PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ทบ.ให้สื่อทำข่าวครั้งแรก ทบ.สหรัฐอเมริกา-ไทย

ทบ.ให้สื่อทำข่าวครั้งแรก ทบ.สหรัฐอเมริกา-ไทย ประชุมประเมินผลการฝึกและกิจกรรม ร่วมกันของปี2015และทำแผนปี2016ร่วมกัน หวังยืนยันสัมพันธ์
ที่บก. ทบ.พลโทเสริมศักดิ์ นิยะโมสถ รองเสนาธิการทหารบก เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับกลาง ระหว่างกองทัพบกไทย และกองทัพบกสหรัฐฯ ครั้งที่ 4 ที่มีผู้แทนจากฝ่ายไทย 51นาย และฝ่ายสหรัฐมีผู้แทน 25 นาย
นำโดย Maj.Gen.Todd B Mc Caffrey
รองผู้บัญชาการกองทัพบกสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก เป็นหัวหน้าคณะ
ประชุมร่วมครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือด้านการทหารของทั้ง 2 ประเทศ และทบทวนกิจกรรมที่ดำเนินการร่วมกันในปี 2558 รวมถึงหารือการจัดทำแผนการปฏิบัติร่วมกันในปี 2559 ตั้งแต่วันที่ 21-24 กรกฎาคมนี้
สำหรับแผนปฏิบัติการร่วมกันในปี 2558 มีจำนวน 26 กิจกรรม ประกอบด้วย การฝึกผสมรหัส "หนุมานการ์เดียน 2015 "ที่จ.สระบุรี การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งกำลังบำรุง การจัดเจ้าหน้าที่สหรัฐฯให้คำแนะนำด้านการส้งบำรุงอากาศยาน การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม
ทั้งนี้ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น ผู้แทนทั้ง 2 ฝ่าย ได้ถ่ายรูปร่วมกันที่บริเวณลานอนุเสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ภายในกองบัญชาการกองทัพบกด้วย
โดยนี่เป็นครั้งแรก ที่ทบ. เชิญสื่อมาทำข่าว ประชุมนี้ เพื่อจะชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ทางทหาร ไทย-สหรัฐอเมริกา ที่ยังคงมีตามปกติ มีความร่วมมือกัน แม้เป็นช่วงรัฐบาลรัฐประหาร
“ทบ.ไทย-สหรัฐฯ” ถกแผนความร่วมมือทางทหารปีหน้า พร้อมเดินหน้า Cobra Gold 2016 “รองเสธ.ทบ.”เผยแผนปีนี้เดินหน้า 18 กิจกรรม ชี้“สหรัฐฯ” ไม่ได้ลดความช่วยเหลือด้านการทหาร โปรยยาหอมปีหน้าหลังเลือกตั้งทุกอย่างเหมือนเดิม พร้อมระบุ สหรัฐฯ พร้อมขายอาวุธให้ไทย แต่กองทัพติดปัญหางบฯ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.)
กองทัพบกเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพช่วงเปิดการประชุมผู้บริหารระดับกลาง ( Executive Steering Group : ESG) ระหว่างกองทัพบกไทย และกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 มีฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ
โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นตามการอนุมัติหลักการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2554 ที่มีความมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือด้านการทหาร และการประชุมครั้งนี้จะมีการทบทวนกิจกรรมที่ดำเนินการ่วมกันในปี 2558 และจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมในปี 2559 กำหนดการประชุมระหว่างวันที่ 21-24 ก.ค.นี้
สำหรับผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ฝ่ายไทยมีจำนวน 51 นาย ประกอบด้วย กรมฝ่ายเสนาธิการ และหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก โดยมี พล.ท.เสริมศักดิ์ นิยะโมสถ รองเสนาธิการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนกองทัพบก และฝ่ายสหรัฐฯ จำนวน 25 นาย ประกอบด้วยผู้แทนกองทัพบกสหรัฐฯ กองทัพบกสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิค และ JUSMAGTHAI โดยมี Lt.Gen.Todd B.Mccaffrey เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุม 76นาย
อย่างไรก็ตามกองทัพบกจะได้นำคณะผู้แทนกองทัพบกสหรัฐฯ ไปทัศนศึกษาที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ เยี่ยมชมโรงเรียนเสนาธิการทหารบก กรมการทหารช่าง และ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าด้วย
พล.ท.เสริมศักดิ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า สำหรับกิจกรรมตามแผนการปฏิบัติร่วมระหว่างกองทัพบกไทย กับกองทัพบกสหรัฐฯ ประจำปี 2558 มีทั้งหมด 26 กิจกรรม ดำเนินการแล้ว 18 กิจกรรม และอยู่ระหว่างดำเนินการ 8 กิจกรรม เช่น กรมฝึกรหัสหนุมานการ์เดี้ยน 2015 จำนวน 11 กิจกรรมที่จัดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสระบุรีเมื่อวันที่ 15-26 มิ.ย.58 การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งกำลังบำรุง
โดยฝ่ายไทยจัดเสนาธิการศึกษารายงานด้านการส่งกำลังบำรุงไปที่มลรัฐเท็กซัส เวอร์จิเนีย และวอชิงตันดีซี ในเดือน มิ.ย.58 การจัดเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้คำแนะนำด้านการส่งกำลังบำรุงอากาศยาน ที่ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี ในห้วงเดือน มี.ค.-ก.ย.58 การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองกำหนดดำเนินการในเดือน ส.ค.58 ที่มลรัฐฮาวาย การแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวัฒนธรรม
โดยฝ่ายสหรัฐฯ จัดนักเรียนนายร้อยสำรอง (ROTC) มาศึกษาวัฒนธรรมและสอนภาษาให้กับนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯจำนวน 8คณะในเดือน พ.ค.-ส.ค.58
รวมถึงการฝึกร่วมผสมภายใต้รหัส Balance Torch ซึ่งมีการฝึกเตรียมการไปแล้ว และจะมีการฝึกจริงในช่วงปลายเดือนนี้ นอกจากนั้นยังมีความร่วมมือด้านอื่น เช่นด้านการแพทย์ ในส่วนของไทยได้เสนอจัดตั้งศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน ที่กรมแพทย์ทหารบกเพื่อจัดทีมแพทย์ไปช่วยเหลือประเทศในอาเซียนในกรณีที่ประสบปัญหาภัยพิบัติ
อย่างไรก็ตามกิจกรรมต่างๆ ตามแผนงบประมาณปี 58 จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามที่ได้จัดทำแผนไว้
พล.ท.เสริมศักดิ์ กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพไทย และ สหรัฐฯ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ว่าทางสหรัฐฯ ได้แจ้งว่าในปัจจุบันกองทัพสหรัฐฯ ไม่ได้ลดความช่วยเหลือทางด้านการทหาร และเข้าใจปัญหาบ้านเราโดยเฉพาะสถานการณ์ด้านการเมือง เมื่อไทยมีการเลือกตั้งโดยสมบูรณ์ตามโรดแม้พที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วางไว้ คิดว่าในปีหน้าความร่วมมือคงเหมือนเดิม เพราะความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพไทย และสหรัฐฯ มีมาอย่างยาวนาน แม้หลังวันที่ 22 พ.ค.57 จะมีการพูดถึงการลดขนาดฝึกCobra Gold 2015 ลง แต่ก็ลดกำลังพลของกองทัพบกลงไปบ้างซึ่ง การฝึกเป็นไปตามแผนเดิม สำหรับแผนการฝึกในปีงบประมาณ 2559 ส่วนการฝึกCobra Gold ยังเป็นไปตามแผนเดิม
การประชุมในวันนี้จะการหารือในรายละเอียดว่าในปี 2559 จะฝึกอย่างไรบ้าง โดยบางส่วนเพิ่มขึ้น แต่บางส่วนที่ไม่มีความจำเป็นก็ตัดออกและเพิ่มในเรื่องใหม่ๆ เข้าไป โดยคอบร้าโกลด์ 2016 จะเน้นการฝึกในสถานการณ์ที่ไม่ใช่สงครามเป็นหลัก
รองเสนาธิการทหารบก กล่าวว่า การช่วยเหลือของสหรัฐฯ ด้านยุทโธปกรณ์นั้น ในที่ประชุมไม่ได้พูดถึง แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ทางสหรัฐฯ มีกับไทย และไม่ได้ยกเลิก สำหรับที่มีข่าวว่าสหรัฐฯ ตัดงบฯ ด้านการทหารหลัง วันที่ 22 พ.ค. นั้น มองว่าความจริงงบฯช่วยเหลือถ้าคิดแล้วก็ไม่ได้มากมาย ซึ่งเราก็ช่วยเหลือตัวเองพอสมควร จะมีบางสิ่งที่มีความจำเป็นที่ต้องจัดหา เช่น ยุทโธปกรณ์บางส่วน เราขอความร่วมมือไป แต่ไม่ใช่ได้มาฟรี แต่ซื้อในราคามิตรภาพหรือ แบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็ไม่ได้บอกว่าจะตัดความช่วยเหลือในด้านนี้ลง ในอดีตเราใช้ยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ มาก แต่เพราะราคาค่อนข้างสูง ขณะที่งบประมาณของเราก็ค่อนข้างจำกัด ก็ต้องจัดหาจากประเทศอื่นเพื่อทดแทนเพราะยุทโธปกรณ์ที่เสื่อมไปตามสภาพ
โดยการซื้อขายของไทย กับสหรัฐฯ ยังคงเป็นระบบFMS ที่สหรัฐฯ ต้องขออนุมัติจากรัฐบาลก่อน และสหรัฐฯ ก็ต้องดูว่าประเทศใดมีความสัมพันธ์กับเขาและเป็นประชาธิปไตย จึงจะขายให้
" ยืนยันว่าช่วงที่ไทยยังไม่เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยจะไม่ส่งผลกระทบต่อความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ มีต่อกองทัพไทย"
ทั้งนี้ การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของสหรัฐ ฯ เช่นการจัดหาเฮลิคอปเตอร์นั้น ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องงบประมาณของเราเอง เพราะเราต้องซื้อเงินผ่อน และอยากได้ของก่อน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเขาจะยอมรับเงื่อนไขเราได้หรือไม่


สาวม.6 ส่งกระดาษคำตอบด่า'บิ๊กตู่' อ้างทหารยัดเยียด'ปชต.จอมปลอม'

สาวม.6 ส่งกระดาษคำตอบด่า'บิ๊กตู่' อ้างทหารยัดเยียด'ปชต.จอมปลอม'
Cr:แนวหน้า
21 ก.ค.58 ณัฐนันท์ วรินทรเวช นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และเลขาธิการกลุ่ม "การศึกษาเพื่อความเป็นไท" ซึ่งเคยถูกเชิญออกจากรายการโทรทัศน์ หลังสอบถามนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ว่าการเข้าสู่อำนาจโดยมิชอบ ถือเป็นการคอร์รัปชั่นหรือไม่? ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Nattanan Warintarawet’ โดยอ้างว่า ตัวเองปฎิเสธทำข้อสอบ "วิชาหน้าที่พลเมือง" แต่ได้เขียนข้อความถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. โดยมีใจความต่อต้านการปกครองในรัฐบาลเผด็จการ โดยอ้างเหตุผลว่า วิชาหน้าที่พลเมือง เป็นวิชาที่ถูกยัดเยียดโดยรัฐบาลทหาร ที่ยัดเยียดแนวคิดแบบเดียว และปฏิเสธการโต้แย้งแสดงความเห็นต่างตามวิถีประชาธิปไตย พร้อมยืนยันว่า จะไม่ยอมรับการผูกขาดทางศีลธรรมโดยเผด็จการ โดยยืนยันเจตนารมณ์ ที่จะแสดงอารยะขัดขืน
ณัฐนันท์ โพสต์ข้อความดังนี้
จากหน้ากระดาษว่างเปล่า ถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
วันนี้ ฉันตัดสินใจส่งกระดาษคำตอบวิชาหน้าที่พลเมือง โดยที่ไม่ได้จรดปากกาลงเขียนอย่างอื่นนอกจากชื่อ-นามสกุล และเลขที่ของฉัน
ใช่ ฉันส่งกระดาษคำตอบอันว่างเปล่าให้อาจารย์
วิชาหน้าที่พลเมือง เป็นวิชาที่รัฐบาลเผด็จการของท่านบังคับให้พวกเราเรียน
เป็นวิชาที่เต็มไปด้วยการยัดเยียดแนวคิดแบบเดียว และปฏิเสธการโต้แย้งแสดงความเห็นต่างตามวิถีประชาธิปไตย
ในข้อสอบข้อหนึ่ง..กลุ่มนักศึกษาถูกโจมตีให้กลายเป็นกลุ่มเยาวชนที่ต่อต้านและมุ่งทำลายความเป็นไทย
ความมุ่งมั่นของประชาชนที่ร่วมลงชื่อเรียกร้องการปล่อยตัวถูกลดทอนให้กลายเป็นช้อยส์ที่ผิดข้อหนึ่งและเป็นเพียงการกระทำที่ไม่ส่งเสริมความเป็นไทยเท่านั้น
ฉันไม่สามารถบังคับตัวเองให้เขียนในสิ่งที่ฉันไม่เชื่อได้
ฉันไม่สามารถบังคับตัวเองให้กากบาทลงช่องสี่เหลี่ยม เพื่อตอบชุดคำถามที่ชี้นำ และโจมตีเพื่อนของฉันที่ถูกจับเข้าคุกนานนับสิบวันได้
เนื้อหาในวิชาหน้าที่พลเมือง ล้วนออกแบบมาเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการผูกขาดความดีงามของพวกท่านผ่านการยัดเยียดค่านิยม12ประการ
พวกท่านเป็นคณะรัฐบาลเผด็จการที่ไม่มีแม้ความชอบธรรมในการปกครอง แต่กลับพยายามตั้งตนเป็นนักบุญผู้มีสิทธิ์ขาดในการชี้ถูกผิดให้กับประชาชนทั้งประเทศ
บังคับให้เหล่านักเรียนผู้ไม่มีทางเลือกท่องค่านิยมเหล่านั้นแบบนกแก้วนกขุนทอง
ท่านบัญญัติค่านิยม12ประการขึ้นมาเพื่อกะเกณฑ์ศีลธรรมของสังคม
แต่ท่านดีพอแล้วหรือ ที่จะมาสั่งสอนประชาชน บังคับให้พวกเราเห็นดีเห็นงามไปกับท่าน?
หนึ่งปีที่ผ่านมา เพียงพอแล้วหรือยังที่จะพิสูจน์ความบกพร่องในหน้าที่ของท่าน?
ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า เศรษฐกิจได้รับความเสียหาย แต่ท่านก็ยังไม่ตระหนักถึงความบกพร่องของตนเอง กลับเทศนาสั่งสอนคนอื่น ทั้งที่ตนเองก็ไม่ได้วิเศษวิโสไปกว่าประชาชนธรรมดาทั่วไปเลย
ฉันปฏิเสธการสอบวิชาหน้าที่พลเมือง ไม่ใช่เพื่อที่จะคัดค้านหลักการบางประการของค่านิยมชุดนั้น เพราะหลายข้อก็เป็นคุณค่าที่ได้รับการยอมรับอย่างสากลอยู่แล้ว
แต่ฉันปฏิเสธการปลูกฝังชุดความคิดแบบเดียวผ่านระบบการศึกษา และการพยายามตั้งตนเป็นคนดีมีศีลธรรมสูงส่ง และยัดเยียดคำสอนของตนให้ผู้อื่น แบบที่พลเอกประยุทธ์กำลังกระทำอยู่
กลุ่มคนที่เดือดร้อนที่สุดจากการยัดเยียด ก็คือเด็กนักเรียนซึ่งไม่มีปากเสียงใดๆ ในระบบการศึกษาของประเทศแห่งนี้
พวกเราต้องจำยอมท่องจำคำสอนจากคนที่เราไม่เห็นด้วย เพียงเพื่อแลกเศษคะแนน ที่เปรียบเสมือนคำพิพากษาอนาคตของพวกเรา
ฉันเชื่อว่า ฉันไม่ใช่เพียงคนเดียวที่รู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศเช่นนี้
แต่ฉันอาจเป็นเพียงคนเดียว ที่ปฏิเสธการสอบวิชานี้ด้วยเหตุผลทางมโนธรรม เพื่อส่งสาสน์ไปถึงผู้มีอำนาจของประเทศ
สาสน์ของฉันมีเพียงสั้นๆเท่านั้น:
"ฉันไม่ยอมรับการผูกขาดทางศีลธรรมโดยเผด็จการ"
เนื่องจากการกระทำครั้งนี้เป็นการแสดงเจตจำนงค์ที่ผ่านการไตร่ตรองมาดีแล้ว ฉันยินดีที่จะถูกปรับคะแนนเป็นศูนย์สำหรับการสอบครั้งนี้ และดำเนินการตามระเบียบแผนของนักเรียนทั่วๆ ไปที่สอบตก
ฉันยังมีความเคารพแด่อาจารย์ที่ฉันนับถือตลอดมา การแสดงเจตนารมณ์ครั้งนี้จึงไม่ใช่การต่อต้านท่าน เหตุเพราะฉันไม่มีความเกลียดชังใดๆ ต่ออาจารย์หลายท่านที่มีความเปิดกว้างและยอมรับการแลกเปลี่ยนความเห็นกับฉันเสมอมา
ท้ายที่สุด ฉันขอสารภาพว่า ในตอนแรกฉันมีความคิดที่จะทำข้อสอบตามปกติ และเขียนในสิ่งที่ตนไม่ได้เชื่อ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาและใช้ชีวิตมัธยมปีสุดท้ายอย่างราบรื่น
แต่ฉันไม่อาจทรยศต่อความเชื่อของตนเอง รวมถึงอีกหลายพันคนที่ร่วมลงชื่อคัดค้านค่านิยม12ประการในแคมเปญของกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไทเมื่อปีที่แล้วได้
ฉันจึงกระทำอารยะขัดขืน และได้เขียนบันทึกนี้ไว้เพื่อแสดงความคิดอ่าน และเจตนารมณ์ของฉัน ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
ด้วยรัก
ณัฐนันท์


เสียงวิจารณ์ กรรมการสิทธิ์ฯ


ถ้าการสรรหา “กรรมการสิทธิฯ” ถูกตรวจสอบจากหน่วยงานรับรองมาตรฐานระหว่างประเทศ ก็คงได้รับ “ธงแดง” เหมือนกรมการบินพลเรือน เมื่อต้นปี ICC กลไกของ UN OHCHR โดย Sub-Committee on Accreditation (SCA) เพิ่งประเมินผลการทำงานของกสม. และเสนอให้ “downgrade” กสม.ลงไปหนึ่งขั้น เพราะละเมิดหลักการ Paris Principles (1) ICC วิจารณ์กระบวนการสรรหาว่าไม่หลากหลาย ไม่มีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคม (2) กสม.ทำงานไม่ตอบสนองกับเหตุการณ์ละเมิดสิทธิที่รุนแรง อย่างกรณี “ขอคืนพื้นที่ปี 53” กสม. ใช้เวลารวบรวมข้อมูลสามปี และ (3) ขาดความเป็นอิสระ เจ้าหน้าที่ของกสม. แสดงความเห็น-จุดยืนทางการเมืองขณะปฏิบัติหน้าที่ พูดง่าย ๆ “ลำเอียงและไม่เป็นกลาง”

มีการแก้ไขอย่างไรบ้างในแง่กระบวนการสรรหา? มีการลดจำนวนกรรมการสรรหาเหลือ 5 คนคือ ประธานศาลฎีกา + ศาลรธน.+ สนช. ที่เพิ่มเข้ามา แทนที่จะเป็นตัวแทนจากภาคประชาสังคมเหมือนที่กสม.เสนอทาง ICC กลับเป็นอาจารย์และอดีตผู้พิพากษาทั้งคู่ (คุณเพ็ง เพ็งนิติและคุณเฉลิมชัย วสีนนท์) ซึ่งไม่มีผลงานกับภาคประชาสังคมหรือผลงานด้านสิทธิมนุษยชนใด ๆ
ผลลัพธ์ของกระบวนกา/กรรมการรสรรหาที่พิกลพิการ เราจึงได้กรรมการสิทธิฯ หน้าตาประหลาด ๆ (ด้วยความเคารพ ยกเว้นคุณอังคณา นีละไพจิตร) โดยเฉพาะ “บวร ยสินทร” เจ้าพ่อกระทิงแดงเนี่ย “เป็นกลาง” “ไม่ลำเอียง” หรือ? เอะอะก็จะกำจัดขยะแผ่นดิน ใครเขาจะไปกล้าร้องเรียนกับคุณ? น่าสมเพชเวทนา ความจริงองค์กรนี้จะถูกยุบไป คงไม่มีคนโหยหาอะไร เปลืองเงินเปล่า ๆ
ปล. สิ่งที่กสม.รับปากจะแก้ไขในแง่กระบวนการสรรหาคือการเพิ่มตัวแทนสองคนเข้าไปในกรรมการสรรหา แล้วเป็นไงล่ะ?
“NHRCT had acknowledged concerns about the lack of participation in the selection process and indicated that it is advocating that the General Meeting...(to) select two members from civil society.”


บิ๊กโด่ง ยัน คสช.ไม่อนุญาต นักการเมืองในบัญชีคสช. ไปต่างประเทศ พบ"ทักษิณ" อวยวันเกิด26 กค.

บิ๊กโด่ง ยัน คสช.ไม่อนุญาต นักการเมืองในบัญชีคสช. ไปต่างประเทศ พบ"ทักษิณ" อวยวันเกิด26 กค.หวั่นไปหารือ สร้างความวุ่นวาย ล้มรัฐบาล เตือนอย่าทำ ประชุมลับประเทศนั้นประเทศนี้ ส่วน"ยิ่งลักษณ" ยังไม่ขอไปไหน เพราะติดศาล
พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ผบทบ./เลขาฯคสช./รมช.กห. ยันคสช.ไม่อาจอนุญาตให้นักการเมืองไปตปท.พบ"ทักษิณ"อวยวันเกิด เตือนถ้าขอมาต้องบอกไปไหน ถ้าขอไปพบ "พตท.ทักษิณ ชินวัตร " คงไม่อนุญาต หากว่าไปพบ มีประชุมลับทำเรื่องที่ทำให้เกิดความไม่เรียบร้อย ถ้ารู้เราก็คงให้ไปไม่ได้ เผยตอนนี้ยังไม่เห็นว่า มีใครขอไปตรงๆ มีแต่ขอไปต่างประเทศ มาเยอะ ขอไปตปท.กันทุกวัน ถ้าไปเยี่ยมญาติ ไปเที่ยว ทัศนศึกษา ไปเรื่องธุรกิจ เราก็อนุญาต ก็ยึดตามหลักการ แจ้งมาล่วงหน้าแผนการเดืนทาง ไปที่ไหน ทำอะไร ระยะเวลา
"ผมว่า มันไม่ควรนะที่จะไปวางแผนประขุมกันในประเทศนั่นประเทศนี่ เพื่อหาทางทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ เกิดความไม่สงบ แล้วผมเป็นฝ่ายความมั่นคง ผมจะยอมได้อย่างไร"...เผยมีบางราย ขอมาแต่ คสช.เราดูว่าไม่เหมาะสม อาจเกิดความวุ่นวายขึ้น ก็ขอให้ชะลออกไปออก ส่วนใหญ่ก็เข้าใจ ผมจำเป็นที่จะต้องดูแลให้เกิดความเรัยบร้อย เพื่อให้ทุกอย่างกลับไปเป็นปกติอย่างที่ต้องการกันโดยเร็ว
ส่วน อดีตนายกฯ"ยิ่งลักษณ์" ไม่ได้ขอมา ไปตปท. เพราะมีคดี ก็ต้องขึ้นอยู่กับ ศาล จะอนุญาตหรือไม่ ยัน"ยิ่งลักษณ์"ยังไม่น่าจะไปต่างประเทศไม่ได้ เพราะต้องให้ศาลอนุญาต เนื่องจากมีคดี แต่ก็ไม่มีขอมา หรือขอไปพบ"ทักษิณ"


นายกฯ สงสัย ม็อบถ่านหิน ไม่อดข้าวจริง จะส่งคนไปดู บอกขอให้อดจริง จะเตรียมรพ.ให้

 นายกฯ สงสัย ม็อบถ่านหิน ไม่อดข้าวจริง จะส่งคนไปดู บอกขอให้อดจริง จะเตรียมรพ.ให้
พลเอกประยุทธ์ นายกฯ เผย จะส่งคนไปดู พวกอดข้าวประท้วงต้านโรงไฟฟ้า"ถ่านหิน"ที่กระบีา หน้าทำเนียบฯ นั้นอดจริงมั้ย ถ้าอด ต้องอดให้จริงนะ ผมพร้อมช่วยเรื่องรพ.เปรย อดจริงปะไม่รู้ กลางคืนแอบกินหรือเปล่า สมัยก่อนเคยมีขุดรูข้างล่าง แต่นี่อาจอดจริงก็ได้ แต่ก็รู้กันดี อดข้าวอดน้ำ 3วันตายแล้ว ระบุเดือนหน้า มีกม.การชุมนุม ออกมา....วอนอย่าต่อต้านการกาพลังงานทดแทน...เผยจะ ขอความร่วมมือ สปช สนช. เพราะมีกม.หลายตัว รวมทั้ง รัฐต้องชี้แจงผลกระทบ ด้านต่างไ เข่น มลภาวะ มีมั้ย พาไปดู เช่น แม่เมาะ หรือโรงขยะ อยุธยา ถ้ายังไม่มีมาทดแทน อีกไม่นาน ราคาไฟฟ้าสูงแน่ แต่ตอนนี้ ราคาน้ำมันยังไม่ขึ้น เลยยังอยู่ได้ ยันไม่ง่ายผันน้ำต่างประเทศ มาใช้ใครจะให้ เช่นจาก สาละวิน ต่องเอาที่ ไหลมาในฝั่งเรา แล้วเราต้องเจาะภูเขา 4-5ลูกตอนนี้ต้องใช้ แสนกว่าล้าน จากเมื่อก่อน ใช่แค่ 4หมื่นล้าน


ไมค์ไม่เป็นใจ...

นายกฯรับแก้ไข เสียงติ ระบบตรวจกระเป๋า สนามบินดอนเมือง
นายกฯ เดี่ยวไมโครโฟน หน้าตึกนารีสโมสร...
วอนสื่ออย่าตีข่าว สนามบินดอนเมือง เขามีเหตุผล พอเข้มงวดตรวจกระเป๋า คนก็เข้าคิวยาว ก็มีปัญหา เล่นข่าว จนกลบสิ่งดีๆที่ทำมาหมด เราต้องเอาสี่งดีๆ ออกมา การค้าการลงทุนจะได้ดี เศรษฐกิจดี ประชาชนจะได้มีความสุข ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องติกันทุกเรื่อง แล้วอะไรมันจะดีขึ้นมา ประเทศมันก็ไม่เดินหน้า อันไหน ไม่ดี บอกมา ครั้งเดียว ก็พอแล้ว รัฐบาลรับทราบ จะแก้ไขให้ทุกเรื่องอยู่แล้ว.....แต่พูดๆอยู่ ไม่ทันไร ไมค์ไม่ดัง เปลี่ยนไมค์ 2-3อัน ก็ยังไม่ดัง นายกฯเลยเลิกพูด เดินขึ่นไปประชุม ครม. เลย