PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ตำนาน ต้านปฏิวัติ!!

ตำนาน ต้านปฏิวัติ!!
“บิ๊กต๋อย” พลเอกเรืองโรจน์ มหาสรานนท์ อดีตผบ.สูงสุด ในตำนาน รัฐประหาร 19 กย.2549 ....ยังคง เป็นกรรมการ มูลนิธิรักเมืองไทย ของ บิ๊กหมง พลเอกมงคล อัมพรพิสิฏฐ์ อดีต ผบ.สส. ลูกป๋า ... วันนี้ มาร่วมงานแถลงข่าว Khao Yai Marathon2018 ที่มีบิ๊กแอัด พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธาน
กล่าวกันเป็นตำนาน ว่า รัฐประหารปี 2549 ที่นำโดยบิ๊กบัง พลเอกสนธิ บุญยะรัตนกลิน ผบ.ทบ.ในเวลานั้น เสี่ยงต่อการนองเลือด เมื่อนำกำลังเข้ายึดบก.กองทัพไทย ที่แจ้งวัฒนะ ในขณะที่พลเอกเรืองโรจน์ และบิ๊กทหารฝ่าย”ทักษิณ ชินวัตร” นายกฯในเวลานั้น ที่อยู่อเมริกา. จัดตั้งกองบัญชาการต่อต้านปฏิวัติขึ้น และ มีการเตรียมออกคำสั่ง และรวบรวมกำลังเกิดขึ้น
แต่ พลเอกเรืองโรจน์ ระบุในเวลานั้น ว่า ตนเองยอม เพราะไม่อยากต่อสู้ เพราะพี่น้องกันทั้งนั้น ไม่อยากให้ต้องนองเลือด
กองบัญชาการต้านปฏิวัติในครั้งนั้นและ พลเอกเรืองโรจน์ จึงกลายเป็นตำนาน
มิเช่นนั้นประวัติศาสตร์ อาจต้องบันทึกเพิ่มเติม

จาก รุ่น สู่ รุ่น....สายไย รบพิเศษ...

จาก รุ่น สู่ รุ่น....สายไย รบพิเศษ...
ความผูกพัน ของนายทหารในกองทัพ ไม่ใช่แค่ การเป็น รุ่นพี่รุ่นน้อง ใน รร.เตรียมทหาร หรือ นายร้อย จปร..... แต่ทว่า การที่เลือกมาเป๋น ทหารหมวกแดง รบพิเศษ และการมาทำงาน ปฏิบัติการพิเศษ งานลับ ด้วยกัน.... จะยิ่งทำให้ สายไย พี่น้อง ยิ่ง แนบแน่น....
จาก พี่แอ้ด พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีต ผบ.นสศ. ที่ หนุนเนื่อง น้องเจี๊ยบ ที่เดินตามรอยพี่ ในเส้นทางเหล็กของพลร่มป่าหวาย.... มาสู่ พี่เจี๊ยบ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และอดีต ผบ.นสศ.ที่ก็ต้อง หนุนเนื่องน้องๆ ให้เดินตามๆกันไป
จึงทำให้ บิ๊กนัย พลโทสุนัย ประภูชะเนย์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ( ผบ.นสศ.) คนนี้ ถูกจับตามองว่า จะได้เดินตามรอยเท้า พี่ๆทั้ง 2 หรือไม่..... แม้อาจไม่ถึงเก้าอี้ ผบ.ทบ. แต่ก็ลุ้น 5 เสือทบ. ได้
เพียงแต่ว่า อาจไม่ทัน ในโผนี้ เพราะรุ่นพี่ ตท.18-19-20 ยังจ่อคิวอยู่
ไว้รอ ...โผหน้า
เพราะ ผบ.ทบ. ที่มาจากรบพิเศษ มักจะตัองมาในสถานการณ์พิเศษ เสมอ!!

บิ๊กแอ้ด พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์

ขิงแก่
บิ๊กแอ้ด พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาว มามากทาย บนเส้นทางสายนี้...... ทั้งการที่ บิดา อดีตนายทหาร ที่เข้าป่า ไปเป็นแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์..... ส่งที่ผล ต่อการรับราชการทหาร ก็ลูกชายคนนี้ ไม่น้อย..... ลูกชาย อยู่ฝ่ายหนึ่ง บิดา อยู่อีกฝ่ายหนึ่ง โชคดีที่ ผู้ใหญ่ ในกองทัพ ตอนนั้น เมตตา.... ไม่ส่ง บิ๊กแอ้ด ไปในพื้นที่ ที่ บิดา ของเขา อยู่ เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ พ่อลูก ต้องมาเจอกันในสนามรบ
บิ๊กแอ้ด ขึ้นมาเป็น ผบทบ.ในสถานการณ์พิเศษ จากที่เป็น “ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก” ตำแหน่งประจำในกรุ. ไม่ใช่ห้าเสือทบ.แต่ “ลูกป๋า”คนนี้ กลับได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ทั้งๆที่อายุราชการเหลืออีก5 ปี.
โดยในขณะนั้น เส้นทางเดิน เฉียดการนำรัฐประหาร ในหลายจังหวะ. แต่ก็ผ่านมาได้.....จนถูก “ทักษิณ ชินวัตร” นายกฯในตอนนั้น เด้ง ไปเป็น ผบ.สูงสุด หลังจากที่ ถามว่า ทักษิณ เคย ถามว่า “พี่จะปฏิวัติ ผมหรือ”
แต่ที่สุด หลังเกษียณ บิ๊กแอ้ด เป็นองคมนตรี และเป็นนายกฯ จากการรัฐประหาร 19กย.2549 ที่นำโดย
บิ๊กบัง พลเอกสนธิ บุญยะรัตกลิน ผบ.ทบ. ที่มาจาก รบพิเศษ
แต่ทว่า รัฐประหาร นั้น ก็จบด้วย การ”เสียของ” จนต้องมี ภาค2. เมื่อ 22 พค.2557 โดย บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ทหารเสือราชินี
ก่อนที่จะนำมาซึ่งการเลือก บิ๊กเจี๊ยบ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท เป็นผบ.ทบ.2ปี ท่ามกลาง นายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ และทหารเสือฯที่จ่อขึ้นมาหลายคน
และจับตามองกันว่า พลเอกเฉลิมชัย
จะได้ทำงานกับ บิ๊กแอ้ด ต่อไป อย่างไร หรือไม่
เพราะในขณะที่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี. อายุมากขึ้นๆ ถึง98 แล้ว ก็มอบ บิ๊กแอ้ด ทำงานต่างๆ แทนเกือบหมด
จากนี้ บทบาทของ บิ๊กแอ้ด จะยิ่งน่าจับตามองอย่างยิ่ง !! เพราะ ขิงแก่ ยังไง ก็คือ ขิงแก่...เผ็ดเสมอ!!

ยัน ทหาร ไม่ได้”ดูด” นักการเมือง ให้ พรรค คสช./ไม่แตะ”กลุ่มสามมิตร”

ยัน ทหาร ไม่ได้”ดูด” นักการเมือง ให้ พรรค คสช./ไม่แตะ”กลุ่มสามมิตร”ยังไม่ทำอะไรผิดกม.
แม่ทัพภาค2 คุมอิสาน ปฏิเสธ เจรจานักการเมือง ให้ย้ายพรรคมาอยู่กับพรรคคสช. ยัน ทหารดูดใครไม่ได้ มันเป็นเรื่องของจิตใจ เผยรู้จักกัน ก็คุยกัน ตามงานวัด ‪ ยัน กลุ่มสามมิตร ยังไม่ได้ทำอะไรผิดกม.เชื้อไม่มีกลุ่มใต้ดินในอืสาน‬
บิ๊กแบล็ค พลโท ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาค2 กล่าวถึง กระแสข่าว ทหารในกองทัพภาค2 ดูด อดีตสส. ว่า ทหาร จะไป ดูด ใครได้ ของแบบนี้ มันเป็นเรื่องของจิตใจ อะไรหลายฝ่าย
“ทหารจะไปดูด ใครได้ ไม่ได้หรอก อย่างผมไปเจอ เนี้ย ก็เจอกันในงานสำคัญต่างๆ งานวัด ก็ทักทาย เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน มีความรักสามัคคีกัน อยากเห็นประเทศเดินหน้าไป เพราะรู้จักกันเป็นพี่เป็นน้องกัน ก็คุยกันได้ คุยกันทุกฝ่ายแต่รู้จักกัน ก็ไปเยี่ยมยาม ไปคุยกัน แต่ไม่ได้ไปดูดอะไร
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบ ก็ไม่มีกลุ่มเคลื่อนไหวอะไร ตอนนี้ ยังไม่ใกล้เลือกตั้ง
แค่เขื่อว่า ไม่มีกลุ่มใต้ดินอะไรแล้ว เชื่อว่า ช่วงใกล้เลือกตั้ง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีกันนั้น แม่ทัพภาค2 กล่าวว่า ก็ต้องมีบ้าง เป็นธรรมดา ไม่ยังงั้น ถ้าเงียบไปเลย มันก็จะเงียบเหงา
ส่วนความเคลื่อนไหวของ”กลุ่มสามมิตร”ในภาคอีสานนั้น เราก็ได้แต่จับตาดู ถ้ายังไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายเราก็ไปทำอะไรเขาไม่ได้ ถ้าไปเยี่ยมยามกัน รู้จักกัน ยังไม่ได้ทำอะไรผิดกม.

ทหาร “ดูด”อดีต สส. อิสาน เข้าพรรคคสช. จริงปะ?!!

ทหาร “ดูด”อดีต สส. อิสาน เข้าพรรคคสช. จริงปะ?!!
ฟัง ....บิ๊กแบล็ค พลโท ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาค2 ตอบ.....
จากกระแสข่าว บิ๊กทหารในกองทัพภาค2 ดูด อดีตสส. ว่า ทหาร จะไป ดูด ใครได้ ของแบบนี้ มันเป็นเรื่องของจิตใจ อะไรหลายฝ่าย
“ทหารจะไปดูด ใครได้ ไม่ได้หรอก อย่างผมไปเจอ เนี้ย ก็เจอกันในงานสำคัญต่างๆ งานวัด ก็ทักทาย เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน มีความรักสามัคคีกัน อยากเห็นประเทศเดินหน้าไป เพราะรู้จักกันเป็นพี่เป็นน้องกัน ก็คุยกันได้ คุยกันทุกฝ่ายแต่รู้จักกัน ก็ไปเยี่ยมยาม ไปคุยกัน แต่ไม่ได้ไปดูดอะไร
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบ ก็ไม่มีกลุ่มเคลื่อนไหวอะไร ตอนนี้ ยังไม่ใกล้เลือกตั้ง
แค่เขื่อว่า ไม่มีกลุ่มใต้ดินอะไรแล้ว เชื่อว่า ช่วงใกล้เลือกตั้ง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีกันนั้น แม่ทัพภาค2 กล่าวว่า ก็ต้องมีบ้าง เป็นธรรมดา ไม่ยังงั้น ถ้าเงียบไปเลย มันก็จะเงียบเหงา
ส่วนความเคลื่อนไหวของ”กลุ่มสามมิตร”ในภาคอีสานนั้น เราก็ได้แต่จับตาดู ถ้ายังไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายเราก็ไปทำอะไรเขาไม่ได้ ถ้าไปเยี่ยมยามกัน รู้จักกัน ยังไม่ได้ทำอะไรผิดกม.

“ขุนพลประชารัฐ”

“ขุนพลประชารัฐ”
“สนธิรัตน์”ยอมรับ คุยนักการเมือง หวัง ชาติเดืนหน้า หนุน “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ ชี้ไม่ใช่แค่ “พรรคพลังประชารัฐ”แต่ มีอีกหลายพรรค แย้ม หากเวลาเหมาะสม จะเล่าให้ฟัง เรื่อง”พรรคพลังประชารัฐ”
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เผย ไป ครม.สัญจร อุบลราชธานี ก็ได้เจอกับ นายสุพล ฟองงาม อดีตส.ส.อุบลฯ พรรคเพื่อไทย เราพูดคุยกันด้วยความห่วงใย
แต่การเมืองเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งเราอยากให้มีการดำเนินนโยบายที่ต่อเนื่อง ซึ่งก็เคยพูดคุยหารือกับนักการเมือง เนื่องจากต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
อย่าลืมว่า นักการเมืองเป็นคนที่ใกล้ชิดประชาชน เราต้องพูดคุยและรับฟังเขา ซึ่งวันนี้ที่พูดคุยกัน เราได้รู้ความต้องการของพื้นที่ว่าต้องการอะไร และสะท้อนมายังรัฐบาลว่า ควรจะทำอะไรในเวลาที่เหลืออยู่ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อพื้นที่ให้มากที่สุด ผมมองว่าเราต้องทำงานร่วมกันทุกฝ่าย
และจริงๆ แล้ว มี หลายพรรคการเมืองอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เพียงแต่ว่า สิ่งที่ต้องดูคือทำอย่างไรให้พรรคต่างๆ มีโอกาสช่วยกันผลักดันนโยบายรัฐบาลชุดนี้ต่อไป
เช่น โครงการใหญ่ๆอย่างโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC
ส่วน ความคืบหน้าของพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า หากเวลาเหมาะสมจะเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไร เพราะต้องดูเหตุการณ์ในอนาคตก่อน
และถือเป็นความตั้งใจของหลายคน ไม่ใช่เฉพาะของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวที่เป็นห่วง ผมมีความคุ้นเคยกับนักการเมืองมากกว่ากลุ่มอื่น จึงพูดคุยกันตลอดเวลา ตั้งแต่ก่อนที่มีข่าวตนก็พูดคุยกับนักการเมืองมาตลอด เพราะเวลาทำงานต้องมีข้อมูลความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ไม่เช่นนั้นตนจะทำงานได้อย่างไร จะให้บริหารงานแบบคิดไปเองหรือ และที่พูดคุยไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองยังมีภาคเอกชนด้วย

ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะส่งส.ส.ลงทุกเขตหรือไม่นั้น ตนยังไม่รู้ว่าจะอยู่พรรคพลังประชารัฐหรือไม่
ส่วนกระแสข่าวว่าตนเป็นเลขาฯ นั้น เขาก็ลือกันไปเอง เรายังไม่มีการตั้งพรรค ไม่มีการประชุมพรรค ซึ่งหากตนพร้อมที่จะรับตำแหน่งก็จะมาบอกสื่อมวลชน แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม ยังไม่ได้ตัดสินใจ ขอทำทีละเรื่อง

ใจถึงใจ

ใจถึงใจ



เหตุเกิดจากฝนตกกระหน่ำ 7 วัน 7 คืนติดต่อกัน ทำให้เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ในภาคใต้ของ สปป.ลาว ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จใหม่เกิดแตกฉับพลัน
ส่งผลให้มวลน้ำมหาศาลเกือบ 5,000 ล้าน ลบ.เมตร ไหลทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ตามแนวสันเขื่อนอย่างรวดเร็ว
พรวดเดียวน้ำท่วมสูงถึงหลังคา!
พี่น้องผู้ประสบภัยต้องอุ้มลูกจูงหลานหนีน้ำท่วมกันกระเจิดกระเจิง
ผู้เคราะห์ร้ายหลายพันคนต้องไร้ที่พักพิง ทรัพย์สินบ้านเรือนเรือกสวนไร่นาเสียหายยับเยิน หมู ไก่ วัว ควาย ถูกน้ำท่วมตายระนาว
ยังมีผู้เคราะห์ร้ายที่หนีภัยน้ำท่วมไม่ทันสูญหายไปอีกนับร้อยคน
เป็นข่าวน่าเศร้าสลดใจจริงๆ
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า วิบัติภัยเขื่อนแตกใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นบ้านพี่เมืองน้องใกล้ชิดสนิทปึกของไทย ต้องซ่อมแซม ฟื้นฟูต่อไปอีกนานกว่าจะกลับสู่สภาพเดิม
แต่ในช่วงวิกฤติเร่งด่วนฉุกเฉิน สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาพระราชทาน ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยทางเครื่องบิน
รัฐบาลไทย และภาคเอกชนไทยได้ร่วมแรงร่วมใจส่งมอบความช่วยเหลือให้พี่น้องผู้ประสบภัยชาวลาวกันเต็มกำลัง
ยังมีพี่น้องชาวไทยจำนวนมากร่วมบริจาคเงิน และสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลืออีกมากมายก่ายกอง
เป็นเครื่องยืนยันว่ามิตรภาพไทยลาวจะแนบแน่นมั่นคงต่อไปชั่วกาลนาน
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า พลังของมวลน้ำก้อนมหึมาทำให้เขื่อนใหญ่ที่ก่อสร้างอย่างแข็งแรงแตกได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
ถามว่า ปริมาณน้ำเกือบ 5,000 ล้าน ลบ.เมตร มากขนาดไหน??
ตอบว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของความจุ เขื่อนภูมิพล เขื่อนใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
เหตุเขื่อนแตกใน สปป.ลาว ทำให้เกิดคำถามว่าเขื่อนในเมืองไทย ซึ่งสร้างมาหลายสิบปีจะมีโอกาสแตกหรือไม่??
“แม่ลูกจันทร์” ช่วยยืนยันให้สาธุชนสบายใจว่า เขื่อนใหญ่ทุกเขื่อนใน เมืองไทยยังแข็งแรงร้อยเปอร์เซ็นต์!!
เพราะเขื่อนหลักๆของไทย ไม่ว่าเป็นเขื่อนดิน หรือเขื่อนคอนกรีต ได้ผ่านการพิสูจน์ของจริงมาแล้วว่าแข็งจริงทนจริง
เรามีระบบตรวจสอบโครงสร้างเขื่อน ทุกเขื่อนอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม
ถึงแม้พายุเข้าฝนตกกระหนํ่านํ้าเต็มความจุยังรับได้สบายๆ
ข้อสำคัญ...เขื่อนภูมิพลยังมีนํ้าสำรองแค่ 55 เปอร์เซ็นต์
เขื่อนสิริกิติ์มีนํ้าสำรอง 59 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนป่าสักฯยังมีนํ้าหน่อมแน้มแค่ 32 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนอุบลรัตน์มีนํ้าในอ่างเพียง 32 เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ
สรุปว่าเขื่อนใหญ่ทั่วประเทศยังเหลือที่ว่างรับนํ้าฝนเพิ่มได้อีกเท่าตัว
ยกเว้น...เขื่อนแก่งกระจานแห่งเดียวที่มีนํ้าเกือบเต็มชามอ่าง 87 เปอร์เซ็นต์
“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าอีกครั้งว่ามหันตภัยเขื่อนแตก แม้จะเกิดขึ้นในประเทศลาว อยู่ห่างจากเขตแดนไทยเกือบ 100 กม.
แต่เขื่อนแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องต่อประเทศไทย และคนไทยอย่างสำคัญ
หรือพูดชัดๆคือ เราได้ประโยชน์จากเขื่อนนี้โดยตรง
เพราะโครงการก่อสร้างเขื่อนเซเปียนเซนํ้าน้อย จะเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนประเทศไทย
เขื่อนแห่งนี้ ผลิตไฟฟ้าพลังนํ้าได้ถึง 410 เมกะวัตต์ แต่ใช้ในประเทศลาวเพียง 40 เมกะวัตต์เท่านั้นเอง
ที่เหลืออีก 370 เมกะวัตต์ จะขายให้ กฟผ.ระยะยาว 27 ปี
ดังนั้น กระแสไฟฟ้า 90 เปอร์เซ็นต์ที่ผลิตจากเขื่อนนี้เพื่อสนองความต้องการคนไทยให้มีไฟฟ้าใช้โดยไม่ขาดแคลนในระยะยาว
ถ้าไม่ได้ไฟฟ้าจากลาว ไทยเดือดร้อนนะโยม.
“แม่ลูกจันทร์”

นาทีนี้ “ยิ่งสู้ก็ยิ่งเจ็บ”

นาทีนี้ “ยิ่งสู้ก็ยิ่งเจ็บ”



ได้ของขวัญล่วงหน้ารับวันเกิดครบ 69 ปี
ตามคิวสดๆร้อนๆที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับใบที่ 5 ให้แก่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษ เลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน
นายใหญ่ได้เป่าเค้กฉลองความสุขไม่เต็มอิ่มเพราะหมายจับยาวเป็นหางว่าว
มิหนำซ้ำ “ลูกชายสุดที่รัก” พานทองแท้ ชินวัตร ยังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งฟ้องความผิดฐานฟอกเงิน กรณีอนุมัติเงินกู้ธนาคารกรุงไทยโดยมิชอบให้กลุ่มกฤษดามหานคร
คดีถูกเสิร์ฟถึงมืออัยการ เตรียมส่งต่อไปศาล รอระทึกบทสรุปจะตกที่นั่งเช่นเดียวกับพ่อและอาหรือไม่
คนตระกูล “ชินวัตร” ยังเผชิญวิบาก คดีต่างๆจ่อเช็กบิลต่อเนื่อง
ในสถานการณ์ที่นายใหญ่ต้องปรับทัพกันวุ่นวาย ใช้งานแฮปปี้เบิร์ธเดย์ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หารือแกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส.แก้เกม หยุดภาวะเลือดไหลออก
หาทางหยุดยั้งกลุ่มสามมิตรที่ตะลุยช็อปปิ้งอดีต ส.ส.เข้าสังกัดมากมาย
ลูกทีมนายใหญ่ถูกรุกไล่หนัก โดยใช้เงื่อนไขทางกฎหมายและธุรกิจกดดันให้พลิกขั้วย้ายข้าง

ล่าสุดแม้กระทั่งคดี “วัน อยู่บำรุง” ลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รุ่นซีเนียร์เพื่อไทย ที่โดนหมายจับข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ถูกเจ้าหน้าที่กองปราบฯควบคุมตัวไปนอนในห้องขัง 1 คืน ก่อนประกันตัวออกมา

ยังถูกจับโยงให้ดูเป็นตัวอย่างระดับลูก “บิ๊กเนมการเมือง” ยังสิ้นฤทธิ์ หากเทียบกับอดีต ส.ส.ธรรมดาที่มีชนักติดตัวจะลงเอยอย่างไร

ลูกน้อง ลูกชาย รวมถึงตัวนายใหญ่เอง ยังเอาตัวแทบไม่รอด ย่อมเป็นอะไรที่ “ทักษิณ” คงอยู่เฉยไม่ได้ หากยังอยากให้ยี่ห้อเพื่อไทยเป็นที่ 1 หลังเลือกตั้ง
อย่างน้อยต้องมีฉากแอ็กชันปลุกและปลอบลูกพรรคในงานแฮปปี้เบิร์ธเดย์
กระตุกขวัญกำลังใจลูกทีมให้ฮึดสู้ รักษาต้นทุน ส.ส.ในมือไว้ให้มากที่สุด
ในมุมที่คนแดนไกลเองก็ต้องระวังตัวทุกฝีก้าว ไม่ให้หลุดช็อตที่แสดงให้เห็นถึงการก้าวก่าย แทรกแซงพรรคการเมือง ตามช่องที่ กกต.และฝ่ายความมั่นคงรอจับผิดอยู่
ถึงนาทีนี้นายใหญ่ยิ่งสู้ยิ่งมีโอกาสเจ็บตัวสูง หากพลาดท่าเผลอๆอาจถูกจับแพ้ฟาวล์ตั้งแต่ก่อนลงสนาม
เพื่อไทยตกที่นั่งลำบาก นอกจากยังไม่ชัวร์ใครจะมาเป็นผู้นำคนใหม่แล้ว ยังไม่รู้นายใหญ่จะใส่เต็มร้อยในสนามเลือกตั้งเที่ยวนี้หรือไม่
ปล่อยให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.โกยคะแนนเป็นกอบเป็นกำ

กระหน่ำแคมเปญล่าสุดในการประชุม ครม.สัญจร จ.อุบลราชธานี ทั้งการอัดฉีดงบฯ 9.7 หมื่นล้านบาท พยุงราคาข้าวหอมมะลิตันละ 17,050 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 12,000 บาท
อุ้มชาวนาได้ลืมตาอ้าปาก เลิกแบกหนี้หลังแอ่น
หรือการหว่านงบประมาณบูมโซนอีสานใต้ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม อาทิ ขยายสนามบิน รถไฟรางคู่ ขยายเส้นทางถนน และสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 6
กระแส “ลุงตู่” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรตติ้งพลังประชารัฐดีวันดีคืน ตามผลโพลที่สปีดแซงพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาอยู่ที่ 2 บี้หายใจรดต้นคอพรรคเพื่อไทยขึ้นมาติดๆ
สถานการณ์เป็นใจให้ “ลุงตู่” ได้ลุ้นต่อตั๋วบนเก้าอี้นายกฯ สร้างความมั่นใจก่อนลงสนาม
มีลุ้นกวาดที่นั่ง ส.ส.สูงสุด 3 อันดับแรก ภายหลังเลือกตั้ง มีอำนาจต่อรองมากพอในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างใคร
เหลือแค่รอสัญญาณคลายล็อก ผ่อนกฎเหล็กไพรมารีโหวตในขั้นตอนถัดไป
ตามเค้าลางที่อาจใช้อำนาจมาตรา 44 ขอเว้นวรรคทำไพรมารีโหวตการเลือกตั้งคราวนี้ เปลี่ยนมาใช้วิธีให้ประชาชนมีส่วนร่วมคัดเลือกผู้สมัครในรูปแบบอื่นแทน
ลดดีกรีความเข้มข้นระบบไพรมารีโหวต ผ่อนปรนหลักเกณฑ์เรื่องจำนวนสมาชิกในพื้นที่ และเงื่อนเวลา
เปิดช่องช่วยพรรคเล็กพรรคน้อยที่เป็นแนวร่วมสนับสนุน “ลุงตู่” ได้มีเวลาวางตัวผู้สมัครทัน เพื่อช่วยเสริมฐานให้แน่น
เพราะลำพังแค่ตัดกำลังค่ายเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ต้องอาศัยกองหนุนจากพรรคอื่นๆมาช่วยเติมแต้ม
การันตีเก้าอี้ผู้นำเดิมพันศึกชิงอำนาจรอบใหม่.
ทีมข่าวการเมือง