PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560

จุดแข็งตรงความตั้งใจ

จุดแข็งตรงความตั้งใจ

แทนที่จะได้ดอกไม้กลายเป็นเสียงโห่ฮา

กับปรากฏการณ์การทดลองรถเมล์สายใหม่ในกรุงเทพฯ แค่ทาสีด้านหน้ารถเก่า เปลี่ยนไปใช้อักษรภาษาอังกฤษพร้อมตัวเลข เป็นสัญลักษณ์บอกสาย เส้นทางการวิ่ง

เห็นภาพแล้วตลกมากกว่า แต่ขำไม่ออก

นั่นไม่เท่ากับสภาพปั่นป่วนวุ่นวาย ทำให้ผู้โดยสารหลงทางขึ้นรถถูกๆผิดๆ ออกอาการหงุดหงิดกับการยกเครื่องบริการใหม่ของ ขสมก. บลัฟอำกันแหลกในโซเชียลมีเดีย

เสียอารมณ์กับการยกเครื่องรถเมล์ไทยที่หวังไว้สูง ถ้าปฏิรูปแล้วได้แค่นี้ อย่าทำดีกว่า

เรื่องร้อนถึงผู้นำ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกหน้ามาเคลียร์ ยืนยันเป็นความหวังดีในการทำสีสันต่างๆหากไม่เห็นด้วยก็บอกมา

ออกอาการเหมือนสะดุ้งกับเสียงโห่ฮา

แต่เรื่องของเรื่อง เบื้องต้นมันก็ไม่ต่างจากโครงการทั่วไป ธรรมดาของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็ต้องมีการติดๆขัดๆ ในการปรับเปลี่ยนความเคยชินกับของเก่ามาหลายสิบปี

สังคมไทยแท้ มีอะไรก็หนีไม่พ้นเสียงด่าไว้ก่อน

ซึ่งนั่นก็แค่กระแสเฉพาะหน้า เพราะถ้าว่ากันในทางยาวๆกับโครงการยกเครื่องบริการรถเมล์ ขสมก.มันถือเป็นการสะท้อนความตั้งใจดีของรัฐบาล คสช.ในการยกระดับบริการสาธารณะของผู้มีรายได้น้อย มุ่งไปที่ผลประโยชน์ของประชาชนระดับฐานรากของสังคมไทย

อีกพักใหญ่ พอชาวบ้านเข้าใจ แนวโน้มจากเสียงด่าจะแปรเป็นเสียงชื่นชม

ในเมื่อผลประโยชน์มันตกกับประชาชนเต็มๆ

สถานการณ์เดียวกับการเดินหน้าเมกะโปรเจกต์รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์เชื่อมระหว่างเมืองสำคัญ ยกระดับการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมทั่วประเทศ

เป้าหมายการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรของคนต่างจังหวัดให้เจริญทัดเทียมไปพร้อมๆกับคนในเมืองใหญ่

สุดท้ายมันก็คือภาพรวมคุณภาพชีวิตที่ดีของคนทั้งประเทศ

นี่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเนื้องานโบแดงของรัฐบาล คสช.

หรืออีกตัวอย่างชัดๆกับการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ให้รวมหน่วยงานบริหารจัดการน้ำของภาครัฐทั้งหมดที่กระจายอยู่ในหน่วยงานต่างๆมาไว้อยู่ด้วยกัน

ก่อกำเนิดเป็นสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ รวมถึงให้บูรณาการการทำงานไปในแนวทางเดียว

ในการรองรับสถานการณ์น้ำท่วม น้ำแล้ง ที่กลายเป็นปัญหาเรื้อรังของประเทศไทย ทำให้ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขณะที่รัฐต้องสูญงบประมาณมหาศาลในการฟื้นฟู

เป็นอุปสรรคสำคัญในการทำให้ประเทศไทยยังไม่หลุดพ้นกับดักความยากจน

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเนื้องานที่สัมผัสจับต้องได้ของรัฐบาลทหาร คสช.กับความพยายามในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

ไม่นับผลงานที่เห็นเป็นรูปธรรมอื่นๆที่เห็นความเปลี่ยนแปลงในยุครัฐบาลอำนาจพิเศษ ทั้งการแก้ปัญหาสลากกินแบ่งเกินราคา การจัดระเบียบหาบเร่ แผงลอย ควบคุมวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วินรถตู้ ไม่ให้มีพฤติกรรมมาเฟียเอาเปรียบผู้ใช้บริการ

เข้มการบังคับใช้กฎหมาย กู้สถานการณ์จากรัฐที่เกือบล่มสลาย กลายเป็นรัฐที่เข้มแข็ง

นี่คือเนื้องานของการปฏิรูปที่สัมผัสจับต้องได้

และมันก็คือปัจจัยที่ทำให้ทหาร คสช.ยังได้รับความไว้ใจจากประชาชนมากกว่านักการเมือง

ถึงแม้จะจับทางได้ เริ่มไม่ตื่นเต้น กับรายชื่อของคณะกรรมการปฏิรูป 11 ด้านตาม พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ.2560 ที่เพิ่งประกาศออกมา ท่ามกลางเสียงเงียบฉี่

เพราะมันก็แค่เหล้าเก่าในขวดใหม่ วนอยู่คนหน้าซ้ำๆเดิมๆ

หนีไม่พ้นอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อดีตทีมงานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ฯลฯ

ขาเก่าเจ้าประจำในทีมแม่น้ำ 5 สายที่กระโดดโหนเรือแป๊ะมาตั้งแต่ต้น

บ่งชี้บทสรุป ปฏิรูปยังไงก็ไม่หลุดกรอบพิมพ์เขียวทหาร.


ทีมข่าวการเมือง

"บิ๊กเจี๊ยบ"ชี้กลุ่มก่อเหตุ รุ่นใหม่ BRN ตัวตายตัวแทน ไม่ใช่เพราะอุดมการณ์ แต่มีการจ้างวาน

"บิ๊กเจี๊ยบ"ชี้กลุ่มก่อเหตุ รุ่นใหม่ BRN ตัวตายตัวแทน ไม่ใช่เพราะอุดมการณ์ แต่มีการจ้างวาน
เผย แกนนำ ชักชวน พวก"หน้าขาว" ไม่มีประวัติ เข้าขบวนการ /รับคาดไม่ถึง ผกร.พลิกแพลง ปล้นเต้นท์รถมือ2 ชี้หมายก่อเหตุ คาร์บอมบ์ หัวเมืองเขตเศรษฐกิจ/ เสียใจ คนเจ็บตาย
พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผบทบ.ชี้ ปล้นเต้นท์รถ เป็นฝีมือ กลุ่ม BRN ภายใต้การนำของ" ดุลเลาะห์ แวมานอ" ที่มีการชักชวน แนวร่วม ที่ไม่เคยมีประวัติ สร้าง คนรุ่นใหม่ มาก่อเหตุ เป็นการสร้างตัวตายตัวแทน เพราะตลอดเวลา10ปีที่ผ่านมา คนเดิมๆถูกจับกุม และหนีไป และส่วนใหญ่ จนท.ก็มีประวัติ แล้ว และติดตามพฤติกรรมอยู่
ส่วนคนก่อเหตุ เป๋นพวก"หน้าชาว" ไม่สีประวัติ นั้น พลเอกเฉลิมชัย กล่าวว่า เพราะใน10ปี ที่ผ่านมา เรามีประวัติ และติดตามพฤติกรรมได้ ดังนั้น. กนนำต้องชักชวน เด็กรุ่นใหม่ ที่ไม่มีประวัติก้อเหตุเข้ามา แต่ไม่ใช่เพราะอุดมการณ์ แต่มีการจ้างวาน
ทั้งนี้การปล้นเต้นท์รถมือสอง เป็นเรื่องใหม่ ที่ ไม่เคยเกิดขึ้น โดย ผู้ก่อเหตุรุนแรง(ผกร.) พลิกแพลงสถานการณ์ ใช้วิธีที่เราไม่คาดคิดแม้ว่า จนท.จะพยายามป้องกัน เพราะพื้นท่ีกว้าง อาจดูแลไม่ครบถ้วน
แต่เมื่อเกิดเหตุแล้ว ก็ต้องเร่งรัดคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว ซึ่ง จนท.สามารถติดตามรถได้ทั้งหมดแล้ว
และขอแสดงความเสียใจกับ ครอบครัวของคนเสียชีวิตและ ผู้ที่บาดเจ็บ
เป็นเรื่องต้องกำชับกำชากันไป โดยที่ พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค4 ให้ระวังป้องกัน แต่เมื่อเกิดเหตุ ก็ต้องคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ มีการข่าว แจ้งเตือน เราระมัดระวัง อยู่แล้ว ว่าจะมีการก่อเหตุ ในหัวเมือง เขตเศรษฐกิจ และครั้งนี้ มีการก่อเหตุ แล้วติดระเบิด เลยเพิ่อไปก่อเหตุ ที่แตกต่างจากเดิมที่ ผกร. จะปล้นรถจาก ปชช.คันเดียว แล้ว เอาไปติดตั้งระเบิด หลายวัน เพื่อทำคาร์บอมบ์. แต่ต่อมา เขาทำเร็วขึ้น คือปล้นรถแล้ว ก็ติดตั้งระเบิดในวันนั้นแล้วก่อเหตุเลย
แต่ครั้งนี้ ก็ไม่เสียหายมากนัก ก็ต้องชื่นชม จนท. ที่ตืดตามรถได้

"บิ๊กป้อม" โต้ "เหล้าเก่า ในขวดใหม่" กก.ปฏิรูปฯ

"บิ๊กป้อม" โต้ "เหล้าเก่า ในขวดใหม่" กก.ปฏิรูปฯยัน ทำงานได้และผ่านการคัดเลือกอย่างดี ยันไม่ซ้ำซ้อน เปิดกว้าง "คนคิดต่าง"ร่วม ให้เสนอชื่อมา แต่ไม่เสนอเอง ยัน ไม่ซ้ำซ้อน คกก.ยุทธศาสตร์ชาติ แจงค่าตอบแทน ไม่เยอะ ขอรอดูผลงาน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี นักการเมืองวิจารณ์การตั้งคนใกล้ชิด คสช.มาเป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ว่า มีคนอยู่แค่นี้ และรู้จักกันทั้งนั้น เขาทำงานได้ก็แล้วกัน
ส่วนจะเชื่อมโยงกับการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติด้วยหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีเองก็อยากให้มีการเสนอชื่อเข้ามา แล้วจะมาคัดเลือกอีกที ซึ่งยืนยันว่าทุกคนที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี เพราะต้องทำงานเพื่อประเทศชาติ
ทั้งนี้ การตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ กับ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เป็นคนละเรื่องกัน ไม่ใช่การตั้งคณะกรรมการซ้ำซ้อน ซ้ำซ้อนยังไง ซึ่งคณะกรรมการแต่ละชุด ก็รับผิดชอบในแต่ละเรื่องไป ขอให้รอดูผลงาน อย่าพูดกันไปเอง
เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ว่าเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่แล้วมาเขย่า พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ว่ากันไป มีทั้งคนดี คนไม่ดี ทั้งนี้เราเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มทุกฝ่าย เข้ามาทำงาน โดยการเสนอชื่อผ่าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และจะนำมาคัดเลือกอีก 2-3 รอบ
ส่วนที่ไม่มีคนคิดต่าง นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า เพราะไม่เสนอชื่อ เข้ามาเอง
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ค่าตอบแทนของคณะกรรมการนั้น จะมีการประชุมสัปดาห์ละครั้ง ได้ค่าตอบแทนครั้งละ 6,000 บาท เดือนหนึ่งตกประมาณกว่า 20,000 บาทต่อคนเท่านั้น ไม่ใช่เดือนละ 48,000 บาทตามที่พูดกันไป และวันไหนถ้าไม่มีอะไร ไม่ประชุม นี่ไปคิดกันเต็มแบบนั้น