PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เปิดจดหมาย เจมส์ โฟลีย์ ถึงครอบครัว ก่อนถูก กลุ่ม ISIS ฆ่าตัดหัว

เปิดจดหมาย เจมส์ โฟลีย์ ถึงครอบครัว ก่อนถูก กลุ่ม ISIS ฆ่าตัดหัว
เจมส์ โฟลีย์ ส่งจดหมายถึงครอบครัว ก่อนถูก กลุ่ม ISIS ฆ่าตัดหัว รำลึกความหลัง พร้อมขอกำลังจากทุกคน หากมีชีวิตรอดหวังจะกลับไปหา
สำนักข่าวต่างประเทศ ได้มีการเปิดเผยจดหมายฉบับสุดท้ายของเจมส์ โฟลีย์ นักข่าวอเมริกัน ที่เขียนถึงครอบครัว ก่อนที่จะถูกกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอสในซีเรียฆ่าตัดคออย่างโหดเหี้ยมเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยข้อความในจดหมายได้บรรยายถึงความทรงจำที่มีกับพ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนๆ รวมถึงบรรยากาศสภาพห้องขังที่มีคนถูกขังรวมกัน 18 คนด้วย
“ถึงครอบครัวและเพื่อนๆ
ผมจำได้ถึงตอนไปห้างกับพ่อ ขี่จักรยานไกลมากกับแม่ ผมนึกถึงช่วงเวลาแสนสุขกับครอบครัว เป็นสิ่งที่ช่วยพาผมออกจากเรือนจำแห่งนี้ การฝันถึงครอบครัวและเพื่อนพาผมไปได้ และเติมเต็มความสุขในหัวใจ
ผมรู้ว่าทุกคนคิดถึงผมและสวดภาวนาให้ผม ผมขอบคุณจริงๆ ผมรู้สึกว่าทุกคนเป็นคนพิเศษ ผมสวดภาวนาให้ทุกคนเข้มแข็งและมีศรัทธา ผมรู้สึกจริงๆว่า ผมสัมผัสทุกคนได้ในความมืดที่ผมสวดภาวนาอยู่นี้
พวกเรา 18 คนถูกขังอยู่ในเรือนจำเดียวกัน ซึ่งดีกับผมนะ เราเป็นเพื่อนกันและสนทนากันไม่รู้จักจบสิ้นเกี่ยวกับภาพยนตร์ เรื่องจิปาถะ กีฬา เราเล่นเกมจากเศษของต่างๆ ที่เจอในคุก เราหาทางทำตารางหมากรุกและทำตัวหมากรุกมาเล่นได้ แถมยังมีทัวร์นาเมนต์แข่งขันกันด้วย
บางวันใช้เวลาวางแผนกันเลยว่าวันต่อไปจะเล่นเกมหรือบรรยายความกันเรื่องอะไร การเล่นเกมและบรรยายความรู้ให้กันช่วยให้เราฆ่าเวลาไปได้ ช่วยได้มากจริงๆ เราเล่าเรื่องซ้ำและหัวเราะกันเพื่อคลายความเครียด
ผมมีช่วงเวลาที่อ่อนแอและเข้มแข็ง เราต่างยินดีมากเมื่อมีใครก็ตามได้อิสรภาพ แม้ว่าเราเองก็ปรารถนาในอิสรภาพนั้นอย่างยิ่ง เราพยายามให้กำลังใจกันและกระตุ้นความเข้มแข็งให้กัน เราต่างมีอาหารที่ดีขึ้นและทุกๆ วัน เรามีชา และบางวันมีกาแฟ ผมเริ่มน้ำหนักขึ้นบ้างหลังจากปีที่แล้วลดลงไป
ผมคิดถึงพี่น้องของผม ผมจำได้ตอนเล่นมนุษย์หมาป่ากันในความมืดกับไมเคิล และการผจญภัยต่างๆ ผมคิดถึงตอนไล่แม็ตตี้และทีไปรอบๆ ห้องครัว นั่นทำให้ผมมีความสุขตอนที่นึกถึง ถ้ามีเงินเหลือในบัญชีธนาคารล่ะก็ ผมอยากให้ไมเคิลกับแมตธิวนะ ฉันภูมิใจในตัวนายนะ ไมเคิล และขอบคุณมากกับความทรงจำในวัยเยาว์เกี่ยวกับนายและคริสตี้สำหรับผู้ใหญ่ที่มีความสุขคนนี้
และสำหรับพี่จอห์นผมสนุกมากตอนไปหาพี่และเครสในเยอรมนีขอบคุณที่ต้อนรับขับสู้ผม ผมคิดถึงโรโร่ และพยายามจินตนาการว่าแจ๊กหน้าตาเป็นอย่างไร ผมหวังว่าเขาจะได้บุคลิกจากโรโร่นะ
และมาร์ก ภูมิใจในตัวนายเหมือนกันนะ ฉันคิดว่านายอยู่ฝั่งตะวันตก หวังว่านายจะเล่นสโนว์บอร์ดและแคมปิ้งอยู่ ที่คิดถึงเป็นพิเศษคือช่วงเวลาที่เราไปคอเมดี้ คลับ ในบอสตัสด้วยกัน และร่ำลากอดกันหลังจากนั้น เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ฉันมีความหวัง
เคที่ ภูมิใจกับเธอมากๆ เธอเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุด และเก่งที่สุดในพี่น้องเรา ฉันคิดว่าเธอทำงานหนักอยู่ การช่วยคนในฐานะพยาบาล ฉันดีใจมากที่เราส่งข้อความคุนกันก่อนฉันจะถูกจับ ฉันสวดภาวนาว่าจะได้ไปงานแต่งงานของเธอ ตอนนี้ฉันพูดเหมือนแกรมมี่ไหมล่ะ
แกรมมี่ อย่าลืมกินยานะ ไปเดินและเต้นรำบ้าง ผมตั้งใจจะพาไปหามาร์การิตา ถ้าผมได้กลับบ้าน เข้มแข็งไว้นะ เพราะผมต้องการความช่วยเหลือจากทุกคนที่จะเรียกชีวิตกลับคืนมา
จิม”

ปชป.แจงข่าว"ชวน"โคขุน

คำชี้แจง

สืบเนื่องจากคอลัมน์ โครงร่าง ตำนานคน หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 24 สิงหาคม 2557 และคอลัมน์การต์ตูนเซีย ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 27 สิงหาคม 2557 กล่าวพาดพิงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยอ้างถึงคำกล่าวในงาน มอ.วิชาการ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2557 ความตอนหนึ่งว่า .. “พืชผลสินค้าเกษตรในภาคใต้มีราคาตกต่ำมาก ซึ่งควรจะหาวิธีช่วยเหลือเกษตรกรให้มีอาชีพเสริม เช่น การเลี้ยงโคขุน ซึ่งจากที่เคยไปพบคนไทยในมาเลเซียแนะนำว่าพื้นที่ภาคใต้ มีโอกาสมาก การเลี้ยงโคขุนจะง่ายกว่าและทางมาเลเซียรับไม่อั้น”

พรรคประชาธิปัตย์ ขอชี้แจงดังต่อไปนี้ จากคำกล่าวของนายชวน เป็นการแสดงความคิดเห็นและให้ความรู้กับสถาบัน ในการช่วยกันศึกษาแนวทางพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งได้มีการยกตัวอย่างจากการเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ได้พบปะอดีตเกษตรกรชาวสวนยางคนไทย ที่ได้ไปประกอบอาชีพปศุสัตว์ โดยเกษตรกรคนดังกล่าวได้ยกตัวอย่างอาชีพการเลี้ยงโคขุนเพื่อเศรษฐกิจว่า น่าจะมีความเหมาะสมกับภูมิประเทศและวัฒนธรรมของคนใต้

ดังนั้นนายชวน จึงได้นำแนวคิดนี้กลับมาเสนอในโอกาสดังกล่าว มิได้เป็นการเชิญชวนให้เกษตรกรเปลี่ยนอาชีพจากการปลูกยางแต่อย่างใดแต่ต้องการให้เกษตรกรมีรายได้เสริม ซึ่งคำแนะนำดังกล่าวถือเป็นแนวปฏิบัติของนักการเมืองที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน โดยมีการแสวงหาโอกาสที่จะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยอยู่เสมอ

พรรคฯ จึงขอเรียกร้องให้ ผู้ที่อ้างตนเองว่าเป็นสื่อ แต่มีพฤติกรรมมุ่งจับผิด ทำร้าย บิดเบือนเจตนารมย์การช่วยเหลือประชาชน ขอให้หยุดการกระทำนั้นเสียและหันมาให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ควรทำหน้าที่ติเพื่อก่อ เพื่อให้สมกับที่เรียกตัวเองว่าสื่อมวลชน

ทั้งนี้ขอยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ก็ได้ออกเสนอมาตรการแก้ปัญหาราคายางอย่างต่อเนื่อง พรรคฯไม่เคยทิ้งปัญหาของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะรัฐบาลชุดใดก็ตาม ‪#‎DemocratTH‬