PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ประกาศยุติบทบาทในการร่วมกิจกรรมกับสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์ฯ

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ประกาศยุติบทบาทในการร่วมกิจกรรมกับสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์ฯ
นางสาวชุติมณฑ์ ศรีขำ เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าวันนี้ ( 29  พฤษภาคม) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้มีมติให้ยุติบทบาทในการร่วมกิจกรรมกับสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยจะมีผลให้กิจกรรมใดที่สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ดำเนินการนั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยยังจะยุติการเป็นสำนักเลขาธิการของสมาพันธ์ฯอีกด้วย จนกว่าคณะกรรมการบริหาร สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ จะมีมติเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้มีจดหมายถึง ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ฯ เพื่อให้มีการทบทวนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ของสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ซึ่งไม่ได้ดำเนินไปตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกต้องและยึดหลักความสมานฉันท์ระหว่างสมาคมในสมาพันธ์ฯ แต่มิได้มีการตอบรับหรือดำเนินการใดๆ จึงเป็นที่มาของมติดังกล่าว




ทหารปล่อยตัวแรมโบ้อีสานแล้ว เจ้าตัวโผกอดแม่น้ำตาซึม ลั่นยุบ อพปช.- ลาออกเพื่อไทย เลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต

ทหารปล่อยตัวแรมโบ้อีสานแล้ว เจ้าตัวโผกอดแม่น้ำตาซึม ลั่นยุบ อพปช.- ลาออกเพื่อไทย เลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต
เมื่อวันที่ 29 พ.ค.เวลา 21.00 น. กองทัพภาคที่ 2 ได้ปล่อยตัว นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่บริเวณประตูทางเข้ากองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ทั้งนี้ นายสุภรณ์ ถึงกับน้ำตาซึมและโผกอดมารดาที่มารอรับ พร้อมให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า จะยุบกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) และลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยรวมทั้งเลิกเล่นการเมืองตลอดชีพ เนื่องจากต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข โดยขอไปดูแลมารดาที่ชราภาพอยู่ที่บ้านอย่างคนทั่วไป


ชงคสช.ไล่ล่า"56นักเขียน"ที่เชื่อว่าฝักใผ่แดง

(29/5/57)เพจฝ่ายสนับสนุนการรัฐประหาร มีการแปะรายชื่อของนักเขียนในสมาคมนักเขียน 56คนที่ถูกระบุว่าเป็น ผู้ที่มีความคิดไปในทางฝ่ายเสื้อแดง เพราะส่วนใหญ่เคยร่วมลงชื่อเสนอแก้ไข รัฐธรรมนูญ และเสนอให้ยกเลิก ม.112  ทั้งนี้ เพื่อให้ ฝ่าย คสช.ทำการไล่ล่าให้มารายงานตัว...




ตำรวจสมุทรสาครจับอาวุธปืน

29/5/57 ...
วันนี้เวลา 14.30 น. สภ.บ้านแพ้ว สมุทรสาคร รวบนายปลวัชร แก้วไกรสิน อายุ 36 ปี พร้อมของกลาง ดังนี้
1. อาวุธปืนพกสั้นมีทะเบียน 14 กระบอก 
- ขนาด .45 จำนวน 3 กระบอก
- ขนาด .44 จำนวน 1 กระบอก
- ขนาด .380 จำนวน 5 กระบอก
- ขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก
- ขนาด 9 มม. จำนวน 4 กระบอก
2. อาวุธปืนยาวไรเฟิล ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก
3. อาวุธปืนยาว ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
4. อาวุธปืนพกสั้น เพื่อรอจำหน่าย จำนวน 100 กระบอก
ตร. ตั้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนของกลางลำดับ 1-3 ไม่ได้รับอนุญาต
ส่วน อาวุธปืนของกลางลำดับ 4 มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งนายปลวัชรได้รับอนุญาตให้จำหน่ายอาวุธปืนได้ แต่ปืนดังกล่าวอยู่ระหว่างการเก็บรักษาเพื่อรอจำหน่าย ตร.จึงยึดของกลางรายการที่ 1-3 ไว้ ส่วนรายการที่ 4 นำไปตรวจสอบ


คสช.พิจารณา จะผ่อนผัน ให้ "วีระพัฒน์" รายงานตัวช้า ได้หรือ ปฏิเสธทหารยิงบ้าน ยันไม่เคยใช้วิธีการนอกกฎหมาย

คสช.พิจารณา จะผ่อนผัน ให้ "วีระพัฒน์" รายงานตัวช้า ได้หรือ ปฏิเสธทหารยิงบ้าน ยันไม่เคยใช้วิธีการนอกกฎหมาย
พันเอก วินธัย สุวารี รองโฆษก คสช. ชี้แจงกรณี การที่ คสช.ออกประกาศเรียกให้นาย วีระพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระ ให้มารายงานตัว ว่า เนื่องจาก เป็นนักวิชาการที่มักจะพูด หรือแสดงความคิดเห็น เรื่องการเมืองช่วงที่ผ่านมา คสช. จึงเชิญให้มารายงานตัวมา ปรับความเข้าใจ และขอความร่วมมือในการสร้างความปรองดองในชาติ แต่เมื่อ นาย วีระพัฒน์ ติดภารกิจอยู่ ในต่างประเทศ. แล้วได้ติดต่อมา เพื่อชี้แจงว่า ไม่สามารถมารายงานตัวตามกำหนดได้ นั้น คสช.ก็จะต้องพิจารณาดูตามเหตุผลความจำเป็น ว่าจะสามารถผ่อนผันได้หรือไม่อย่างไร
ส่วนการที่ นาย วีรัพัฒน์ืไปบรรยายที่อังกฤศ มีการพาดพิง กล่าวหา ในลักษณะที่ทำให้เข้าใจว่า ฝ่ายทหาร อาจเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ ยิงใส่บ้านของ นาย วีระพัฒน์ นั้น. ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ฝ่ายทหาร ไม่เคยใช้วิธีการนอกกฎหมาย สังเกตุได้จากการทำหน้าที่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาก็ไม่มีการใช้ความรุนแรงใดๆ จากทางฝ่าย จนท.ทหาร


ทหารตำรวจสนธิกำลังนับพันปิดล้อมอนุสาวรีย์ชัยฯไร้เงาม็อบป่วน

เมื่อเวลา 17.30 วันที่ 29 พ.ค. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.กล่าวภายหลัง เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและทักทายกำลังทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า ที่ผ่านมามีผู้ชุมนุมยึดพื้นที่การจราจรชุมนุม ทำให้เกิดความเดือดร้อน สร้างปัญหาให้กับการจราจร ที่สำคัญเป็นการฝ่าฝืนกฏหมาย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด จากเบาไปหาหนัก ซึ่งหากมีกลุ่มรวมตัวแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ก็จะดำเนิการจับกุมทันที โดยจะวางกำลังประจำจุดไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ตามมี่ผ่านมา มีการลงพื้นที่เพื่อบันทึกภาพแกนนำผู้ชุมนุมทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐานหากพบว่ามีพฤติกรรมต่อต้านละเมิดกฏหมายจะจับกุมในทันที

ส่วนการจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เจ้าหน้าที่มีการปิดกั้นถนนตั้งแต่เวลา 15.30 น.โดยรถที่มาจากถนนศรีอยุธยาเลี้ยวซ้ายเเยกสีอยุธยา ไม่สามารถเข้าถนนราชวิถีแยกวัดตึกได้ และจะบังคับให้กลับรถและใช้ถนนพระรามที่ 6 แทน

ส่วนรถที่มาจากถนนพหลโยธิน มีการนำแผงเหล็กปิดกันเส้นทาง ตั้งแต่พหลโยธินซอย 2 เพื่อเบี่ยงรถเข้าถนนวิภาวดีรังสิต ส่งผลให้จราจรคับคั่ง มีท้ายแถวของรถยนต์อยู่ที่จตุจักร

ขณะที่ ถนนดินแดงจากแยกสามเหลี่ยมดินแดงได้มีการปิดกั้นจราจรเช่นกัน ทั้งบนสะพานข้ามแยกและพื้นราบ โดยรถที่มามาจากถนนราชปรารภจะถูกบังคับให้เบี่ยงขวาเข้าถนนวิภาวดี ส่งผลให้มีท้ายแถวสะสมอยู่แยกราชประสงค์

โดยกองบังคับการตำรวจจราจรย้ำว่า ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในช่วงเย็นเนื่องจากจะมีการปิดการจราจรเช่นนี้ทุกวัน จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการวางกำลังดูแลพื้นที่ของตำรวจและทหารทำให้สถานการณ์บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์เป็นไปอย่างสงบ ไร้วี่แววของกลุ่มผู้ชุมนุม กระทั่งเวลาประมาณ 18.10 น. จู่ๆก็มีชายชาวเบลเยี่ยมคนหนึ่ง ทราบชื่อนายโรบิน (ไม่ทราบนามสกุล) ตัดผมสั้น ใส่แว่น แต่งกายใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขาสามส่วน สีน้ำตาล นำเสื้อยืดสีขาวมีข้อความว่า“Peace Please” มีแขวนไว้ที่ลำตัว มายืนอยู่บริเวณป้ายรถเมล์ฝั่งห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมากทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าควบคุมตัวชายคนดังกล่าว ก่อนจะนำขึ้นรถตำรวจของ บก.น.1 ส่งไปยังสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อสอบถามถึงเจตนาที่นำเสื้อมาแสดงดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีผู้หญิง จำนวน 2 คน ยืนถือป้ายมีข้อความต่อต้านรัฐประหาร อยู่บริเวณร้านค้า ฝั่งเกาะพญาไท ทำให้ตำรวจและทหารต้องรีบเข้าควบคุมตัวหญิงทั้งสองแล้วนำขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหานำส่งสโมสร
กองทัพบกเช่นเดียวกัน จากนั้น ในเวลาประมาณ 18.30น. เมื่อสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติทางเจ้าหน้าที่จึงเปิดการจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยฯทันที.
http://www.youtube.com/watch?v=J925qLuX5ts


รองแม่ทัพภาคที่ 2 แถลง “คนอยู่ต่างประเทศ” บงการแผน “ขอนแก่นโมเดล”

รองแม่ทัพภาคที่ 2 แถลง “คนอยู่ต่างประเทศ” บงการแผน “ขอนแก่นโมเดล” เผยรวบผู้ต้องหาเพิ่มอีก 6 ราย สอบสวนสารภาพสิ้น นักการเมืองระดับประเทศสนับสนุนเม็ดเงิน

เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) ที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชชัย พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลความคืบหน้าในการจับกุมขบวนการก่อความไม่สงบ ที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 21 ราย ล่าสุดขยายจับกุมเพิ่มได้อีก 6 รายที่จังหวัดสุรินทร์ พร้อมหลักฐานเอกสารสำคัญที่เป็นแผนการเตรียมก่อเหตุจลาจล การเตรียมจัดหาอาวุธสงครามใช้ก่อเหตุ ซึ่งเตรียมก่อความไม่สงบในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น พร้อมอาวุธปืนสั้นอีก 1 กระบอกรวมผู้ต้องหาในกลุ่มนี้มีจำนวน 27 ราย ทั้งหมดเป็นคนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา, ชัยภูมิ, กาฬสินธุ์ และสุรินทร์

พล.ต.ธวัชกล่าวว่า ขบวนการของกลุ่มก่อความไม่สงบหรือขอนแก่นโมเดลมีผู้บงการใหญ่อยู่ต่างประเทศ จากนั้นมีแกนนำและกลุ่มคอยสนับสนุน ซึ่งเป็นแกนนำระดับจังหวัดจำนวน 7 คน เพื่อสนับสนุนการจัดหามวลชน จัดตั้ง อพปช. และจัดตั้งกองทัพปราบกบฏ จากนั้นจะเข้าสู่ขบวนการคัดเลือกและการฝึกฝนการรบและการใช้อาวุธปืน ระเบิด

โดยจะมีแกนนำจำนวน 2 คนคอยจัดหาอาวุธใช้ก่อเหตุ จากนั้นจะมีการแบ่งกลุ่มปฏิบัติการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มกองทัพปราบกบฏ กลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องเดินสายฝึกอาวุธ และกลุ่มหัวใจสิงห์
สำหรับแผนการของกลุ่มขอนแก่นโมเดลมี 5 ขั้น คือ ระดมมวลชนมากที่สุด เจรจาปลดอาวุธเจ้าหน้าที่ เจรจาฝ่ายทหาร ทำลายสถาบันการเงินและนำมาแจกจ่ายให้ประชาชนหรือโรบินฮูด และประกาศนโยบายทั่วปฐพีหนี้เป็นศูนย์ แต่สุดท้ายถูกกองทัพภาคที่ 2 จับกุมขบวนการได้ก่อนที่จะลงมือ

ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งขยายผลทั้งทางวัตถุพยาน วัตถุหลักฐาน และวัตถุทางวิทยาศาสตร์ เพื่อติดตามผู้บงการการก่อความไม่สงบนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยผู้ที่ให้การสนับสนุนเม็ดเงินให้กลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้เป็นนักการเมืองระดับประเทศ

จับผู้ต้องหาหนีศาลทหารพบอาวุธปืนสงคราม-กระสุนเพียบ

จับผู้ต้องหาหนีศาลทหารพบอาวุธปืนสงคราม-กระสุนเพียบ
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สุทธินาท สุดยอด ผบก.ภ.จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ชุดราชเดช พ.ต.ท.ธานี นาคหกวิค รอง ผกก.สภ.สลุย จ.ชุมพร ร่วมกับกำลังทหารในพื้นที่ จ.ชุมพร เข้าจับกุม นายธวัชชัย นำพา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่1/2 หมู่ 4 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารจังหวัดทหารบกชุมพร ที่ จ.2/57 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2557 ข้อหาร่วมกันหลบหนีที่คุมขัง (เรือนจำทหาร) พร้อมของกลาง ปืนเอเค 47 พร้อมแมกกาซีน 2 อัน , กระสุนปืนขนาด 7.62 มม. 17 นัด , ปืนขนาด 9 มม.พร้อมกระสุน 6 นัด และปืนขนาด .22 พร้อมกระสุน 13 นัด จับกุมได้ที่บ้านพักหลังดังกล่าว

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับดังกล่าว มีพฤติการณ์ครอบครองอาวุธสงคราม และอาวุธปืนซึ่งอาจเกี่ยวพันกับเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ จ.ชุมพร และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงเฝ้าสืบสวนติดตามกระทั่งพบว่าผู้ต้องหา ได้อาศัยอยู่ที่บ้านพักหลังดังกล่าว จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดชุมพร ก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งนี้และจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด

เบื้องต้นแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครอง และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า สำหรับอาวุธปืนทั้งหมดได้หาซื้อมาจากคนไทยพลัดถิ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศพม่า โดยมีไว้เพื่อป้องกันตัว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากตรวจสอบพบว่า ปืนเอเค 47 กระบอกดังกล่าว เคยถูกนำไปใช้ก่อเหตุมาแล้วหลายคดี จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป

แจง "นปช.ลำพูน" ปฎิบัติหลัง พ.ร.บ.กฎอัยการศึก

แจง "นปช.ลำพูน" ปฎิบัติหลัง พ.ร.บ.กฎอัยการศึก
วันที่ 28 พฤษภาคม 2557 21:03 น.18,222 views
ที่ห้องประชุมจามเทวี ศาลาประชาคม จ.ลำพูน ภายในศาลากลาง จ.ลำพูน พ.อ.บุญยืน อินกว่าง เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 7 ฐานะผู้บัญชาการ กกล.รส.พล.ร.7 สย.1 ลำพูน , นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการ จ.ลำพูน , พ.อ. จิตติวัศร์ ศรสุวรรณ์ รอง ผอ.กอ.รมน.จว.ลำพูน และ พ.ต.อ.ปิตุชัย บุญมี ผกก.สภ.เมืองลำพูน ประชุมชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อปฎิบัติตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึกหลังประกาศรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
โดยมีนายอุดมศักดิ์ พรหมสิทธิ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)นครหริภุญชัย ลำพูน , นายประภาส ศาสตร์ศิลป์ แกนนำ , นางมาลี เมืองไหว แกนนำ , นายบุญเลิศ สุวรรณนวล การ์ด , นายบุญเลิศ ทิสา การ์ด และ นายไพรัช สิงห์คำ การ์ดกลุ่ม นปช.นครหริภุญชัย ลำพูน เพื่อให้รับทราบและหารือแนวทางปฎิบัติของ คสช.ในการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ(รัฐประหาร)ภายใต้การประกาศใช้กฎอัยการศึก ให้เป็นไปในทางทิศเดียวกัน


บก.ลายจุด โวย! มีทหารไปรอรับลูกสาวที่โรงเรียน

บก.ลายจุด โวย! มีทหารไปรอรับลูกสาวที่โรงเรียน

 
 
29 พ.ค.57 สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย ทวิตผ่านทวิตเตอร์ @nuling ระบุว่า มีทหารไปรอรับลูกสาวที่โรงเรียนในจังหวัดเชียงราย โดยในทวิตดังกล่าวยังได้เรียกร้องไปทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ โดยระบุว่า "ชายชาติทหารไม่ควรทำแบบนี้" 
 

รองแม่ทัพภาคที่ 2 แถลง “คนอยู่ต่างประเทศ” บงการแผน “ขอนแก่นโมเดล”

รองแม่ทัพภาคที่ 2 แถลง “คนอยู่ต่างประเทศ” บงการแผน “ขอนแก่นโมเดล” เผยรวบผู้ต้องหาเพิ่มอีก 6 ราย สอบสวนสารภาพสิ้น นักการเมืองระดับประเทศสนับสนุนเม็ดเงิน
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) ที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชชัย พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลความคืบหน้าในการจับกุมขบวนการก่อความไม่สงบ ที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 21 ราย ล่าสุดขยายจับกุมเพิ่มได้อีก 6 รายที่จังหวัดสุรินทร์ พร้อมหลักฐานเอกสารสำคัญที่เป็นแผนการเตรียมก่อเหตุจลาจล การเตรียมจัดหาอาวุธสงครามใช้ก่อเหตุ ซึ่งเตรียมก่อความไม่สงบในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น พร้อมอาวุธปืนสั้นอีก 1 กระบอก
รวมผู้ต้องหาในกลุ่มนี้มีจำนวน 27 ราย ทั้งหมดเป็นคนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา, ชัยภูมิ, กาฬสินธุ์ และสุรินทร์
พล.ต.ธวัชกล่าวว่า ขบวนการของกลุ่มก่อความไม่สงบหรือขอนแก่นโมเดลมีผู้บงการใหญ่อยู่ต่างประเทศ จากนั้นมีแกนนำและกลุ่มคอยสนับสนุน ซึ่งเป็นแกนนำระดับจังหวัดจำนวน 7 คน เพื่อสนับสนุนการจัดหามวลชน จัดตั้ง อพปช. และจัดตั้งกองทัพปราบกบฏ จากนั้นจะเข้าสู่ขบวนการคัดเลือกและการฝึกฝนการรบและการใช้อาวุธปืน ระเบิด
โดยจะมีแกนนำจำนวน 2 คนคอยจัดหาอาวุธใช้ก่อเหตุ จากนั้นจะมีการแบ่งกลุ่มปฏิบัติการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มกองทัพปราบกบฏ กลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องเดินสายฝึกอาวุธ และกลุ่มหัวใจสิงห์
สำหรับแผนการของกลุ่มขอนแก่นโมเดลมี 5 ขั้น คือ ระดมมวลชนมากที่สุด เจรจาปลดอาวุธเจ้าหน้าที่ เจรจาฝ่ายทหาร ทำลายสถาบันการเงินและนำมาแจกจ่ายให้ประชาชนหรือโรบินฮูด และประกาศนโยบายทั่วปฐพีหนี้เป็นศูนย์ แต่สุดท้ายถูกกองทัพภาคที่ 2 จับกุมขบวนการได้ก่อนที่จะลงมือ
ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งขยายผลทั้งทางวัตถุพยาน วัตถุหลักฐาน และวัตถุทางวิทยาศาสตร์ เพื่อติดตามผู้บงการการก่อความไม่สงบนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยผู้ที่ให้การสนับสนุนเม็ดเงินให้กลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้เป็นนักการเมืองระดับประเทศ


ทหาร ตำรวจ อุตรดิตถ์ จับ ตรวจ ยึดคลัง "อาวุธสงคราม" เพียบ !!

ทหาร ตำรวจ อุตรดิตถ์ จับ ตรวจ ยึดคลัง "อาวุธสงคราม" เพียบ !!
วันที่ 28 พ.ค.57 ช่วงเย็น พ.อ.ประพัฒน์ พบสุวรรณ์ ผู้บังคับการ กรมทหารม้าที่ 2 จังหวัดอุตรดิตถ์ , เจ้าหน้าที่การข่าวทหาร กองทัพภาคที่ 3 , พ.ต.อ.สุชาติ โสรัจจ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) อุตรดิตถ์, และ พ.ต.อ.นัฐวุธ ภาคภูมิ ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้บุกตลุยเข้าตรวจค้นบ้าน นายสมมาตร จันต๊ะ อายุ 26 ปี เลขที่ 189/113 หมู่ที่ 1 ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์
เพราะการข่าวทหารสืบทราบว่ามียาเสพติด และอาวุธสงครามซุกซ่อนไว้ภายในบ้าน เมื่อเข้าตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 3 เม็ด และพบใต้ฝ้าเพดานในห้องน้ำมีอาวุธปืนสงครามนานาชนิดต่างๆ ซุกซ่อนอยู่ ประกอบด้วย
- ปืน M16 จำนวน 1 กระบอก
- ลำกล้อง อะไหล่ (ดัดแปลง) ปืน M16 จำนวน 1 ลำกล้อง
- แม็กกาซีน บรรจุ 30 นัด
- กระสุนปืนขนาด 5.56 มิลลิเมตร 92 นัด
- ปืนลูกซอง 5 นัด (พานท้ายดัดแปลงสั้น) จำนวน 1 กระบอก
- ปืนลูกซองสั้น (ไทยประดิษฐ์) จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 15 นัด
- ปืนพก ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก
- ปืนพกขนาด .22 มม. จำนวน 1 กระบอก
- กระสุน .22 จำนวน 20 นัด
- กระสุน .357 จำนวน 15 นัด
- ระเบิดปิงปอง อีก 10 ลูก
จึงตรวจยึดเป็นของกลาง พร้อมจับกุมนายสมมาตร ที่อ้างว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของเพื่อนชื่อแดง อยู่ที่ จ.นครปฐม ซึ่งเพื่อนมีกุญแจอีกดอกที่สามารถเข้า-ออก บ้านได้ จากนั้นได้นำตัว นายสมมาตร ไปขังที่จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ ตามอำนาจของ คสช.เพื่อขึ้นศาลทหาร ต่อไป
ตอนนี้กำลังพลทหาร ตำรวจ กำลังตามไล่ล่าหาตัวนายแดงอย่างหนัก ถ้าต่อสู้ก็วิสามัญฯ อย่างเด็ดขาด เพราะอาวุธพวกนี้เป็นภัยร้ายแรงต่อประชาชนคนดี..ญาติๆ เตรียมทำพินัยกรรมไว้ด้วย ตอนนี้รู้หมดแล้วว่าอยู่บ้านอยู่ไหน หนีได้หนีไป ถ้าพลาดก็สอย..
นักเลง กร่างกันนานในยุคนักการเมืองครองเมือง ยุคนี้ลองทหารเป็นรัฐบาลบ้าง ว่าจะมีผลงานปราบอาวุธร้ายแรง สยบพวกนักเลงอันธพาล ได้ดีกว่ารัฐบาลเลือกตั้งหรือไม่..จัดการพวกนักเลง สมุนนักการเมือง ที่เอานักเลงพวกนี้ไปข่มขู่ ลอบทำร้าย นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม จัดการให้ราบคาบก่อน แล้วค่อยมาเลือกตั้งกัน
เสธ ฝันไปว่าวันนี้จะมีการแจกอาหารรสเลิศ ให้กับม็อบต้านทหารที่อนุสาวรีย์ ขนมนั้นคือ “ แซนวิส กับขนมตุ่บตับ “ ฝันไปว่าเตรียมไว้ 1,200 ชุด..อืมม..อย่าย้ายที่ชุมนุม ไปพารากอนนะ..มาเร๊ววว พลีส
เปรี้ยง เปรี้ยง ดั่งเสียงฟ้าฟาด โครมๆ พินาศพังสลอน..,..คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา , ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “
@เสธ น้ำเงิน
https://www.facebook.com/thailandcoup