีบอกอีกแล้วครับท่าน - ผู้แปล]
สื่อฯฝรั่งเศสรายงานอีกว่า ท่ามกลางความสำเร็จที่เห็นได้ชัดเจนจากปฏิบัติการทางอากาศของรัสเซียในซีเรีย ฝรั่งเศสอาจจะส่งหน่วยคอมมานโดเข้าไปยังประเทศอาหรับที่กำลังมีปัญหา เช่นเดียวกับที่พวกอเมริกาทำมาก่อนหน้านี้
"ตัวเลือกทั้งหมดมีความเป็นไปได้ทั้งนั้นในขั้นตอนนี้" หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหมของฝรั่งเศส
ก่อนหน้านี้ Laurent Fabius รมว.ต่างประเทศของฝรั่งเศสได้กล่าวว่า กรุงปารีสปฏิเสธแนวความคิดที่จะส่งกองกำลังพันธมิตรเข้าไปปฏิบัติการภาคพื้นดินในซีเรีย โดยแย้งว่าความพยายามในการดำเนินการเช่นนั้นอาจจะ "มีผลในทางตรงกันข้ามในที่สุด" (totally counterproductive)
[คุณจะเอายังไงกันแน่ครับคุณฝรั่งเศส? นี่คือหนึ่งในกลยุทธ์การปล่อยข่าวซึ่งมีทั้งจริงและเท็จ ให้ฝ่ายตรงข้ามเดาทางไม่ออก อย่างน้อยก็เป็นการโยนหินถามทาง ทั้งจากฝ่ายพันธมิตรของตนเองและจากฝ่ายตรงข้ามด้วย ถ้ามีเสียงคัดค้านมาก ก็ออกมาพลิกลิ้นว่า ไม่จริ๊งไม่จริง เอาที่ไหนมาพูด ไปเชื่ออะไรกับสื่อฯมโนพวกนั้น แต่ถ้าไม่เกิดการต่อต้านและเห็นว่ามีความเป็นไปได้พร้อมด้วยเสียงแชร์ ก็ทำไมจะไม่รับไว้พิจารณาหละ
เมื่อแนวความคิดนี้อาจจะทำให้ตัวเองได้เปรียบหรือได้ประโยชน์ขึ้นมาบ้าง แต่ก็มีคำถามกลับไปที่ฝรั่งเศสอีกนั่นแหละว่า แล้วฝรั่งเศสจะส่งหน่วยคอมมานโดเข้าไปเพื่ออะไร? จะส่งเข้าไปลอบสังหารผู้นำซีเรียหรือต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย? ของสหรัฐฯที่ส่งเข้าไปราว 50 นายอ้างว่าเพื่อไปฝึกให้กองกำลัง FSA ฝ่ายค้านซีเรีย ซึ่งแทบจะแยกไม่ออกระหว่าง FSA กับผู้ก่อการร้าย ฝรั่งเศสจะส่งเข้าไปฝึกให้กับกลุ่มไหน? ขนาดรัสเซียก็ยังไม่ได้ส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปเลย แค่มีการเต้าข่าวจากสื่อฯตะวันตกออกมาว่าได้ยินเสียการสนทนากันทางวิทยุเป็นภาษารัสเซียก็มโนไปว่ามีทหารรัสเซียร่วมรบภาคพื้นดินกับกองทัพซีเรีย ซึ่งต่อมาก็ถือทางการรัสเซียออกมาตอกกลับหงายกันไปเป็นแถบๆ ก็ยังไม่เข็ด
และช่วงนั้นรัฐบาลสหรัฐฯและตะวันตกก็ออกมาโวยวายรัสเซียว่าทำอย่างนั้นได้อย่างไร แต่วันนี้สื่อฯฝรั่งเศสบอกว่าจะเอาอย่างสหรัฐฯบ้าง เอาจริงหรือเปล่า? หน่วยรบภาคพื้นดินของซีเรียและเฮชบอลเลาะห์ก็ใช่ย่อยนะครับ ถ้าฝรั่งเศสส่งหน่วยคอมมานโดเข้าไปแล้วจะอยู่ฝ่ายไหนเลือกเอานะ เนี่ยะ มีข่าวปล่อยออกมาอย่าในลักษณะนี้อยู่เรื่อยๆ แล้วจะให้ซีเรียและรัสเซียไว้ใจฝรั่งเศสได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ได้อย่างไร? - ผู้แปล]
3.) มาดูฝั่งอเมริกาบ้างนะครับ พวกนี้จะเล่นมุกไหนกันต่อ ก่อนหน้านี้นางฮิลฯ ออกมาเสนอความคิดเห็นว่าซีเรียไม่ใช่สงครามของคนอเมริกา พวกเราควรถอยออกมาอยู่เบื้องหลัง ฮึ่มมมมม! แล้วที่อิรัคและลิเบียนั่นหละเป็นสงครามของอเมริกาด้วยหรือไง? ทำไมนางฮิลฯถึงไม่บอกให้สหรัฐฯถอยออกมาอย่างกรณีของซีเรียบ้าง?
วันนี้หล่อนมาอีกแล้วครับท่าน 19 พ.ย.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "นางคลินตันกล่าวว่า: สหรัฐฯจะต้องมุ่งประเด็นไปที่การเอาชนะไอซิส ไม่ใช่โค่นปธน.อัสซาด ณ จุดนี้" (Clinton: US Must Focus on Defeating ISIL, Not Removing Assad at This Point) เห็นมะ เมื่อกระแสต้านเริ่มแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สหรัฐฯจะเริ่มถอย แต่ก่อนที่มาดามฮิลฯจะออกมาพูดแบบนี้ ปธน.โอบาม่าก็ไปพูดที่ APEC 2015 ประเทศฟิลิปปินส์ว่าจะรัสเซียจะต้องร่วมือกับสหรัฐฯในการโค่นปธน.อัสซาดออกจากอำนาจ สองคนนี้อยู่พรรคเดียวกัน นางฮิลฯเคยเป็นรมว.ต่างประเทศของรัฐบาลโอบาม่ามาก่อน
รายงานข่าวบอกว่า "รัฐบาลสหรัฐฯควรจะมุ่งความสนใจไปที่การเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายไอซิสมากกว่าขับประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาดของซีเรียออกจาตำแหน่ง" นางฮิลลารี่ คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
นางคลินตันกล่าวอีกว่า "จะไม่มีความสำเร็จในความพยายามทางทหารในจุดนี้เพื่อโค่นล้มปธน.อัสซาด สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้โดยผ่านการบวนการทางการเมืองเท่านั้น ดังนั้น ความพยายามของพวกเราก็ควรที่จะมุ่งไปที่ผู้ก่อการร้ายไอซิส ซึ่งพวกเราจะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก"
ตามข้อตกลงในกรุงเวียนนาครั้งล่าสุด บอกกว่าการเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างฝ่ายรัฐบาลซีเรีย และกลุ่มฝ่ายค้านจะจัดขึ้นในเดือนมกราคม 2559 ด้วยมุมองที่ว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใน 18 เดือน [นี่เป็นการตกลงกันโดยคร่าวๆ ระหว่างประเทศต่างๆที่มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับซีเรียนะครับ ยังไม่ใช่จากปธน.อัสซาด - ผู้แปล]
[ในคำพูดของหล่อนก็ยังซ่อนใบมีโกนเอาไว้อยู่นะ หล่อนไม่ได้หมายความว่าจะไม่โค่นล้มอัสซาดซะทีเดียวหรอกนะครับ ที่หล่อนเสนอนั้นก็คือมาถึงบัดนี้แล้วการใช้กำลังทางทหารเพื่อโค่นล้มปธน.อัสซาดโดยใช้ไม้แข็งอย่างที่สหรัฐฯเคยใช้มาในอิรัคและลิเบียนั้นจะไม่ได้ผลกับซีเรียซะแล้ว สหรัฐฯจะต้องหันมาเล่นไม้นวมคือทางการเมืองเท่านั้น ก็แสดงว่าหล่อนก็ยังเห็นด้วยกับการโค่นล้มปธน.อัสซาดอยู่ดี เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการเท่านั้นเอง เพราะอะไรหล่อนถึงบอกให้ถอย ก็เพราะว่ากองทัพของรัสเซียและซีเรียแกร่งมากในตอนนี้ รัสเซียทุ่มสุดตัวเลยงานนี้ และพยายามจะปิดเกมให้เร็วที่สุดด้วย - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่าชะตากรรมของปธน.อัสซาดได้สะดุดในการเจรจาสันติภาพในซีเรียกับกรุงวอชิงตันและพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่ยืนยันว่าให้ปธน.อัสซาดก้าวลงจากตำแหน่งให้ได้ แต่กรุงมอสโคว์บอกว่า ประชาชนชาวซีเรียความจะตัดสินอนาคตของปธน.อัสซาดเอง [ไม่ใช่พวกจอมกระสือหิวโหยที่จ้องประเทศเขาจนตาเป็นมันอยู่ในตอนนี้ ถ้าอัสซาดลงจากตำแห่งในตอนนี้ เชื่อเถอะซีเรียแตกแน่ๆ ประชาชนชาวซีเรียทำอพยพไปอยู่ที่อื่นทั้งในค่ายอพยพย และในต่างประเทศจไม่มีวันได้เดินทางกลับเข้าไปอยู่อาศัยในแผ่นดินของตัวเองได้อีกต่อไป
เพราะว่าพวกพันธมิตรจอมปลอมเหล่านั้นจะส่งพวกหัวรุนแรงเข้าไปครอบครองสมบัติและที่ดินของพวกเขาแทน จากนั้น ตุรกี ซาอุดิอาระเบีย การ์ต้า ยูเออี อิสราเอล สหรัฐฯ อียูก็จะแบ่งเค้กกันสนุกปากไปเลย แล้วก็จะทำเป็นเรียกร้องให้ประชาคมโลกช่วยกันบริจาคเงินไปช่วยผู้ลี้ภัยชาวซีเรียตามค่ายอพยพต่างๆ พวกองค์กรสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติก็จะมีงานทำไม่หวาดไม่ไหว งบประมาณก็เพิ่มขึ้น ประชาชนชาวซีเรียก็ไม่สามารถออกไปหางานทำได้ ต้องคอยรับเศษอาหารอยู่ในค่ายผู้อพยพหรือผู้ลี้ภัยอย่างไรจุดมุ่งหมาย
ไม่รู้ว่าสงครามจะจบเมื่อไร เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องประกันว่าเมื่ออัสซาดก้าวลงจากตำแหน่งแล้ว ผู้่ก่อการร้ายไอซิสและกลุ่มก่อการร้ายต่างๆจะหายไปจากซีเรียได้อย่างไร? สหรัฐฯก็ตอบไม่ได้ เพราะอะไร? เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้พวกนั้นหมดไปยังไงหละ แต่ในขณเดียวกันก็อ้างว่าปราบปรามผู้ก่อการร้ายๆๆๆๆ อยู่อย่างนี้ทั้งปีทั้งชาติ ยิ่งปราบก็ยิ่งเยอะ - ผู้แปล]
3.) มาดูฝั่งอเมริกาบ้างนะครับ พวกนี้จะเล่นมุกไหนกันต่อ ก่อนหน้านี้นางฮิลฯ ออกมาเสนอความคิดเห็นว่าซีเรียไม่ใช่สงครามของคนอเมริกา พวกเราควรถอยออกมาอยู่เบื้องหลัง ฮึ่มมมมม! แล้วที่อิรัคและลิเบียนั่นหละเป็นสงครามของอเมริกาด้วยหรือไง? ทำไมนางฮิลฯถึงไม่บอกให้สหรัฐฯถอยออกมาอย่างกรณีของซีเรียบ้าง?
วันนี้หล่อนมาอีกแล้วครับท่าน 19 พ.ย.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "นางคลินตันกล่าวว่า: สหรัฐฯจะต้องมุ่งประเด็นไปที่การเอาชนะไอซิส ไม่ใช่โค่นปธน.อัสซาด ณ จุดนี้" (Clinton: US Must Focus on Defeating ISIL, Not Removing Assad at This Point) เห็นมะ เมื่อกระแสต้านเริ่มแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สหรัฐฯจะเริ่มถอย แต่ก่อนที่มาดามฮิลฯจะออกมาพูดแบบนี้ ปธน.โอบาม่าก็ไปพูดที่ APEC 2015 ประเทศฟิลิปปินส์ว่าจะรัสเซียจะต้องร่วมือกับสหรัฐฯในการโค่นปธน.อัสซาดออกจากอำนาจ สองคนนี้อยู่พรรคเดียวกัน นางฮิลฯเคยเป็นรมว.ต่างประเทศของรัฐบาลโอบาม่ามาก่อน
รายงานข่าวบอกว่า "รัฐบาลสหรัฐฯควรจะมุ่งความสนใจไปที่การเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายไอซิสมากกว่าขับประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาดของซีเรียออกจาตำแหน่ง" นางฮิลลารี่ คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
นางคลินตันกล่าวอีกว่า "จะไม่มีความสำเร็จในความพยายามทางทหารในจุดนี้เพื่อโค่นล้มปธน.อัสซาด สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้โดยผ่านการบวนการทางการเมืองเท่านั้น ดังนั้น ความพยายามของพวกเราก็ควรที่จะมุ่งไปที่ผู้ก่อการร้ายไอซิส ซึ่งพวกเราจะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก"
ตามข้อตกลงในกรุงเวียนนาครั้งล่าสุด บอกกว่าการเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างฝ่ายรัฐบาลซีเรีย และกลุ่มฝ่ายค้านจะจัดขึ้นในเดือนมกราคม 2559 ด้วยมุมองที่ว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใน 18 เดือน [นี่เป็นการตกลงกันโดยคร่าวๆ ระหว่างประเทศต่างๆที่มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับซีเรียนะครับ ยังไม่ใช่จากปธน.อัสซาด - ผู้แปล]
[ในคำพูดของหล่อนก็ยังซ่อนใบมีโกนเอาไว้อยู่นะ หล่อนไม่ได้หมายความว่าจะไม่โค่นล้มอัสซาดซะทีเดียวหรอกนะครับ ที่หล่อนเสนอนั้นก็คือมาถึงบัดนี้แล้วการใช้กำลังทางทหารเพื่อโค่นล้มปธน.อัสซาดโดยใช้ไม้แข็งอย่างที่สหรัฐฯเคยใช้มาในอิรัคและลิเบียนั้นจะไม่ได้ผลกับซีเรียซะแล้ว สหรัฐฯจะต้องหันมาเล่นไม้นวมคือทางการเมืองเท่านั้น ก็แสดงว่าหล่อนก็ยังเห็นด้วยกับการโค่นล้มปธน.อัสซาดอยู่ดี เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการเท่านั้นเอง เพราะอะไรหล่อนถึงบอกให้ถอย ก็เพราะว่ากองทัพของรัสเซียและซีเรียแกร่งมากในตอนนี้ รัสเซียทุ่มสุดตัวเลยงานนี้ และพยายามจะปิดเกมให้เร็วที่สุดด้วย - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่าชะตากรรมของปธน.อัสซาดได้สะดุดในการเจรจาสันติภาพในซีเรียกับกรุงวอชิงตันและพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่ยืนยันว่าให้ปธน.อัสซาดก้าวลงจากตำแหน่งให้ได้ แต่กรุงมอสโคว์บอกว่า ประชาชนชาวซีเรียความจะตัดสินอนาคตของปธน.อัสซาดเอง [ไม่ใช่พวกจอมกระสือหิวโหยที่จ้องประเทศเขาจนตาเป็นมันอยู่ในตอนนี้ ถ้าอัสซาดลงจากตำแห่งในตอนนี้ เชื่อเถอะซีเรียแตกแน่ๆ ประชาชนชาวซีเรียทำอพยพไปอยู่ที่อื่นทั้งในค่ายอพยพย และในต่างประเทศจไม่มีวันได้เดินทางกลับเข้าไปอยู่อาศัยในแผ่นดินของตัวเองได้อีกต่อไป
เพราะว่าพวกพันธมิตรจอมปลอมเหล่านั้นจะส่งพวกหัวรุนแรงเข้าไปครอบครองสมบัติและที่ดินของพวกเขาแทน จากนั้น ตุรกี ซาอุดิอาระเบีย การ์ต้า ยูเออี อิสราเอล สหรัฐฯ อียูก็จะแบ่งเค้กกันสนุกปากไปเลย แล้วก็จะทำเป็นเรียกร้องให้ประชาคมโลกช่วยกันบริจาคเงินไปช่วยผู้ลี้ภัยชาวซีเรียตามค่ายอพยพต่างๆ พวกองค์กรสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติก็จะมีงานทำไม่หวาดไม่ไหว งบประมาณก็เพิ่มขึ้น ประชาชนชาวซีเรียก็ไม่สามารถออกไปหางานทำได้ ต้องคอยรับเศษอาหารอยู่ในค่ายผู้อพยพหรือผู้ลี้ภัยอย่างไรจุดมุ่งหมาย
ไม่รู้ว่าสงครามจะจบเมื่อไร เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องประกันว่าเมื่ออัสซาดก้าวลงจากตำแหน่งแล้ว ผู้่ก่อการร้ายไอซิสและกลุ่มก่อการร้ายต่างๆจะหายไปจากซีเรียได้อย่างไร? สหรัฐฯก็ตอบไม่ได้ เพราะอะไร? เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้พวกนั้นหมดไปยังไงหละ แต่ในขณเดียวกันก็อ้างว่าปราบปรามผู้ก่อการร้ายๆๆๆๆ อยู่อย่างนี้ทั้งปีทั้งชาติ ยิ่งปราบก็ยิ่งเยอะ - ผู้แปล]

ผลสอบ ‘ราชภักดิ์’ โดยกองทัพ ผบ.ทบ.ยันไร้ทุจริตกองทัพไม่ผิด



ผลสอบ ‘ราชภักดิ์’ โดยกองทัพ ผบ.ทบ.ยันไร้ทุจริตกองทัพไม่ผิด ส่วนหัวคิวให้ไปถามพล.อ.อุดมเดช

20 พ.ย. 2558 เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ชี้แจงกับสื่อมวลชนถึงผลการสอบข้อเท็จจริง โครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ โดย พล.อ.ธีรชัย  กล่าวว่า ไม่ปรากฏว่ามีการทุจริตแต่อย่างใด การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบ ไม่มีความจำเป็นที่องค์กรตรวจสอบต่างๆ จะต้องเข้าไปตรวจสอบ พร้อมกับย้ำว่ากองทัพไม่ได้ทำอะไรผิด สำหรับนายทหารที่หนีไปต่างประเทศหรือที่ลาออกจากราชการก็ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการ เป็นคนละเรื่องกัน แต่หลังจากนี้หากพบว่ามีผู้หาประโยชน์จากโครงการก็จะลงโทษโดยไม่ละเว้น
ทั้งนี้จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต แต่หากตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ามีการทุจริตจะสอบสวนต่อ ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยเรื่องนี้อย่างแน่นอน ส่วนนายทหารยศพลตรี ที่ยื่นลาออกจากราชการไปก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ขณะที่ พ.อ.คชาชาต บุญดี นายทหารกองทัพภาคที่3 ผบ.ทบ. ยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องเช่นกัน
แต่สำหรับเรื่องของการหักค่าหัวคิวโรงหล่อพระบรมรูปฯ ผบ.ทบ. กล่าวกับสื่อมวลชนว่า เรื่องนี้ต้องไปถามพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีตผบ.ทบ.และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
ผบ.ทบ. กล่าวเพิ่มเติมว่าควรใช้สติในการติดตามข่าวสอบทุจริตอุทยานแห่งชาติราชศักดิ์ โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ ปล่อยข่าวลือทำให้เกิดความวุ่นวาย
มีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือบรรดาสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวให้เข้าไปในห้องรับรอง 212 ภายในกองบัญชาการกองทัพบกและไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนรายงานสดถ่ายทอดระหว่างที่มีการแถลงของผู้บัญชาการทหารบก แต่อนุญาตให้เพียงการบันทึกเทปนำไปออกอากาศภายหลังเท่านั้น ทั้งนี้รูปแบบการแถลงข่าวจะเป็นการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามและตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้ เกิดขึ้นจากคำสั่งของผบ.ทบ.ที่ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีพล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะกรรมการฯ โดยกำหนดระเวลาการสอบสวนเบื้องต้น 7 วัน และครบกำหนดในวันนี้

 

ต่อกรณีคำถามถึงโต๊ะจีนจำหน่ายที่นั่งละล้านจริงหรือไม่นั้น พล.อ.ธีรชัย กล่าวว่า จริง โดยเงินตอนนี้เข้ากองทุน
ส่วนคำถามที่ว่าต้อนไม้ต้นละแสนจริงหรือไม่นั้น พล.อ.ธีรชัย กล่าวว่า ไม่จริง 3 แสน ต้นไม่มีองค์กร สวนนงนุช เขาเอามาบริจาคให้อยู่แล้ว เขามาทำส่วนให้อยู่แล้ว แต่ผู้ที่มาบริจาคก็บอกว่ามีกิจกรรมแล้วกัน เอาต้นไม่ไปปลูกคนละต้นแล้วกัน ที่ให้มา 3 แสนนี้เอาป้ายชื่อไปปักให้
สำหรับการดำเนินการของอุทยานต่อไปนั้น พล.อ.ธีรชัย กล่าวว่ายังเหลือพิพิธภัณฑ์อยู่ จะทำให้ดีที่สุด
"เอาให้ตายไหม จะเอาขนาดประหารชีวิต 7 ชั่วโคตรไหม ถามอย่างนี้ คือดูบ้าง ดูเจตนาคนบ้าง ครับ จะอยู่กันยังไง มันจะมีความสุขกันยังไง เล่นกันเอาขนาดนี้ เขาไม่มีอะไร เขาไม่ได้ทำอะไรก็จะให้เขาผิดให้ได้ เขาอยู่เฉยๆ เขาเจตนาดีก็จะให้ผิดให้ได้ สังคมไทยมันเป็นอะไรกันตอนนี้" พล.อ.ธีรชัย กล่าว
ต่อกรณีคำถามที่ให้ ผบ.ทบ.ประกาศผ่านสื่อได้ไหมว่าขอให้ประชาชนที่มีเบาะแสเปิดเผยข้อมูลออกมาโดยไม่ต้องเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้นนั้น พล.อ.ธีรชัย กล่าว่า "คงไม่ต้องบอกมั้ง ถ้ามีก็มาสิ"
ต่อคำถามที่ว่าสุดท้ายแล้วจะมีการรายงานเรื่องทั้งหมดให้นายกรัฐมนตรีทราบหรือไม่นั้น พล.อ.ธีรชัยกล่าว่า ไม่ต้อง เรื่องภายในกองทัพบก

ไพศาลบอก ปม ราชภักดิ์ แผนร้ายเล่นงานรัฐบาล



ไพศาลบอก ปม ราชภักดิ์ แผนร้ายเล่นงานรัฐบาล
20 พ.ย.58 นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า ก็บอกไว้ก่อนแล้วไงว่า แผนร้ายใช้เรื่องอุทยานราชภักดิ์เพื่อล้มรัฐบาล ล้ม คสช.และล้มเจ้านั้น ในที่สุดก็ไปไม่รอด วันนี้ผู้บัญชาการทหารบกแถลงผลสอบชัดเจนแล้วว่า ไม่มีการทุจริต
แผนร้ายนี้ลึกแต่หลวม เพราะ 1.ถูกจับทางได้ตั้งแต่ไก่โห่ว่า โยงมั่ว คือโยงเรื่องหมอหยอง และเรื่องมาตรา 112 กับเรื่องอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกันเลย ทำให้เห็นเจตนาร้ายและถูกจับทางได้ตั้งแต่ต้น เป็นแต่ว่าข้าราชการประจำเขาไม่อยากโต้เถียงอะไรด้วย จึงได้ใจ ขยายผลทางสื่ออย่างกว้างขวาง
2.กองทัพบกเป็นเจ้าของสถานที่ อนุญาตให้ใช้สถานที่สร้างอุทยานราชภักดิ์ ส่วนผู้ดำเนินการคือมูลนิธิซึ่งเป็นเอกชน เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ต้องมอบให้กองทัพบกรับไปดูแลรักษาต่อไป ตอนนี้เสร็จแล้ว กองทัพบกยังต้องตรวจสอบว่าเป็นอย่างไร จึงจะรับมาดูแลรักษาบำรุงต่อไปได้ อย่างนี้กองทัพจะไปเกี่ยวข้องหรือทุจริตที่ตรงไหน? ตรงนี้แหละที่ถูกฉะว่าต้องฟังอย่างมีสติ เพราะแผนร้ายนี้มุ่งให้คนขาดสติ ด้วยรู้ใจคนไทยยามนี้ว่าเกลียดคอร์รัปชั่น
3.มูลนิธิเป็นบุคคลธรรมดา ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ ไม่มีฐานะเป็นเจ้าพนักงาน จึงไม่มีทางที่จะถูกกล่าวหาว่าคอร์รัปชั่นในวงราชการได้ แต่คนคิดแผนร้ายไม่จำแนกแยกแยะ คิดเอาหลวมๆ เอาแค่ให้เป็นกระแสเพื่อถล่มรัฐบาล ถล่ม คสช.มันจึงหลวมไงล่ะเจ้านาย!
4.ระยะเวลาการดำเนินงานสร้างพระบรมรูปนั้น มีความจำเป็นต้องทำให้แล้วเสร็จในเวลาอันสั้นราว 6 เดือน จึงดำเนินการในนามของมูลนิธิ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ซึ่งเป็นเจตนาร่วมกันเพื่อถวายความจงรักภักดี และยังมีเอกสารสำคัญที่ถ้าหากนำมาอ้างอิงก็จะหงายท้องกันตรึม แต่พวกทหารเขาหน้าบาง เขาไม่อ้างไม่อิงอะไร ยอมให้ถูกเล่นเสียจนอ่วม มันก็เป็นอย่างนี้แหละพีน้องเอ๊ย ผ้าขาวไหนเลยจะสู้ผ้าเช็ดพื้นได้
5.การสร้างพระบรมรูปขนาด 7 เท่าตัวขององค์จริงนั้น เป็นขนาดสร้างพระบรมรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก โรงหล่อโรงเดียวทำไม่ทัน ต้องใช้หลายโรง ต่างคนต่างทำ ตามสภาพและสถานการณ์ที่เหมาะสมกับพระบรมรูปแต่ละองค์ พร้อมด้วยการขนส่งที่ยากลำบากเป็นทางไกล ใครว่าถูก ว่าแพง ก็มโนเอาตามใจ แต่ของจริงทำกันอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ข่าวที่ว่าเซียนพระไปเรียนค่านายหน้าจากโรงหล่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นที่ตรงไหน เซียนพระก็เป็นเอกชน โรงหล่อก็เป็นเอกชน เอกชนเรียกค่านายหน้ากัน มันก็มีอยู่ทั่วไป แม้กฎหมายแพ่งก็ยังบัญญัติรองรับไว้ ตรงนี้จึงว่าโยงมั่วไงล่ะครับ เพราะไม่ได้เกี่ยวกับกองทัพบก
ผมรำคาญรัฐราชการที่ได้แต่อมพะนำ จึงพยายามสอบถามเรื่องราวต่างๆ เพื่อมาสรุปให้มิตรสหายทั้งหลายได้ทราบไว้เป็นเบื้องต้น จะได้ไม่หลงมนต์มายาที่โยงกันมั่วๆ เห็นหรือยังล่ะครับว่าแผนร้ายนี้มีพรรคการเมือง นักการเมือง กำลังแสดงฤทธิ์แสดงเดชกันเป็นการใหญ่ คาดว่าจะเอากันให้ตายในไม้นี้แหละ แต่มันไม่ตายหรอกกกกก จะบอกให้!
รู้ชัดหรือยังละโยมว่า ขี้ผสมข้าว กินไม่ได้ !!!!

คนร้ายยิงระเบิดถล่มโรงแรมชาวมะกันและจับตัวประกันกว่า 170 ชีวิตในประเทศมารี

เดลี่ มิเร่อร์"และ"บีบีซี"รายงานว่า ได้เกิดเหตุร้าย เมื่อกลุ่มคนร้ายได้อาวุธปืนยิงและปาระเบิดถล่มใส่โรงแรมในแห่งหนึ่ง ในกรงบามาโก เมืองหลวง และเชื่อว่าได้จับตัวประกันในโรงแรมกว่า 170 ชีวิต ขณะที่ตร.ได้ล้อมโรงแรมนี้แล้ว
รายงานระบุว่า เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่น โดยโรงแรม"เรดิสสัน บลู"ในเมืองหลวงบามาโก ได้ถูกคนร้ายปฏิบัติการโจมตี โดยแหล่งข่าวด้านหน่วยความปลอดภัยเผยว่า คนร้ายได้ยิงกระสุนปืนและปาระเบิดใส่เข้าโรงแรม และมีผู้คนเสียชีวิต 5 ราย จำนวนนี้รวมทั้งชาวต่างชาติด้วย
นอกจากนี้ คนร้ายยังได้จับผู้คนในโรงแรมเป็นตัวประกันกว่า 170 คน ขณะที่ตำรวจได้รุดถึงที่เกิดเหตุแล้ว และได้ล้อมโรงแรมดังกล่าวไว้ โดยสำหรับโรงแรมเรดิสสัน บลู แห่งนี้ ซึ่งมีจำนวน 190 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้กับอาคารสำนักงานของรัฐบาลหลายแห่ง และพื้นที่ธุรกิจด้วย
ขณะที่บีบีซีรายงานว่า สถานทูตสหรัฐในเมืองบามาโกได้ทวีตข้อความเรียกร้องให้ชาวอเมริกันในเมืองนี้หาที่หลบซ่อนตัว จากเหตุก่อการร้ายครั้งนี้ และติดต่อครอบครัวตัวเอง ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า เหตุการณ์ระทึกเกิดขึ้นบนชั้น 7 ของโรงแรม โดยกลุ่มนักรบจีฮัดได้ยิงกระสุนเข้าใส่ระเบียง และจากข้อมูลที่ได้รับ เชื่อว่ามีแขก 140 คน และลูกจ้าง 30 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ปัจจุบัน มาลี ได้อยู่ในความดูแลด้านความสงบภายใต้กองกำลังของสหประชาชาติ ภายหลังฝรั่งเศสได้ถอนตัวไปเมื่อปี 2013 หลังจากกลุ่มอัล เคด้า ได้ขู่จะบุกเมืองหลวงประเทศนี้ เมื่อเดือนม.ค. ปี 2013 หลังจากสามารถควบคุมพื้นที่ตอนเหนือไว้ได้
และก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนส.ค.เกิดเหตุมือปืนบุกโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเซแวร์ ทางตอนกลางของประเทศ และก่อเหตุจับตัวประกัน และสังหารผู้คน 13 ราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ยูเอ็น 5 ราย ด้วย
สนับสนุนเนื้อหาโดย Matichon
/ นิว..รายงาน

โจมตีและจับตัวประกันในประเทศมาลี


Two gunmen took 170 hostages during an attack at the Radisson Blu Hotel in the Malian capital, Bamako, its owner, Rezidor Hotel Group, said.

Radisson Blu hotel in Bamako
Radisson Blu hotel in Bamako
 
Source: Carlson Rezidor Hotel Group

Those held inside the hotel include 140 guests and 30 employees, Rezidor said in a statement on its website. United Nations forces and Malian government troops are at the scene, UN spokesman Olivier Salgado said by phone from the capital. The French and U.S. embassies confirmed that the attack was underway.

“The attack is ongoing,” Salgado said. “What we know is that the attackers are in the hotel and have automatic weapons.” The French embassy reported “explosions and gunshots” at the hotel and advised its citizens to remain at home.

Mali was plunged into violence after a military coup in March 2012 left a power vacuum that allowed Islamist militants to join with separatists and seize northern areas of the country. While French and UN forces pushed the militants out of most of those strongholds in 2013, the government is struggling to regain authority there.


บิ๊กหมู พลเอกธีรชัย ผบทบ. แถลงไม่ พบทหารทุจริต สร้าง"อุทยานราชภักดิ์"

ฮือฮา..... บิ๊กหมู พลเอกธีรชัย ผบทบ. แถลงไม่ พบทหารทุจริต สร้าง"อุทยานราชภักดิ์" โบ้ยไม่รู้เริ่อง เซียนพระ-ทหาร เรียกค่าหัวคิวโรงหล่อ ให้ไปถาม พลเอกอุดมเดช อดีต ผบทบ.เอง แต่ยันกรรมการสอบฯไม่พบทุจริต ยันยอดเงินบริจาค และยอดใช้จ่ายครบ ตรง มีเอกสาร พร้อมชี้แจงเปิดเผย เผยตรวจสอบ เพื่อที่จะเตรียมรับอุทยานฯมาดูแลเอง แต่ไม่ยุ่งมูลนิธิราชภักดิ์ ของ บิ๊กโด่ง แต่ก็ ไม่ให้มาดูแล อุทยานฯ เพราะ ทบ.จะจัดการดูแลอุทยานฯ เองหมด
เผย จำไม่ได้ยอดรวมบริจาค เท่าใด แต่มีเอกสารครบหมด ตอนนี้เงินบริจาค 33 ล้าน อยู่ที่กองทุนของทบ. ส่วนอีก120ล้าน อยู่ที่ มูลนิธิราชภักดิ์ ส่วนเงินโรงหล่อ จำนวน6 โรง บริจาค20 ล้าน ก็มีหลักฐานชัดเจน ไม่รู้เรื่อง เซียนพระ เรียกหัวคิว
บิ๊กหมู โยน Social media เป็นสาเหตุความวุ่นวาย ปล่อยข่าวลือ เอกสารปลอม กล่าวหาทหาร พัวพันทุจริต"ราชภักดิ์"วอนคนไทยอย่าหูเบา ใช้สติ ในการอ่านข้อมูล ตำหนิสื่อบางกลุ่ม เคยเชียร์พลเอกอุดมเดช แต่ตอนนี้มาโจมตี ก็แปลก เตือน อ่านข่าวต้องมีสติ "คนไม่ผิดก็จะให้ให้ผิดให้ได้"ยันไม่ได้ช่วยเหลือกัน
ยันคณะกก.สอบ สวนที่มี พลเอก วีระณ ฉันทศาสตร์โกศล เป็นประธาน ไม่พบทหารคนใด เอี่ยวทุจริต แม้แต่ผู้การโจ้ พันเอกคชาชาต บุญดี ก็ไม่ทุจริตราชภักดิ์ แต่ผิดเรื่อง อื่น ผิดม.112 แต่จากนี้ทหารคนไหนทำผิด โดนแน่ ไม่ต้องมีใบเสร็จ ฟันเลย

รัสเซียแฉสหรัฐหนุน ISISมานานแล้ว


55eee56ec4618859688b4586โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียเผยว่า อเมริกาให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายไอซิสมาเป็นระยะเวลานานมากแล้ว

ตามรายงานของสำนักข่าวอัลอาลัม “Maria Zakharova” โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ได้กล่าวแถลงข่าว ว่า : เห็นได้ว่า กรุงวอชิงตันมีความต้องการที่จะใช้กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ ในการโค่นล้มรัฐบาลซีเรียที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศ

โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ “Sputnik” จากการตัดสินใจของอเมริกาที่จะจัดตั้งกลุ่มต่างๆในการปฏิบัติการในซีเรีย ในวันที่ 12 และ 13 ของเดือนนี้โดยกล่าวว่า เมื่อสองวันที่ผ่านมา เราได้รับอีเมล์จากสถานทูตอเมริกาในมอสโก ว่า ประเทศนี้มีการวางแผนในการจัดตั้งกลุ่มต่างๆ ในวันที่ 12 และ 13 พฤศจิกายนนี้ ในกรุงเวียนนา และแผนการนี้เป็นสิ่งที่น่าแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่า ทางกรุงวอชิงตันมิได้ปรึกษาเราเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้กล่าวเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการเริ่มต้นการปฏิบัติการโต้ตอบกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา กล่าวว่า ทางพันธมิตรของอเมริกาก็มิได้มีปฏิกิริยาในการโต้ตอบกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส มีเพียงอาการนิ่งเงียบต่อการโต้ตอบกับกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว

Sergey Lavrov กล่าวว่า พันธมิตรของอเมริกานั้น ซึ่งขาดความชอบธรรมจากมติของคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติซึ่งไม่มีอำนาจและไม่มีส่วนร่วมอันใดในซีเรีย

เขากล่าวเสริมว่า กองทัพของซีเรียมีการปฏิบัติการในการโต้ตอบกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส เพิ่มมากขึ้น เพราะว่า การโต้ตอบกับกลุ่มไอซิสนั้น ไม่เหมาะสมต่อการใช้สองมาตรฐานในหลักการอิสลาม

Lavrov เน้นย้ำอีกว่า: กลุ่มไอซิส ได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆในการช่วยเหลือทางอาวุธ ในการเข่นฆ่าสังหารผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเหมือนกับสงครามอิรักที่ซัดดัมฮุสเซนได้ก่อไว้ ก็เป็นการวางแผนการเอาไว้อย่างชัดเจน

cats

ที่มา : http://fa.alalam.ir/news/1758963