PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ข่าว14/2/60

เคลื่อนไหวนายกฯ

นายกฯ กลับเข้าทำเนียบแล้ว หลังนำครม.-คสช.กราบสักการะสมเด็จพระสังฆราชเพื่อความเป็นศิริมงคล เตรียมประชุม ครม.ตามปกติ 

ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าวันนี้ มีการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นประธานการประชุมฯ ได้เดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลแล้ว หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้นำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช  ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล  ขณะที่บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล บริเวณตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีบรรดารองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทยอยเดินทางเข้ามาเพื่อเตรียมเข้าร่วมประชุมฯ ท่ามกลางการรักษความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้นำนางสาวชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 เข้าพบนายกรัฐมนตรีในฐานะตัวแทนประเทศไทยที่สร้างชื่อเสียงจากการเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์
--------
นายกฯ นำ ครม. - คสช. เข้ากราบถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราชแล้ว ขณะประชาชนแน่น รอเข้าเฝ้าจนล้นถนนอัษฎางค์

บรรยากาศที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภาริยา นำคณะรัฐมนตรี และ คสช. ประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อ่านว่า สม-เด็ด-พระ-อะ-ริ-ยะ-วง-สา-คด-ตะ-ยาน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติ

ขณะที่บรรยากาศที่บริเวณวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ประชาชนที่มารอคิวเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก คิวแรกตั้งแต่เวลา 09.00 น. ซึ่งบริเวณโดยรอบวัด มีประชาชนจำนวนมากรอเข้าคิวเป็นจำนวนมาก จนล้นถนนอัษฎางค์

อย่างไรก็ตาม ทางวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร จะเปิดโอกาสประชาชนได้เข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จนถึงที่ 15  ก.พ. 2560 เป็นวันสุดท้าย
--------
สมเด็จพระสังฆราช มีพระดำรัสกับนายกรัฐมนตรี มีสติในการทำงาน ไม่ประมาท ตั้งใจทำงานเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสกับนายกรัฐมนตรี ในโอกาสคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าเฝ้าถวายสักการะ ซึ่งนายกฯ น้อมรับพระดำรัสว่า จะมีสติในการทำงาน ไม่ประมาท และจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข และถวายพระพรให้สมเด็จพระสังฆราช มีพระพลานามัยแข็งแรง

ทั้งนี้ สมเด็จพระสังฆราช ได้ประทานเหรียญตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ พร้อมด้วยหนังสือพระประวัติสมเด็จพระสังฆราชเจ้าและสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธฯ และหนังสือทิศ 6 และสังคหวัตถุ 4 และเมื่อได้เวลาอันสมควรนายกรัฐมนตรีและภริยา ก็ได้กราบทูลลาสมเด็จพระสังฆราช
------------
นายกฯเผยสมเด็จพระสังฆราชให้กำลังใจรัฐบาล-คสช. ให้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างระมัดระวังไม่ประมาท

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงการเข้าเฝ้าถวายสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกว่า ท่านได้รับสั่งในหลายประเด็นในเรื่องศาสนาที่สอนให้มีสมาธิ สติ สัมปชัญญะ รู้คิด รู้ตัว และรู้ปฏิบัติ พร้อมทั้งให้กำลังรัฐบาลและคสช.ให้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างระมัดระวังไม่ประมาท และขอให้ทุกคนเข้าใจว่ามีลาภเสื่อมลาภมียศเสื่อมยศ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่แล้ว เพราะไม่เคยคิดอยู่ตราบนานเท่านาน แต่ทุกอย่างเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ขณะเดียวกันยังได้มีโอกาสสนทนาธรรมจึงได้ทูลท่านว่า ต้องให้คำแนะนำกับเยาวชนและประชาชนคนไทยให้หันกลับมาดูเรื่องศีลธรรมที่หลายคนหลงลืมในการนำไปปฏิบัติ อีกทั้งยังรับสั่งในเรื่องหน้าที่พลเมืองอีกด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพยายามทำให้คนไทยและข้าราชการใช้ศีลธรรมนำมาสู่การปฏิบัติงาน รวมทั้งต้องมีหิริโอตัปปะคือความเกรงกลัวและละอายต่อบาปทั้งการพูดและการแสดงออก โดยส่วนตัวถูกสอนมาตั้งเด็กว่าทำอะไรต้องรู้จักเกรงกลัว ถ้าไม่ใช่ก็ไม่สามารถโกหกและบิดเบือนได้เพราะละอายแก่ใจตัวเอง
-------------
ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นำคณะสมาชิก สนช. เข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราช 

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นำคณะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (สม-เด็ด-พระ-อะ-ริ-ยะ-วง-สา-คะ-ตะ-ยาน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล

โดยภายหลังเดินทางกลับมาที่รัฐสภา นายพรเพชร เปิดเผยว่า รู้สึกปลาบปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสนำสมาชิก สนช.เข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งพระองค์ได้อวยพรกลับคืนเป็นเท่าทวีคูณ จึงต่างกล่าว "สาธุ" พร้อมกันนี้ นายพรเพชร ได้เชิญสื่อมวลชนให้รวมตัวเป็นคณะ เพื่อเข้ากราบสักการะ เพราะทางวัดเปิดไปจนถึงวันพรุ่งนี้ เป็นวันสุดท้าย
----------
นายกฯ มอบของที่ระลึกให้ "น้ำตาล-ชลิดา" อยากให้เป็นทูตทางศาสนา ไม่ทิ้งการเรียน ในโอกาสวาเลนไทน์ ขอให้ทุกคนมีความสุขอยู่ในศีลธรรมอันดี 

ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดโอกาสให้ "น้ำตาล" น.ส. ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 เข้าพบ ก่อนที่จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีกับน้ำตาล และอยากให้มาเป็นทูตทางพุทธศาสนา โดยใช้ความน่ารักมาช่วยส่งเสริมศีลธรรม ขณะเดียวกัน ก็ไม่อยากให้ทิ้งการเรียน เพราะตำแหน่งนางงามอยู่เพียงระยะหนึ่งก็หมดไป แต่การศึกษาจะช่วยเลี้ยงชีพได้ตลอดชีวิต ขณะที่น้ำตาลได้มอบตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลเพื่อเป็นแทนของตนเองพร้อมช่อดอกกุหลาบให้กับนายกรัฐมนตรี ส่วนนายกรัฐมนตรีได้มอบของที่ระลึกให้กับน้ำตาลเช่นกัน

ทั้งนี้ ก่อนการเข้าร่วมการประชุม ครม. นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่ผลสำรวจประชาชนต้องการมอบดอกไม้ให้นายกรัฐมนตรีในวันวาเลนไทน์มากที่สุด ว่า ขอบคุณทุกคน ขอบคุณที่ให้กำลังใจ และตนเองก็ให้กำลังใจกับทุกคน มอบความรัก ความปราถนาดีให้ 70 ล้านคนทุกวัน ไม่ใช่เฉพาะวันวาเลนไทน์ แต่ในโอกาสวันวาเลนไทน์ขอทุกคนมีความสุขและอยู่ในศีลธรรมอันดี
-------------
นายกฯ ขอหญิงไทยรักนวลสงวนตัวในวันวาเลนไทน์ - ครม. เห็นชอบคำสั่ง ปภ. ลดระดับการจัดการสาธารณภัย กรณีอุทกภัยภาคใต้

พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบคำสั่งของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฉบับที่ 2/2560 เรื่อง การลดระดับการจัดการสาธารณภัย กรณีอุทกภัยภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ หรือ ระดับ 3 เป็นระดับ 2 คือ การจัดการสาธารณภัยขนาดกลาง เนื่องจากปัจจุบันปัญหาต่าง ๆ ได้ลดลงแล้ว และเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ

โดยในการบริหารจัดการได้มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการจัดการจังหวัดเป็นผู้สั่งการควบคุมในระดับพื้นที่จังหวัด รวมถึงให้กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยส่วนหน้า เขต 11 จ.สุราษฎร์ธาณี และเขต 12 จ.สงขลา ส่งมอบภารกิจการกำกับควบคุมพื้นที่ให้กับศูนย์บัญชาการจัดการจังหวัดและส่วนราชการที่รับผิดชอบในพื้นที่

พร้อมกันนี้ พ.อ.หญิง ทักษดา ยังเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากความห่วงใยไปถึงหญิงสาวในช่วงวันวาเลนไทน์ ขอให้ระมัดระวังตัวและขอให้รักนวลสงวนตัว
-----------
มติ ครม. เห็นชอบสลับผู้ว่าฯ 2 จังหวัด "แมนรัตน์" ไปอุทัยธานี ขณะ "ประภัสสร์" ไปสมุทรสาคร

ที่ประชุม ครม. มีมติแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการระดับสูงตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้
ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี  และ นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และ

แต่งตั้งข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายสุรพงษ์ จำจด ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง นายกฤตชัย อรุณรัตน์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวง นายพะโยม ชิณวงศ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวง และ นางสุจิตรา พัฒนะภูมิ ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
-------------
นายกฯยันความสัมพันธ์ไทย - สหรัฐไม่เคยเปลี่ยนแปลง เชื่อเข้าร่วมฝึกคอบราโกลด์ 2017 กว่า 30 ประเทศ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงการฝึกคอบราโกลด์ 2017 และมุมมองต่อความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างไทย-สหรัฐในยุคประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ว่า ส่วนตัวคาดหวังในด้านความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะผู้เข้าร่วมถึง 30 ประเทศ โดยครั้งนี้ผู้บัญชากองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิกมาด้วยตนเองถือว่าได้ให้ความสำคัญกับไทยด้วย ซึ่งมีการฝึกทั้งการทหารและการวางแผนร่วม รวมถึงเรื่องภัยพิบัติ ยืนยันว่าความสัมพันธ์ของไทยและสหรัฐไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่อยู่ที่มุมมองในการขยายความ เพราะเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจเป็นคนละเรื่องกัน

ทั้งนี้ การเมืองต้องเดินหน้าตามประชาธิปไตยของประเทศ โดยวันนี้กำลังทำในเรื่องการปรองดอง ปฏิรูป และยุทธศาสตร์ชาติ เบื้องต้นส่วนตัวได้ให้ข้อมูลกับทุกประเทศ โดยแต่ละประเทศก็ยอมรับได้ แต่ขอให้เลือกตั้งอย่างสุจริตเป็นธรรมและปลอดภัย
---------------
"พล.อ.ประวิตร" ต้อนรับผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐ ฯ ร่วมพิธีเปิดการฝึก Cobra Gold 2017 - หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางทหาร

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ พล.ร.อ.Harry Binkley Harris,Jr.  ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐ ฯ ภาคพื้นแปซิฟิก ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการฝึก Cobra Gold 2017 และหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างไทย-สหรัฐฯ ณ ห้องรับรอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในศาลาว่าการกลาโหม

ทั้งนี้ พลเอกประวิตร กล่าวถึงการเข้าพบครั้งนี้ ว่า ตนเองได้เรียนเชิญให้เข้าร่วมการฝึก Cobra Gold 17 ตั้งแต่เดินไปประชุม ที่ ฮาวาย โดยเชื่อว่า จะเป็นสัญญานความร่วมมือทางการทหารที่ดี

เพราะมีความร่วมมือกันมาตลอดกว่า 180 ปี อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีความใกล้ชิดกับทุกประเทศทั้งหมด โดยไม่มีการแบ่งแยก
/////////////
ปรองดอง

3 พรรคการเมือง เข้าให้ข้อมูลอนุกรรมการปรองดองแล้ว หลังการหารือ โฆษก กห. เตรียมแถลงผลการพูดคุย 

บรรยากาศที่กระทรวงกลาโหม ล่าสุด อยู่ระหว่างการประชุมคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน โดยในวันนี้ได้เชิญตัวแทนจากพรรคความหวังใหม่ พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย และ พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมพูดคุย ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรก โดยภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม จะแถลงผลการหารือ

อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง จะให้พรรคการเมืองมาให้ความเห็นและข้อเสนอแนะตามตัวอักษร ตั้งแต่เวลา 09.00 - 12.00 น. โดยต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญและแนวทาง 10 ด้าน ที่คณะกรรมการ ป.ย.ป. ได้กำหนดไว้ คือ ด้านการเมือง ด้านความเหลื่อมล้ำ ด้านกฎหมาย ด้านสังคมเศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข ด้านสื่อมวลชน ด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการต่างประเทศ ด้านป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น ด้านการปฏิรูป และด้านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมในเรื่องการเสนอความเห็นเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหา และการหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติในอนาคตด้วย
-----------
"อลงกรณ์" เชื่อ หากทุกกลุ่มทุกฝ่ายตอบโจทย์ 10 ข้อ ได้หมด สามารถทำให้เกิดการปรองดองได้แน่นอน ขอทุกคนมองภาพกว้าง อย่ายึดติดอดีต และไม่โทษกัน

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปปกระเทศ (สปท.) ในฐานะคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในการเชิญรรคการเมือง กลุ่มการเมือง และภาคส่วนต่าง ๆ เข้าพูดคุย โดยมีการตั้งโจทย์ 10 ข้อนั้น มั่นใจว่า หากทุกกลุ่มทุกฝ่าย ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด จะสามารถทร้างความปรองดองได้อย่างแน่นอน เพราะการดำเนินการดังกล่าว มุ่งหวังเพียงให้ประเทศเดินหน้าอย่างยั่งยืน บนกรอบยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ โดยไม่คิดหวังสืบทอดอำนาจแต่อย่างใด

พร้อมกันนี้ นายอลงกรณ์ ยังกล่าวด้วยว่า จากการได้พบปะ เพื่อนักการเมือง และกลุ่มประชาสังคมต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมานั้น ทุกกลุ่มล้วนให้ความสำคัญ และยินดีสนับสนุนนายกฯ และรัฐบาล ในการสร้างความปรองดอง เพื่อไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แตกแยกขัดแย้งเหมือนในอดีตอีก ตลอดจนยืนยันว่าปัญหาความแตกแยก ไม่ได้มีต้นเหตุมาจากการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากปัญหาต่าง ๆ ที่สะสมมานาน ดังนั้น จึงอยากให้ทุกกลุ่ม ทุกพรรค มองเรื่องการปรองดองในภาพกว้าง ช่วยกันทำงานเพื่อแก้ปัญหาที่ผ่านมา โดยที่ไม่กล่าวโทษกันไปมาอีก  
------------
"ชิงชัย" ชี้ปรองดองต้องเป็นประชาธิปไตยโดยเร็วแต่ไม่เอานิรโทษกรรมเพราะไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหา

นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เปิดเผยภายหลังการหารือกับคณะอนุกรรมการการหารือระหว่างพรรคการเมืองและคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ว่า การปรองดองคือต้องให้เป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว และต้องสร้างความสามัคคีในชาติให้ได้ด้วยการนำประชาธิปไตยมาเป็นตัวสร้าง หากเป็นเผด็จการ ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต้องคืนอำนาจอย่างรู้และเข้าใจ

และย้ำว่า การนิรโทษกรรมไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาแต่เป็นการกระทำความผิดของเฉพาะคนและเฉพาะกลุ่ม อีกทั้งความผิดทางอาญาก็ไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ ยืนยันว่าบรรยากาศการหารือในวันนี้เป็นไปด้วยดี ทางฝ่ายทหารก็เข้าใจและพร้อมรับฟัง
------------
"ธนพร" เสนอยกเลิกคำสั่งคสช.ห้ามชุมนุมทางการเมือง ให้ประชาชนร่วมเวทีแสดงความคิดเห็นปรองดองได้

นายธนพร ศรียากูล หัวหน้าพรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย ได้เสนอว่า ให้การหารือ ไม่ควรเป็นเรื่องของนักการเมืองหรือแกนนำ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากที่เดือดร้อน และอยากสะท้อนปัญหามาถึงรัฐบาล ทั้งนี้ ตนได้เสนอให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองมากกว่า 5 คนขึ้นไป และเสนอให้เปิดเวทีในระดับจังหวัด ซึ่งเวทีดังกล่าว ขอให้ยกเลิกการเชิญคนมาร่วม แต่เปิดให้เป็นการลงทะเบียนเข้ามาโดยสมัครใจให้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ และรวบรวมความเห็นทั้งหมดกลับมาให้พรรคการเมืองจัดทำเป็นนโยบายการเลือกตั้งครั้งต่อไป หากพรรคใดที่ยอมรับ ขอให้ทำเป็นข้อตกลง และรวมถึงต้องกำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน เพื่อจะทราบว่าอนาคตจะเดินไปในทิศทางใด ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อมั่นใจการพูดคุยเช่นนี้ เพราะไม่แตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมา ที่เชิญตัวแทนมาให้ข้อมูลแต่ไม่ได้เกิดผลใดๆ
-----------
"พิชัย" ตั้งคำถามถึงวงปรองดอง ด้าน "ภูมิธรรม" เสนอหลักตามระบอบประชาธิปไตย ยึดนิติธรรม ยอมรับความเห็นต่างทุกภาคส่วน 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Pichai Naripthaphan" ว่า คำถามที่ขอฝากไปยังวงปรองดอง คือ "ปัญหาความแตกแยกที่เกิดมา 10 ปี เกิดจากความพยายามที่จะไม่ให้คนและพรรคที่เขาสนับสนุนเข้ามามีอำนาจในการปกครองประเทศ ทั้ง ๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุน จนพาลไปถึงการไม่ยอมรับระบอบประชาธิปไตยกันเลย ใช่หรือไม่ แล้วจะแก้อย่างไร"

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นต่อการสร้างความปรองดอง ว่า จะเกิดขึ้นได้จริงในสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่สังคมที่ใช้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ หรือการบังคับให้คนต้องปรองดอง ดังนั้น หากจะสร้างปรองดอง ต้องเริ่มต้นจากการยอมรับความแตกต่างเปิดโอกาสให้คู่ขัดแย้งทุกฝ่ายมีส่วนร่วมเสนอแนวอย่างสร้างสรรค์และเป็นอิสระ รวมถึง
หลักนิติธรรม บังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคเท่าเทียม
-----------
คสช. มองภาพรวมประเทศสงบเรียบร้อย กำชับทุกส่วนติดตามความคืบหน้าการทำงานสร้างความปรองดอง 

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก และรองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเลขาธิการ คสช. ได้เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดยได้กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีบรรยากาศแห่งความสงบสุข ประชาชนได้รับทราบเรื่องราวอันเป็นมหามงคลที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 20 นำมาซึ่งความปีติยินดีของพุทธศาสนิกชน อีกทั้งในสัปดาห์นี้ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. ได้มีการขับเคลื่อนงานด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมือง ซึ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมของประเทศมีความสงบเรียบร้อย พร้อมกำชับให้ทุกส่วนงานได้ติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานของคณะกรรมการสามัคคีปรองดอง รวมทั้งหากได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะอนุกรรมการในส่วนต่าง ๆ ให้เตรียมความพร้อมและศึกษาตามแนวทางขับเคลื่อนของคณะกรรมการ ป.ย.ป. เพื่อให้งานสร้างความสามัคคีและปรองดอง ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสำคัญได้มีความคืบหน้าตามเป้าหมาย
---------
นายกฯ ย้ำ ปรองดองไม่คุยนิรโทษ ยันทหารไม่ต้องทำ MOU ขอประชาธิปไตยตามกรอบ มีการเลือกตั้งสุจริต โปร่งใส 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคาดหวังหลังจากคณะกรรมการสร้างความสามัคคีปรองดองเชิญทุกฝ่ายมาพูดคุย ว่า ขออย่ากังวล เพราะผลงานทั้งหมดต้องมาสู่รัฐบาลและ คสช. เนื่องจากคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) คือ คณะรัฐมนตรี แต่เป็นการรับฟังความคิดเห็นจากภายนอก และมีหลายประเด็นที่ต้องเพิ่มเติมจากหลายฝ่าย

จึงอยากให้ใช้โอกาสนี้ในการรับฟังข้อสรุปขอแต่ละคณะ โดยเฉพาะคณะกรรมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่สื่อนำเสนอแต่ความขัดแย้งและนิรโทษกรรม โดยส่วนตัวยืนยันว่าไม่เคยพูดถึงการนิรโทษกรรมและขออย่าหวาดระแวง พร้อมยืนยันว่าส่วนตัวมีเหตุผลในการทำงานทุกประการ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ขอสื่อมวลชนอย่าเป็นปากเสียงให้กับคนที่ไม่หวังดีกับบ้านเมือง หากทำได้ก็ไม่ต้องคิดกฎหมายควบคุม หากคุมกันเองแล้วคุมไม่ได้ มีปัญหาขึ้นมารัฐบาลก็รับผิดชอบ วันหน้าก็ไล่รัฐบาล และทหารก็ออกมาควบคุมอำนาจ ดังนั้น ไม่ต้องนำทหารมาทำสัญญา แต่ขอให้ทำสัญญากับตัวเองและประชาชนให้ได้ ว่าจะไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย

ขณะเดียวกัน การปรองดองไม่ใช่การนิรโทษแต่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง จึงขอให้แก้ปัญหาที่สาเหตุไม่ใช่แก้ที่ปลายเหตุ เพื่อให้เกิดการปรองดองทุกมิติ ซึ่งต้นเหตุคือกระบวนการประชาธิปไตยที่มีปัญหา ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม การศึกษาที่ไม่มีหลักคิด
--------
พล.อ.ประวิตร ย้ำ กรอบเดิมคุยปรองดอง 3 เดือน เชิญแล้ว 70 พรรค รวม "ประชาธิปัตย์ - เพื่อไทย" ยังไม่มีใครปฏิเสธ ไม่คุยนิรโทษกรรม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการที่คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ได้เชิญพรรคการเมืองเข้ามาให้ข้อเสนอแนะ ว่า ทางคณะกรรมการฯ ได้ส่งหนังสือเชิญพรรคการเมือง ประมาณ 70 พรรค รวมถึงพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีพรรคใดปฏิเสธที่จะเข้าร่วม และทางคณะกรรมการฯ ได้มีการจัดตารางการพูดคุยกับพรรคการเมืองไว้ทั้งหมดแล้ว ส่วนเรื่องการออกกฎหมายหรือการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องที่คุยในภายหลัง แต่ตอนนี้ทุกฝ่ายควรให้ความร่วมมือ เพื่อให้

ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ โดย พล.อ.ประวิตร ได้ขอให้คนไทย น้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องการให้คนไทยรู้รักสามัคคี คนไทยหัวใจเดียวกัน พร้อมทำสัญลักษณ์หัวใจมินิฮา
ร์ต

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ยังคงตั้งเป้าพูดคุยรับฟังความคิดเห็นของของทุกฝ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ตามกรอบเวลาเดิม
------------
โฆษก กห. ยัน คุยปรองดองวันแรกราบรื่น ยันมีความจริงใจ ไม่ปิดกั้น - ห้ามนักการเมืองให้ข่าว

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า จะมีการแถลงผลการพูดคุยระหว่างพรรคการเมืองกับคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในวันพุธและวันศุกร์ ซึ่งในการให้ข้อมูลจะเป็นไปในลักษณะภาพกว้าง เพื่อให้คณะอนุกรรมการฯ กลั่นกรองข้อเสนอทั้งหมดก่อน เพราะไม่ต้องการให้การแถลงข่าวการพูดคุยไปตีกรอบการให้ความเห็นของพรรคการเมืองอื่น ๆ ซึ่งการให้ความเห็นสามารถพูดคุยได้มากกว่า 10 ด้านที่กำหนดไว้ พร้อมยืนยันว่า คณะอนุกรรมการฯ มีความจริงใจในการพูดคุย โดยไม่มีการปิดกั้นหรือพูดคุยกันแบบลับ ๆ รวมทั้งไม่ได้ห้ามนักการเมืองให้ข่าวด้วย

ทั้งนี้ สำหรับการพูดในวันแรก ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 09.00 น. และเสร็จสิ้นในเวลา 13.00 น. ซึ่งบรรยากาศนั้น เป็นไปด้วยความเรียบ โดยส่วนใหญ่ได้เปิดโอกาสให้พรรคการแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ และไม่มีการซักถาม
------------
พล.อ.ประวิตร มั่นใจกระบวนการปรองดองจะประสบความสำเร็จ ยันไม่คุยประเด็นขัดแย้ง นิรโทษกรรม - อภัยโทษ ขอคนไทยรักกัน 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน โดยเชื่อว่า กระบวนการสร้างความปรองดอง ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ พร้อมยังย้ำว่า ในการพูดคุยนั้นจะต้องไม่นำประเด็นที่จะทำเกิดความขัดแย้ง ทั้งการนิรโทษกรรม หรือการอภัยโทษ เข้ามาพูดคุย เพราะทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย แต่จะเน้นการสร้างความปรองดองลดความเหลื่อมล้ำ และหาหนทางให้ประชาชนอยู่ดีกินดี

พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้รับจดหมายเชิญเข้าให้ความเห็นว่า เพิ่งจะลงนามในจดหมายเชิญวานนี้ โดยมีพรรคการเมืองที่จะเข้าให้ความเห็นกว่า 70 พรรค และจะเชิญพรรคการเมืองมาให้ความเห็นเพียงกลุ่มละครั้งเท่านั้น จากนั้นจะมีการเชิญภาคธุรกิจ ส่วนในระดับท้องถิ่น ประชาชน และนักศึกษานั้น แม่ทัพภาคและผู้ว่าราชการจังหวัด จะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งไม่จำกัดว่าจะเป็นกลุ่มใด โดยจะให้เวลาในการแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ และนำเหตุผล ข้อเสนอแนะของทุกภาคส่วนไปสู่ความปรองดองร่วมกัน

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึง วันวาเลนไทน์ปีนี้ ว่า คนไทยหัวใจเดียวกัน พร้อมทำท่ามินิฮาร์ตเพื่อแสดงถึงความรัก ดังเช่นวันนี้ที่คณะเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ได้เชิญตัวแทนพรรคการ
เมืองมาหารือเรื่องความปรองดองครั้งแรก
------------
"ชวลิต" ขอทุกฝ่ายน้อมนำพระราชดำรัสประมุขของชาติ - ประมุขสงฆ์ เป็นหลักคิดแก้ปัญหาความขัดแย้ง ขอให้อดทนต่อความเห็นต่าง

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ติดตามพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช และร่วมอนุโมทนากับพุทธศาสนิกชน ด้วยความชื่นชมในพระจริยาวัตรอันงดงาม และความมีเมตตาสูงยิ่งของพระองค์ท่าน สิ่งที่ประทับใจเป็นพิเศษก็คือ ในฐานะองค์พระประมุขสงฆ์ทรงยกคุณธรรมทางพระพุทธศาสนามาเตือนสติคนไทยได้สอดคล้องกับสถานการณ์ของบ้านเมือง คือ "ความสามัคคี" ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า ก่อนหน้านั้น องค์พระประมุขแห่งชาติ คือ ล้นเกล้า ฯ รัชกาลที่ 10 ทรงอยากเห็นประเทศไทยมีความสงบ ร่มเย็น คนไทยมีความสุข มีความรัก สามัคคี ร่วมกันนำพาประเทศเดินไปข้างหน้าได้ จากพระราชดำรัสของทั้งสองประมุข เชื่อว่าจะเตือนสติทุกภาคส่วนได้น้อมนำมาเป็นหลักคิด เป็นแนวทางปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในประเทศ
   
ทั้งนี้ นายชวลิต กล่าวว่า รัฐบาล จะถูกจับตาเป็นพิเศษว่ามีความเป็นธรรม จริงใจ และจริงจังในการดำเนินการหรือไม่ เพราะเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้สร้างความมั่นใจอย่างใด ต่องานสำคัญที่ได้รับ
ปากกับประชาชนไว้ว่าจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติ การทำงานสำคัญครั้งนี้ จึงเหมือนการทำงานแก้ตัวกับการที่ได้ละเลยในสิ่งที่ไม่ควรละเลยไป ตนเองจะเป็นผู้หนึ่งที่จะติดตามอย่างใกล้ชิด ตลอดจนให้กำลังใจกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ขอให้อดทนต่อความเห็นต่าง เพื่อหาจุดลงตัวในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ขอฝากข้อสังเกตไปยังรัฐบาลให้ย้อนกลับไปดูผลงานของรุ่นเก่าว่า มีหลักคิดอย่างไรถึงแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้สำเร็จ ควรนำหลักคิดดังกล่าวมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
---------
"ยิ่งลักษณ์" FB ส่งมอบความรัก ความปรารถนาดีไปถึงพี่น้องประชาชน ในวันวาเลนไทน์ 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Yingluck Shinawatra" ซึ่งเป็นภาพของตัวเอง พร้อมกระเช้าดอกไม้เล็ก และข้อความ อวยพร ประชาชน และ

แฟนเพจ เนื่องในวันวาเลนไทน์ ว่า "ขอส่งมอบความรัก ความปรารถนาดีไปถึงพี่น้องประชาชนและแฟนเพจทุกท่าน"
/////////
รัฐธรรมนูญ
"มีชัย" ยัน การออกกฎหมายต้องฟังความเห็น - ม.77 ไม่ยุ่งยาก ชี้ หากรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ไม่ต้องกลับมาฟังอีก

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. กล่าวถึงกรณีที่มาตรา 77 กำหนดการออกกฎหมายต้องรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องทุกขั้นตอน ว่า ขณะนี้หากยังไม่ได้รับฟังความเห็นจากประชาชน ก็ไม่มีปัญหา เพราะได้ออกกฎหมายบังคับใช้หลายฉบับ ดังนั้น หากเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีช่องทางที่จะทราบว่ารู้สึกอย่างไรกับกฎหมายนั้นได้ ก็เป็นเรื่องดี

และไม่ใช่เรื่องยากในการดำเนินการ เนื่องจากไม่ต้องถึงขั้นยกขบวนไปรับฟังความเห็นแบบในอดีต เพียงแต่นำร่างกฎหมายขึ้นในเว็บไซต์ แล้วเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเข้ามาได้ ทั้งนี้

หากรับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ก็ควรรับฟัง แต่หากเลยขั้นตอนไปแล้ว ก็ไม่เป็นไร เพราะขณะนี้ร่างรัฐธรรมนูญยังไม่มีผลบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม หากร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้แล้ว โดยมีร่างกฎหมายที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ก็ไม่จำเป็นต้องนำกลับไปรับฟังความเห็นใหม่ และไม่น่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ
------------
ประธาน สนช. เร่งรัดพิจารณากฎหมายก่อนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้ หวั่น มาตรา 77 ทำกระบวนการนับหนึ่งใหม่

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยอมรับว่า ภายหลังรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลใช้บังคับ ทำให้กระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายของ สนช. ต้องปรับเปลี่ยน โดยจะ

ต้องมีการตรวจสอบการเสนอกฎหมายของส่วนราชการว่าได้ผ่านการสอบถามความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชน ตลอดจนผ่านการวิเคราะห์ผลกระทบมาแล้วหรือไม่ ซึ่งหากพบว่า

กระบวนการไม่ครบ ผู้เสนอจะต้องนำกลับไปดำเนินการให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อป้องกันการยื่นร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งระหว่างนี้ก็พยายามให้ สนช. เร่งรัดพิจารณาร่าง

กฎหมายที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นก่อนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้ โดยยังเหลือร่างกฎหมายที่ต้องเร่งดำเนินการอีกประมาณ 10 ฉบับ กับระยะเวลา 1 เดือน ก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้
--------
"มีชัย" โยน ถามนายกรัฐมนตรี ปมปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ เชื่อไม่เกินกรอบเวลา 18 กุมภาพันธ์ นี้

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้เริ่มขั้นตอนในการรับฟังความเห็นร่างกฎหมายต่าง ๆ ที่จะมีการพิจารณาออกมา โดยนำร่างขึ้น

เว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนที่สนใจแสดงความเห็นเข้ามา และยังได้ให้แจ้งประกาศรับจดทะเบียนองค์กรหรือชุมชนที่สนใจจะแสดงความคิดเห็นก็ให้มาลงทะเบียนไว้ เพื่อจะได้ทราบว่าองค์กรใดหรือ
ใครสนใจในเรื่องใด และเมื่อมีการร่างกฎหมายใดที่เกี่ยวข้อง จะได้ส่งไปให้ดูรายละเอียด ซึ่งการรับฟังความเห็นไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่กลับทำให้เกิดความรอบคอบมากขึ้น ไม่เช่นนั้นจะมีเฉพาะมุมมองในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐเพียงอย่างเดียว

ส่วนกรณีที่ขณะนี้ จะครบตามกรอบเวลาการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้วนั้น นายมีชัย กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนใดต้องไปถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะเกินกรอบเวลาที่จะครบกำหนดเวลาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นี้
//////////////
ปมปรีชาขาดประชุมสนช.

นายกฯ ยัน ปม "ปรีชา" ว่าตามกฎหมาย รอตรวจสอบ ขออย่าโยงเรื่องการรับเงินเดือน 2 ทาง เชื่อทุกคนเข้าใจกติกา 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีพบสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ที่ควบตำแหน่งข้าราชการประจำขาดการประชุมเกินข้อบังคับที่กำหนดและยังได้รับเงินเดือนจากต้นสังกัดทั้งสองทางว่า สิ่งที่เป็นประเด็นเพราะมีรายชื่อ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายของตนเอง ซึ่งต้องเป็นไปตามกติกา และจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าขาดประชุมจริงก็ต้องตัดชื่อและพ้นจากหน้าที่ และวันนี้ก็ยังมีการทำหน้าที่อยู่ แต่จะครบหรือไม่ก็อยู่ที่การตรวจสอบ ขออย่าเอามาเชื่อมโยงกัน และ พล.อ.ปรีชา ก็มีเงิน

เดือนอยู่แล้ว เพราะเป็นข้าราชการเกษียณอายุ มีบำเหน็จบำนาญ หากเป็น สนช. ก็ต้องไม่รับเงินเดือน สนช. ก็ต้องไปว่ากัน ทุกคนต้องอยู่ในกติกานี้ทั้งหมด
---------
"พรเพชร" แถลงตอบโต้ "ไอลอว์" ยืนยัน 7 สนช. ไม่ขาดสมาชิกสภาพ แจงยื่นใบลาถูกต้อง ไม่โดดประชุม

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชี้แจงกรณีกลุ่มโครงการกฎหมายอินเทอร์เน็ตเพื่อประชาชน หรือ ไอลอว์  (iLaw) ออกมาเปิดเผยว่า มี สนช. จำนวนไม่น้อยกว่า 7 คน
ขาดประชุมบ่อยครั้ง จนอาจสิ้นสมาชิกภาพ ว่า จากการตรวจสอบไปยังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา พบว่า สมาชิก สนช. ที่ถูกกล่าวหา ได้ยื่นใบลาถูกต้องตามขั้นตอนทุกประการ และไม่ขาดประชุมเกินกว่า 1 ใน 3 ของการลงมติทั้งหมดภายในกรอบระยะเวลา 90 วัน ตามข้อบังคับการประชุม สนช. โดยการลาของสมาชิกส่วนใหญ่เป็นการลาปฏิบัติราชการ ซึ่งบางรายก็ไม่ได้ลาทั้งวัน

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาตนเองเป็นผู้พิจารณาใบลาของสมาชิกด้วยตนเองอย่างเคร่งครัด พร้อมยอมรับว่า ระเบียบข้อบังคับการประชุมไม่ได้กำหนดจำนวนวันลาต่อปี ขณะเดียวกัน มองว่าปัญหาที่

เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการที่สมาชิก สนช. สวมหมวกหลายใบ เพราะหลายคนก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ก็มีบางช่วงที่การลงมติคาบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่
----------
//////////
สัญญานศก./ทุจริต

นายกฯ ขอกลุ่มต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน อย่าเข้ากรุงเทพฯ ชี้ผิดกฎหมาย แนะพูดคุยทำความเข้าใจกันให้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ เตรียมเคลื่อนไหวเข้ากรุงเทพมหานคร ในวันที่ 17 ก.พ. นี้ หลังรัฐบาลพยายามเดินหน้าผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหิน ว่า ส่วนตัวไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวเข้ามาในกรุงเทพฯ เพราะจะผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดี เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าห้ามการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ ดังนั้น หากมีอะไรขอให้พูดคุยกันให้รู้เรื่องในพื้นที่ และที่ผ่านมาในพื้นที่มีความต้องการ จึงสั่งการให้กระทรวงพลังงานประชุมในวันที่ 17 ก.พ. นี้ เพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ ถ้าหากไม่ทำแล้วจะทำอย่างไรต่อไป พร้อมยืนยันว่าวันที่ 17 ก.พ. นี้จะได้คำตอบ จึงไม่อยากให้เคลื่อนไหวในเวลานี้ เพราะมีคำสั่ง คสช. และกฎหมายอยู่แล้ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำโรงไฟฟ้าถ่านหินแต่เดิมนั้น ทำตามแผน ทีพีพีเดิม ที่ตั้งไว้อยู่แล้ว รัฐบาลนี้แค่มาปรับแผนให้ดีขึ้นในเรื่องของการใช้พลังงานทดแทน จากสัดส่วน 70 ต่อ 30 เป็น 60 ต่อ 40 แต่ 60 เดิมที่ใช้พลังงานจากฟอสซิล ที่ต้องคิดว่าควรจะมีในระดับไหน ไม่ใช่ลดลงทันที แล้วไปสร้างพลังงานทดแทน แต่ต้องคำนึงว่าทดแทนกันได้มากน้อยแค่ไหน จึงต้องช่วยกันแก้ปัญหาต่อไป
-------
"วัฒนา" FB อัดรัฐบาล จัดงบฯ ขาดดุลต่อเนื่อง ใช้เงินมหาศาลแต่เศรษฐกิจไม่ดีขึ้น คือ สัญญาณร้าย ที่เกิดจากการสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน - ปชช. ไม่ได้

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Watana Muangsook" ว่า รัฐบาล คสช. จัดทำงบประมาณแบบขาดดุลสูงกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา คือ ปี 2558 ขาดดุล 2.5 แสนล้านบาท, ปี 2559 ขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท และล่าสุดปี 2560 ขาดดุลสูงถึง 5.5 แสนล้านบาท (งบกลางปีเงินกู้ 1.62 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นการขาดดุลที่มากขึ้นต่อเนื่อง โดยไม่มีการกำหนด

กรอบการขาดดุลให้ชัดเจน อันจะเป็นภาระแก่ประชาชนในอนาคต แต่การใช้เงินจำนวนมหาศาล กลับไม่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ตัวเลขเงินคงคลังที่เหลือน้อยฟ้องว่ารัฐจัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหมาย

สาเหตุที่จัดเก็บภาษีไม่ได้เนื่องจากไม่มีการลงทุนและประชาชนไม่กล้าใช้เงิน หลักฐานคือมีเงินฝากล้นระบบที่ธนาคารพาณิชย์ต้องนำไปฝากไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สูงถึงหนึ่งล้าน

ล้านบาท แสดงว่านักลงทุนไม่กล้าลงทุน จึงนำเงินไปฝากธนาคาร ซึ่งได้ดอกเบี้ยต่ำและไม่คุ้มทุน ส่วนประชาชนที่ไม่กล้าใช้เงิน เพราะไม่มีเงินและไม่มีความมั่นใจในอนาคต ทั้งหมดคือสัญญาณ

ร้ายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากรัฐบาลไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดกับนักลงทุนและประชาชนของตัวเองได้

ทั้งนี้ นายวัฒนา ยังเปรียบสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทย ว่าคล้ายกับทีมฟุตบอลเชลซี เมื่อปี 2014-2015 โชเซ มูริญโญ กลับมาเป็นผู้จัดการทีม และทำทีมจนได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูถัดมา

2015-2016 นักเตะชุดเดิมมีปัญหากับ มูริญโญ ทำให้ทีมแพ้และอันดับตกต่ำ เจ้าของทีมจึงตัดสินใจปลด มูริญโญ และในฤดูกาล 2016-2017 นักเตะชุดเดิมภายใต้ผู้จัดการทีมคนใหม่กลับชนะจนขึ้น

มาอยู่อันดับที่ 1 รัฐบาลกับประชาชนก็เปรียบเสมือนผู้จัดการทีมกับผู้เล่น รัฐบาลอยากให้เศรษฐกิจดี ส่วนผู้จัดการทีมอยากให้ทีมชนะ แต่หากผู้จัดการทีมไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้เล่น เจ้า

ของทีมก็ต้องรีบจัดการ เพราะปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไปฟุตบอลก็ตกชั้น ส่วนรัฐบาลหากไม่สามารถทำให้ประชาชนของตัวเองเกิดความเชื่อมั่นทั้งที่ได้ดำเนินการทุกมาตรการแล้ว ประชาชนก็ไม่มีทาง

เลือกอื่นนอกจากต้องเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เพราะปล่อยยืดเยื้อต่อไปประเทศจะล้มละลาย
/////////////////
คดีไซซะนะ
นายกฯ ชื่นชม จับเครือข่ายไซซะนะ จี้เร่งขยายผลเชื่อมโยง เครือข่ายบุคคลในภาคใต้หรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงกรณีเครือข่ายไซซะนะ เชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติดภาคใต้ตอนล่าง ว่า นี่คือผลงานของตำรวจ คสช.

และรัฐบาล ในการจับกุมและดำเนินคดี และหากรัฐบาลนี้ไม่เข้ามา ไม่กำชับกำกับดูแลตำรวจ เรื่องนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ นี่แสดงให้เห็นถึงการร่วมมือระหว่างประเทศ ตามที่ส่วนตัวได้มอบหมาย

ตามนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดระหว่างประเทศ ทั้งประเทศจีน รัสเซีย จึงได้ข้อมูลมาสอบสวนดำเนินคดี ส่วนความเชื่อมโยงกับเครือข่ายภาคใต้นั้นมีมานานแล้ว แต่ในเมื่อครั้งนี้มีการจับกุม

เครือข่ายขนาดใหญ่ได้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับเครือข่ายบุคคลในภาคใต้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังทำงานอยู่ ขอให้ทุกคนรอดูผลงานที่จะออกมา

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ส่วนตัวได้ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ไปติดตามเรื่องนี้ เพราะเครือข่ายดังกล่าวตรวจสอบได้หลายทาง ทั้งทางตำรวจ เส้น

ทางการเงิน การสืบสวน เพราะรัฐบาลเอาจริงเอาจังกับเรื่องดังกล่าว
------
ผบช.ปส.ระบุเรียกเบนซ์ เรซซิ่ง สอบปากคำอีก16 กพ.จ่อ ดำเนินคดี "สมคบฟอกเงิน"

พลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 ก.พ.นี้ จะเรียกนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เจ้าของรถยนต์หรูยี่ห้อแลมโบกินี่

รุ่นกาลลาโด้ มูลค่า 20 ล้านบาท มาสอบปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งที่สอง เนื่องจากตำรวจพบว่าคำให้การและพยานหลักฐานที่พบยังขัดแย้งกับคำให้การของนายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ผู้ต้องหาค้ายา

เสพติดเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา

พลตำรวจโทสมหมาย ยังระบุว่า เปิดโอกาสให้นายอัครกิตติ์ นำพยานหลักฐานเกี่ยวกับการครอบครองรถมาให้พนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงการครอบครองรถว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ แต่ในทาง

สืบสวนของตำรวจยังยืนยันว่าเป็นการครอบครองอย่างไม่ถูกต้อง และอาจจะถูกดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในข้อหา

สบคบหรือสนับสนุนผู้กระทำความผิด

ส่วนการสรุปสำนวนคดีนี้ หากสอบสวนนายอัครกิตติ์เสร็จสิ้นก็จะสามารถสรุปสำนวนคดีได้ภายในสัปดาห์นี้ และเชื่อว่าจะสามารถจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้อีกอย่างน้อย 1 คน แต่ยังไม่

สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ส่วนการติดตามตัวนายอุสมาน สะแลแมง หนึ่งในผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนายไซซะนะ โดยขณะนี้ทางการข่าวพบว่านายอุสมาน ได้ทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าและหลบหนีอยู่ในประเทศ

ลาว ซึ่งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ประสานข้อมูลกับทางการลาวอยู่ตลอดเวลา
---------------
รอง ผบ.ตร. ร่วม ปส. แถลงจับยาเสพติด 3 คดียึดของกลางยาบ้ากว่า 1.5 ล้านเม็ด

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรวม 3 คดี พร้อมยึดของกลางยาบ้ากว่า 1.5

ล้านเม็ด โดยคดีแรกตำรวจยึดยาบ้าได้กว่า 9.8 แสนเม็ด จากผู้ต้องหารวม 4 คน ที่ จ.พัทลุง ในขณะที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามรถยนต์ต้องสงสัยที่ลำเลียงยาเสพติดในภาคใต้ ขณะที่รถยนต์คันดังกล่าว

กำลังเข้าในบ้านพัก จึงเข้าตรวจค้นและพบยาเสพติดซ่อนอยู่หลังพนักพิงเบาะหลังที่ดัดแปลงเป็นที่ซ่อนยาบ้า 7.2 แสนเม็ด จากนั้นได้ขยายผลเข้าไปตรวจค้นในบ้านพักพบมียาบ้าฝังอยู่ใต้พื้นห้อง

น้ำด้านหลังบ้าน ผู้ต้องหาอ้างว่ารับยาเสพติดดังกล่าวไปส่งที่จังหวัดนราธิวาส

ส่วนอีกคดีตำรวจยึดยาบ้า 3 แสนเม็ด จากผู้ต้องหาที่กำลังขับรถยนต์ผ่านด่านตรวจยานพาหนะชุมพร เมื่อตรวจค้นจึงยาบ้ามัดห่ออยู่ในกระดาษสาและพันด้วยพลาสติกซ่อนอยู่เบาะด้านหลังที่นั่งผู้

โดยสาร ผู้ต้องหาอ้างว่ารับยาบ้ามาจาก อ.ศาลายา จ.นครปฐม ก่อนนำส่งไปที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งในคดีนี้มีผู้ต้องหาที่เป็นผู้ขับรถนำหน้าหลบหนีไปได้ 2 คน ซึ่งตำรวจรู้ตัวผู้ต้องหาแล้ว อยู่

ระหว่างออกหมายจับดำเนินคดี

อีกคดีหนึ่งตำรวจจับยาบ้ากว่า 2.2 แสนเม็ด จากผู้ต้องหา 5 คน ได้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากภาคเหนือและนำมาเก็บพักไว้ใน จ.นนทุบรี โดยเข้าจับกุมและขยายผลตรวจค้นในห้องพักของผู้

ต้องหาทั้งหมดพบยาบ้ารวมกันกว่า 2 แสนเม็ด
---------
ตำรวจ ปส. จับผู้ต้องหาสัญชาติเอกวาดอร์ ขณะลำเลียงโคเคอีน 2,300 กรัม เข้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ เร่งขยายผล

เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดแถลงจับผู้ต้องหาสัญชาติเอกวาดอร์ ขณะกำลังลำเลียงโคเคอีนประมาณ 2,300 กรัม จากต่างประเทศเข้ามาทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยโคเคอีน ดังกล่าว

ถูกผสมรวมอยู่ในครีมบำรุงผิว เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่

พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 เปิดเผยว่า ขบวนการนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตรวจพบในประเทศไทย เนื่องจากเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจจับที่เป็นวิธีใหม่ โดย

เมื่อผู้ต้องหาชาวเอกวาดอร์เข้ามาในไทยแล้ว จะมีผู้ต้องหาชาวรัสเซีย มารับยาไปเพื่อนำไปสกัดแยกออกจากครีมก่อนนำไปขายให้กับกลุ่มลูกค้า ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาว่า

กลุ่มลูกค้าอยู่ในย่านใด

ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ยังระบุว่า ที่ผ่านมาพบขบวนการค้ายาเสพติดมักจะปรับเปลี่ยนวิธีการลำเลียงยาเสพติดอยู่เรื่อย ๆ ทั้งการซ่อนยาเสพติดในกระเป๋า การะลายยาเสพติดในเสื้อ

ผ้า ก่อนที่จะมาส่งให้เครือข่ายในไทยนำไปละลายในน้ำเพื่อสกัดเป็นยาเสพติด ซึ่งตำรวจได้พยายามตรวจสอบการปรับเปลี่ยนวิธีการขนส่งอยู่ตลอดเวลา
-----------
รอง ผบ.ตร. ประธานในพิธีวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ครบ 25 ปี ขอทุกคนตั้งใจทำงานด้วยความตั้งใจ

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีวันสถาปนา กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ครบรอบ 25 ปี โดย มี พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้

บัญชาการปราบปรามยาเสพติด เป็นประธานร่วมด้วย  และ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์

เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้าร่วมพิธี และวางพวงมาลาเพื่อสดุดี ที่บริเวณอนุสาวรีวีรชนผู้กล้า เพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นขวัญและกำลังใจ

โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ได้กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นหน่วยงานหลักในการปราบปรามยาเสพติดของประเทศ ที่ผ่านมาได้ทำผลงานในการปราบปรามเครือข่ายราย

สำคัญต่าง ๆ ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนตั้งใจทำงานด้วยความตั้งใจและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมหมาย ได้มอบเข็มเชิดชูเกียรติให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยสยบไพรี อีกด้วย
/////////////
วาเลนไทน์
ปากคลองตลาดคึกคัก ประชาชนให้ความสนใจเลือกซื้อดอกไม้ในวัน วาเลนไทน์ ซึ่งราคายังคงเท่ากับปีที่ผ่านมา

บรรยากาศที่ปากคลองตลาดในช่วงเทศกาลววันวาเลนไทน์ ในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งประชาชน กลุ่มวัยรุ่น นิสิต นักศึกษา และนักเรียน ให้ความสนใจเดินทางมาเลือกซื้อดอกไม้ เพื่อมอบให้

กับคนรักในวันวาเลนไทน์ ด้านร้านดอกไม้แต่ละร้านได้นำดอกกุหลาบและดอกไม้ชนิดอื่น ๆ มาตกแต่งบริเวณหน้าร้านเพื่อเรียกลูกค้า และให้ลูกค้าได้เลือกซื้อตามความต้องการ

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามแม่ค้าพบว่า ราคาดอกกุหลาบช่วงวันวาเลนไทน์ในปีนี้ไม่แตกต่างจากปีที่แล้วมากนัก ซึ่งหากเทียบราคาแล้วถือว่าเป็นราคาปกติที่จำหน่ายทุกปี โดยมีราคาตั้งแต่

ดอกละ 50 - 150 บาท และมัด 50 ดอก ราคา 350 - 500 บาท ตามความสวยงามและสายพันธุ์ โดยส่วนใหญ่ลูกค้าจะนิยมกุหลาบสีแดงมากที่สุด ในปีนี้ยังคงถือว่าคึกคักเท่ากับปีที่ผ่านมา

---------
คู่รักจากจังหวัดสมุทรสาคร ดีใจได้รับทะเบียนสมรสทองคำเป็นคู่แรก ระบุ อยากให้การจดทะเบียนเป็นที่ประทับใจ

บรรยากาศที่ อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก คู่รักจำนวนมาก ต่างทยอยเข้าร่วมกิจกรรม ร้อยใจภักดิ์ รักเทิดทูน ณ บางรัก ที่สำนักงานเขตบางรัก

โดย คู่สมรสผู้โชคดีที่ได้รับทะเบียนสมรสทองคำคู่แรกในปีนี้  คือ คุณมนตราพร ตั้งวิพัดกุล และ คุณอภิชาติ ผลรวย ซึ่งทั้งคู่เปิดเผยว่า ได้ครองกันมากว่า 5 ปี ก่อนจะตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อปีที่

ผ่านมา และปีนี้ก็ตั้งใจว่าจะมาร่วมกิจกรรมที่ สำนักงานเขตบางรัก เนื่องจากอยากให้การจดทะเบียนเป็นที่ประทับใจ เป็นสิ่งที่น่าจดจำ จึงเดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่ 05.00 น. มาถึงที่

ไปรษณีย์กลางบางรักในเวลา 07.00 น. โดยได้บัตรคิวที่ 120 และไม่คาดคิดว่าจะโชคดีได้รับทะเบียนสมรสทองคำในวันนี้ และรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
----------
คู่รักยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส ที่ เขตบางรักแล้วกว่า 300 คู่ แจกทะเบียนทองคำ 2 คู่แล้ว

บรรยากาศที่ไปรษณีย์กลางบางรัก คู่รักจำนวนมากทยอยเข้าร่วมกิจกรรมภายในงาน ร้อยใจภักดิ์ รักเทิดทูน ณ บางรัก”  ซึ่งล่าสุดมีคู่รักยื่นคำร้องขอจดทะเบียนรส แล้วกว่า 300 คู่

ขณะเดียวกัน คู่สมรสคู่ที่2 ที่เป็นผู้โชคดี ได้รับทะเบียนสมรสทองคำในวันนี้  คือ นางสาวสโรชา ศรีมหาสมุทร และ นายชวาล กั้วห้วยขวาง คู่รักจากจังหวัดนครปฐม โดยทั้งคู่กล่าวด้วยใบหน้ายิ้ม

แย้มว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้เป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่มีโอกาสได้รับทะเบียนสมรสทองคำ ส่วนที่เลือกมาจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตบางรัก เพราะเป็นสถานที่ ที่มีความหมายดี เป็นวันที่น่าจดจำ จึงเดิน

ทางมาจากจังหวัดนครปฐมตั้งแต่ เวลา 04.00น.

นอกจากนี้ บนเวทียังมีกิจกรรมให้คู่สมรสได้ร่วมสนุกชิงรางวัลกิ๊ฟวอยซ์เชอร์  มีบูทกิจกรรมจากภาครัฐและภาคเอกชน ให้ร่วมสนุกรับของที่ระลึกด้วย
---------
อธิบดีกรมอนามัยออกบูทกิจกรรม ให้ความรู้ ชวนคู่รักกินวิตามินโฟลิก ก่อนท้องป้องกันลูกพิการ ที่เขตบางรัก

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับ สสส. กรมการปกครอง สมาคมเพื่อเด็กพิการแต่กำเนิด (ประเทศไทย) และ

สำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ออกบูทกิจกรรม ให้ความรู้ "ชวนคู่รักกินวิตามินโฟลิก ก่อนท้องป้องกันลูกพิการ"

ภายหลังทางกรมอนามัยได้พัฒนา สูตรยาที่มีอยู่เพิ่มเติมให้รับประทานได้ง่ายขึ้น และรณรงค์ให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการรับประทานวิตามิน โดยวัตถุประสงค์หลัก ในวันนี้ ก็เพื่อส่ง

เสริมสนับสนุนนให้คู่สมรสที่พร้อมมีบุตร ดูแลสุขภาพร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ โดยเน้นผักใบเขียว และจำเป็นต้องรับประทานวิตามินเสริมธาตุเหล็ก และโฟลิก เพื่อ
ลดภาวะซีด โลหิตจาง อัลไซเมอร์ เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และความเสี่ยงพิการแต่กำเนิดของทารกในครรภ์ โดยจะต้องรับประทานสัปดาห์ละ 1 เม็ด อย่างน้อย 6 สัปดาห์ ก่อนการตั้งครรภ์

อย่างไรก็ตาม สำหรับวิตามินทั้งสองตัว นี้ หญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุตั้งแต่ 13 - 45 ปี สามารถรับได้ที่สถานบริการสาธารณสุข หรือหาซื้อวิตามินโฟลิก ได้ตามโรงพยาบาล ร้านขายยาใกล้บ้าน ซึ่งมี

ราคาไม่เกินเม็ดละ 1 บาท หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักโภชนาการกรมอนามัย โทร 02- 590- 4329
--------------
ตร. ยัน ดูแลความปลอดภัย ปชช. วันวาเลนไทน์เต็มที่ สั่งกวดขันตรวจตราพื้นที่สุ่มเสี่ยง ขณะคดีรุกที่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันตำรวจมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในวันวาเลนไทน์อย่างเต็มที่ ซึ่งมี พล.ต.อ.

เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบ และได้สั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่กวดขันตรวจตราพื้นที่สุ่มเสี่ยง อาทิ โรงแรม สถานบันเทิง แหล่งรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่น เพื่อ

ป้องกันอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน พร้อมให้ทุกพื้นที่กวดขันการลักลอบเล่นการพนันทุกรูปแบบ ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอลล์ ตั้งแต่เวลา 24.00 น. เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

ส่วนกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ ร้องทุกข์เอาผิดกับ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฐานสร้างบ้านพักตากอากาศรุกที่เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.

นครราชสีมา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในคดี จึงยัง

ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากกว่าแถลงการณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ออกมาชี้แจงรายละเอียดก่อนหน้านี้
/////////////

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุ ดีเอสไอนำหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศของวัดพระธรรมกายส่งมอบเป็นการประสานข้อมูลปกติ ยังไม่แจ้งข้อหาเพิ่ม

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงว่า เมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และผู้เชี่ยวชาญของศาลยุติธรรม ด้านวิเคราะห์ภาพถ่าย

ทางอากาศและแผนที่ สำนักงานศาลยุติธรรม ได้นำหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศของวัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย ที่แปลผล ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิด มาส่งมอบให้คณะ

พนักงานสอบสวน เพื่อเป็นการประสานข้อมูลร่วมกันตามปกติ เพราะคดีนี้มีการกระทำผิดหลายส่วน แยกดำเนินการระหว่างตำรวจ และดีเอสไอ ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ

พยานหลักฐาน

ขณะเดียวกัน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวถึงการระดมปราบปรามยาเสพติดหลายพื้นที่ โดยระบุว่า เป็นผลมาจากมาตรการกดดันกลุ่มผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การยึดยาเสพติด

ได้จำนวนมากในหลายพื้นที่ โดยหากประชาชนพบเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งตำรวจท้องที่ใกล้เคียงได้ทันที

บิ๊กป้อม เตือนซ้ำ ยัน ไม่คุย นิรโทษ-อภัยโทษ ในกระบวนการปรองดอง

บิ๊กป้อม เตือนซ้ำ ยัน ไม่คุย นิรโทษ-อภัยโทษ ในกระบวนการปรองดอง ให้เป็นเรื่องของรัฐบาลหลังเลือกตั้ง เผยการเชิญพรรคต่างๆ อาจจะล่าช้าไปบ้าง เพราะเพิ่งเซ็น หนังสือเชิญ 70พรรค ไป ยันให้เวลาเต็มที่ /พร้อมให้ กลุ่มนักศึกษา เข้ามาพูดคุยได้ ในระดับพื้นที่
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ทำท่า Mini Heart โชว์สื่อ พร้อมบอกว่า วันนี้ Valentine เริ่มต้นความปรองดอง รักสามัคคี กัน บอก"คนไทยหัวใจเดียวกัน"
เป็นบรรยากาศดี คนไทยหัวใจเดียวกัน รู้รักสามัคคีทำปรองดองให้เรียบร้อย ซึ่งการสร้างความปรองดอง ผมเชื่อว่า อีกไม่นานสามารถทำได้
ส่วนการที่ พรรคเพื่อไทย บอกว่ายังไม่ได้รับหนังสือเชิญนั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า เพิ่งลงนามหนังสือเชิญพรรคเพื่อไทย และพรรคต่างๆ ไป เมื่อวานนี้ รวมพรรคการเมืองอื่นๆรวม 70 พรรค มาพูดคุย
โดยจะใช้เวลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนสามารถปรองดองกันได้ แต่ไม่มีการพูดถึงการนิรโทษกรรมหรือการอภัยโทษ เพราะสิ่งใดที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ขอให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน และให้รัฐบาลชุดต่อไปเข้ามาดำเนินการต่อ
นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้กลุ่มการเมืองอื่นๆ นักธุรกิจ เข้ามาพูดคุยได้ ด้วย
สำหรับกลุ่มนักศึกษา ที่อยากจะมาร่วมด้วยนั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า สามารถมาร่วมพูดคุยได้ เพราะมีหน่วยงานระดับแม่ทัพภาค ผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถพูดคุยได้ทุกพื้นที่

ผบ.กองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก พบ บิ๊กตู่ ยืนยัน ความเป็น หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

ผบ.กองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก พบ บิ๊กตู่ ยืนยัน ความเป็น หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
Adm. Harry B. Harris, Jr. ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่พลเรือเอกHarry B. Harris, Jr.เดินทางมาเยือนไทย เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการฝึก Cobra Gold 2017
พร้อมแสดงความยินดีในโอกาสที่นายโดนัล ทรัมป์ ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45
โอกาสนี้พลเรือเอกHarry B. Harris, Jr. แสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10
พร้อมยืนยันความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและสหรัฐฯ ในทุกด้าน รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ โดยเชื่อมั่นว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและสหรัฐฯ ตลอดจนความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
พลเรือเอกHarry B. Harris, Jr.กล่าวถึงการฝึก Cobra Gold ว่าเป็นการฝึกร่วม/ผสมขนาดใหญ่ระหว่างกองทัพกับกองกำลังสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิกและมิตรประเทศ โดยในปีนี้มีประเทศเข้าร่วมฝึก 29 ประเทศ
ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่าการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับสหรัฐฯ จะเป็นรากฐานสำคัญที่จะยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศและในภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมสหรัฐฯ ที่เห็นความสำคัญต่อการรักษาปฏิสัมพันธ์ ทั้งความต่อเนื่องในรูปแบบโครงการฝึกผสมร่วม การพัฒนาบุคลากร การจัดหา ส่งกำลังและซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีหวังให้สหรัฐฯ สนับสนุนด้านการศึกษา ซึ่งจะเป็นความร่วมมือที่เกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าปฏิบัติการรักษาสันติภาพเป็นภารกิจที่ทุกประเทศต้องร่วมมือกัน
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไทยให้ความสำคัญต่อการรักษาสันติภาพในเวทีระหว่างประเทศ จึงขอย้ำความพร้อมของไทยในการสนับสนุนด้านการพัฒนา และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแสวงหาช่องทางความร่วมมือในรูปแบบความเป็นหุ้นส่วนเพื่อประโยชน์ต่อภูมิภาคต่อไป

Valentine's Day รักคนไทย70ล้านคน ทุกวัน

หวานนนนน....Valentine's Day รักคนไทย70ล้านคน ทุกวัน
"นายกฯบิ๊กตู่" ปลื้ม เป็นที่1โพลล์คนไทยอยากมอบกุหลาบ Valentine ให้มากที่สุด ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอมอบความรัก ความปรารถนาดี ให้ทุกคนเช่นกัน แม้Valentine เป็นประเพณีฝรั่ง แต่คนไทยก็มีความสุขในวันนี้ด้วย ยันมีความรักให้ประชาชน70 ล้านคน ทุกวัน ไม่ใช่แค่เฉพาะวันValentine

สามัคคี มีสติ ไม่ประมาท

สามัคคี มีสติ ไม่ประมาท
"สมเด็จ‪พระสังฆราชฯ" ตรัสแก่ นายกฯ บิ๊กตู่ และ ครม.-คสช. ให้สามัคคี มีสติ ไม่ประมาท
นายกฯทูลว่า จะทำงานอย่างมีสติ ไม่ประมาท จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น จะทำให้ดีที่สุดอย่างเต็มที่‬ พร้อมถวายพระพรให้ทรงแข็งแรง
"บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. เผยสมเด็จพระสังฆราชฯทรงมีรับสั่งเบามาก แต่ได้ยินว่า ทรงให้สร้างสามัคคี

เปิดฉากแล้ว....Cobra Gold2017‬

เปิดฉากแล้ว....Cobra Gold2017‬
‪บิ๊กปุย พลเอกสุรพงษ์ ผบ.สส.พร้อม ทูตสหรัฐฯGlyn Davies และ,Adm Harry B Harris Jr., Commander US Pacific Command และ Mr.Wong Kai Jiun , Deputy Chief Of Mission Singapore สิงคโปร์, H.E. Mr.Ahmad Rusdi , Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary of the Republic of Indonesia อินโดนีเซีย, Mr. Shiro SADOSHIMA , Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary of Japan to Thailand, H.E. Mr. Noh Kwang-il ,Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary to the kingdom of Thailand เกาหลีใต้ และ Mr.Johan Ikram Ahmad Rusli , Second Secretary (Political) Embassy of Malaysia Bkk มาเลเซีย ร่วมพิธีเปิดCG 17 ที่สัตหีบ‬.....ฝึก แบบ Light Year เน้นการวางแผนในการฝึก
ปีนี้ทหารสหรัฐฯ ร่วมฝึก 3,528 นาย ส่วน ทหารไทย 4,350 นาย สิงคโปร์ 57 นาย ญี่ปุ่น 192 นาย อินโดนีเซีย 34 นายสาธารณรัฐเกาหลี 46 นาย มาเลเซีย 99 นาย จีน 14 นาย อินเดีย 13 นาย รวมจำนวนทั้งสิ้น 8,333 นาย

ท่าปรองดอง....ของ"บิ๊กป้อม"

ท่าปรองดอง....ของ"บิ๊กป้อม"
พลเอกประวิตร ทำท่า Mini Heart โชว์สื่อ วันนี้ Valentine เริ่มต้นความปรองดอง รักสามัคคี กัน บอก"คนไทยหัวใจเดียวกัน"
เผยการเชิญพรรคต่างๆ อาจจะล่าช้าไปบ้าง เพราะเพิ่งเซ็น หนังสือเชิญ 70พรรค ไป

ยึด Mini Heart เป็น ท่า"ปรองดอง‬"

ยึด Mini Heart เป็น ท่า"ปรองดอง‬"
‪พลตรี คงชีพ โฆษกกห.เผย บิ๊กป้อม ให้แนวคิด "ความรักสามัคคี เป็นทางออกของการแก้ปัญหาร่วมกัน"....
ถือฤกษ์ วันValentine ทุกคนในกระบวนการปรองดอง ทำท่านี้‬ Mini Heart ปรองดอง

"มีลาภก็เสื่อมลาภ มียศก็เสื่อมยศ"..



"มีลาภก็เสื่อมลาภ มียศก็เสื่อมยศ"..
สมเด็จพระสังฆราชฯ ให้ข้อคิด นายกฯบิ๊กตู่ ขอมีสติ อยู่ในความประมาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. การถึงการนำคณะรัฐมนตรี และคสช. เข้ากราบสักการะสมเด็จพระสังฆราช เพื่อเป็นการถวายพระพร ว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงให้กำลังใจรัฐบาล และคสช. ในการทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติต่อไป ด้วยความระมัดระวัง ไม่ตกอยู่ในความประมาท
พร้อมมีพระดำรัสในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องศาสนา ซึ่งทรงสอนเกี่ยวกับเรื่องการมีสติสัมปชัญญะ รู้คิด รู้ตัว รู้ปฏิบัติ ทุกคนคงเข้าใจอยู่แล้วว่า มีลาภก็เสื่อมลาภ มียศก็เสื่อมยศ เพราะฉะนั้นอย่างไปผูกติดลุ่มหลงอยู่ตรงนั้น
ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่แล้ว ตนเองก็ไม่เคยคิดที่จะอยู่ไปตลอดนานเท่านาน ทุกอย่างถือเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องทำ

นอกจากนี้ตนยังได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระองค์ท่าน ซึ่งตนได้ทูลฯ ท่านว่า คงต้องให้คำแนะนำกับประชาชนคนไทยให้หันกลับมาดูในเรื่องของศีลธรรม ซึ่งพระองค์ทรงมีกระแสรับสั่งถึงหน้าที่พลเมือง เรื่องศีลธรรม ซึ่งตนกล่าวถวายว่า วันนี้คนเราที่นับถือศาสนาพุทธ มีศีลธรรม แต่พอถึงเวลาก็ลืมหมด
ขณะเดียวกันตนเองได้กราบบังคมทูลฯ ด้วยว่า สิ่งที่รัฐบาลทำวันนี้คือทำอย่างไรให้สังคมไทย ข้าราชการใช้ศีลธรรมนำการทำงาน คือ หิริโอตัปปะ ความละอาย และเกรงกลัวต่อบาป
วันนี้หลายคนอาจจะลืม แต่ตนได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ถ้าทำอะไรผิดจะรู้สึกเกรงกลัว และละอาย ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ยังมีอยู่หรือไม่ ดังนั้นเวลาที่จะพูด หรือทำอะไรออกมาถ้าไม่ใช่ ตนก็ไม่สามารถที่จะโกหก หรือบิดเบือนได้ เพราะละอายแก่ใจตัวเอง จะพูดจากเลวให้เป็นดีก็ไม่ได้ วันนี้ทุกคนต้องช่วยกันสร้างสังคมให้เข้มแข็ง
วันนี้ปัญหาหลักของบ้านเรามีอยู่ 3 อย่าง คือ ประชาธิปไตย ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และสังคม และการศึกษา ซึ่งต้องมีหลักคิด หลักการปฏิบัติให้ถูกต้อง ถึงจะคิดถูกเราจะต้องทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้น

“บิ๊กป้อม” ไฟเขียวสตช.ซื้อรถใหม่ 1,523 คัน มองเป็นเรื่องปกติ ชี้ ใช้งบตร.เอง

“บิ๊กป้อม” ไฟเขียวสตช.ซื้อรถใหม่ 1,523 คัน มองเป็นเรื่องปกติ ชี้ ใช้งบตร.เอง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ขอจัดหารถยนต์ทดแทนจำนวน 1,523 คัน เพื่อใช้ในภารกิจปราบปรามอาชญากรรมและการรักษาความสงบในพื้นที่ว่า เป็นการขอเปลี่ยนรถที่เก่าแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมดา เพราะรถที่วิ่งไม่ไหวก็ซื้อใหม่ โดยใช้งบของ สตช.เอง ซึ่งได้ขอวางแผนงบประมาณไว้แล้ว ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร

เปิดข้อมูล พล.อ.ปรีชา-ผู้นำเหล่าทัพ ขาดประชุมสนช. บ่อยจนอาจสิ้นสมาชิกภาพ

โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ เปิดเผยผลการตรวจสอบผ่านทางเว็บไซต์ เกี่ยวกับการเข้าประชุมของสมาชิก สนช. ระบุว่า ตามข้อบังคับกำหนดให้สมาชิกต้องมาลงมติอย่างน้อย 1 ใน 3 ของทุกรอบ 90 วัน แต่พบสมาชิกอย่างน้อย 7 คน ที่ขาดประชุมเป็นประจำ จนอาจจะเป็นเหตุให้สิ้นสภาพการเป็นสมาชิกสนช. เว้นแต่ ได้ยื่นใบลาต่อประธานสภา แต่เมื่อขอข้อมูลการยื่นใบลากลับพบว่า “ข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับ”
ทั้งนี้ บทลงโทษเกี่ยวกับการขาดประชุมของสมาชิกสนช. ตามรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 มาตรา 9 (5) กำหนดว่า ถ้าสมาชิก “ไม่มาแสดงตนเพื่อลงมติในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกินจํานวนที่กําหนดไว้ในข้อบังคับการประชุม” ให้สมาชิกภาพการเป็นสนช. สิ้นสุดลง และยังมี กำหนดไว้ในข้อบังคับการประชุม สนช. พ.ศ.2557 ข้อ 82. ว่า “สมาชิกที่ไม่แสดงตนเพื่อลงมติในที่ประชุมสภาเกินกว่าหนึ่งในสามของจํานวนครั้งที่มีการแสดงตนเพื่อลงมติทั้งหมดในรอบระยะเวลาเก้าสิบวัน ให้สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลง กรณีที่สมาชิกไม่แสดงตนเพื่อลงมติตามวรรคหนึ่งเนื่องจากได้ลาการประชุม … มิให้ถือว่าสมาชิกผู้นั้นไม่แสดงตนเพื่อลงมติ…” หรือ หมายความว่า “ในรอบระยะเวลา 90 วัน” ถ้าสมาชิก สนช.คนใด “ไม่มาลงมติเกินกว่าหนึ่งในสาม” ของจำนวนการลงมติทั้งหมดในรอบระยะเวลานั้น จะต้องสิ้นสุดสมาชิกภาพความเป็นสนช. อย่างไรก็ตาม ถ้าสมาชิกมาลงมติไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด แต่ได้ลาประชุมไว้แล้ว ก็จะไม่ส่งผลให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ
โดยไอลอร์ ระบุว่า ทั้งนี้ จากการสำรวจของไอลอว์ โดยการเลือกรอบระยะเวลา 2 รอบ (180 วัน) ของปี 2559 และค้นหาจำนวนการแสดงตนเพื่อลงมติของสมาชิกสนช. จำนวน 8 คน ว่า มารายงานตัวเพื่อลงมติเกินกว่าหนึ่งในสามของการลงมติทั้งหมดหรือไม่ พบว่า สมาชิกอย่างน้อย 7 คน ที่ทำการสำรวจ มาลงมติไม่เกินกว่าหนึ่งในสามของการลงมติในแต่ละรอบ อันได้แก่ พลเรือเอกพัลลภ ตมิศานนท์ อดีตเสนาธิการทหารเรือ, สมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ, ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, ดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการกฤษฎีกา, สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรม, พลเอกปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม, พลอากาศเอกจอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และพลเรือเอกณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ
รอบวันที่ 1 มกราคม 2559 – 31 มีนาคม 2559 มีการลงมติทั้งหมด 250 ครั้ง จำนวนหนึ่งในสามของการลงมติทั้งหมด คือ 84 ครั้ง พลเรือเอกพัลลภ ตมิศานนท์ มาลงมติ 55 ครั้ง, สมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ มาลงมติ 81 ครั้ง, ดิสทัต โหตระกิตย์ มาลงมติ 4 ครั้ง, สุพันธุ์ มงคลสุธี มาลงมติ 57 ครั้ง, พลเอกปรีชา จันทร์โอชา มาลงมติ 5 ครั้ง
รอบวันที่ 1 เมษายน 2559 – 29 มิถุนายน 2559 มีการลงมติทั้งหมด 203 ครั้ง จำนวนหนึ่งในสามของการลงมติทั้งหมด คือ 68 ครั้ง พลเรือเอกพัลลภ ตมิศานนท์ ไม่มาลงมติเลย, พลเอกปรีชา จันทร์โอชา มาลงมติ 1 ครั้ง, พลอากาศเอกจอม รุ่งสว่าง มาลงมติ 63 ครั้ง และพลเรือเอกณะ อารีนิจ มาลงมติ 1 ครั้ง
จากการสำรวจทำให้พบจุดร่วมของสมาชิกส่วนใหญ่ที่ขาดประชุมบ่อยๆ ว่า มักจะเป็นสมาชิก สนช. ซึ่งทำงานควบตำแหน่งหรือยังมีตำแหน่งเป็นข้าราชการประจำอยู่ด้วย แต่ทว่า สมาชิกเหล่านี้ ยังคงได้รับเงินเดือนจากต้นสังกัดทั้งสองทาง นั้นคือ เงินเดือนข้าราชการและเงินเดือนจากการเป็นสมาชิกสนช. (ประมาณ 113,560 บาท ต่อเดือน โดยไม่รวมเบี้ยประชุมกรรมาธิการ และอื่นๆ) โดยจากการได้ลองโทรศัพท์ติดต่อไปยังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อขอดูบันทึกการลาประชุมของ สมาชิก สนช. แต่ละท่าน โดยเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องดังกล่าว แจ้งว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูล เนื่องจากข้อมูลที่ขอเป็นความลับของทางราชการ พร้อมยืนยันว่า สนช. ทุกท่านยื่นใบลาให้ทางสภาทุ