PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558

นายกฯรัสเซียเดินทางมาเยือนไทยในรอบ 25 ปี แต่สื่อฯไทยแค่ "หรอ?…"

นายกฯรัสเซียเดินทางมาเยือนไทยในรอบ 25 ปี แต่สื่อฯไทยแค่ "หรอ?…"
-------------
เฮ้อ!… ปูตินอุตส่าห์ส่งเบอร์สองมาจับมือกับนายกฯไทยอย่างเป็นทางการเพื่อตกลงเรื่องความสัมพันธ์ในทุกมิติทั้งด้านธุรกิจการค้าการลงทุน อ้านอาวุธ ด้านพลังงาน ด้านการท่องเที่ยว การประมง และด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เปิดโอกาสให้ไทยหาช่องทางระบายสินค้าการเกษตรออกไปเปิดตลาดใหม่ในรัสเซียให้ได้ โดยก่อนที่นาย ดมิทรี เมกเวเดฟ (Dmitry Medvedev) นายกฯของรัสเซียซึ่งปูตินไว้ใจมาก ถึงกับให้ขึ้นเป็นปธน.คนที่สองของรัสเซียแทนในช่วงปี 2008–2012) เพื่อสลับกับปูตินที่เป็นมาแล้วถึง 8 ปี จากเพื่อเปิดทางให้ปูตินก้าวขึ้นมาเป็นปธน.ของรัสเซียอีกสมัย ฝั่งรัสเซียก็ส่งบอสใหญ่ของสื่อฯรัสเซีย (TASS) มาสัมภาษณ์ลุงตู่ล่วงหน้าหนึ่งวันเพื่อเปิดตลาดอาวุธในกองทัพไทย รวมถึงสัมภาษณ์ว่าทั้งสองประเทศจะคุยกันในเรื่องอะไรบ้าง
เป็นงานว่างั้นเถอะ เพื่อดูซิว่ากองทัพไทยจะสนใจเครื่องบินรบ Su-3 หรืือรุ่นที่5 T-50 และเรือดำน้ำ Black hole รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ Mi-28 Night Hunters, Ka-52 Alligator จากรัสเซียบ้างหรือเปล่า
แต่พอนายกฯรัสเซียเดินทางมาถึงเมืองไทยแทบจะไม่เห็นสื่อฯไทยทำข่าวเรื่องนี้เลย ก็มีบ้างแต่ไม่มาก ไม่คุกคักเท่าไรนัก ประมาณว่า "หรอ?… แล้วไงหรอ?.." แต่พากันไปเล่นข่าวอดีตนักร้องขี้ยาบุกบ้านน้องสาวอดีตภรรยา และข่าวดารากับดอกไม้แดง ข่าวพรรคการเมืองรุมจวกโหรที่ทำนายว่าลุงตู่จะนั่งเก้าอี้นายกฯยาวววววว และข่าว "เอ่อ… ท่านคะ...ถ้าต่างชาติไม่พอใจหรือเป็นกังวลใจเกี่ยวกับรธน.ของไทยจะว่าอย่างไรคะท่าน?" นั่นแหละครับสื่อฯไทย
สื่อฯหลักของไทยไม่ลง เราลงให้แฟนเพจอ่านก็ได้ว่าสื่อฯรัสเซียเขาลงข่าวกรอบความร่วมมือระหว่างไทยกับรัสเซียที่นายกฯรัสเซียและคณะกับรัฐบาลลุงตู่พร้อมทั้งนักธุรกิจจะพูดเรื่องอะไรกันบ้างในการให้สัมภาษณ์แบบเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ข่าวเรื่องซื้อขายอาวุธ (เครื่องบิน-เฮลิคอปเตอร์) นั้นลงให้อ่านแล้ว คราวนี้มีข่าวด้านอื่นบ้างครับ
ก่อนที่ Medvedev จะเดินทางมาพบปะกับลุงตู่อย่างเป็นทางการสื่อฯรัสเซียได้มาสัมภาษณ์ลุงตู่ล่วงหน้า โดยลุงตู่ให้สัมภาษณ์ว่า การพบปะกับนายกฯ Medvedev นี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก และลุงตู่รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยที่จะได้พบกับนายกฯของรัสเซีย "ผมกำลังรอคอยการพบปะกับนายกรัฐมนตรีของรัสเซียในฐานะที่เพื่อนคนหนึ่งซึ่งเคยพบมาแล้วหนหนึ่งที่ประเทศพม่า (เมียนม่า)" (พบกันที่งานประชุมสุดยอดผู้นำเอเซียตะวันออกปีที่แล้วในกรุงเนปิดอร์ East Asia Summit 2014)
การพูดคุยกันที่กรุงเทพฯในครั้งนี้จะครอบคลุมในหลายด้าน (ทำเนียบรัฐบาลไทยบอกว่าในทุกมิติ-มันสั้นเกินไปไม่มีรายละเอียดอะไรเลยแล้วจะให้สื่อฯเขาลงข่าวอย่างไรหละครับท่าน?) ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ลุงตู่บอกว่าทางไทยเราคาดหวังว่าจะขยายความร่วมมือทางด้านการค้ากับรัสเซียเพิ่มขึ้น ในฐานะที่ไทยเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุด (ต้องพูดอย่างนี้แหละถึงจะขายได้) ในการคุยกับนายกฯรัสเซียนั้นลุงตู่หวังว่าจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันซึ่งสามารถนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริงได้ โดยไม่มีการล่าช้า (นี่!… ต้องอย่างนี้หละครับ ถ้าคุยกันแล้วไม่มีความคืบหน้าหรือนำไปปฏิบัติไม่ได้แล้วจะคุยทำไมอ่ะ ต้องแบบนี้แหละรวดเร็วเห็นผลทันตา ลุยไปโลดลุงตู่)
ประเทศไทยต้องการที่จะเพิ่มคุณภาพของสินค้าที่ส่งออกไปยังรัสเซียและต้องการจะดึงดูดนักลงทุนจากกรุงมอสโคว์ (ให้มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นด้วย) (สุดยอดเลยครับ!) "อุตสหกรรมด้านการประมงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เรามีเรือประมงอยู่เป็นจำนวนมาก (นี่ขนาดถูกอินโดฯ ยึดไปหลายลำแล้วนะ ฮ่าๆๆ) แต่ล้าสมัย เราสามารถสร้างผู้ประกอบการร่วมกันได้ (กับรัสเซีย) ทำให้เรือของเราทันสมัย และในขณะเดียวกันก็ใช้ (เรือ) ของคุณ (รัสเซีย) จับปลาร่วมกัน" ลุงตู่กล่าว
นี่ถือว่าเป็นความคิดเฉียบแหลมจากลุงตู่มากๆ เพื่อหาทางออกให้กับอุตสาหกรรมการประมงของไทยที่ตอนนี้กำลังถูกสหรัฐฯและยุโรปบีบและกีดกันไม่ให้นำเข้าสินค้าการประมงทางทะเลจากไทยโดยยกเรื่องการค้ามนุษย์และการใช้แรงงานต่างด้าวอย่างผิดกฎหมายในเรือประมง ถ้าอียูไม่ซื้อ เราก็ขายให้รัสเซียก็ได้ เจ๋งไหมหละครับ?
นอกจากนี้แล้วลุงตู่ยังต้องการจะคุยกับนายกฯรัสเซียเกี่ยวกับเรื่องทางการเงินอีกด้วย โดยลุงตู่กล่าวว่า "มีหลายประเทศเข้าร่วมในภาคการเงินของไทย เราอยากให้รัสเซียเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน" (อิๆ… อเมริกาได้ยินข่าวนี้จะว่าอย่างไรหนอ? มันสะใจเจงเหวย)
การพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องน้ำมันและแก๊สถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในวาระการประชุมนี้ ลุงตู่พูดว่า "ยกเว้นเรื่องระยะทางที่ไกลระหว่างไทยกับรัสเซียแล้ว เราต้องคิดหาทางที่ให้มีความร่วมือที่เข้ากันได้กับเงื่อนไขผลประโยชน์ร่วมกันด้วย" (นี่อยู่ในนโยบายความมั่นคงด้านพลังงาน คือเพิ่มแหล่งนำเข้าพลังจากแหล่งอื่นบ้างเพื่อกระจายความเสี่ยง รัสเซียก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง)
คราวนี้ก็ด้านการท่องเที่ยวบ้าง ในการพบปะกันกับนายกฯรัสเซียนั้น ลุงตู่ใหัสัมภาษณ์กับสื่อฯของรัสเซียว่า "เราจะก่อตั้งศูนย์การพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างไทย-รัสเซียขึ้นมาร่วมกัน เอกสารสำหรับ (ดำนเนินการ) ในเรื่องนี้พร้อมอยู่แล้ว"
จบข่าวดี ครับผม นี่คือตัวอย่างการทำข่าวจากสื่อฯฝั่งรัสเซียนะครับผม


ไม่มีความคิดเห็น: