PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

"แบมะมีเดียร์"นักเคลื่อนไหวสันติภาพ เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็ง ปชช.ร่วมอาลัยจำนวนมาก

"แบมะมีเดียร์"นักเคลื่อนไหวสันติภาพ เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็ง ปชช.ร่วมอาลัยจำนวนมาก

Publish 2017-07-11 17:54:35


วันที่ 11 ก.ค. 2560 ที่มัสยิดนูรุลเอนซาน ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง ปัตตานี นายแวหามะ แวกือจิก หรืออีกชื่อที่คนในพื้นที่เรียก "แบมะมีเดียร์" ผู้อำนวยการสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน เป็นวิทยุชุมชนชื่อดังในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ มีผลงานคือ รายการโลกวันนี้ (DUNIA HARI INI) ผ่านสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน ได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งลำไส้นานกว่า 3 ปี เมื่อกลางดึกเวลา 03.00 น. วันที่ 11 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา  ซึ่งเป็นบ้านเกิด ที่หมู่บ้านปะกาฮารัง หมู่ที่ 1 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี



สำหรับนายแวหามะ ถือเป็นบุคคลสำคัญของชายแดนใต้คนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักจัดรายการวิทยุที่มากด้วยประสบการณ์ และเป็นครูแห่งวิทยุภาษามลายูซึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวิทยุภาษามลายูในพื้นที่ ในปี 2556 หลังจากได้มีการลงนามข้อตกลงการพูคคุยสันติภาพ ระหว่างรัฐไทยกับ BRN ที่มาเลเซีย  นายแวหามะ ได้เปิดรายการโลกวันนี้ ผ่านทางสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน และได้สร้างแรงกระเพื่อมในการสร้างสันติภาพในพื้นที่





แบมะ เป็นที่รู้จักในนามนักจัดรายการวิทยุสันติภาพในพื้นที่ชายแดนใต้ ที่พยายามเปิดช่องทางการสื่อสารให้กับสื่อทางเลือกในพื้นที่ และได้ความฮือฮาโดยการสัมภาษณ์ อุสตาสฮัสซัน ตอยิบ และ พล.ท ภราดล พัฒนถาบุตร สองแอคเตอร์สำคัญในการพูคคุยสันติภาพในช่วงปี 2556  แบมะ เคยพูดอยู่เสมอว่า เป้าหมายสำคัญของการสื่อสารในพื้นที่ คือการเป็นพื้นที่กลางให้ทุกภาคส่วนมามีส่วนร่วม เพื่อนำสันติภาพที่ยั่งยืน สันติภาพที่ถาวรมาสู่พื้นที่ชายแดนใต้ และเป็นสันติภาพที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนอีกด้วย ทั้งนี้พิธีละหมาดญะนาซะฮ์ (ละหมาดศพ) นายแวหามะ  จะมีขึ้นที่มัสยิดนูรูลเอนซาน (มัสยิดปะกาฮะรัง) และจะนำศพไปฝังที่กูโบร์โต๊ะอาเยาะห์ ชุมชนจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นกูโบทีมีบรรดาเจ้าเมืองและวีรบุรุษที่สำคัญในอดีตฝังที่กูโบร์(สุสาน) แห่งนี้จำนวนมาก



ภาพ/ข่าว ตอริก สหสันติวรกุล   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.ปัตตานี

ยรรยง พวงราช :รัฐบาล คสช. บริหารเศรษฐกิจผิดพลาดทำให้ประชาชนขาดกำลังซื้อ

รัฐบาล คสช. บริหารเศรษฐกิจผิดพลาดทำให้ประชาชนขาดกำลังซื้อ
เห็นได้จากดัชนีผู้บริโภค ติดลบติดต่อกันถึง 15 เดือน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ SME เจ๊งหนัก แรงงานประมงและต่างด้าวมีปัญหา
Q: ท่านมองการจับจ่ายใช้สอยในประเทศช่วงนี้เป็นอย่างไร มีอะไรเป็นตัวชี้วัด
A: การจับจ่ายใช้สอยหรือการบริโภคของประชาชนเริ่มลดตํ่าลงหลังจากการเข้ายึดอำนาจโดย คสช. และลดตํ่าลงอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เพราะประชาชนขาดกำลังซื้อและสะท้อนถึงสภาวะทางเศรษฐกิจที่ซบเซาคือ ตกอยู่ในภาวะข้าวยากหมากแพงที่ประชาชนชักหน้าไม่ถึงหลังอย่างเห็นได้ชัด
ตัวชี้วัดที่เป็นทางการแสดงถึงกำลังซื้อของประชาชน คือ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(Consumer Price Index หรือ CPI) ที่จัดทำโดยกระทรวงพาณิชย์ ดัชนีตัวนี้วัดจากข้อมูลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค(ของกินของใช้)ที่ประชาชนทั่วไปจำเป็นต้องซื้อหาเป็นประจำซึ่งจัดเก็บจากแหล่งซื้อขายจริงทั่วประเทศ แล้วนำมาคำนวณอัตราการเปลี่ยนแปลงเป็นร้อยละ(%)ในแต่ละเดือน ค่าบวกและลบแสดงถึงกำลังซื้อของประชาชนว่ามากหรือน้อยในช่วงเวลานั้นๆ ค่าดัชนีCPI ที่เหมาะสมของไทยที่ถือว่าเป็นภาวะปรกติจะเพิ่มขึ้น 2% - 4% ถ้าเกินกว่านี้อาจกลายเป็นภาวะเงินเฟ้อ ถ้าตํ่ากว่านี้ก็อาจจะนำไปสู่ภาวะเงินฝืด โดยเฉพาะถ้าค่าCPI ติดลบคือตํ่ากว่าศูนย์ต่อเนื่องหลายๆเดือน ก็แสดงว่าประชาชนขาดกำลังซื้อและขาดความเชื่อมั่น
ค่าดัชนีCPI เริ่มลดตํ่ากว่า2% ตั้งแต่ช่วงแรกๆที่รัฐบาล คสช. เข้ามาบริหารประเทศ คือ เดือนกันยายน2557 ค่าดัชนีบวกเพียง 1.8% และลดตํ่าลงอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นติดลบคือ -0.4% ในเดือนมกราคม2558 และCPI ติดลบต่อเนื่อง 15 เดือน จนถึงมีนาคม 2559 และอยู่ในระดับตํ่ามากจนถึง 2 เดือนล่าสุดคือพฤษภาคมและมิถุนายน 2560 ก็เริ่มติดลบอีกคือ -.0% ทั้งสองเดือน แสดงว่าประชาชนขาดกำลังซื้อและขาดความเชื่อมั่นจนผู้ผลิตส่วนใหญ่ต้องลดราคาสินค้าลง
นอกจากดัชนีCPI แล้ว ยังมีตัวชี้วัดการบริโภคหรือการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนอีกตัวหนึ่งคือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ซึ่งจัดทำโดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ล่าสุดเพิ่งมีการเปิดเผยเมื่อ 6 ก.ค.ที่ผ่านมาว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเดือนมิถุนายน 2560 ตกต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 74.9 ซึ่งสอดคล้องกับดัชนี CPI ของกระทรวงพาณิชย์
Q: การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนลดลงมากอย่างต่อเนื่อง มีสาเหตุมาจากอะไร
A: สาเหตุที่ทำให้การจับจ่ายใช้สอยหรือการบริโภคของประชาชนลดลงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาล คสช. เกิดจากเหตุปัจจัยต่างๆดังนี้
(1) รายได้เกษตรกรตกตํ่าลงมากทั้งจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำและปริมาณการผลิตที่ลดลงแทบทุกสินค้า เช่น
-ข้าว ราคาข้าวเปลือกช่วงนาปี 59/60 ข้าวเปลือกเจ้าเคยตกต่ำถึง 6,000 บาทต่อตัน และข้าวเปลือกหอมมะลิเคยตํ่ากว่าตันละ 10,000 บาท แม้ในช่วงนี้ราคาข้าวเปลือกจะสูงขึ้นบ้าง แต่ชาวนาก็แทบไม่มีข้าวอยู่ในมือแล้ว ส่วนในด้านปริมาณ ชาวนาก็ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและน้ำท่วมแทบทุกปีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
-ยางพารา ราคายางมีความผันผวนและตกต่ำมากเป็นประวัติการณ์ พูดกันว่า 3 กิโล 100 บาทก็เคยเห็น ล่าสุดเกษตรกรร้องเรียนว่าถูกพ่อค้าทุบราคา ขณะนี้ ราคายางขยับขึ้นบ้างอยู่ที่ กก.ละประมาณ 45-50 บาท แต่ก็มีผลผลิตออกขายน้อยมากเนื่องจากปิดกรีดในช่วงฤดูยางผลัดใบ รวมทั้งมีการโค่นต้นยางทิ้งบางส่วนหลังรัฐประหาร
-ปาล์มน้ำมัน ราคาปาล์มทะลายนํ้ามัน17% เดือน ก.ค.2559 กก.ละ 6.00-6.50 บาท แต่ต้น ก.ค.2560 เกษตรกรขายได้ กก.ละประมาณ 4.00 บาท
(2) รายได้ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs ลดลงมากเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของไทยเองและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
รวมทั้งการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล เช่น นโยบายแรงงานต่างด้าว การจัดระเบียบเรือประมง เป็นต้น
(3) การขาดความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการของรัฐบาล ทำให้ประชาชนลดการจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคลง ส่วนภาคธุรกิจเอกชนชะลอการลงทุนลง ดังจะเห็นได้จากยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่ายอดการลงทุน FDI นับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมาลดน้อยลงกว่าช่วงก่อนที่มีการรัฐประหารเป็นอย่างมาก
Q: ราคาสินค้าอุปโภค บริโภคมีแนวโน้มไปในทิศทางใด
A: ดูจากแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของโลก ไม่น่าจะสามารถทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ในภาคเกษตรและ SMEs (ซึ่งรวมกันแล้วน่าจะเกินกว่า 30 ล้านคน) มีรายได้เพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้น อีกทั้งภาระหนี้สินครัวเรือนที่ต้องแบกรับเพิ่มขึ้นทุกวัน สิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงกดดันให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคชะลอตัว คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคหรือCPI จะเพิ่มในอัตราตํ่าคือประมาณ 0.5% - 1.5% เท่านั้น (ไม่ถึงอัตราปรกติคือ 2% - 4%)
Q: รัฐควรออกมาตรการอย่างไรในการช่วยเหลือภาคเกษตรและภาคแรงงาน
A: รัฐควรใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศโดยการเพิ่มรายได้ให้เศรษฐกิจรากฐานคือ ภาคเกษตรและภาคแรงงานอย่างเป็นรูปธรรมและให้เห็นผลโดยเร็ว ไม่ใช่เน้นเฉพาะการแก้ไขเชิงโครงสร้างหรือการปฏิรูปเท่านั้น
Q: การจับจ่ายใช้สอยลดลงส่งผลกระทบอย่างไรต่อเศรษฐกิจโดยรวม
A: ถ้าประชาชนจับจ่ายใช้สอยหรือบริโภคลดลง ภาคธุรกิจเอกชนก็จะลดหรือชะลอการผลิตและการลงทุน ภาครัฐก็จะมีรายได้จากภาษีน้อยลง (เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้บริโภคและภาษีเงินได้จากรายได้หรือผลกำไร) และไม่สามารถลงทุนในโครงการพื้นฐานที่สำคัญหรือโครงการสาธารณะที่จำเป็นได้
ในที่สุดการจับจ่ายใช้สอยที่ลดลงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศก็คือ จะทำให้เราสามารถพัฒนาประเทศได้น้อยกว่าและช้ากว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งใช้อัตราการขยายตัวของ GDP เป็นตัวชี้วัด การบริโภคและการลงทุนทั้งของเอกชนและของรัฐบาลเป็นองค์ประกอบสำคัญของ GDP ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการส่งออกและการนำเข้า เรื่องนี้น่าเป็นห่วงเป็นพิเศษเพราะในช่วงหลังมานี้ GDP ของไทยขยายตัวเพียงปีละ 2% - 3% ต่ำสุดในอาเซียน ขณะที่ประเทศสมาชิกอื่นๆขยายตัวปีละ 5% - 7% ในทุกประเทศ

ตร.ปม 3 ปมสังหารยกครัว”สังหลัง”8ศพ ญาติ-เพื่อนโพสต์ไว้อาลัย

ตร.ปม 3 ปมสังหารยกครัว”สังหลัง”8ศพ ญาติ-เพื่อนโพสต์ไว้อาลัย

จากกรณีเกิดเหตุ ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กลุ่มคนร้ายเป็นชายประมาณ 6-7 คน ใช้ยานพาหนะ 2 คัน แต่งกายชุดลายพราง พร้อมอาวุธ บุกบ้านผู้ใหญ่บ้าน จับคนในบ้านกักขังก่อนที่จะก่อเหตุยิงดับ 6 ราย บาดเจ็บ 5 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค 2560 เวลาประมาณ 16.00 น. กลุ่มชายฉกรรจ์ได้บุกบ้านจับตัวคนในบ้านไว้ ก่อนที่ เวลา 20.00 น. นายวรยุทธ สังหลัง เจ้าบ้าน (ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง) กลับบ้านจึงถูกควบคุมตัวใส่กุญแจมือและปิดบังใบหน้า จนเวลาประมาณ 24.00 น. กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิง ทุกคนแล้วหลบหนีไป (อ่านเหี้ยม! บุกบ้านผู้ใหญ่ฯ จับมัด กราดยิงยกครัว 6 ศพ เจ็บอีก 5 สลด เด็กเล็กก็ไม่เว้น)
ทั้งนี้ เบื้องต้น ผู้เสียชีวิต 6 ศพ ประกอบด้วย 1 นางดวงพร สังหลัง 2 นายสุริยา สังหลัง 3 ด.ญ.กิ่งเทียน สังหลัง 4 นายสุทธิพงศ์ พริกดำ 5 ด.ญ.เพรชดาว สังหลัง 6นางสาว แอนนา บุตรเติบ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย ได้แก่ 1.นางอัญชลี บุตรเติบ 2.ด.ญ แพรไหมทอง สังหลัง 3.ด.ญ รัญชิดา พริกดา 4.ด.ญ รยิดาน์ พริกดำ 5.นายวรยุทธ สังหลัง ทั้งหมดอาการสาหัส เนื่องจากถูกจ่อยิงที่ศีรษะ โดยต่อมา พบว่า นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้าน และ ด.ญแพรไหมทอง เสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมเป็นขณะนี้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังอาการต่อไป
รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น พบว่านายวรยุทธ สังหลัง มีเรื่องขัดแย้งอยู่ 2-3 ประเด็น ทั้งเรื่องปัญหาฟ้องร้องเรื่องที่ดิน ซึ่งยังอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาล เรื่องปัญหาร้องเรียนโรงงานอุสหกรรมแห่งหนึ่ง และเรื่องที่ร้องเรียนพฤติกรรมของครูคนหนึ่ง ซึ่งมีการขู่อาฆาตกันก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจกำลังเร่งขมวดปมให้กระชับเพื่อนำไปสู่การติดตามจับกุมแก๊งมือปืนโหด และผู้บงการโดยด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ยิงยกครัว 8 ศพ ปรากฏว่าญาติพี่น้องและเพื่อนๆของผู้ตายต่างเข้าไปแสดงความอาลัยกับการเสียชีวิตของครอบครับ “สังหลัง” โดยมีการแชร์ภาพผู้ตาย ภรรยา และลูกน้อยทั้ง 3 คนที่เสียชีวิต พร้อมเขียนไว้อาลัยด้วยความโศกเศร้า

“ถูกทาง”แต่“ผิดคิว”?

“ถูกทาง”แต่“ผิดคิว”?

ภาพสวยงามในเทศกาลบุญใหญ่ อาสาฬหบูชา เข้าพรรษา ประชาชนคนไทยแห่เข้าวัด ตักบาตรทำบุญ ถือศีลกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

เต็มวัดวาอารามทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

สะท้อนถึงนิมิตหมายดี คนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ พากันตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม ยึดเอาคำสอนของพระพุทธองค์เป็นที่ตั้งในการดำเนินชีวิต

ผิด ชอบ ชั่ว ดี แยกแยะได้

ที่แน่ๆมาถึงเทศกาลเข้าพรรษา นั่นหมายถึงสถานการณ์ที่ล่วงเลยเข้าสู่ครึ่งปีหลังแล้ว โดยแนวโน้มวันเวลาตามโรดแม็ปก็หดสั้นลงทุกขณะ

หลายเรื่อง บางอย่างก็ชัดเจนขึ้นตามเงื่อนเวลา

โดยเฉพาะกับคำตอบที่ว่า เมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ไม่ได้ไขก๊อกจากตำแหน่งก่อนเที่ยงคืนวันที่ 4 กรกฎาคม 2560

เลยกำหนดเดดไลน์ที่รัฐธรรมนูญล็อกไว้

หมดสิทธิลงสนาม พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งแน่

นั่นก็เหลือ “ประตูเดียว” คือนายกรัฐมนตรีคนนอก

ต้องรับเทียบเชิญ นั่งเสลี่ยงคานหามมา

แน่นอนตามเงื่อนไขสถานการณ์ นักการเมืองอาชีพต้องรีบแห่มาตีปี๊บประจานดักทาง

และก็ชิงเล่นเร็ว ชู้ตกระแสตามน้ำเลย กับเหลี่ยมที่ “เจ๊หน่อย” คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองหลวงพรรคเพื่อไทย ออกมาฟันธงดังๆแบบไม่กลัวหน้าแตกเลยว่า

พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกแน่นอน หลังการเลือกตั้ง

แต่อวยกันแบบนี้ หวังดี ประสงค์ดีหรือไม่ ตามฟอร์มเขี้ยวๆพอจะเดาทางกันได้

ตามรูปการณ์ “เรียกแขก” ให้ “บิ๊กตู่” มากกว่าเชียร์

ไม่อย่างนั้น “เสธ.ไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายก-รัฐมนตรี คงไม่รีบออกมาเคลียร์ข่าว เป็นแค่มุมมองส่วนตัวของคุณหญิงสุดารัตน์ แต่รัฐบาลมีหน้าที่อย่างเดียวคือ ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามโรดแม็ปที่วางเอาไว้

เรื่องของเรื่องมันก็ลงล็อกพอดีกับจังหวะ “เร่งเครื่อง” ออกตัวแบบล้อฟรีของ “เจ๊หน่อย”

ถึงตรงนี้จะปากแข็งยังไงก็ไม่มีใครเชื่อแล้วว่า “ไม่หวังอะไร”

ตามท้องเรื่องที่บ่งชี้สถานการณ์ ภายหลัง “เจ๊หน่อย” นำคณะพรรคเพื่อไทยชุดใหญ่ มีคนระดับกุนซือและทีมงานใกล้ชิด “นายใหญ่” ร่วมเป็นหางเครื่อง เดินทางไปประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดหน้าโชว์ตัว “กึ่งทางการ” กับฝ่ายการเมืองและนักธุรกิจของทางการปักกิ่ง

นัยว่าเป็น “ตัวจริง” ที่รับมอบธงจาก “ทักษิณ ชินวัตร” แล้ว

โดยแนวโน้มแบบที่ “บิ๊กกี่” พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่ ปรึกษา คสช. ในฐานะเพื่อนซี้ “บิ๊กป้อม”
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็เพิ่งออกมาการันตีสถานะ “เต็งหนึ่ง” แม่ทัพค่ายเพื่อไทย

ส่งซิกเป็นนัย “เจ๊หน่อย” มีเส้น ต่อสายกับท็อปบูตติด

ทุกอย่างเดินตามฉากที่เซ็ตไว้

ถึงตรงนี้ต้องยอมรับว่า “เจ๊หน่อย” มาไกลเกินครึ่งทางแล้ว

แต่เรื่องของเรื่อง มา “ถูกทาง” แต่ก็ยังเสี่ยง “ผิดคิว” ได้

ว่ากันตามท้องเรื่องที่เจ้าแม่เมืองกรุงพรรคเพื่อไทยกำลังเร่งเครื่องปั่นหุ้น เดินสายไปงาน “ผูกเสี่ยว” ในพื้นที่ภาคอีสาน พยายามกลมกลืนกับฐานใหญ่ของพรรคเพื่อไทย โดยใช้โอกาส การปรากฏตัวในงานบุญท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มาให้กำลังใจ

มุกเดียวกัน อีเวนต์การตลาดที่ลอกแบบกันมา

ในจังหวะเบียดซีน แย่งเรตติ้งกับ “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องเดินสายขึ้นศาล ลุ้นชะตากรรมในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

กระตุกฉากดราม่า เร้าอารมณ์มวลชนผู้สนับสนุน

“นางสิงห์” กำลังตกที่นั่งลำบาก แต่อีกฟาก “นางเสือ” พยายามเบียดแทนที่

หนีไม่พ้นลูกหมั่นไส้ เพราะภาพมันขัดแย้งเห็นๆ.

ทีมข่าวการเมือง

คิว ทัพฟ้า...ได้ซื้อ เครื่องบินฝึก อีกเกือบ9พันล้าน ...

คิว ทัพฟ้า...ได้ซื้อ เครื่องบินฝึก อีกเกือบ9พันล้าน ...
ขณะที่ 6 นักบินทัพฟ้าไทย กำลังไปฝึกบิน เครื่องบินฝึกT-50TH ที่เกาหลีใต้ อยู่....ที่ทอ.ซื้อไปแล้ว4 เครื่อง...กว่า3พันล้านบาท ...อังคารนี้ ครม.ก็จะพิจารณา อนุมัติซื้อเพิ่ม อีก8เครื่อง เกือบ 9 พันล้านบาท
ถก ครม. อังคารนี้ 11กค. ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม จะเสนอโครงการจัดซื้อเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น แบบT-50 TH อีก 8 เครื่อง จากเกาหลีใต้ ให้กองทัพอากาศ อีก 8.8 พันล้านบาท ผูกพันงบฯ3ปี

หลังจากที่ พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ.อากาศ ขณะเป็น เสธ.ทอ. ลงนามจัดซื้อไปตั้งแต่กย.2558 แล้ว 4 เครื่อง ตามแผนจะซื้อ 16 เครื่อง หรือ1ฝูงบิน เพื่อทดแทน L-39 ที่จะปลดประจำการ
ทั้งนี้ ทอ. ซื้อเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น แบบT-50 TH นี้ โดยให้เหตุผลว่า เป็นเครื่องฝึกแล้วยังสามารถใช้เป็นเครื่องบินรบได้อีกด้วย
ขณะนี้ 6 นักบินทัพฟ้าไทย กำลังไปฝึกบิน เครื่องบินฝึกT-50TH ที่เกาหลีใต้

ที่ปรึกษาการต่างประเทศส่วนตัวของ "นายกฯบิ๊กตู่"...DNA ยก.ทบ.

ที่ปรึกษาการต่างประเทศส่วนตัวของ "นายกฯบิ๊กตู่"...DNA ยก.ทบ.
บิ๊กเบี้ยว พลเอกฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข อดีตเสธ.ทบ. คีย์แมนรัฐประหารอีกคน น้องรักสายทหารม้า ของ บิ๊กตู่. ที่เคยจะได้เป็น รัฐมนตรี แต่ส่งไปนั่งเป็นประธานบอร์ด อสมท.และ การยางฯ แทน....แต่ทำหน้าที่ที่ปรึกษาส่วนตัว เรื่องต่างประเทศ ให้นายกฯ....ทุกครั้งที่จะไป อเมริกา. ก็จะให้ พลเอกฉัตรเฉลิม เตรียมการให้ เป็นการส่วนตัว แม้แต่การตรวจ ร่างสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ ที่จะให้ล่ามอ่าน ก่อน หวั่นถูกยัดไส้.....นอกเหนือจาก การให้เป็นหน้าที่ของ กระทรวงต่างประเทศ....ส่วนคราวนี้ นายกฯ มีแผนจะไปพบ Donald Trump ตามคำเชิญ ภายในเดือนกค.นี้. ให้ กระทรวงต่างประเทศเป็นหลัก ส่วน บิ๊กเบี้ยว แค่ช่วยห่างๆ. หลังจากที่ เลื่อนการพบรอบแรก 19 กค.นี้ ออกไปก่อน....รอการประสานใหม่
#บิ๊กเบี้ยวพลเอกฉัตรเฉลิม จบ อัสสัมชัญ และเข้าตท.15 เป็นนายทหารม้าสายบุ๋น เป็น อาจารย์รร.เสธ.ทบ. และเคยเป็นผู้ช่วยทูตทหารไทย กรุงบอนน์เยอรมัน
เติบโตในกรมยุทธการทบ. ตั้งแต่เป็น
ผอ.กอง กรมยุทธการทหารบก และเจ้ากรมยุทธการทหารบก และผู้ช่วยเสธ.ทบ.ฝ่ายยุทธการ เป็นรองเสธ.ทบ.และ เสธ.ทบ.ตอนรัฐประหาร เป็นคีย์แมนเคียงข้าง พลเอกประยุทธ์ ผบทบ.และหัวหน้าคสช.ในเวลานั้น และรับหน้าที่ชี้แจงต่อ สื่อต่างประเทศ ด้วยตนเองมาตลอด

ยัน ซื้อเครื่องบินฝึก "กิมจิ" โปร่งใส

บิ๊กป้อม ยัน ซื้อเครื่องบินฝึก "กิมจิ" โปร่งใส แจง แค่รับทราบ ตามที่ ครม.อนุมัติไว้แล้ว ทดแทน L-39
พลเอกประวิตร รมว.กลาโหม แจง การนำโครงการซื้อเครื่องบินฝึกขับไล่T50TH จากเกาหลีใต้ เข้าที่ประชุม ครม.วันนี้ แค่รับทราบ เนื่องจากครม.อนุมัติ โครงการนี้ไปตั้งแต่ 25 ตค.2559 ในการจัดซื้อ 16เครื่อง 1ฝูงบิน แล้ว โดย เฟสแรก ซื้อไปแล้ว 4 เครื่อง. เฟส2 อีก8 เครื่อง และเฟส3 อีก4 เครื่อง
วันนี้ ครม. แค่รับทราบ การผูกพันงบฯ4ปี 60-63 งวดแรก งบฯปี60 ราว 1,800 ล้านบาท งวดสอง 2,700 งวดสาม 2,700 และงวดสี่ 1,800ล้านบาท ตามที่ครม.อนุมัติหลักการ มาแล้วนั่นเอง
พลเอกประวิตร ยันจำเป็นต้องซื้อเพื่อทดแทนเครื่องบินฝึกL-39 ที่กองทัพอากาศใช้มาเกือบ 30ปี ยืนยันในความโปร่งใส ในการพิจารณาของ ทอ. และเป็นการจัดซื้อ แบบ G to G
ทั้งนี้ เครื่องบิน4 เครื่องแรก จะเข้าประจำการ ต้นปี2561 โดยขณะนี้ นักบิน ทอ.6นาย กำลังไปฝึกบิน โดย เครื่องบินนี้ จะเข้าประจำการ ที่ กองบิน4 ตาคลี นครสวรรค์ ในการฝึก นักบินขับไล่

ไม่รับประกัน จะไม่มีปฏิวัติ อีก

"บิ๊กป้อม" ยัน กองทัพปฏิรูป มาตลอด แต่ไม่รับประกัน จะไม่มีปฏิวัติ อีก อ้างทหาร ไม่มีเจตนาปฏิวัติๆ ไม่ได้อยากทำ แต่ประชาชนเรียกร้อง ชี้ ครั้งที่ผ่านมา ไม่ใช่รัฐประหาร แค่แยก ไม่ให้ทะเลาะกัน
พลเอกประวิตร รมว.กลาโหม กล่าวถึง เสียงเรียกร้อง ให้ปฏิรูปกองทัพด้วย ไม่ใช่แค่ปฏิรูปตำรวจ ว่า กองทัพ มีการปฏิรูปมาตลอด
ส่วนที่อยากปฏิรูป ไม่ให้ทหารยุ่งเกี่ยวการเมือง หรือรัฐประหารนั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้อยากจะเกี่ยว แต่
จะให้ทำยังไง พราะทหาร ไม่มีเจตนา จะปฏิวัติๆนะ ทหารไม่ได้ต้องการปฏิวัติ แต่เพราะเสียงเรียกร้อง ของประชาชน ทหาร ไม่ได้ปฏิวัติ ผมว่าทหารสมัยนี้ ไม่ได้อยากปฏิวัติแล้ว นะ
"อย่างคราวนี้ที่ทำก็ไม่ได้รัฐประหารนะ แค่ มาแยก ไม่ให้ทะเลาะกัน"
ส่วนที่ทหารเข้ามาเกี่ยวการเมืองไปแล้วนั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า เดี๋ยวก็เลิกแล้ว พอมีเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า จะพูดได้หรือไม่ว่า จะไม่มีรัฐประหารอีก พลเอกประวิตร กล่าวว่า จะไปพูดได้ยังไง ว่าจะไม่มีอีก แต่ทหารไม่ได้อยากจะปฏิวัติ มันแล้วแต่สถานการณ์

(ข้อมูล)สังหารโหด ตาย 6 ศพ เจ็บ 5

กลุ่มคนร้ายอ้างเป็นทหารเข้าค้นบ้าน ก่อนเข้าไปสังหารโหด ตาย 6 ศพ เจ็บ 5 เด็กผู้หญิงก็ยิงไม่ละเว้น
(11 ก.ค.) เวลา 01.30 น.  ร.ต.อ สุวิทย์ แก้วปรีชา รองสารวัตรสอบสวนสภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายยิงคนในบ้านของผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ กฤษณัฐ วงษ์กล้าหาญ ผกก.สภ.อ่าวลึก และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง
ที่เกิดเหตุเป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 เลขที่ 14/3 ภายในบ้านพบผู้เสียชีวิต 5 ศพ ประกอบด้วย 1.นางดวงพร 2.นายสุริยา 3.นายสุทธิพงศ์ 4.ด.ญ.เพรชดาว 5.นางสาวแอนนา ถูกอาวุธปืนเบื้องต้นไม่ทราบขนาดยิงเสียชีวิต
นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 ราย เร่งนำส่งโรงพยาบาลประกอบด้วย ราย 1.นางอัญชลี 2.ด.ญ แพรไหมทอง 3.ด.ญ รัญชิดา 4.ด.ญ.รยิดาน์ 5.นายวรยุทธ (ผู้ใหญ่บ้าน) ทั้งหมดอาการสาหัส เนื่องจากถูกยิงที่ศีรษะ และ 6.ด.ญ. กิ่งเทียน ซึ่งได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบถามพฤติการณ์เบื้องต้นได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุ (10 ก.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น. ได้มีกลุ่มคนร้ายเป็นชายประมาณ 6-7 คน ใช้ยานพาหนะ 2 คัน แต่งกายชุดลายพลางคล้ายทหาร พร้อมอาวุธเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ ทำทีเป็นเจ้าหน้าที่มาตรวจค้นบ้าน โดยไม่ให้ออกไปไหน จากนั้น 20.00 น. นายวรยุทธ เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง) ได้กลับบ้านจึงถูกควบคุมตัวใส่กุญแจมือและปิดบังใบหน้า
จนเวลาประมาณ 24.00 น. กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงทุกคนที่อยู่ในบ้านและได้หลบหนีโดยได้นำรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กค 533 กระบี่ ของเจ้าของบ้านไปด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่และเร่งหาสาเหตุการสังหารหมู่ในครั้งนี้ต่อไป

ฆ่า8ศพกระบี่

พี่อ้น ธนพัฒน์ ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 10 ภาพ
5 ชม.
🕂🕂ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญเป็นอย่างยิ่ง ที่คนร้ายกระทำการท้าทายกฎหมายบ้านเมืองโดยการบุกจับคนถึงในบ้าน มัดมือแล้วยิงหัวเรียงตัวไม่เว้นแม้แต่เด็กอย่างนี้ คดีนี้ไม่เคลียร์ขอแรงสื่อทุกหัวอย่ายอมเลิกรานะครับ มันโหดเหี้ยมเกินกว่าจะเป็นการกระทำของมนุษย์เหมือนว่าฆาตกรจะหลุดมาจากขุมนรกก็มิปาน แชร์ให้กระหึ่มครับ ให้ถึงหูลุงตู่ให้ได้ จะได้กระชากหน้ากากพวกเดนนรกนี้ว่ามันคือคนกลุ่มใด โกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน ทำไมถึงทำกันได้ขนาดนี้ 🕂🕂.......(พี่อ้น)
#เนื้อหาข่าว
ฆ่าล้างครัว8ศพ! กลุ่มมือปืนบุกบ้าน ผญบ.กระบี่/จ่อยิงหัวไม่เว้นเด็ก-ผู้หญิง
วันอังคาร ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560, 09.51 น.//แนวหน้า//
ฆ่าล้างครัว, จ่อยิงหัว, ฆ่าล้างครัว ผญบ.กระบี่, มือปืนโหด
เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 11 ก.ค.60 ร.ต.อ.สุวิทย์ แก้วปรีชา รองสารวัตรสอบสวน สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายยิงคนในบ้านของผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณัฐ วงษ์กล้าหาญ ผกก.สภ.อ่าวลึก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 เลขที่ 14/3 ภายในบ้านพบผู้เสียชีวิต 5 ศพ ทราบชื่อมี 1. นางดวงพร สังหลัง 2.นายสุริยา สังหลัง 3.นายสุทธิพงศ์ พริกดำ 4. ด.ญ เพรชดาว สังหลัง 5.น.ส.แอนนา บุตรเติบ ถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 ราย เร่งนำส่ง รพ.อ่าวลึก และส่งต่อ รพ.กระบี่ ประกอบด้วย 1.นางอัญชลี บุตรเติบ 2. ด.ญ.แพรไหมทอง สังหลัง 3. ด.ญ.รัญชิดา พริกดา 4. ด.ญ.รยิดาน์ พริกดำ 5. นายวรยุทธ สังหลัง เป็นผู้ใหญ่บ้าน ทั้งหมดอาการสาหัส เนื่องจากถูกยิงที่ศีรษะ และ 6. ด.ญ.กิ่งเทียน สังหลัง ซึ่งได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา และล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 ศพ รวมมีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ศพ
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนร้ายเป็นชายประมาณ 6-7 คน ใช้ยานพาหนะ 2 คัน แต่งกายชุดลายพราง พร้อมอาวุธ เข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ ทำทีมาตรวจค้นบ้าน โดยไม่ให้คนในบ้านออกไปไหน
จากนั้นเวลา 20.00 น. นายวรยุทธ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านได้กลับเข้าบ้าน โดยถูกควบคุมตัวใส่กุญแจมือ และปิดคลุมใบหน้า จนกระทั่งเวลาประมาณ 24.00 น. กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงทุกคนที่อยู่ในบ้าน ก่อนจะหลบหนี โดยนำรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กค 533 กระบี่ ของเจ้าของบ้านไปด้วย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเร่งหาสาเหตุการสังหารหมู่ในครั้งนี้
เครดิตข่าว : แนวหน้า