PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2557

สมช.พร้อม ใช้พรก.ฉุกเฉิน หาก การชุมนุมยกระดับความรุนแรง

บอร์ดกอ.รมน. มีมติ ใช้ พรบ.ความมั่นคง รับม็อบ ยันสถานการณ์ยังไม่เข้าข่ายใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ เผยกำลังทหาร 20 กองร้อย-ตร.2หมื่น พร้อมสั่ง ตร.-ทหาร ทำแผนใช้กำลัง รองรับสถานการณ์รุนแรง พร้อมให้เจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมหาทางออก จี้ผู้ว่าการประปา-การไฟฟ้า เคลียร์สหภาพฯอย่าตัดน้ำ – ตัดไฟ

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด กอรมน.ได้มีการพูดคุยในเรื่องการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม โดยให้ตำรวจและทหาร ไปพูดคุยวางแผนร่วมกันและปฏิบัติงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด พร้อมมอบหมายให้ พล.อ.อักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก ในฐานะ เลขาธิการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(ลธ.รมน.) และ พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผช.ผบ.ตร. ไปหารือร่วมกัน ทั้งนี้ ที่ประชุมยืนยันตรงกันว่ายังไม่มีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ และยังคงยืนยันที่จะใช้ พรบ.ความมั่นคง ฯ ต่อไป

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะร้องขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ทหารก็ให้ไปตกลงพูดคุยกัน โดยร้องขอผ่านกระทรวงกลาโหม ขณะนี้มีการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ทหาร 20 กองร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ 20,000 นาย

เมื่อถามว่า หากมีการยกระดับกฎหมายพิเศษโดยออกเป็น พรก.ฉุกเฉิน จะมอบให้ใครเป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกฉฺน( ผอ.ศอฉ.) พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้พูดถึงตรงนั้น เพียงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ รองผอ.รมน. ได้ยกตัวอย่างเมื่อปี 2553 พร้อมชี้แจงรายละเอียดที่เคยปฏิบัติกันมาในอดีต บทสรุปคือยังไม่ต้องยกระดับกฎหมาย และให้ใช้ พรบ.ความมั่นคงตามเดิม

ทั้งนี้ที่ประชุม เป็นห่วงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น จึงได้สั่งการให้ทุกส่วนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจ หากมีช่องทางใดที่สามารถเข้าไปพูดคุยกับผู้ชุมนุมได้ก็ต้องช่วยกัน เพราะแนวทางของเจ้าหน้าที่ยังยึดแนวทางสันติวิธีเป็นหลัก รูปแบบการใช้กำลังจะเป็นไปตามขั้นตอนตามหลักสากล แต่จะหลีกเลี่ยงการใช้กำลังให้มากที่สุด และเน้นการปฏิบัติในเชิงสันติวิธี

สำหรับการประเมินสถานการณ์ในช่วงที่ผู้ชุมนุมจะปิดพื้นที่ 20 จุดสำคัญในกรุงเทพ ฯนั้น พล.ท.ภราดร กล่าวว่า สำหรับพื้นที่สำคัญที่จะใช้กำลังทหารและตำรวจดูแลร่วมกัน ให้ทั้งสองส่วนไปประเมินสถานการณ์ร่วมกัน โดยใช้ข้อมูลจากหน่วยข่าวเป็นหลัก

หากสถานการณ์วันที่ 13 ม.ค.นี้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นก็จะไม่ประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ใช่หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าว่า ณ ตอนนี้ ยังมีความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ยังไม่ถึงจุดนั้น เพราะเรามีการระวัง ป้องกัน ระงับ ยับยั้ง โดยการพูดคุย สร้างความเข้าใจกับประชาชน ให้เท่าทันสถานการณ์เพื่อที่จะได้ไม่นำไปสู่ความุรนแรง

ส่วนเหตุการณ์รุนแรงในระดับใดจึงจะประกาศ พรก.ฉุกเฉิน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ความจริงแล้วตัวกฎหมายที่ให้ความรุนแรงไว้ตรงจุดนั้น ตอนนี้ยังไปไม่ถึง ซึ่งกฎหมายได้ระบุไว้ว่าหากเกิดเหตุที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อย หรือเรียกว่าเกิดข้อจำกัด และ ลามไปถึงการก่อการร้าย รวมถึงการประทุษร้ายต่อชีวิต และทรัพย์สิน หากถึงจุดนั้นแล้วถึงจะยกระดับเป็น พรก.ฉุกเฉินฯ แต่ตนเชื่อว่าสถานการณ์จะยังไปไม่ถึงจุดนั้น

ถามว่า มีการเตรียมพร้อมในการเลือกผอ.ศอฉ. หากประกาศพรก.ฉุกเฉินหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า หากผ่านตรงนั้นต้องผ่านคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งผใ เลขาธิการ สมช.เป็น เลขานุการคณะกรมการ

สำหรับการเตรียมรับมือการตัดน้ำ –ตัดไฟในสถานที่ราชการนั้น พล.ท.ภราดร กล่าว่า ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุม และได้มีการประสานไปยังสหภาพรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้า และ การประปา และได้มอบหมายให้ผู้ว่าการฯ ทั้ง 2 องค์กรไปพูดคุยทำความเข่าใจกับกลุ่มสหภาพแล้ว ซึ่งบรรยากาศจะเน้นการพูดคุยสื่อสารกันเป็นหลัก

ส่วนกรณีที่ นปช.จะออกมาชุมนุมในวันที่ 13 มค.นั้น ได้มีการสืบสภาพแล้วว่า จะไม่มีการจัดให้เผชิญหน้า และจะไม่เข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี ซึ่งคิดว่าตรงนี้จะไม่มีการเผชิญหน้ากัน
21

ทหาร 6,000 ตำรวจ 2 หมื่น นายคุมม็อบชัตดาวน์13ธ.ค.นี้

พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน. แถลงผลประชุมว่า การประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอณาจักร (กอ.รมน.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.กอ.รมน. ร่วมกับ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะ รอง ผอ.กอ.รมน. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งขาติ (สมช.) ว่าที่ประชุมใช้เวลาส่วนใหญ่กับการหารือเรื่องการชุมนุมในสถานการณ์ปัจจุบัน

ที่ได้ข้อสรุปว่าในกรอบศอ.รส.จะให้ฝ่ายแผนไปดำเนินการพิจารณาหาวิธีการที่เหมาะสม โดยเน้นการบูรณาการกำลังที่มีอยู่ในกรอบโครงสร้างอัตราของ ศอ.รส. และดำเนินการให้ได้ผล โดยมีจุดมุ่งหมายลดความเดือดร้อนของประชาชนตามที่มีข่าวว่าจะมีการยกระดับการชุมนุม

ทั้งนี้ยังยึดถือแนวทางสันติ และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง อีกทั้งที่ประชุมได้สรุปว่าทุกพื้นที่มีพื้นที่กว้างใน 20 จุด อาจจะต้องมีการจัดลำดับความเร่งด่วนในการดูแลพื้นที่เพื่อให้มีกำลังเพียงพอ โดยคงกรอบอัตราโครงสร้างเดิมของศอ.รส. คือใช้ทหารจำนวน 20 กองร้อย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กำลังพลประมาณ 20,000 นาย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินแน่นอน


กองทัพภาค.1เคลื่อนหน่วยรบ ทั้งกำลังทหาร-ยานเกราะ" จากค่ายทหาร"ปราจีน -ลพบุรี - ชลบุรี -สระบุรี"เข้ากรุง 6 - 9 ม.ค.นี้

กองทัพภาค.1 แจ้งเตือนการเคลื่อนหน่วยรบ ทั้งกำลังทหาร-ยานเกราะ" จากค่ายทหาร"ปราจีน -ลพบุรี - ชลบุรี -สระบุรี" วันที่ 6 - 9 ม.ค.นี้เข้ากรุงพื้นท่ื "ร.11 รอ." ร่วมพิธีปฏิญาณตนธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย วอน อย่าตกใจเพราะเป็นปีแรก มีสวนสนามยานยนต์ 

กองทัพภาคที่ 1 ได้แจ้งกำหนดเคลื่อนย้ายกำลังพล ยานพาหนะพร้อมยุทโธปกรณ์ จากหน่วยทหารที่ตั้งในพื้นที่ จ.ลพบุรี ปราจีนบุรี ชลบุรี และสระบุรี เข้าไปที่ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) เขตบางเขน กทม. เพื่อซักซ้อม และทำพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลและสวนสนามเนื่องในวันกองทัพไทยประจำปี 2557 โดยกำหนดการเคลื่อนย้ายในวันที่ 6 - 9 มกราคม 2557 ได้แก่ วันจันทร์ที่ 6 มกราคมนี้ เคลื่อนย้ายรถยานเกราะล้อยางบรรทุกบนรถกึ่งพ่วงชานต่ำ จากจ.ปราจีนบุรี และจ.ชลบุรี เข้าพื้นที่รวมพล ณ ร.11 รอ.
ขณะที่วันที่ 8 และ 9 มกราคมนี้ เคลื่อนย้ายกำลังพลและยานพาหนะจากจ.สระบุรี ลพบุรี ปราจีนบุรี เข้าพื้นที่รวมพล ร.11 รอ. ดังนั้นกองทัพภาคที่ 1 จึงแจ้งเพื่อทราบและป้องกันการเข้าใจผิดและไม่ตัองตื่นตระหนก


ผู้ชุมนุมประท้วงชาวกัมพูชาปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ไม่ปรากฎในภาพ) ระหว่างที่คนงานโรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูปชุมนุมประท้วงเรียกร้องขอเพิ่มค่าแรงที่บริเวณด้านหน้าของโรงงานในกรุงพนมเปญ วันที่ 3 ม.ค.57

เอเอฟพี - ตำรวจกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่คนงานโรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ชุมนุมประท้วงทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คน เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในวันศุกร์ (3) ขณะที่นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกำลังเผชิญกับความไม่พอใจของสาธารณชนที่พากันออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนในกรุงพนมเปญหนักขึ้น

คนงานซึ่งมีไม้ ก้อนหิน ระเบิดขวด ได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีปืนไรเฟิลเป็นอาวุธ ที่โรงงานในเขตเวงสะเรง ในกรุงพนมเปญ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าก่อนที่จะยิงเข้าใส่ผู้ประท้วง



รองผู้บัญชาการตำรวจ ชวน นาริน เผยว่า มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 30 คน และได้รับบาดเจ็บ 200 คน

ในที่เกิดเหตุคนงานที่ร่างชุ่มโชกไปด้วยเลือดนอนอยู่บนพื้น ในขณะที่คนอื่นๆ ขี่มอเตอร์ไซค์หนีหลังจากเกิดเหตุปะทะกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งถือได้ว่าเป็นเหตุรุนแรงครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกับคนงานโรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งชุมนุมประท้วงเรียกร้องขอขึ้นค่าแรง

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนซึ่งบริหารประเทศมาเกือบ 3 ทศวรรษกำลังเผชิญกับปัญหาท้าทายที่นับวันจะยิ่งหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จากกรณีคนงานโรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูปชุมนุมประท้วงและบรรดาผู้สนับสนุนฝ้ายค้านที่พากันเรียกร้องให้ฮุนเซนก้าวลงจากตำแหน่งและจัดการเลือกตั้งใหม่เนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อกลางปีที่แล้วเต็มไปด้วยกลโกง

นายสม รังสี หัวหน้าฝ่ายค้านกล่าวประณามการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงโดยระบุว่าเป็นความพยายามที่ไม่เพียงแต่จะขัดขวางการประท้วงของแรงงาน แต่ยังรวมไปถึงความเคลื่อนไหวของแรงงานโดยรวมและความเคลื่อนไหวของระบอบประชาธิปไตยซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่การเลือกตั้งเมื่อเดือน ก.ค. ไม่เป็นธรรม

นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุกล่าวว่มีผู้ผละงานประท้วงได้รับบาดเจ็บสาหัสมากถึง 10 คน พร้อมระบุว่าเจ้าหน้าที่ใช้ปืนไรเฟิล และอาวุธอื่นๆ ในการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วง บ้างก็ตีเข้าที่ศีรษะ

ด้านโฆษกสำนักงานตำรวจกัมพูชากล่าวว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้กำลังปราบปรามหลังจากตำรวจ 9 นาย ถูกผู้ประท้วงขว้างปาด้วยก้อนหินและยิงหนังสติ๊กจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับเปิดเผยด้วยว่าได้จับกุมผู้ประท้วง 2 คน ทางการเกรงเรื่องความปลอดภัยจึงต้องเข้าสลายการชุมนุม เพราะหากปล่อยให้กลุ่มคนเหล่านี้ประท้วงต่อไปอาจเกิดเหตุวุ่นวายได้

กรณีพิพาทเรื่องค่าจ้างแรงงานและความปลอดภัยในการทำงาน เป็นประเด็นที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำในอุตสหากรรมตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในกัมพูชาซึ่งเป็นตลาดแรงงานส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปให้แก่ร้านเสื้อผ้ายี่ห้อดัง เช่น Gap Nike และ H&M

อุตสาหกรรมดังกล่าวมีแรงงานทั้งสิ้นราว 650,000 คน ถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ บรรดาแรงงานเรียกร้องขอขึ้นค่าแรงจากเดือนละ 80 ดอลลาร์ เป็น 160 ดอลลาร์

การปะทะกันครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันพฤหัสบดี (2) หน่วยทหารพิเศษเพิ่งปะทะกับบรรดาคนงานโรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูปโดยใช้ทั้งท่อโลหะ มีด ปืนอาก้า 47 หนังสติ๊กและกระบอง ทำร้ายผู้ประท้วงจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถูกบรรดานักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนมองว่าเป็นการใช้ยุทธวิธีปราบปรามแบบใหม่ของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และถือเป็นการส่งสัญญาณของทางการที่จะกวาดล้างกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสันติ

ในช่วงที่ผ่านมาเกิดการชุมนุมประท้วงรายวันเพื่อต่อต้านรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน โดยเมื่อวันอาทิตย์มีผูสนับสนุนฝ่ายค้านราว 20,000 คนหรือมากกว่าออกมาชุมนุมกันตามท้องถนน ทั้งนี้ ฝ่ายค้านได้คว่ำบาตรการประชุมนรัฐสภานับตั้งแต่การเลือกตั้งเดือน ก.ค.เสร็จสิ้นลงเพราะเห็นว่าไม่มีความโปร่งใส พรรคฝ่ายค้านได้วางแผนที่จะชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ต่อเนื่อง 3 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นไป

เมื่อปลายเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว รัฐสภากัมพูชามีมติเห็นชอบให้นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ดำรงตำแหน่งต่ออีก 5 ปี ทำให้พรรคฝ่ายค้านท้วงติงว่าตำรวจชั่วมากๆ !

แฉผู้นำคิมประหารอาเขย ด้วยการจับแก้ผ้าให้สุนัข 120 ตัวรุม

สื่อนอกแฉ คิม จอง อึน ประหารชีวิตอาเขยผู้ทรยศด้วยการจับแก้ผ้า-โยนให้สุนัขหิวโหยกัดแทะ

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ เปิดเผยอ้างรายงานจากแหล่งข่าวจีนว่า จาง ซัง เต็ก อาเขยผู้ทรยศของผู้นำ คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือ ถูกประหารชีวิตอย่างน่าอนาถด้วยการถูกแก้ผ้า ขังในกรงให้สุนัขที่หิวโหยกว่า 120 ตัว รุมกัดจนตาย

รายงานระบุว่า รายละเอียดดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยหนังสือพิมพ์เหวินเว่ยของจีน ระบุว่า ก่อนหน้าที่จาง ซัง เต็ก อาเขยผู้ทรยศวัย 67 ปี ของผู้นำคิม จะถูกประหารชีวิต ผู้นำคิมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่งดให้อาหารสุนัขป่า 120 ตัว ที่เลี้ยงอยู่ในกรง เพื่อให้มันหิวโหยเป็นเวลา 3 วัน กระทั่งในวันที่ 12 ธันวาคมปีที่แล้ว จาง ซัง เต็ก พร้อมด้วยคนสนิทอีก 5 คน ได้ถูกจับแก้ผ้าแล้วลากตัวเข้าไปขังในกรงสุนัขที่กำลังหิวโหย และพวกเขาก็ถูกสุนัขรุมกัดแทะร่างนานนับชั่วโมงจนเสียชีวิต ในขณะที่คิม จอง อึน และเจ้าหน้าที่รวมกว่า 300 ชีวิต ก็นั่งดูภาพเหตุการณ์สุดสยดสยองนี้ ซึ่งนี่เป็นวิธีการลงโทษวิธีหนึ่งของเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ สำหรับ จาง ซัง เต็ก มีศักดิ์เป็นอาเขยของคิม จอง อึน เขาแต่งงานกับ คิม คยอง ฮุย น้องสาวแท้ ๆ ของคิม จอง อิล ที่ผ่านมาเขามักจะถูกอ้างถึงในฐานะผู้กุมอำนาจที่แท้จริงเบื้องหลังการสนับสนุนของคิม จอง อึน เสมอมา และเป็นผู้ทรงอิทธิพลอันดับที่ 2 รองจากผู้นำคิม ขณะที่เขาเองก็ทำตัวเหมือนเป็นผู้นำพรรคด้วย แต่เขาเหมือนจะมีความฝันที่แตกต่างจากคิม จอง อึน และพรรครัฐบาล นั่นคือคิดปฏิวัติและเปิดประเทศ ซึ่งเป็นภัยต่อพรรคเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสร้างฐานอำนาจแข่งคิม จอง อึน ด้วย ในที่สุดเขาจึงถูกนำตัวมาประหารชีวิตอย่างไม่ปรานี ภายใต้คำสั่งของคิม จอง อึน นั่นเอง

http://hilight.kapook.com/view/95684


สำนักวาติกันเผยตัวเลขผู้ติดตามโป๊ปฟรานซิสมีมากถึง 6.6 ล้านคน เพิ่มจากโป๊ปองค์ก่อนถึงสามเท่า

สำนักวาติกันเผยตัวเลขผู้ติดตามโป๊ปฟรานซิสมีมากถึง 6.6 ล้านคน เพิ่มจากโป๊ปองค์ก่อนถึงสามเท่า ทั้งนี้โดยการนับตั๋วที่ขายสำหรับกิจกรรมที่พระองค์เข้าร่วม จำนวนคนที่มาฟังธรรมจากท่านที่โบสถ์ที่วาติกันทุกสัปดาห์ วันก่อนผมดูรายงานข่าวทางโทรทัศน์ซึ่งสัมภาษณ์พ่อค้าขายของที่ระลึกที่วาติกัน เขายืนยันว่าโป๊ปองค์นี้ “ขายดีมาก”

Time ประกาศให้โป๊ปฟรานซิส (Pope Francis) เป็น Person of the Year แซงหน้าเอ็ดเวิร์ด สโนวเดน และบาชาร์ อัล อัสซัด เพราะพระองค์แหวกแนวในหลายด้าน และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดทางออกในสังคม นอกจากมาจากประเทศโลกที่สาม เริ่มจากการเลือกชื่อ “เซ็นต์ ฟรานซิส” เพื่อเป็นสมัญญาของท่าน เป็นการประกาศความเป็น Church of the Poor

ท่านตำหนิบรรดาพระที่นิยมรถหรูหราราคาแพง ท่านบอกเมื่อกลางปีที่แล้วว่า “รู้สึกเจ็บปวดใจเมื่อเห็นพระหรือชีนั่งรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดมา พวกท่านทำแบบนี้ไม่ได้หรอก” (“It hurts me when I see a priest or a nun with the latest model car, you can’t do this.”) ว่ากันว่าเป็นผลให้พระผู้ใหญ่อย่างน้อยหนึ่งรูปในโคลัมเบียประกาศขายรถเบนซ์ประจำตัวไปเลย (http://www.christianpost.com/news/colombian-priest-gives-up-mercedes-after-pope-francis-criticizes-luxurious-cars-99901/)

ท่านประกาศว่าศาสนาจักรต้องอยู่เคียงข้างคนยากไร้ ตั้งคณะกรรมการไต่สวน Vatican Bank กับกรณีฟอกเงินที่อื้อฉาว และภารกิจแรกในฐานะประมุขคริสตจักรคาทอลิกคือ การไปเยือนศูนย์ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากแอฟริกาที่หนีเข้ายุโรปผ่านอิตาลี ไม่เคยมีโป๊ปองค์ไหนลงไปคลุกคลีตีโมงกับคนเข้าเมืองผิดกฎหมายแบบนี้มาก่อน

เขาถึงเรียกท่านเป็น “The People’s Pope” ครับ

http://www.independent.co.uk/news/world/pope-francis-tripled-crowds-at-vatican-during-2013-9035692.html


Andrea Quintero ศพกระเทยไร้บ้านสะท้อนภาพความไร้น้ำใจในกรุงโรม


แอนเดรีย(Andrea Quintero )วัย 28 ปี เป็นกะเทยจากโคลัมเบียที่มาแสวงโชคในอิตาลีเมื่อ 4 ปีก่อน เธอไปไม่ถึงฝั่งฝัน เจ้าของฉายา “Trans of Termini” เพราะเป็นกะเทย (transgender) ที่มักอาศัยอยู่แถว ๆ สถานีรถไฟกลาง (Termini) ของกรุงโรม 
ศพคนไร้บ้านอย่างเธอถูกทิ้งอยู่ข้างทางรถไฟเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ปีที่แล้ว มีร่องรอยถูกทุบตีอย่างทารุณ 

ก่อนหน้าเสียชีวิตหนึ่งสัปดาห์ เธอให้สัมภาษณ์สื่ออิตาลีถึงสภาพชีวิตของคนพลัดถิ่นไร้บ้านและกะเทยอย่างเธอ ซึ่งมักถูกรังแก และถูกทุบตีจนกระทั่งแขนข้างหนึ่งเป็นอัมพาต ขาข้างหนึ่งเป๋ไป

ไม่มีญาติมารับศพแอนเดรียที่ยากไร้ไปประกอบพิธีกรรม แต่ทางคณะเยซูอิต ซึ่งเป็นคณะของโป๊ปฟรานซิสรับศพเธอมาบำเพ็ญกุศล ว่ากันว่าแอนเดรียเป็นคาทอลิกชนที่เคร่งครัด จะเป็นด้วยคำพูดของโป๊ปหรือไม่ก็ตาม ซึ่งพระองค์ตรัสว่าไม่ใช้หน้าที่ของพระองค์ที่จะมาตัดสินพระที่เป็นเกย์ (“Who am I to judge?") ทำให้ทัศนะของคณะสงฆ์อิตาลีเปลี่ยนแปลงไป

ในพิธีปลงศพแอนเดรียซึ่งจัดขึ้นที่โบสถ์หลักของนิกายเยซูอิตเมื่อ 27 ธ.ค.นี้เอง พระสังฆาธิการที่ประกอบพิธีได้กล่าวไว้อาลัยโดยเรียกแอนเดรียว่า “She” ส่วนคุณพ่อ Giovanni La Manna เจ้าคณะนิกายนี้บอกว่า การจัดพิธีให้แอนเดรียไม่ได้มีความหมายเฉพาะกับเธอเท่านั้น แต่ยังเป็น “การส่งสัญญาณว่าชุมชนชาวโรมันคาทอลิกทั้งปวงกังวลใจกับสถานการณ์ที่คนจำนวนมากถูกเลือกปฏิบัติ และคนจำนวนมากที่มีชีวิตอย่างยากลำบากเพียงเพราะความไม่ใส่ใจของประชาชนในเมืองแห่งนี้”

http://edition.cnn.com/2014/01/02/world/europe/italy-transgender-woman-mclaughlin/

http://www.huffingtonpost.com/2013/12/27/funeral-andrea-quintero_n_4509643.html


เราจะอยู่ยามกรุง(เทพ)ปิด ได้อย่างไร?


พระมหากษัตริย์เจ้าทรงสถาปนากรุงเทพฯ เป็นราชธานี มีไว้เพื่อให้ราษฎรชายหญิงแก่เฒ่าเด็กเล็กอยู่อาศัยแลทำกินให้เป็นสุขและเป็นที่เชิดหน้าชูตาแก่สยามประเทศ

บัดนี้ มีโจรถ่อย (หน้าดำเสียด้วย) มาใช้กำลังประทุษร้ายปิดล้อมกวนเมือง พี่น้องครับ ผมคงไม่ต้องแนะนำว่าต้องต่อต้านยับยั้งนะครับ ผมคิดว่าเราต้องพิสูจน์ให้มันเห็นว่า เราสามารถดำรงอยู่ได้ด้วยความอดทนและมีศักดิ์ศรี ผมจึงขอแนะนำ (แบบประชดนะ แต่ทำจริงก็ได้) ดังนี้

1. เขาปิดกั้นถนน เราก็เดินแทน (อย่างองอาจ)

2. เขาปิดสถานที่ราชการและออฟฟิศ เราก็ทำงานที่บ้าน และส่ง SMS E-MAIL LINE IG FaceBook ให้มันรู้กันไปว่าจะมาปิดกั้นเราสื่อสารไม่ได้ (Technology ครับ) ไม่เต่าล้านปีเหมือนพวกคุณ (มึง)

3. เขาปิดสถานีวิทยุหรือ TV เราก็ดูช่องอื่นเสีย (ยกเว้นช่องที่สนับสนุนการเดินขบวน)

4. เขาปิดตลาดและปิดร้านอาหารเราก็ไปซื้อที่อื่นเสียก็หมดเรื่อง

5. เขาปิดโรงเรียนเราก็สอนลูกหลานอยู่ที่บ้าน (พ่อแม่คือครูลูกคนแรกของลูก)

6. เขาขู่จะปิดน้ำตัดไฟ เราก็หาน้ำสำรองพอรับประทาน (แต่อย่าซื้อยี่ห้อที่สนับสนุนม็อบน่ะ) และหาเทียนไขใช้ยามค่ำคืน หากมีสตางค์หน่อยก็หาเครื่องปั่นไฟไว้ใช้เสียเลย แต่ผมว่ามันไม่กล้าหรอกเพราะมันก็จะเดือดร้อนเหมือนกัน

7. เขาขู่จะปิดสนามบิน สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง เราจะไปกลัวทำไม ก็อย่าไปไหนเสียสักพักก็หมดเรื่อง แต่ผมก็ว่ามันไม่กล้าหรอก เพราะข้อหาผู้ก่อการร้ายมันหนักเอาการอยู่

8. เขาขู่ (ฟ่อๆ) ว่าจะปิดล้อมบุกบ้านนายกฯ และรัฐมนตรี ผมว่าอย่าทำเลยติดคุกเปล่าๆ เพราะเป็นอาคารบ้านเรือนส่วนบุคคล (ที่สำคัญก็คือพวกผมไม่อยู่บ้านครับ และอาจจะมีบางบ้านที่ดุๆ จะยิงเอา)

9. เขาวางแผนจะปิดถนนถึง 20 แยก เราก็อย่าไปแยกนั้นๆ แต่ไปแยกอื่นๆแทน มันจะไปมีปัญหาอะไร (การจราจรเดี๋ยวนี้เค้าเป็นโครงข่ายครับ พวกผมไม่เซ่อหรอกครับ)

ที่ผมพยายามเขียนมาตั้งเยอะนี้ ก็เพื่อจะสื่อว่าอย่าไปตกใจกลัว อย่าไปตื่นเต้นให้ราคา มันเป็นแค่คำขู่ของคนพาลสันดานหยาบเท่านั้น มันจะไปได้กี่น้ำ คนผิดมันต้องผิด กฎหมายขื่อแปบ้านเมืองต้องมี มิเช่นนั้นฆ่ากันไปแล้วไม่เหลือจนทุกวันนี้หรอก

ไอ้วันนี้ ที่ว่าแน่ๆ วันหน้าอย่าหนีน่ะ อย่ามาขอให้ยกโทษ อย่ามาขอความกรุณาเป็นอันขาด โทษของพวกคุณมันหนักหนาสาหัสนักรู้ตัวหรือเปล่า (โว้ย)

ผม(กู) เกิดมากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ไม่เคยเจอแบบนี้ นี่มันเมืองอะไร(ว่ะ) ขอโทษมีอารมณ์จริงๆ


"ฮุนเซน"โพสภาพจราจลม็อบไล่นายกเขมร


"ฮุนเซน"โพสภาพจราจลม็อบไล่นายกเขมร หลังรัฐบาลปราบเจ็บตายเพียบ

3มกราคม 2557 16:45น.เฟสบุ๊คSamdech Hun Sen, Cambodian Prime Minister ของ "นายกฮุนเซน"แห่งกัมพูชาวันนี้ กำลังมีการ โพสภาพชุดให้ร้าย กลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ตนเอง ก่อการจราจล เผาบ้านเผาเมืองและ ขโมยสิ่งของต่างๆ /หลังจากสื่อต่างชาติรายงานรัฐบาลเขมรใช้กำลังปราบผู้ชุมนุมขับไล่นายกฯ มีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บจำนวนมาก












ชาวนาเตรียมก่อม็อบภูธรพร้อมกปปส.ชัทดาวน์เมืองหลวง 13 ม.ค. ทวงเงินจำนำข้าว

นายประกาศิต แจ่มจำรัส นายกอบต.ท้ายน้ำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร กล่าวว่า ขณะนี้ชาวนากว่า 1 หมื่นรายเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากข้าวเปลือกที่ขนไปจำนำตามโครงการของรัฐบาลตั้งแต่เดือน ต.ค. 2556 จนถึงวันนี้ได้รับใบประทวนแล้ว แต่นำไปขึ้นเงินที่ ธ.ก.ส. ไม่ได้ เนื่องจากไม่มีเงินโอนมาจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2556 ได้มีชาวนาเกือบ 5 พันคน รวมตัวกันชุมนุมประท้วงปิดถนนทางหลวงหมายเลข 117 ที่บริเวณ สี่แยกโพทะเล เรียกร้องให้จ่ายเงินภายในสิ้นปี 2556 หรือให้ ธ.ก.ส. อนุมัติให้กู้เงิน 30% จากยอดเงินในใบประทวน โดยไม่คิดดอกเบี้ย แต่ปรากฏว่าจนถึงวันนี้ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ดังนั้นขณะนี้แกนนำชาวนากำลังประชุมได้แนวทางว่าในวันที่ 13 ม.ค. 2557 จะรวมตัวกันครั้งใหญ่ชุมนุมประท้วงปิดเส้นทางการจราจรของภูมิภาค ไปพร้อมๆกับการชุมนุมประท้วงของ กปปส. ที่จะชัทดาวน์กรุงเทพเพื่อกดดันรัฐบาลอีกด้วย

ด้านนายนิคม เกิดขันหมาก ผอ.ธกส.พิจิตร กล่าวว่าขณะนี้ ธ.ก.ส.ช่วยเหลือชาวนาด้วยการออกบัตรเครดิตเกษตรกรให้นำไปใช้ซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพ ส่วนผู้ที่จำนำข้าวแล้วยังไม่ได้เงิน ธ.ก.ส.พิจิตร ก็ให้กู้เงินได้ 20% ของวงเงินในใบประทวนแต่ต้องไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อราย และคิดดอกเบี้ย 7% ต่อปี เพราะเป็นเงินของธนาคารไม่ใช่เงินของรัฐบาล จึงต้องมีค่าบริหารจัดการรวมถึงต้องหารายได้ไปจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินฝากของผู้ฝากเงิน ส่วนข้อเรียกร้องที่ชาวนาขอมาก็ต้องเสนอไปตามขั้นตอน ดังนั้นจึงขอชี้แจงความจริงมาให้ทราบ ส่วนถ้าชาวนาจะมาประท้วงหน้าธ.ก.ส. อย่างที่เคยทำก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ถ้ารัฐบาลไม่โอนเงินมา ธ.ก.ส.พิจิตร ก็ไม่มีเงินโอนให้ชาวนาอยู่ดี


จากใจ นักเรียนมัธยมคนหนึ่ง


กระทู้สนทนา


เรียน ผู้ใหญ่ทุกท่านด้วยความเคารพ
วันนี้ เป็นวันแรกที่ผมพึ่งสมัครเป็นสมาชิกของพันทิพเพื่อที่จะได้มีโอกาศบอกความในใจของผม
ผมได้อาศัยและเรียนหนังสืออยู่ในกทม.และได้รับผลกระทบของการชุมนุมมาโดยตลอด

ความทุกข์ในโรงเรียน

การเดินทางไป_กลับโรงเรียนที่ใช้เวลามากขึ้น ทุกวันก็ลำบากกับรถติดอยู่แล้ว
วันนี้ยังต้องมาลำบากกับการปิดถนนหนทางในกทม.อีก

เวลาเรียนก็น้อยลงเพราะโรงเรียนร่นเวลา ร่นคาบเพื่อให้นักเรียนได้กลับบ้านเร็วขึ้น

อาจาร์ยที่สอน วันๆเอาแต่คุยเรื่องการเมืองกับนักเรียน (นร.รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง)
บางท่านก็สนับสนุนว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ต้องทำเพื่อประเทศชาติ ชับไล่คนโกง
บางท่านก็ออกมาตำหนิติเตียนว่าเป็นเรื่องประโยชน์ของตัวเอง สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน
จนผมเองไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี

เพื่อนของผม วันๆก็เตะบอล เฮฮากันตามประสา แต่มาวันนี้ ไม่อยากจะคุยกันเพราะว่า ไม่รู้ว่าต่างคนต่างคิดยังไง
ถ้าคุยกันไปอาจจะทำให้เสียเพื่อนไปได้ แต่ถ้าทำเป็นไม่สนใจก็ยิ่งแย่ลงไปอีก กลายเป็นว่าไม่ใส่ใจในบ้านเมือง

ความทุกข์ในครอบครัว

เมื่อกลับถึงบ้าน คุณพ่อ คุณแม่พูดถึงแต่เรื่องการเมือง การชุมนุม
เวลาไปทานข้าวกับครอบครัวใหญ่ มีคุณปู่ คุณย่า คุณอา  ก็ดันไปถกเถียงกันเรื่องการเมืองบนโต๊ะอาหารอีก
ไม่เว้นแม้กระทั่ง เมื่อหลายวันก่อน เราไปเที่ยวตจว.กัน ยังไม่พ้นคุยแต่เรื่องการเมือง (เบื่อจริงๆเลย)

มาวันนี้  31/12/2556 วันสุดท้ายของปี
ฃึ่งเป็นวันที่ผมน่าจะได้ปร่วมเฉลิมฉลองในส่งท้ายปีด้วยความสนุกสนาน
แต่ผมยังได้รับผลกระทบจากการชุมนุม โดยถูกห้ามออกไปร่วม เพราะเหตุอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้

ผมยังเป็นนักเรียนมัธยมคนหนึ่ง ผมเข้าใจว่าทุกคนคงห่วงใยในประเทศชาติ
ไม่ใช่ว่า ผมไม่รักชาติ เอาแต่สนุกไปวันๆ ไม่ใส่ใจในบ้านเมือง
เมื่อผมโตขึ้น มีวัยวุฒิและวุฒิภาวะมากขึ้น ผมคงตัดสินใจได้ว่าผมจะคิด จะทำยังไงกับสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า

สิ่งที่บางพวก บางคนกำลังกระทำอยู่ แล้วบอกว่ามันจะทำให้ประเทศชาติดีขึ้น
จะไม่มีการโกงกิน จะมีแต่คนดี ระบอบเลวร้ายจะหมดไปจากประทศไทย
ผมไม่รู้หรอกว่า ภายภาคหน้าจะดีชึ้นอย่างที่พวกคุณบอกหรือเปล่า
ผมรู้แต่ว่า วันนี้คุณได้ทำลายความสุขเล็กๆของผมไปแล้ว
อีกไม่กี่วัน พวกคุณยังจะหน้าด้านขโมยความสุขของคนกทม.ไปอีก
โดยประกาศจะยึดกทม.ทั้งๆกทม.เป็นของคนทุกๆคน

แต่มาวันนี้....พวกคุณกำลังขโมยความสุขเล็กๆของผมไป
ผมไม่อยากเห็น ..อาจาร์ยเอาความคิด ความเชื่อของตัวเองมาตัดสินว่าใครผิด ใครถูก
ผมไม่อยากเห็น...เพื่อนๆต้องมาเข้าใจผิดกัน ไม่พูดกันในสิ่งที่เราเองยังไม่เข้าใจ
ผมไม่อยากเห็น...ครอบครัว คุณปู่ คุณย่า คุณพ่อ คุณอาต้องมาถกเถียงกันเอง


ผมต้องการแค่...ผมอยากมีความสุขในวันนี้อย่างที่มันสมควรจะเป็น
พวกคุณ..เป็นใครกัน คุณมีสิทธ์อะไรถึงทำกับผมได้
พวกคุณ..เคยถามลูก หลานคุณเองหรือเปล่า รู้สึกอย่างไรกับการกระทำของคุณ
พวกคุณ..จะยอมเสียสละ ให้โอกาศกับคนรุ่นใหม่ ได้ตัดสินใจเองว่าพวกเราจะเดินไปในเส้นทางใดอย่างที่เราต้องการได้หรือไม่

นักเรียนมัธยมคนหนึ่ง
ปล.ผมไม่สามารถโพสกระทู้นี้ในล็อกอินผมได้ ผมขอยืมล็อกอินบุคคลที่รู้จัก ขอบคุณครับ
สมาชิกหมายเลข 1183101

ตร.ภาค 4 ม็อบจะลาออกทั้งภาคนำทัพขับไล่ม็อบที่ยึดประเทศหาก"สุเทพ”ได้อำนาจการเมือง

ตร.ภาค 4 รวมพลังปกป้องศักดิ์ศรีตำรวจไทย ระบุ“สุเทพ”ได้อำนาจการเมืองเมื่อไร เตรียมลาออกทั้งภาค 4 นำทัพขับไล่ม็อบที่ยึดประเทศ

เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ลานอนุสรณ์สถานแห่งความเสียสละ หน้ากองกำกับกา ภ.จว.ขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น พล.ต.ต.อุดม จำปาจัน อดีต ผบก.ภ.จว.สกลนคร เป็นแกนนำนัดหมายอดีตนายตำรวจเกษียณราชการ และผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 4 ประกอบด้วยข้าราชการตำรวจในจังหวัดต่าง ๆ1.ขอนแก่น 2.อุดรธานี 3.หนองคาย 4.บึงกาฬ 5.ร้อยเอ็ด 6.หนองบัวลำภู 7. มุกดาหาร8.นครพนม 9.สกลนคร 10. เลย 11.กาฬสินธุ์ และ 12. มหาสารคาม โดยการนำของ พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ รอง ผบช.ภ. 4 นำข้าราชการตำรวจประมาณ 1,000 นาย ถือป้าย “ตำรวจภูธรภาค 4 รวมพลังเพื่อปกป้องศักดิ์ตำรวจไทย ตำรวจประชาร่วมกันต้านภัยพิชิตชัยอาชญากรรม เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตำรวจไทย พร้อมให้กำลังใจ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และเพื่อนตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในเขตกรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้จะพร้อมยืนไว้อาลัยให้กับ ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ ผบ.จร.สน.ตลาดพลู กรุงเทพฯ ที่ถูกยิงเสียชีวิตจากการปะทะกับกลุ่มคปท. ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ในวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นการแสดงออกสื่อไปถึงสังคมไทยให้ได้รับทราบว่าตำรวจภูธร ภาค 4 มีความรักความสามัคคี และมีสำนึกในความเป็นตำรวจอย่างสูง และเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีให้รู้ให้ทราบว่าตำรวจไทย จะมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีกันแบบง่ายๆไม่ได้ ขณะเดียวกันจะมีประชาชนและแม่บ้านตำรวจภูธรภาค4 ส่วนหนึ่ง ถือป้าย “ตำรวจสู้..สู้...สู้” “เรารักตำรวจคนไทยขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจไทย สู้..สู้..สู้..สู้..”“เอาโรงพักคืนมา เอาอสังหาคืนไป” พร้อมกับมอบดอกไม้ให้ข้าราชการตำรวจไทย

พล.ต.ต.อุดม จำปาจัน อดีต ผบก.ภ.จว.สกลนคร กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 4 จะรวมพลังสามัคคีปกป้องศักดิ์ศรีตำรวจไทย และเพื่อปกป้ององค์กรตำรวจไทย พร้อมกับยึดมั่นในความจงรักภักดี เชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา โดยความศรัทธาต่อประชาชนและยังมีประชาชนอีกมากที่หวังพึ่งพาอาศัยและคาดหวังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอให้ทุกคนมีกำลังกายและใจให้เข็มแข็งเพราะเราเป็นตำรวจตั้งใจทำงานให้ประเทศชาติและแผ่นดินไทยต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 4ตำรวจ มีภารกิจหลักในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าสิ่งแวดล้อมจะมาจากรัฐบาลไหนก็ตาม และการมารวมตัวกัน เพื่อแสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พร้อมสามัคคีเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของวิชาชีพตำรวจพร้อมดูแลรับใช้ดูแลพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะตื่นหรือหลับหรือจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม และไม่ว่าฝ่ายไหนจะมาเป็นผู้ปกครองตำรวจ จะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างอดทน เสียสละ และมีความเป็นเพื่อนเสมอ

ขณะที่ พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เพื่อนข้าราชการตำรวจ ทนไม่ได้ที่ถูกย่ำยีศักดิ์ศรีมาโดยตลอด ตำรวจไม่มีสีไหน ทุกคนเป็นสีกากี มีวินัยปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา โดยยึดถือความถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เคยคิดจะรังแกประชาชน แต่กลับถูกบังคับให้เลือกข้าง ต่อว่าเป็นตำรวจชั่ว เป็นขี้ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ดังนั้น ตำรวจจึงต้องนัดรวมพลในครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจ พล.ต.อ.อดุลย์ ซึ่งเป็นคนดีไม่เคยทอดทิ้งลูกน้อง และร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันตลอดมา

ด้าน พ.ต.ท.ภาดล จันทร์ดอนสว.กก.2 ทล.ขอนแก่น ซึ่งมาร่วมชุมนุมด้วยกล่าวว่า นักการเมืองใช้พวกเราที่เป็นข้าราชการตำรวจเป็นเครื่องมือโดยตลอด ไม่ว่าจะเหลือง จะแดง กล่าวหาตำรวจ เพียงเพื่อแย่งอำนาจกัน จึงขอระบายออกบ้าง นักการเมืองแย่งอำนาจกันตำรวจเดือดร้อนทุกครั้ง เราเป็นตำรวจรักษาหน้าที่ตำรวจไทย จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา สั่งให้ไประงับเหตุปกป้องสถานที่ราชการ ไม่ให้มีอาวุธติดตัวไป เป็นอย่างนี้รู้ว่าไปตายก็ยังต้องไป ถ้านายสุเทพ เทือกสุบรรณ มาเป็นใหญ่ และมีปรับโครงสร้างข้าราชการตำรวจไทยเมื่อไร พวกเราที่เป็นตำรวจทั่วภาค 4 จะขอลาออก และจะทำหน้าที่เป็นแกนนำนำตำรวจภาค 4 ไปชุมนุมเรียกร้องขับไล่นายสุเทพเอง.

( @ Daily News )
66

นปช.เตรียม "เปิดกรุงเทพ" 13 ม.ค. นี้ เผยอุ่นเครื่อง 5 ม.ค.


(3ม.ค.56)เฟสบุ๊คของ นพ.เหวง โตจิราการ รายงาน ว่า ในวันที่ 2 ม.ค. 2556 นายตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.ได้เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าว นปช. ว่า ทาง นปช.จะจัดการชุมนุมเพื่อคัดค้านกระบวนการทำลายและขัดขวางระบอบประชาธิปไตยด้วยกโลบายต่างๆ เช่นการพยายามเลื่อนและทำลายการเลือกตั้ง การใช้องค์กรอิสระสร้างสุญญากาศ และคัดค้านการ"ปิดกรุงเทพ" ของสุเทพ เทือกสุบรรณและกปปส. ซึ่งมีจุดประสงค์สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ เช่นการตัดน้ำตัดไฟ เป็นต้นในวันที่ 13 มกราคม 2556 เป็นต้นไป

"เมื่อคุณคิดจะปิดประเทศในวันที่ 13 ม.ค. เราก็นัดเปิดประเทศในวันที่ 13 เช่นเดียวกัน"

คุณจตุพรกล่าวว่าขอให้จังหวัดต่างๆที่มีความพร้อม เริ่มอุ่นเครื่องจัดการชุมนุม ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.เป็นต้นไป เช่นเดียวกับที่ม็อบนายสุเทพประกาศเริ่มเรียกแขกตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.

ในเรื่องของความปลอดภัยนั้น คุณจตุพรได้แจ้งว่าจะไม่ซ้ำรอยกับที่ราชมังคลาอย่างแน่นอน

"เรามีความพร้อม อยู่ที่ว่าจะนัดกันเมื่อไหร่ รับรองว่าคราวนี้ไม่ซ้ำกับราชมังคลาฯ เรื่องใหญ่คือถ้าเสียประชาธิปไตย เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เริ่มปีใหม่ เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการแตกหัก ขอให้ติดตาม รอฟังสัญญาณ เราจะต่อสู้ภายใต้หลักสันติวิธี "

อ่านรายละเอียดและชมคลิปได้ที่http://uddred.blogspot.com/2014/01/13.html

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ:สงครามชิงชาติ

ถ้าจะว่าไป "ลัทธิชาตินิยม" NATIONALISM อาจเป็นมากกว่า "ลัทธิ" หรือเป็นมากกว่า "ศาสนา" 

ปรากฎการณ์ที่เราได้เห็นมากว่า 1 ทศวรรษ ส่วนหนึ่งเป็นผลพวง การปลุกระดม "ลัทธิราชาชาตินิยม" และ "อำมาตยาชาตินิยม"

และ ก็ได้ผล ไม่น้อย ล้มรัฐบาลไป 3 คือ ทักษิณ/สมัคร/สมชาย และกำลังพยายามล้ม อีกหนึ่ง คือ นรม หญิง ยิ่งลักษณ์

ปรากฏการณ์ของการปลุุก "ลัทธิชาตินิยม" ครั้งล่าสุดนี้ ใช้สัญญลักษณ์ สำคัญสุดของ "ชาติ" คือ "ธงชาติ" บวกนกหวีด

ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ฟาสซีสต์ อำนาจนิยม ใช้อย่างมากมาย มหาศาล
คำถาม คือ ทำไม ฝ่ายก้าวหน้า ฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายรัฐบาล
จึงไม่ใช้ ไม่สามารถใช้ หรือ ไม่สนใจจะใช้ 

?????????????????????????

โปรดอ่านข้อสังเกต ข้างล่าง ครับ (ยาวหน่อย)

A STRUGGLE FOR THE NATION AND THE NATIONAL FLAG
สงครามชิง "ชาติ" สัญญลักษณ์ชาติ และ ชาตินิยม

ก. 2516
เมื่อขบวนการนักเรียน นิสิต นักศึกษาประชาชน 14 ตุลา 2516
เรียกร้อง รัฐธรรมนูญ/ประชาธิปไตย
สัญญลักษณ์ ที่ใช้ คือ ธงชาติ ธงศาสนา และพระรูปกษัตริย์/ราชินี
สัญญลักษณ์ ราชาชาตินิยม Royal Nationalism ทำให้ชนะ
ระบอบถนอม/ประภาส ปราชัย

(ขอข้าม 6 ตุลา 2519 ไปก่อน)

ข. 2535
เมื่อขบวนการพฤษภา 2535 เรียกร้องประชาธิปไตย
สัญญลักษณ์ ที่ใช้ คือ ธงชาติ และ พระรูปกษัตริย์/ราชินี
ระบอบสุจินดา/เผด็จการทหาร ปราชัย

ค. 2549
เมื่อขบวนการ พธม/คนเสื้อเหลือง 2549 เรียกร้อง "ประชาธิปไตย?"
สัญญลักษณ์ ที่ใช้ คือ สีเหลือง และ คำขวัญ "เราสู้เพื่อในหลวง" และมือตบ
(ใช้ ธงชาติ ด้วย แต่ไม่มากหนาตา)
รัฐบาลทักษิณล่ม/ปราชัย เกิดรัฐประหาร 19 กันยา 2549
(ร่วมทั้งการล่มของ สมัคร และ สมชาย)

ง. 2553
เมื่อขบวนการ นปช/คนเสื้อแดง 2553 เรียกร้อง "ยุบสภา"
สัญญลักษณ์ ที่ใช้ คือ สีแดง และ ตีนตบ
(ใช้ ธงชาติ ด้วย แต่ไม่มาก ไม่หนาตา)
นปช/คนเสื้อแดง ปราชัย ถูกรัฐบาลอภิสิทธิ์/สุเทพ/ขุนทหาร
ปราบ ถูกสังหาร และจับกุมคุมขัง

จ. 2556
เมื่อขบวนการ "ม็อบ" กปปส/ปชป 2556 เรียกร้อง "ประชาธิปไตย?"
ล้่มระบอบทักษิณ ล้มรัฐบาลปู ล้มเลือกตั้ง
สัญญลักษณ์ที่ใช้ หนาตา คือ ธงชาติ และ นกหวีด
(ใช้ธงชาติ ธงไตรรงค์ อย่างมากมาย ไม่เคยมีมาก่อน)
"ม็อบ" กปปส/ปชป จะล้มรัฐบาลปู ล้มเลือกตั้ง ได้หรือไม่

ฉ. 2557
และหากขบวนการ นปช/คนเสื้อแดง 2557
ออกจากที่ซุ่ม เดินหน้า ยืนยัน เลือกตั้ง 2 กุมภา รักษาประชาธิปไตย
นปช/คนเสื้อแดง รวมทั้ง พธม
จะแก้เกมสัญญลักษณ์ ธงชาติ และ นกหวีด ของ กปปส/ปชป
ได้หรือไม่ และ อย่างไร

สรุป
ปวศ สอนให้เรารู้ว่า "ชาติ" และ "ลัทธิชาตินิยม"
มีพลังมหาศาลในโลกปัจจุบัน แม้จะเป็น "โลกาภิวัตน์"
และ สัญญลักษณ์ที่สำคัญสุดของ "ชาติ" และ "ลัทธิชาตินิยม"
คือ "ธงชาติ"
สงครามช่วงชิง "ชาติ" แยกไม่ออกจากการช่วงชิง "ธงชาติ" ครับ

(ยกเว้นทานจะเปลี่ยน "ธงชาติ" เสียใหม่
อย่างรัชกาลที่ 6 เปลี่ยน
อย่างเหมาเจอตุง เปลี่ยน
อย่างกัมพูชา เปลี่ยน
อย่างพม่า เพิ่งเปลี่ยน เมื่อเร็วๆ นี้)

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย

5 ข้อสงสัยต่อ กกต.:ยุกติ มุกดาวิจิตร(สปป.)

5 ข้อสงสัยต่อ กกต.

ยุกติ มุกดาวิจิตร
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย

หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดนี้ไม่พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง สาธารณชนก็ย่อมจะมีข้อสงสัยต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. ดังนี้

1) กกต. เกรงกลัวการข่มขู่ของมวลชนและพรรคการเมืองบางพรรคที่พยายามขัดขวางการเลือกตั้งอย่างนั้นหรือ กกต. ชุดนี้กลัวอำนาจข่มขู่นอกระบบประชาธิปไตย นอกวิถีทางของกฎหมายมากกว่าอำนาจที่ปวงชนชาวไทยให้มาปฏิบัติหน้าที่ผ่านกระบวนการแต่งตั้ง กกต. อย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างนั้นหรือ กกต. ไม่เชื่อมั่นในอำนาจปวงชนชาวไทยที่รับรองให้ตนเองขึ้นมามีอำนาจ แต่กลับไปเชื่อมั่นต่ออำนาจการข่มขู่ของขบวนการที่ละเมิดกฎหมายอย่างนั้นหรือ

2) กกต. ไม่ได้เชื่อมั่นในวิถีทางตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ซึ่งแสดงออกได้ผ่านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างนั้นหรือ จึงไม่พยายามผลักดันให้เกิดการแสดงอำนาจของปวงชนชาวไทยอย่างสันติผ่านการลงคะแนนเสียง กกต. ไม่เชื่อมั่นในการแสดงออกของประชาชนอย่างถูกต้อง มากเท่ากับการใช้กำลังขมขู่คุกคามขัดขวางขบวนการที่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ

3) กกต. กำลังจะตัดสิทธิ์ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งประเทศ กกต. กำลังจะตัดสิทธิ์ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งประเทศ และนี่จะกลายเป็นว่า กกต. เอื้อประโยชน์ให้กับ กปปส. ที่กำลังละเมิดสิทธิ์การเลือกตั้งของประชาชน ด้วยหรือไม่ กกต. มีอำนาจจะตัดสิทธิ์ลิดรอนอำนาจของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งด้วยหรือ

4) กกต. ชุดนี้กำลังให้ความสำคัญเฉพาะแต่กับพรรคการเมืองหนึ่ง ที่ต้องการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากข้อเรียกร้องให้เลื่อนการเลือกตั้ง สอดคล้องกับข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งของพรรคการเมืองดังกล่าว และจะกลายเป็นว่า กกต. เอนเอียงไปทางพรรคการเมืองดังกล่าว ซึ่งไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งและมีส่วนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ กปปส. ใช่่หรือไม่

5) ท้ายที่สุด สาธารณชนก็อาจสงสัยได้ว่า กกต. ไม่ได้พยายามทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง แต่กลับกำลังสร้างทางตันให้ระบบที่เป็นอยู่ เปิดทางให้กับคณะก่อการปล้นอำนาจรัฐ ตามแนวทางของ กปปส. อยู่หรือไม่