PR
วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558
“หยาดน้ำตาและคำขออภัย” คำต่อคำในถ้อยแถลงบทเรียนทุ่งยางแดง
หมีขาวรุกเอเชีย!! “นายกฯรัสเซีย” เยือนไทยในรอบ 25 ปี
|
| |||
|
นายกฯรัสเซียเดินทางมาเยือนไทยในรอบ 25 ปี แต่สื่อฯไทยแค่ "หรอ?…"
-------------
07/04/2558
----------
http://tass.ru/en/economy/787367
http://www.thaigov.go.th/…/government…/item/91142-91142.html
คอร์รัปชัน ต้นเหตุสำคัญของการถูกระงับสายการบิน
โครงการหมาเฝ้าบ้าน เปิดรับสมัครอบรมเชิงปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน รุ่น 13 ภาคอีสาน
อบรมวันเสาร์ ที่ 16 – อาทิตย์ ที่ 17 พฤษภาคม ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
รายละเอียด http://www.anticorruption.in.th/watchdog-13/
โครงข่ายสายสัมพันธ์
03 เม.ย. 2558
คอลัมน์...ไม้หน้าสาม : เชื้อชั่วไม่เคยตาย กุดหัวอย่าเหลือหาง
ใครที่เล่นโซเชียลมีเดีย แล้วบังเอิญอยู่ในกลุ่มก้อนเดียวกัน หรือ จอย กับเฟซบุ๊คเพจของ “คุณสุริยะใส กตะศิลา” ที่ใช้ชื่อเพจว่า “สุริยะใส กตะศิลา” คงได้อ่านข้อความล่าสุดเมื่อ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ชื่อหัวเรื่องว่า “3 เหตุใหญ่ อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” กันบ้างแล้ว
ฤๅ ... จะได้เห็นมาตรการที่จัดการ “วัดพระธรรมกาย” เสียที
หรือแค่อาการ “มโน” และ “ความคาดหวัง” เท่านั้น
ข้อความที่ “สุริยะใส” โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊คบางส่วนนั้น ระบุว่า “กรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ (กสท.) มีมติสั่งพักการออกอากาศของ Peace TV และ DNN 2 ช่องของคนเสื้อแดง กรณีการลาสิกขาแบบกะทันหันของพระอาจารย์เพชร หรือพระครูวินัยธร และกรณีการทลายรื้ออาณาจักรโบนันซ่าที่เขาใหญ่
3 เหตุการณ์จะโดยบังเอิญหรือโดยออกแบบตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ล้วนแล้วเกี่ยวโยงเชื่อมต่อกันอย่างมีนัย .... ความสัมพันธ์ของ อดีตพระอาจารย์เพชร แกนนำแดง โบนันซ่าและทักษิณยิ่งเปลือยล่อนจ้อนในคลิปถั่งเช่า แจ่มแจ้งแดงแจ๋ขนาดนี้ เชื่อว่าคงได้เห็นอะไรดีๆ ตามมาอีกเป็นขบวน
นี่ยังไม่อยากคิดว่าวัดพระธรรมกาย สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นก่อนหน้านี้โยงใยถึงอดีตพระอาจารย์เพชรผู้มีนามกระฉ่อนว่า AJP ในวงการหุ้นหรือไม่
ค่อยๆ ถอดรหัสจะถึงบางอ้อได้ครับ”
“สุริยะใส” เริ่มต้นด้วยเหตุการ “สั่งปิดทีวี.เสื้อแดง 2 ช่อง” นั่นคือ ช่อง “Peace TV” กับช่อง “TV24 สถานีประชาชน” ซึ่ง กสทช.มีมติให้ยุติการออกอากาศ 7 วัน ผมว่านั่นเป็นความถูกต้องชอบธรรม จากที่เคยได้ดู “ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. “แดงทั้งแผ่นดิน” อย่าง “หมอเหวง โตจิราการ” จัดรายการ เนื้อหาต้องยอมรับเลยว่า ล่อแหลม!! สุดๆ บางที แกนนำเสื้อแดง เหล่านี้ก็ใช้ทีวี. 2 ช่องนี่แหละครับ เป็นที่ติดต่อสั่งการไปยังพลพรรคผู้ภักดี
บังเอิญอย่างที่ “สุริยะใส” เขียนไว้หรือป่าวไม่รู้
แต่พระรูปนี้ก็ลาสิกขาบท เรียบร้อย เอาตัวรอดหายเข้ากลีบเมฆ
พระรูปนี้คือ พระครูวินัยธร ฐานกโร หรือ “พระอาจารย์เพชร” เจ้าอาวาส วัดประยงค์กิตติวนาราม แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กรุงเทพฯ เป็นชาวนครศรีธรรมราช เป็นพระกรรมฐานสายเมืองเหนือ สายธรรมครูบาบุญชุ่ม ครูบาอริยชาติ ได้ธุดงค์มาปักกลดบนที่ดินของ “ประยงค์ เหมกรณ์” และด้วยความเลื่อมใสศรัทธา จึงได้บริจาคที่ดินจำนวน 2 ไร่ เพื่อตั้งสำนักสงฆ์ จึงใช้ชื่อว่าสำนักสงฆ์ประยงค์กิตติวนาราม อีก 4 ปีต่อมา ได้เปลี่ยนจากสำนักสงฆ์เป็นวัดประยงค์กิตติวนาราม
คล้ายๆ การกำเนิด “วัดพระธรรมกาย”
คล้ายแม้กระทั่งการสร้างฐานอำนาจใหม่
“พระอาจารย์เพชร” ไม่ใช่พระเกจิชื่อดังในหน้าหนังสือพิมพ์หัวสี แต่ในแวดวงตลาดหุ้น เซียนหุ้นและนักลงทุนต้องรู้จักชื่อ “พระอาจารย์เพชร” แน่นอน เนื่องจากนักเลงหุ้นขาใหญ่หลายคนเป็นลูกศิษย์ “พระอาจารย์เพชร” เริ่มปรากฏเป็นข่าวกับ “จตุพร” เมื่อแกนนำ นปช.ยกคณะ ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ฐานหลวงพ่อทวด ใกล้ “โบนันซ่า เขาใหญ่” มีพระอาจารย์เพชร เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ จนถึงงานครบรอบวันคล้ายวันเกิด 48 ปีให้กับ “จตุพร” ซึ่ง มีพิธีสวดเสริมบารมีให้แก่ “จตุพร” โดยพระลามะจากทิเบต ด้วย
วันนี้ว่ากันว่า “พระครูวินัยธร” หรือ “พระเพชร” ชิง “ลาสิกขาบท” เป็น “ฆราวาส” เพื่อหาที่บดบังไม่ให้กระแส “ปรับทัศนคติ” บางคนปูดออกมาว่าไปอยู่กับสหายสนิทชื่อ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษคดีอาญาที่ “นครดูไบ” แล้ว
จากนั้นก็ยึดโยงเข้ามาเกี่ยวข้องกับ “โบนันซ่า” สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่โด่งดัง ทั้งยังเป็นที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่หมายรวมถึง “แดงเทียม” ในวิจารณญาณของ “จตุพร” - ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ แกนนำเสื้อแดง คนอื่นๆ “โบนันซ่า” ที่กิจการของคนตระกูล “เตชะณรงค์” นั่นแหละ
“ไพวงษ์ เตชะณรงค์” เจ้าของ “โบนันซ่า” ก็แนบแน่นจนเกือบเป็นเนื้อเดียวกับแกนนำและกลุ่มคนเสื้อแดง จากที่ปรึกษา “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เมื่อครั้งตั้งพรรคการเมืองชื่อ “พรรคความหวังใหม่” กระทั่งย้ายมาเปิดสาขา “ความหวังใหม่ 2” ในชื่อว่า “พรรคนำไทย” ที่มีชื่อ “อำนวย วีรวรรณ” เป็นหุ่นเชิด ร่วมกับ “เสธ.นิด” พล.ต.ศรชัย มนตริวัต คนที่เป็นนายทหารคนสนิทของ “บิ๊กจิ๋ว”
เมื่อ “บิ๊กจิ๋ว” เบื่อเป็น “หัวราชสีห์” ผันกายเป็น “หางหมา”
ย้ายคอกมาสังกัด “ไทยรักไทย” น้องรักอย่าง “ไพวงษ์” ติดมาจึงไม่แปลก
ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น คงไม่สามารถแยกแยะระหว่าง “โบนันซ่า-คนเสื้อแดง-พรรคเพื่อไทย” ได้เสียแล้ว หาก “ไพวงษ์” จะบอกเพียงว่า เป็นความแนบแน่นที่ไม่อาจปฏิเสธให้ “เสื้อแดง” ใช้สถานที่ “โบนันซ่า” ในการซ่องสุมชุมนุม คงไม่ได้เสียแล้ว
ในเมื่อ “รัฐบาลข้าวเน่า” ของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็มีชื่อของ “ไพวงษ์ เตชะณรงค์” ร่วมอยู่ในขบวน “ข้าราชการการเมือง” มีตำแหน่งเป็น “ที่ปรึกษา มท.1” ที่ชื่อ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” ซึ่งก็คือ หัวหน้าพรรคกำมะลอ ของ “พรรคเพื่อไทย” นั่นเอง
“จตุพร” ออกมาโชว์กึ๋นผ่านรายการมองไกล ทางช่อง “Peace TV” โดยเชื่อว่า ทั้งกรณีของ “พระอาจารย์เพชร” และ “โบนันซ่า” เป็นการรุกไล่เช็คบิลของผู้มีอำนาจ เขายังบอกด้วยว่า “พระอาจารย์เพชร” ไม่ใช่ท่อน้ำเลี้ยง เพราะ “Peace TV” มี “เรตติ้ง” เป็น อันดับ 1 ของทีวีดาวเทียม สูงกว่าทีวีดิจิตอล และฟรีทีวีบางช่อง รายได้หลักมาจากการหาสปอนเซอร์ ไม่ใช่จะ “ทิดเพชร”
เช่นเดียวกับ “ไพวงษ์ ณ โบนันซ่า” ท่อน้ำเลี้ยงเสื้อแดง
“จตุพร” เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า “กลั่นแกล้ง เช็คบิล”
พอฟังสิ่งที่ “จตุพร” คิด และพูด ทำให้นึกเลยไปถึง “วัดพระธรรมกาย” ในทิศทางเดียวกับที่ “สุริยะใส” คิดไว้ โอกาสที่จะตรวจสอบ สังคายนา ปฏิรูปวัดพระธรรมกาย ให้กลับมาสู่ความเคร่งครัดทาง “พระธรรมวินัย” เพื่อป้องกัน “พุทธจักร” ถูกบ่อนทำลาย ไม่กลายเป็น “นิจจัง สุขัง อัตตา” จึงมีโอกาสเป็นไปได้
ไม่ว่าจะเป็นอย่างที่ จตุพร คิด หรือ สุริยะใส คิด
แต่เชื่อว่าคาบนี้ คนดีอยู่ได้ คนจัญไรอยู่ยากเสียแล้ว
ถึงแม้เชื้อชั่วไม่เคยตาย เชื้อร้ายไม่มีหมด
แต่ถ้า คสช.มุ่งมั่น กุดหัวอย่าให้เหลือหาง เชื้อชั่วเชื้อร้ายหมดสิทธิ์ขยายพันธุ์
ค้นโบนันซ่า เขาใหญ่
ตำนานนายทุนเสื้อแดงแห่งโบนันซ่า (เตชะณรงค์) กำลังถูกตรวจสอบว่ารุกป่าสงวน แล้วลานคนเสื้อแดงที่ใช้ในการปลุกระดมมวลชน ทุกครั้งที่มีการชุมนุมใหญ่กำลังจะกลายเป็นป่าสงวนไปในบัดดล
เครดิต/โพสต์ทูเดย์
รองปลัดยุติธรรมควงกองทัพภาคที่ 2 บุกตรวจสนามแข่งรถโบนันซ่าเขาใหญ่ 151 ไร่ หลังได้รับการร้องเรียนรุกที่ป่าสงวน
เมื่อวันที่ 31 มี.ค.เวลา 09.30 น. พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รอง ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.อ.สมหมาย บุษบา ที่ปรึกษากฎหมาย กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) กรมที่ดิน พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปท. ดีเอสไอ ตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าตรวจสอบ โบนันซ่าเขาใหญ่ เลขที่ 235 หมู่ 11 ถนนธนะรัชต์ ตำบลขนงพระ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หลังพบว่าอาจมีการบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่โบนันซ่าเขาใหญ่ แบ่งเป็นพื้นที่ทำสนามแข่งรถโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ และส่วนห้องพักจำนวน 15 หลังติดเขาเสียดอ้า เขานกยุง เขาอ่างหิน และอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร รวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 151 ไร่
ภายหลัง พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รอง ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.อ.สมหมาย บุษบา ที่ปรึกษากฎหมาย กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2)พร้อมคณะเดินสำรวจพื้นที่โบนันซ่าเขาใหญ่ ประมาณ 20 นาที มีนาย อารักษ์ เตชะณรงค์ และน.ส.พัทธมน เตชะณรงค์ น้องชายและบุตรสาวนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ เจ้าของโบนันซ่าเขาใหญ่ มาพบทางเจ้าหน้าที่ พร้อมนำเอกสารสิทธิ์บางส่วน มาให้ตรวจสอบ
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า วันนี้เป็นการบูรณาการกำลังหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบพื้นที่โบนันซ่าเขาใหญ่บุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีการบุกที่ ทางรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมลงมาตรวจสอบ และจะทวงเอาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ สมบัติของชาติกลับคืนมา
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าโบนันซ่าเขาใหญ่นั้นในส่วนพื้นที่บ้านพักติดกับ เขาเสียดอ้า เขานกยุง เขาอ่างหิน และอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ไม่สามารถออกโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์ใดๆได้ ในส่วนพื้นที่สนามแข่งรถนั้นทราบว่าประมาณปี พ.ศ.2545 ก่อนเป็นพื้นที่ลำรางน้ำและทางสาธารณะ หลังจากนี้ก็จะให้โอกาสทางเจ้าของโบนันซ่านำเอกสารสิทธิ์การครอบครองพื้นที่มาตรวจสอบมาเปรียบเทียบเอกสารทางราชการ ถูกผิดว่ากันตามกฏหมาย
พ.อ.สมหมาย เผยว่า ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและชาวบ้านในพื้นที่มานานแล้วว่า โบนันซ่าเขาใหญ่ บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เบื้องต้นจากการเทียบเอกสารทางราชการพบว่า โบนันซ่าเขาใหญ่ ในส่วนสนามแข่งรถประมาณ 151 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ สปก. 72 ไร่ นส.3 ก. 47 ไร่ และป่าสงวน 32 ไร่ อีกทั้งในส่วนที่พักยังติดพื้นที่ป่าถาวร ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ครอบครองใดๆ ได้เลย ทั้งในส่วนพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาทราบว่ามีเอกชนถือครองที่ดินนับพันไร่ ซึ่งเมื่อก่อนรัฐแบ่งที่ดินให้ชาวบ้านในพื้นที่ทำกิน หลังจากนี้จะให้เจ้าของกิจการโบนันซ่าเอาเอกสารสิทธิ์มาให้ตรวสอบ หากพบว่ารุกพื้นที่ป่าสงวนจริง การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ พร้อมแจ้งข้อหาแผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 และข้อหายึดถือครอบครองทำประโยชน์ แผ้วถาง เป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14
ด้านน.ส.พัทธมน กล่าวว่า เป็นผู้บริหารโบนันซ่าเขาใหญ่รุ่นที่ 2 ของตระกูล เข้ามาบริหารต่อจากบิดา อยากจะขอความเป็นธรรมให้ธุรกิจของครอบครัวบ้าง ผิดหรือถูกก็ว่ากันไปตามกฏหมาย มั่นใจว่าถูกกฏหมาย ยินดีให้เจ้าหน้าที่รัฐตรวจสอบ เนื่องจากที่ดินและเอกสารสิทธิ์ครอบครอบซื้อต่อมาจากชาวบ้าน บางรายมาร้องไห้ขอร้องให้ช่วยซื้อ จึงซื้อที่ดินมาทีละแปลงต่อจากชาวบ้าน พร้อมซื้อทุกครั้งจะต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอด ในส่วนสนามแข่งรถนั้นสร้างมา 3 ปีแล้ว ปีหนึ่งมีการใช้สนามแข่งรถประมาณ 2-3 ครั้ง
ด้านนายอารักษ์ เผยว่า โบนันซ่าเขาใหญ่ทำมา 20-30 ปีแล้ว มีพื้นที่ประมาณ 3-4 แปลง ในส่วนจำนวนพื้นที่นั้น ไม่ทราบจำนวนว่าถือเอกสารสิทธิ์ครอบครองกี่ไร่ เนื่องจากเอกสารส่วนใหญ่อยู่ที่ออฟฟิศที่กรุงเทพมหานครหมดเลย แต่ตระกูลทำธุรกิจมานานและมีเอกสารครอบครองทุกแปลง อยากขอความเป็นธรรมในการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
ฐานทุนไพรวงษ์กว่า2พันล้านโบนันซ่า
ฐานธุรกิจ 2,800 ล้าน“โบนันซ่า”ก่อน“ไพวงษ์”ถูก คสช.คุมตัว
พลิกอาณาจักรธุรกิจ“โบนันซ่า”ของกลุ่มเตชะณรงค์ เมื่อ“ไพวงษ์”ถูก คสช.เรียกตัว ปัจจุบันอยู่ในกำมือ “สงกรานต์”ทายาท 10 บริษัทสินทรัพย์ 2,889 ล้าน
นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ เจ้าของธุรกิจกลุ่มโบนันซ่าซึ่งถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เรียกรายงานตัวร่วมกับบุคคลอื่น 233 คนนั้นแม้ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินให้พรรคเพื่อไทย หรือไม่?
กระนั้นความสัมพันธ์กับบุคคลในพรรคเพื่อไทยนั้นพบว่านายไพวงษ์เคยได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2554 (คำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 425/2552)
จากการตรวจสอบปูมหลังทางธุรกิจพบว่านายไพวงษ์เป็นกรรมการ 22 บริษัท ได้แก่ บริษัท แคลิฟอร์เนีย เรียล เอสเตท แมนเนชเม้นท์ จำกัด บริษัท ทีนโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด บริษัท เกตเวย์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท ครีเอตีฟ เซเว่น จำกัด บริษัท คอมมิวนิเคชั่น เน็ตเวอร์ค คอร์โปเรชั่น บริษัท เชลน จำกัด บริษัท ดอกกราย บ้านและที่ดิน จำกัด บริษัท ไทม์ เทร็นด์ จำกัด บริษัท ไทยวู้ด เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท นทีทัวร์ จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด โบนันซ่า คอทเทจ บริษัท พี.เอส.เค.แอสโซซิเอทส์ จำกัด บริษัท เพื่อน จำกัด บริษัท รัตนฤทธิ์ จำกัด บริษัท ไร้ท์ พิคเจอร์ส จำกัด บริษัท วังกะทะ รีสอร์ท จำกัด บริษัท วิคเต้อร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท เวิลด์ คลาส โกลด์ จำกัด บริษัท ไวตา-เพค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท สยาม กอสซิป พับบลิเคชั่น จำกัด บริษัท สินค้าอาหารธรรมชาติ จำกัด และ บริษัท อาร์ พี เอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ในจำนวนนี้ 2 บริษัทคือ บริษัท เพื่อน จำกัด และ บริษัท สินค้าอาหารธรรมชาติ จำกัด มีนายคฤกพล ยงใจยุทธ บุตรชาย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ร่วมเป็นกรรมการด้วย
ทั้ง 22 บริษัทเลิกดำเนินการแล้ว
ปัจจุบันธุรกิจเครือโบนันซ่าที่เปิดดำเนินการ 9 แห่งอยู่ในความดูแลของนางภัสสรา เตชะณรงค์ นายสงกรานต์ เตชะณรงค์ บุตชาย น.ส.ไพพรรณี เตชะณรงค์ น.ส.พัทธมน เตชะณรงค์ และนายภูผา เตชะณรงค์ มีสินทรัพย์รวมประมาณ 700 ล้านบาท
และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์คือ บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนวันที่ 24 กันยายน 2547 ทุน 791,397,723 บาท ขายและติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องรวมถึงรับจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ตั้งเลขที่ 1000/65,66,67 อาคารพี.บี.ทาวเวอร์ ชั้น 16 ซอยสุขุมวิท 71 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ แจ้งผลประกอบการ ปี 2556 รายได้ 1,386,252,505 บาท กำไรสุทธิ 121,270,008 บาท สินทรัพย์ 2,183,255,460 บาท บาท กำไรสะสม 314,231,115 บาท นายภูผา เตชะณรงค์ ถือ 4.64% น.ส.ไพพรรณี เตชะณรงค์ 4.2%
รวมสินทรัพย์ 10 บริษัท ประมาณ 2,889 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามมีพียงบริษัทเดียวที่นายไพวงษ์ถือหุ้นคือ บริษัท แคลิฟอร์เนีย เรียล เอสเตท จำกัด จดทะเบียนวันที่ 21 มิ.ย.33 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท ถือหุ้น 70.50%
ในจำนวนนี้บริษัท ซับม่วง จำกัด ประกอบธุรกิจค้าอสังหาริมทรัพย์ มีสินทรัพย์ 209 ล้านบาท
โครงการบ้านตากอากาศในโบนันซ่ามีนักการเมืองเป็นลูกค้าจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้พื้นที่โบนันซ่า อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถูกยืมใช้เป็นสถานที่จัดชุมนุมทางการเมืองของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
กระทั่งเกิดรัฐประหาร 22 พ.ค.57 นายไพวงษ์ถูกเรียกรายงานตัวในที่สุด
ธุรกิจกลุ่มเตชะณรงค์ในปัจจุบัน
ชื่อ | วันจดทะเบียน | ทุนล่าสุด | ประเภทธุรกิจ | สินทรัพย์ |
1.บริษัท โบนันซ่า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่ คลับ จำกัด | 31 ก.ค. 2535 | 50 ล้าน | สนามกอล์ฟ | 175,002,666 |
2.บริษัท ชูเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด | 15 ส.ค.2545 | 20 ล้าน | จัดสรรและปลูกสร้างอาคารเพื่อขาย ให้เช่า ให้เช่า | 180,083,656 |
3.บริษัท ซับม่วง จำกัด | 10 ก.ย.2533 | 50 ล้าน | ขายที่ดินและจัดสรรที่ดิน | 209,067,405 |
4. บริษัท โบนันซ่า พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด | 23 ธ.ค.2548 | 5 ล้าน | ซื้อขาย พัฒนาที่ดิน | 19,184,967 |
5.บริษัท โบนันซ่า รีสอร์ท โฮเต็ล จำกัด | 14 พ.ค. 2534 | 50 ล้าน | บริการโรงแรม บ้านพักตากอากาศ | 109,083,521 |
6.บริษัท 75 ในบ้าน จำกัด | 24 ก.ย. 2556 | 1 ล้าน | ประกอบกิจการนำเข้าส่งออก และจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป | ไม่มีข้อมูล |
7. บริษัท แคลิฟอร์เนีย เรียล เอสเตท จำกัด | 21 มิ.ย. 2533 | 50 ล้าน | พัฒนาที่ดิน | 1,194,649 |
8.บริษัท วิถีถิ่นไทย จำกัด | 28 เม.ย. 2546 | 5 ล้าน | ประกอบกิจการค้าผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นบ้าน | 11,538,990 |
9.บริษัท โลหะกิจขจร จำกัด | 9 ส.ค. 2548 | 1 ล้าน | ซื้อขายวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง | 922,166 |
10.บมจ. โซล่าตรอน | 24 ก.ย. 2547 | 791,397,723 | ขายและติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์-รับจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ | 2,183,255,460 |
ที่มา:กรมพัฒนาธุรกิจการค้า,สำนักข่าวอิศรา รวบรวม