PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

สัญญานจาก ประยุทธถึงสื่อดูแลกันไม่ได้เดี๋ยวจัดให้

"นายกฯ"ขอโทษ สื่อ ที่โมโห มีอารมณ์รุนแรง สะกิดสื่อเป็น สุนัขเฝ้าบ้าน ไม่ควรมากัดเจ้าของบ้าน เผยสมาคมสื่อฯคุมกันเองก็ไม่ได้ถามประชาขน อยากให้ผมทำยังไงบอกมา จะให้หนักกว่านี้ หรือเบากว่านี้ ใช้อำนาจมากกว่านี้ว่ามา ผมจะไปพิจารณาอีกที แนะเลียนแบบ สิงคโปร์สร้างประเทศ

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวในรายการ "คืนความสุขฯ" ว่า หน้าที่อีกอย่างหนึ่งของสื่อ คือการเฝ้าระวัง ผมไม่ใช่ศัตรูกับสื่อ ทุกสื่อ ทุกคน หน้าที่ของสื่อต้องมีหน้าที่เหมือนกับเฝ้าบ้าน ต้องคอยแจ้งเตือนเจ้าของบ้าน เหมือนเครื่องมือสักอย่าง เหมือนช่องทีวี หรือในตาวิเศษอะไรสักอย่าง เพราะเวลามีเหตุร้ายมีโจร ขโมยขึ้นบ้าน หรือจะเห็นการทุจริตผิดกฎหมาย สื่อทำหน้าที่คอยเตือนประชาชน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีนักการเมือง ข้าราชการโกงทุจริตต้องเตือนตอนนั้น หรือมีนักบริหารออกนโยบายที่จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ 

แต่ไม่ใช่สื่อมาทำให้เกิดความระแวงกันเอง เพราะท่านมีหน้าที่ในการดูแลบ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านเขาให้ท่านดู ติดตั้งท่าน อะไรท่าน เหมือนกับสื่อคอยดูแทน แล้วปรากฏว่าท่านไม่ดู ท่านกลับมาเล่นงานเจ้าของบ้าน กลับมาเล่นงานคนในบ้าน แล้วโจรก็เข้ามาได้ นั้นคือเรื่องธรรมดา ผมไม่อยากยกตัวอย่างเป็นอย่างอื่น แม้กระทั้งให้คนในบ้านแตกความสามัคคี สร้างความเดือดร้อนเสียหาย บางครั้งอาจจะมีความผิดพลาดบ้างในการติดต่อสื่อสาร แต่ให้รู้ความตั้งใจของรัฐบาลของทุกกระทรวงมานี้ อาจจะมีการสื่อสารที่ไม่ตรง ไม่เข้าใจกันบ้าง หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน 

วันนี้เราอยู่ทีมเดียวกัน ท่านบอกว่าท่านมีหน้าที่ ท่านบอกว่าท่านมีสิทธิและหน้าที่ของสื่อ จะต้องนี่ต้องโน่นผมไม่ได้ขัดแย้งท่าน

ท่านนายกสมาคมสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ แห่งประเทศไทย (ส.น.ว.ท.) บอกว่า ขอร้องให้ผมเข้าใจสื่อ เป็นการทำงานของสื่อ เพื่อติติงอะไรก็ได้ ผมไม่ได้ว่าเลย ถ้าท่านทำอย่างนั้นดีอยู่แล้ว แต่ถ้าท่านอีกอย่างเหมือนกับเล่นงานผมทุกเรื่องไปเลย ผมว่าไม่เป็นธรรมกับผม แล้วพอผมบอกให้ท่านไปดูแลกันเอง ตอบผมว่าอย่างไร 

สำหรับสื่อที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯจะดำเนินการต่อไปตามปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากมีสื่อหลายสื่อ ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคม อันนี้ไม่สามารถจะรับผิดชอบได้ ท่านไปทำสิครับ หรือไม่ จะให้ผมต้องออกกฎหมายว่า สื่อทุกสื่อต้องเป็นสมาชิกของสมาคมท่าน สมาคมหนังสือพิมพ์ สมาคมสื่อ เอาไหม ผมจะทำให้ ไม่อย่างนั้นก็อ้างอยู่อย่างนี้ 

"บางสื่อก็คุมไม่ได้ อะไรไม่ได้ เขียนส่งเดชไปเรื่อย แล้วจะไม่ให้ผมโมโหมีอารมณ์รุนแรงได้อย่างไรในบางครั้ง ผมขอโทษผู้ที่สุภาพอาจจะไม่ชอบ แต่ท่านต้องเห็นใจผม พอบอกให้ไปดูแล บอกไม่เห็นผิดตรงไหนเลย ผิดตรงไหนไปอ่านดูที่เขียน อันนี้สร้างสรรค์ สนับสนุนท่านทุกอย่าง โอ้โหด่าทุกวัน บอกว่านี่เป็นการติติง ก็ผมทำไปแล้ว กำลังทำ ท่านก็บอกว่าผมไม่ทำอะไร ยกตัวอย่างง่าย ๆ หรือไม่ก็ เรื่องนี้ไม่รู้จะกล้าทำหรือเปล่า ถ้าไม่กล้าทำผมไม่เข้ามาเอาอย่างนี้แล้วกัน เพียงแต่ว่าจะทำได้เมื่อไหร่ ผมไม่อยากจะไปบังคับขู่เข็นคนมากนัก "

ผมฝากพี่น้องประชาชนทั่วไปแล้วกัน จะให้ผมทำอย่างไรบอกมา จะให้หนักกว่านี้ หรือเบากว่านี้ ใช้อำนาจมากกว่านี้ว่ามา ผมจะไปพิจารณาอีกที ผมเข้ามาแล้วก็อยากให้สำเร็จ การปฏิรูปอีกมากมาย ไม่ได้จบภายในปีหนึ่ง ปีหนึ่งแค่ลดความขัดแย้ง แค่คิดไว้ว่าจะทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ผมว่าอีก 10 ปียังไม่ทันเลย 

"สิงคโปร์เขาทำ 30 ปี เอาง่าย ๆ แล้วเขาเลยเวลาเหล่านั้นมาแล้ว วันนี้เขาเข้มแข็งหมดทุกอัน บางคนบอกว่าไทยทำไม่ได้หรอก เพราะเรามีคนมากกว่า เขามีพื้นที่เล็กกว่าเรา เรายิ่งใหญ่ ไปดูในแผนที่ว่าใหญ่ขนาดไหน มีคน 60 – 70 ล้านคน ก็ใช่ แต่ 60 ล้านคน รวมกันได้เป็นหนึ่งไหม รวมเป็นไม้ไผ่ก้อนเดียวได้ไหม ไม่ได้ 60 กว่าล้านคน 60 กว่าความคิด มีกลุ่มชุมชน วันนี้ไม่ใช่แค่ประชาชนแล้ว เป็นกลุ่มชน เป็นของคนนี้ ของคนนั้น ของพวกนี้ พวกนั้น เป็นกลุ่ม แล้วคนเหล่านี้ก็เข้ามาสู่กระบวนการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วก็เรียกร้องกับรัฐบาล เรียกร้องความต้องการจากรัฐบาลจนไม่มีความเพียงพอ เมื่อไม่เพียงพอ รัฐบาลก็ต้องมาดูแลเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมีปัญหาการบริหารราชการ ใช่ไหม คนอื่นก็ไม่ต้องได้ นี่แหละคือปัญหาของประชาธิปไตยไทย ท่านจะทำอย่างไรไปทำ วันนี้ผมจะทำให้ทั่วถึงก่อน วันหน้าจะให้ส่งต่อให้ระบบแข็งแรง ข้าราชการ หรือการเมืองแข็งแรงกว่านี้ ที่ผ่านมาไม่รู้จะโทษใคร"

'"นายกฯ"ขอโทษ สื่อ ที่โมโห มีอารมณ์รุนแรง สะกิดสื่อเป็น สุนัขเฝ้าบ้าน ไม่ควรมากัดเจ้าของบ้าน เผยสมาคมสื่อฯคุมกันเองก็ไม่ได้ถามประชาขน อยากให้ผมทำยังไงบอกมา จะให้หนักกว่านี้ หรือเบากว่านี้ ใช้อำนาจมากกว่านี้ว่ามา ผมจะไปพิจารณาอีกที แนะเลียนแบบ สิงคโปร์สร้างประเทศ

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวในรายการ "คืนความสุขฯ" ว่า หน้าที่อีกอย่างหนึ่งของสื่อ คือการเฝ้าระวัง ผมไม่ใช่ศัตรูกับสื่อ ทุกสื่อ ทุกคน หน้าที่ของสื่อต้องมีหน้าที่เหมือนกับเฝ้าบ้าน ต้องคอยแจ้งเตือนเจ้าของบ้าน เหมือนเครื่องมือสักอย่าง เหมือนช่องทีวี หรือในตาวิเศษอะไรสักอย่าง เพราะเวลามีเหตุร้ายมีโจร ขโมยขึ้นบ้าน หรือจะเห็นการทุจริตผิดกฎหมาย สื่อทำหน้าที่คอยเตือนประชาชน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีนักการเมือง ข้าราชการโกงทุจริตต้องเตือนตอนนั้น หรือมีนักบริหารออกนโยบายที่จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ 

แต่ไม่ใช่สื่อมาทำให้เกิดความระแวงกันเอง เพราะท่านมีหน้าที่ในการดูแลบ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านเขาให้ท่านดู ติดตั้งท่าน อะไรท่าน เหมือนกับสื่อคอยดูแทน แล้วปรากฏว่าท่านไม่ดู ท่านกลับมาเล่นงานเจ้าของบ้าน กลับมาเล่นงานคนในบ้าน แล้วโจรก็เข้ามาได้ นั้นคือเรื่องธรรมดา ผมไม่อยากยกตัวอย่างเป็นอย่างอื่น แม้กระทั้งให้คนในบ้านแตกความสามัคคี สร้างความเดือดร้อนเสียหาย บางครั้งอาจจะมีความผิดพลาดบ้างในการติดต่อสื่อสาร แต่ให้รู้ความตั้งใจของรัฐบาลของทุกกระทรวงมานี้ อาจจะมีการสื่อสารที่ไม่ตรง ไม่เข้าใจกันบ้าง หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน 

วันนี้เราอยู่ทีมเดียวกัน ท่านบอกว่าท่านมีหน้าที่ ท่านบอกว่าท่านมีสิทธิและหน้าที่ของสื่อ จะต้องนี่ต้องโน่นผมไม่ได้ขัดแย้งท่าน

 ท่านนายกสมาคมสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ แห่งประเทศไทย (ส.น.ว.ท.) บอกว่า ขอร้องให้ผมเข้าใจสื่อ เป็นการทำงานของสื่อ เพื่อติติงอะไรก็ได้ ผมไม่ได้ว่าเลย ถ้าท่านทำอย่างนั้นดีอยู่แล้ว แต่ถ้าท่านอีกอย่างเหมือนกับเล่นงานผมทุกเรื่องไปเลย ผมว่าไม่เป็นธรรมกับผม แล้วพอผมบอกให้ท่านไปดูแลกันเอง ตอบผมว่าอย่างไร 

สำหรับสื่อที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯจะดำเนินการต่อไปตามปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากมีสื่อหลายสื่อ ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคม อันนี้ไม่สามารถจะรับผิดชอบได้ ท่านไปทำสิครับ หรือไม่ จะให้ผมต้องออกกฎหมายว่า สื่อทุกสื่อต้องเป็นสมาชิกของสมาคมท่าน สมาคมหนังสือพิมพ์ สมาคมสื่อ เอาไหม ผมจะทำให้ ไม่อย่างนั้นก็อ้างอยู่อย่างนี้ 

"บางสื่อก็คุมไม่ได้ อะไรไม่ได้ เขียนส่งเดชไปเรื่อย แล้วจะไม่ให้ผมโมโหมีอารมณ์รุนแรงได้อย่างไรในบางครั้ง ผมขอโทษผู้ที่สุภาพอาจจะไม่ชอบ แต่ท่านต้องเห็นใจผม พอบอกให้ไปดูแล บอกไม่เห็นผิดตรงไหนเลย ผิดตรงไหนไปอ่านดูที่เขียน อันนี้สร้างสรรค์ สนับสนุนท่านทุกอย่าง โอ้โหด่าทุกวัน บอกว่านี่เป็นการติติง ก็ผมทำไปแล้ว กำลังทำ ท่านก็บอกว่าผมไม่ทำอะไร ยกตัวอย่างง่าย ๆ หรือไม่ก็ เรื่องนี้ไม่รู้จะกล้าทำหรือเปล่า ถ้าไม่กล้าทำผมไม่เข้ามาเอาอย่างนี้แล้วกัน เพียงแต่ว่าจะทำได้เมื่อไหร่ ผมไม่อยากจะไปบังคับขู่เข็นคนมากนัก "

ผมฝากพี่น้องประชาชนทั่วไปแล้วกัน จะให้ผมทำอย่างไรบอกมา จะให้หนักกว่านี้ หรือเบากว่านี้ ใช้อำนาจมากกว่านี้ว่ามา ผมจะไปพิจารณาอีกที ผมเข้ามาแล้วก็อยากให้สำเร็จ การปฏิรูปอีกมากมาย ไม่ได้จบภายในปีหนึ่ง ปีหนึ่งแค่ลดความขัดแย้ง แค่คิดไว้ว่าจะทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ผมว่าอีก 10 ปียังไม่ทันเลย 

"สิงคโปร์เขาทำ 30 ปี เอาง่าย ๆ แล้วเขาเลยเวลาเหล่านั้นมาแล้ว วันนี้เขาเข้มแข็งหมดทุกอัน บางคนบอกว่าไทยทำไม่ได้หรอก เพราะเรามีคนมากกว่า เขามีพื้นที่เล็กกว่าเรา เรายิ่งใหญ่ ไปดูในแผนที่ว่าใหญ่ขนาดไหน มีคน 60 – 70 ล้านคน ก็ใช่ แต่ 60 ล้านคน รวมกันได้เป็นหนึ่งไหม รวมเป็นไม้ไผ่ก้อนเดียวได้ไหม ไม่ได้ 60 กว่าล้านคน 60 กว่าความคิด มีกลุ่มชุมชน วันนี้ไม่ใช่แค่ประชาชนแล้ว เป็นกลุ่มชน เป็นของคนนี้ ของคนนั้น ของพวกนี้ พวกนั้น เป็นกลุ่ม แล้วคนเหล่านี้ก็เข้ามาสู่กระบวนการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วก็เรียกร้องกับรัฐบาล เรียกร้องความต้องการจากรัฐบาลจนไม่มีความเพียงพอ เมื่อไม่เพียงพอ รัฐบาลก็ต้องมาดูแลเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมีปัญหาการบริหารราชการ ใช่ไหม คนอื่นก็ไม่ต้องได้ นี่แหละคือปัญหาของประชาธิปไตยไทย ท่านจะทำอย่างไรไปทำ วันนี้ผมจะทำให้ทั่วถึงก่อน วันหน้าจะให้ส่งต่อให้ระบบแข็งแรง ข้าราชการ หรือการเมืองแข็งแรงกว่านี้ ที่ผ่านมาไม่รู้จะโทษใคร"'

ประมงไทยกลับบ้าน

เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา แรงงานลูกเรือประมงที่ไปทำงานที่อินโดนีเซียและประสบความทุกข์ยาก จำนวน 21 คน เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานดอนเมืองแล้ว

นายสมพงษ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่เครือข่ายเดินทางไปช่วยเหลือแรงงานลูกเรือประมงที่สามารถเข้าถึงได้ช่วงระหว่างวันที่ 12 – 27 มีนาคม 2558 พบว่ามีคนไทย 31 คน คนพม่า 13 คน คนกัมพูชา 6 คน คนลาว 2 คน รวม 52 คน

ในจำนวนนี้ มีแรงงานลูกเรือไทย ที่เดินทางกลับประเทศไทยก่อนในวันนี้ (27 มีนาคม 2558 ) จำนวน 21 คน ยังเหลืออีก 10 คน 

นายสมพงษ์ ระบุว่าในจำนวน 10 คนที่เหลือ มีแรงงานไทย 1 คน ที่มาทำงานตั้งแต่อายุ 13 ปี ตอนนี้อายุ 21 ปี มีปัญหาสุขภาพ ต้องรักษา และมีแรงงานกัมพูชา 2 คน มาตั้งแต่อายุ 11 และ 13 ปี เคยทำงานที่เกาะเบนจิน่า 6 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างขอความช่วยเหลือที่เกาะอัมบน แรงงานสองคนดังกล่าวถูกส่งกลับและถูกนำมาขายเป็นครั้งที่สอง เป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี 

นายสมพงษ์ เปิดเผยด้วยว่า ผู้ที่รอรับความช่วยเหลือบางคนมีอาการทางจิตประสาท เนื่องจากการถูกกระทำ และทำร้ายร่างกายเป็นเวลายาวนาน

(ภาพแรกและภาพที่สองนายวุฒิชัย โยธาศรี แรงงานคนหนึ่งที่ถูกช่วยกลับมาได้ โผเข้ากอดแม่กับน้องสาว และก้มลงกราบเท้าแม่ ภาพสองภาพสุดท้ายเป็นภาพแรงงานขณะอยู่ที่อินโดนีเซีย มาจากเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน)

นายกกลับคำขอบคุณสื่อเล่นเรื่องลูกเรือประมง

นายกฯ กลับลำ ขอบคุณสื่อ ช่วยชี้แจงเรื่องค้ามนุษย์ยกเป็นวาระแห่งชาติ เร่งแก้ปีญหาหมักหมมมานาน อย่าหาว่ารัฐบาลไมาทำอะไรเลย เผยปัญหา ก่อน22พค./รายการ คืนความสุขฯ ค่ำ27มีค.ของนายกฯเปลี่ยนฉากหลังเป็น ภาพทะเลตอนพระอาทิตย์ตก ให้เข้ากับ ครม.สัญจร หัวหิน ยาว53นาที

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวในรายการ "คืนความสุขฯ" ถึงเรื่องแรงงานประมง ว่า วันนี้อาจจะมีหลายท่านไม่เข้าใจ ว่ามีปัญหามายาวนานพอสมควรเป็น 10 ปี เรื่องการค้ามนุษย์มีปัญหา ผมได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกกับผม ช่วยดำเนินการในการขับเคลื่อนทางนี้ ในภาคประมงแล้ว

อยากจะเรียนว่า รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องส่งคณะทำงานไปที่เกาะ Benjina แล้วก็หารือกับฝ่ายอินโดนีเซีย เพื่อจะร่วมกันและเร่งหาข้อมูลผู้ประกอบการ และการดำเนินการกับผู้กระทำความผิด คนไทยที่ไปถูกจับที่โน่น ที่ข่าวออกมาเป็นจำนวนมากหลายร้อยคน เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ทยอยทำมาเรื่อย แต่เราไม่อยากประชาสัมพันธ์มาก เพราะคนเหล่านี้ไปทำความผิดในประเทศเขา ใช่ไหม และทุกคนก็เป็นเหยื่อ ต้องถูกองค์กรสิทธิมนุษยชนเข้ามาดู องค์กรระหว่างประเทศมาดู และประเทศต้องรับผิดชอบ ท่านก็ต้องมาบอกเรา ว่าที่ไหนอย่างไร แนะนำตรงไหนเพิ่มเติม เราจะได้ไปหาทางช่วยกันให้ได้ เพราะว่าวันนี้ผมทราบว่า บางทีไปทำงานแล้วถูกจับไปแล้ว เจ้าของผู้ประกอบกิจการไม่สนใจ เขาจับแต่ละไฟท์ เรือมีตั้งหลายลำ ไปเสียค่าไถ่ก็ไม่ยอมเสีย ช่วยลูกเรือก็ไม่ช่วย แล้วโยนให้รัฐบาลดู ครั้งที่ผ่านมา 5 ปี ถูกจับไปที่โซมาเลีย แล้วพึ่งกลับมา เหมือนกับตายไปแล้วเกิดใหม่

เพราะฉะนั้นถ้าเรายังมีการเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์อยู่แบบนี้ ผมกำหนดไปแล้วว่า ไม่สมควรให้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการใด ๆ อีกต่อไปในประเทศไทย และต้องได้รับโทษทางกฎหมาย คือต้องเข้มงวดกัน ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องถูกติดตามประเมินผลด้วย ไม่ว่าจะประมง กรมเจ้าท่า อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องทำให้ครบจดทะเบียน ติดเครื่องมือ และแก้ปัญหาในเรื่องของการทำประมงร่วม Joint Venture กับประเทศโน้นประเทศนี้ ผมก็เดินหน้าเรื่องนี้มาโดยตลอด

วันนี้ก็เตรียมตัวทำ Joint Venture กับอินโดนีเซีย มีปลามาก แต่เราชอบเข้าไปตรงที่เขาไม่ให้เข้า แล้วมาบอกว่าก็ขอให้ยกเว้นหน่อยแล้วกัน เพราะว่าเป็นอาชีพเขารายได้น้อย แล้วกฎหมายอยู่ตรงไหน ประเทศเขาก็มีกฎหมาย ถ้าผมอนุโลมท่าน ไม่จับกุม ไม่ดำเนินคดี ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แล้วท้ายที่สุดจะเกิดอะไรขึ้น ท่านรู้ไหม เรื่องสินค้าประมง เขาจะมีมาตรการไม่ให้เราขาย วันนั้นผมบอกว่า 2 แสนกว่าล้านบาท ไม่ใช่ 2 แสนกว่าล้านตัน ท่านไม่จับให้ตรง ผมพูดเสียงดัง ถ้า IUU (Illegal Unreported and Unregulated fishing หรือ IUU Fishing) ที่เราผิดอยู่นี่ทั้งหมด ค้ามนุษย์ด้วย อะไรด้วย ทางยุโรป ทางอเมริกาเขาบอกว่าเราค้ามนุษย์อยู่ แล้วทำนี่ก็ผิดกฎหมาย ละเมิดน่านน้ำ เขาบอกว่าต่อไปนี้ไม่รับซื้อสินค้าจากไทย เริ่มจากสินค้าประมงก่อน ต่อไปก็เป็นเรื่องที่ผิด ๆ ก็ลากพาไปสู่เรื่องผลไม้ ข้าว ยาง ไปหมด คนเหล่านี้ที่ทำความผิดตรงนี้ ต้องสำนึกตนเอง ทำมานานแล้ว หลายปีแล้ว ทุกรัฐบาลไม่เคยทำได้ รัฐบาลนี้จะทำกับท่าน อย่าหาว่าผมใจร้าย เอาเปรียบคนอื่นเขาได้อย่างไร ผู้ประกอบการบางคนรวยไม่รู้จะรวยอย่างไร มีเรือเป็นสิบ ๆ ลำ ทำตามกฎหมายบ้าง

เราจะจริงจังกับนโยบาย zero tolerance ในทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และก็ทำเต็มที่เพื่อให้ปัญหาค้ามนุษย์หมดไปจากแผ่นดินไทย ต้องไปพูดคุย ไปเจราจาว่าเรากำลังดำเนินการอยู่เป็นขั้นเป็นตอนอย่างนี้ เราไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาที่ยาวนานมาเป็น 10 กว่าปี มาในช่วงเวลาเพียง 7 – 8 เดือนนี้ได้ แล้วที่ผ่านมาทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่แก้ หลายปีมาแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องอีก 

เรื่องค้ามนุษย์ ก็ชอบไปบ่นว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลยต่าง ๆ ทุกเรื่องมีปัญหาไปหมด ลืมไปทั้งหมดแล้ว ก่อน 22 พฤษภาคม 2557 เป็นอย่างไร 

วันนี้จะเดินหน้าไปสู่ความขัดแย้งใหม่อีกแล้ว เรากำหนดให้มีการปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ วาระแห่งชาติคืออะไร ทุกหน่วยงานทุกคน ประชาชนต้องร่วมมือร่วมใจกัน เหมือนกับเรื่องยาเสพติด อะไรทำนองนี้ ใช้กฎหมายบังคับใช้ให้ได้ ต้องเตรียมการต้องมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน และร่วมมือกันกับรัฐบาลเพื่อนบ้านในภูมิภาค

โดยเฉพาะอินโดนีเซีย เมื่อวานผมก็ได้พูดกับสมเด็จพระราชาธิบดีบูรไนด้วยว่า เราจะต้องทำประมงร่วมกัน ฟิลิปปินส์ ใช่ไหม ที่อยู่น่านน้ำแถวนี้ รอบ ๆ บ้านเรา กัมพูชา จะทำกันอย่างไร Joint Venture กันอย่างไร กองเรือเราก็มีมากมาย ต้องรู้จักแบ่งปันบ้าง วันนี้เราเป็นพันธมิตรกัน แข่งขันไม่ได้ เดี๋ยวก็ไปโดนจับ ทะเลาะเบาะแว้งกัน ยิงกันไปยิงกันมาอีก นี่เราก็จับเขาเหมือนกัน แต่เขาจับเรามากกว่า
เรื่องนี้ผมทราบว่าสื่อมวลชนภายในประเทศได้ช่วยกันรายงานหน้าที่เต็มที่ ขอบคุณ

'นายกฯ กลับลำ ขอบคุณสื่อ ช่วยชี้แจงเรื่องค้ามนุษย์ยกเป็นวาระแห่งชาติ เร่งแก้ปีญหาหมักหมมมานาน อย่าหาว่ารัฐบาลไมาทำอะไรเลย เผยปัญหา ก่อน22พค./รายการ คืนความสุขฯ ค่ำ27มีค.ของนายกฯเปลี่ยนฉากหลังเป็น ภาพทะเลตอนพระอาทิตย์ตก ให้เข้ากับ ครม.สัญจร หัวหิน ยาว53นาที

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวในรายการ "คืนความสุขฯ" ถึงเรื่องแรงงานประมง ว่า วันนี้อาจจะมีหลายท่านไม่เข้าใจ ว่ามีปัญหามายาวนานพอสมควรเป็น 10 ปี เรื่องการค้ามนุษย์มีปัญหา ผมได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกกับผม ช่วยดำเนินการในการขับเคลื่อนทางนี้ ในภาคประมงแล้ว

อยากจะเรียนว่า รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องส่งคณะทำงานไปที่เกาะ Benjina แล้วก็หารือกับฝ่ายอินโดนีเซีย เพื่อจะร่วมกันและเร่งหาข้อมูลผู้ประกอบการ และการดำเนินการกับผู้กระทำความผิด คนไทยที่ไปถูกจับที่โน่น ที่ข่าวออกมาเป็นจำนวนมากหลายร้อยคน เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ทยอยทำมาเรื่อย แต่เราไม่อยากประชาสัมพันธ์มาก เพราะคนเหล่านี้ไปทำความผิดในประเทศเขา ใช่ไหม และทุกคนก็เป็นเหยื่อ ต้องถูกองค์กรสิทธิมนุษยชนเข้ามาดู องค์กรระหว่างประเทศมาดู และประเทศต้องรับผิดชอบ ท่านก็ต้องมาบอกเรา ว่าที่ไหนอย่างไร แนะนำตรงไหนเพิ่มเติม เราจะได้ไปหาทางช่วยกันให้ได้ เพราะว่าวันนี้ผมทราบว่า บางทีไปทำงานแล้วถูกจับไปแล้ว เจ้าของผู้ประกอบกิจการไม่สนใจ เขาจับแต่ละไฟท์ เรือมีตั้งหลายลำ ไปเสียค่าไถ่ก็ไม่ยอมเสีย ช่วยลูกเรือก็ไม่ช่วย แล้วโยนให้รัฐบาลดู ครั้งที่ผ่านมา 5 ปี ถูกจับไปที่โซมาเลีย แล้วพึ่งกลับมา เหมือนกับตายไปแล้วเกิดใหม่

เพราะฉะนั้นถ้าเรายังมีการเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์อยู่แบบนี้ ผมกำหนดไปแล้วว่า ไม่สมควรให้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการใด ๆ อีกต่อไปในประเทศไทย และต้องได้รับโทษทางกฎหมาย คือต้องเข้มงวดกัน ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องถูกติดตามประเมินผลด้วย ไม่ว่าจะประมง กรมเจ้าท่า อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องทำให้ครบจดทะเบียน ติดเครื่องมือ และแก้ปัญหาในเรื่องของการทำประมงร่วม Joint Venture กับประเทศโน้นประเทศนี้ ผมก็เดินหน้าเรื่องนี้มาโดยตลอด

 วันนี้ก็เตรียมตัวทำ Joint Venture กับอินโดนีเซีย มีปลามาก แต่เราชอบเข้าไปตรงที่เขาไม่ให้เข้า แล้วมาบอกว่าก็ขอให้ยกเว้นหน่อยแล้วกัน เพราะว่าเป็นอาชีพเขารายได้น้อย แล้วกฎหมายอยู่ตรงไหน ประเทศเขาก็มีกฎหมาย ถ้าผมอนุโลมท่าน ไม่จับกุม ไม่ดำเนินคดี ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แล้วท้ายที่สุดจะเกิดอะไรขึ้น ท่านรู้ไหม เรื่องสินค้าประมง เขาจะมีมาตรการไม่ให้เราขาย วันนั้นผมบอกว่า 2 แสนกว่าล้านบาท ไม่ใช่ 2 แสนกว่าล้านตัน ท่านไม่จับให้ตรง ผมพูดเสียงดัง ถ้า IUU (Illegal Unreported and Unregulated fishing หรือ IUU Fishing) ที่เราผิดอยู่นี่ทั้งหมด ค้ามนุษย์ด้วย อะไรด้วย ทางยุโรป ทางอเมริกาเขาบอกว่าเราค้ามนุษย์อยู่ แล้วทำนี่ก็ผิดกฎหมาย ละเมิดน่านน้ำ เขาบอกว่าต่อไปนี้ไม่รับซื้อสินค้าจากไทย เริ่มจากสินค้าประมงก่อน ต่อไปก็เป็นเรื่องที่ผิด ๆ ก็ลากพาไปสู่เรื่องผลไม้ ข้าว ยาง ไปหมด คนเหล่านี้ที่ทำความผิดตรงนี้ ต้องสำนึกตนเอง ทำมานานแล้ว หลายปีแล้ว ทุกรัฐบาลไม่เคยทำได้ รัฐบาลนี้จะทำกับท่าน อย่าหาว่าผมใจร้าย เอาเปรียบคนอื่นเขาได้อย่างไร ผู้ประกอบการบางคนรวยไม่รู้จะรวยอย่างไร มีเรือเป็นสิบ ๆ ลำ ทำตามกฎหมายบ้าง

เราจะจริงจังกับนโยบาย zero tolerance ในทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และก็ทำเต็มที่เพื่อให้ปัญหาค้ามนุษย์หมดไปจากแผ่นดินไทย ต้องไปพูดคุย ไปเจราจาว่าเรากำลังดำเนินการอยู่เป็นขั้นเป็นตอนอย่างนี้ เราไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาที่ยาวนานมาเป็น 10 กว่าปี มาในช่วงเวลาเพียง 7 – 8 เดือนนี้ได้ แล้วที่ผ่านมาทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่แก้ หลายปีมาแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องอีก 

เรื่องค้ามนุษย์ ก็ชอบไปบ่นว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลยต่าง ๆ ทุกเรื่องมีปัญหาไปหมด ลืมไปทั้งหมดแล้ว ก่อน 22 พฤษภาคม 2557 เป็นอย่างไร 

วันนี้จะเดินหน้าไปสู่ความขัดแย้งใหม่อีกแล้ว เรากำหนดให้มีการปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ วาระแห่งชาติคืออะไร ทุกหน่วยงานทุกคน ประชาชนต้องร่วมมือร่วมใจกัน เหมือนกับเรื่องยาเสพติด อะไรทำนองนี้ ใช้กฎหมายบังคับใช้ให้ได้ ต้องเตรียมการต้องมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน และร่วมมือกันกับรัฐบาลเพื่อนบ้านในภูมิภาค

 โดยเฉพาะอินโดนีเซีย เมื่อวานผมก็ได้พูดกับสมเด็จพระราชาธิบดีบูรไนด้วยว่า เราจะต้องทำประมงร่วมกัน ฟิลิปปินส์ ใช่ไหม ที่อยู่น่านน้ำแถวนี้ รอบ ๆ บ้านเรา กัมพูชา จะทำกันอย่างไร Joint Venture กันอย่างไร กองเรือเราก็มีมากมาย ต้องรู้จักแบ่งปันบ้าง วันนี้เราเป็นพันธมิตรกัน แข่งขันไม่ได้ เดี๋ยวก็ไปโดนจับ ทะเลาะเบาะแว้งกัน ยิงกันไปยิงกันมาอีก นี่เราก็จับเขาเหมือนกัน แต่เขาจับเรามากกว่า
เรื่องนี้ผมทราบว่าสื่อมวลชนภายในประเทศได้ช่วยกันรายงานหน้าที่เต็มที่ ขอบคุณ'