PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แถลงข่าวจับ "ทอม ดันดี" ตามหมายจับศาลทหาร

พุธ 9/7/57 ... ( แถลงข่าวจับ "ทอม ดันดี" ตามหมายจับศาลทหาร )
เมื่อเวลา 18.00 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.แถลงข่าวจับกุมนายธานัท ธนวัชรานนท์ หรือ "ทอม ดันดี" ตามหมายจับของศาลทหาร ข้อหาละเมิด ม.112 กรณีขึ้นปราศรัยบนเวทีอนุสรณ์สถานฯ และพูดในรายการวิทยุเรดการ์ด ของโกตี๋ โดยมีหมายจับ 2 คดี ความผิดหมิ่นเบื้องสูง ผิดมาตรา 112
1.หมายจับของศาลทหาร ที่106/2557 ลงวันที่ 7ก.ค.57
2.หมายจับศาลอาญา ที่ 1152/2557 ลงวันที่7ก.ค.57
โดยตำรวจจับกุมตัวนายทอม ดันดี ได้ที่บ้านเลขที่ 84 ม.4 ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง เพชรบุรี ขณะที่นายทอม ดันดี ยอมรับว่าตนเป็นคนพูดหมิ่นเบื้องสูงตามคลิปที่ปรากฎในคลิปทางยูทูปจริง ส่วนผู้โพสยูทูปเพื่อทำกาเผยแพร่ ตร.จะสืบสวนหาคนผิดต่อไป โดยหลังจากนี้จะนำตับนายทอม ดันดี ส่งให้พนักงานสอบสวน และส่งฟ้องศาลต่อไป
นอกจากนี้ ตร.ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจมีเนื้อหะเมิด ม.112 อีก 2 คดี หากพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมาย

บุกจับ 'ทอม ดันดี' จากบ้านเพชรบุรี นำตัวเข้ากทม. คดี 112

บุกจับ 'ทอม ดันดี' จากบ้านเพชรบุรี นำตัวเข้ากทม. คดี 112
Wed, 2014-07-09 17:12

รายงานข่าวแจ้งว่า เวลาประมาณ 14.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (บก.ปอท.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร รวมประมาณ 20 นายทั้งในและนอกเครื่องแบบ เข้าจับกุมนายนายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือ ทอม ดันดี ที่บ้านพักในอ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิด มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
ภรรยาของทอม ดันดี แจ้งว่า คาดว่าเจ้าหน้าที่จะจำตัวนายทอม ดันดี มาสอบสวนที่ บก.ปอท.ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาพูดคุยกับทอมและแจ้งข้อหา โดยอ้างเหตุจากกรณีที่เขาไปปราศรัยในเวทีเล็กๆ จัดโดยสถานีวิทยุชุมชนเรดการ์ดของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ และที่เวทีอนุสรณ์สถาน รวม 2 ครั้ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายทอม ดันดี เพิ่งจะโดนคุมขังที่กองปราบเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.หลังถูกจับกุมจากการไม่รายงานตัวตามประกาศ คสช. จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวไปฝากขังยังศาลทหารในวันที่ 14 มิ.ย.เขาถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อนได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในวันที่ 16 มิ.ย.
ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปี 2553 นายบวร ยะสินธร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาป้องกันสถาบันได้ยื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ(ดีเอสไอ)ในขณะนั้นให้ดำเนินคดีกับทอม ดันดี ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจากการปราศรัยที่จังหวัดราชบุรี ต่อมาเขาถูกตำรวจราชบุรีแจ้งข้อกล่าวหา ทนายความให้ข้อมูลว่าโดยรูปคดีแล้วคาดว่าตำรวจสั่งไม่ฟ้อง
Tags: ข่าว การเมือง สิทธิมนุษยชน ทอม

รวบมือฆ่า“สุทิน ธราทิน”หลังหลักฐานชี้ชัด

รวบมือฆ่า“สุทิน ธราทิน”หลังหลักฐานชี้ชัด
ตร.รวบมือฆ่า “สุทิน ธราทิน” หลังหลักฐานมัดตัวชัดทั้งภาพถ่าย-อาวุธปืนที่ใช้ปลิดชีพแต่ยังให้การปฏิเสธ
วันนี้(9ก.ค.57)มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร นำกำลังข้าจับกุม นายสุรกริช ชัยมงคล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/2 หมู่ 11 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ 337/2557 ลงวันที่ 8 มกราคม 2557 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ,พยายามฆ่าผู้อื่น ,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และมีอาวุธปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยไม่ใช่เหตุในที่ชุมชน พร้อมของกลาง อาวุธปืนขนาด 11 มม.จับกุมได้ที่บ้านพักหลังดังกล่าว
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายสุทิน ธราทิน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ จนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยม ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.ต่อมาทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งสืบสวนสอบสวนติดตามคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ โดยมีภาพถ่ายและพยานหลักฐานต่างๆ กระทั่งทราบว่า นายสุรกริช คือหนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อเหตุครั้งนี้ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับไว้ ก่อนจะสามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้
รายงานข่าวจากฝ่ายสืบสวน แจ้งอีกว่า สำหรับอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้จาก นายสุรกิช นั้น จากการตรวจสอบพบว่า เป็นปืนที่ตรงกับปลอกกระสุนที่ตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานเพิ่มเติมที่เชื่อได้ว่า นายสุรกริช เป็นมือสังหาร แม้ว่าในเบื้องต้นผู้ต้องหา ยังคงให้การปฎิเสธ โดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุได้เดินทางไปลงคะแนนเสียง ที่ วัดศรีเอี่ยม ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ช่วงที่มีการยิงกัน อย่างไรก็ดีขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้คาดว่าน่าจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=35020&t=news&utm_medium=twitter&utm_source=twitterfeed

สตง. ชง คสช. ยุบ กสทช.

สตง. เสนอ คสช. ยกเลิก กสทช. เหตุทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ใช้งบเกินความจำเป็น
วานนี้ (8 ก.ค.57) สำนักข่าวอิศราได้เปิดเผยหนังสือจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินส่งถึงหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ เรียกร้องให้มีการพิจารณายุบสำนักงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช. เนื่องจากเห็นว่ามีการดำเนินงาน และใช้จ่ายเงินไม่มีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะการได้มาซึ่งคณะกรรมการทั้ง 15 คน อาจไม่โปร่งใสและอาจถูกแทรกแซงจากกลุ่มผลประโยชน์ในธุรกิจนี้ เนื่องจากการคัดเลือกกันเองก่อนจะมีการสรรหา และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการติดตามประเมินผลฯไม่มีความชัดเจน และซ้ำซ้อนกับหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบภายใน (Audit committee)
ดังนั้นทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จึงขอเสนอข้อตรวจพบดังกล่าวให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำไปพิจารณาทบทวนพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และการกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ว่าควรให้มีอยู่ต่อไปหรือไม่
พร้อมเสนอให้ คสช. แจ้งไปยัง กสทช. นำเงินจำนวน 50,862 ล้านบาท ที่ได้จากการประมูลทีวีดิจิตอลคืนให้กับแผ่นดิน เพราะเป็นรายได้ที่ได้จากทรัพยากรของชาติ ซึ่งถือเป็นทรัพยากรของประชาชนชาวไทยทุกคน

ญาติน้องแก้มเซ็ง..!! ตำรวจจัดฉากพาตัวแม่มาแถลงข่าวขอบคุณที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ.!!

วันนี้ 9 ก.ค.57 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า แม่น้องแก้มและครอบครัวจะเดินทางมาพบพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.เพื่อแสดงความขอบคุณกรณีที่ทางตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข่มขืนและฆ่าลูกสาวได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากกรมคุ้มครองสิทธิฯจำนวน 100,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เริ่มแถลงข่าวท่ามกลางสื่อมวลชนหลายสำนัก นายบรรจง ชีวมงคลกานต์ หนึ่งในผู้สื่อข่าวที่อยู่ภายในห้องรับรอง ชั้น 2 ซึ่งจัดให้เป็นสถานที่แถลงข่าว ได้สังเกตุเห็นว่าญาติน้องแก้มส่วนหนึ่งที่เดินทางมาพร้อมกับแม่ได้เดินวอล์คเอาท์ออกมาจากห้องแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวจึงติดตามไปสอบถาม
นายพัฒนชัย ธานินทร์พงศ์ พี่ชายซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับน้องแก้ม เปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้คุณแม่ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นการมาเพื่อกล่าวขอบคุณตำรวจ เพราะทีแรกได้รับแจ้งว่าให้มารับเงินเยียวยาจากกรมคุ้มครองสิทธิฯเท่านั้น แต่พอมาถึงที่นี่กลับถูกทางตำรวจให้ท่องสคริปเพื่อที่จะกล่าวขอบคุณตำรวจหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งจริงๆแล้วคุณแม่ไม่ต้องการท่อง เพราะในช่วง2วันแรกของการติดตามหาน้องแก้มตำรวจไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือมากนัก ทำให้ทางญาติต้องติดต่อมูลนิธิสว่างฯปราณบุรี ให้มาช่วยติดตามหาน้องแก้มพร้อมกับญาติๆ จนเจอร่างน้องแก้มภายในเวลา 4 ชั่วโมง
"วันนี้จริงๆแล้วแม่ควรจะต้องได้พักผ่อน เพราะไม่ได้หลับได้นอนกันมา 3 วันแล้ว น้องอยู่ที่วัด แม่ก็อยากไปนั่งเฝ้าน้อง สวดมนต์ให้น้อง แต่ทางตำรวจต้องการไปรับตัวแม่มา เพียงเพื่อให้มาขอบคุณที่นี่ แค่นี้หรือครับ ตำรวจต้องการแค่นี้ใช่มั้ย.."นายพัฒนชัยกล่าว
นายพัฒนชัยกล่าวต่อว่า ตั้งแต่การแถลงข่าวครั้งแรกที่ปราณบุรี ยังไม่เห็นใครได้แสดงความขอบคุณกลุ่มคนที่สมควรได้รับคำขอบคุณจริงๆก็คือเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างฯปราณบุรี ที่ลงพื้นที่ตามหาร่างน้องแก้มอย่างเหน็ดเหนื่อย โดยมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ตำรวจจัดฉากให้ครอบครัวมาขอบคุณได้เก่งมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางญาติยังคงติดใจอะไรในคดีนี้บ้าง หลังจากที่นายวันชัย แสงขาว ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุคนเดียว นายพัฒนชัยตอบสั้นๆว่า "เรื่องทางคดีตอนนี้คิดว่าตำรวจคงจัดการได้แล้ว ทางญาติไม่ได้ติดใจอะไร"
บรรจง ชีวมงคลกานต์ ยกทัพข่าวเช้า PPtv HD36 (หมายจับกับบรรจง:รายงาน)

วสิษฐ เดชกุญชร: เมื่อจิ้งจกตัวใหญ่ทัก

เมื่อจิ้งจกตัวใหญ่ทัก

เขียนวันที่
วันอังคาร ที่ 08 กรกฎาคม 2557 เวลา 21:13 น.
เขียนโดย
วสิษฐ เดชกุญชร
"รัฐประหารที่มีเงื่อนเวลาอย่างที่ทำเมื่อปี พ.ศ.2549 ได้ผลอย่างไรก็เห็นกันแล้ว  อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยและคนชั่วกลับมาครองเมืองได้อีก"
vasit
ผมเป็นนิสิตรุ่นพี่ก่อนอาจารย์ ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลายปี  อาจารย์ปราโมทย์จึงเรียกผมว่าพี่ี  แต่ถ้าจะนับกันทางพ่อ ผมก็เป็นพี่ของอาจารย์ปราโมทย์ได้อีกทางหนึ่ง เพราะคุณพ่อของอาจารย์ปราโมทย์คือนายแพทย์อ้วน นาครทรรพ รู้จัก และเป็นเพื่อนสนิทรุ่นน้องของพ่อผม ทั้งยังเคยเป็นสมาชิกของขบวนการเสรีไทยด้วยกัน (ขบวนการเสรีไทยที่กู้ชาติสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่ใช่ ที่ขโมยชื่อของขบวนการเอามาใช้ใหม่เพื่อเขมือบชาติโดยนายจารุพงศ์ เรือง สุวรรณและนายจักรภพ เพ็ญแข)  ผมเรียกท่านว่าคุณอาหมออ้วน
อาจารย์ปราโมทย์เรียนจบจากจุฬา ฯ แล้วก็ไปเรียนต่อจนได้ปริญญาเอกทางสังคมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ อันเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ แห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา  หลังจากนั้นอาจารย์ปราโมทย์ก็กลับมาเป็นอาจารย์สอนในคณะรัฐศาสตร์ จุฬา ฯ และดูเหมือนจะถึงเกษียณอายุราชการที่จุฬา ฯ นั่นแหละ 
ขณะที่เป็นอาจารย์และเมื่อพ้นราชการแล้ว อาจารย์ปราโมทย์ยังเขียนบทความลงหนังสืิอพิมพ์เกี่ยวกับการเมืองและสังคมไทยที่มีผู้นิยมอ่านอย่างกว้างขวาง  อาจารย์ปราโมทย์เขียนบทความตามหลักวิชาและวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองผู้มีอำนาจบริหารบ้านเมืองในยุคต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมาและเผ็ดร้อน จนนักการเมืองที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์บางคน (โดยเฉพาะทักษิณ ชินวัตร) ไม่ชอบ เป็นเหตุให้อาจารย์ปราโมทย์ถูกฟ้อง ฐานหมิ่นประมาทอยู่หลายหน
เวลานี้อาจารย์ปราโมทย์เลิกเขียนบทความเป็นร้อยแก้วลงหนังสื พิมพ์เสียแล้ว แต่หันมาเขียนเป็นกลอนลงในเฟซบุค ซึ่งผมได้อ่านด้วย เพราะเราเป็นเพื่อนกันในเฟซบุค  กลอนของอาจารย์ปราโมทย์ยังวิพากษ์ วิจารณ์อยู่อย่างเดิม และบางบทก็ให้สติน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมีหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารราชการบ้านเมือง
กลอนบทหนึ่งซึ่งอาจารย์ปราโมทยเพิ่ง์เขียนเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ เป็นบทที่ผมอยากจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้อ่านด้วย ผมขอคัดเฉพาะตอนที่เกี่ยวข้องมาดังต่อไปนี้
    “มันให้เลือกเราก็เสือกเลือกตามมัน  กำหนดวันตามฝรั่งสั่งเป็นหลัก
    หากว่าเกินปีหน้าจะช้านัก  ไทยจะทักอย่างไรก็ไม่ฟัง
    ‘บูรณะ’ จะต้องมีข้อมูลก่อน  สำมะโนประชากรต้องรีบสั่ง
    เขมรลาวญวนพม่ามาประดัง  กลุ่มอาชีพคับคั่งผิดดั้งเดิม
    ‘บูรณะ’ จะต้องเปลี่ยนโครงสร้าง  จะต้องมีรื้อล้างและสร้างเสริม
    กฎหมายดีไม่มีอยู่สู้รีบเติม  กฎหมายชั่วคนเหิมเกริมต้องล้างบาง
    มีอำนาจอยู่ในมืออย่ารื้อทิ้ง  ตั้งใจจริงจงมานะเร่งสะสาง
    ตั้งสภามาอำนาจจะขาดกลาง  มีตัวอย่างมามากไยอยากลอง”
 ในอดีตอาจารย์ปราโมทย์เคยเตือนหลายรัฐบาลมาแล้ว  รัฐบาลที่เฉยเมยไม่สนใจฟังคำเตือนของอาจารย์ปราโมทย์ในที่สุดก็ประสบเคราะห์กรรมดังที่ทราบกันอยู่  ผมจึงอยากให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติพินิจพิเคราะห์กลอนบทนี้ของอาจารย์ปราโมทย์อย่างจริงจัง
รัฐประหารที่มีเงื่อนเวลาอย่างที่ทำเมื่อปี พ.ศ.2549 ได้ผลอย่างไรก็เห็นกันแล้ว  อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยและคนชั่วกลับมาครองเมืองได้อีก เลยครับ

ข้อสังเกตจากชาวเพสบุ๊คที่น่าพิจารณา กรณีคดี"น้องแก้ม"?

ข้อสังเกตจากชาวเพสบุ๊คที่น่าพิจารณา ?

โดยนายวันชัย ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ แต่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นอย่างดี และรับสารภาพว่า ซื้อยาบ้ามา 3 เม็ด เสพที่สถานีต้นทาง จ.นครศรีธรรมราช ไป 2 เม็ด ก่อนที่จะเสพอีก 1 เม็ด บนโบกี้รถไฟระหว่างทาง จากนั้นเริ่มตั้งแต่ชี้จุดที่เห็นน้องแก้มหยิบของที่ชั้นวางของและมากับกลุ่มญาติ แต่ตัวเองกับเพื่อนพนักงานอีก 3 คน กำลังดื่มเบียร์บนโบกี้รถไฟตู้ที่ 3 ที่อยู่ถัดไป รู้สึกมีอารมณ์ทางเพศ จึงวางแผนปิดไฟเมื่อรถไฟเข้าสู่สถานีทับสะแก ไฟค่อยๆ หรี่และดับในที่สุด เมื่อผ่าน อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ในเวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน ของวันที่ 5 กรกฎาคม

จากนั้นนายวันชัยก็เริ่มเดินเข้ามาที่เตียงนอนหมายเลข 28 ที่น้องแก้มนอนหลับอยู่บนเตียงแคบ ขนาดกว้าง 85 เซนติเมตร ยาว 190 เซนติเมตร เพียงลำพัง ก่อนมุดผ้าม่านเข้าไปขึ้นคร่อมร่างน้องแก้มแล้วเอามือบีบคอ และใช้กำปั้นต่อยท้องจนน้องแก้มสลบ จากนั้นได้เปิดหน้าต่างรถไฟขึ้นเพื่อกลบเสียง แล้วลงมือถอดเสื้อผ้าและข่มขืนกระทำชำเราน้องแก้มจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วหันไปรื้อค้นสิ่งของที่อยู่ภายในกระเป๋าสะพายสีชมพูที่วางอยู่ปลายเท้า เพื่อที่จะขโมยไอแพดและโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5s
แต่จังหวะนี้น้องแก้มเริ่มรู้สึกตัว จึงหันมาเอามือปิดปาก เพราะน้องร้องจึงบีบคออีกครั้งจนแน่นิ่งไป จากนั้นได้จับน้องตะแคงข้างขวาหันหน้าออกหน้าต่างแล้วลงมือข่มขืนอีกครั้ง รวมเป็น 2 ครั้ง ด้วยความกลัวความผิดจึงอำพรางคดีด้วยการจับน้องพาดกับขอบหน้าต่างรถไฟ ขนาดกว้าง 120x160 เซนติเมตร แล้วดันก้นจับขาผลักออกไปนอกหน้าต่าง ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าถึงแถวไหนแล้ว เพราะด้านนอกมืด ก่อนโยนสิ่งของทั้งเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดทิ้งออกนอกหน้าต่างทั้งหมด ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าสะพายของน้องแก้มออกไปแล้วทำทีเป็นกลับไปนั่งที่โบกี้ตนเองก่อนที่จะลงรถไฟที่กรุงเทพฯ เพื่อนำทรัพย์สินไปขาย กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว

วันชัย แสงขาว ประวัติคนร้ายใจอำมหิต มือฆ่าน้องแก้ม

เปิดประวัติ วันชัย แสงขาว คนร้ายใจอำมหิต มือฆ่าน้องแก้ม เผยเคยข่มขืนพนักงานหญิงการรถไฟฯ มาแล้ว 2 คน แต่ไม่มีใครเอาเรื่องเพราะอับอาย เลยได้ใจก่อเหตุซ้ำ อีกทั้งยังเคยต้องโทษคดีค้ายาเสพติดมา 2 ครั้งเช่นกัน
นับเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ สะเทือนขวัญ และน่าสลดหดหู่เป็นอย่างมาก สำหรับกรณีที่ นายวันชัย แสงขาว หรือ เกม พนักงานการรถไฟ ลงมือฆ่าข่มขืนน้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี ก่อนโยนทิ้งลงข้างทาง เมื่อเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หลายคนต่างขุดคุ้ยประวัติของ วันชัย แสงขาว ผู้ก่อเหตุที่จิตใจทารุณคนนี้ พร้อมด่าทอต่อว่า รวมถึงสาปแช่งต่าง ๆ นานา บ้างก็ผลักดันให้มีการประหารชีวิต วันชัย แสงขาว เนื่องจากการกระทำดังกล่าว โหดเหี้ยมผิดมนุษย์เหลือเกิน...
อย่างไรก็ดี ช่วงเช้าวันนี้ (9 กรกฎาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 ได้เปิดเผย ประวัติ วันชัย แสงขาว มือฆ่าน้องแก้ม พร้อมคำสารภาพให้ได้ทราบกัน..
โดยนายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี ชื่อเล่น "เกม" เป็นพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย และเพิ่งผ่านการสอบคัดเลือกเป็นลูกจ้างพนักงานรถนอน ทำหน้าที่ปูเตียง เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา อยู่ในรายชื่อลำดับที่ 43 เป็นลูกจ้างเฉพาะงาน ซึ่งไม่ใช่พนักงานสัมปทานจากบริษัทเอกชนตามที่ นายประภัสร์ จงสงวน ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้
สำหรับในวันที่เกิดเหตุ นายวันชัย แสงขาว รับสารภาพว่า ได้เสพยาบ้าไป 3 เม็ด และดูคลิปลามก ก่อนที่จะดื่มเบียร์และก่อเหตุสุดสลดดังกล่าว ส่วนวิธีที่ปลิดชีพน้องแก้มนั้น นายวันชัยได้ใช้หมอนกดหน้าและเอามือบีบคอจนน้องสลบ ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าน้องแก้มเสียชีวิตหรือไม่ จากนั้นได้เปิดหน้าต่างเพื่อให้เสียงภายนอกเข้ามา ก่อนที่ลงมือข่มขืนน้องแก้ม และยังกระทำติดต่อกันสองครั้ง... และเมื่อเสร็จกิจ นายวันชัยจับร่างน้องแก้มพาดไว้กับหน้าต่างรถไฟ และผลักร่างของน้องทิ้งลงกลางทาง ทั้งนี้การกระทำดังกล่าว ไม่ใช่เกิดจากการเมา เนื่องจากเป็นวิธีที่โหดเหี้ยม แถมยังผ่านกระบวนการคิดในกรณีที่เปิดหน้าต่างเพื่อให้เสียงภายนอกเข้า อีกทั้งยังนำไอโฟนของน้องแก้มไปขายที่กรุงเทพฯ ในราคาเครื่องละ 1,800 บาท อย่างไม่สะทกสะท้อนอีกด้วย ซึ่งนายวันชัยไม่ได้รับสารภาพเพราะตระหนักในความผิด แต่จำนนด้วยหลักฐานจึงยอมรับสารภาพ ชี้ให้เห็นว่าเป็นคนที่จิตใจโหดร้ายอำมหิตอย่างมาก
นอกจากนี้ นายวันชัย ยังสารภาพว่า เคยก่อเหตุข่มขืนพนักงานสาวของการรถไฟฯ มาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ได้ฆ่า และผู้เสียหายทั้ง 2 รายเกิดความอับอายไม่กล้าไปแจ้งความ ทำให้นายวันชัยได้ใจว่าไม่มีใครทำอะไรได้ ก่อนจะก่อเหตุซ้ำ พร้อมกันนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติของนายวันชัย ยังพบว่า เคยต้องโทษเกี่ยวกับคดีค้ายาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง
อย่างไรก็ดี บรรดาชาวเน็ต เมื่อตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊กของนายวันชัย แสงขาว [บังเกมส์จิกโก๋ บางซื่อ (พูดไม่ออกเจ็บปวดละ อ่อนแอ)] กลับพบข้อความในเชิงตัดพ้อน้อยใจโชคชะตาชีวิต ที่แฟนไปมีคนใหม่ พร้อมโพสต์เพลงเศร้าระบายความในใจเพียบ
ท้ายนี้ สังคมต้องการเรียกร้องให้ลงโทษนายวันชัยให้ถึงที่สุด พร้อมกับร้องไปยังการรถไฟฯ ให้รับผิดชอบ เพราะประวัตินายวันชัยเคยค้ายามาแล้วถึง 2 ครั้ง ไม่สมควรจะรับเข้าทำงานที่ต้องให้บริการประชาชนเช่นนี้