PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ย้อนแย้ง ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต

เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
11 ชม.
ย้อนแย้ง
ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต
นับเป็นความชาญฉลาดที่พรรคเก่าอายุ 73 ปี อย่างประชาธิปัตย์ จะตัดสินใจประกาศส่งคุณชวน หลีกภัย เข้าชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ในคืนวันที่ 24 พ.ค. 2562 ก่อนหน้าจะมีการประชุมเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นเพียง 12 ชั่วโมง​
1. พรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส.เพียง 52 คน แต่เสนอคุณชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นผู้อาวุโส เป็นผู้ซื่อสัตย์สุจริต มีประสบการณ์ในสภายาวนานกว่าใคร
เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 2 สมัย และเคยเป็นประธานรัฐสภามาแล้วอีกด้วย
จึงเป็นผู้มีบารมี (ความดีสะสม) ที่ประชาชนทั่วไปยอมรับ และ ส.ส.พรรคการเมืองอื่นไม่รังเกียจ
​2. พรรคประชาธิปัตย์ในขณะที่มี ส.ส.เพียง 52 คน แต่ขณะที่จะเลือกประธานสภา มีความได้เปรียบสูงยิ่ง
​เพราะขั้วสืบทอดอำนาจโดยทุน ได้จับมือกันสนับสนุนด้วยพละกำลัง ส.ส. 245 คน เสนอนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จากพรรคเพื่อไทยเป็นประธานฯ
​ถ้าอีกฝ่ายจะส่งผู้สมัครชิงประธานได้ จะต้องได้เสียงจาก ส.ส.ที่เหลือเกือบทั้งหมด (ประมาณ 250 คน)
​เมื่อ ปชป.ประกาศส่งคุณชวน ลงสมัครเป็นประธานสภาฯ แล้ว พลังประชารัฐจะส่งนายสุชาติ ตันเจริญ หรือใครก็ตาม ก็จะทำเสียงแตก จะส่งผลให้คนของพรรคเพื่อไทย คือ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ชนะ ได้เป็นประธานสภาฯ ทันที

​3. ประธานสภาฯ คือตำแหน่งสำคัญ เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะต้องเป็นกลาง ไม่มีความเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใด แต่ที่ผ่านมา ประธานสภาฯ ในยุคที่แล้วจากพรรคเพื่อไทย ก็มีความลำเอียงอย่างออกนอกหน้า ถึงขั้นลากให้มีการประชุมยาวไปลงมติตอนตี 3 ตี 4 ให้พรรคจัดที่นอนในรถบัส ติดแอร์ แล้วปลุกขึ้นมาให้ไปโหวตก็มี
​การบรรจุวาระ การเลื่อนการประชุม การหยุดพักการประชุม การลงมติด้วยการตั้งประเด็นเพื่อลงมติ ประธานต่างมีบทบาทสำคัญ
​บทเรียนจากอดีต ทำให้พลังประชารัฐและพรรคแนวร่วมที่ประสงค์จะจัดตั้งรัฐบาล จะปล่อยให้พรรคเพื่อไทยที่จะเป็นฝ่ายค้าน ได้เป็นประธานสภาไม่ได้ เพราะหากพลังประชารัฐหวังจะได้จัดตั้งรัฐบาล ก็จะมีปัญหาในภายหลัง
​พรรคพลังประชารัฐจึงไม่มีทางเลือก จะส่งคนลงสมัครเป็นประธานฯ ก็ทำให้ทั้งพลังประชารัฐและประชาธิปัตย์ที่ส่งคนชิงประธานเช่นกันแพ้คะแนนเสียงทันที สุชาติ ตันเจริญ จึงหงุดหงิด หน้าตาหมองไปกว่าวันที่ไปลงทะเบียน ส.ส.
​4. จะกล่าวหาหรือตำหนิประชาธิปัตย์ว่าล้ำเส้นก็ไม่ได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็มีธรรมเนียมปฏิบัติเสมอมา ที่ส่งคนชิงตำแหน่งประธานในอดีต แม้จะรู้ว่ามีเสียงสนับสนุนน้อยและคงเป็นฝ่ายค้าน
​หรืออาจจะมีการเจรจาในบรรดาแกนนำพรรคต่างๆ ก่อนหน้านี้ด้วยก็ได้ ที่พรรคพลังประชารัฐและแนวร่วมจะสนับสนุนคุณชวนเป็นประธานสภาฯ
​5. แต่ถึงเวลาวันเลือก กลุ่มที่ย้ายขั้วมาจากระบอบทักษิณเดิมเข้ามาอยู่พลังประชารัฐเกิดไม่พอใจ แสดงพลังกลุ่ม ทำให้พลังประชารัฐต้องขอเลื่อนการเลือกประธานสภาฯ ออกไปก่อน
​แน่นอน ขั้วสืบทอดอำนาจทุนหรือกลุ่มเพื่อไทย ย่อมไม่พอใจที่จะให้เลื่อน เพราะคิดว่าเลือกทันทีในขณะนั้นจะได้เปรียบ
​6. เมื่อมีการเลือกประธานในวันนั้น โดยไม่เลื่อนการลงคะแนนหลังจากหยุดพัก ปรากฏคะแนนที่เลือกคุณชวน 258 คะแนน คุณสมพงษ์ 235 คะแนน ซึ่งหมายความว่าคะแนนคุณชวนได้มาจากฝั่งเพื่อไทยและแนวร่วมเกือบ 10 คะแนน
​สะท้อนว่า เกิดงูเห่า ทั้งไปและมา หักกลบแล้ว สุทธิเกือบ 10 ตัว
​บทเรียนและภาพสะท้อน
​1) พรรคประชาธิปัตย์เข้าใจกลไก เกมการเมืองในสภาอย่างดี จึงสามารถกำหนดท่าทีได้ตรงจังหวะเวลา อย่างที่พรรคอื่นยากจะปฏิเสธหรือกล่าวหา ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธการร่วมรัฐบาล
​2) การที่พรรคประชาธิปัตย์ มี ส.ส.คุณภาพอย่างคุณชวน หลีกภัย ทำให้การดำเนินงานการเมืองง่ายขึ้น เพราะหาก ปชป.เสนอคนไม่มีคุณภาพ ก็จะทำให้เกิดปัญหาและยากลำบากกว่านี้
​3) การที่พรรคประชาธิปัตย์ ยึดหลักการประชาธิปไตยและการทำงานในสภาในอดีตก็ส่งผู้สมัครชิงประธานอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าอาจต้องพ่ายแพ้เพราะเป็นฝ่ายเสียงข้างน้อย พฤติกรรมนี้ก็เป็นเกราะกำบังการกล่าวหาโจมตี
​4) การที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยคุณชวน หลีกภัย สนใจที่จะเป็นผู้นำในฝ่ายนิติบัญญัติ สอดคล้องกับบทบาทที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ประชาธิปัตย์ในครั้งนี้เป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายสนับสนุนอิสระ ซึ่งก็คือเป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่อย่างอิสระ (คล้ายองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ) เพื่อตรวจสอบ สนับสนุนฝ่ายบริหารอย่างอิสระ ไม่ผูกพันผูกมัดกับมารยาทในพรรคร่วมรัฐบาล
​5) การที่ทั้ง 2 ฝ่ายที่ประสงค์จะจัดตั้งรัฐบาล มีเสียงปริ่มน้ำ ก็จะเกิดเหตุอย่างที่เกิดเมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมา จะต้องเหนื่อยและเสียเวลากับการทำงานที่ไม่ราบรื่น ยื้อ ชักคะเย่อ เช่นนี้ แล้วบ้านเมืองจะเดินได้ดีแค่ไหน
​พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประสงค์จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ จะมีเสถียรภาพราบรื่นหรือไม่ จะต้องจัดการกับงูเห่า ทั้งที่จะมาและจะไปอย่างไร จะคุ้นเคยทันเกมการเมือง รู้ทันการเมืองแค่ไหน

​6) ส.ส.ใหม่ เพื่ออนาคตใหม่ จะต้องเรียนรู้ เพื่อรู้ทันการเมือง จากประสบการณ์ของคนรุ่นเก่า วันแรกของการประชุม 25 พ.ค. น่าจะเป็นบทเรียนแรก ถ้าสังเกตวิเคราะห์ก็จะได้เรียนรู้มากขึ้น ว่าคนในสภาก็มีคนทุกประเภท ทั้งเสือ สิงห์ กระทิง แรด นก หนู ปู ปลา สะท้อนพฤติกรรมและสัดส่วนของประชาชนผู้เลือกเข้ามา ว่ามีหลากหลายประเภทอย่างไร และต้องเลือกทำงานกับคนประเภทไหน

​7) หากจะเปรียบกับการประชุมเพื่อเลือกประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ก่อนหน้านั้น 1 วัน จะเห็นความแตกต่างอย่างมาก
​สมาชิกวุฒิสภาจากการแต่งตั้งเลือกสรรโดย คสช. จะนั่งเรียบร้อยเป็นแถวเป็นแนว นั่งเรียงหนึ่ง เว้นหนึ่ง
​ไม่มีการเสนอชื่ออื่นเพื่อเป็นตัวเลือกในการเลือกสรรผู้เป็นประธานวุฒิสภา
​ไม่มีการโต้เถียง เสนอญัตติด่วน เสนอญัตติซ้อน ไม่มีการประท้วงอ้างทำผิดข้อบังคับ ใช้เวลารวดเร็ว สมองไม่เมื่อยล้า ไม่ต้องใช้งานมาก
​และถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะมีคนเข้าประชุมบ้าง ไม่เข้าบ้าง เพราะรู้แล้วว่าผลจะเป็นอย่างไร ปล่อยให้เขาว่ากันไป ถ้าเข้าประชุมก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ปล่อยให้คนกลุ่มอยากพูด พูดไป เซ็นต์ชื่อเข้าประชุมแล้วก็ไปนั่งกินกาแฟ อาหาร สังสรรค์ พูดคุยกันดีกว่า
​ยิ่งประธานจัดลำดับคนพูดก่อน-หลัง 1, 2, 3, 4... 50 เมื่อเราพูดแล้วคนที่แรกๆ ก็ไม่ต้องฟังคนต่อๆ ไป เพราะฟังไปก็พูดโต้แย้งลำบาก ผิดคิว และถ้าเราอยู่ในคิวท้ายๆ ก็รู้ว่าอีกนานจะถึงคิวพูด ก็ออกไปกินกาแฟ ทำธุระก่อนก็ได้
​เมื่อถึงเวลาลงมติ ก็จะถามกันไปมาว่า “เรื่องนี้เอาอย่างไร?” แล้วก็ลงมติกันไป
​ถ้าพฤติกรรมเป็นเช่นนี้ เราก็จะเห็นการแสดงเฉพาะของบางคน บางกลุ่ม ในวุฒิสภา
​แต่เราจะต้องจ่ายภาษีเพื่อเป็นเงินเดือน ส.ว. เงินเดือนผู้เชี่ยวชาญ เงินเดือนผู้ชำนาญการ เงือนเดือนผู้ช่วย ส.ว.อีก 5 คน ปีละเกือบ 2 พันล้านบาท 5 ปีก็เกือบหมื่นล้านบาท
​นี่แหละครับ ผลของการปฏิรูปการเมืองที่เราประกาศเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
....0....

หญิงหน่อย อัดกติกาบิดเบี้ยว ชนะเยอะแต่ยิ่งแพ้

หญิงหน่อย อัดกติกาบิดเบี้ยว ชนะเยอะแต่ยิ่งแพ้ ปชต.ได้ที่นั่งเดียว แต่ฝั่งสืบทอดอำนาจเพิ่ม 2
ภายหลังมีการเลือกตั้งใหม่ ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ ได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.เขตเพิ่ม 1 คน คือ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ได้ 75,891 คะแนน ทำให้มี ส.ส.เขตเพิ่มเป็น 31 คน แต่เมื่อนำคะแนนไปคำนวณพบว่า พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้นพรรคละ 1 คน
ส่งผลให้พรรคไทรักธรรม ที่เดิมได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน คือ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรค จะไม่ได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ เนื่องจากขณะนี้สภามี ส.ส.ครบ 500 คนแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 พ.ค. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีดังกล่าวว่า ‪#เลือกตั้ง62‬ ‪เพื่อไทยโดนใบแดง‬ ‪สส.ฝ่าย ปชต.หายไป 1คน‬ ‪#เลือกตั้งซ่อม‬ ‪#ฝ่ายสืบทอดอำนาจแพ้ยับเยิน‬ ‪#อนาคตใหม่ชนะขาด‬ ‪ฝ่าย ปชต.ได้ สส. เขตคืนมา 1คน‬ ‪แต่..‬‪ฝ่ายสืบทอดอำนาจกลับได้‬ ‪สส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้น 2คน!!‬ ‪#ชนะเยอะกลับยิ่งแพ้‬ เราต้องอยู่กับ #กติกาบิดเบี้ยว‬ ‪แบบนี้ ไปอีกนานแค่ไหนคะ?‬

เหตุระเบิด ณ กรุงกาฐมาณฑุ

เหตุระเบิด ณ กรุงกาฐมาณฑุ
ระเบิดเกิดขึ้น 3 จุด บริเวณใจกลางเมืองของกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2562 สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า “มีผู้เสียชีวิต 4 คน ในที่เกิดเหตุ 3 คนและเสียชีวิต ณ โรงพยาบาลอีก 1 คน อย่างไรก็ตามยังไม่มีผู้ใดออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า เป็นการก่อเหตุของกลุ่มอนุรักษ์นิยมลัทธิเหมาอิสต์ (Maoist splinter group)”
เหตุระเบิดในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของฝ่ายเสนาธิการทหาร Tirtha Raj Ghimire ของกลุ่มอนุรักษ์นิยมลัทธิเหมาอิสต์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาเรียกร้องให้มีการสอบสวนถึงการเสียชีวิตของเสนาธิการทหารคนดังกล่าว หลังจากมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ เมือง Bhojpur จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและนำตัวส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บเบื้องต้น ณ สถาบัน Health Sciences ในเมือง Dharan ทว่า เขากลับเสียชีวิตในเวลาต่อมา
การเสียชีวิตของเขาถูกสันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุเบื้องต้นของการระเบิดในครั้งนี้ สถานการณ์ล่าสุด ได้มีการประกาศหยุดงานอย่างน้อย 1 วัน ณ กรุงกาฐมาณฑุ
นอกจากนี้ นาย Ram Bahadur Thapa รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีการเรียกประชุมฉุกเฉินและขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเตรียมพร้อมตรึงกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเข็มงวดต่อไป

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
เมื่อเวลา 18.36 น. วันที่ 27 พ.ค. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพและเชิญพวงมาลาหลวงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวงมาลาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี พวงมาลาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาส่วนพระองค์ วางที่หน้าโกศศพ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ณ พระที่นั่งทรงธรรม จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นประธานในพิธีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมศพประธานองคมนตรี จบแล้ว จึงเสด็จฯ กลับ
ต่อมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้แทนพระองค์ อัญเชิญพวงมาลาสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พวงมาลาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี พวงมาลาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พวงมาลาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร พวงมาลาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พวงมาลาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ และพวงมาลาทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี วางที่หน้าโกศศพ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร เป็นผู้แทนพระองค์ อัญเชิญพวงมาลาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ วางที่หน้าโกศศพ
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานโกศกุดั่นน้อย ฉัตรเครื่องตั้งประดับ แตรงอน เเตรฝรั่ง ปี่กลองชนะประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และทรงรับศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมเวลากลางคืน กำหนด 7 คืน (ตั้งเเต่วันที่ 27 พ.ค. ถึงวันที่ 2 มิ.ย.) และในวันที่ 2 มิ.ย. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทาน ในวาระครบ 7 วัน
ภาพจาก : khaosod.co.th

อย่างเป็นทางการ! 'ภูมิใจไทย' ตอบรับ 'พปชร.' ร่วมจัดตั้งรัฐบาล



27 พ.ค.62 - เมื่อเวลา 15.30 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงข่าวร่วมกันถึงการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังใช้เวลาหารือประมาณ 30 นาที 
โดยนายอุตตมกล่าวว่า ขอขอบคุณหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและคณะ ที่ให้การต้อนรับพรรคพลังประชารัฐอย่างอบอุ่น วันนี้พรรคพลังประชารัฐมาเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า เราได้หารือเรื่องแนวทางการทำงานร่วมกัน ตนได้รับฟังจากนายอนุทินและนายศักดิ์สยาม ถึงแนวคิดของพรรคภูมิใจไทยเรื่องการทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เชื่อว่าจะทำงานร่วมกันได้ รวมถึงกับพรรคร่วมพรรคอื่นด้วย
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยตอบรับเลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้ทั้ง 2 พรรคได้รับข้อเสนอของแต่ละฝ่าย พวกเราให้เกียรติกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ก็จะนำข้อเสนอกลับไปหารือกับกก.บห. จากนั้นค่อยติดต่อกัน เราเชื่อว่าประเทศไทยขาดรัฐบาลไม่ได้ ถ้ามีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารราชการแผ่นดินด้วยความรวดเร็ว ก็จะเป็นประโยชน์ให้ประเทศไม่หยุดชะงัก 
เมื่อถามว่า กดดันหรือไม่ที่มีการโจมตีว่าพรรคภูมิใจไทยโกหกประชาชน จากที่ก่อนหน้านี้เคยระบุว่าจะไม่ทำงานร่วมกับทหาร  นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยพูดมาตลอดว่าใครรับจุดยืน 4 ข้อของพรรคได้ เราก็พร้อมทำงานด้วย ได้แก่ 1.เราจะร่วมเป็นรัฐบาลที่เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.เราจะร่วมกับรัฐบาลที่ไม่สร้างความขัดแย้งกับคนในชาติ เมื่อมาถึงข้อที่ 3 นายอนุทินกล่าวย้ำว่า ขอให้ฟังดีๆ รัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน จะไม่มีรัฐบาลที่เป็นเสียงข้างน้อย และ 4. นโยบายของพรรคได้รับการสนับสนุนตอบรับจากพรรคร่วมรัฐบาล และเราก็พร้อมจะรับนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ทั้ง 4 ข้อนี้ยังอยู่ในกรอบที่เราได้ให้สัญญาไว้กับประชาชน
“เราไม่เคยโกหกประชาชน ไม่มีวันโกหก ไม่มีความคิดที่จะโกหกประชาชน หากไปดูคลิป ข้อชี้แจง การให้สัมภาษณ์ หรือแม้แต่การปราศรัย ไม่มีจุดไหนที่พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ปฏิบัติในสิ่งที่ตัวเองพูดไว้” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า สังคมมองว่าการมาพูดคุยกันในวันนี้ เป็นเพียงปาหี่ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพปชร.กับภท.เสร็จสิ้นตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง นายอนุทินกล่าวว่า หากเสร็จสิ้น วันนี้คงนั่งแถลงว่าเราจะอยู่กระทรวงไหน พอดียังไม่เสร็จสิ้น เพียงแต่เราได้รับข้อเสนอจากพรรคพปชร. ซึ่งพปชร.ก็ได้รับทราบเจตนารมณ์ของพรรคภท. วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะเสียแม้แต่วินาทีเดียวในการทำงานให้กับบ้านเมือง 
เมื่อถามว่า ข้อเสนอของพรรคพลังประชารัฐ คือเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า พรรคพปชร.ได้เสนอพล.อ.ประยุทธ์ตั้งแต่ต้น ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง  ฉะนั้น การเจรจาหารือ เราได้ยืนยันในจุดนี้ ส่วนวันนี้เรามาพบกัน เราตั้งใจแสดงให้เห็นว่าเรามีความมุ่งมั่นร่วมกัน พรรคการเมืองทั้ง 2 พรรคจะมานั่งเสแสร้งคงไม่ใช่ วันนี้เป็นวันที่เรียกว่าทำจริง ในส่วนพปชร.ก็มีขั้นตอนภายในที่ต้องไปหารือ วันนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดีที่สังคมได้รับรู้แล้ว ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเป็นอย่างไร 
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐได้ยกกระทรวงคมนาคม  กระทรวงสาธารณสุข  และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้กับพรรคภูมิใจไทยแล้ว จริงหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า วันนี้เรามารับฟังสิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่ายมี ในส่วนรายละเอียดเรื่องกระทรวง เดี๋ยวค่อยไปคุยกัน เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยมีข้อเสนอเกี่ยวกับ 3 กระทรวงนี้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างไร เราก็จะยื่นข้อเสนอที่เมื่อเราเข้าไปทำงานแล้วจะสามารถผลักดันนโยบายของเราได้ เป็นเรื่องที่ต่างคนต่างต้องพิจารณา ไม่ใช่เป็นการต่อรอง แต่เป็นการหารือให้ได้จุดที่ดีที่สุดให้กับประชาชนและบ้านเมือง เมื่อถามว่า ต้องรอพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า วันนี้ตนมาที่พรรคภท.ก็ไม่ต้องรอทุกอย่าง สามารถดำเนินการได้พร้อมๆกัน 
เมื่อถามต่อว่า ในส่วนพรรคภูมิใจไทย ต้องรอผลประชุมของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เท่าที่หารือกัน ได้มีการนัดแนะกันว่า ก่อนที่จะมีการเลือกนายกฯ ทุกอย่างต้องมีความชัดเจน และพรรคที่จะร่วมกันทำงานขับเคลื่อนเป็นรัฐบาลร่วมกัน ได้เสนอไปว่า  ทางหัวหน้าพรรคพปชร.ซึ่งเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็คงมีการแถลงร่วมกันอีกครั้งของทุกพรรคที่จะร่วมรัฐบาล ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกนายกรัฐมนตรี 
เมื่อถามว่า การแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง เพราะมีเสียงวิจารณ์ว่ามีผู้มีบารมีนอกพรรคเข้ามาจัดแจงเรื่องดังกล่าว นายอุตตมกล่าวว่า เรากำลังดำเนินการอยู่ ขอใช้คำว่าการจัดสรรกำลัง ซึ่งเป็นกำลังของส่วนพรรคพปชร.เอง และพรรคร่วม ที่จะขับเคลื่อนนโยบายที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน  เรานำมาประสานกันและมาดูกันว่าจะแบ่งงานกันทำอย่างไร เช่นเดียวกัน ในพรรคพลังประชารัฐ ก็ใช้หลักนี้ ฉะนั้น ตอนนี้ยังดำเนินการอยู่ 
เมื่อถามว่า วันนี้ยังไม่ได้คำตอบจากทั้งพรรคปชป.และภท. ทางพรรคพปชร.กลัวหรือไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนใจ นายอุตตมกล่าวว่า เรามาเชิญทั้ง 2 พรรค เราไม่ได้คาดหวังว่าวันนี้ทุกอย่างจะจบ เพราะรู้ว่าต้องมีขั้นตอนภายในของทุกพรรค เพียงแต่วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีอย่างมาก .
 

ยกที่1วัดใจ”ขั้วที่สาม”





Topstory 24/5/62

ยกที่1วัดใจ”ขั้วที่สาม”

จ้าง20ล้านเป็นงูเห่า อนค.ลากไส้

โทรศัพท์มาติดต่อ แบ่งจ่าย6-7-7ล้าน พปชร.ยกขันหมาก ขอ ‘ปชป.-ภท.’ วันนี้ สุชาติ-ศุภชัย เข้าวิน

ฮือฮางูเห่าส่อเลื้อยเพ่นพ่าน สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ “ภูมิธรรม” ชี้รัฐบาลขลุกขลิกเสียงปริ่มน้ำงูจะชุม “มิ่งขวัญ” ยันเศรษฐกิจใหม่ไร้งูเห่า แต่ไม่รู้คะแนนหายจากไหน อนาคตใหม่ลั่นยังไม่หมดหวัง ตั้งรัฐบาลสู้ ส.ส.สมุทรสาครแฉถูกเสนอเงิน 20 ล้านแลกกลายร่างเป็นงูเห่า จ่าย 3 สเต็ป 6-7-7 ชำระ ตอนปิดจ๊อบ ปูดบางคนได้ข้อเสนออู้ฟู่ถึง 50 ล้าน สามมิตรยันไม่มีระหองระแหง “บิ๊กป้อม” เตรียมเปิดหน้าโชว์ตัวขั้วรัฐบาลเร็วๆนี้ เก้าอี้ รมต.คุยกัน ลงตัวแน่หลังเลือกนายกฯ ปชป.ยังออกลูกเขี้ยวเลือกนายกฯ-ตั้งรัฐบาลต้องมาคุยกันใหม่ โหวตรองประธานสภาโผไม่พลิก “สุชาติ-ศุภชัย” จากพลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย เข้าป้าย “พ่อมดดำ” ลุ้นเสียวเฉือนหวิวแค่ 2 แต้ม ส่วน “ครูแก้ว” ฉลุยแหลก “ชวน” ฟิตเตรียมนัด 2 รองหารือ

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภาฯเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ได้เสร็จสิ้นลงไปท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย สืบเนื่องจากการต่อรองกันในพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไร ก็ตามสุดท้ายได้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นประธานสภาฯคนใหม่ โดยพรรคพลังประชารัฐยอมหลีกทางให้ ส่วนวันที่ 26 พ.ค. เป็นวาระต่อเนื่องเลือกรองประธานสภาฯอีก 2 คน


“ภูมิธรรม” เชื่อมีงูเห่าเพ่นพ่านอีก

เมื่อเวลา 08.00 น. ที่อาคารทีโอที นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีประธานสภาฯอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มีผลเกี่ยวกับขั้วการเมืองหรือไม่ว่า วันนี้เพียงแค่เริ่มต้น แต่อย่างน้อยแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะงูเห่า เพราะเสียงของรัฐบาลไม่ใช่ว่าจะมั่นคง ต้องมีกระบวนการเช่นนี้ เราก็ต้องไปดูกันสภาพแบบนี้จะต้องเกิดอีกและเกิดทุกครั้งที่สภาฯเปิด เพราะฝ่ายโน้นต้องระวังตัว วันนี้การเมืองต้องดูทีละช็อตเมื่อได้รองประธานสภาฯอีก 2 คน และได้นายกฯรวมทั้ง ครม.ทุกอย่างจะชัดเจน

“มิ่งขวัญ” ยันเศรษฐกิจใหม่ไม่มีงู

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ให้สัมภาษณ์กรณีมีคนจากฝ่ายที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยยกมือสนับสนุนนายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯ โดยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเสียงจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ทั้ง 6 เสียงว่า มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่า ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 คนไม่ใช่งูเห่า เราเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็กสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา ขอให้ประชาชนสบายใจเพราะตนมีจุดยืนชัดเจน และขอให้รอดูตอนเลือกนายกฯ ส่วนคะแนนที่หายไปนั้นยังไม่ทราบว่าจากไหน แต่ย้ำว่าพรรคยังเหนียวแน่น

อนค.ยังไม่หมดหวังจัดตั้งรัฐบาล

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมสภาฯว่า พรรคอนาคตใหม่จะเสนอ น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯ ตามมติของ 7 พรรคการเมืองที่ลงสัตยาบันไว้ ผลจากการเลือกประธานสภาฯที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แพ้นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้มีผลต่อการเลือกนายกรัฐมนตรีเสมอไป เพราะบรรยากาศตอนนี้ไม่เหมือนช่วงการเมืองปกติ ที่การเลือกประธานสภาฯและนายกฯจะไปทิศทางเดียวกัน ตอนนี้มีการตกลงผลประโยชน์กันเป็นระยะ ฝ่ายประชาธิปไตยจึงยังไม่หมดหวังในการจัดตั้งรัฐบาล ครองเสียงข้างมาก เพราะทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด หวังว่าพรรคการเมืองที่เคยสัญญากับประชาชนว่าจะต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.จะรักษาสัญญานั้น ยอมรับว่าการโหวตประธานสภาฯมีงูเห่าอยู่ประมาณ 7 เสียง แต่เราไม่มีหลักฐานว่าเป็นงูเห่าจากพรรคใด เพราะเป็นการลงคะแนนลับ แต่ยืนยันว่าไม่มีงูเห่าจากพรรคอนาคตใหม่ เรื่องงูเห่าอาจไม่ได้เกิดขึ้นแค่ฝ่ายประชาธิปไตย เพราะอีกฝ่ายสามารถเปลี่ยนรวมคิดมาโหวตให้ฝ่ายเราได้เช่นกัน

ส.ส.แฉราคางูเห่าสูงถึง 20 ล้าน

ขณะที่นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ผลการเลือกประธานสภาฯที่เสียงฝ่ายประชาธิปไตยหายไป 7 เสียง ยอมรับว่าได้รับการติดต่อจากบางคนเพื่อเสนอผลประโยชน์ให้สูงถึง 20 ล้านบาท แลกกับการเป็นงูเห่าให้โหวตสวนมติพรรค โดยแบ่งออกเป็น 6-7-7 ก้อนแรกสำหรับการโหวตเลือกประธานสภาฯ ก้อนที่สองคือโหวตเลือกนายกฯ และส่วนสุดท้ายให้ถือเป็นโบนัสเหมือนให้เปล่า ซึ่งจ่ายทั้งหมดให้ครั้งสุดท้ายหากกล้าโหวตสวน ตนได้รับการติดต่อจนกระทั่งคืนวันสุดท้ายก่อนวันโหวตเลือกประธานสภาฯ แต่พอถามพรรคพวกบางคนกลายเป็นได้น้อยกว่าเขา ยังแอบน้อยใจเล็กๆ เพราะบางคนมีการเสนอตัวเลขเริ่มต้นให้ถึง 50 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้การโหวตเลือกประธานสภาฯเสียงในซีกพวกเราจะหายไป แต่ในส่วนของพรรคอนาคต-ใหม่มั่นใจไม่มีใครเป็นงูเห่าแน่นอน

“สามมิตร” ปัดไม่พอใจ “บิ๊กป้อม”

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวกลุ่มสามมิตรไม่พอใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จัดสรรโควตารัฐมนตรี และตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นเพราะหนังสือพิมพ์บางฉบับพาดหัว ยืนยัน พล.อ.ประวิตรไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้ไม่มีกลุ่มสามมิตรแล้วมีแต่พลังประชารัฐ การพูดเช่นนี้ ทำให้ พล.อ.ประวิตรเสียหาย จัดสรรกระทรวงให้พรรคการเมืองต่างๆเป็นเรื่องที่พรรคต้องมีมติออกมาแล้วกรรมการบริหารพรรคจะไปเจรจากับพรรคร่วม

พปชร.เตรียมเปิดตัวขั้วรัฐบาล

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า กระแสข่าวเกิดความไม่พอใจ พล.อ.ประวิตรในพรรคพลังประชารัฐนั้น ยืนยันว่ากระบวนการจัดตั้งรัฐบาลหรือประสานพรรคอื่นๆยังไม่มีการคุยกันอย่างเป็นทางการ มีเพียงหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคที่ต่อสายพูดคุย หลังโหวตรองประธานสภาฯจะเห็นภาพชัดเจน ทั้งนี้ การลงมติเลือกประธานสภาฯก็เห็นชัดถึงขั้วจัดตั้งรัฐบาล และเร็วๆนี้จะเปิดตัวจัดตั้งรัฐบาล ส่วนที่ พล.อ.ประวิตรจะเข้ามาช่วยงานในรัฐบาลใหม่หรือไม่ต้องรอดูผลการโหวตเลือกนายกฯก่อน เชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อจะตัดสินใจอย่างเหมาะสม เป็นสิทธิของ พล.อ.ประยุทธ์จะเลือกใครมาร่วมงานพรรคไม่มีปัญหา


จัดเก้าอี้ รมต.หลังโหวตนายกฯ

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า คะแนนเสียงจากการโหวตเลือกประธานสภาฯถือเป็นสัญญาณที่ดีจากพันธมิตรที่ได้พูดคุยกันไว้เบื้องต้น ทั้งประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย รวมถึงพรรคเล็กๆ ตัวเลขกับเสถียรภาพรัฐบาลในอนาคต เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเกิน 251 เสียงในสภาฯแน่ หรืออาจจะมากกว่านั้น พวกพูดว่าเผด็จการสืบทอดอำนาจเลิกพูดได้แล้ว ตัวเลขต่างๆมาจากพรรคที่ได้ร่วมพูดคุยจะมาร่วมตั้งรัฐบาล ไม่ต้องกังวลเชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเรียบร้อยและแถลงเปิดตัวพรรคร่วมอย่างเป็นทางการได้เร็วๆนี้ ส่วนการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีตามขั้นตอนคือหลังการโหวตได้นายกฯอย่างเป็นทางการ

ปชป.ยักท่าให้ลุ้นมติโหวตนายกฯ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอบคุณเพื่อน ส.ส.ที่เทเสียงสนับสนุนนายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯ และเมื่อพรรคพลังประชารัฐยกมือสนับสนุนนายชวน พรรคประชาธิปัตย์ก็จะยกมือสนับสนุนบุคคลที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นรองประธานสภาฯ แต่การโหวตลงมติเลือกนายกฯและตั้งรัฐบาลต้องขอเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะประชาธิปัตย์เป็นพรรคขนาดกลาง ไม่อยู่ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากจะตัดสินใจต้องเริ่มต้นจากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเชิญให้ร่วมก่อน การตัดสินใจขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมร่วมกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรค เมื่อถามถึงจุดยืนช่วงหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ที่ประกาศไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ นายจุรินทร์ตอบว่า ทุกเรื่องต้องคำนึงถึงทั้งอุดมการณ์ ระบอบประชาธิปไตย รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายพรรค

“ประภัตร” ชี้งูเห่าเรื่องธรรมชาติ

นายประภัตร โพธสุธน ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ขณะนี้พรรคที่รวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลยังมีความไม่แน่นอน ต้องรอผลลงมติรองประธานสภาฯก่อน ส่วนบรรยากาศสภาฯนัดแรกที่วุ่นวายมีกรณีสมาชิกพรรคการเมืองเสียงแตกจากมติพรรคหรืองูเห่านั้น เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาการทำงานร่วมกันในสภาผู้แทนราษฎรหรือการบริหารงาน เป็นธรรมชาติของนักการเมือง ตามสุภาษิตที่ว่า ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ตอนเป็นนักการเมืองสมัยแรกปี 2518 เสียงรัฐบาลและฝ่ายค้านห่างกันไม่กี่คะแนน แต่ยังทำงานร่วมกันได้ราบรื่นไม่มีปัญหา เชื่อว่าปัจจุบันถ้อยทีถ้อยอาศัยไม่มีใครห้ำหั่นจนถึงขีดสุด

พท.ย้อนเกล็ดเผด็จการรัฐสภา

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่หอประชุมบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นวันที่ 2 เพื่อเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 และ 2 ต่อจากการประชุมเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 พ.ค. โดยนายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะ ส.ส.ที่มีอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่ประธานชั่วคราวในที่ประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการเลือกรองประธานสภาฯคนที่ 1 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค เพื่อไทย ขอหารือว่า ช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา มีคำว่าเผด็จการรัฐสภา เป็นคำทำลายล้างกัน และอาจมีอำนาจทำลายล้างสภาฯแห่งนี้ด้วย ที่ผ่านมามีการกล่าวหาพรรคเพื่อไทยเรื่องเผด็จการรัฐสภา จนเป็นข้ออ้างยึดอำนาจ วันนี้จึงอยากถามว่าการเลือกรองประธานสภาฯจะคำนึงถึงเผด็จการรัฐสภาหรือไม่ ขอถามตรงๆเพราะรู้อยู่แล้วว่าใครจะได้เสียงข้างมาก ขอถามว่าจะกินรวบหรือกินแบ่ง ไม่ได้วิงวอนขอ ตำแหน่ง ถ้ากินรวบก็ไม่ว่า จะได้รู้ว่าไม่สนเรื่องเผด็จการรัฐสภากันแล้ว เป็นแค่คำที่ไว้ใช้กล่าวหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น จะได้รู้ว่าเผด็จการรัฐสภายังคงอยู่หรือไม่ ทำให้นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ สวนคืนว่า การโหวตเลือกรองประธานสภาฯ ไม่เคยมีการตกลงกันล่วงหน้าจะยกตำแหน่งให้ใคร ทุกคนมีสิทธิเสนอชื่อและโหวตเลือก อย่าพูดว่า เสียงข้างมากลากไป จนทำให้ คนเข้าใจผิด ขอให้ถอนคำพูด


“สุชาติ-เยาวลักษณ์” ชิงเก้าอี้รอง 1

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สภาฯแห่งนี้มีเพศหลากหลาย และตำแหน่งประธานและรองประธานสภาฯ ควรมีความหลากหลาย ทั้งผู้ชายและผู้หญิงในการทำหน้าที่ แต่นายชัยได้ตัดบทให้เข้าสู่การเลือกตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 โดยนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อนาย สุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ส่วนนายจักรพล สุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่

ส.ส.หญิงป่วนตะโกนเรียกร้องสิทธิ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกรองประธานสภาฯคนที่ 1 มีเหตุป่วนตีรวนเกิดขึ้น เมื่อ น.ส.พรรณนิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ พูดขอโอกาสขอให้ผู้หญิงได้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯในลักษณะหาเสียงให้ น.ส.เยาวลักษณ์ ทำให้นายวีระกรไม่พอใจสวนกลับว่า ถ้าพูดหาเสียงแบบนี้ได้ ก็ขอหาเสียงให้นายสุชาติเช่นกัน ก่อนที่จะพูดร่ายประวัติและข้อดีของนายสุชาติในที่ประชุม จากนั้น น.ส.พรรณนิการ์จึงเสนอให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ ในการชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 ทำให้เหตุการณ์เริ่มบานปลาย ส.ส.หญิงแต่ละพรรคพากันตะโกนเสียงดังตอบโต้แข่งกันดังลั่นไปทั่วห้องประชุม เพื่อแสดงให้เห็นว่าแต่ละฝ่ายก็ให้สิทธิเสรีภาพแก่ผู้หญิง จนมีทีท่าวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ ทำให้นายชัยสั่งพักการประชุม 5 นาที ให้ไปสงบสติอารมณ์ แต่ ส.ส.หญิงก็ยังตะโกนส่งเสียงดังกันไม่หยุด กระทั่ง ส.ส.หลายคนทยอยเดินออกจากห้องไปแล้ว จึงหยุดตะโกนแข่งกันไปเอง อย่างไรก็ตาม ภายหลังกลับเข้าสู่การประชุมอีกครั้ง ส.ส.หญิงแต่ละพรรคก็ยังพยายามตะโกนเสียงดังแข่งกันพูดถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพกันอีกรอบ ในที่สุดนายชัยจึงรีบตัดบทให้เข้าสู่การเลือกรองประธานสภาฯคนที่ 1 ทันที



“สุชาติ” หืดจับเฉือนหวุดหวิด 2 แต้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการลงคะแนนลับ เพื่อเลือกรองประธานสภาฯคนที่ 1 โดยขานชื่อ ส.ส.เรียงลำดับตามตัวอักษรให้มาเข้าคูหาลงคะแนน มีผู้ลงคะแนนทั้งหมด 494 คน หลังจากปิดหีบการลงคะแนนแล้ว จึงได้เริ่มการนับคะแนน ซึ่งเป็นไปอย่างคู่คี่สูสี นายสุชาติและ น.ส.เยาวลักษณ์มีคะแนนเบียดกันอยู่ตลอดเวลา กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายต่างลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ สุดท้ายนายสุชาติเฉือนชนะไปอย่างหวุดหวิดแค่ 2 คะแนน โดยได้ 248 คะแนน ส่วน น.ส.เยาวลักษณ์ได้ 246 คะแนน ทำให้นายสุชาติได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 1 แบบฉิวเฉียด เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้ น.ส.เยาวลักษณ์จะแพ้ แต่คะแนนที่ได้รับ 246 คะแนนนั้น มีมากกว่าคะแนนของขั้ว 7 พรรคที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจที่มีต้นทุน 244 คะแนน อยู่ 2 คะแนน โดยหลังจากที่นายชัยประกาศว่านายสุชาติได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯคนที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ได้แจ้งต่อที่ประชุมให้ ส.ส.ยืนไว้อาลัยกับการอสัญกรรมของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก่อนที่จะขอพักการประชุม 1 ชั่วโมง

อนค. ปลื้มเสียงหนุนสตรีท่วมท้น

เมื่อเวลา 13.45 น. ส.ส.หญิงพรรคอนาคตใหม่ 11 คน นำโดย น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงข่าวถึงการโหวตรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง โดย น.ส.เยาวลักษณ์กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนายสุชาติ ถึงแม้ตนจะไม่ได้ตำแหน่ง แต่ถือเป็นการปักหมุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ต่อการส่งสตรีลงชิงตำแหน่งผู้นำในรัฐสภาแล้ว ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า ผลการลงมติประธานสภาฯกับรองประธานสภาฯ จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ขอบคุณเพื่อน ส.ส.ที่ลงคะแนนเลือก สะท้อนถึงการยึดมั่นในความเป็นคนเท่ากัน เชื่อในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มีความแตกต่าง ไม่ว่าจะเพศ หรืออายุ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการยืนบนหลักการที่ถูกต้อง จึงหวังว่าการโหวตครั้งต่อไป เพื่อนสมาชิก ส.ส.จะตัดสินใจโดยยึดจากเสรีภาพ จุดยืน และอุดมการณ์ เพื่อความกินดีอยู่ดีของสังคมไทย

จวก ส.ส.ชายเหยียดเพศ-อายุ

น.ส.พรรณิการ์กล่าวด้วยว่า การประชุมใน 2 วันนี้ทุกคนคงเห็นแล้วว่า ส.ส.ผู้หญิง ส.ส.ที่มีอายุน้อย และ ส.ส. ที่มีความหลากหลายทางเพศ ไม่ได้รับความเคารพจาก ส.ส.ผู้ชายที่มีวัยวุฒิสูงกว่า ยังมีการเหยียดเพศ เหยียดอายุ ทั้งที่รัฐสภาคือหัวใจสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมกัน จึงอยากเรียกร้องให้ยุติและประพฤติตนให้สมกับเป็น ส.ส.


วุ่นไม่เลิกประท้วงถ่ายคลิปนับแต้ม

ต่อมาเวลา 14.00 น. เข้าสู่วาระการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 โดยนายธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ขณะที่นายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ เสนอชื่อนายประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย โดยใช้วิธีการลงคะแนนลับเหมือนการเลือกรองประธานสภาฯคนที่ 1 ทั้งนี้ ภายหลังลงคะแนนเสร็จแล้ว ในช่วงที่อยู่ระหว่างการนับคะแนนนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนพยายามทักท้วงกรณีมีสมาชิกบางส่วนเดินไปหน้าเวทีนับคะแนน พร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพ และถ่ายวิดีโอ ช่วงการขานคะแนน โดยตั้งข้อสังเกตว่า บัตรบางใบเขียนเฉพาะชื่อ บางใบเขียนทั้งชื่อและนามสกุล บางใบมีการทำสัญลักษณ์ไว้ เพื่อให้รู้ว่าเป็นบัตรลงคะแนนของใครหรือไม่ อยากให้วินิจฉัยว่าการถ่ายภาพและวิดีโอระหว่างนับคะแนนทำได้หรือไม่ รวมถึงยังมีกรณีการขานคะแนนในบัตรใบแรกที่เขียนชื่อเป็นนายศุภชัย ใจสมุทร ไม่ใช่นายศุภชัย โพธิ์สุ แต่กรรมการนับคะแนนวินิจฉัยให้เป็นบัตรดี ถือว่าไม่ถูกต้อง

“ศุภชัย” ชนะห่างเก้าอี้รอง ปธ. คนที่ 2

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการถ่ายภาพเพื่อวางบิลกันหรือไม่ ขอให้ประธานฯวินิจฉัยว่าการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการลงคะแนนลับหรือไม่ ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายเสริมว่า เชื่อว่ามีความพยายามทำให้การลงมติลับของสมาชิกไม่ลับ เพราะมีการทำสัญลักษณ์บางประการหรือไม่ ขอเสนอว่าเมื่อนับคะแนนเสร็จแล้ว ขอดูบัตรก่อนทำลายได้หรือไม่ แต่นายชัย ชิดชอบ ประธานที่ประชุมชี้แจงว่ากรณีการเขียนชื่อผิดเป็นนายศุภชัย ใจสมุทรนั้น เจตนาคือ ต้องการลงคะแนนให้นายศุภชัย โพธิ์สุ แต่อาจเขียนนามสกุลผิด ขอให้ดูเจตนาเป็นสำคัญ ส่วนการถ่ายวิดีโอระหว่างนับคะแนนนั้น ตามระเบียบระบุไว้ว่า การลงคะแนนเป็นความลับ ส่วนการนับคะแนนต้องทำอย่างเปิดเผย ตอนนี้เป็นยุคดิจิทัลจึงไม่ควรถือสากัน จากนั้นสั่งให้ดำเนินการนับคะแนนต่อไปจนเสร็จ ซึ่งผลการนับคะแนนปรากฏว่า นายศุภชัย โพธิ์สุ ได้ 256 คะแนน นายประสงค์ บูรณพงศ์ได้ 239 คะแนน ทำให้นายศุภชัยได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2

ปะทะคารมเย้ยหยาม-ย่ำยี

อย่างไรก็ตามฝ่ายพรรคเพื่อไทย นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้น ทักท้วงขอให้นายชัยวินิจฉัยให้การขานคะแนนบัตรใบแรกที่เขียนชื่อผิดเป็นนายศุภชัย ใจสมุทร เป็นบัตรเสีย พร้อมให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการนับคะแนนว่า มีความถูกต้องหรือไม่ ขณะที่นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐได้กล่าวเย้ยหยันใส่ว่า “ถือเป็นเรื่องเล็กน้อย อยากให้ผ่านไป ความจริงอยากยกคะแนนให้ 5 คะแนน เพราะชนะกันเยอะเหลือเกิน” ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายพรรคเพื่อไทยพากันลุกขึ้นมาตอบโต้ อาทิ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงบอกว่า อย่าย่ำยีหัวใจกันให้มากเกินไป ในสภานี้ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ขอให้ถอนคำพูด อย่างไรก็ตาม นายชัยพยายามชี้แจงว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อบังคับการประชุมที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการนับคะแนนได้ จึงไม่สามารถดำเนินการตามที่ต้องการได้ แต่ ส.ส.เพื่อไทยหลายคนยังพยายามทักท้วง เรียกร้องให้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบการนับคะแนน และให้วินิจฉัยบัตรใบแรกที่เขียนชื่อนามสกุลผิดเป็นบัตรเสีย โดยโต้เถียงกันไปมาเสียเวลาไปร่วมชั่วโมง ไม่สามารถปิดการประชุมได้ ก่อนที่นายชัยจะตัดบทสั่งปิดประชุมในเวลา 17.45 น.

ส่งชื่อประธานสภาขึ้นทูลเกล้าฯ

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หลังจากเสร็จการเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ได้นำรายชื่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ส่งให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเรียบร้อย เพื่อนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯพร้อมกับรายชื่อประธานและรองประธานวุฒิสภาต่อไป


“ชวน” เตรียมนัดรอง ปธ.สภาหารือ

เมื่อเวลา 18.00 น. ที่หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) นายชวน หลีกภัย ว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีว่า จะต้องรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน จากนั้นตนและรองประธานสภาฯทั้ง 2 คนจะไปร่วมหารือกันที่อาคารรัฐสภาใหม่

พปชร.ยกขันหมากสู่ขอ ปชป.-ภท.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า เมื่อเวลา 18.55 น. เจ้าหน้าที่พรรคได้แจ้งกำหนดการผ่านทางกลุ่มไลน์สื่อพรรคพลังประชารัฐว่า เวลา 11.00 น. วันที่ 27 พ.ค. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค จะนำคณะผู้บริหารพรรคไปเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นเวลา 15.00 น. จะเดินทางไปเทียบเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย

ดึงคนนอกเก่งเฉพาะด้านร่วมด้วย

ขณะที่ความเคลื่อนไหวการจัดตั้งรัฐบาลยังมีกระแสข่าวการต่อรองยังไม่ลงตัว หลังมีข่าวยกกระทรวงเกรดเอเศรษฐกิจบางกระทรวงไปให้ประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยกให้ประชาธิปัตย์ จนทำให้กลุ่มสามมิตรไม่พอใจ เพราะหมายตาไว้เช่นเดียวกัน ต้องการขอคืนจากประชาธิปัตย์ แต่จนล่าสุดขณะนี้ยังไม่ลงตัว เรื่องการจัดตั้ง ครม. เมื่อโหวตได้นายกฯแล้วจะนำข้อเสนอของแต่ละพรรคมาจัดทำโผ อาจมี 2-3 บัญชีให้นายกฯพิจารณาร่วมกับแกนนำพรรคร่วม ขณะเดียวกันในบางกระทรวงที่ต้องใช้ความสามารถความชำนาญเฉพาะด้าน อาจพิจารณาบุคคลภายนอกเข้ามานั่ง ซึ่งมีไม่กี่เก้าอี้ ในส่วนนี้นายกฯจะเป็นผู้พิจารณาเอง

พท.ขอเก็บบัตรไว้รอตรวจสอบ

หลังการประชุมสภาฯ นายจุลพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงเรียกร้องไปยังนายชวน หลีกภัย ว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เก็บบัตรลงคะแนนเสียงเลือกประธานสภาฯและรองประธานสภาฯทั้ง 2 คนไว้รอการตรวจสอบหลังเปิดประชุมสภาฯอีกครั้งอย่างเป็นทางการ พรรคเพื่อไทยจะขอยื่นญัตติให้ตรวจสอบการลงคะแนนดังกล่าวว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตามข้อบังคับการประชุมหรือไม่

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับการขอตรวจสอบบัตรออกเสียงดังกล่าว เพื่อต้องการพิจารณาว่าการออกเสียงดังกล่าวมีความพิรุธหรือไม่ และเป็นไปตามข้อสังเกตว่ามีการจัดสรรการลงคะแนนโดยแยกเป็นกลุ่มๆ เพื่อไว้ตรวจสอบว่าแต่ละกลุ่มลงคะแนนให้ได้ตามเป้าหมายหรือไม่ อย่างไรก็ตามใน 1-2 วันนี้ 7 พรรคจะนัดหารือเพื่อหาข้อตกลงต่อกรณีจะเสนอชื่อบุคคลใดเพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภา


“เจ๊หน่อย” จัดหนักซัดพรรคเก่าแก่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 25 พ.ค. ภายหลังการเลือกประธานสภาฯ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า วันนี้พรรคเก่าแก่ที่เคยเป็นประชาธิปไตยได้กลายพันธุ์ไปผสมกับเผด็จการเรียบร้อยแล้ว อำนาจมันหอมหวน จนทำให้บางพรรคยอมตระบัดสัตย์ที่ให้ไว้ต่อประชาชน แต่ประชาชนจำแม่นนะคะ ส่วนพวกเราจะไม่ทรยศประชาชน อย่างเด็ดขาดค่ะ

“ราเมศ” ยัน ปชป. ไม่ตระบัดสัตย์

ขณะที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากคุณหญิงสุดารัตน์หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์เท่ากับบิดเบือนข้อเท็จจริง การเลือกประธานสภาฯเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับทุกประการ ไม่ว่าเสียงที่ได้มาจากฝ่ายไหนหรือจากงูเห่า แต่ทุกเสียงที่ได้เพราะสมาชิกศรัทธาในตัวนายชวน หลีกภัย เพื่อเป็นหลักให้ฝ่ายนิติบัญญัติ การกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ตระบัดสัตย์ไม่เป็นความจริง

วอนหยุดใช้วาทกรรมแบ่งข้าง

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่สบายใจที่ ส.ส.หลายพรรคการเมืองยังใช้วาทกรรมแบ่งฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายสืบทอดอำนาจอยู่ ทั้งที่การเลือกตั้งเสร็จแล้ว และเป็นการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย การกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างความขัดแย้ง แบ่งข้างประชาชน หาก ส.ส.ในสภาฯมีวิธีคิดแบบนี้ ประเทศชาติคงไม่สามารถเดินหน้าได้ ความปรองดองจะไม่เกิดขึ้น อยากเห็น ส.ส.ทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์เพื่อประเทศชาติ อย่าให้ประชาชนดูถูกดูแคลนได้ว่าอุตส่าห์ได้เป็น ส.ส. ทั้งที แต่กลับคิดถึงแต่คนของตัวเองและพรรคของตัวเองแทนที่จะคิดถึงประชาชน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามธรรมชาติ สุดท้ายแล้วจบตามที่ประชาชนคาดหวังคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับการสนับสนุนเป็นนายกฯอีกสมัย ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ และเมื่อมีรัฐบาล นโยบายที่พรรคพลังประชารัฐเคยประกาศไว้กับประชาชนจะถูกนำไปปฏิบัติทันที

พปชร.จะกลายเป็นพรรคอันดับ 1

นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีจัดตั้งรัฐบาลว่า พรรคการเมืองที่จับมือกันในที่สุดก็คงจะร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐแน่นอน แม้จะมีบางส่วนในบางพรรคที่ไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ที่สุดนายกรัฐมนตรีก็คงเป็นทหารคนเดิมและเครือข่ายเดิมๆที่กุมอำนาจมากว่า 5 ปี การไปร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐครั้งนี้จึงเท่ากับเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่ากับเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่ปริ่มน้ำ เพราะมี ส.ว.หนุนหลังอยู่อีกต่างหาก ส่วนการบริหารจะอยู่ยาวตลอดรอดฝั่งครบ 4 ปีหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่แน่ๆถ้ามีการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคพลังประชารัฐอาจจะเป็นพรรคใหญ่ที่มาอันดับหนึ่ง เพราะกุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทั้งองคาพยพที่สำคัญ คือมีทหารช่วยหนุนหลังอีกแรงเป็นปัจจัยชี้ขาด

นิด้าโพลชี้คนดีใจ คสช.สิ้นอำนาจ

วันเดียวกัน “นิด้าโพล” เผยผลสำรวจความเห็นของประชาชนเรื่อง “รู้สึกอย่างไร เมื่อ คสช.กำลังจะหมดหน้าที่” ระหว่างวันที่ 23-24 พ.ค.จำนวน 1,257 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 24.50 รู้สึกดีใจ น่าจะไปได้ตั้งนานแล้ว ร้อยละ 23.79 ไม่มีความรู้สึกใดๆ ร้อยละ 13.84 รู้สึกอยากขอบคุณที่ช่วยดูแลประเทศในช่วง 5 ปี ร้อยละ 13.29 รู้สึกเสียดายน่าจะอยู่ต่อไป ร้อยละ 9.55 รู้สึกว่าความวุ่นวายทางการเมืองแบบเก่าๆกำลังจะกลับมา ส่วนความสุขในโอกาสครบรอบ 5 ปี ที่ คสช. ร้อยละ 44.63 มีความสุขเท่าเดิม ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ชีวิตเหมือนเดิม เศรษฐกิจและค่าครองชีพยังสูงเช่นเดิม ร้อยละ 33.73 มีความสุขลดลง เศรษฐกิจปากท้องแย่ลง ค่าครองชีพสูง ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ บังคับใช้กฎหมายแก้ไขกฎหมายไม่ตรงจุด จำกัดสิทธิเสรีภาพมากเกินไป ขาดความมั่นคงทางประชาธิปไตย และร้อยละ 21.64 มีความสุขเพิ่มขึ้น ช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง ไม่มีการชุมนุมวุ่นวายทางการเมือง มีความสงบเรียบร้อยมากขึ้น

ตั้งรัฐบาลแย่งประโยชน์ไม่สง่างาม

ขณะที่ “สวนดุสิตโพล” เผยผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ประชาชนกับการรอคอยรัฐบาลใหม่” ระหว่างวันที่ 22-25 พ.ค. จากกลุ่มตัวอย่าง 1,107 คน คิดอย่างไรกับการจับขั้วเพื่อตั้งรัฐบาล ร้อยละ 31.59 วุ่นวายแก่งแย่งผลประโยชน์ เสื่อมเสียภาพพจน์ ร้อยละ 23.79 อยากให้ตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ร้อยละ 19.25 ควรรักษาคำพูด เห็นแก่ส่วนรวม ส่วนความวิตกกังวลกับการตั้งรัฐบาล ร้อยละ 46.49 ความไม่โปร่งใสไม่เป็นธรรม ร้อยละ 36.48 ขัดแย้งแตกแยก ผู้ไม่เห็นด้วยออกมาต่อต้าน ร้อยละ 24.45 ขาดเสถียรภาพ ส่วนสิ่งที่อยากฝากบอก ส.ส. ร้อยละ 51.26 เป็น ส.ส.ที่ดีไม่ทุจริตคอร์รัปชัน ร้อยละ 30.23 รักษาสัญญาสร้างผลงานพัฒนาประเทศ ดูแลพื้นที่ให้เจริญก้าวหน้า ร้อยละ 27.05 หยุดทะเลาะเบาะแว้ง สำหรับสิ่งที่อยากฝาก ส.ว. ร้อยละ 44.32 ซื่อสัตย์ ยุติธรรม ยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณ ร้อยละ 32.22 นึกถึงประโยชน์ชาติและประชาชน และร้อยละ 31.68 ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่

เลือกตั้งซ่อมเชียงใหม่ อนค.นำ

สำหรับบรรยากาศการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 8 จ.เชียงใหม่ พื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.จอมทอง สันป่าตอง ดอยหล่อ และ อ.แม่วาง จำนวน 376 หน่วยเลือกตั้ง มีการเปิดหีบเลือกตั้งเวลา 8 โมงเช้า มีประชาชนออกมาใช้สิทธิกันอย่างคึกคัก บางหน่วยผู้มาใช้สิทธิมารอตั้งแต่ยังไม่เปิดหีบและทยอยมาใช้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องกระทั่งเวลา 5 โมงเย็นปิดหีบอย่างเรียบร้อย อยู่ระหว่างนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หน่วยเลือกตั้งที่อยู่ไกลสุดคือ ต.แม่วิน อ.แม่วาง เพราะอยู่ขอบชายแดน และบ้านแปะ อ.จอมทอง น่าจะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง มาส่งผลคะแนนที่อำเภอ จากนั้นอำเภอจะใช้เวลาตรวจสอบความถูกต้อง บันทึกผลคะแนนรวมของอำเภอส่งผลคะแนนไปที่ กกต.เขต เพื่อตรวจสอบผลคะแนนไม่น่าเกิน 02.00 น. ก็จะเสร็จเรียบร้อยสามารถประกาศผลได้อย่างเป็นทางการ ล่าสุดเวลา 19.00 น. หลังนับคะแนนไปได้ราว 80 เปอร์เซ็นต์ นางสีนวล บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 9 พรรคอนาคตใหม่ ยังมีคะแนนนำ

ทิ้งห่าง พปชร.สุดกู่ 3 หมื่นแต้ม

เวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์นางศรีนวล บุญลือ พรรคอนาคตใหม่ ถึงความรู้สึกที่ได้รับคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งไปถึง 3 หมื่นคะแนน โดยได้คะแนนไปถึง 5 หมื่น ขณะที่นายนเรศ ธำรงทิพยคุณ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐได้เพียง 2 หมื่นคะแนนว่า รู้สึกดีใจที่ประชาชนทั้ง 4 อำเภอให้ความไว้วางใจ ถึงแม้ตนจะเป็นเพียงชาวนายากจนแต่เป็นคนซื่อ ทำงานรับใช้ชาวบ้านมาตั้งแต่เป็น ส.จ.แม่วาง แล้ว ตนต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ และจะขอทำงานเพื่อชาวบ้านอย่างซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถจะเปิดตัวได้ ต้องรอจนผลออกมาอย่างสมบูรณ์ก่อน