PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2561

"ก็บอก ไม่เลื่อนไงล่ะ โอ้ว!!"‬

‪"ก็บอก ไม่เลื่อนไงล่ะ โอ้ว!!"‬
‪เมื่อโดน ซักหลายคำถาม เรื่องอาจเลื่อนเลือกตั้ง หลังสนช.จะยื่นตีความ "พรป.สส."อีกฉบับ....."บิ๊กป้อม" ชักฉุน !!สวนตอบ แบบ ขึ้นเสียงเลย!! "ก็บอก ไม่เลื่อนไงล่ะ โอ้ว!"
เพราะยืนยันไปตอนต้น แล้วว่า ไม่เลื่อน เพราะจะขอให้ศาล รธน.ตีความเร็วหน่อย‬
ก่อนจะ เบ่งยิ้ม เพื่อลด ความฉุน !!!

โอ้ย!! ไม่ต้องห่วงอ่ะน่า

โอ้ย!! ไม่ต้องห่วงอ่ะน่า
"บิ๊กป้อม" พร้อมทำตามระเบียบ หาก ปปช. ให้ชี้แจงเพิ่ม "นาฬิกา" หลังประชุมใหญ่วันนี้ ก็ให้เขา ว่าไป
‪"บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร ร้อง "โอ้ย!! ไม่เอา".... เมื่อโดนถามเริ่อง "ปปช."’ประชุมกรรมการชุดใหญ่ เรื่องนาฬิกาวันนี้ เป็นเรื่องแรกของการสัมภาษณ์.... เพราะปกติเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้าย เพราะจะ"วงแตก"
"บิ๊กป้อม" บอกว่า "เขาจะประชุม ก็เรื่องของเขา ก็ว่าไป”‬
ส่วนพร้อมไปชี้แจงหรือไม่ หาก ปปช. เชิญนั้น บิ๊กป้อม ร้อง "โอ่ย!" บอก “ไม่ต้องห่วง เป็นตามระเบียบ ระเบียบเขาว่ายังไง ก็ว่าไปตามนั้น”‬

ทำไม ยังไม่ปลดล็อค!!

ทำไม ยังไม่ปลดล็อค!!
"บิ๊กป้อม" เผย รอ"พรรคใหม่" ตั้งพรรคเสร็จ จึงจะ"ปลดล็อค" มิย.นึ้ ให้พรรคเก่า-ใหม่ เดืนไป พร้อมกัน/ ยันไม่เลื่อนเลือกตั้ง ให้ศาลรธน.ตีความเร็ว /ยังไม่มีหลักฐาน"ท่อน้ำเลี้ยง" กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง"
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตรียมยื่นร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จนหลายฝ่ายกังวลว่าจะกระทบโรดแมพ จนเลื่อนเลือกตั้ง นั้น ว่า ยืนยันว่าการเลือกตั้งยังเป็นไปตามกรอบเดือนก.พ. 2562 ไม่มีการเลื่อนเลือกตั้ง แต่คงต้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความร่างกฎหมายส.ส.และส.ว. ให้เร็ว
เมื่อถามว่ารัฐบาลตั้งใจให้เลือกตั้งเดือนก.พ.2562 แต่เมื่อเกิดเงื่อนไขทางกฎหมาย จนทำให้ยากว่าจะเป็นไปตามโรดแมพ พล.อ.ประวิตร กล่าวขึ้นเสียงว่า “ก็บอกว่าไม่เลื่อน สนช.ต้องส่งกฎหมายทั้งสองฉบับให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งอยากให้ตีความให้เร็วหน่อย แค่นั้นก็จบ”
ส่วนกรณีพรรคการเมืองประชุมกับคณะกรรมการการเลือกต้อง (กกต.) เรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งคสช.เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ผ่านมา เคยบอกแล้วว่าการยกเลิกคำสั่งคสช.นั้น ต้องมีแน่นอน
"แต่ตอนนี้ต้องรอให้พรรคใหม่ ตั้งพรรคให้เรียบร้อยก่อน เพื่อให้ทุกพรรคเดินไปพร้อมกัน ในเดือนมิ.ย.นี้"
เมื่อถามว่าการปลดล็อกให้พรรคต้องมีเงื่อนไข เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่เห็นมีอะไรที่พรรคขัดแย้งกัน มีแต่สื่อนั่นแหละที่ขัดแย้ง
ส่วนที่พรรคและกกต.ขอให้คสช. แก้ไขคำสั่งที่ 53/2560 เกี่ยวกับการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีการแก้ไขคำสั่งกล่าว หากจะให้แก้ ขอให้กกต.ทำเรื่องมา
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณัที่พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯและหัวหน้าคสช. สั่งให้ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่า นายกฯเพิ่งสั่งการเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้เราดำเนินการยังไม่เสร็จ ซึ่งเราทราบดีว่ากลุ่มคนอยากเลือกตั้งเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหว มีพรรคและกลุ่มการเมืองที่ต้านคสช.อยู่เบื้องหลัง ซึ่งกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว เราเห็นก็รู้แล้วว่าเป็นพวกใคร แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐาน
ส่วนจะเชื่อมโยงกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ ยังไม่รู้

กล้าพูดเรื่องจริง

กล้าพูดเรื่องจริง



ประเทศไทยมี 77 จังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัด 77 คน
วันนี้มีผู้ว่าฯหนึ่งคน หนึ่ง จังหวัด ที่ควรได้รับการชื่นชม และให้กำลังใจ
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้มีความแข็งโป๊กตรงเป๊ะในการทำหน้าที่ควบคุมการใช้งบราชการอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
โครงการใดไม่ถูกต้องโปร่งใส ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ จะไม่ยอมเซ็นอนุมัติทุกกรณี
แม้แต่โครงการที่ใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล คสช. ถ้าหากไม่ถูกหลักเกณฑ์ ไม่รอบคอบรัดกุม
ผู้ว่าฯเชียงรายคนนี้จะไม่เปิดไฟเขียวอย่างแน่นอน!!
ล่าสุดที่เป็นข่าวครึกโครม ทำให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาด ไทย สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงด่วนจี๋ภายใน 3 วัน
คือกรณีเทศบาลนครเชียงราย ขออนุมัติใช้งบอัดฉีดเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ 32 ล้านบาท เพื่อสร้าง “อนุสาวรีย์ช้างคู่บารมีพญามังราย” บนเกาะกลางแม่นํ้ากก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนของรัฐบาล
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าเหตุผลที่ผู้ว่าฯเชียงรายไม่ยอมเซ็นอนุมัติ เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเกาะกลางลำนํ้ากกที่จะสร้างอนุสาวรีย์ช้างคู่บารมีพญามังราย เป็นพื้นที่สันดอนทรายรุกลํ้าลำนํ้าธรรมชาติอย่างชัดเจน
ขืนทะเล่อทะล่าเซ็นอนุมัติไป ผู้ว่าราชการเชียงราย ก็ผิดกฎหมายเต็มเปา
ซํ้าร้ายงบอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจ 32 ล้านบาทก็สูญฟรี
เมื่อผู้ว่าฯเชียงรายไม่ยอมเปิดไฟเขียว โครงการสร้างอนุสาวรีย์ช้างฯ บนเกาะกลางแม่นํ้ากก ก็ต้องยกเลิกไปด้วยประการฉะนี้แล
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผู้ว่าฯเชียงรายไม่ยอมเซ็นอนุมัติโครงการที่ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์
นับตั้งแต่ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าฯเชียงรายมาแล้ว 1 ปี มีโครงการอัดฉีดเร่งด่วนโดนเด้งกลับไปแล้ว 20 โครงการ!!
เช่น...โครงการสร้าง “ตุง” สัญลักษณ์กลางเมืองเชียงรายใช้งบ 50 ล้านบาท
โดนผู้ว่าฯสั่งเบรก เนื่องจากใช้วิธีพิเศษไม่เปิดประมูลแข่งขันเสนอราคาตามระเบียบราชการ
ส่วนโครงการที่ดำเนินการไปแล้ว แต่ตรวจพบว่าไม่ถูกหลักเกณฑ์ ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ สั่งให้ตรวจสอบย้อนหลังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรูรั่วซ้ำรอย
เช่น โครงการสร้างโรงแยกขยะกว่า 300 ล้านบาท สร้างแล้วเปิดใช้งานไม่ได้
โครงการสร้างรูปปั้น “ปลาบึก” ที่อำเภอเชียงของ
หรือโครงการก่อสร้างศิลปะในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งใช้งบสูงเว่อร์เกินจริงหลายเท่าตัว
ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ ย้ำว่าภารกิจสำคัญของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคนคือควบคุมการใช้งบราชการให้โปร่งใสเกิดประโยชน์คุ้มค่าเม็ดเงินที่ใช้ไป
ศักยภาพของจังหวัดเชียงรายควรเจริญกว่านี้ หากงบ 100 บาท เกิดประโยชน์ 90 บาทขึ้นไป
แต่วันนี้ 100 บาท ลงไปได้ 40 บาทเท่านั้นเอง
ผู้ว่าฯเชียงรายย้ำว่าจะไม่ยอมเซ็นอนุมัติโครงการใดที่รู้ว่าผิดอย่างแน่นอน
เพราะหากเซ็นอนุมัติไปก็เท่ากับเป็นผู้ทำให้เกิดทุจริตเสียเอง
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าปัญหาทุจริตรั่วไหลอย่างนี้ มีทุกจังหวัด ไม่ใช่มีที่จังหวัดเชียงรายแห่งเดียว
เพียงแต่มีผู้ว่าฯเชียงรายคนเดียวที่กล้าพูดเรื่องจริง
หวังว่าจะไม่โดนย้ายฟ้าผ่านะโยม.
“แม่ลูกจันทร์”

ลุ้นให้ผ่านพฤษภาคม

ลุ้นให้ผ่านพฤษภาคม



สังเกตว่าจากนี้ไป นักการเมืองอาชีพจะรักและห่วงใยเกษตรกรมากเป็นกรณีพิเศษ
อาการแบบที่นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ “ตั้งธง” ออกมาอัดสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) มั่วข้อมูลให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลตีปี๊บสร้างภาพ จากการระบุภายหลังใช้ระบบการตลาดนำการผลิต ทำให้จีดีพีภาคเกษตร ไตรมาสแรก ปี 2561 เพิ่มขึ้น 3.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ทั้งๆที่เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนการผลิต ขาดทุน มีหนี้สินเดือดร้อน
ประชาธิปัตย์กระโดดอุ้มชาวนา ชาวไร่ จี้จุดไปที่ปัญหาพืชผลทางการเกษตร
ตามฟอร์มแบบรู้ๆกัน มันคือจุดอ่อนไหวในห้วงเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาต้องทุ่มสรรพกำลังในการประคองภาวะราคาข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย ให้อยู่ในระดับที่เกษตรกรฐานเสียงใหญ่ของประเทศพึงพอใจ
นั่นก็เพราะมันมีผลโดยตรงต่อทิศทางการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ก็ยังดีที่นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาจากกระทรวงมหาดไทย เข้าใจพื้นฐานชาวบ้าน บวกกับสไตล์การทำงานแบบ “เข้าชน” ก่อนปัญหาจะถึงนายกฯ
แบบที่เห็นการจัดการปัญหาได้จบก่อนที่ม็อบประมงจะบุกประท้วงหน้าทำเนียบรัฐบาล
งานนี้นักการเมืองทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทยก็คงไม่ได้ด่าตีกินรัฐบาลง่ายๆ
กระทรวงเกษตรฯไม่ใช่บ่อน้ำมันเหมือนที่ผ่านมา
อีกจุดที่หนีไม่พ้นโดนล็อกเป้าก็คือกระทรวงพาณิชย์ ที่ทำงานสอดคล้องต่อเนื่องกับกระทรวงเกษตรฯในการรับผิดชอบราคาสินค้า ดูแลภาวะปากท้องชาวบ้าน
ตามสถานการณ์ที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ คงต้องโดนตอดเล็กตอดน้อย เป็นเป้าให้นักการเมืองด่าตีกินกระแส กระแนะกระแหนตลอดแน่
แต่ดูจากสไตล์มือบริหารอาชีพ “สนธิรัตน์” ก็ชั่วโมงบินสูงพอตัวอยู่
รู้ทิศทางลมทางการเมืองเหมือนกัน
จุดสำคัญมาถึงตรงนี้ น่าจะอยู่ที่อาการของ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ล่าสุดบ่นเป็นนัยเรื่องเล็กๆน้อยๆรัฐบาลต้องคิดทุกวัน และมักจะโดนเล่นงานทั้งสองทาง
ทำก็โดนอีกฝ่ายด่า ไม่ทำก็โดนอีกฝั่งตำหนิ
แต่รัฐบาลนี้จำเป็นต้องใช้กฎหมายและวิธีปฏิบัติที่เหมาะสม
จับอารมณ์ สถานการณ์มาถึงจุดที่ “นายกฯลุงตู่” ต้องโชว์ความเด็ดขาดในการตัดสินใจ ถ้าคิดว่าอะไรถูกต้อง ต้องกล้าใส่เกียร์เดินหน้า ไม่กลับไปกลับมาให้เสียรังวัด
อย่างน้อยก็เป็น “จุดขาย” สไตล์ “ลุงตู่” ผู้ถือธงนำไปสู่การปฏิรูป
มีผลต่อกระแสในการรีเทิร์น “นายกฯคนใน” ที่เชื่อว่า เจ้าตัวเอาแน่ รอแค่เปิดตัวชัดเจน
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่เหลือเวลาอีกไม่นาน
ตามบรรยากาศเร้าโหมดเลือกตั้ง กับฉากคึกคัก นักการเมืองแห่เข้าร่วมวงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มี 55 พรรคเก่า ร่วมประชุมชี้แจงแนวทางเกี่ยวกับการดำเนินการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองตามมาตรา 141 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ประกอบคำสั่ง คสช.53/2560
ตามกำหนดดีเดย์ คสช.เปิดไฟเขียวให้ในวันที่ 1 เมษายนนี้
ขาใหญ่ทั้งเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา มากันครบหน้าครบตา
กระตุ้นจังหวะปี่กลองเชิดฉิ่งโหมโรงเลือกตั้ง
ท่ามกลางแนวโน้มสถานการณ์ที่น่าจะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ต่อเนื่องจากร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.
แต่จับทางจากเสียงส่วนใหญ่ก็สนับสนุนให้ “นายกฯลุงตู่” ดำเนินการให้เกิดความชัดเจนไปเลยทีเดียว
แม้แต่ทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ยังเห็นด้วย เพื่อไม่เกิดปัญหาวุ่นวายภายหลัง
เชื่อว่าไม่กระทบโรดแม็ปเลือกตั้งมากนัก
ตามรูปการณ์ ทุกฝ่ายเริ่มมั่นใจว่าได้เลือกตั้งแน่
แต่อีกมุมก็ยังมีขบวนการส่อทำให้เกิดความวุ่นวาย สถานการณ์แบบที่ม็อบ “จ่านิว–รังสิมันต์ โรม” นัดระดมม็อบคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนไหวในโอกาสครบรอบ 4 ปี คสช.ยึดอำนาจ
นั่นก็ทำให้สถานการณ์ยังต้องรอลุ้นจับตาเดือนพฤษภาคม
ถ้าวุ่นวายมาก ทุกอย่างอาจพลิกผัน.
ทีมข่าวการเมือง