PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

นาทีนี้ “ยิ่งสู้ก็ยิ่งเจ็บ”

นาทีนี้ “ยิ่งสู้ก็ยิ่งเจ็บ”



ได้ของขวัญล่วงหน้ารับวันเกิดครบ 69 ปี
ตามคิวสดๆร้อนๆที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับใบที่ 5 ให้แก่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษ เลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน
นายใหญ่ได้เป่าเค้กฉลองความสุขไม่เต็มอิ่มเพราะหมายจับยาวเป็นหางว่าว
มิหนำซ้ำ “ลูกชายสุดที่รัก” พานทองแท้ ชินวัตร ยังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งฟ้องความผิดฐานฟอกเงิน กรณีอนุมัติเงินกู้ธนาคารกรุงไทยโดยมิชอบให้กลุ่มกฤษดามหานคร
คดีถูกเสิร์ฟถึงมืออัยการ เตรียมส่งต่อไปศาล รอระทึกบทสรุปจะตกที่นั่งเช่นเดียวกับพ่อและอาหรือไม่
คนตระกูล “ชินวัตร” ยังเผชิญวิบาก คดีต่างๆจ่อเช็กบิลต่อเนื่อง
ในสถานการณ์ที่นายใหญ่ต้องปรับทัพกันวุ่นวาย ใช้งานแฮปปี้เบิร์ธเดย์ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หารือแกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส.แก้เกม หยุดภาวะเลือดไหลออก
หาทางหยุดยั้งกลุ่มสามมิตรที่ตะลุยช็อปปิ้งอดีต ส.ส.เข้าสังกัดมากมาย
ลูกทีมนายใหญ่ถูกรุกไล่หนัก โดยใช้เงื่อนไขทางกฎหมายและธุรกิจกดดันให้พลิกขั้วย้ายข้าง

ล่าสุดแม้กระทั่งคดี “วัน อยู่บำรุง” ลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รุ่นซีเนียร์เพื่อไทย ที่โดนหมายจับข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ถูกเจ้าหน้าที่กองปราบฯควบคุมตัวไปนอนในห้องขัง 1 คืน ก่อนประกันตัวออกมา

ยังถูกจับโยงให้ดูเป็นตัวอย่างระดับลูก “บิ๊กเนมการเมือง” ยังสิ้นฤทธิ์ หากเทียบกับอดีต ส.ส.ธรรมดาที่มีชนักติดตัวจะลงเอยอย่างไร

ลูกน้อง ลูกชาย รวมถึงตัวนายใหญ่เอง ยังเอาตัวแทบไม่รอด ย่อมเป็นอะไรที่ “ทักษิณ” คงอยู่เฉยไม่ได้ หากยังอยากให้ยี่ห้อเพื่อไทยเป็นที่ 1 หลังเลือกตั้ง
อย่างน้อยต้องมีฉากแอ็กชันปลุกและปลอบลูกพรรคในงานแฮปปี้เบิร์ธเดย์
กระตุกขวัญกำลังใจลูกทีมให้ฮึดสู้ รักษาต้นทุน ส.ส.ในมือไว้ให้มากที่สุด
ในมุมที่คนแดนไกลเองก็ต้องระวังตัวทุกฝีก้าว ไม่ให้หลุดช็อตที่แสดงให้เห็นถึงการก้าวก่าย แทรกแซงพรรคการเมือง ตามช่องที่ กกต.และฝ่ายความมั่นคงรอจับผิดอยู่
ถึงนาทีนี้นายใหญ่ยิ่งสู้ยิ่งมีโอกาสเจ็บตัวสูง หากพลาดท่าเผลอๆอาจถูกจับแพ้ฟาวล์ตั้งแต่ก่อนลงสนาม
เพื่อไทยตกที่นั่งลำบาก นอกจากยังไม่ชัวร์ใครจะมาเป็นผู้นำคนใหม่แล้ว ยังไม่รู้นายใหญ่จะใส่เต็มร้อยในสนามเลือกตั้งเที่ยวนี้หรือไม่
ปล่อยให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.โกยคะแนนเป็นกอบเป็นกำ

กระหน่ำแคมเปญล่าสุดในการประชุม ครม.สัญจร จ.อุบลราชธานี ทั้งการอัดฉีดงบฯ 9.7 หมื่นล้านบาท พยุงราคาข้าวหอมมะลิตันละ 17,050 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 12,000 บาท
อุ้มชาวนาได้ลืมตาอ้าปาก เลิกแบกหนี้หลังแอ่น
หรือการหว่านงบประมาณบูมโซนอีสานใต้ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม อาทิ ขยายสนามบิน รถไฟรางคู่ ขยายเส้นทางถนน และสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 6
กระแส “ลุงตู่” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรตติ้งพลังประชารัฐดีวันดีคืน ตามผลโพลที่สปีดแซงพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาอยู่ที่ 2 บี้หายใจรดต้นคอพรรคเพื่อไทยขึ้นมาติดๆ
สถานการณ์เป็นใจให้ “ลุงตู่” ได้ลุ้นต่อตั๋วบนเก้าอี้นายกฯ สร้างความมั่นใจก่อนลงสนาม
มีลุ้นกวาดที่นั่ง ส.ส.สูงสุด 3 อันดับแรก ภายหลังเลือกตั้ง มีอำนาจต่อรองมากพอในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างใคร
เหลือแค่รอสัญญาณคลายล็อก ผ่อนกฎเหล็กไพรมารีโหวตในขั้นตอนถัดไป
ตามเค้าลางที่อาจใช้อำนาจมาตรา 44 ขอเว้นวรรคทำไพรมารีโหวตการเลือกตั้งคราวนี้ เปลี่ยนมาใช้วิธีให้ประชาชนมีส่วนร่วมคัดเลือกผู้สมัครในรูปแบบอื่นแทน
ลดดีกรีความเข้มข้นระบบไพรมารีโหวต ผ่อนปรนหลักเกณฑ์เรื่องจำนวนสมาชิกในพื้นที่ และเงื่อนเวลา
เปิดช่องช่วยพรรคเล็กพรรคน้อยที่เป็นแนวร่วมสนับสนุน “ลุงตู่” ได้มีเวลาวางตัวผู้สมัครทัน เพื่อช่วยเสริมฐานให้แน่น
เพราะลำพังแค่ตัดกำลังค่ายเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ต้องอาศัยกองหนุนจากพรรคอื่นๆมาช่วยเติมแต้ม
การันตีเก้าอี้ผู้นำเดิมพันศึกชิงอำนาจรอบใหม่.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: