PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สื่อจีนเตือนอาจเกิดสงคราม “ทะเลจีนใต้” หากสหรัฐฯ ไม่เลิกจุ้นเรื่องสร้างเกาะเทียม

สื่อจีนเตือนอาจเกิดสงคราม “ทะเลจีนใต้” หากสหรัฐฯ ไม่เลิกจุ้นเรื่องสร้างเกาะเทียม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
25 พฤษภาคม 2558 16:12 น.
สื่อจีนเตือนอาจเกิดสงคราม  “ทะเลจีนใต้” หากสหรัฐฯ ไม่เลิกจุ้นเรื่องสร้างเกาะเทียม
หนึ่งในโครงการถมทะเลในเขตทะเลจีนใต้ของปักกิ่ง
        รอยเตอร์ – หนังสือพิมพ์เจ้าหนึ่งของทางการจีน ระบุในวันนี้ (25) ว่า สงครามระหว่างจีนและสหรัฐฯ จากเรื่องทะเลจีนใต้จะเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลียงได้ หากวอชิงตันไม่หยุดเรียกร้องให้ปักกิ่งยุติการสร้างเกาะเทียมในน่านน้ำพิพาทแห่งนี้
      
       โกลบอลไทมส์ หนังสือพิมพ์ชาตินิยมทรงอิทธิพลที่มี พีเพิลเดย์ลี หนังสือพิมพ์ทางการของพรรครัฐบาลคอมมิวนิสต์เป็นเจ้าของ ระบุในบทบรรณาธิการว่า จีนมีความตั้งใจที่จะทำโครงการก่อสร้างของตนให้เสร็จ และเรียกมันว่าเป็น “สิ่งสำคัญที่สุด” ของประเทศ
      
       บทบรรณาธิการดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดเรื่องการปรับสภาพที่ดินของจีนในหมู่เกาะสแปรตลีย์ของทะเลจีใต้กำลังพุ่งสูง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจีนระบุว่า พวกเขารู้สึก “ไม่พอใจอย่างมาก” หลังจากที่เครื่องสอดแนมของหสรัฐฯ บินเหนือพื้นที่ใกล้แนวหินโสโครกดังกล่าว โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าบั่นทอนเสถียรภาพในภูมิภาค
      
       จีนควร “เตรียมพร้อมอย่างรอบคอบ” สำหรับความเป็นไปได้ของความขัดแย้งกับสหรัฐฯ หนังสือพิมพ์เจ้านี้ ระบุ
      
       “หากสิ่งสำคัญที่สุดของสหรัฐฯคือการที่จีนต้องยุติกิจกรรมของตน เช่นนั้นแล้วสงครามระหว่างสหรัฐฯและจีนก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลียงได้ในทะเลจีนใต้” โกลบอล ไทมส์ ระบุ และเสริมว่า “ความรุนแรงของความขัดแย้งนี้จะสูงยิ่งกว่าที่ผู้คนมักคิดว่าเป็น ‘การกระทบกระทั่ง’”
      
       ความคิดเห็นลักษณะนี้ไม่ได้เป็นถ้อยแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการ แต่บางครั้งก็ถูกมองว่าเป็นสิ่งสะท้อนถึงความคิดของรัฐบาล โกลบอลไทมส์อยู่ในหมู่หนังสือพิมพ์ที่ชาตินิยมที่สุดของแดนมังกร
      
       จีนอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ซึ่งมีมูลค่าการค้าจากการขนส่งทางเรือกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ขณะที่ฟิลิปปินส์ , เวียดนาม , มาเลเซีย , ไต้หวัน และบรูไน ก็อ้างสิทธิ์ทับซ้อนด้วย
      
       สหรัฐฯ มักเรียกร้องให้ผู้อ้างสิทธิทั้งหมดยุติการแปรสภาพที่ดินในหมู่เกาะสแปรตลีย์ แต่กล่าวหาจีนว่าดำเนินงานด้วยอัตราที่ล้ำหน้าไปไกลกว่าประเทศอื่นๆ
      
       วอชิงตันยังประกาศกร้าวด้วยว่าจะทำการตรวจการณ์ทางอากาศและทางทะเลในทะเลจีนใต้ต่อไป ท่ามกลางความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญว่า จีนอาจบังคับใช้การกำหนดขอบเขตทางอากาศและทางทะเลในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ทันทีที่พวกเขาดำเนินงานบนเกาะเทียม 7 แห่งของพวกเขาแล้วเสร็จ
      
       จีนระบุว่า พวกเขามีสิทธิเต็มที่ที่จะจัดตั้งเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (Air Defense Identification Zone หรือ ADIZ) ในทะเลจีนใต้ แต่สภาพการณ์ปัจจุบันไม่ได้เอื้อต่อการทำเช่นนั้น
      
       โกลบัลไทมส์ ระบุว่า “ความเสี่ยงต่างๆ จะยังอยู่ภายใต้การควบคุม” หากวอชิงตันคำนึงถึงการผงาดขึ้นอย่างสันติของจีน
      
       “เราไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งทางทหารกับสหรัฐฯ แต่หากมันจะเกิดขึ้น เราก็ต้องยอมรับมัน” หนังสือพิมพ์เจ้านี้ ระบุ

รัสเซียซ้อมรบครั้งใหญ่

รัสเซียซ้อมรบครั้งใหญ่
กองทัพรัสเซียเริ่มการซ้อมรบครั้งใหญ่ มีเครื่องบินรบราว 250 ลำเข้าร่วม รวมทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลที่ใช้บรรทุกขีปนาวุธติดยานขับ แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่ามีทหาร 12,000 คน เข้าร่วมในการซ้อมรบครั้งนี้ ซึ่งจะกินเวลา 4 วัน ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบความพร้อมรบของกองทัพรัสเซีย สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์และทาสส์ของรัสเซียรายงานว่ากองทัพรัสเซียนำอาวุธยุทโธปกรณ์เกือบ 700 ชิ้นเข้าร่วมในการซ้อมรม โดยจะมีการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลนำขีปนาวุธติดยานขับไปทำลายเป้าหมายในรัฐโคมิ แคโรไลน์ ไวแอตผู้สื่อข่าวบีบีซีที่กรุงมอสโกรายงานว่าการซ้อมรบครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมไปสู่การซ้อมรบที่ใหญ่กว่าที่มีชื่อว่า เซ็นเตอร์ 2015 ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ถึงความพร้อมของกองทัพรัสเซีย นายดมิตรี โรโกซิน รองนายกรัฐมนตรีกล่าวแบบติดตลกว่า “รถถังไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่า” นายโรโกซินเป็นนักการเมืองฝีปากกล้าคนหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้ถูกห้ามเข้าประเทศภาคีสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ เนื่องมาจากการคว่ำบาตร กรณีรัสเซียผนวกเขตไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตน
การซ้อมรบของรัสเซียครั้งนี้เกิดขึ้นไล่เลี่ยกับการซ้อมรบระหว่างภาคีองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือกับกองทัพของภาคีนอร์ดิกในยุโรปเหนือ ที่มีเครื่องบินรบกว่า 100 ลำและทหารราว 4,000 คน เข้าร่วม การซ้อมรบทั้งสองเหตุการณ์นี้มีขึ้นในช่วงที่เกิดความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก จากกรณีที่ชาติตะวันตกมองว่ารัสเซียแทรกแซงกิจการของยูเครนและรัสเซียส่งเครื่องบินเข้าไปสอดแนมในภูมิภาคยุโรปเหนือและแถบทะเลบอลติกมากขึ้น


ลูกชายทูตอเมริกัน วิเคราะห์ ทักษิณ

ลูกชายทูตอเมริกัน วิเคราะห์ ทักษิณ ได้ดีมาก
ลูกชายทูตอเมริกัน มองทักษิณ Professor Stephen Young นักศึกษาฮาร์วาร์ด ที่ค้นพบบ้านเชียง แหล่งโบราณคดีแห่งที่ราบสูง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และในฐานะลูกชายทูตสหรัฐ เติบโต และศึกษาเล่าเรียน อยู่ในเมืองไทย มองความเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการปกครอง
"ย้อนกลับไปที่ อริสโตเติล หากคุณเป็นประชาธิปไตย แต่คุณฉ้อโกง ทำร้ายผู้อื่น เราเรียกว่าทรราช คุณไม่มีศีลธรรม ไม่ยุติธรรม นั่นเป็นระบบที่เลวร้าย อริสโตเติลกล่าวไว้ว่าทุกๆ ระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบอบกษัตริย์ ขุนนาง หรือประชาธิปไตย ต้องมีกฎหมาย มีศีลธรรม และเป็นธรรม ที่จะควบคุมอำนาจในทางมิชอบ"
"พ่อผมใกล้ชิดกับในหลวง ใกล้ชิดกับจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปี 2504 มีช่องว่างระหว่างคนชนชั้นสูงกับคนจนในชนบท ซึ่งเป็นช่องว่างจริงๆ ในวันนี้ปี 2552 เมื่อผมได้ยินกลุ่มเสื้อแดงพูดว่า ไทยมีช่องว่างระหว่างคนรวย ในกรุงเทพฯ กับคนจนในชนบท ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ทุกวันนี้ช่องว่าง มีเพียงแค่นี้ ที่อเมริกาก็มีช่องว่าง
สตีเฟนเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเมื่อปี 2504 หรือเมื่อ 48 ปีก่อน สมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้า น้ำประปาใช้ ถนนเป็นดินลูกรัง แต่นับวันที่ล่วงผ่านไป มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นในเมืองไทยตลอดเวลา เมื่อได้ยินเรื่องแปลกๆ ทำนองว่าประเทศไทย ยังไม่มีนั่นไม่มีนี่ ต้องเปลี่ยนแปลง ปัญญาชนบางคน ต้องการการปฏิวัติ จึงมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ และทำให้มองไป ถึงความทะเยอทะยานของผู้ชายคนที่ชื่อ " ทักษิณ ชินวัตร" ตั้งแต่เริ่มทำชิน คอร์เปอเรชั่นฯ กับการได้มาซึ่งสัมปทานโทรศัพท์จากรัฐบาลโดยระบบ "ผูกขาด"
สาเหตุที่ทักษิณทำเงินได้เยอะ และกลายเป็นคนร่ำรวย เพราะรัฐบาล ได้มอบความเป็นบุคคลอภิสิทธิ์ให้ ให้สิทธิพิเศษในการผูกขาด เป็นการปกครองโดยคนชั้นสูง กลุ่มคนร่ำรวยและมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น
"นี่ไม่ใช่เรื่องของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เริ่มจากความยากจนแล้ว ไต่เต้าขึ้นมา เขามีสายสัมพันธ์พิเศษ และผมเห็นเขาใช้สายสัมพันธ์พิเศษเหล่านั้น"
สตีเฟนยังเสนอมุมมองเกี่ยวกับ ความคิดของ ทักษิณ ที่เป็นแบบจักรพรรดิของจีน ซึ่งถูกนำมาใช้ครั้งแรกโดย "ฉิน จื่อ หวาง" แบ่งเป็น เบื้องบนคือสวรรค์ ถัดลงมาเป็นคนคนหนึ่ง ส่วนเบื้องล่าง คือคนที่เหลือ แล้วเข้าควบคุมรัฐบาล ตำรวจ ผู้พิพากษา นักธุรกิจ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ฯลฯ ทำให้ทุกสิ่งอยู่ใต้เขา ซึ่งไม่เคยมีผู้นำไทย คนไหนในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่พยายามทำเช่นนี้มาก่อนเลย
สตีเฟนชี้ว่าในเมืองไทย คนตัวเล็กๆ มักจะแหงน มองคนสำคัญ เพราะพวกเขามีความรู้สึก ของระบบอุปถัมภ์อยู่ ทว่าทักษิณเข้าไปตัดลำดับ ขั้นต่างๆ เพื่อเข้าไปปกครองโดยตรง ทุกคนทำงานภายใต้ ตัวผู้นำ ไม่ใช่ความร่วมมือแบบเก่าๆ แต่คนส่วนใหญ่ ทำงานให้ทักษิณ และเชื่อว่าทักษิณจะใช้เงินดูแลพวกเขา ลักษณะเช่นนี้ ถือเป็นประชาธิปไตย ที่ปราศจากศีลธรรม จะย่ำแย่ แต่ความยุติธรรมต่างหาก คือสิ่งจำเป็น
สตีเฟน ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยเดินไปผิดทางคือ การบริหารประเทศ ลักษณะเดียว กับอาร์เจนตินา ภายใต้การนำของ "ฮวน เปรอง" ที่ไปหาคนจนแล้วโทษคนรวย บอกให้คนจนโหวตเขา แล้วเขาจะลงโทษคนรวย เอาเงินจากคนรวย มาให้คนจน เอาคนจนไปต่อสู้กับคนรวย ทั้งที่ปี 1930 ก่อนยุคฮวน เปรอง อาร์เจนตินาได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่ร่ำรวย แต่ผู้นำเผด็จการได้ทำลายเศรษฐกิจ และสร้างพรรคเผด็จการ 70 ปีต่อมา อาร์เจนตินาก็เผชิญกับความยากจนและแตกแยก
สตีเฟนมองว่าหากไทย ยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ ก็จะประสบชะตากรรมเดียวกัน !!
สตีเฟนย้ำว่า ระบบที่ดีอยู่ที่ ใครจะสร้างความยุติธรรม ในสังคมได้ ใครที่ปกครองอย่างมี ศีลธรรม สามารถตรวจสอบ ควบคุมซึ่งกันและกันได้ รัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญที่ดี แต่บางคน ที่มีเงินเข้ามาแล้ว ทำตัวเหมือนหนู ที่เอาเนยแข็งทั้งก้อนไป คุณความดีของรัฐธรรมนูญสูญหายไป ผู้คนไม่พอใจ ประท้วง ปฏิเสธการประนีประนอม
ที่ผ่านมาสตีเฟน ได้ยินทักษิณพูดว่า รัฐประหาร 19 ก.ย 49 ล้มล้างเขา ตั้งแต่นั้นเขาถูกข่มเหงมาโดยตลอด ทั้งที่ ทักษิณได้ฝ่าฝืนเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญ และทำลายกฎหมาย สร้างความชอบธรรม และอะลุ้มอล่วย ทางกฎหมาย คือ ได้เริ่มกระบวนการล่มสลายเอง และรัฐประหาร ก็เป็นส่วนหนึ่งของการล่มสลาย
"ตอนนั้นผมรู้สึกเศร้าใจ อะไรคือทางออกของไทย ถ้าเดินหน้าต่อ กับทักษิณก็จะจบลงด้วยเผด็จการแบบจีน ซึ่งไม่ดีกับประเทศไทย แต่ถ้าเลือกรัฐประหาร มันก็ขัดรัฐธรรมนูญประเทศไทย ไม่ควรอยู่ในจุดนั้น ไม่ใช่เพราะกองทัพ ไม่ใช่คุณอภิสิทธิ์ ไม่ใช่ พล.อ.เปรม แต่เป็นเพราะคนคนหนึ่ง กับทีมของเขาเอง"
‪#‎ทักษิณโทษป๋าเปรมว่า‬ เป็นต้นเหตุของความเดือดร้อน ทั้งหมด สตีเฟนตอบว่าทักษิณเป็นคนฉลาดพูด เขารู้จักหัวใจของคนไทยดี รู้ว่าควรจะพูดอะไร ให้คนไทยคิดเหมือนเขา ในตะวันตกเรียกว่า "ผู้ปลุกปั่น" เขาจะศึกษาตัวคนฟัง และอารมณ์ แล้วพูดในสิ่งที่คนอยากได้ยิน ไม่ใช่ชอบ หรือห่วงใย แต่เพราะต้องการบางอย่าง คือ เสียงโหวตและความภักดี
สตีเฟนยังมีความหวังว่า ความแตกแยก ทางการเมืองในไทยแก้ไขได้ ถ้าทุกฝ่าย นั่งลงแล้วคุยกันถึง วิธีแก้ปัญหาแบบไทยๆ แล้วทำงานร่วมกัน เช่น โครงการพัฒนาเศรษฐกิจ และพัฒนาการศึกษา ฯลฯ ทุกคนควรมีจิตสำนึก ของสิ่งถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรม จริยธรรม และความภาคภูมิใจ ที่เป็นคนไทย ที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน หรือต้องฟังใคร ที่สำคัญหากความทะเยอทะยาน ของทักษิณถูกนำออกไป จากบริบท ปัญหานี้ก็น่าจะมีทางออก สักทาง
"ยารสหวานๆ แบบฉบับไทยๆ กินทุกๆ วันเป็นเดือนหรือ 3 เดือนแล้วคุณจะดีขึ้นเอง ดีกว่ายาที่กินวันเดียว แต่คนอาจไม่ชอบ ยานี้คืออะไร ผมว่ามันต้องมา จากผู้นำรัฐบาล ผู้นำพรรคการเมือง พวกเขาอาจต้องกลืนยาขม จะต้องไม่มีใครรับสินบน ใช้เวลา 3 ปี ตำรวจและทุกๆ คนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง นี่คือยาขมทำให้คนไทย ได้เห็นว่านี่คือกฎเกณฑ์ใหม่"
http://www.nationmultimedia.com/…/opin…/opinion_30111886.php

นายกฯขอพูดแรง หน่อยนะ เรื่อง โสเภณี ขอทาน

นายกฯขอพูดแรง หน่อยนะ เรื่อง โสเภณี ขอทาน
พลเอก ประยุทธ์ นายกฯ กล่าวในตอนหนึ่ง ระหว่างพูดเรื่อง โรฮีนจา ว่า การที่เขาออกมาเพราะความยากจน ความลำบาก ยูเอ็น ก็ไปดูสิ รวมๆกันทุกประเทศไปช่วยเหลือให้เขามีอยู่มีกินจะได้ไม่ออกมา ต้องดูที่ต้นทาง ปลายทางก็มีสองส่วน คือ สองประเทศในอาเซียนที่รับไว้แล้วในเบื้องต้น ส่วยต่อไปจะไปไหน ถ้ามีจำนวนมากขึ้นจะทำอย่างไร เพราะแก้จุดใดจุดหนึ่งไม่ได้ จะทะเลาะกันไม่ได้ ยิ่งพูดก็จะยิ่งขยายความขัดแย้ง อาเซียนพูดอะไรออกมาต้องระมัดรัวัง เพราะเรามีหลักการว่าจะไม่ยุ่งกิจการภายในซึ่งกันและกัน จึงต้องหารือแก้ปัญหาร่วมกัน ผมยายามไม่พูดอะไรที่ทำให้ประเทศเสียหาย แต่เราต้องยอมรับว่ามีสิ่งไม่ถูกต้องอยู่แล้วต้องแก้ไข"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
"ปัญหานี้เกิดมากว่า 10 ปี ทำไมถึงมาประโคมข่าวกันปีนี้ และมีปัญหาในเรื่องการเมืองของเราเองด้วย ซึ่งเราจะไม่เอาประชาชนหรือชาวโรฮีนจามาเป็นตัวประกัน แต่ต้องตรวจสอบให้รู้ว่าข่าวบางข่าวออกมาได้อย่างไร และสมาคมต่างๆถูกกฎหมายหรือมีการจดทะเบียนหรือไม่ ต้องอยู่ในกรอบกฎหมายไทย โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล ไม่ใช่ต้องการไปลงโทษ แต่ต้องมีการควบคุม"
"ถ้าบอกว่ารัฐบาลนี้มาอย่างนี้ เลยมีการบังคับ มันมีการทำความผิดกันตั้งแต่ต้น ผมมารื้อทุกเรื่องแล้วมาตำหนิผมมันถูกหรือเปล่า หรือจะปล่อยให้คลุมเครือ เทาๆแบบนี้ไปตลอด มีเงินใช้ทุกที่ทุกทาง จะเป็นโสเภณีก็ได้ เป็นขอทานก็ได้ ขายของตรงไหนก็ได้ ผมพูดแรงหน่อยนะ พอผมทำสิ่งเหล่านี้กลับถูกติเตียนว่าทำลายคนจน แต่คนที่ทำลายคนจนโดยไม่รู้ตัวคือคนที่ปล่อยปละละเลย ซึ่งน่าจะถูกลงโทษมากกว่า ผมพูดให้ตายก็ไม่ฟัง แต่เอาเรื่องเล็กๆน้อยๆมาโจมตี แล้วท่านต้องการความหวังอะไรจากผม ทุกอย่างไม่ใช่เลย บางคนเขียนเพียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างเดียว ผมต้องหงุดหงิดแน่นอน เพราะเหนื่อยกับกับการคิดและทำ ไม่ได้ลอยหน้าลอยตายไปที่ไหน 1 ปีเต็มไม่ได้หยุดคิดสักเวลา ไม่ได้ทวงอะไรทั้งสิ้น เพียงพูดให้ฟัง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


สหรัฐฯกับข้ออ้างโรฮีนจา

ความจริงผมก็ไม่อยากเล่นเรื่องโรหิงญามากนักหรอกครับ เพราะผมเขียนไปครอบคลุมทุกประเด็นแล้ว แต่วันนี้มันมีประเด็นใหม่ออกมา และผมสะใจมากเลยอดไม่ได้เอามาเล่าให้ฟัง
เมื่อวานนี้ข่าวจากบางกอกโพสได้พูดถึงเรื่องที่อเมริกาขอใช้ภูเก็ตเป็นฐานกำลังของเรือและ maritime surveillance aircraft เครื่องบินตรวจจับทางทะเล ที่จะออกไปลาดตะเวณเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษย์ธรรมกับพวกมนุษย์เรือโรฮิงญา เวลานี้กองเรือของอเมริกามาอยู่ที่ภูเก็ตสักพักแล้วเพื่อซ้อมรบต่อต้านเรือดำน้ำ Guardian Sea สัปดาห์ที่แล้วเรือดำน้ำนิวเคลียร์ชั้นลอสแองเจลิสก็มาจอดที่สัตหีบสองรอบตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา (ใครบอกว่าอ่าวไทยตื้นฟ่ะ) แต่กองทัพไทยและกองทัพอากาศก็ปฎิเสธไปว่าซ้อมเสร็จวันพุธ(พรุ่งนี้)ก็ให้ถอนกำลังพลและอุปกรณ์ออกไปเสียโดยเร็วภายในวันศุกร์ เรื่องนี้ไทยจัดการได้ อเมริกามาอยู่ก็ขวางมือขวางตรีนทำให้ไทยทำงานไม่สะดวก ในข่าวว่าไว้แบบนี้ครับ (The RTAF was also concerned the US would interfere or do something that might disadvantage Thailand's handling of the Rohingya matter)
ผมยังคิดเลยว่าอเมริกาอ้างขอใช้สนามบินสัตหีบเพื่อเป็นฐานช่วยเหลือเนปาลมาตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ก็ยังไม่จบไม่สิ้น น่าจะปิดปฎิบัติการเสียที ไม่ใช่ว่าผมจะใจแคบหรอกครับ แต่มันไม่ด่วนขนาดต้องบินมาเองแล้วขอลงสัตหีบเติมน้ำมันและเอาของลง-ขึ้นเหมือนสามวันแรกนั้นแล้ว เวลานี้ใครๆก็ใช้บริการสายการบินของพลเรือนขนของก็ได้ตามปกติทุกสายการบิน การบินไทยก็ยังขนให้ฟรีอยู่เหมือนเดิม น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น
ผมต้องชมเชยหน่วยงานทางทหารทุกเหล่าทัพที่ทันเกมส์อเมริกามาตลอด เพราะว่าในเวลานี้หลังจากที่พม่าเสียงแข็งเรื่องจะไม่มาประชุมร่วมเพื่อแก้ปัญหาโรฮิงญาก็กลับลำเป็นว่าจะมาแล้ว เพราะไทยเราเป็นหัวหอกทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีของพม่าโดยแจ้งต่อทุกประเทศว่าปัญหานี้พม่าโดนฝรั่งโยนขี้ไปให้เป็นตัวต้นปัญหา แต่ที่จริงแล้วไอ้พวกมนุษย์เรือที่ออกมากันเต็มไปหมดนั้นมันมาจาก คอกซ์ บาซาร์ บังคลาเทศ เท่านั้นแหละพม่ากลับคำทันทีบอกว่าถ้าทุกประเทศเข้าใจแล้วว่าพม่าไม่ใช่ตัวปัญหาก็จะมาร่วมคุยปัญหาเรื่องนี้กับหลายประเทศที่เกี่ยวข้องที่ประเทศไทยประกาศว่าจะเป็นเจ้าภาพทันที
พม่าก็บอกว่าที่จริงแล้วทั้งโลกไปเชื่อสื่อตะวันตกในเรื่องความโหดร้ายของพม่าในกรณีโรฮิงญา พม่าให้สัญชาติแก่โรฮิงญาที่อยู่มาเดิมหลายสิบปีแล้วถึงสามแสนคน แต่พวกที่สวมรอยเข้ามาจากบังคลาเทศภายหลังนั้นพม่าไม่ให้สัญชาติและปราบปรามเสียด้วยเพราะเข้ามาก็สร้างแต่ปัญหา แล้วจะมาบอกว่าพม่าโหดมันไม่ถูกต้องหรอก
เรื่องนี้ทั้ง มาเลย์ อินโด ไทย และ พม่าก็หันมาเปิดเกมส์รุกบ้างว่า ผอ.ศูนย์ของ UNHCR ทำอะไรอยู่ถึงปิดหูปิดตาไม่รู้เลยว่าเรือที่มานั้นมันมีพวกบังคลาเทศเสียส่วนใหญ่ บางลำเกือบจะทั้งหมดเลยก็ว่าได้ และมันเป็นแบบนี้มานานมากแล้วด้วยไม่ใช่เพิ่งเกิด เรื่องนี้ถ้าทหารเรือพม่าเปิดไฟเขียวเล่นด้วยกับทหารเรือไทยที่ออกไปลอยลำคอยบล็อกมนุษย์เรือไม่ให้ขึ้นฝั่งแล้วผลักดันไปที่ คอกซ์ บาซาร์ แทนเท่านี้ก็จบ
เวลานี้เรื่องอาเซี่ยนแตกคอในปัญหาโรฮงญาก็จบไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน อเมริกาจะเข้ามาจุ้นกับอันดามันโดยอาศัยเกาะภูเก็ตโดยอ้างว่ามาช่วยพวกโรฮิงญาก็จบแล้ว อเมริกาที่มาขอใช้สัตหีบคงโดนถีบออกไปเร็วๆนี้เพราะเนปาลมันไม่มีอะไรให้ช่วยแล้ว ผมอยากจะดูต่อไปว่าอเมริกาจะมีมุขอะไรมายุ่งกับย่านนี้อีก
เครดิตภาพ โกลบอลเอวิเอชั่นรีพอร์ท


โรฮีนจา 'UNHCR' คือตัวการ? เปลว สีเงิน

วันนี้มาทบทวนปัญหา "โรฮีนจา" กันหน่อยดีมั้ยครับ เพราะศุกร์ ๒๙ พฤษภาที่จะถึงนี้ ไทยเราเป็นเจ้าภาพ เชิญ ๑๕ ชาติมาหารือกันที่กรุงเทพฯ นัยว่า UN, UNHCR มาเมียงมองด้วย

โรฮีนจา "เป็นใคร-มาจากไหน" กันแน่?

เป็นพวกลอยเรือหลบหนีเข้าเมือง หวังหางานทำ หรือเป็นเหยื่อ "นักค้ามนุษย์" ตามที่สหรัฐฯ ยัดข้อหาไทย?

วันนี้เรามาทำความเข้าใจกัน โดยอาจารย์ "สมเกียรติ โอสถสภา" เขียนเฟซไว้ ผมลอก-ท่านอ่าน กันได้เลย

Somkiat Osotsapa

ก่อนจะถึงการประชุม Boat People Crisis. ที่กรุงเทพ นี่คือทางออกจากปัญหา

ต่อให้วางแผนมาดีอย่างไร แผนการของบางประเทศที่ต้องการสร้างประเด็นโรฮิงยา เพื่อปักหมุดเอเซียด้านการทหาร เอาประเทศในย่านนี้เป็นบริวารโดยการคุมเกมผู้อพยพทุกปี ก็ดูจะล้มเหลว หน้าแหกไปตามๆ กัน

เพราะมีการตรวจสอบเบื้องหน้า เบื้องหลังอย่างรวดเร็ว และรู้ทันเกม การประชุมที่กรุงเทพ น่าจะหาข้อสรุปได้ง่าย

เรามีเวลาสามเดือน ก่อนจะถึงฤดูกาลขนคนในเดือนกันยายน

@@@ บังกลาเทศพูดแล้ว

นายกฯ บังกลาเทศหลบไม่ออก หลังจากไม่พูดอะไรเลยมาหนึ่งเดือน ตั้งแต่มีข่าวมนุษย์เรือ บังกลาเทศรู้เรื่องดี เรือส่วนใหญ่ออกจากที่นั่น
- อินโดนีเซียบอกกับออสเตรเลียว่า พวกผู้อพยพที่ช่วยมาได้ เกิน 60% เป็นผู้อพยพชาวบังกลาเทศ อพยพด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ
- ทัพเรือพม่าไปช่วยเรือได้สองลำ 208 คน พม่าตรวจสอบแล้ว เป็นบังกลาเทศทั้งหมด ฝรั่งงง ตามไปไล่เช็ก พบว่า 8 คน เป็นโรฮิงยาจากบังกลาเทศ เงิบซีครับ
ตอนนี้มีผู้อพยพสองพันคน อยู่ในเรือเรียกค่าไถ่ที่ลอยลำอยู่ในอ่าวเบงกอล จะเก็บค่าโดยสาร เรือบังกลาเทศ ชาวบังกลาเทศคุม
นายกฯ บังกลาเทศออกมาแถลงว่า ชาวบังกลาเทศที่พยายามไปประเทศอื่นด้วยวิธีการนี้ เป็นพวกโรคจิต mentally sick ขอให้กองกำลังจับพวกขนคน ค้าคนให้หมด บอกว่า พวกนี้ทำให้ประเทศเสียชื่อเสียง จะถูกจัดเป็นประเทศค้ามนุษย์เอา
ควรให้ทัพเรืออินเดียมาช่วยด้วย
โถ จังหวัดคอกซ์ บาซาร์ มีคนสองล้านกว่าคน มีเรือกี่ลำ ใครเป็นเจ้าของรู้หมด
กองทัพเรือบังกลาเทศต้องไปไล่จับมาให้หมด อยากรู้ว่าคนเดินทางชื่ออะไร ให้ไปถามที่สำนักงาน UNHCR ที่จังหวัด เขารู้ละเอียดว่าไปกี่คน
อาจจับเจ้าหน้าที่ UNHCR ด้วยก็ได้ สมัยก่อน พม่าเคยจับข้อหาร่วมก่อให้เกิดจลาจล

ที่ประเทศไทย ทำงานได้ดี ออกหมายจับ 77 คน โทษปรับสิบล้าน จำคุก 10 ปี

ถ้าพม่าทำแบบเดียวกัน ปัญหาจบ ทหารบ้านพม่ารู้หมด ผมว่าทางพม่าควรรีบทำ รีบจับ มิฉะนั้น อาจเจอการสร้างรัฐปาเลสไตน์ รัฐอารกันของตะวันตกแน่นอน ฐานทัพเรือที่ชิตตเว และยะไข่ใช่จะเอาอยู่

ถ้าบังกลาเทศจะเอาให้อยู่ ต้องให้ Bangladesh Border Guard จัดการ ใช้กำลังส่วนกลาง อเมริกาจะออกเงินตั้งกองทุนสนับสนุนบังกลาเทศก็ได้นะ ชาวเอเซียอาจระดมทุนช่วยบังกลาเทศ พม่า ซื้อเรือ ซื้ออุปกรณ์ ฉันมิตร
ที่กองทัพไทย ฝ่ายปกครองไปประชุมชาวบ้านตามเส้นทาง ถูกต้องมากครับ
แม่ทัพบกพม่าลงมาเล่นเอง ผมว่าสำเร็จ

ที่มาเลเซีย เจอหลุมศพ 30 หลุม คนหลายร้อย ผมว่ามาเลเซียคงเปิด operation แบบไทย จับกุม ยึดทรัพย์เร็วๆ แต่ประเทศนี้มีปัญหาคืออำนาจอยู่ที่มลรัฐ ต้องใช้ทหาร ตำรวจส่วนกลาง หน่วยที่ตั้งขึ้น 1,000 คนนั่นแหละ ส่งเข้าไป
ปรากฏว่านายทุนใหญ่อยู่ที่มาเลเซีย ตอนนี้เสียงตามสายเข้ามาเลย์หมด
............
อเมริกามาขอใช้ภูเก็ตเป็นฐานทัพเรือ อ้างจะใช้เป็นฐานค้นหาโรฮิงยา
กองทัพไทยปฏิเสธเรียบร้อย บอกให้ถอนทหาร ถอนเรือ ถอนเครื่องบินที่มาซ้อมปราบเรือดำน้ำออกไปภายในวันศุกร์
เรื่องโรฮิงยานี่ อเมริกาต้องการหลายเรื่อง
หนึ่ง เอาภูเก็ตเป็นฐานทัพเรือ เพื่อ
- ยึดกุมจุดยุทธศาสตร์ปิดล้อมการขนส่งจากอ่าวเบงกอล ที่จะไปช่องแคบสุมาตรา ยึดตรงนี้ได้ คุมการขนส่งของพม่า บังกลาเทศ อินเดีย จากกอลกัตตา ไทย มาเลย์ สิงคโปร์ ได้หมด
- ตั้งฐานทัพกดดันฐานทัพเรือพม่าที่ชิตตเว เมืองหลวงของรัฐยะไข่ ยึดฐานทัพเรือภาคใต้ของไทยที่ภูเก็ต ที่นี่ เป็นกองทัพเรือภาค 3 ของไทย
- ประจันหน้ากับฐานทัพเรือของจีนที่เกาะโกโก้ ในพม่า และควบคุมทางออกทะเลของจีน จากยูนนานลงมาที่ยะไข่ เข้าตรึงท่อแก๊สพันกว่ากิโลเมตรของจีนจากพม่า

สอง เอาอู่ตะเภาเป็นฐานทัพ ต้องดูว่า เสร็จเรื่องเนปาลจะกลับหรือเปล่า
สาม ตั้งสำนักงานรับผู้อพยพ UNHCR ในไทย ยิ่งคนมามาก จะได้มีเสียงมากทุกปี มาวุ่นวายได้ทุกปี ผลระยะยาวไม่ต้องพูด
เรื่องพวกนี้เขาสอนกันในวิทยาลัยเสนาธิการทหารเรือ 555
คนเอเซียนี่ จะเป็นเพื่อนกัน อย่าเหลี่ยมมาก และ.......
อาเซียนเป็นเขตสันติภาพ เป็นกลาง ปลอดนิวเคลียร์นะครับ
อเมริกาควรไปเน้นผู้อพยพซีเรียสี่ล้านคน พวกลี้ภัยการเมืองยี่สิบล้านคน แถวนี้เอเซียจัดการกันเองได้
รัฐมนตรีของออสเตรเลีย ไปดูคอกซ์ บาซาร์มาแล้ว บอกว่ารับไม่ได้เด็ดขาด ฉลาด
มีข่าวว่า ตุรกีจะมาตรวจหาผู้อพยพย่านนี้ ขำมาก ทำยังกะเรือรบนี่ประเทศต่างๆ เขาให้เข้าออกตามชอบใจงั้นแหละ
.....................
แล้วจะเขียนข้อสรุปเป็นข้อๆ ให้อ่านนะครับ
ตอนนี้ ที่มาเลย์ทะเลาะกันใหญ่ว่า จะเอาไปจังหวัดไหน ไม่มีจังหวัดที่ยอมรับไป 
จนรัฐปีนังบอกว่า ให้เอาไปไว้ในค่ายทหาร เพราะทหารรับมาเอง รัฐนี้เป็นรัฐคนจีน เขาบอกว่า ห้าหกปีนี้รับมาห้าหมื่นแล้ว
เรื่องโรฮิงยาในพม่าจะจบอย่างไร ไว้จะเล่าให้ฟัง สุดแค้น แสนรัก และนางแย้ม ทำให้กรุงเทพฯ เงียบไปเลยนะครับ
การประชุม Boat People Crisis คงจะได้ข้อสรุปที่ดีก่อนกันยายนนี้ อเมริกาเข้าใจเรื่องราวดีแล้ว ก็ควรเลิก tier กีดกันการค้าเสีย.
ครับ....เพื่อขยายบางประเด็น ขออนุญาตคุณ "ใจบางบาง ใยไหม หญิงในเชิงบวก" นำที่ท่านเขียนเฟซในหัวข้อ "8 ข้อที่คนไทยต้องรู้! โรฮิงญา ไม่ได้หนีตายจากยะไข่และไม่ได้โดนหลอกลงเรือ" มาผนวกไว้ด้วย ดังนี้
"ข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงไทยระบุว่าได้ตรวจสอบปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง ชาวโรฮิงญาแล้ว พบว่ามีข้อเท็จจริงหลายประการที่สังคมไทยยังเข้าใจคลาดเคลื่อน…
1.ชาวโรฮิงญาที่ลักลอบเข้าเมืองไม่ใช่เชื้อชาติโรฮิงญาทั้งหมด แต่มีชาวบังกลาเทศครึ่งต่อครึ่ง
2.ชาวโรฮิงญาที่หลบหนีเข้าเมืองไม่ได้มาจากรัฐยะไข่ของเมียนมาร์ทั้งหมด แต่ที่มาจากรัฐยะไข่เป็นเพียงส่วนน้อย เพราะส่วนใหญ่ตรวจสอบแล้วมาจากคอกซ์บาซาร์ ชายแดนบังกลาเทศกับเมียนมาร์ (รัฐยะไข่) แม้แต่ชาวโรฮิงญาจากยะไข่ ก็ไปเริ่มต้นลงเรือที่คอกซ์บาซาร์ เพราะมีขบวนการนำพารับจ้างพาลงเรือออกมา
3.ชาวโรฮิงญาที่ลักลอบเข้าไทย ไม่ใช่เหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ แต่สมัครใจเดินทางมาเพื่อต้องการเข้าไปทำงานที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย หรือประเทศที่สามเพื่อหางานทำ
4. เมื่อชาวโรฮิงญาหรือบังกลาเทศเดินทางมาด้วยความสมัครใจด้วยการลงขันออกเงินค่าเดินทางกันมาเอง จึงไม่ใช่ค้ามนุษย์ แต่เป็นการลักลอบเข้าเมือง เครือข่ายที่ช่วยเหลือก็เป็นพวกขบวนการนำพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ไม่ใช่ขบวนการค้ามนุษย์
5.การจัดตั้งค่ายผู้อพยพในไทยจึงไม่จำเป็น และไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหา
6.มีค่ายใหญ่มากที่สามารถรองรับชาวโรฮิงญาได้อยู่แล้ว โดยมี 2 ค่ายอยู่ที่คอกซ์บาซาร์ จุคนได้ร่วม 300,000 คน แต่ตอนนี้ในค่ายมีชาวโรฮิงญาอยู่แค่ราวๆ 20,000 คนเท่านั้น
ฉะนั้น ไทยสามารถส่งคนเหล่านี้กลับไปพำนักในค่ายดังกล่าวได้
7.สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ปล่อยปละละเลยให้ชาวโรฮิงญาที่อยู่ในค่ายที่คอกซ์บาซาร์หลบหนีออกมา จึงต้องมีส่วนรับผิดชอบกับปัญหาด้วย เพราะค่ายดังกล่าวอยู่ในความดูแลของยูเอ็นเอชซีอาร์
8.หลักการจัดการกับปัญหานี้ที่ถูกต้อง คือการส่งกลับไปที่ต้นทาง ซึ่งก็คือค่ายที่คอกซ์บาซาร์
โดยประเด็นนี้จะถูกหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุมวันที่ 29 พ.ค.58 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับนานาชาติ
ก็เป็นอันสรุปว่า เรื่องนี้ สหรัฐฯ และองค์กรสมุน UN, UNHCR "สร้างฉาก" ปั่นหัวให้อาเซียน "อินโดฯ-มาเลย์-พม่า-ไทย" ทะเลาะกัน เนื้อแท้แล้ว...
มันนั่นแหละ...ตัวการ!

กองทัพไทย ไล่ตะเพิดฝูงบินลาดตระเวนสอดแนมอเมริกาออกไปจากแผ่นดิน

Cr:ทหารปฏิรูปประเทศไทย

วันที่ 26 พ.ค.58 กองทัพไทย ไล่ตะเพิดฝูงบินลาดตระเวนสอดแนมอเมริกาออกไปจากแผ่นดิน
เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา กองทัพเรือไทย และกองทัพเรือสหรัฐ ได้จัดการฝึกปราบเรือดำน้ำขึ้น เพื่อเพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ในการปฏิบัติการของเรือดำน้ำ และการปราบเรือดำน้ำของทั้งสองประเทศ

การฝึกผสมชื่อคือ Guardian Sea 2015 เวลา 5 วัน บริเวณทะเลอันดามัน โดยมีกองเรือบรรทุก

เฮลิคอปเตอร์ เป็นหน่วยรับผิดชอบการฝึก กำลังของฝ่ายไทยประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง, เรือหลวงสุโขทัย, เรือหลวงทยานชล และ เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ S-70B
กำลังฝ่ายสหรัฐฯ ประกอบด้วยเรือดำน้ำ USS Key West เรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำ USS Emory S. Land และเครื่องบิน P-3C Orion จำนวน 1 เครื่อง เครื่องบินชนิดนี้เป็นอากาศยานปราบเรือดำน้้ำ โดยมีกำลังพลของกองทัพเรือไทย ลงไปร่วมฝึกในเรือดำน้ำสหรัฐด้วย
ครบ 5 วันแล้ว สหรัฐฯ มีอาการอิดออด ต้องการจะคงเครื่องบินของตนไว้ ขอใช้พื้นที่กองทัพไทยที่เกาะภูเก็ต โดยใช้เครื่องบินสอดแนม อ้างบ้าๆ บอๆ ว่าต้องการใช้เกาะภูเก็ต เป็นฐานปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮินจา..น้าน !!
ช่วงที่ผ่านมา อเมริกา และ UN จึงแถลงอ้าง โน่น นี่ นั่น กดดันไทยเรื่องโรฮินจา หวังจะให้ยอมให้ใช้พื้นที่จอดเครื่องบินสอดแนม แต่ไทยรู้ทันแผนการร้าย คือ อเมริกาจะส่งเครื่องบินสอดแนมของตนเอง แส่เข้าไปในทะเลจีนไต้
พร้อมกับเรือรบของตนที่ไปป่วนจีนอยู่แถวนั้นก่อนแล้ว และจะอวดอิทธิพลของตนในย่านนี้ หวังจะยุแยงให้ตั่วเฮียจีนให้ไม่พอใจไทย จากนั้นวางแผนยาว จะมาตั้งฐานทัพแบบในญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ แล้วจะยึดเกาะภูเก็ต เป็นฐานทัพของตนเอง
มีควันกรุ่นๆ ออกหูจากกองทัพไทย เพราะอเมริกาไม่ใช่พ่อ จึงไม่อนุญาตตามที่อเมริการ้องขอ และไล่ตะเพิดสั่งให้เครื่องบินลาดตระเวนสอดแนมของสหรัฐฯ ออกไปให้พ้นจากภูเก็ตทันที เพราะเรือบรรทุกเครื่องบินของเขาเองก็มี ทางจีนมีข้อพิพาทอยู่กับประเทศต่างๆ ในอาเซียน
เมื่อสหรัฐส่งเครื่องบิน พร้อมนักข่าวเข้ามาสอดแนมในพื้นที่ จีนเอง ก็ประกาศไล่ตะเพิดกองเรือสหรัฐ ไปพ้นทะเลจีนใต้ เผลอไม่ได้ เป็นตอด..อเมริกามันเป็นสิ่งมีชีวิตพันธุ์ไหนนี่ ดื้อด้าน และชอบยุคนโน้น แหย่คนนี้ ให้ผิดใจกันไปหมด
@ เสธ น้ำเงิน4
http://www.facebook.com/thailandcoup