PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

นักกีฬาเหรียญเงินโอลิมปิคตายในเหตุสลายชุมนุมในอียิปต์

อับดุลเราะห์มาน นักกีฬามวยปล้ำ ผู้ชนะเลิศเหรียญเงิน ของอียิปต์ในโอลิมปิกลอนดอน 2012 ถูกฆ่าตายในการชุมนุมต่อต้านทหารที่สลายการชุมนุมฝูงชนที่ต่อต้านการทำรัฐประหารในประเทศอียิปต์


มิคสัญญี′อียิปต์′ บทพิสูจน์ "รัฐประหาร"

มติชน วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13:09:57 น.


อียิปต์ขับไล่ประธานาธิบดีพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว 2 คน และได้เห็นการประท้วงนับครั้งไม่ถ้วนในช่วงเวลา 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา

25 กรกฎาคม 2554 ผู้ชุมนุมประท้วงชาวอียิปต์เรือนล้านที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการลุกฮือในตูนิเซีย รวมตัวกันบนท้องถนนในกรุงไคโร เพื่อชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค

หลังจากพยายามใช้ความรุนแรงปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ในที่สุด มูบารัค ผู้นำเผด็จการที่ปกครองประเทศมาเกือบ 30 ปี ต้องยอมก้าวลงจากตำแหน่ง ส่งต่ออำนาจการปกครองให้กับสภากลาโหม เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์

2 ปีหลังการชุมนุมประท้วงใหญ่เพื่อขับไล่มูบารัค ชาวอียิปต์พบว่าพวกเขาต้องถอยกลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง


ครานี้เป็นการประท้วงที่นำไปสู่การขับไล่ โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งโดยระบอบประชาธิปไตยคนแรกของประเทศออกจากตำแหน่ง บางคนขนานนามว่าเป็น "การปฏิวัติครั้งที่ 2" ของอียิปต์

"ลองคิดถึงผู้คนหลายล้านที่ยินดีกับชัยชนะในการเลือกตั้งของมอร์ซี คนเหล่านี้ที่ตั้งความหวังไว้กับมอร์ซี" ฟาวาซ เกอร์เจส ผู้อำนวยการศูนย์ตะวันออกกลางศึกษาของวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งลอนดอน (แอลเอสอี) กล่าว

"หนึ่งปีหลังจากนั้น ชาวอียิปต์หลายล้านคนที่สนับสนุนมอร์ซีบอกว่า เขาต้องไป"

พวกเขาได้ตามที่ปรารถนาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อกองทัพอียิปต์ก่อรัฐประหารโค่นมอร์ซีลงจากอำนาจ

มอร์ซี เป็นชาวมุสลิมผู้เคร่งครัดที่มีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เมื่อเดือนมิถุนายน 2555 โดยชนะแบบได้คะแนนเสียงฉิวเฉียด 51.7 เปอร์เซ็นต์ จากการสามารถดึงเสียงสนับสนุนได้จากชาวอียิปต์ทุกกลุ่ม

ทว่าหลังจากนั้น มอร์ซีถูกฝ่ายตรงข้ามวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลของเขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากพุ่งเป้ารวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จนับตั้งแต่ขึ้นครองตำแหน่ง และยังล้มเหลวที่จะนำมาซึ่งความคาดหวังของประชาชนชาวอียิปต์ถึงเสรีภาพและความยุติธรรมในสังคม

มอร์ซียังถูกกล่าวหาถึงความเป็นเผด็จการ โดยบังคับใช้นโยบายอนุรักษนิยมตามความต้องการของตน ผ่านการบังคับใช้กฤษฎีกาและเสียงข้างมากที่เกินมาเพียงเล็กน้อย เขาทำตัวเป็นศัตรูกับฝ่ายตุลาการ ตำรวจ และสื่อมวลชน

ชาวอียิปต์ยังผิดหวังกับการก่ออาชญากรรมรุนแรงและความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจ ที่ไม่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นเลยนับตั้งแต่ขับไล่มูบารัคออกไป การว่างงานยังคงสูง ราคาอาหารถีบตัวขึ้น ไฟฟ้าดับบ่อยๆ และต้องเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อรอเติมน้ำมัน

จนเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2556 จัตุรัสตาหรีร์ กลายเป็นจุดศูนย์กลางของกลุ่มผู้ประท้วงอีกครั้ง ในการชุมนุมครบรอบ 2 ปี จุดเริ่มต้นการปฏิวัติต่อต้านมูบารัค เพียงแต่ครั้งนี้ต่างออกไปเล็กน้อย เมื่อเป้าหมายที่ฝูงชนผู้โกรธแค้นตะโกนขับไล่คือมอร์ซี

หลังจากนั้น เกิดการประท้วงในวงกว้างนับตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน นำไปสู่การตัดสินใจของกองทัพที่รัฐประหารโค่นอำนาจมอร์ซี

ทว่าอีกด้านหนึ่งก็ยังคงมีผู้สนับสนุนมอร์ซีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน

และพิสูจน์ว่า การรัฐประหารไม่สามารถแก้ปัญหาทางการเมืองได้ แม้จะอ้างการสนับสนุนจากประชาชนก็ตาม

8 กรกฎาคม กลุ่มผู้สนับสนุนมอร์ซี ปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม กลุ่มผู้สนับสนุนมอร์ซียังคงชุมนุมเป็นรายวัน การปะทะกันครั้งนี้ทวีความรุนแรงขึ้น มีผู้เสียชีวิต 80 คน

กระทั่งเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่รัฐบาลรักษาการของอียิปต์ภายใต้ประธานาธิบดีอัดลีย์ มันซูร์ ประกาศว่าจะสลายค่ายผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ที่มัสยิดราบา อัล อาดาวิยาภายใน 24 ชั่วโมง

และเข้าสลายจริงในวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตไป 638 คน เป็นอย่างน้อย

ผู้สังเกตการณ์ภายนอกบอกว่า การขับไล่มอร์ซีออกไปก่อนที่จะหมดวาระดำรงตำแหน่งเป็นการขัดขวาง หลีกเลี่ยงไม่ใช้กระบวนการทางประชาธิปไตย และเป็นย่างก้าวที่ค่อนข้างอันตราย

"การชุมนุมประท้วงเป็นสัญญาณของการมีประชาธิปไตยที่แข็งแกร่ง แต่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลควรจะกระทำที่หีบเลือกตั้ง ไม่ใช่ผ่านการใช้ความรุนแรง" เอ็ด ฮุสเซน นักวิชาการอาวุโสด้านตะวันออกกลางศึกษาที่สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกล่าว

และได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การขับมอร์ซี

พ้นจากตำแหน่ง ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่าการประท้วงและความรุนแรงจะยุติลง กลุ่มภราดรภาพมุสลิมยังคงได้รับการสนับสนุนมากอย่างมีนัยสำคัญในอียิปต์ และคนกลุ่มนี้ได้ระเบิดความไม่พอใจออกมา

จนมาถึงจุดที่นำไปสู่อันตรายแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อียิปต์เกิดความไร้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

และยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป

หน้า 9 มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2556

สื่อฮ่องกงตีข่าวสิ้น "หลวงปู่มังกรขาว" เจ้าสำนักดังชลบุรี

ลูกศิษย์ดาราฮ่องกงดังเศร้า สื่อฮ่องกงตีข่าวสิ้น "หลวงปู่มังกรขาว" เจ้าสำนักดังชลบุรี นสพ.บันเทิงฮ่องกงลงแทบทุกฉบับ สิ้น"หลวงปู่มังกรขาว" ชลบุรี ลูกศิษย์คนดังเพียบ

วันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา ข่าวบันเทิงแทบทุกฉบับในหน้าหนังสือพิมพ์ฮ่องกง พร้อมใจกันลงข่าวการจากไปของ ร่างทรง "หลวงปู่มังกรขาว หรือ อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว ถึงแก่กรรมด้วยโรคหลอดลมอักเสบในวัย76 ผู้เป็นเจ้าสำนัก"ตำหนักมังกรขาว" (White Dragon King temple, Bailong King temple, 白龙王) ซึ่งเป็นศาลเจ้าจีน ตั้งอยู่ในเขตตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ยังความเศร้าแก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหา 

อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว (คนกลาง) พร้อมทั้ง หลิวเต๋อหัว และ เหลียงเฉาเหว่ย

โดยตำหนักแห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยเฉพาะชาวฮ่องกง และ ไต้หวัน สร้างขึ้นเมื่อปี 2530 มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วสารทิศหลั่งไหลมารอการลงประทับทรงของหลวงปู่มักกรขาวเพื่อปัดเป่าทุกข์ หนึ่งในนั้นคือ นายหว่อง ชองชาน หรือ คีรี กาญจนพาสน์ นักธุรกิจระหว่างชาติ ทำให้หลวงปู่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปถึงฮ่องกง ไต้หวัน มีลูกศิษย์ดารา คนมีชื่อเสียงของฮ่องกงมาขึ้นที่ตำหนักมักกรขาวอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็น อลัน ทัม หลิวเต๋อหัว เหมียวเฉียวเหว่ย หงจินเป่า “อาเจียว” หรือ เจิ้นเซอะสือ เหลียงเฉาเหว่ย เป็นต้น

แต่ละคนที่มาเมื่อกลับไปก็มีความสำเร็จทางหน้าที่การงานและจิตใจทั้งสิ้น หลวงปู่ขาวจึงเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างมาก อีกเหตุผลหนึ่งที่หลวงปู่มังกรขาวเป็นที่เคารพนับถือในหมู่ชาวจีน เพราะว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ชาวจีนถือว่ามังกรขาว ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่พญามังกรจีนโบราณ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่นักแสดงในวงการบันเทิงจากฮ่องกง และไต้หวัน ต้องข้ามน้ำข้ามแผ่นดินเพื่อมาสักการบูชากันสักครั้งหนึ่ง

ตามตำนานเล่าว่า หลวงปู่มังกรขาว หรือ แป๊ะ เล้ง ฮ้วง ลงมาประทับทรง ตั้งแต่ปี 2519 ที่หนองมน และย้ายมาอยู่ที่ใหม่ที่บ้านพักของอาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว เมื่อเดือนธันวาคมปี 2527 และต่อมาปี 2530 อาจารย์กิมน้ำได้ซื้อที่ดิน 35 ไร่ เพื่อสร้างตำหนักขึ้นมา โดยทำพิธียกเสาเอกเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2530 และทำพิธีปิดแท่นบูชา ของหลวงปู่มังกรขาวเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2530 จากนั้นมีการทำพิธีไหว้ครูในเดือนสิงหาคมของทุกปี


"นิพิฎฐ์"จ่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ แก้ไขรธน. 3 ฉบับเป็นโมฆะ หลังผ่านวาระ 3 เหตุจากการนับวันแปรญัตติ

นายนิพิฏฐ์ อิทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ กรณีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่างว่า รัฐบาลระบุว่าจะพิจารณาแค่ที่มาของส.ว.ซึ่งพรรคเห็นด้วยกับส.ว.จากการเลือกตั้ง แต่เราคัดค้านกรณีการยกเลิกเงื่อนเวลาที่เปิดให้ส.ว.เลือกตั้งที่จะหมดวาระในเดือนมี.ค.2557 สามารถลงสมัครต่อได้ จากเดิมที่ต้องเว้นวรรค 1 วาระ หรือ 4 ปี หรือการเปิดช่องให้ส.ส.ลาออกและมาสมัครส.ว.ได้ทันที จากเดิมที่ผู้สมัครส.ว.ต้องปลอดจากการเมืองคือ ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง 5 ปี หรือการเปิดให้สามี ภรรยา พ่อ แม่ ที่เป็นส.ส.สามารถให้คนในครอบครัวลงสมัครได้ ก็จะกลายเป็นสภาครอบครัวหรือสภาผัวเมีย เป็นการผูกขาดอำนาจในจังหวัดนั้นๆไว้กับคนแค่สกุลเดียว ซึ่งตนมองว่าเป็นการแก้ไขเพื่อหาทางออกรองรับบัญชี 3 บัญชี 4 ในพรรคเพื่อไทยที่ขณะนี้พวกบัญชี 1 บัญชี 2 ที่เคยติดโทษแบนทางการเมืองออกมารับตำแหน่งได้แล้ว จึงต้องมีการผ่องถ่ายคนในเครือข่าย ใกล้ชิดโดยจัดหาตำแหน่งให้แทน ซึ่งกรณีนี้ถือว่าขัดต่อหลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทั้งปี 40 และ 50

นายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีปัญหาในเรื่องวันแปรญัตติว่าจะนับจากวันไหน ดังนั้นหากการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญและโหวตผ่านวาระ3 หลังวันที่ 20 ส.ค. ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 15วัน ตนจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความทันทีว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่างถือเป็นโมฆะหรือไม่ เพราะตัวประธานกรรมาธิการยึดกรอบแปรญัตติเวลา 15วันแรก แต่ไม่ครบองค์ประชุม ขณะที่ประธานรัฐสภากลับมาย้อนกระบวนการโดยนับองค์ประชุมใหม่และให้แปรญัตติภายใน15วันครั้งที่ 2

"ผมสอบถามนักกฎหมายหรือส.ส.ร.ที่ร่างรัฐธรรมนูญต่างฟันธงว่า 100 เปอร์เซนต์ ว่าต้องนับจากการลงมติกำหนดวันแปรญัตติครั้งที่ 2 จึงมีปัญหาว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับนี้เป็นโมฆะ หากศาลชี้ให้เป็นโมฆะ ก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่หมดเพื่อความถูกต้องตามหลักกฏหมาย" นายนิพิฎฐ์ กล่าว

วันชัย สุทธิวรชัย “ผู้ว่าฯอุบล” รับเสียงตัวเองในคลิป แต่ถูกตัดต่อ หลอกให้พูดแบ่งเงินสินบน 10 %

วันชัย สุทธิวรชัย “ผู้ว่าฯอุบล” รับเสียงตัวเองในคลิป แต่ถูกตัดต่อ หลอกให้พูดแบ่งเงินสินบน 10 % แต่ไม่เอา ลั่นไม่เคยเซ็นต์อนุมัติโครงการ มอบให้ “รองผู้ว่าฯ” ไปแล้ว เผยรู้จักคนชื่อ “หน่อย” แต่มีหลายคน - เคลียร์ “จารุพงษ์” มท.1 แล้ว

001cippp
กรณีมีผู้ใช้ชื่อว่า anniey arnie โพสต์คลิปเสียง ความยาว 1.35 นาที ผ่านเว็บไซต์ยูทูป ซึ่งเป็นบทสนทนาของชายคนหนึ่ง กำลังสั่งการให้มีการเจรจาต่อรองกับบริษัทเอกชนที่เข้ามารับงาน โดยขอเรียกรับส่วนแบ่งเป็นจำนวนเงิน 10% และถูกคนในโลกออนไลน์ตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าของเสียงในคลิปดังกล่าว อาจจะเป็นของ “ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี”
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2556 นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าว อิศรา www.isranews.org ถึงเรื่องคลิปเสียงดังกล่าวว่า ตนยอมรับว่าเป็นเสียงของตนจริง แต่มันมีการตัดต่ออย่างชัดเจน คนจังหวัดอุบลราชธานีรู้ดีว่าตนพูดออกอากาศวิทยุเป็นประจำ อาจจะมีการนำบางประโยคที่ผมพูดมาตัดต่อเทียบเคียง
“ผมรู้ว่าใครทำผม เพราะมันมี 2-3 คน มาหลอกให้ผมพูดเรื่องเงิน 10 % มาเสนอให้ผมรับเงินส่วนแบ่งโครงการ 10 % ผมก็พูดไปว่าผมไม่เอา จะมาเอาอะไรกับเงิน 10 % ผมพูดไปเยอะ พูดแบบนักเลงเขาพูดกัน แต่มันตัดต่อให้ผมเสียหาย ผมบอกเลยว่าการเซ็นอนุมัติโครงการผมไม่เคยเซ็น งานรับเหมา งานจัดซื้อจัดจ้าง ผมมอบหมายให้เป็นอำนาจของรองผู้ว่าฯไปแล้ว ทีนี้ก็ไปไล่ดูได้เลยว่าใครทำ ถามหน่อยว่าหน้าผู้รับเหมาผมยังไม่เคยเจอ แล้วผมจะไปทำเหมือนในคลิปได้อย่างไร” นายวันชัย กล่าว
นายวันชัย กล่าวว่า ตนมีนโยบายชัดเจนว่าอยากให้จังหวัดอุบลฯมีความเจริญ โครงการที่เข้ามาต้องทำประโยชน์ให้ประชาชนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย บางโครงการมีคนเสนอเข้ามาไม่ถูกต้องตนก็บอกว่าไม่เอา เพราะมันไม่เป็นประโยชน์ ตนยืนยันว่าไม่เคยจัดงานเพื่อใคร เพราะจัดงานให้คนอุบลราชธานีเท่านั้น
“ตอนนี้ผมไม่อยากใส่ร้ายใคร พยายามทำให้ผมเป็นทำผิด เขาทำเพื่อหวังประโยชน์อะไรผมไม่รู้ได้ การเมืองในอุบลฯทะเลาะกันหนัก บางกลุ่มจับขั้วกับอีกกลุ่มหนึ่ง ผมอยู่ตรงกลางเลยโดนเล่นงาน ความจริงผมไม่อยากเข้าไปยุ่ง ผมไม่ใช่คนอุบลฯมาทำงานก็โดนแกล้งตลอด” นายวันชัยระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ในคลิปก็มีการพูดว่าบอกไปเลยว่าผู้ว่าฯ ขอ นายวันชัย กล่าวว่า “ก็เขาเอาเสียงของผมไปตัดต่อ บางครั้งก็มาหลอกถามผม ล่อให้ผมตอบ ผมก็ตอบทุกอย่าง เพราะผมไม่มีลับลมคมในกับใคร ถามอะไรตอบหมด มันก็เป็นเทคนิคของเขาที่หลอกผมได้”
เมื่อถามว่า มีการระบุคนชื่อ "หน่อย" ในคลิปเสียงรู้จักคนชื่อหน่อยหรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า “คนชื่อหน่อยที่ผมรู้จักมีหลายคน นายกฯอบต.ชื่อหน่อยก็มีประมาณ 2 คน รุ่นน้องผมที่มหาลัยฯก็ชื่อหน่อยก็มี เอกชนที่รับงานชื่อหน่อยก็มี 2 คน ซึ่งผมเจอทุกคน แต่ผมไม่เข้าไปเกี่ยวกับผม พอมีหลายหน่อยผมไปพูด เขาก็เอาไปตัดต่อง่าย”
เมื่อถามว่า ได้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นต่อนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แล้วหรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า “ผมได้โทรศัพท์ไปคุยกับท่านแล้ว บอกไปว่าเป็นเสียงผมแน่นอน แต่มันเป็นเสียงตัดต่อ ซึ่งท่านมท.1 ก็เข้าใจผม ท่านรู้ว่าผมโดนแกล้ง ท่านก็บอกให้ทำหนังสือชี้แจงมา”
(ฟังคลิปฉบับเต็มที่นี้     http://youtu.be/n5-UFGLWzXc)