PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

“ผบ.ทร.”ลั่น ตัองช่วยให้ได้”ทีมหมูป่าฯ”13ชีวิต

ไม่ท้อ ..ตัองช่วยให้ได้!!
“ผบ.ทร.”ลั่น ตัองช่วยให้ได้”ทีมหมูป่าฯ”13ชีวิต เผย 45 หน่วยSeal ทำหน้าที่ตลอด ไม่มีพัก หมุนเวียนกัน แต่ น้ำขุ่นโคลน ระดับน้ำสูง ฝนตกตลอด แต่อุปสรรคไม่ทำให้ท้อ เตรียมบินไปถ้ำหลวง พรุ่งนี้ ให้กำลังใจลูกน้อง ยอมรับสังคมคาดหวัง หน่วยSeal แต่เราต้องทำงานร่วมทุกฝ่าย หวั่นไม่รอบด้าน ชี้ งานนี้เป็นบทเรียน การฝึกของ ทร.ในอนาคต
พลเรือเอกนริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ตอนนี้เรามี หน่วย Seal หรือ มนุษย์กบ นักทำลายใต้น้ำจู่โจม อยู่ในพื้นที่ ถ้ำหลวง เชียงราย รวม 45 นาย โดยแบ่งทำงาน ชุดละ8 นาย เข้าทำงานทีละ3 ชุด มีการผัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นชุดๆอย่างต่อเนื่อง ตลอด ไม่ได้พัก เพราะเราจะต้องช่วยทั้ง13 คนออกมาให้ได้
โดย ทาง กรมวิทยาศาสตร์ ทร. ได้นำเครื่องตรวจวัดระดับออกซิเจนติดไปกับผู้ปฏิบัติงาน ด้วย เพื่อดูว่าสภาพอากาศเป็นอย่างไร นอกจากนี้กรมแพทย์ทหารเรือก็เตรียมพร้อมทีมแพทย์สำหรับแก้ปัญหากรณีเกิดอุบัติเหตุใต้น้ำ
แต่มึอุปสรรคในการทำงาน คือระดับน้ำสภาพอากาศ มีฝนตกลงมาตลอด
มีปัญหาเรื่องระดับน้ำ เพราะถัาน้ำปกติ จะไม่มีปัญหา. แต่เป็นน้ำโคลน ที่เป็นอุปสรรคอย่างมาก เพราะน้ำ ที่เข้ามาเติมตลอด เพราะฝนตก ระดับน้ำสูง เราอาจต้องถอยกลับมาเพื่อมีที่พัก
ผมเองก็ติดตามอย่างต่อเนื่อง และจะไปเชียงราย เยี่ยมลูกน้อง และ ให้กำลังใจ ในวันพฤหัส นี้
“แม้จะมีอุปสรรค แต่เราไม่ได้ท้อถอย และ พยายามทำต่อไป”
แตียอมรับว่า ประชาชนคาดหวังกับหน่วยซีล ที่เราเข้าไปช่วย ตั้งแต่แรก แต่อุปสรรค เรื่องระดับน้ำ
ทั้งนี้ ทหารเรือเราทำงานร่วมกับหน่วยอื่นเพราะตอนนี้ส่วนอื่นๆก็ช่วยกันหาทางเข้าจากทางอื่น เช่น ปล่อง โพรง
และมีผู้ทำงานส่วนอื่นๆในพื้นที่และต่างประเทศ มาช่วยกัน
“เราต้องช่วยให้ได้ เราทำเต็มที่ ไม่ได้พัก และเพิ่มเติมกำลังไปแล้ว ก็หวังว่า เราจะทำได้สำเร็จและช่วยทั้ง 13 คนออกมาได้อย่างปลอดภัย
พลเรือเอกนริส กล่าวว่า ผลพวงจากครั้งนี้ จะเป็นบทเรียนในเรื่องการทำงานและการฝึกของทหาร
“ผมคิดว่าเราควรมีแผนในการป้องกันภัย. การกู้ภัย แม้เคยทำไว้แล้ว หลายรูปแบบ แต่ควรจะเพิ่มเติมในเรื่องนี้ด้วย”
ทั้งนี้ เราทำงานร่วมกันหลายหน่วยหลายด้านเพราะถ้าหน่วยซีล หน่วยเดียวก็คงจะไม่ครอบคลุมทุกด้าน

ระดมหมวกแดง !!

ระดมหมวกแดง !!
“บิ๊กเจี๊ยบ” ร่วมประชุม ปรับแผน ช่วย”ทีมหมูป่าฯ” ที่ถ้ำหลวง ใช้ทั้ง รบพิเศษ-ฉก.90 รวม90นาย แถมใช้ ทหารบก 840 นาย, เฮลิคอปเตอร์ Mi17-4 ลำ เผยจัด 24ชุด ทำงานตลอด24ชม.
พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางเข้าพื้นที่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์ และให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่และครอบครัวนักฟุตบอล ในการค้นหา อย่างมีความหวัง
พร้อมยืนยันว่าทุกภาคส่วนกำลังร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่
และสั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 2และ กองทัพภาคที่ 3 เตรียมเครื่องมือกู้ภัย รถส่องสว่าง เครื่องสูบน้ำ
รวมทั้งเตรียมชุดค้นหากู้ภัยจากกองร้อยชุดฝึกรบพิเศษที่ 2 พร้อมออกเดินทางไปสนับสนุนการค้นหาทันที่เมื่อได้รับการร้องขอ
​​ภารกิจค้นหา 13 นักฟุตบอลในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงดำเนินไปตลอด 24 ชั่วโมง โดยพื้นที่ภายในถ้ำ หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางน้ำของกองทัพเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการลาดตระเวนระยะไกลกองกำลังผาเมือง ยังคงพยายาม ที่จะค้นหาเส้นทางเชื่อมโยงเพื่อไปยังจุดที่เป็นเป้าหมาย โดยมีการเร่งสูบและระบายน้ำออกจากถ้ำ
อย่างต่อเนื่อง
ส่วนในพื้นที่โดยรอบและเหนือบริเวณถ้ำบนเขาสูง มีการจัดชุดลาดตระเวนจากกองทัพบกและตำรวจตระเวนชายแดน 24 ชุด สืบหาช่องทางที่จะเข้าไปภายในถ้ำ โดยมีการใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจทางอากาศเป็นระยะ
การปิดเส้นทางการไหลของน้ำฝนที่จะเติมลงไปภายในถ้ำ
โดยขณะนี้ กองทัพบกยังคงกำลัง 840 นาย, เฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ พร้อมเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย รถขุดตัก
รถลากจูง รถครัวสนาม เดินหน้าปฏิบัติงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่
โดยในวันนี้ กำลังพลชุดปฏิบัติการพิเศษ จากกรมรบพิเศษที่ 5 เขียงใหมา และกองพันปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ลพบุรี รวมทั้งสิ้น 90 นาย พร้อม ฮ.MI 17 ที่ถูกส่งเข้ามาเสริมการค้นหาและสำรวจช่องทางที่จะเข้าสู่ภายในถ้ำ รวมถึงการปฏิบัติการทางอากาศสู่พื้นดินได้เข้าประจำพื้นที่และเริ่มปฏิบัติงานแล้ว

รอบสอง กย.

รอบสอง กย.
“บิ๊กตู่” เผย นัดถกตัวแทนพรรค รอบ2 กย.นี้ หวัง “เลือกตั้ง” เป็นไปอย่างราบรื่น โปร่งใส ยุติธรรม ให้ เสรีหาเสียง 
ขอทำสถานการณ์ให้นิ่ง มีเสถียรภาพ ไม่ใช่มุ่งการเมืองอย่างเดียว กั๊ก การเปิดตัวอนาคตการเมือง อ้าง ไม่รู้เปิดตัว อะไร
พล.อ.ประยุทธ์. จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการทำไพรมารี่โหวตหรือไม่ว่า ตนตอบไม่ได้ ทุกเรื่องที่เสนอมาจากบรรดานักการเมือง พรรคการเมืองต่างๆ นั้น รัฐบาลและคสช. กำลังพิจารณาให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น โปร่งใส ถูกต้องยุติธรรม และการให้เสรีในการหาเสียง ซึ่งมีกำหนดเวลาของมันอยู่แล้ว น่าจะเพียงพอ เมื่อเปรียบเทียบกับการหาเสียงในครั้งที่ผ่านมา มากบ้างน้อยมากมันต้องทำได้สิ เพราะเรากำลังจะขับ
เคลื่อนประเทศไปด้วยกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของนายกฯ หรือคสช. อันนั้นเขารับผิดชอบเรื่องความมั่นคง คงจะต้องทำให้สถานการณ์มันนิ่ง มีเสถียรภาพ ไม่ใช่มุ่งการเมืองอย่างเดียว แล้วการค้าการลงทุนต่างๆ มันก็แย่ไปทั้งหมดจะทำอย่างไร ท่านก็คงไปปรามคนอื่นเขาบ้าง
เมื่อถามว่า การนัดประชุมกับพรรคการเมืองครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์
กล่าวว่า ตนได้ถามฝ่ายความมั่นคงแล้ว คงจะเกิดขึ้นประมาณเดือนกันยายนนี้ ยังมีเวลาอยู่ ช่วงนี้ก็รับฟังการสื่อสารมาโดยตลอด
เมื่อถามว่า นายกฯ มีเหตุผลอย่างไรที่จะประกาศความชัดเจนในทางการเมืองในเดือนก.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าอะไรคือเปิดตัวปิดตัว วันนี้ขอทำงานของตนเวลาก็มีตามเวลา จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ซึ่งขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเมื่อใด
จากนั้นอาจจะมีการหารือกับพรรการเมือง นักการเมืองอีกครั้ง ทุกอย่างจะนับหนึ่งได้ตอนนั้น เมื่อกฎหมายออกมาพร้อม
“เรื่องเปิดตัว ปิดตัว ยังไม่พูดตอนนี้ เพราะยังไม่รู้เหมือนกันว่า จะเปิดอะไร ปิดอะไร”

แกว่งไปแกว่งมา

แกว่งไปแกว่งมา



การประชุมนัดพิเศษระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กับผู้แทนพรรคการเมือง เพื่อเตรียม เดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ตามโรดแม็ป คสช.
โดยมี ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายเนติบริกร และ นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ร่วมชี้แจง ก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อยสลับวุ่นวายขายปลาช่อนพอหอมปากหอมคอ
เนื่องจากมีพรรคการเมืองแห่ไปร่วมประชุมมากถึง 74 พรรค เมื่อรัฐบาลเปิดเวทีให้ตัวแทนพรรคการเมืองเสนอความเห็นก็ต้องแย่งคิวกันพูดให้หายเปรี้ยวปากเป็นธรรมดา
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าผลการประชุมหารือระหว่างรัฐบาลกับพรรคการเมืองเป็นไปตามที่คาดไว้
คือยังไม่บรรลุข้อตกลงที่เห็นผลเป็นรูปธรรม
ยังไม่ได้คำตอบชัดๆเป๊ะๆว่า คสช.จะกรุณาคลายล็อกให้พรรคการเมืองเริ่มเตรียมการเลือกตั้งได้เมื่อไหร่? แค่ไหน? อย่างไร?
เพียงแต่ “รองนายกฯ ดร.วิษณุ” ได้กำหนดวันเลือกตั้งใหม่เป็นตุ๊กตาไว้ 4 วัน
โดยทิ้งระยะห่างกันถึง 4 เดือน!!
เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าไปถึงเดือนพฤษภาคมโน่นเลย
ถ้า คสช.ไฟเขียวให้เลือกตั้งเร็วที่สุดคือวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์
หรือไม่งั้น...ก็ต้องยืดออกไป เป็นวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม
หรือไม่อีกที...ก็เลื่อนไปลงล็อก วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน หลังหยุดฉลองสงกรานต์
หรือสุดท้าย...ก็ลากยาวว์ว์ไปถึง วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม
ความแน่นอนชักไม่ค่อยแน่นอนซะแล้วโยม
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าเหตุที่กำหนดวันเลือกตั้งใหญ่ ยังแกว่งไปแกว่งมาถึง 4 เดือน
รองนายกฯฝ่ายเนติบริกรชี้แจงเพิ่มเติมว่าเนื่องจากรัฐบาลต้องประเมินปัจจัยสำคัญอีก 5 ประการดังนี้คือ...
1,การรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงพระราชพิธีสำคัญ
2,การโปรดเกล้าฯ ร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.การลากตั้ง ส.ว.
3,การเข้ารับหน้าที่ของ กกต.ชุดใหม่ 7 คน ซึ่งเป็นผู้จัดการเลือกตั้งแทน กกต.ชุดปัจจุบัน
4,ควรให้จัดเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนการเลือกตั้ง ท้องถิ่น? หรือควรจัดเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนแล้วเลือกตั้ง ส.ส.ตามมา?
และ 5,รัฐบาลต้องพิจารณาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองโดยรวม
ปัจจัย 5 ประการข้างต้นจะเป็นตัวกำหนดว่าการเลือกตั้งจะมาช้า หรือมาเร็ว
อย่างไรก็ดี “รองนายกฯ ดร.วิษณุ” ย้ำว่าการเลือกตั้งใหม่จะเกิดขึ้นในอีก 11 เดือนนับจากนี้ไป
แสดงว่าการเลือกตั้งใหม่จะต้องถ่างออกไปถึงเดือนพฤษภาคม
ตรงนี้แหละที่ “แม่ลูกจันทร์” เกิดความสับสนขึ้นทันที
เพราะกรอบเวลาของ “ดร.วิษณุ” ขัดแย้ง กับกรอบเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์-โอชา นายกรัฐมนตรี และ หน.คสช.ที่ประกาศกับคนไทยในอังกฤษว่ากำหนดเลือกตั้งใหม่ที่เหมาะสมที่สุดคือ...เดือนกุมภาพันธ์!!
ถ้าให้น้ำหนักคำพูด “พล.อ.ประยุทธ์” วันเลือกตั้งใหญ่น่าจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์
ถ้าให้น้ำหนักคำพูด “ดร.วิษณุ” การเลือกตั้งใหม่จะต้องชักตะพานแหงนเถ่อไปถึงวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม
แต่ถ้าเอาคำพูดของ “พล.อ.ประยุทธ์” กับ “ดร.วิษณุ” มาขึ้นตาชั่งวัดน้ำหนักกัน “แม่ลูกจันทร์” เชื่อคำพูด “พล.อ.ประยุทธ์” ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่ผู้เดียว
ฟันธง...การเลือกตั้งใหม่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์แน่นอน!!
นายกฯบิ๊กตู่ พูดคำไหน “ต้องเป็นคำนั้น” ห้าพันห้าร้อยห้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์.
“แม่ลูกจันทร์”

‘หัวจ่าย’ โดนล็อกก็จบ

‘หัวจ่าย’ โดนล็อกก็จบ



วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2562 กาปฏิทินไว้ล่วงหน้าเลย
ตามสูตรเผื่อเหลือเผื่อขาด โอกาสเป็นไปได้มากที่สุด ตามห้วงเวลาปลายเปิดจากที่ประชุมร่วมระหว่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน คุยกับตัวแทนพรรคการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กำหนดเข้าคูหากาบัตรได้ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 5 พฤษภาคมปีหน้า
ถ้าประกอบกับเหตุผลที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ย้ำการเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแม็ป แต่นั่นก็ต้องเกิดขึ้นภายหลังพระราชพิธีสำคัญของคนไทย ที่จำเป็นต้องทำให้บรรยากาศบ้านเมืองอยู่ในความสงบ
ต้องบวกลบเวลาสำหรับปัจจัยนอกเหนือการเมืองที่ควบคุมไม่ได้
ว่ากันตามเงื่อนไขสถานการณ์ นักการเมืองเองก็เข้าใจตรงกัน ประเมินจากท่าทีของคนกลางๆ อย่างนายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ยอมรับกรอบเวลาวันเลือกตั้ง 4 กรอบ ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม ถือว่าเป็นไปได้หมด
โดยระดับความชัดเจนมาถึงตรงนี้ จะช้าหรือเร็วไปอีก 1-2 เดือนคงไม่มีผล
นักการเมืองอาชีพขอให้รู้ว่าได้เลือกตั้งชัวร์ๆก็พอแล้ว
ตามแนวโน้ม แบบที่ทุกยี่ห้อ ทุกป้อมค่ายร่วมด้วยช่วยกันแห่กดดัน เรียกร้อง คสช.ปลดล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมได้ เพื่อจะมีเวลาทำไพรมารีโหวตได้ทัน รวมทั้งการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่
สไตล์นักการเมืองค่อยๆแซะไปทีละขยัก
เช่นเดียวกันตามฟอร์มของทหารก็ไม่ปล่อยพรวดพราดให้คุมเกมยาก
ประเมินจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ไล่เรียงปฏิทินงานตามเงื่อนเวลาทางกฎหมายที่จะเปิดให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ ประกอบกับคิวที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.บอกผ่านสื่อต่างประเทศเกี่ยวกับทิศทางอนาคตไปต่อทางการเมือง
ทุกอย่างให้จับตาเดือนกันยายนจะชัดเจน
จุดสตาร์ตออกตัวน่าจะอยู่ในห้วงจังหวะที่ “บิ๊กตู่” ประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ผ่านบัญชีพรรคการเมืองที่ชื่อ “พลังประชารัฐ”
ถึงตรงนั้นระดับความมัน บรรยากาศการปะทะจะเริ่มดุเด็ดเผ็ดมันขึ้นตามเงื่อนไขเดิมพัน
ตามเค้าลางที่เห็นๆกันตั้งแต่ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง
ทหารยังจับตาแบบกัดติด
แต่ก็ออกฤทธิ์แสดงเดชกันได้อย่างสบายใจ
อารมณ์แบบที่ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จัดอีเวนต์เลี้ยงเรตติ้ง เปิดเกมการตลาดกวาดแต้ม เดินสายออกพบประชาชนต่างจังหวัด
“ปล่อยของ” อัดรัฐบาล คสช.แบบรายวัน
กลายเป็นขวัญใจรากหญ้า แทรกตัวเข้าไปอยู่ในใจกองเชียร์ยี่ห้อ “ทักษิณ” ได้แบบเนียนๆ
แต่นั่นก็ว่ากันไม่ได้ เพราะในฝ่ายของทีมหนุน “ลุงตู่” เองก็อยู่ในช่วงกำลังเขย่าฉากการเมืองให้คึกคัก จากการเดินกระแสต่อเนื่องของทีมงาน “สามมิตร”
เดินหน้าภารกิจปั้นพรรคหนุน “นายกฯลุงตู่” ตีตั๋วต่อ
ล่าสุด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นัดออกรอบที่สนามกอล์ฟย่านชานเมืองรังสิต เพื่อโชว์ขุมกำลังอดีต ส.ส.เกรดเอ
ที่ตามมาเข้าร่วมทีม “พลังประชารัฐ” วันที่ 30 มิถุนายนนี้
มีช็อตเขย่าขวัญ “นายใหญ่” แดนไกลแบบถี่ยิบ
เรื่องของเรื่อง โดยปฏิบัติการย้อนศรกับสิ่งที่ “นายใหญ่” ประกาศดังๆจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มั่นใจอิทธิฤทธิ์ยี่ห้อ “ทักษิณ” จะช่วยพรรคเพื่อไทยกวาดทั้งอีสาน ไล่ส่งพวกย้ายพรรครีบไสหัวออกไป
มวยรู้ทาง อ่านไต๋กันออก “นายใหญ่” กำลังอยู่ในอาการนั่งไม่ติด
เพราะการเปิดตัวของ “สุริยะ” ไม่ใช่แค่แรงสั่นสะเทือนในภาคอีสาน เพื่อไทยเลือดไหลออกไม่หยุด
แต่ยังสร้างอิมแพกต์ไปถึงมือระดับ “หัวจ่าย”
การเปิดไพ่ของ “สุริยะ” ชิ่ง “นายใหญ่” มาหนุน “นายกฯ ลุงตู่” เดินหน้าปฏิรูป ได้ส่งแรงสะท้อนไปถึงมวยระดับนายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมถึงคนสำคัญอย่าง “เฮียเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำสายตรงดูไบ
มวยเบอร์ใหญ่ของ “ทักษิณ” พวกที่มีกำลังสำรองจ่ายไปก่อน
ตอนนี้เริ่มคิดหนัก หากจะดื้อเสี่ยงไปเผชิญชะตากรรม.
ทีมข่าวการเมือง