PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

ปมราชภักดิ์การสอบของกห.

"พลเอกชัยชาญ" เผย 5 งาน ที่ใช้งบกลางฯ63.5 ล้าน สร้างแท่นหินอ่อน ลานสักการะ บันได อาคารรปภ.ป้ายทางเข้า รั้วอุทยาน"ราชภักดิ์" ยัน ใช้งบกลาง สร้าง"ราชภักดิ์"ได้ เผยมี5 โครงการ ยีนไม่ได้เอามารวมกับ เงินบริจาค  แต่วันแถลงข่าว แค่รวมให้เห็นยอดรวมเงินทั้งหมด ให้เข้าใจง่าย ในส่วนมูลนิธิราชภักดิ์ มี106 ล้าน เตรียมสร้างต่อ ยัน กก.กห.ไม่มีอำนาจหน้าที่เอาผิด "เซียนพระ" ขอให้รอการตรวจสอบของส่วนราชการอื่น 

บิ๊กช้าง พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกลาโหม ในฐานะ ประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง อุทยานราชภักดิ์  ของกลาโหม กล่าวถึง การที่ นายเรืองไกร  ลือกิจวัฒนะ ตั้งข้อสังเกตุเรื่องงบฯกลาง ว่า  มีการงบฯกลางใช้สร้าง5แผนงานโครงการ  ในอุทยาน"ราชภักดิ์"  ตามที่ได้ชี้แจงไปแล้ว  โดยยืนยันว่า  สามารถนำงบกลาง มาใช้ได้  แต่ไม่ได้นำมารวมกับงบฯบริจาค 
แต่วันนั้น คณะกรรมการกลาโหมฯ แค่แถลงรวมยอดเงินทั้งหมดให้เข้าใจง่าย ว่ามีงบบริจาค เท่าใด งบกลางเท่าใด รวมออกมาเป็นเงินที่ใช้ในโครงการนี้ทั้งหมด เท่าใด  เช่น เงินบริจาคกว่า 802 ล้าน  งบฯกลาง อีกว่า63 ล้านรวม เป็น 866 ล้าน

ซึ่งงบกลาง ตามทีได้ชี้แจงไปก็ได้นำไปก่อสร้าง 5 รายการเกี่ยวกับการก่อสร้างรอบฐานอนุสาวรีย์ รวมถึงรั้ว อุทยานฯ  ส่วนงบในส่วนของโรงเรียนนายสิบทหารบก  ก็เป็นส่วนของโรงเรียนนายสิบทบ.

ส่วนที่ฝ่ายการเมืองตั้งข้อสังเกตว่าการนำงบกลางมาใช้มีความไม่เหมาะสมนั้น พลเอกชัยชาญ กล่าวว่า งบกลางใช้ในเรื่องของสนับสนุน  ซึ่งบกลาง ก็สามารถใช้ได้ 

แต่งบที่ใช้จริงคืองบที่ได้มาจากการบริจาค ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ของโรงเรียนนายสิบ เพราะฉะนั้นโรงเรียนนายสิบที่กองทัพบกใช้ก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย 

ส่วนที่ผลสรุปของคณะกรรมการถูกวิจารณ์นั้น
พลเอกชัยชาญ กล่าวว่า เราก็ยึดตามข้อเท็จจริง  สอบตามอำนาจหน้าที่

ส่วนข้อสงสัย ของ นายเรืองไกร ลือกิจวัฒนะ นั้น  เราชี้แจงได้หมด  ส่วน เรื่องเซียนพระ เรียกค่าที่ปรึกษา กับโรงหล่อที่อาจผิดกม.อาญา นั้น  พลเอกชัยชาญ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจของคณะกรรมการฯ อีกทั้ง เรา เขิญมาได้แต่โรงหล่อ แต่ไม่สามารถ ตามตัว เซียนพระ ได้

พลเอกชัยชาญ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของ มูลนิธิราชภักดิ์ ที่เป็นนิติบุคคล คณะกรรมการผนไม่ได้เข้าไปตรวจ แต่ได้รับการชี้แจงจากผู้เกี่ยงข้องว่า  มีเงินบริจาค106ล้านบาท  และเตรียมใช้สร้าง อุทยานราชภักดิ์ ต่อในระยะ2

ทั้งนี้ผลสอบของคณะกรรมการ ได้ส่งให้ พลเอกประวิตร รมว.กลาโหม ไปแล้ว ในส่วนของหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมก็สามารถเข้ามาดำเนินการได้ 

ส่วนความพึงพอใจต่อผลตอบรับภายหลังการแถลงข่าวนั้นต้องดูความคิดเห็นจากหน่วยงานอื่น เช่น สตง. ด้วย

บิ๊กต๊อกรู้นะคิดอะไรอยู่

บิ๊กต๊อก บอก รู้นะ คิดอะไรอยู่,....ยัน ศอตช.สอบ"ราชภักดิ"ต้องตอบสังคมได้ ไฟเขียวทุกฝ่าย ฟังผลสอบ

บิ๊กต๊อก พลเอกไพบูลย์  คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม  เผยว่า ผมไม่ค่อยอยากพูดเรื่องสอบ"ราชภักดิ์"เพราะมีคนเอาไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง ผมต้องระวัง แต่รู้สังคมคิดอะไร  ขอเวลาอีกหน่อย ศอ.ตช.ประชุมกัน4มค.มีทุกฝ่าย  ตำรวจ ศาลยุติธรรม DSI สตง. ปปง.ปปท. รายงานความก้าวหน้า  ดูได้ระดับหนึ่งแล้วเตรียมประสานขอข้อมูล ในรายละเอียด ของกห. จะได้รวดเร็วขึ้น ยันสอบทุกฝ่าย พร้อมรับข้อมูล  ข้อสังเกตุ จาก"เรืองไกร" เสนอมาได้ แต่ท้ายที่สุดขอให้เคารพ เหตุผล เคารพกม.
โดย เมื่อศอตช.สรุปผล"ราชภักดิ์" แล้ว เราจะเชิญใครที่สงสัยมาฟัง มาคุยกันด้วยหลัก ไม่ใช่คุยกันตามกระแส  อย่าคุยกันตามกระแส  ความรู้สึก คิดโน่น คิดนี่ ต้องดูกันในแง่กม. ห้วงเวลา  เหมือนที่ผมเคยให้สัมภาษณฺไว้ว่า ต้องดูห้วงเวลา ตอนเกิด เป็นของใคร
"ศอตช. ต้องทำให้ตอบโจทย์สังคม ให้ได้  ผมก็จะตั้งโต๊ะชี้แจงเลย เปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามา สอบถามได้เลย นักกม. นักเคลื่อนไหว นักสิทธิมนุษยชน" เพราะนายกฯก็ห่วงใย"

"ผมเข้าใจดีว่า สังคม คิด อะไรอยู่ กำลังมองอะไรอยู่  เราไม่ได้ทำนอกกติกา
ต่องคิด อย่างมีเหตุมีผล ไม่ใช่ฟังแล้ว นึกเอาเอง จินตนาการเองไม่ได้  เราต้องหาห้วงเวลา หาระยะ  ผมรับผิดชอบในการชี้แจงออกมา ขอให้ดูด้วยเหตุผล  ผมจะชี้แจง

ประยุทธ ปฏิทินทีกษิณ

เอาคนทำผิดกม.มาใส่ ปฏิทิน....

นายกฯ บิ๊กตู่ อารมณ์ขุ่น ถาม มันสมควรมั้ย แจกปฏิทิน"ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ไม่ได้บอกว่า ผิด หรือถูก แต่เหมาะสมมั้ย เอาคนผิดกม.มาทำปฏิทิน เพื่ออะไร ถามจะเอาไปบูชากันรึไง คนดีเยอะแยะไม่บูชา  เอาคนผิดมาใส่ในปฏิทิน ทำเพื่ออะไร บ้านนี้เมืองนี้อะไรคือความถูกต้อง ยันที่ห้ามแจกปฏิทิน"ไม่ใช่การเมืองอะไร แต่จนท.รู้ว่า เขาทำผิดกม ถ้าไม่ผิดก็กลับมา ผมจะทำปฏิทินให้หลายๆเล่มเลย ยันไม่คิดตอบจม.จากพรรคพท.เรื่องห้ามแจกปฏิทิน ถามทำไมต้องตอบ ในนั่นมีคนทำผิดกม.มั้ย ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับพรรคเพื่อไทย เหน็บ เอาคนในคุก มาใส่ปฏิทินให้หมดสิ

อุทยานราชภักดิ์เปลี่ยนชื่อ

บิ๊กโด่ง เชคบิล.....
พลเอกอุดมเดช ติง บางหน่วยงานที่ตรวจสอบ"ราชภักดิ์" อย่าเพิ่งฟันธง"อุทยานราชภักดิ์"มีทุจริต ขอให้เช็คข้อมูลครบถ้วน หวั่นไม่ยุติธรรม บอกเรื่องไม่มีอะไร อย่าทำให้มี เตือนต้องรับผิดชอบคำพูดที่พูดล่วงหน้าไปแล้ว ด้วย ติงใช้คำ"หักหัวคิว" ผมไม่ชอบเลย เพราะเราไม่ได้เป็นเช่นนั้น และรังเกียจคำนั้น คำว่า หักหัวคิว ผมไม่เคยใช้คำพูดนี่เพียงแต่ผมรับคำถามนี้มา โวยจะมาบอกว่า ละเว้น ม.157คงไม่ได้เพราะไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการ และส่วนของกำลังพลหรือโรงหล่อใดๆ บอกไม่เป็นไรๆ กับสื่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ไม่ขอตอบเรื่อง มูลนิธิราชภักดิ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ เพราะเป็นเรื่องไม่สมควรพูด แจงเปลี่ยนกก.มูลนิธิราชภักดิ์  เพราะบางคนเกษียณ 

ที่ ทำเนียบรัฐบาล  หลังการประชุม ครม. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงการเปลี่ยนแปลงชื่อ "มูลนิธิราชภักดิ์" เป็น "มูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร" ย่อว่า "ร.ภ." ว่า ไม่มีอะไร  และเป็นเริ่องที่ไม่สมควรพูดถึง

ส่วน การเปลี่ยนตัวบุคคล ในคณะกรรมมูลนิธิฯในครั้งนี้ นั้น พลเอกอุดมเดช กล่าวว่า เนื่องจากมีบุคคลที่ต้องเกษียณอายุราชการ เราจำเป็นต้องมีคณะกรรมการ เข้ามาทำงานในพื้นฐานของมูลนิธิได้เท่านั้น ไม่มีอะไร 

"แต่ยืนยันคณะกรรมการฯ ที่มีการตรวจสอบก็มีการดำเนินการอยู่ มั่นใจว่าการดำเนินการของคณะกรรมการฯ ที่ผ่านมาทำงานด้วยความรัดกุม"

พลเอกอุดมเดช กล่าวว่า ที่ผ่านมากองทัพบกมี100กว่าโครงการในการดำเนินการ อุทยานราชภักดิ์ถือเป็นโครงการหนึ่ง และที่ผ่านมาผมไม่มีการถ่ายเอกสารหรือสำเนาเก็บเอาไว้ ซึ่งเรามีความมั่นใจในโครงการอุทยานราชภักดิ์มาก เพราะมีความตั้งใจทำและมีคณะกรรมการย่อยลงไปดูแล

"ผมฟัง "หัวหน้าส่วนราชการ" ที่มีความเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบบางหน่วยงานอยากให้รู้รายละเอียดอย่างถ่องแท้ ยกตัวอย่างที่เป็นประเด็นเกี่ยวกับเรื่องโรงหล่อ เป็นเรื่องของเอกชน ท่านไปดูให้ดีเสียก่อน แล้วให้คณะกรรมการไปตรวจสอบถึงการดำเนินของเอกชนกับเอกชนว่าดำเนินการอย่างไร ทำไมคณะกรรมการจึงบอกว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรรมการอุทยานราชภักดิ์รวมถึงกำลังพลของกองทัพบกในปีนั้นด้วย  

"ผมได้อธิบายไปแล้วก็ไม่เข้าใจกัน ถ้าจะเป็นการดีจะช่วยบอกรายละเอียดอีกสักนิดว่า ผมเคยถูกถามและไปตั้งคำว่า "หักหัวคิว" ซึ่งผมไม่ชอบเลย เพราะเราไม่ได้เป็นเช่นนั้น และรังเกียจคำนั้น คำว่า หักหัวคิว ผมไม่เคยใช้คำพูดนี่เพียงแต่ผมรับคำถามนี้มา 

ผมก็บอกว่าอาจมีความจริงบางส่วน ซึ่งผมก็ขยายความในโอกาสต่อมาว่าเป็นเรื่องของเอกชนกับเอกชน และเมื่อทราบภายหลังเราก็เข้าไปพูดคุย สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีและะกลับมาเกิดขึ้นในช่วงสุดท้ายที่ได้แก้ไขปัญหาแล้ว เป็นเรื่องบุญกุศลและไม่มีใครไปเสียเงินเสียทองเพิ่มเติมอะไร ให้เกิดความเสียหายและที่เราได้แก้ไขก็นอกหน้าที่ของเรา 

"จะมาบอกว่า ละเว้น ม.157คงไม่ได้เพราะไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการ และส่วนของกำลังพลหรือโรงหล่อใดๆ

"เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต่างๆควรเข้าใจ แล้วอย่าเพิ่งเอ่ยอะไรออกมาว่ามีการทุจริตหรือทำไม่ถูกต้อง แบบนี้พูดไม่ถูกต้อง เพราะจะเกิดความไม่ยุติธรรม เพราะท่านเป็นหน่วยตรวจสอบแล้วไม่ยุติธรรม เดี๋ยวจะเกิดความไม่ยุติธรรม และท่านก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ท่านพูดล่วงหน้าด้วย ควรจะให้ชุดตรวจของท่านเข้าไปตรวจตามปกติ" พล.อ.อุดมเดช กล่าว

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ชุดตรวจของส่วนราชการภายนอก ต้องเข้ามาตรวจตามโครงการและแผนงานนั้นๆและอุทยานราชภักดิ์ก็เป็นส่วนหนึ่ง

" เรื่องราวไม่มีอะไร ก็ขอให้อย่ามีอะไร ผมเคยบอกว่าอย่าไปหลงประเด็น ถ้าหัวหน้าชุดตรวจสอบหรือผู้ใหญ่ของหน่วยงาน ต้องการทราบอะไรที่เป็นเรื่องภาพรวม ผมก็สามารถชี้แจงได้ทั้งหมดในฐานะที่เป็นประธานอำนวยการ และมีรองประธานช่วยกำกับดูแลในความรับผิดชอบตามหน้าที่ เพราะฉะนั้นสามารถชี้แจงได้และให้พบปะพูดคุยได้ 

ส่วนรายละเอียดต้องไปเอาที่กองทัพบก ในส่วนของมูลนิธิฯ เองได้รับอนุมัติให้จัดตั้งเมื่อปลายปีงบประมาณกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาและยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย และสามารถชี้แจงงบประมาณการบริจาคที่เข้ามาได้ สามารถตอบสิ่งต่างๆได้หมด และสามารถเล่าเรื่องราวต่างๆให้หัวหน้าหน่วยงาน หรือหัวหน้าส่วนราชการที่ตรวจสอบ ถ้าอยากรับทราบมารับข้อมูลได้ที่ผม ส่วนรายละะเอียดไปเอาที่กองทัพบก

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ขออย่าเพึ่งชี้หรือฟันธงว่ามีการทุจริต เพราะตนมั่นใจในโครงการนี้และได้ติดตามดูการปฏิบัติงานมา ขอให้ดำเนินการด้วยความยุติธรรม จะได้ผลที่ออกมาเป็นธรรมกับผู้ปฏิบัติงาน อยากให้คนที่ตั้งใจทำงานเสียกำลังใจ เน้นโครงการนี้มีที่มาที่ดี ตั้งแต่เริ่มและดำเนินการมาดี ขอให้ดูวัตถุประสงค์ต่างๆ

"ขอยืนยันว่าผมไม่ต้องการทำให้ผิดเป็นถูก ถ้าทำให้ผิดเป็นถูกผมก็ไม่ชอบ เพราะผมก็ต้องอยู่ในกระบวนการต้องดูในคนที่ไม่ถูกต้อง ไม่สุจริต ไม่ยุติธรรม เช่นเดียวกันผมทำมาเนิ่นนาน ได้รับมอบหน้าที่ตั้งแต่เป็นนายทหารระดับเล็ก กลาง สูง จึงต้องช่วยกันดูแลสิ่งเหล่านี้ เพราะฉะนั้นผมก็จะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอให้มั่นใจ และขอให้มั่นใจโครงการอุทยานราชภักดิ์และต้องดำเนินงานต่อไป 

พลเอก อุดมเดช เผยว่า ตั้งแต่หลังปีใหม่สักระยะจะประสานงานกองทัพบกว่า งบประมาณที่มีอยู่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติมอย่างไร ตามลำดับความเร่งด่วนและผมจะบอกกับกองทัพบกให้ประสานงานต่อไป ต้องทำให้คนบริจาคเงินมั่นใจ สมปรารถนา

เมื่อถามว่า ขณะนี้รู้สึกสบายใจหรือยัง พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนไม่เป็นไร ไม่เป็นไร

ซาอุอิหร่านสัมพันธ์ร้าวในรอบ30ปี

สัมพันธ์ซาอุฯ-อิหร่านร้าวฉานหนักในรอบ 30 ปี 

การสังหารเชคนิมร์ อัล-นิมร์ ผู้นำมุสลิมนิกายชีอะห์คนสำคัญซึ่งซาอุดีอาระเบียระบุว่ามีความผิดฐานก่อการร้าย ตามมาด้วยเหตุโจมตีสถานทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเตหะราน ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านเดินมาถึงจุดที่เรียกได้ว่าร้าวฉานที่สุดในรอบ 30 ปี และจะส่งผลพวงให้โอกาสในการแก้วิกฤตทางการทูตระหว่างซีเรียกับเยเมนยิ่งห่างไกลออกไปทุกที 

คริสเตียน โคอาเทส อุลริชเซิน นักวิจัยในโครงการตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ  ซึ่งทำงานร่วมกับสถาบัน Chatham House ในกรุงลอนดอน เห็นว่าความไม่ลงรอยกันในครั้งนี้ร้ายแรงพอ ๆ กับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 (พ.ศ.2523-2532) ซึ่งสองชาติเคยตัดสัมพันธ์กันมาแล้วในปี 2531-2534 
ซาอุดีอาระเบียและรัฐบาลชาติอาหรับในอ่าวเปอร์เชียนั้นเชื่อมโยงรัฐบาลอิหร่านในยุคหลังการปฏิวัติอิสลามกับการเติบโตของนักรบชีอะห์ กับการปฏิวัติที่ล้มเหลวในบาห์เรนเมื่อปี 2524 และกับความพยายามลอบสังหารผู้นำคูเวตในอีกสี่ปีถัดมา 

ในขณะที่กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ อัล เฮจัซ องค์กรซึ่งได้รับการหนุนหลังโดยอิหร่าน ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2530 ตามแนวทางกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน  เคยออกแถลงการณ์ข่มขู่ราชวงศ์ซาอุฯ อยู่เนือง ๆ รวมทั้งก่อเหตุโจมตีหลายครั้งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วงปลายทศวรรษ 1980 (พ.ศ.2523-2532) ซึ่งขณะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและซาอุฯ ตึงเครียดมากขึ้น 

สำหรับเหตุผลที่ทำให้นักวิจัยในโครงการตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ  ซึ่งทำงานร่วมกับสถาบัน Chatham House มองว่าความขัดแย้งครั้งล่าสุดนี้ถือได้ว่าอันตรายพอ ๆ กับเมื่อกว่า 30 ปีก่อนนั้น ก็ด้วยเหตุผลหลัก ๆ สามประการ 

ประการแรกความแตกต่างทางนิกายในการนับถือศาสนา เป็นชนวนก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวซุนนีกับชีอะห์และทำให้เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างอิหร่านกับชาติเพื่อนบ้านในอ่าวเปอร์เชีย บรรยากาศความขัดแย้งที่พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อเช่นนี้ ทำให้กลุ่มสายกลางอ่อนแอ ขณะที่ฝ่ายที่ยึดมั่นในหลักการจัดการปัญหาความสัมพันธ์ในภูมิภาคต่างพากันสงวนท่าที

ประการที่สอง  ในช่วงสี่ปีมานี้ชาติในอ่าวเปอร์เชียต่างดำเนินนโยบายต่างประเทศในเชิงแข็งกร้าวมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อตอบโต้ที่อิหร่านเข้ามาก้าวก่ายความขัดแย้งในภูมิภาค อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะไม่วางใจบทบาทของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง หลายชาติในอ่าวเปอร์เชียเห็นว่าภัยคุกคามจากอิหร่านไม่ได้มีเพียงโครงการนิวเคลียร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงภัยที่จะเกิดจากกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ และกลุ่มกบฏฮูธีที่อิหร่านสนับสนุนด้วย ขณะที่การประกาศจัดตั้งกองกำลังพันธมิตรต่อต้านการก่อการร้ายนำโดยซาอุดีอาระเบียล่าสุดก็ชี้ให้เห็นว่าซาอุฯ จะไม่ยอมประนีประนอมอีกต่อไปแล้ว

ประการสุดท้าย อุลริชเซิน เห็นว่าการประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างซาอุฯ และอิหร่าน เปรียบได้กับเสียงระฆังแห่งความหายนะในแง่ของความพยายามแก้วิกฤตสงครามความขัดแย้งระหว่างเยเมนกับซีเรีย และทำให้ความตกลงหยุดยิงที่เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมาไร้ผล ขณะที่การเจรจาที่มีสหประชาชาติเป็นตัวกลางซึ่งมีกำหนดจะเริ่มขึ้นอีกครั้งกลางเดือนมกราคมนี้และเจรจาสันติภาพซีเรียที่จะจัดขึ้นปลายเดือน ม.ค.นี้ที่เจนีวาอาจไม่เกิดขึ้น หากทั้งซาอุฯ และอิหร่าน ต่างพัวพันกับความขัดแย้งที่ร้าวลึกนี้เสียเอง    #Iransaudi #Iransaudiarabia #AlNimr 

(ภาพผู้ประท้วงชาวอิหร่านที่หน้าสถานทูตซาอุฯ ในกรุงเตหะราน)