วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
(คลิป)แผนคณะผู้หวังดีเพื่อประเทศชาติ
แนวทางของการล้มระบอบทักษิณ โดยคณะผู้หวังดีต่อชาติ โดยอดีต ผบ.เหล่าทัพ ผ่านการให้สัมภาษณ์ของ "พล.อ.สายหยุด เกิดผล"ปธ.องค์กรกลาง
ตุเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จ.ชลบุรี ฆ่าตัวตายปริศนาคาบ้านพัก
เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จ.ชลบุรี ฆ่าตัวตายปริศนาคาบ้านพัก กระสุนทะลุจากขมับซ้ายไปขวา เบื้องต้น ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือเรื่องงานกับปัญหาส่วนตัว
ร.ต.อ.คณาธิป จันทนาเวช พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี รับแจ้งมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย ภายในบ้านเลขที่ 111/104 ม.2 ต.บ้านกุ่ม อ.เมืองเพชรบุรี พร้อมประสานแพทย์เวรและเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบศพผู้ตายนอนหงายเหยียดตัวบนโซฟาในห้องรับแขก ทราบชื่อคือ พันตำรวจโท เมธี ปรีชา อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จ.ชลบุรี กระสุนปืนเข้าที่ขมับด้านซ้ายทะลุขวา นอกจากนี้ พบปืนพกสั้น ตกอยู่ข้างตัวด้านซ้าย และปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกที่พื้น จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนทราบว่า มีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเมื่อประมาณบ่ายโมงของเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) แต่เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าว อยู่ติดกับค่ายทหาร ซึ่งมีการซ้อมยิงปืนทุกวัน กระทั่งเช้าวันนี้ (2 ก.พ.) ไม่เห็นผู้ตายออกจากบ้าน จึงได้ตะโกนเรียก ก่อนจะเดินเข้าไปดู และพบว่าเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ เครียดเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว โดยจะส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช
และจากการสอบถามญาติ ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ตายถนัดมือขวา แต่พบปืนตกอยู่ทางด้านซ้าย และวิถีกระสุนเข้าขมับซ้ายทะลุขมับขวา จึงขอให้แพทย์ตรวจสอบการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายนั้นไม่ทราบว่าเกิดจากเรื่องใด
ร.ต.อ.คณาธิป จันทนาเวช พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี รับแจ้งมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย ภายในบ้านเลขที่ 111/104 ม.2 ต.บ้านกุ่ม อ.เมืองเพชรบุรี พร้อมประสานแพทย์เวรและเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบศพผู้ตายนอนหงายเหยียดตัวบนโซฟาในห้องรับแขก ทราบชื่อคือ พันตำรวจโท เมธี ปรีชา อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จ.ชลบุรี กระสุนปืนเข้าที่ขมับด้านซ้ายทะลุขวา นอกจากนี้ พบปืนพกสั้น ตกอยู่ข้างตัวด้านซ้าย และปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกที่พื้น จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนทราบว่า มีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเมื่อประมาณบ่ายโมงของเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) แต่เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าว อยู่ติดกับค่ายทหาร ซึ่งมีการซ้อมยิงปืนทุกวัน กระทั่งเช้าวันนี้ (2 ก.พ.) ไม่เห็นผู้ตายออกจากบ้าน จึงได้ตะโกนเรียก ก่อนจะเดินเข้าไปดู และพบว่าเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ เครียดเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว โดยจะส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช
และจากการสอบถามญาติ ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ตายถนัดมือขวา แต่พบปืนตกอยู่ทางด้านซ้าย และวิถีกระสุนเข้าขมับซ้ายทะลุขมับขวา จึงขอให้แพทย์ตรวจสอบการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายนั้นไม่ทราบว่าเกิดจากเรื่องใด
รู้จัก "โกตี๋" ว่าที่เบอร์หนึ่ง "แดงฮาร์ดคอร์" และ "เจ้าพ่อแดงเมืองปทุม"
"เล่ากันให้สนั่นใน “พรรคเพื่อไทย” ว่าเหตุผลที่ “โกตี๋” ออกมาเคลื่อนไหวหนัก เพราะต้องการสร้างผลงานให้เป็นที่ปรากฏ ยิ่งในช่วงที่ “แดงนปช.” ไร้ผลงาน เผื่อ “ผู้มีบารมีตัวจริง” จะหันมา
เหลียวมองคอยเลี้ยงดูปูเสื่อมากยิ่งขึ้น"
ตั้งแต่มีการชุมนุมของ “กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” (กปปส.) นอกจาก “รัฐบาล” ที่เป็นคู่
ขัดแย้งโดยตรงแล้ว “คนเสื้อแดง” ยังคงเป็นคู่ขัดแย้งหนึ่งของกปปส.เช่นกัน ทว่า “แดง” ที่แบ่งออกเป็นหลายเฉดมีแนวทางการเคลื่อนไหวแตกต่างกัน แนวทางการต่อสู้จึงแตกต่างกันไปด้วย
แต่ “แดง” ที่ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษในชั่วโมงนี้หนีไม่พ้น “กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” (นปช.) กับ “แดงฮาร์ดคอร์” “แดงนปช.” นำโดย “ธิดา ถาวรเศรษฐ” ประธาน
นปช. “จตุพร พรหมพันธุ์” แกนนำนปช. “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แกนนำนปช. เป็นต้น ซึ่ง “แดงนปช.” ถือเป็นแดงที่มี “มวลชน-แฟนคลับ” ร่วมเคลื่อนไหวมากที่สุด
ยุทธศาสตร์-ทิศทางการเคลื่อนไหวจะถูกกำหนดจาก “แกนนำ” ก่อนสั่งการลงไปในพื้นที่ เพื่อรวบรวม “มวลชน” มาเคลื่อนไหวในวาระต่างๆ “แดงฮาร์ดคอร์” มีแตกออกเป็นหลายกลุ่ม แต่ที่
เหมือนกันคือจะมีจุดยืนที่ตรงกันข้ามกับ “แดงนปช.” ว่ากันว่ายืนอยู่คนละขั้ว เคลื่อนไหวกันคนละทิศคนละทาง
“แดงฮาร์ดคอร์” ที่ปรากฎชื่อมีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ “ขวัญชัย ไพรพนา” ประธานชมรมคนรักอุดร เคลื่อนไหวหลักในภาคอีสาน ซึ่ง “ขวัญชัย” โดนคนร้ายบุกยิงได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2557
ความเคลื่อนไหวจึงหยุดชะงักไป ตรงกันข้ามกับ “แดงอาร์ดคอร์” สาย “วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ” หรือโกตี๋ ดีเจวิทยุเสื้อแดง ซึ่งใช้สถานีวิทยุเอฟเอ็ม 105.65 จังหวัดปทุมธานี ที่ออกมามีบทบาทคัดค้าน
การชุมนุมของ “กปปส.” ไล่ตั้งแต่เหตุการณ์เผชิญหน้ากับ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” ซึ่งรับผิดชอบเวทีแจ้งวัฒนะ จนมาถึงการปะทะกับผู้ชุมนุม “กปปส.” ที่ไปปิดที่ทำการไปรษณีย์หลักสี่ เพื่อไม่ให้
นำบัตรเลือกตั้งออกมาแจกจ่ายไปยังหน่วยเลือกตั้ง สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงรวบรวมข้อมูลที่มาที่ไปของ “โกตี๋” มาเพื่อทำความรู้จักให้มายิ่งขึ้น
“โกตี๋” ตั้งกลุ่ม “กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย” เมื่อปี 2552 โดยข่าวลับๆระบุว่าได้รับการสนับสนุนจาก “ชูชาติ หาญสวัสดิ์” และบรรดาส.ส.ในจังหวัดปทุมธานี การเคลื่อนไหวของ “กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย”
ในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีบทบาทสำคัญในการยกพลไปล้มการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่โรงแรมรอยัลคลิฟ พัทยา ต่อมาเมื่อปี 2553 ““กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย” ยังเป็นทัพหน้าที่เคลื่อนกำลังบุกยึดสถานีไทยคม ลาดหลุมแก้ว จนเกิดเหตุปะทะกับ “ทหาร”
แต่หลัง “คนเสื้อแดง” ต้องพ่ายแพ้กันกับ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ในการสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ บรรดา “แดงฮาร์ดคอร์” ก็กระจัดกระจายแตกกระเส็นกันไป เช่นเดียวกับ “กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย” ของ “โกตี๋”
ข่าวทางลับระบุว่า ในช่วงที่ “โกตี๋” หนีการไล่ล่าหัวซุกหัวซุน ก็ได้รวบรวมบรรดา “แดงฮาร์ดคอร์” ที่เคยอยู่กับ “พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล” หรือเสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งเสียชีวิตในช่วงการชุมนุมปี 2553 บรรดา “ลูกน้องเสธ.แดง” ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “อดีตทหาร” ไร้ที่พึ่งก็มาอาศัยบารมีของ “โกตี๋” ที่ยังพอมีอยู่บ้างในจังหวัดปทุมธานี ใช้เป็นฐานในการหลบหนีกบดาน
กระทั่งช่วงกลางปี 2554 “โกตี๋” ก็คัมแบ็คกลับมาจัดคลื่นวิทยุ “คนเสื้อแดง” อีกครั้ง พร้อมทั้งได้จัดตั้ง “หมู่บ้านเสื้อแดง” ขึ้นในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์เคลื่อนไหวของ “แดงนปช.”
แต่หมู่บ้านเสื้อแดงของ “โกตี๋” เพราะมั่นใจว่ามี “ลูกน้องฮาร์ดคอร์” ที่พอใช้งานใช้การได้ “โกตี๋” จึงประกาศตัวเคลื่อนไหวอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับ “แดงนปช.” หรือขึ้นตรงกับหมู่บ้านคนเสื้อแดงอื่นในจังหวัดปทุมธานี โดย “โกตี๋” ยังโจมตีไปยัง “แดงนปช.” ว่าไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ “แดงฮาร์ดคอร์” ที่โดน “ขั้วตรงข้าม” ไล่ล่าไล่บี้จนเกือบตาย
แต่ “โกตี๋” ก็ยังมีคอนเนคชั่นกับ “พรรคเพื่อไทย” อยู่บ้าง เพราะสนิทสนมกับ “พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์” อดีตข้าราชการการเมืองสำนักนายกรัฐมนตรี “ชินวัฒน์ หาบุญพาด” อดีตส.ส.ปาตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย “พายัพ ปั้นเกตุ” อดีตส.ส.ปาตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ “โกตี๋” ยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) โดยมีรูป “โกตี๋” ถ่ายคู่กับ “บิ๊กแจ๊ส” ปรากฏลงเฟซบุ๊กของ “โกตี๋ แดงนอกคอก” มาแล้ว
ทั้งนี้ก่อนการชุมนุมของ “กปปส.” เป็นกลุ่มของ “โกตี๋” ที่นำ “มวลชน” ไปต่อต้านเวทีผ่าความจริง ของ “พรรคประชาธิปัตย์” ซึ่งจัดขึ้นในย่ายกทม.และปริมณฑล จนเกือบมีการปะทะกันหลายครั้ง
เล่ากันให้สนั่น “พรรคเพื่อไทย” ว่าเหตุผลที่ “โกตี๋” ออกมาเคลื่อนไหวหนัก เพราะต้องการสร้างผลงานให้เป็นที่ปรากฏ ยิ่งในช่วงที่ “แดงนปช.” ไร้ผลงาน เผื่อ “ผู้มีบารมีตัวจริง” จะหันมาเหลียวมองคอยเลี้ยงดูปูเสื่อมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญส่งผลกระทบชิ่งให้บรรดา “นาย” ของ “โกตี๋” ได้ผลประโยชน์ไปด้วย ทั้งหมดคือความเป็นมาของ “โกตี๋” ว่าที่เบอร์หนึ่ง "แดงฮาร์ดคอร์" และ "เจ้าพ่อแดงเมือง
ปทุม"
เหลียวมองคอยเลี้ยงดูปูเสื่อมากยิ่งขึ้น"
ตั้งแต่มีการชุมนุมของ “กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” (กปปส.) นอกจาก “รัฐบาล” ที่เป็นคู่
ขัดแย้งโดยตรงแล้ว “คนเสื้อแดง” ยังคงเป็นคู่ขัดแย้งหนึ่งของกปปส.เช่นกัน ทว่า “แดง” ที่แบ่งออกเป็นหลายเฉดมีแนวทางการเคลื่อนไหวแตกต่างกัน แนวทางการต่อสู้จึงแตกต่างกันไปด้วย
แต่ “แดง” ที่ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษในชั่วโมงนี้หนีไม่พ้น “กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” (นปช.) กับ “แดงฮาร์ดคอร์” “แดงนปช.” นำโดย “ธิดา ถาวรเศรษฐ” ประธาน
นปช. “จตุพร พรหมพันธุ์” แกนนำนปช. “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แกนนำนปช. เป็นต้น ซึ่ง “แดงนปช.” ถือเป็นแดงที่มี “มวลชน-แฟนคลับ” ร่วมเคลื่อนไหวมากที่สุด
ยุทธศาสตร์-ทิศทางการเคลื่อนไหวจะถูกกำหนดจาก “แกนนำ” ก่อนสั่งการลงไปในพื้นที่ เพื่อรวบรวม “มวลชน” มาเคลื่อนไหวในวาระต่างๆ “แดงฮาร์ดคอร์” มีแตกออกเป็นหลายกลุ่ม แต่ที่
เหมือนกันคือจะมีจุดยืนที่ตรงกันข้ามกับ “แดงนปช.” ว่ากันว่ายืนอยู่คนละขั้ว เคลื่อนไหวกันคนละทิศคนละทาง
“แดงฮาร์ดคอร์” ที่ปรากฎชื่อมีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ “ขวัญชัย ไพรพนา” ประธานชมรมคนรักอุดร เคลื่อนไหวหลักในภาคอีสาน ซึ่ง “ขวัญชัย” โดนคนร้ายบุกยิงได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2557
ความเคลื่อนไหวจึงหยุดชะงักไป ตรงกันข้ามกับ “แดงอาร์ดคอร์” สาย “วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ” หรือโกตี๋ ดีเจวิทยุเสื้อแดง ซึ่งใช้สถานีวิทยุเอฟเอ็ม 105.65 จังหวัดปทุมธานี ที่ออกมามีบทบาทคัดค้าน
การชุมนุมของ “กปปส.” ไล่ตั้งแต่เหตุการณ์เผชิญหน้ากับ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” ซึ่งรับผิดชอบเวทีแจ้งวัฒนะ จนมาถึงการปะทะกับผู้ชุมนุม “กปปส.” ที่ไปปิดที่ทำการไปรษณีย์หลักสี่ เพื่อไม่ให้
นำบัตรเลือกตั้งออกมาแจกจ่ายไปยังหน่วยเลือกตั้ง สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงรวบรวมข้อมูลที่มาที่ไปของ “โกตี๋” มาเพื่อทำความรู้จักให้มายิ่งขึ้น
“โกตี๋” ตั้งกลุ่ม “กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย” เมื่อปี 2552 โดยข่าวลับๆระบุว่าได้รับการสนับสนุนจาก “ชูชาติ หาญสวัสดิ์” และบรรดาส.ส.ในจังหวัดปทุมธานี การเคลื่อนไหวของ “กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย”
ในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีบทบาทสำคัญในการยกพลไปล้มการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่โรงแรมรอยัลคลิฟ พัทยา ต่อมาเมื่อปี 2553 ““กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย” ยังเป็นทัพหน้าที่เคลื่อนกำลังบุกยึดสถานีไทยคม ลาดหลุมแก้ว จนเกิดเหตุปะทะกับ “ทหาร”
แต่หลัง “คนเสื้อแดง” ต้องพ่ายแพ้กันกับ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ในการสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ บรรดา “แดงฮาร์ดคอร์” ก็กระจัดกระจายแตกกระเส็นกันไป เช่นเดียวกับ “กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย” ของ “โกตี๋”
ข่าวทางลับระบุว่า ในช่วงที่ “โกตี๋” หนีการไล่ล่าหัวซุกหัวซุน ก็ได้รวบรวมบรรดา “แดงฮาร์ดคอร์” ที่เคยอยู่กับ “พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล” หรือเสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งเสียชีวิตในช่วงการชุมนุมปี 2553 บรรดา “ลูกน้องเสธ.แดง” ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “อดีตทหาร” ไร้ที่พึ่งก็มาอาศัยบารมีของ “โกตี๋” ที่ยังพอมีอยู่บ้างในจังหวัดปทุมธานี ใช้เป็นฐานในการหลบหนีกบดาน
กระทั่งช่วงกลางปี 2554 “โกตี๋” ก็คัมแบ็คกลับมาจัดคลื่นวิทยุ “คนเสื้อแดง” อีกครั้ง พร้อมทั้งได้จัดตั้ง “หมู่บ้านเสื้อแดง” ขึ้นในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์เคลื่อนไหวของ “แดงนปช.”
แต่หมู่บ้านเสื้อแดงของ “โกตี๋” เพราะมั่นใจว่ามี “ลูกน้องฮาร์ดคอร์” ที่พอใช้งานใช้การได้ “โกตี๋” จึงประกาศตัวเคลื่อนไหวอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับ “แดงนปช.” หรือขึ้นตรงกับหมู่บ้านคนเสื้อแดงอื่นในจังหวัดปทุมธานี โดย “โกตี๋” ยังโจมตีไปยัง “แดงนปช.” ว่าไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ “แดงฮาร์ดคอร์” ที่โดน “ขั้วตรงข้าม” ไล่ล่าไล่บี้จนเกือบตาย
แต่ “โกตี๋” ก็ยังมีคอนเนคชั่นกับ “พรรคเพื่อไทย” อยู่บ้าง เพราะสนิทสนมกับ “พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์” อดีตข้าราชการการเมืองสำนักนายกรัฐมนตรี “ชินวัฒน์ หาบุญพาด” อดีตส.ส.ปาตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย “พายัพ ปั้นเกตุ” อดีตส.ส.ปาตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ “โกตี๋” ยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) โดยมีรูป “โกตี๋” ถ่ายคู่กับ “บิ๊กแจ๊ส” ปรากฏลงเฟซบุ๊กของ “โกตี๋ แดงนอกคอก” มาแล้ว
ทั้งนี้ก่อนการชุมนุมของ “กปปส.” เป็นกลุ่มของ “โกตี๋” ที่นำ “มวลชน” ไปต่อต้านเวทีผ่าความจริง ของ “พรรคประชาธิปัตย์” ซึ่งจัดขึ้นในย่ายกทม.และปริมณฑล จนเกือบมีการปะทะกันหลายครั้ง
เล่ากันให้สนั่น “พรรคเพื่อไทย” ว่าเหตุผลที่ “โกตี๋” ออกมาเคลื่อนไหวหนัก เพราะต้องการสร้างผลงานให้เป็นที่ปรากฏ ยิ่งในช่วงที่ “แดงนปช.” ไร้ผลงาน เผื่อ “ผู้มีบารมีตัวจริง” จะหันมาเหลียวมองคอยเลี้ยงดูปูเสื่อมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญส่งผลกระทบชิ่งให้บรรดา “นาย” ของ “โกตี๋” ได้ผลประโยชน์ไปด้วย ทั้งหมดคือความเป็นมาของ “โกตี๋” ว่าที่เบอร์หนึ่ง "แดงฮาร์ดคอร์" และ "เจ้าพ่อแดงเมือง
ปทุม"
18คะแนน!พท.ชนะเป็นว่าที่ส.ส.เมืองคอน
18คะแนน!'อารีย์ ไกรนรา' อดีตหัวหน้าการ์ด นปช. ผู้สมัครส.ส.เมืองคอน พรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้งเป็นว่าที่ส.ส.
2ก.พ.2557 เมื่อเวลา 16.30 น. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สรุปผลการเลือกตั้งหลังสิ้นสุดเวลาปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 15.00 น. ปรากฏว่า มีหน่วยเลือกตั้งที่สามารถนับคะแนนได้ จำนวน 23 หน่วยเลือกตั้งใน 3 เขตเลือกตั้ง คือ เขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 3 หน่วย เขตเลือกตั้งที่ 6 จำนวน 1 หน่วย และเขตเลือกตั้งที่ 9 จำนวน 19 หน่วย ส่วนอีก 6 เขตคือเขต 2,3,4,7,8 ไม่สามารถเปิดหน่วยเลือกตั้งได้ตั้งแต่ต้น ขณะที่เขต 5 สามารถเปิดได้ 2 หน่วย แต่ต้องงดการลงคะแนนโดยมีผู้มาใช้สิทธิเพียง 2 คน
สำหรับหน่วยเลือกตั้งจำนวน 1 หน่วยของเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่สามารถนับคะแนนได้นั้น ผู้สมัครคือ นายอารีย์ ไกรนรา จากพรรคเพื่อไทย และนายสมชาย ลิ่มพันธ์ จากพรรคชาติไทยพัฒนา พบว่ามีผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพียง 40 คน จากผู้มีสิทธิ จำนวน 909 คน บัตรดี 18 บัตร บัตรเสีย 8 บัตร และไม่ประสงค์ลงคะแนน 14 บัตร โดยมีนายอารีย์ ไกรนรา หมายเลข 15 พรรคเพื่อไทย หัวหน้าการ์ด นปช. ได้ 18 คะแนน และ ผู้สมัครหมายเลข 14 พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้คะแนน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครศรีธรรมราชได้รายงานผลการเลือกตั้งส.ส.จ.นครศรีธรรมราชว่า ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 นายนิภาภูเบศวร์ ฝั่งชลจิตต์ พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 6 นายอารีย์ ไกรนรา พรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนนดังกล่าว เขตเลือกตั้งที่ 9 นายวิภาค ศรีจันทร์ พรรคเพื่อไทย
พรรคพลังสหกรณ์ได้1ที่นั่งนราธิวาส
ผลการเลือกตั้งส.ส.จังหวัดนราธิวาส 4 เขตเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ผู้ชนะการเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 นายวัชระ ยาวอหะซัน พรรคชาติไทยพัฒนา เขตเลือกตั้งที่ 2 นายมะดาโอะ อาแซ พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 3 นายกูเฮง ยาวอหะซัน พรรคชาติไทยพัฒนา เขตเลือกตั้งที่ 4 นายสุกรี มะเต๊ะ พรรคพลังสหกรณ์
@ยูซากุ..
http://www.komchadluek.net/detail/20140202/178102.html
2ก.พ.2557 เมื่อเวลา 16.30 น. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สรุปผลการเลือกตั้งหลังสิ้นสุดเวลาปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 15.00 น. ปรากฏว่า มีหน่วยเลือกตั้งที่สามารถนับคะแนนได้ จำนวน 23 หน่วยเลือกตั้งใน 3 เขตเลือกตั้ง คือ เขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 3 หน่วย เขตเลือกตั้งที่ 6 จำนวน 1 หน่วย และเขตเลือกตั้งที่ 9 จำนวน 19 หน่วย ส่วนอีก 6 เขตคือเขต 2,3,4,7,8 ไม่สามารถเปิดหน่วยเลือกตั้งได้ตั้งแต่ต้น ขณะที่เขต 5 สามารถเปิดได้ 2 หน่วย แต่ต้องงดการลงคะแนนโดยมีผู้มาใช้สิทธิเพียง 2 คน
สำหรับหน่วยเลือกตั้งจำนวน 1 หน่วยของเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่สามารถนับคะแนนได้นั้น ผู้สมัครคือ นายอารีย์ ไกรนรา จากพรรคเพื่อไทย และนายสมชาย ลิ่มพันธ์ จากพรรคชาติไทยพัฒนา พบว่ามีผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพียง 40 คน จากผู้มีสิทธิ จำนวน 909 คน บัตรดี 18 บัตร บัตรเสีย 8 บัตร และไม่ประสงค์ลงคะแนน 14 บัตร โดยมีนายอารีย์ ไกรนรา หมายเลข 15 พรรคเพื่อไทย หัวหน้าการ์ด นปช. ได้ 18 คะแนน และ ผู้สมัครหมายเลข 14 พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้คะแนน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครศรีธรรมราชได้รายงานผลการเลือกตั้งส.ส.จ.นครศรีธรรมราชว่า ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 นายนิภาภูเบศวร์ ฝั่งชลจิตต์ พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 6 นายอารีย์ ไกรนรา พรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนนดังกล่าว เขตเลือกตั้งที่ 9 นายวิภาค ศรีจันทร์ พรรคเพื่อไทย
พรรคพลังสหกรณ์ได้1ที่นั่งนราธิวาส
ผลการเลือกตั้งส.ส.จังหวัดนราธิวาส 4 เขตเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ผู้ชนะการเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 นายวัชระ ยาวอหะซัน พรรคชาติไทยพัฒนา เขตเลือกตั้งที่ 2 นายมะดาโอะ อาแซ พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 3 นายกูเฮง ยาวอหะซัน พรรคชาติไทยพัฒนา เขตเลือกตั้งที่ 4 นายสุกรี มะเต๊ะ พรรคพลังสหกรณ์
@ยูซากุ..
http://www.komchadluek.net/detail/20140202/178102.html
สุขุมพันธุ์เผยทุกข์ทรมานอยากเป็นอิสระ-ต้องไปเลือกตั้งเพราะ กม.บังคับ
สุขุมพันธุ์เผยทุกข์ทรมานอยากเป็นอิสระ-ต้องไปเลือกตั้งเพราะ กม.บังคับ
Sun, 2014-02-02 11:47
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เผยจะไปเลือกตั้งเพราะกฎหมายเลือกตั้งบังคับ จำเป็นต้องไปใช้สิทธิ-ยอมให้ถูกตัดสิทธิไม่ได้ต้องรับใช้พี่น้อง กทม. ต่อไป อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกคนรู้ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์อยู่ข้างสถาบันพระมหากษัตริย์-ประชาชน และหัวใจอยู่ข้างผู้ไม่ไปเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (2 ก.พ. 57) ม.ร.ว.สุขุมพันธฺุ์ บริพัตร ได้โพสต์สเตตัสในเฟซบุ๊คระบุว่าจะไปเลือกตั้ง ระบุว่า
"คาดว่ามีพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก จะไม่ไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง หัวใจผมอยู่กับท่านครับ
ผมตั้งใจจะไม่ไปใช้สิทธิ์มาโดยตลอด แต่ผมพึ่งทราบเรื่องข้อกฎหมาย [พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาตรา 45 (10) ] ซึ่งบังคับให้ผู้บริหารท้องถิ่น ต้องไม่ขาดคุณสมบัติสำคัญ รวมถึงความจำเป็นที่้ต้องไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง เพราะเคยเป็นคดีแล้ว ที่ผู้บริหารท้องถิ่นโดนตัดสิทธิ์ในการดำรงตำแหน่ง เพราะไม่ไปเลือกตั้ง
ดังนั้นด้วยเหตุนี้ ผมจึงมีความจำเป็น ต้องไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง ผมอยากเป็นอิสระเหมือนพี่น้องประชาชนครับ ผมไม่มีความสุข ผมทรมาน ผมยอมให้ถูกตัดสิทธิ์ไม่ได้ครับ ผมต้องรับใช้พี่น้องประชาชนในฐานะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต่อไป เพราะเป็นสิทธิ์ที่พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครได้กรุณามอบให้ผม และเป็นภารกิจทั้งศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ ผมนึกถึงพี่น้องร่วมอุดมการณ์ทุกคน
สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้ทุกท่านรู้ ผมอยู่กับสถาบันฯ และเคียงข้างพี่น้องประชาชน ซึ่งหมายความว่า...ต้องปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ง"
อนึ่งก่อนหน้านี้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าจะไม่ไปเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญไม่อาจบรรลุวัตถุประสงค์ของการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยได้ (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)
ขณะที่ล่าสุดในวันนี้ (2 ก.พ.) มีรายงานว่า ผอ.เขตราชเทวี ประกาศยกเลิกการลงคะแนนทั้งเขต ทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ซึ่งมีรายชื่ออยู่ในหน่วยเลือกตั้งที่ 4 หมดโอกาสมาใช้สิทธิเลือกตั้งตามที่โพสต์ในเฟซบุ๊ค
กกต.ขอบคุณผู้มาเลือกตั้ง เปิดหน่วยเลือกตั้งได้ 89.2% แต่ยังไม่ประกาศคะแนนรวม
ประธาน กกต. แถลงขอบคุณผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง-ทุกฝ่ายที่จัดเลือกตั้ง เผยวันนี้ลงคะแนนได้ 89,813 หน่วย หรือ 89.2% งดลงคะแนนทั้งหมด 9 จังหวัด งดบางส่วน 9 จังหวัด รวม 69 เขต ส.ส. แต่ไม่สามารถประกาศคะแนนรวมทั้งประเทศได้ เพราะต้องรอผลเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งนอกประเทศ
กกต.ขอบคุณทุกคนที่มาเลือกตั้ง เผยจัดเลือกตั้งทั่วประเทศได้ 8.3 หมื่นหน่วย
2 ก.พ. 2557 - เมื่อเวลา 16.00 น. นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง แถลงสรุปสถานการณ์การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ว่า จากจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 93,952 หน่วย สามารถเปิดลงคะแนนได้ 83,813 หน่วย คิดเป็น 89.2% จาก 77 จังหวัด งดลงคะแนน 18 จังหวัด โดยงดทั้งจังหวัด 9 จังหวัด งดบางส่วน 9 จังหวัด รวม 69 เขต แบ่งเป็นงดทั้งหมด 37 เขต งดบางหน่วย 32 หน่วย
ทั้งนี้ประธาน กกต. ระบุว่า ยังไม่สามารถประกาศคะแนนภาพรวมทั้งประเทศ ตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญ และสภาผู้แทนราษฎร และระเบียบ กกต. กำหนดให้ผลคะแนนต้อง 3 ส่วน ผลนับคะแนนของหน่วย ผลนับคะแนนการเลือกตั้งล่วงหน้า และผลเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร แต่เมื่อ 26 ม.ค. ไม่สามารถใช้สิทธิได้ เร่งศึกษาหมายและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อลงจัดการคะแนนใหม่มดแทน 25 ม.ค. คาด 23 ก.พ. และเตรียมประชุมกรณี 28 เขตยังไม่มีผู้รับสมัครส.ส.ระบบเขต
ตอนท้ายของการแถลงข่าว กกต.ขอบคุณผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยความร่วมมือนั้นทำให้สถานการณ์ในวันนี้ไร้เหตุรุนแรง ขอบคุณ กกต.จังหวัด กกต.ประจำเขต-หน่วย และผู้เกี่ยวข้องทุกระดับ หน่วยงาน รัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อดทนอดกลั้นจัดเลือกตั้งครั้งนี้ ยืนยันขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กกต. จะมุ่งม่นนำพาประเทศชาติออกจากวิกฤต ซื่อสัตย์ สุจริต ยึดกฎหมาย และเป็นกลางการเมือง ไม่หวั่นไหวสถานการณ์ใด เพื่อจัดการเลือกตั้งได้สุจริต เที่ยงธรรม สมตามเจนตนารัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
อ่านรายงาน เหตุยิงกันที่หลักสี่ จาก อาจารย์ ดร. ครรชิต ผิวนวล เพื่อนผมที่อยู่ในแนวกระสุน !
อ่านรายงาน เหตุยิงกันที่หลักสี่ จาก อาจารย์ ดร. ครรชิต ผิวนวล เพื่อนผมที่อยู่ในแนวกระสุน !
.. มาถึงจุดนี้ .. ผมจะเล่าสิ่งที่แปลกประหลาดคือ .. ดูเหมือนจะมีคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่สวมชุดตำรวจแอบอยู่หลังร้านและข้างในร้านขาย Pizza หน้าตึก IT Square .. เรื่องนี้ก็แปลก คือ ตำรวจเหล่านี้แอบอยู่ในร้านดีๆ แต่กลับพยายามจะออกมาจากร้าน .. ใช้ปืนยิงคล้ายๆจะเบิกทาง ยิงขึ้นที่สูง .. ก็พวกผู้ชุมนุมอยู่ข้างล่าง ริมถนน แล้วมันยิงใครครับ .. แถมเวลาวิ่งหนี ก็รวดเร็วมาก มีม้วนหน้า .. กลุ่มคนเหล่านี้ (ไม่ทราบตำรวจจริงหรือปลอม) หลบเข้าไปในตึก IT .. ก็ไม่รู้ว่าหลบหนีใคร .. แต่รับรองไม่ใช่แค่ปืนสั้นในหมู่พวกเราแน่
.. จากนั้นก็เริ่มมีเสียงปืนยาวยิงจากตึกถัดจากตึก IT ไปด้านหลัง .. เสียงนี้ซิครับ มันน่ากลังขึ้นมาจริงๆ เพราะเสียงเหมือนปืน SK แต่ก็ไม่รู้ว่า ยิงไปทิศทางไหน .. ตอนมีเสียงปืนยิงโต้ตอบประปราย แต่กลับเริ่มมีผู้โดนกระสุนได้รับบาดเจ็บ .. โดยเฉพาะชาวบ้าน .. ไม่ใช่ผู้ชุมนุมนะครับ .. เหตุผลหนึ่งก็คือ ชาวบ้านเหล่านี้ ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้หลบ .. และส่วนใหญ่เป็นหญิง ไม่รู้ว่ากำลังยิงกันอยู่ แล้วที่ยิงกันน่ะ ปืนจริง .. ที่จุดนี้ที่เราเริ่มเห็นว่า มั่วแล้ว
.. คนผูกแขนเขียวใช้อาวุธ .. แต่ไม่น่าจะใช่คนที่มาด้วยกัน .. ไม่ใช่การ์ด .. คนพวกนี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวกเรา แต่เดินเหินอย่างปลอดโปร่ง เหมือนไม่กลัวอาวุธ
.. หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ค่อยๆบรรเทาลง .. เริ่มมีทหาร ซึ่งไม่พกอาวุธ เข้ามาช่วยเหลือผู้ชุมนุมที่ค้างอยู่บริเวณสถานีรถไฟบ้าง แอบอยู่บริเวณร้านซ่อมรถเล็กๆตรงข้าม IT Square บ้าง .. ทหารเหล่านี้แม้ไม่มีอาวุธแต่ก็ไม่ได้มีท่าทางเกรงกลัวใดๆ .. พร้อมกันนั้นการ์ดผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งก็ทยอยเข้าไปรับ .. เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นราว 1-2 ชัวโมง .. ทหารพยายามที่จะไปเคลียร์พื้นที่ .. แต่คงจะยาก เพราะมีพื้นที่ให้อันธพาลหลบซ่อนได้เยอะเหลือเกิน .. จึงมีเหตุการณ์ .. ชาวบ้านโดนลอบยิงตอนกลางคืน
.. ในฐานะคนในเหตุการณ์ แต่ไม่มีประสบการณ์มากนัก .. คนพวกนี้ ที่ยิงกันไปมา .. น่าจะเป็นพวกเดียวกัน .. ทหารที่เข้าเคลียร์พื้นที่ ที่มีอาวุธครับ แต่เชี่ยวชาญสถานการณ์มาก มองไม่เห็นตัวเลย แต่มีการส่งข่าวสารกับนายทหารที่อยู่ข้างนอกตลอดเวลา .. ทหารใช้ Drone อย่างมีประสิทธิภาพ .. แผนที่ในมือนายทหารเหล่านี้ละเอียดละออมาก จนน่าจะเชื่อได้ว่า มีการเตรียมการไว้โดยละเอียด
.. ครับ .. เพื่อนๆ ในหมู่ผู้ชุมนุมมีผู้คนมากมาย คนเป็นพัน เป็นหมื่น ยากที่จะรู้ว่ามาจากที่ไหนกันบ้าง .. แต่การชุมนุมครั้งนี้มีคนหนุ่มสาวเยอะมาก .. คนพวกนี้น่าจะเป็นทั้งทหารและตำรวจที่เข้ามาสืบข่าว และรับรู้สถานการณ์
.. งานนี้อันธพาลโดนตลบหลังอย่างจัง และเจ็บปวด .... "
.. มาถึงจุดนี้ .. ผมจะเล่าสิ่งที่แปลกประหลาดคือ .. ดูเหมือนจะมีคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่สวมชุดตำรวจแอบอยู่หลังร้านและข้างในร้านขาย Pizza หน้าตึก IT Square .. เรื่องนี้ก็แปลก คือ ตำรวจเหล่านี้แอบอยู่ในร้านดีๆ แต่กลับพยายามจะออกมาจากร้าน .. ใช้ปืนยิงคล้ายๆจะเบิกทาง ยิงขึ้นที่สูง .. ก็พวกผู้ชุมนุมอยู่ข้างล่าง ริมถนน แล้วมันยิงใครครับ .. แถมเวลาวิ่งหนี ก็รวดเร็วมาก มีม้วนหน้า .. กลุ่มคนเหล่านี้ (ไม่ทราบตำรวจจริงหรือปลอม) หลบเข้าไปในตึก IT .. ก็ไม่รู้ว่าหลบหนีใคร .. แต่รับรองไม่ใช่แค่ปืนสั้นในหมู่พวกเราแน่
.. จากนั้นก็เริ่มมีเสียงปืนยาวยิงจากตึกถัดจากตึก IT ไปด้านหลัง .. เสียงนี้ซิครับ มันน่ากลังขึ้นมาจริงๆ เพราะเสียงเหมือนปืน SK แต่ก็ไม่รู้ว่า ยิงไปทิศทางไหน .. ตอนมีเสียงปืนยิงโต้ตอบประปราย แต่กลับเริ่มมีผู้โดนกระสุนได้รับบาดเจ็บ .. โดยเฉพาะชาวบ้าน .. ไม่ใช่ผู้ชุมนุมนะครับ .. เหตุผลหนึ่งก็คือ ชาวบ้านเหล่านี้ ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้หลบ .. และส่วนใหญ่เป็นหญิง ไม่รู้ว่ากำลังยิงกันอยู่ แล้วที่ยิงกันน่ะ ปืนจริง .. ที่จุดนี้ที่เราเริ่มเห็นว่า มั่วแล้ว
.. คนผูกแขนเขียวใช้อาวุธ .. แต่ไม่น่าจะใช่คนที่มาด้วยกัน .. ไม่ใช่การ์ด .. คนพวกนี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวกเรา แต่เดินเหินอย่างปลอดโปร่ง เหมือนไม่กลัวอาวุธ
.. หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ค่อยๆบรรเทาลง .. เริ่มมีทหาร ซึ่งไม่พกอาวุธ เข้ามาช่วยเหลือผู้ชุมนุมที่ค้างอยู่บริเวณสถานีรถไฟบ้าง แอบอยู่บริเวณร้านซ่อมรถเล็กๆตรงข้าม IT Square บ้าง .. ทหารเหล่านี้แม้ไม่มีอาวุธแต่ก็ไม่ได้มีท่าทางเกรงกลัวใดๆ .. พร้อมกันนั้นการ์ดผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งก็ทยอยเข้าไปรับ .. เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นราว 1-2 ชัวโมง .. ทหารพยายามที่จะไปเคลียร์พื้นที่ .. แต่คงจะยาก เพราะมีพื้นที่ให้อันธพาลหลบซ่อนได้เยอะเหลือเกิน .. จึงมีเหตุการณ์ .. ชาวบ้านโดนลอบยิงตอนกลางคืน
.. ในฐานะคนในเหตุการณ์ แต่ไม่มีประสบการณ์มากนัก .. คนพวกนี้ ที่ยิงกันไปมา .. น่าจะเป็นพวกเดียวกัน .. ทหารที่เข้าเคลียร์พื้นที่ ที่มีอาวุธครับ แต่เชี่ยวชาญสถานการณ์มาก มองไม่เห็นตัวเลย แต่มีการส่งข่าวสารกับนายทหารที่อยู่ข้างนอกตลอดเวลา .. ทหารใช้ Drone อย่างมีประสิทธิภาพ .. แผนที่ในมือนายทหารเหล่านี้ละเอียดละออมาก จนน่าจะเชื่อได้ว่า มีการเตรียมการไว้โดยละเอียด
.. ครับ .. เพื่อนๆ ในหมู่ผู้ชุมนุมมีผู้คนมากมาย คนเป็นพัน เป็นหมื่น ยากที่จะรู้ว่ามาจากที่ไหนกันบ้าง .. แต่การชุมนุมครั้งนี้มีคนหนุ่มสาวเยอะมาก .. คนพวกนี้น่าจะเป็นทั้งทหารและตำรวจที่เข้ามาสืบข่าว และรับรู้สถานการณ์
.. งานนี้อันธพาลโดนตลบหลังอย่างจัง และเจ็บปวด .... "
ผลการปะทะ หลักสี่เลือด1/2/57 รายงานจากฝั่งตรงข้ามแดง
ผลการปะทะทีแยกหลักสี่วานนี้.
ฝ่ายโกตี๋ ตาย 5 ,บาดเจ็บ 17, ICU 4
ฝ่าย กปปส. บาดเจ็บ 6
ฝ่ายโกตี๋ ตาย 5 ,บาดเจ็บ 17, ICU 4
ฝ่าย กปปส. บาดเจ็บ 6
ยุบเวทีลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยฯรวมตัวลุมพินีหวั่นเหตุร้ายมวลชน
2 ก.พ.57 เมื่อเวลา 18.30 น. นายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส. รับผิดชอบเวที 5 แยกลาดพร้าว เปิดเผย ว่า ที่ประชุม กปปส. มีมติห้ย้ายเวทีลาดพร้าวและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปรวมกับเวทีสวนลุมพินี เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจากสถานการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. จะเดินทางมารับผู้ชุมนุมจากเวทีลาดพร้าวด้วยตนเองในเวลา 09.00 น. แล้วเดินเท้าเป็นขบวนไปเวทีอนุสาวรีย์ชัยฯเพื่อรับผู้ชุมนุมเพื่อไปยังสวนลุมต่อไป โดยใช้เส้นทางพหลโยธิน ส่วนเวที กปปส. แจ้งวัฒนะ นายสุเทพ เตรียมเจรจากับหลวงปู่พุทธอิสระเพื่อขอให้ย้ายไปอยู่ด้วยกันที่เวทีสวนลุม แต่ถ้าหลวงปู่ไม่ย้ายคงจะไปบังคับไม่ได้ ทั้งนี้ มั่นใจว่า การเดินขบวนใหญ่ของสองเวทีจะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าวนายอิสสระได้ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวชื่นชมกลุ่มข้าราชการที่ได้ออกมาร่วมกับกลุ่ม กปปส. โดยยังไม่มีการประกาศแจ้งผู้ชุมนุมว่าจะมีการย้ายเวที ซึ่งผู้ชุมนุมยังคงฟังการปราศรัยและชมการแสดงบนเวทีเต็มพื้นที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับการชุมนุม กปปส.ลาดพร้าว ได้มีการจัดตั้งเวทีชัตดาวน์ กทม.ตั้งแต่ 12 ม.ค. จนถึง 2 ก.พ.รวมเวลา 22 วัน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีเหตุคนร้ายพยายามที่จะสร้างความวุ่นวายต่างๆ เช่น การปาประทัดยักษ์จากสะพานข้ามแยกลาดพร้าวในช่วงดึก การยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าวนายอิสสระได้ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวชื่นชมกลุ่มข้าราชการที่ได้ออกมาร่วมกับกลุ่ม กปปส. โดยยังไม่มีการประกาศแจ้งผู้ชุมนุมว่าจะมีการย้ายเวที ซึ่งผู้ชุมนุมยังคงฟังการปราศรัยและชมการแสดงบนเวทีเต็มพื้นที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับการชุมนุม กปปส.ลาดพร้าว ได้มีการจัดตั้งเวทีชัตดาวน์ กทม.ตั้งแต่ 12 ม.ค. จนถึง 2 ก.พ.รวมเวลา 22 วัน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีเหตุคนร้ายพยายามที่จะสร้างความวุ่นวายต่างๆ เช่น การปาประทัดยักษ์จากสะพานข้ามแยกลาดพร้าวในช่วงดึก การยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม
กปปส.ปัดเหตุรุนแรงที่หลักสี่ไม่ใช่ฝีมือการ์ด กปปส. อ้าง′ผ้าเขียว′ไม่ใช่เครื่องหมายแสดงตนของการ์ด
กปปส.ปัดเหตุรุนแรงที่หลักสี่ไม่ใช่ฝีมือการ์ด กปปส. อ้าง′ผ้าเขียว′ไม่ใช่เครื่องหมายแสดงตนของการ์ด
เมื่อเวลา 15.50 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่เวทีปทุมวัน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. แถลงว่า ขอประณามการกระทำของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.ที่ออกมาประกาศชัยชนะ ท่ามกลางการเลือกตั้งที่มีความรุนแรง เพราะนี่เป็นการยั่วยุและอาจเป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่ความรุนแรงได้ เพราะเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาเวลาเกิดเหตุความรุนแรง ศรส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่พยายามที่จะดูแลความปลอดภัย หรือป้องกันไม่เกิดเหตุความรุนแรงกับผู้ชุมนุมที่ออกมาชุมนุมอย่างสันติ ปราศจากอาวุธ และหลายเหตุการณ์ปรากฏหลักฐานภาพผู้ก่อเหตุชัดเจน แต่ก็ไม่ขยายผลจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และล่าสุดเหตุการณ์ที่แยกหลักสี่ พระพุทธะอิสระได้นำประชาชนไปปักหลักชุมนุมอย่างสันติที่สำนักงานแขตหลักสี่ แต่นายโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดง กลับปลุกระดมคนเสื้อแดงมาล้อมทำร้ายจนเกิดเหตุประทะกัน กลุ่มคนเสื้อแดงใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ประชาชน แต่เหตุที่เกิดขึ้นตำรวจกลับเพิกเฉย มิหนำซ้ำตำรวจกับกลุ่มคนเสื้อแดงยังกล่าวอ้าวว่า กปปส.ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าการปฏิบัติของตำรวจเป็นการทำงานสองมาตรฐาน
นายเอกนัฏกล่าวต่อว่า ได้รับการยืนยันจากนายอิสสะ สมชัย แกนนำ กปปส.ที่ดูแลเวทีลาดพร้าว ว่าชายถือปืนทั้งหมดที่ปรากฏในภาพไม่ใช่การ์ด กปปส. เพราะแกนนำ กปปส.มีมาตรการให้การ์ดมีบัตรสีดำเขียนว่า กปปส.เป็นสัญลักษณ์แสดงตน ดังนั้น ที่ปรากฏเป็นภาพบุคคลที่ผูกผ้าสีเขียวคล้ายกับสื่อมวลชนนั้น จึงไม่ใช้การ์ดของ กปปส.แน่นอน อาจะเป็นผู้ไม่หวังดีเข้ามาในที่ชุมนุม ทั้งนี้ ขอให้สื่อมวลชนระมัดระวังในการรายงานข่าวด้วย เพราะหลังจากเกิดเหตุ มีสำนักข่าวต่างประเทศ สำนักใหญ่ได้นำภาพดังกล่าวมาบิดเบือน ซึ่งจากการตรวจสอบสื่อมวลชนคนดังกล่าวได้ร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงด้วย เพราะนี่อาจจะเป็นการยั่วยุและอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ในอนาคต
เมื่อถามย้ำว่า ภาพที่ปรากฏชายผูกผ้าสีเขียวยิงปืนเป็นการ์ด กปปส.จากเวทีลาดพร้าว นายเอกนัฏกล่าวว่า ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นการ์ด กปปส.จะต้องมีการ์ดบัตรสีดำแสดงตน แต่ถ้าผู้ชุมนุมหรือการ์ดบางคนนำไปใช้ ทางแกนนำไม่เห็นด้วยกับการใช้อยู่แล้ว และต่อไปนี้จะไม่ใช้ผ้าสีเขียวในการแสดงตนในลักษณะดังกล่าว โดยกำชับอย่างเด็ดขาดแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าบุคคลที่ใช้อาวุธปืนยิงไม่ใช่การ์ด กปปส.แน่นอน ซึ่งขณะนี้เรากำลังตรวจสอบและสืบค้นให้ได้ว่าผู้กระทำผิดเป็นใคร และจะให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างดีในการสืบหาตัวมาให้ได้
ส่วนความเคลื่อนไหวของการเลือกตั้งนั้น นายเอกนัฏกล่าวว่า กปปส.ยังเดินหน้าชุมนุมกดดันขับไล่รัฐบาลให้ลาออกต่อไป และหลังจากนี้จะมีการประเมินผลการเลือกตั้งหลังจากปิดหีบเพื่อสถิติเพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป พร้อมทั้งปฏิเสธกรณีที่นางนิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำ นปช.ระบุตนไปเลือกตั้งที่เขตทวีวัฒนาว่า ไม่ได้ไปเลือกตั้งอย่างที่นางธิดากล่าวหา โดยยืนยันด้วยว่าไม่มีแกนนำคนใดไปเลือกตั้งด้วย
เมื่อเวลา 15.50 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่เวทีปทุมวัน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. แถลงว่า ขอประณามการกระทำของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.ที่ออกมาประกาศชัยชนะ ท่ามกลางการเลือกตั้งที่มีความรุนแรง เพราะนี่เป็นการยั่วยุและอาจเป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่ความรุนแรงได้ เพราะเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาเวลาเกิดเหตุความรุนแรง ศรส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่พยายามที่จะดูแลความปลอดภัย หรือป้องกันไม่เกิดเหตุความรุนแรงกับผู้ชุมนุมที่ออกมาชุมนุมอย่างสันติ ปราศจากอาวุธ และหลายเหตุการณ์ปรากฏหลักฐานภาพผู้ก่อเหตุชัดเจน แต่ก็ไม่ขยายผลจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และล่าสุดเหตุการณ์ที่แยกหลักสี่ พระพุทธะอิสระได้นำประชาชนไปปักหลักชุมนุมอย่างสันติที่สำนักงานแขตหลักสี่ แต่นายโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดง กลับปลุกระดมคนเสื้อแดงมาล้อมทำร้ายจนเกิดเหตุประทะกัน กลุ่มคนเสื้อแดงใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ประชาชน แต่เหตุที่เกิดขึ้นตำรวจกลับเพิกเฉย มิหนำซ้ำตำรวจกับกลุ่มคนเสื้อแดงยังกล่าวอ้าวว่า กปปส.ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าการปฏิบัติของตำรวจเป็นการทำงานสองมาตรฐาน
นายเอกนัฏกล่าวต่อว่า ได้รับการยืนยันจากนายอิสสะ สมชัย แกนนำ กปปส.ที่ดูแลเวทีลาดพร้าว ว่าชายถือปืนทั้งหมดที่ปรากฏในภาพไม่ใช่การ์ด กปปส. เพราะแกนนำ กปปส.มีมาตรการให้การ์ดมีบัตรสีดำเขียนว่า กปปส.เป็นสัญลักษณ์แสดงตน ดังนั้น ที่ปรากฏเป็นภาพบุคคลที่ผูกผ้าสีเขียวคล้ายกับสื่อมวลชนนั้น จึงไม่ใช้การ์ดของ กปปส.แน่นอน อาจะเป็นผู้ไม่หวังดีเข้ามาในที่ชุมนุม ทั้งนี้ ขอให้สื่อมวลชนระมัดระวังในการรายงานข่าวด้วย เพราะหลังจากเกิดเหตุ มีสำนักข่าวต่างประเทศ สำนักใหญ่ได้นำภาพดังกล่าวมาบิดเบือน ซึ่งจากการตรวจสอบสื่อมวลชนคนดังกล่าวได้ร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงด้วย เพราะนี่อาจจะเป็นการยั่วยุและอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ในอนาคต
เมื่อถามย้ำว่า ภาพที่ปรากฏชายผูกผ้าสีเขียวยิงปืนเป็นการ์ด กปปส.จากเวทีลาดพร้าว นายเอกนัฏกล่าวว่า ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นการ์ด กปปส.จะต้องมีการ์ดบัตรสีดำแสดงตน แต่ถ้าผู้ชุมนุมหรือการ์ดบางคนนำไปใช้ ทางแกนนำไม่เห็นด้วยกับการใช้อยู่แล้ว และต่อไปนี้จะไม่ใช้ผ้าสีเขียวในการแสดงตนในลักษณะดังกล่าว โดยกำชับอย่างเด็ดขาดแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าบุคคลที่ใช้อาวุธปืนยิงไม่ใช่การ์ด กปปส.แน่นอน ซึ่งขณะนี้เรากำลังตรวจสอบและสืบค้นให้ได้ว่าผู้กระทำผิดเป็นใคร และจะให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างดีในการสืบหาตัวมาให้ได้
ส่วนความเคลื่อนไหวของการเลือกตั้งนั้น นายเอกนัฏกล่าวว่า กปปส.ยังเดินหน้าชุมนุมกดดันขับไล่รัฐบาลให้ลาออกต่อไป และหลังจากนี้จะมีการประเมินผลการเลือกตั้งหลังจากปิดหีบเพื่อสถิติเพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป พร้อมทั้งปฏิเสธกรณีที่นางนิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำ นปช.ระบุตนไปเลือกตั้งที่เขตทวีวัฒนาว่า ไม่ได้ไปเลือกตั้งอย่างที่นางธิดากล่าวหา โดยยืนยันด้วยว่าไม่มีแกนนำคนใดไปเลือกตั้งด้วย
(คลิปAP)Raw: Violence in Bangkok on Eve of Elections
คลิปจากสำนักข่าวAPที่มีการวิจารณ์กันสนั่นว่า มุมกล้อง ความคมชัด ที่ใกล้ชิดเหตุการณ์แบบไ่ม่ต้องใช้"ซูม" จน อาจเข้าใจได้ว่ารู้เห็นกับการ"จัดฉาก"ในสถานการณ์ ปะทะกันที่หลักสี่เมื่อวันที่ ๑ ก.พ.๕๗ ก่อนวันเลือกตั้ง ๒ ก.พ.หรือไม่?
กกต. สรุปภาพรวมเลือกตั้ง หมื่นกว่าหน่วยลงคะแนนไม่ได้
กกต. สรุปภาพรวมเลือกตั้ง หมื่นกว่าหน่วยลงคะแนนไม่ได้ - ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยฝ่าอุปสรรคจนเรียบร้อย
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. แถลงสรุปภาพรวมการเลือกตั้ง ส.ส.วันนี้ ที่เป็นไปตาม พ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร 2556 ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.2556 โดยกระบวนการจัดการเลือกตั้ง ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ กกต.ได้ออกประกาศ กกต.เรื่องการรับสมัคร ส.ส.เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2556 โดยอุปสรรคในการจัดการเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่เปิดรับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตในหลายจังหวัดภาคใต้ รวม 28 เขต โดยสำนักงาน กกต.ส่วนกลางและ กกต.ประจำจังหวัดหลายแห่งถูกปิดล้อม บุคคลที่แต่งตั้งให้ช่วยการเลือกตั้งในตำแหน่งต่างๆ ทนแรงกดดันไม่ได้ลาออกไปหลายคน ซึ่งทำให้ กกต.ทำงานลำบากมากขึ้น เพราะการจัดการเลือกตั้งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ กกต.ได้เสนอให้รัฐบาลกำหนดวันเลือกตั้งขึ้นใหม่ เพราะตระหนักเสมอว่าทุกชีวิตมีค่า หากสูญสิ้นแล้วไม่กลับคืนมาอีก แต่การเลือกตั้งสามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ เนื่องจากไม่ทราบว่าการชุมนุมจะจบลงเมื่อใด และต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม กกต.แถลงจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันนี้ได้จำนวน 93,952 หน่วย ลงคะแนนได้ 83,813 หน่วย คิดเป็น 89.2% จาก 77 จังหวัด งดลงคะแนน 18 จังหวัด โดยงดทั้งจังหวัด 9 จังหวัด งดบางส่วน 9 จังหวัด รวม 69 เขต แบ่งเป็นงดทั้งหมด 37 เขต งดบางหน่วย 32 หน่วย ทั้งนี้ กกต.ขอบคุณผู้มาใช้สิทธิ และทุกภาคส่วน ที่ทำให้การเลือกตั้งวันนี้ผ่านพ้นไปได้โดยไม่มีเหตุรุนแรง รวมทั้งขอบคุณ กกต.ประจำเขต จังหวัด และ จนท.ทุกระดับ หน่วยงานราชการ รัฐ เอกชน และที่อดทนอดกลั้นจัดการเลือกตั้งครั้งนี้
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. แถลงสรุปภาพรวมการเลือกตั้ง ส.ส.วันนี้ ที่เป็นไปตาม พ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร 2556 ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.2556 โดยกระบวนการจัดการเลือกตั้ง ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ กกต.ได้ออกประกาศ กกต.เรื่องการรับสมัคร ส.ส.เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2556 โดยอุปสรรคในการจัดการเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่เปิดรับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตในหลายจังหวัดภาคใต้ รวม 28 เขต โดยสำนักงาน กกต.ส่วนกลางและ กกต.ประจำจังหวัดหลายแห่งถูกปิดล้อม บุคคลที่แต่งตั้งให้ช่วยการเลือกตั้งในตำแหน่งต่างๆ ทนแรงกดดันไม่ได้ลาออกไปหลายคน ซึ่งทำให้ กกต.ทำงานลำบากมากขึ้น เพราะการจัดการเลือกตั้งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ กกต.ได้เสนอให้รัฐบาลกำหนดวันเลือกตั้งขึ้นใหม่ เพราะตระหนักเสมอว่าทุกชีวิตมีค่า หากสูญสิ้นแล้วไม่กลับคืนมาอีก แต่การเลือกตั้งสามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ เนื่องจากไม่ทราบว่าการชุมนุมจะจบลงเมื่อใด และต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม กกต.แถลงจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันนี้ได้จำนวน 93,952 หน่วย ลงคะแนนได้ 83,813 หน่วย คิดเป็น 89.2% จาก 77 จังหวัด งดลงคะแนน 18 จังหวัด โดยงดทั้งจังหวัด 9 จังหวัด งดบางส่วน 9 จังหวัด รวม 69 เขต แบ่งเป็นงดทั้งหมด 37 เขต งดบางหน่วย 32 หน่วย ทั้งนี้ กกต.ขอบคุณผู้มาใช้สิทธิ และทุกภาคส่วน ที่ทำให้การเลือกตั้งวันนี้ผ่านพ้นไปได้โดยไม่มีเหตุรุนแรง รวมทั้งขอบคุณ กกต.ประจำเขต จังหวัด และ จนท.ทุกระดับ หน่วยงานราชการ รัฐ เอกชน และที่อดทนอดกลั้นจัดการเลือกตั้งครั้งนี้
จับผิด ..สื่อ BBC ที่รายงานภาพเหตุการณ์แบบ อินไซค์ ชายโม่งชุดดำแบบ ..หน้าชิด ติดขนรักแร้ อะไรขนาดนั้น !!
จับผิด ..สื่อ BBC ที่รายงานภาพเหตุการณ์แบบ อินไซค์ ชายโม่งชุดดำแบบ ..หน้าชิด ติดขนรักแร้ อะไรขนาดนั้น !!
หลายมุมกล้อง เหมือนสื่อต่างประเทศ อย่าง BBC จะไปอยู่ถูกที่ถูกเวลา ..ถูกแม้แต่ จุดที่ ชายชุดดำ ยิงปะทะกัน !!
สื่อต่างประเทศ วิ่งกันเป็นมด แต่ไม่โดนลูกหลง หรือ ได้รับบาดเจ็บสักนัด คนกำลังยิงปะทะกัน แต่ทำไม ? ยืนถ่ายวีอีโอ ใกล้ชิดโจรแบบหน้าตาเฉย ไม่เกรงกลัวอะไรเลยขนาดนั้น ..หลายๆภาพที่นำเสนอมา มันก็ตลกๆดี เพราะบางภาพ ชายชุดดำ สวมหมวกไอ้โป่ง แฝงตัวเป็นมือที่ 3 ..แต่เสือก โพกผ้า กปปส. ตัวบักเอ้บ ให้สื่อนอกได้แชะภาพ ..ชัดๆ !!
คนรายงานข่าวให้ BBC คือ ไอ้นิค สื่อฝรั่งแดง คนเดียวกันกับ ที่เคยไปป่วน พี่น้อง กปปส. ตอนบุกปิดล้อม กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อปีกลาย ที่ไปพูดป่วนผู้ชุมนุมจนโดนการ์ดต่อยไป 1 หมัด และ มันก็ไปโวยวายว่า กปปส. ใช้ความรุนแรง ..สื่อคนนี้คือ สื่อแดงนำเสนอข่าวสนับสนุนเสื้อแดง และ ทักษิณ มานาน..วันนี้ก็เป็นคนนำเสนอข่าว การปะทะกันของ ชายชุดดำที่หลักสี่อีก ..บังเอิญไปไหม ?!
อย่าได้แปลกใจเหตุใด ?.. จับชายชุดดำไม่ได้สักคน อย่าได้แปลกใจเหตุใด สื่อต่างประเทศถึงไปยืนถูกที่ถูกเวลา ยังกับกำลังถ่ายหนังแอ๊คชั่นที่ซ้อมบทกันมาแล้ว มีภาพชายชุดดำแทบทุกมุมทุกภาพ แต่ว่าตอนนี้ ..ตำรวจกลับจับ ไอ้โม่งชุดดำ ไม่ได้สักคน สักภาพ !!
สื่อนอกบางสื่อตอนนี้ น่าจะโดนล็อบบี้ซื้อตัวไปแล้ว ..เพื่อให้รายงานข่าวดิสเครดิต กปปส. ด้วยภาพชายโม่งชุดดำ กับ ปืนในกระสอบปุ๋ย เพื่อแหกตาชาวโลก แต่กับคนร้ายอีกมากมาย ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในสถานการณ์ปะทะกันนี้ สื่อนอกกลับพยายามมองข้าม และ พยายามนำเสนอภาพโลกสวยให้กับพวกแก๊งอันธพาลควายแดงของ โกตี๋ แทน !!
คนพาโกตี๋มาป่วนก็คือตำรวจ คนพาโกตี๋ออกไปก็คือตำรวจ ? สื่อ The Telegraph ของ อังกฤษ วันก่อนก็จงใจจะไปสัมภาษณ์โกตี๋ เรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับความรุนแรง ที่ โกตี๋ปรารถนา ..สื่อนอกดูๆแล้ว ชั่วโมงนี้ หลายสื่อ หลายผู้สื่อข่าว ชัดเจนว่า กำลังโดนทักษิณซื้อเพื่อให้มาช่วยกัน ..หาทางรอดให้กับ รัฐบาลอีโง่ น้องสาวทักษิณ ..อย่างมิต้องสงสัย !!
ชายชุดดำที่เพ่นพ่านขี้มอเตอร์ไซค์สวมหมวกไอ้โม่ง ใส่เสื้อเกราะกันกระสุน ตะลอนทัวร์กรุงเทพฯ กลางวันแสกๆ เมื่อไม่นานมานี้ ชัดเจนว่าเข้ามาเพื่อปฏิบัติการเกี่ยวกับ การชุมนุมของ กปปส. อย่างมิต้องสงสัย .. ตำรวจที่ไม่คิดจะตามจับคนร้าย แต่พยายามถ่วงเวลาไปเรื่อยๆอ้างโน่นนี่มั่วไปหมดเนี่ย .. ชัดเจนว่า รู้เห็นเป็นใจกับโจร !!
จับตากันต่อไปครับ ..คืนนี้ไม่หลับไม่นอนมันแล้ว จะอัพเดทข้อมูลใหม่เป็นระยะๆครับ !!
วินเซนต์ 2 กุมภาพันธ์ 2557
หลายมุมกล้อง เหมือนสื่อต่างประเทศ อย่าง BBC จะไปอยู่ถูกที่ถูกเวลา ..ถูกแม้แต่ จุดที่ ชายชุดดำ ยิงปะทะกัน !!
สื่อต่างประเทศ วิ่งกันเป็นมด แต่ไม่โดนลูกหลง หรือ ได้รับบาดเจ็บสักนัด คนกำลังยิงปะทะกัน แต่ทำไม ? ยืนถ่ายวีอีโอ ใกล้ชิดโจรแบบหน้าตาเฉย ไม่เกรงกลัวอะไรเลยขนาดนั้น ..หลายๆภาพที่นำเสนอมา มันก็ตลกๆดี เพราะบางภาพ ชายชุดดำ สวมหมวกไอ้โป่ง แฝงตัวเป็นมือที่ 3 ..แต่เสือก โพกผ้า กปปส. ตัวบักเอ้บ ให้สื่อนอกได้แชะภาพ ..ชัดๆ !!
คนรายงานข่าวให้ BBC คือ ไอ้นิค สื่อฝรั่งแดง คนเดียวกันกับ ที่เคยไปป่วน พี่น้อง กปปส. ตอนบุกปิดล้อม กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อปีกลาย ที่ไปพูดป่วนผู้ชุมนุมจนโดนการ์ดต่อยไป 1 หมัด และ มันก็ไปโวยวายว่า กปปส. ใช้ความรุนแรง ..สื่อคนนี้คือ สื่อแดงนำเสนอข่าวสนับสนุนเสื้อแดง และ ทักษิณ มานาน..วันนี้ก็เป็นคนนำเสนอข่าว การปะทะกันของ ชายชุดดำที่หลักสี่อีก ..บังเอิญไปไหม ?!
อย่าได้แปลกใจเหตุใด ?.. จับชายชุดดำไม่ได้สักคน อย่าได้แปลกใจเหตุใด สื่อต่างประเทศถึงไปยืนถูกที่ถูกเวลา ยังกับกำลังถ่ายหนังแอ๊คชั่นที่ซ้อมบทกันมาแล้ว มีภาพชายชุดดำแทบทุกมุมทุกภาพ แต่ว่าตอนนี้ ..ตำรวจกลับจับ ไอ้โม่งชุดดำ ไม่ได้สักคน สักภาพ !!
สื่อนอกบางสื่อตอนนี้ น่าจะโดนล็อบบี้ซื้อตัวไปแล้ว ..เพื่อให้รายงานข่าวดิสเครดิต กปปส. ด้วยภาพชายโม่งชุดดำ กับ ปืนในกระสอบปุ๋ย เพื่อแหกตาชาวโลก แต่กับคนร้ายอีกมากมาย ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในสถานการณ์ปะทะกันนี้ สื่อนอกกลับพยายามมองข้าม และ พยายามนำเสนอภาพโลกสวยให้กับพวกแก๊งอันธพาลควายแดงของ โกตี๋ แทน !!
คนพาโกตี๋มาป่วนก็คือตำรวจ คนพาโกตี๋ออกไปก็คือตำรวจ ? สื่อ The Telegraph ของ อังกฤษ วันก่อนก็จงใจจะไปสัมภาษณ์โกตี๋ เรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับความรุนแรง ที่ โกตี๋ปรารถนา ..สื่อนอกดูๆแล้ว ชั่วโมงนี้ หลายสื่อ หลายผู้สื่อข่าว ชัดเจนว่า กำลังโดนทักษิณซื้อเพื่อให้มาช่วยกัน ..หาทางรอดให้กับ รัฐบาลอีโง่ น้องสาวทักษิณ ..อย่างมิต้องสงสัย !!
ชายชุดดำที่เพ่นพ่านขี้มอเตอร์ไซค์สวมหมวกไอ้โม่ง ใส่เสื้อเกราะกันกระสุน ตะลอนทัวร์กรุงเทพฯ กลางวันแสกๆ เมื่อไม่นานมานี้ ชัดเจนว่าเข้ามาเพื่อปฏิบัติการเกี่ยวกับ การชุมนุมของ กปปส. อย่างมิต้องสงสัย .. ตำรวจที่ไม่คิดจะตามจับคนร้าย แต่พยายามถ่วงเวลาไปเรื่อยๆอ้างโน่นนี่มั่วไปหมดเนี่ย .. ชัดเจนว่า รู้เห็นเป็นใจกับโจร !!
จับตากันต่อไปครับ ..คืนนี้ไม่หลับไม่นอนมันแล้ว จะอัพเดทข้อมูลใหม่เป็นระยะๆครับ !!
วินเซนต์ 2 กุมภาพันธ์ 2557
ตำรวจเผย กลุ่มติดอาวุธสงครามเหตุปะทะหลักสี่ เป็นมืออาชีพ ผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ
02Feb14นักรบหลักสี่
วันที่ 02 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 17:24 น. ข่าวสดออนไลน์
ตำรวจเผย กลุ่มติดอาวุธสงครามเหตุปะทะหลักสี่ เป็นมืออาชีพ ผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ บช.น.เผยสรุปการดูแลรักษาความปลอดภัยภาพรวบปกติ มี 3 เขตทำการเลือกตั้งไม่ได้ คาดเตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุปะทะหลักสี่ได้ไม่ต่ำกว่า 5 คน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น. แถลงข่าวสรุปสถานการณ์การเลือกตั้งว่า การจัดการเลือกตั้งในกรุงเทพมหานครมีเขตเลือกตั้ง 33 เขตเลือกตั้ง (50 เขตปกครอง) จำนวน 6,671 หน่วย มีหน่วยเลือกตั้งเปิดเลือกตั้งได้ครบทุกหน่วยมีดังนี้ พื้นที่บก.น.3 จำนวน 591 หน่วย เปิดได้ครบทุกหน่วย พื้นที่บก.น.7 จำนวน 645 หน่วย เปิดได้ครบทุกหน่วย พื้นที่บก.น.8 จำนวน 592 หน่วย เปิดได้ครบทุกหน่วย บก.น.9 จำนวน 886 หน่วย เปิดได้ครบทุกหน่วย ซึ่งมีเขตที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ 3 เขต ดังนี้ 1.เขตหลักสี่ จำนวน 126 หน่วย เนื่องจากได้มีพระพุทธอิสระ นำมวลชนประมาณ 200 คน ไปปิดล้อมสำนักงานเขตหลักสี่เพื่อไม่ให้นำหีบบัตรออกไปจากหน่วยเลือกตั้ง
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า 2.เขตราชเทวี 85 หน่วย เนื่องจากได้มีนายทินกร ปลอดภัย นำมวลชนประมาณ 200 คน ไปปิดล้อมสำนักงานเขตราชเทวีเพื่อไม่ให้นำหีบบัตรออกไปจากหน่วยเลือกตั้ง 3.
เขตดินแดง จำนวน 138 หน่วย เนื่องจากมีกลุ่ม กปปส. ประมาณ 250 คน นำโซ่ไปคล้องปิดไว้ที่ประตูสำนักงานเขต และปิดล้อมสำนักงานเขต ดินแดงไว้ เพื่อไม่ให้นำหีบบัตรออกไปจากหน่วยเลือกตั้ง ส่วนหน่วยเลือกตั้งที่สามารถเปิดหน่วยเลือกตั้งได้บางหน่วย แต่มีบางหน่วยเปิดไม่ได้ ดังนี้ พื้นที่บก.น.1 จำนวน 497 หน่วย เปิดได้ 272 หน่วย เปิดไม่ได้ 225 หน่วย พื้นที่ บก.น.2 จำนวน 1,441 หน่วย เปิดได้ 1,271 หน่วย เปิดไม่ได้ 170 หน่วย พื้นที่บก.น. 4 จำนวน 837 หน่วย เปิดได้ 794 หน่วย เปิดไม่ได้ 43 หน่วย พื้นที่บก.น.5 จำนวน 904 หน่วย เปิดได้ 885 หน่วย เปิดไม่ได้ 19 หน่วย พื้นที่บก.น.6 จำนวน 278 หน่วย เปิดได้ 237 หน่วย เปิดไม่ได้ 41 หน่วย
“โดยสาเหตุที่เปิดหน่วยเลือกตั้งไม่ได้มี 2 สาเหตุ คือ 1.ถูกมวลชนกลุ่ม กปปส. ปิดล้อม 2.เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าจัดการเลือกตั้งลาออกหรือมีจำนวนไม่ครบ กรณีผู้ที่ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้นั้น ขอให้ผู้เสียสิทธิดังกล่าวไปแจ้งความได้ที่ สน. ตามขั้นตอน และ กกต. จะเปิดให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง ส่วนผู้ที่ไม่ได้เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น กกต. ได้กำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ในวันที่ 23 ก.พ.ต่อไป” โฆษกบช.น. กล่าว
ส่วนเหตุการณ์ที่น่าสนใจนั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า 1. เมื่อเวลาประมาณ 08.40 น. กรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ถูกกลุ่มชายประมาณ 4 คน พยายามเข้าไปทำร้ายร่างกาย ขณะที่นายชูวิทย์ฯ พร้อมพวกจำนวน 8 คน กำลังเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้งที่ 84 ซอยรัชดาภิเษก 3 แยกซอยรัชดาอพาร์ทเม้นท์ แขวงและเขตดุสิต โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่าชาย 4 คนดังกล่าว ได้มายืนดักรอนายชูวิทย์ อยู่ที่ฝั่งตรงข้าม บีบี การ์เด้น รีสอร์ท โดยขณะที่นายชูวิทย์ ได้เดินมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีชายคนหนึ่งพุ่งชาร์จเข้าไปที่ตัวนายชูวิทย์ฯ แต่กลุ่มชายที่เดินทางมากับ นายชูวิทย์ ได้เข้าขัดขวาง จนเกิดการชุลมุนขึ้น หลังจากนั้นชายทั้ง 4 คนก็ได้แยกย้ายหลบหนีไป โดยนายชูวิทย์ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางได้เดินทางไปสอบปากคำนายชูวิทย์ ไว้เรียบร้อยแล้ว และนายชูวิทย์ ไม่ประสงค์จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวนได้ลงประจำวันไว้เรียบร้อยตามประจำวัน เวลา 13.05 น. ลงวันที่ 2 ก.พ.
2. เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ได้เกิดเหตุ น.ส.รพีพร ณ ราชบุรี อายุ 36 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 50/20 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี ได้ฉีกบัตรเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 20 แขวงแสนแสบ หมู่ 9 แขวงแสนแสบ
เขตมีนบุรี ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรีได้แจ้งข้อหา ทำบัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย และได้ลงประจำไว้ตามคดีอาญาที่ 181/57 ลงวันที่ ๒ ก.พ. ทั้งนี้ ทางบช.น.ได้ดำเนินการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง รวมทั้งการจราจร โดยทั้งวันที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในภาพรวมโดยทั่วไปเหตุการณ์เป็นปกติ
เมื่อถามถึงกรณีการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งและหีบบัตรเลือกตั้งนั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ภายหลังจากการปิดหีบบัตรการเลือกตั้งแล้ว ก็จะนำหีบเลือกตั้งไปเก็บไว้
ยังที่ปลอดภัย ซึ่งการกำหนดจุดนั้น ก็น่าจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจ อย่างไรก็ตาม หน่วยเลือกตั้งตามเขตที่รับผิดชอบต่างๆ จะเป็นผู้กำหนดจุดที่จะนำหีบเลือกตั้งไปเก็บไว้ยังที่ปลอดภัย
ส่วนความวุ่นวายที่เกิดบริเวณสน.ดินแดงนั้น เป็นเพียงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ต้องการใช้สิทธิ์ บังคับให้เจ้าหน้าที่กกต.เปิดหน่วยเลือกตั้งเพื่อให้ได้ใช้สิทธิ์เท่านั้น จึงได้ชี้แจงประชาชนให้ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อคงรักษาสิทธิไว้ในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นภายหลังหากประชาชนผู้ใดไม่สามารถไปเลือกตั้งได้ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ในสถานีตำรวจที่รับผิดชอบเขตเลือกตั้งดังกล่าวได้ต่อไป
เมื่อถามว่าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่หลักสี่เป็นอย่างไร พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ทาง พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบช.สพฐ.ตร. ได้นำเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบดูวิถีกระสุนต่างๆอย่างละเอียด จากนั้นจะนำข้อมูลมาประมวลเพื่อให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับบุคคลที่ก่อเหตุยิง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะออกหมายจับในส่วนที่เห็นชัดเจนไม่ต่ำกว่า 5 คน โดยคาดว่าพรุ่งนี้จะสามารถขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับได้ ส่วนคนเจ็บนั้นกำชับให้ทาง พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.น.2 พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ได้เข้าไปสอบปากคำคนเจ็บและพยานที่เห็นเหตุการณ์แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีเหตุปะทะบริเวณใต้สะพานข้ามแยกหลักสี่ มีอยู่ 2 จุด คือ 1.กลุ่มผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงเหตุการณ์ดังกล่าวมีลักษณะคล้ายมืออาชีพอย่างไรนั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า จากการภาพนิ่งและ
ภาพเคลื่อนไหวที่ปรากฏออกมา ลักษณะท่าทางการใช้อาวุธปืนยิงไม่เหมือนคนที่ไม่เคยใช้อาวุธในการยิง วิธีการยิงปืน ชักปืนมีลักษณะมีความเชี่ยวชาญและได้รับการฝึกฝน 2.ยุทธวิธีที่ใช้เวลาการใช้อาวุธปืนยิงออกไป อย่างกรณีที่การใช้ถุงปุ๋ยปกปิดอาวุธปืนไว้ยิง เป็นยุทธวิธีที่ถูกฝึกมา รวมถึงมีคนช่วยชี้เป้าเพื่อสามารถเล็งเป้าเพื่อให้เกิดความชัดเจน นอกจากนี้ลักษณะการปฏิบัติการมีการหาที่กำบังยิงจากที่กำบังก็มีความเชี่ยวชาญ
เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับคนมีสีหรือไม่นั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ไม่สามารถระบุได้ เพราะอาจจะเป็นหรืออาจจะไม่ใช่ แต่ยืนยันได้ว่าเป็นคนที่ได้รับการฝึกฝน ซึ่งอาจจะเป็นกองกำลังที่ถูกฝึกมาให้ปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งต้องทำการตรวจสอบก่อน ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีการพกพาอาวุธเข้ามาในพื้นที่บริเวณที่มีเหตุปะทะค่อนข้างเยอะนั้น อาจจะมีการลักลอบนำอาวุธปืนดังกล่าวเข้ามาตามชายแดนที่หาซื้อได้ในวงการ รวมทั้งปืนของตำรวจที่ถูกขโมยไประหว่างเกิดเหตุปะทะที่สน.ดินแดง อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาใช้ก่อเหตุได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการตั้งด่านมั่นคงตรวจสอบกันอย่างต่อเนื่อง อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวทั้ง เครื่องยิงกระสุนอาร์พีจี เพื่อไม่ให้นำเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวายช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง
ที่มา : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1UTXpOekE0TXc9PQ%3D%3D&subcatid
วันที่ 02 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 17:24 น. ข่าวสดออนไลน์
ตำรวจเผย กลุ่มติดอาวุธสงครามเหตุปะทะหลักสี่ เป็นมืออาชีพ ผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ บช.น.เผยสรุปการดูแลรักษาความปลอดภัยภาพรวบปกติ มี 3 เขตทำการเลือกตั้งไม่ได้ คาดเตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุปะทะหลักสี่ได้ไม่ต่ำกว่า 5 คน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น. แถลงข่าวสรุปสถานการณ์การเลือกตั้งว่า การจัดการเลือกตั้งในกรุงเทพมหานครมีเขตเลือกตั้ง 33 เขตเลือกตั้ง (50 เขตปกครอง) จำนวน 6,671 หน่วย มีหน่วยเลือกตั้งเปิดเลือกตั้งได้ครบทุกหน่วยมีดังนี้ พื้นที่บก.น.3 จำนวน 591 หน่วย เปิดได้ครบทุกหน่วย พื้นที่บก.น.7 จำนวน 645 หน่วย เปิดได้ครบทุกหน่วย พื้นที่บก.น.8 จำนวน 592 หน่วย เปิดได้ครบทุกหน่วย บก.น.9 จำนวน 886 หน่วย เปิดได้ครบทุกหน่วย ซึ่งมีเขตที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ 3 เขต ดังนี้ 1.เขตหลักสี่ จำนวน 126 หน่วย เนื่องจากได้มีพระพุทธอิสระ นำมวลชนประมาณ 200 คน ไปปิดล้อมสำนักงานเขตหลักสี่เพื่อไม่ให้นำหีบบัตรออกไปจากหน่วยเลือกตั้ง
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า 2.เขตราชเทวี 85 หน่วย เนื่องจากได้มีนายทินกร ปลอดภัย นำมวลชนประมาณ 200 คน ไปปิดล้อมสำนักงานเขตราชเทวีเพื่อไม่ให้นำหีบบัตรออกไปจากหน่วยเลือกตั้ง 3.
เขตดินแดง จำนวน 138 หน่วย เนื่องจากมีกลุ่ม กปปส. ประมาณ 250 คน นำโซ่ไปคล้องปิดไว้ที่ประตูสำนักงานเขต และปิดล้อมสำนักงานเขต ดินแดงไว้ เพื่อไม่ให้นำหีบบัตรออกไปจากหน่วยเลือกตั้ง ส่วนหน่วยเลือกตั้งที่สามารถเปิดหน่วยเลือกตั้งได้บางหน่วย แต่มีบางหน่วยเปิดไม่ได้ ดังนี้ พื้นที่บก.น.1 จำนวน 497 หน่วย เปิดได้ 272 หน่วย เปิดไม่ได้ 225 หน่วย พื้นที่ บก.น.2 จำนวน 1,441 หน่วย เปิดได้ 1,271 หน่วย เปิดไม่ได้ 170 หน่วย พื้นที่บก.น. 4 จำนวน 837 หน่วย เปิดได้ 794 หน่วย เปิดไม่ได้ 43 หน่วย พื้นที่บก.น.5 จำนวน 904 หน่วย เปิดได้ 885 หน่วย เปิดไม่ได้ 19 หน่วย พื้นที่บก.น.6 จำนวน 278 หน่วย เปิดได้ 237 หน่วย เปิดไม่ได้ 41 หน่วย
“โดยสาเหตุที่เปิดหน่วยเลือกตั้งไม่ได้มี 2 สาเหตุ คือ 1.ถูกมวลชนกลุ่ม กปปส. ปิดล้อม 2.เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าจัดการเลือกตั้งลาออกหรือมีจำนวนไม่ครบ กรณีผู้ที่ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้นั้น ขอให้ผู้เสียสิทธิดังกล่าวไปแจ้งความได้ที่ สน. ตามขั้นตอน และ กกต. จะเปิดให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง ส่วนผู้ที่ไม่ได้เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น กกต. ได้กำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ในวันที่ 23 ก.พ.ต่อไป” โฆษกบช.น. กล่าว
ส่วนเหตุการณ์ที่น่าสนใจนั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า 1. เมื่อเวลาประมาณ 08.40 น. กรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ถูกกลุ่มชายประมาณ 4 คน พยายามเข้าไปทำร้ายร่างกาย ขณะที่นายชูวิทย์ฯ พร้อมพวกจำนวน 8 คน กำลังเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้งที่ 84 ซอยรัชดาภิเษก 3 แยกซอยรัชดาอพาร์ทเม้นท์ แขวงและเขตดุสิต โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่าชาย 4 คนดังกล่าว ได้มายืนดักรอนายชูวิทย์ อยู่ที่ฝั่งตรงข้าม บีบี การ์เด้น รีสอร์ท โดยขณะที่นายชูวิทย์ ได้เดินมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีชายคนหนึ่งพุ่งชาร์จเข้าไปที่ตัวนายชูวิทย์ฯ แต่กลุ่มชายที่เดินทางมากับ นายชูวิทย์ ได้เข้าขัดขวาง จนเกิดการชุลมุนขึ้น หลังจากนั้นชายทั้ง 4 คนก็ได้แยกย้ายหลบหนีไป โดยนายชูวิทย์ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางได้เดินทางไปสอบปากคำนายชูวิทย์ ไว้เรียบร้อยแล้ว และนายชูวิทย์ ไม่ประสงค์จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวนได้ลงประจำวันไว้เรียบร้อยตามประจำวัน เวลา 13.05 น. ลงวันที่ 2 ก.พ.
2. เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ได้เกิดเหตุ น.ส.รพีพร ณ ราชบุรี อายุ 36 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 50/20 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี ได้ฉีกบัตรเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 20 แขวงแสนแสบ หมู่ 9 แขวงแสนแสบ
เขตมีนบุรี ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรีได้แจ้งข้อหา ทำบัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย และได้ลงประจำไว้ตามคดีอาญาที่ 181/57 ลงวันที่ ๒ ก.พ. ทั้งนี้ ทางบช.น.ได้ดำเนินการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง รวมทั้งการจราจร โดยทั้งวันที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในภาพรวมโดยทั่วไปเหตุการณ์เป็นปกติ
เมื่อถามถึงกรณีการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งและหีบบัตรเลือกตั้งนั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ภายหลังจากการปิดหีบบัตรการเลือกตั้งแล้ว ก็จะนำหีบเลือกตั้งไปเก็บไว้
ยังที่ปลอดภัย ซึ่งการกำหนดจุดนั้น ก็น่าจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจ อย่างไรก็ตาม หน่วยเลือกตั้งตามเขตที่รับผิดชอบต่างๆ จะเป็นผู้กำหนดจุดที่จะนำหีบเลือกตั้งไปเก็บไว้ยังที่ปลอดภัย
ส่วนความวุ่นวายที่เกิดบริเวณสน.ดินแดงนั้น เป็นเพียงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ต้องการใช้สิทธิ์ บังคับให้เจ้าหน้าที่กกต.เปิดหน่วยเลือกตั้งเพื่อให้ได้ใช้สิทธิ์เท่านั้น จึงได้ชี้แจงประชาชนให้ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อคงรักษาสิทธิไว้ในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นภายหลังหากประชาชนผู้ใดไม่สามารถไปเลือกตั้งได้ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ในสถานีตำรวจที่รับผิดชอบเขตเลือกตั้งดังกล่าวได้ต่อไป
เมื่อถามว่าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่หลักสี่เป็นอย่างไร พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ทาง พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบช.สพฐ.ตร. ได้นำเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบดูวิถีกระสุนต่างๆอย่างละเอียด จากนั้นจะนำข้อมูลมาประมวลเพื่อให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับบุคคลที่ก่อเหตุยิง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะออกหมายจับในส่วนที่เห็นชัดเจนไม่ต่ำกว่า 5 คน โดยคาดว่าพรุ่งนี้จะสามารถขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับได้ ส่วนคนเจ็บนั้นกำชับให้ทาง พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.น.2 พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ได้เข้าไปสอบปากคำคนเจ็บและพยานที่เห็นเหตุการณ์แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีเหตุปะทะบริเวณใต้สะพานข้ามแยกหลักสี่ มีอยู่ 2 จุด คือ 1.กลุ่มผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงเหตุการณ์ดังกล่าวมีลักษณะคล้ายมืออาชีพอย่างไรนั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า จากการภาพนิ่งและ
ภาพเคลื่อนไหวที่ปรากฏออกมา ลักษณะท่าทางการใช้อาวุธปืนยิงไม่เหมือนคนที่ไม่เคยใช้อาวุธในการยิง วิธีการยิงปืน ชักปืนมีลักษณะมีความเชี่ยวชาญและได้รับการฝึกฝน 2.ยุทธวิธีที่ใช้เวลาการใช้อาวุธปืนยิงออกไป อย่างกรณีที่การใช้ถุงปุ๋ยปกปิดอาวุธปืนไว้ยิง เป็นยุทธวิธีที่ถูกฝึกมา รวมถึงมีคนช่วยชี้เป้าเพื่อสามารถเล็งเป้าเพื่อให้เกิดความชัดเจน นอกจากนี้ลักษณะการปฏิบัติการมีการหาที่กำบังยิงจากที่กำบังก็มีความเชี่ยวชาญ
เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับคนมีสีหรือไม่นั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ไม่สามารถระบุได้ เพราะอาจจะเป็นหรืออาจจะไม่ใช่ แต่ยืนยันได้ว่าเป็นคนที่ได้รับการฝึกฝน ซึ่งอาจจะเป็นกองกำลังที่ถูกฝึกมาให้ปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งต้องทำการตรวจสอบก่อน ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีการพกพาอาวุธเข้ามาในพื้นที่บริเวณที่มีเหตุปะทะค่อนข้างเยอะนั้น อาจจะมีการลักลอบนำอาวุธปืนดังกล่าวเข้ามาตามชายแดนที่หาซื้อได้ในวงการ รวมทั้งปืนของตำรวจที่ถูกขโมยไประหว่างเกิดเหตุปะทะที่สน.ดินแดง อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาใช้ก่อเหตุได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการตั้งด่านมั่นคงตรวจสอบกันอย่างต่อเนื่อง อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวทั้ง เครื่องยิงกระสุนอาร์พีจี เพื่อไม่ให้นำเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวายช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง
ที่มา : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1UTXpOekE0TXc9PQ%3D%3D&subcatid
ทบ.ออกโรง ยัน ฝ่ายโกตี๋ ก็มีอาวุธยิง แต่ไม่มีสื่อถ่ายภาพได้
อ่านกันเอาเอง เน้อ!!!!..
ทบ.ออกโรง ยัน ฝ่ายโกตี๋ ก็มีอาวุธยิง แต่ไม่มีสื่อถ่ายภาพได้ เพราะสื่ออยู่ฝั่ง กปปส. ยก ปากคำทหารในที่เกิดเหตุ และ รายงานการสำรวจวิถีกระสุน มาจาก ฝั่ง โกตี๋ ไอที แสควร์ ด้วยเช่นกัน แต่ ทบ.ไม่ระบุว่า ฝ่ายถืออาวุธในภาพที่ปรากฏผ่านสื่อ เป็นการ์ด กปปส. แต่ใช้คำว่า "โดยบังเอิญที่ กลุ่มผู้ใช้อาวุธที่อยู่ทางฝั่งด้านแยกหลักสี่ (ทางฝั่ง กปปส.)"
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ. กล่าวว่า หลังการเลือกตั้ง ทหารยังคงเข้มการเฝ้าระวังเหตุ เพื่อป้องกันพยายามมิให้มีเหตุเหมือนที่แยกหลักสี่
ขณะนี้เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์โดยใช้ความเห็นของแต่ละบุคคลเพื่อชี้นำสังคมไปในทิศทางตน จึงขอได้โปรดระมัดระวังเกรงสังคมจะสับสน
อยากให้ขั้นตอนการพิสูจน์ทราบเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง
รองโฆษก ทบ.กล่าวว่า เหตุปะทะที่หลักสี่ นั้น ทาง ตร.กำลังดำเนินการสืบสวนกรณีที่ทั้งสองกลุ่มใช้อาวุธยิงตอบโต้กัน
"โดยบังเอิญที่ กลุ่มผู้ใช้อาวุธที่อยู่ทางฝั่งด้านแยกหลักสี่ (ทางฝั่ง กปปส.) ทาง.ตำรวจทอาศัยภาพถ่ายที่ได้จากสื่อ ที่ประจำอยู่ตรงบริเวณแยกหลักสี่ใกล้ๆเชิงสะพานกับบริเวณใต้สะพานใกล้ป้อมตำรวจพอดี จึงมีการบันทึกภาพไว้ ทาง ตร.จึงนำมาประกอบเป็นหลักฐานได้แล้วจากทางฝั่งหนึ่ง
ส่วนกลุ่มผู้ใช้อาวุธอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งในพื้นที่หลายคนได้ให้ข้อมูลว่าน่าจะเป็นกลุ่มของนายโกตี๋ ที่รวมอยู่บริเวณหน้าห้างไอทีสแคว์ และบริเวณหน้าวัดหลักสี่ แต่บังเอิญบริเวณพื้นที่นั้นไม่ค่อยมีสื่อฯ หรือ ปชช.คนใดได้มีการบันทึกภาพไว้แล้วนำมาเผยแพร่ จึงอาจต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ เช่นการสอบพยานบุคคลหรือร่องรอยอื่นๆ
"โดยจากการสอบถามข้อมูลของ ปชช.และ จนท.ทหารที่ประจำอยู่บริเวณป้อม ตร. ระบุได้ชัดเจนว่ามีการใช้อาวุธมาจากทางฝั่งหน้าไอทีสแคว์ด้วยเช่นกัน จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้ใช้อาวุธตอบโต้กันไปมา" รองโฆษก ทบ.ระบุ
โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายทาง ผบ.ร. 11รอ.พร้อมด้วย รอง ผบก.น.2 ยังได้ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุพบร่อยรอยการใช้อาวุธมีมาจากหลายทิศทางโดยเฉพาะมีมาจากฝั่งหน้าไอทีสแคว์ด้วยเช่นกัน
จากนี้ไปขออย่าเพิ่งด่วนสรุปขณะที่กระบวนการสืบสวนสอบสวนยังไม่ครบองค์ประกอบ จะต้องมีกระบวนการสืบสวนข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ก่อน คงจะประเมินโดยอาศัยภาพถ่ายที่เห็นจากทางฝั่งเดียวคงไม่ได้
ขอทุกฝ่ายเชื่อมั่นในตัว จนท.และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม อย่าเพิ่งสรุปกล่าวโทษกันไปมา เพราะจะเป็นการขยายเพิ่มเติมความขัดแย้ง" พ.อ.วินธัย กล่าว
ทบ.ออกโรง ยัน ฝ่ายโกตี๋ ก็มีอาวุธยิง แต่ไม่มีสื่อถ่ายภาพได้ เพราะสื่ออยู่ฝั่ง กปปส. ยก ปากคำทหารในที่เกิดเหตุ และ รายงานการสำรวจวิถีกระสุน มาจาก ฝั่ง โกตี๋ ไอที แสควร์ ด้วยเช่นกัน แต่ ทบ.ไม่ระบุว่า ฝ่ายถืออาวุธในภาพที่ปรากฏผ่านสื่อ เป็นการ์ด กปปส. แต่ใช้คำว่า "โดยบังเอิญที่ กลุ่มผู้ใช้อาวุธที่อยู่ทางฝั่งด้านแยกหลักสี่ (ทางฝั่ง กปปส.)"
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ. กล่าวว่า หลังการเลือกตั้ง ทหารยังคงเข้มการเฝ้าระวังเหตุ เพื่อป้องกันพยายามมิให้มีเหตุเหมือนที่แยกหลักสี่
ขณะนี้เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์โดยใช้ความเห็นของแต่ละบุคคลเพื่อชี้นำสังคมไปในทิศทางตน จึงขอได้โปรดระมัดระวังเกรงสังคมจะสับสน
อยากให้ขั้นตอนการพิสูจน์ทราบเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง
รองโฆษก ทบ.กล่าวว่า เหตุปะทะที่หลักสี่ นั้น ทาง ตร.กำลังดำเนินการสืบสวนกรณีที่ทั้งสองกลุ่มใช้อาวุธยิงตอบโต้กัน
"โดยบังเอิญที่ กลุ่มผู้ใช้อาวุธที่อยู่ทางฝั่งด้านแยกหลักสี่ (ทางฝั่ง กปปส.) ทาง.ตำรวจทอาศัยภาพถ่ายที่ได้จากสื่อ ที่ประจำอยู่ตรงบริเวณแยกหลักสี่ใกล้ๆเชิงสะพานกับบริเวณใต้สะพานใกล้ป้อมตำรวจพอดี จึงมีการบันทึกภาพไว้ ทาง ตร.จึงนำมาประกอบเป็นหลักฐานได้แล้วจากทางฝั่งหนึ่ง
ส่วนกลุ่มผู้ใช้อาวุธอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งในพื้นที่หลายคนได้ให้ข้อมูลว่าน่าจะเป็นกลุ่มของนายโกตี๋ ที่รวมอยู่บริเวณหน้าห้างไอทีสแคว์ และบริเวณหน้าวัดหลักสี่ แต่บังเอิญบริเวณพื้นที่นั้นไม่ค่อยมีสื่อฯ หรือ ปชช.คนใดได้มีการบันทึกภาพไว้แล้วนำมาเผยแพร่ จึงอาจต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ เช่นการสอบพยานบุคคลหรือร่องรอยอื่นๆ
"โดยจากการสอบถามข้อมูลของ ปชช.และ จนท.ทหารที่ประจำอยู่บริเวณป้อม ตร. ระบุได้ชัดเจนว่ามีการใช้อาวุธมาจากทางฝั่งหน้าไอทีสแคว์ด้วยเช่นกัน จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้ใช้อาวุธตอบโต้กันไปมา" รองโฆษก ทบ.ระบุ
โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายทาง ผบ.ร. 11รอ.พร้อมด้วย รอง ผบก.น.2 ยังได้ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุพบร่อยรอยการใช้อาวุธมีมาจากหลายทิศทางโดยเฉพาะมีมาจากฝั่งหน้าไอทีสแคว์ด้วยเช่นกัน
จากนี้ไปขออย่าเพิ่งด่วนสรุปขณะที่กระบวนการสืบสวนสอบสวนยังไม่ครบองค์ประกอบ จะต้องมีกระบวนการสืบสวนข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ก่อน คงจะประเมินโดยอาศัยภาพถ่ายที่เห็นจากทางฝั่งเดียวคงไม่ได้
ขอทุกฝ่ายเชื่อมั่นในตัว จนท.และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม อย่าเพิ่งสรุปกล่าวโทษกันไปมา เพราะจะเป็นการขยายเพิ่มเติมความขัดแย้ง" พ.อ.วินธัย กล่าว
เขตทหาร เลือก พรรคเพื่อไทย กับ Vote No
ผบ.เหล่าทัพ -"บิ๊กทหาร" เข้าคูหา หย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง "บิ๊ก รสช." "ทหารเกณฑ์"เขตดุสิต- พญาไท ใช้สิทธิ์แน่นทุกหน่วย ผลนับคะแนน หน้าหน่วยทหาร ส่วนใหญ่ เลือก 15 พรรคเพื่อไทย และvote no และกระจายพรรค
ที่มาเพจFB วาสนา นาน่วม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)